คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : หอแตก : 04
-4-
วันนี้วันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะเป็นสัปดาห์แรกของการเปิดเทอมผมเลยยังไม่คิดจะกลับบ้าน ผมหิ้วตะกร้าผ้าลงมาเพื่อจะซักพร้อมกับไอ้จงอิน แปดโมงแล้วแต่ก็เพิ่งตื่น หลังจากที่ยัดผ้าลงไปในเครื่องได้แล้วผมก็นั่งกอดตะกร้าเอาไว้ทำท่าคล้ายจะหลับ
เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย กลัวว่าไอ้เซฮุนแม่งจะเอาเรื่องไปฟ้องพี่คริสจริงๆ
แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะ!
ก็คือว่าไงดีล่ะ....ไม่ได้ทำอะไรผิดไง แต่พี่คริสแม่งหูเบาอะ! ถ้าเป็นเรื่องของผมนี่ใครเล่าอะไรให้ฟังคือเชื่อหมดไง
ผลั่ก!
ไอ้จงอิน....ไอ้ดำนรก
ผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆพลางวางคางลงบนขอบตะกร้าผ้าที่วางอยู่บนตัก จู่ๆมันก็ตบหัวผมเบาๆจนคางเลื่อนหลุดไป หน้าผมก็เลยไถลลงไปมุดอยู่ในตะกร้า มันทำท่าตกใจอยู่แป๊บนึงแล้วหัวเราะออกมาดังลั่น อื้อหือ....ไอ้เวรนี่ นอกจากจะไม่มีคำขอโทษ ไม่ช่วยให้หลุดจากตะกร้าแล้วมันยังหัวเราะอีก
“ขำเหี้ยไรครับ ไอ้สัดตบลงมาได้”
“ไนซ์ชอต”
“ไนซ์พ่อมึงสิ ง่วงจะหายห่าอยู่แล้ว ของีบซักแป๊บนึงไม่ได้รึไง”
“ทำไมง่วง เมื่อคืนกลับมาดึกหรอ?” มันนั่งลงข้างๆผมก่อนจะเอาตะกร้าผ้าวางไว้บนพื้น ผมโบกมือปัดไม่อยากจะพูดถึงมันซักเท่าไหร่ก่อนจะเอนตัวไปข้างหลังทิ้งให้ศีรษะห้อยต่องแต่ง ผมหลับตาลงอีกครั้งเพื่อพักสายตา แต่ไอ้จงอินกลับเอื้อมมือมาดันหัวผมให้ไปวางบนบ่ามัน
เออ....อย่างนี้สิดี
ผมขยับจัดท่าให้ดีแล้วซบลงไปที่บ่าของมันเต็มๆ จะว่าไปมันก็นานแล้วที่ผมไม่ได้นอนบนไหล่แบบนี้ กว้างกำลังดี ไอ้ดำของผม(?)โตขึ้นแล้วสินะ
ถ้าถามว่าสนิทกันมากขนาดไหน....อืม ผมคบกับพวกมันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม จำได้ว่าตอนนั้นผมเพิ่งย้ายเข้าโรงเรียนไปตอนปอหกเพราะพี่คริสย้ายไปเรียนในโซล ผมก็เลยย้ายตาม แรกๆก็ไม่ชอบพวกมันมากหรอกครับ แม่งชอบอยู่กันสองคน ไม่อินนี่ก็ฮุนนี่มุ้งมิ้งแบบรับไม่ได้ระดับสิบ สันดานผู้ชายมาทำอะไรอย่างนี้ได้ไง ถ้าจำไม่ผิดคือตอนนั้นครูให้ทำรายงานจับกลุ่มสามคน เพื่อนในห้องไม่มีใครเอาผมเพราะเป็นเด็กใหม่ และเพื่อนในห้องก็ไม่เอามันเพราะมันชอบอยู่กันสองคน ผลสุดท้ายเลยต้องไปรวมกลุ่มกันสามคน
หลังจากที่เป็นหัวโจกพาพวกมันหนีไปปีนต้นไม้เล่นตอนที่ไปทำรายงานที่บ้านมัน ก็เลยสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้
แรกๆก็ตัวเท่ากันนะ แต่พอหลังๆมาพวกมันโตนำหน้าผมไปแบบ....คือไม่รอกันอะ ใช่สิ! ผมแม่งไม่ใช่สายเลือดเดียวกับพวกมันนี่ความสูงถึงไม่ได้ถ่ายเทมาให้ผมบ้าง
แล้ว....มันวกเข้ามาประเด็นเรื่องความสูงได้ไงวะ
“ไอเหี้ย ให้มาซักผ้าไม่ได้ให้มาพลอดรัก”
โอเซฮุนเดินเข้ามาในห้องซักผ้าหยุดอยู่หน้าผมและพี่ชายมัน เห็นแบบนั้นจะไปสนใจอะไร ผมยกมือขึ้นกอดแขนไอ้ดำแล้วเอาศีรษะของตัวเองถูไถไปมา “อินนี่ อินนี่พูดมาเลยว่าจะเลือกแบคกี้หรือฮุนนี่”
“อย่าให้กูเลือกเลย ฮุนนี่ก็เมียหลวงส่วนมึงก็เมียเก็บ”
“ไอ้ห่า งั้นอยู่กับเมียหลวงของมึงไปเลยไป”
ผมลุกขึ้นยืนเมื่อไอ้จงอินผัว(?)เฮงซวยกำลังจะลูบหัว ไอ้เซฮุนขำก๊ากเมื่อผมเป็นได้แค่เมียเก็บว่าแล้วก็ปาตะกร้าใส่มันอีกทีด้วยความสะบัดสะบิ้งก่อนจะไปยืนดูเครื่องซักผ้าที่ปั่นไปได้ไม่เท่าไหร่ ผมมองนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงครึ่ง น่าจะอีกประมาณอีกยี่สิบนาที ท้องงี้ร้องโครกคราก หันไปมองสองแฝดนรกแล้วก็สะบัดหน้าใส่มันไปที และผลที่ได้กลับมาคือไอ้เซฮุนเมียหลวงของไอ้จงอินแม่งกระชากหัวผมไว้
โอ้ยยยยย เรียกกูปกติไม่เป็นไงวะ!
“ไปไหน”
“มึงมองนาฬิกาดิ๊กี่โมงแล้ว”
“แปดโมงเกือบครึ่ง”
“เพราะฉะนั้น แดกข้าวนะครับ เดี๋ยวโรคกระเพาะถามหาหญิงแม่สวดกูยับแน่”
“แล้วผ้าล่ะ?”
“ฝากมึงเก็บไง ไปนะ” ว่าแล้วผมก็วิ่งออกมาทันทีปล่อยให้สองแฝดรับผิดชอบกับเสื้อผ้าของผมที่ยังอยู่ในเครื่องซักผ้า ห้องอาหารคนดูบางตา เด็กอาจจะยังไม่ตื่นหรือไม่ก็มากินกันไปแล้วในช่วงเจ็ดโมง ผมเดินไปที่ร้านข้าวเจ้าประจำ ป้าคนขายส่งยิ้มให้อย่างใจดีและตักกับที่เป็นของโปรดให้เยอะ อย่างว่าแหละครับรูปก็หล่อคารมก็ดี สาวๆ(แก่)งี้ก็ติดกันเป็นธรรมดา
“ไอ้สองแฝดไปไหนล่ะวันนี้?”
“เฮียมาได้ไงวะ”
“มาขึ้นวงขึ้นวะกับเฮีย ใช้ได้หรอแบคฮยอน”
“โทษๆๆๆๆ มันเผลอว่ะ” ระหว่างที่กำลังโซ้ยข้าวเข้าปากพี่คริสก็เดินมาแล้วนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เพื่อนเฮียตามมาเป็นพรวนประหนึ่งเดินพาเหรด ผมยกมือไหว้กราดก่อนที่พวกเพื่อนๆเฮียจะโดนไล่ให้ไปนั่งที่อื่น พี่ลู่หานยืนอยู่ข้างหลังพี่คริสไม่ยอมไปไหน
“มึงมองหน้าน้องกูแบบนั้นลากมันเข้าห้องเลยมั้ย?”
“อนุญาตกูแล้วนะ?”
“ไอ้สัด!” พี่คริสโบกมือไปทางด้านหลัง เห็นท่าไม่ดีรุ่นพี่หน้าหวานก็วิ่งหนีไปทิ้งให้ผมนั่งประมวลผลกับประโยคแปลกๆนั่น แต่ช่างมันเหอะ สมองผมตอนนี้แม่งไปหมดแล้ว หิวจนตาลาย กินข้าวครับๆๆ
“ว่าไง สองแฝดล่ะ” พี่คริสเตะหน้าแข้งผมใต้โต๊ะ แอบถลึงตาใส่นิดหน่อยแต่ก็ยอมตอบ
“ซักผ้าอยู่อะ”
“แล้วแกไม่ซักรึไง”
“ก็ซัก แต่ฝากไอ้ฮุนมันเก็บ”
“เจริญล่ะน้องกู”
“พูดกูมึงกับน้องอ่อ ฟ้องแม่นะ” ผมยกตะเกียบขึ้นชี้หน้า พี่คริสทำท่าจะส่งมะเหงกลูกใหญ่มาให้ผมเลยก้มหน้าก้มตากินต่อ เห็นแบบนี้ผมนี่เป็นลูกรักอันดับหนึ่งนะ อาจจะเพราะด้วยผมเป็นน้องเล็ก เมื่อก่อนพอโดนเฮียคริสแกล้งก็ไปฟ้องเฮียคนอื่น พอโตขึ้นมาหน่อยก็โดนเพื่อนแกล้ง กลายเป็นเฮียคริสต้องออกโรงกางปีกปกป้องทุกที
โคตรซาบซึ้งในน้ำใจ
นั่งกวนประสาทอยู่ซักพักก็ลุกออกไป แถมยังทำตัวเป็นพี่ที่ดีด้วยการแย่งข้าวน้องแล้วจากไปแบบเท่ๆ(ในความคิดของมันน่ะนะ) โกรธแทบตายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเอาจานไปเก็บแล้วเดินกลับไปที่หอ
ผมหยุดอยู่กลางสนามมองไปที่หอพิเศษที่เมื่อคืนจู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด แม่ง....ใครใช้ให้มันมาเล่าเรื่องผีล่ะ! ไฟเสือกดับอีกแน่ะแถมยังเผลอกอดมันอีกด้วย รู้ไปถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น ที่บอกไอ้เซฮุนว่าง่วงมากอยากจะนอน ความจริงแล้วไม่ใช่ไร เดี๋ยวมันจะซักไซ้จนความแตก มีเรื่องให้ได้ล้อกันอีก กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบตีหนึ่งเข้าแล้ว
แม่งหอมแก้มผมอะ โอ้ยๆๆๆๆ ไอ้โย่ง ไอ้หูกาง พ่อมึงเอ๊ย!
ผมเตะหญ้าที่เหยียบอยู่ไปหนึ่งทีเมื่อรู้สึกเสียศักดิ์ศรีความเป็นชายไปขนาดหนักก่อนจะยืนถูแก้มตัวเองแรงๆอยู่ตรงนั้น เช็ดแล้วเช็ดอีกแก้มผมคงจะแดงเถือกกันไปข้าง แต่จู่ๆก็มีใครบางคนคว้าแขนผมจากทางด้านหลัง พอจะหันตัวกลับไปมองมันก็จะผิดท่า แขนหักแน่ถ้าหันไป
“ยืนเตี้ยอะไรตรงนี้”
“ไอ้ชานยอล!”
“พูดจาไม่เพราะ ไม่ประทับใจ”
“ไม่ประทับใจห่าอะไร ปล่อยกูเลยนะ!” ได้ยินเสียงมันก็รู้ไม่ต้องหันไปมอง มันยอมปล่อยแขนเมื่อผมสั่ง ถือว่าเป็นอะไรที่ดีที่ว่าง่าย ผมหันกลับไปมองหน้ามันแต่ก็ต้องผงะเมื่อไอ้โย่งมันก็ก้มหน้าลงมาใกล้ ไม่ทันตั้งตัวผมจึงเซออกไปเมื่อปลายจมูกของเราชนกันจนล้มแหมะไปกองบนพื้น
........กูเจ็บตัวเพราะมึงกี่ครั้งแล้วเนี่ย!!
“ทำไมต้องทำตัวโง่ๆด้วยวะ”
“.....ก็มึง!!”
“กู?”
“มึงจะจูบกู! มึงจะลวนลามกู! มึงจ้องประตูหลังกู! กูจะฟ้องพี่คริส!!”
คือ ณ วินาทีนั้นพูดหมดอะ ไอ้ชานยอลตะลึงไปหนึ่งยกก่อนจะทำตาเหลือกขึ้นฟ้าแล้วก้มลงมามองผมที่นั่งอยู่บนพื้นอีกครั้ง “นี่ไอ้เตี้ยแบคฮยอนพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยได้มั้ย? ถึงความสูงจะไม่เป็นปัญหาบนที่ราบแต่มึงควรรู้ว่ากูไม่นิยมกินสัตว์ดุร้าย”
“สัตว์?”
“อาหะ”
“ดุร้าย?”
“ถูก อารมณ์มึงแปรปรวนยิ่งกว่าแม่มีเมนส์ ให้ตายยังไงก็ไม่เอาหรอก”
ว่าจบก็ส่ายศีรษะของตัวเองไปมาเพื่อยืนยันว่ายังไงมันก็จะไม่ทำอย่างที่พูด ผมเม้มปากตัวเองแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืน ไอ้ชานยอลมองมานิดหน่อยเหมือนจะประเมินว่าผมจะทำอะไรต่อ ผมยกขาขึ้นจะเตะขามันเต็มแรงแต่ชานยอลยกขาหลบทัน กรรมคงไม่พ้นตัวผมที่ตอนนี้หน้าคะมำล้มคว่ำไปทับมันเรียบร้อยแล้ว
.....ซวยขนาดนี้ สงสัยจะเป็นปีชงแล้วกู
รู้ว่าฉากนี้มันโคตรนิยาย และผมก็ไม่ใช่นางเอกที่จะมานอนสบตาจ้องหน้าไอ้คนที่เกลียดหรอกนะ ผมรีบยันตัวลุกขึ้นยืนหวังว่าจะไปจากที่นี่ให้พ้นๆ ผมจ้องหน้ามัน ไอ้ชานยอลทำท่าตะลึงหน่อยๆช่วงที่มันกำลังเผลอนี่แหละผมก็ยันตัวขึ้นมาสุดแรงโดยไม่ลืมที่จะฝากรอยรัก(?)ไว้ที่หัวนมมัน
“โอ๊ยยยยย ไอ้เตี้ย! กัดนมกู!”
“โทษที พอดีหิวนม :P”
เตี้ยแล้วไงวะ สุดท้ายก็สยบอยู่แทบเท้ากูนี่ล่ะถ่อวว
ไอ้สองแฝดลงโทษที่ผมหนีไปกินข้าวและไม่มีอะไรติดมือกลับมาด้วยการสั่งให้ถูห้อง....
นั่นคือบทลงโทษในวันอาทิตย์.......
ส่วนบทลงโทษในวันจันทร์คือตอนคาบพละซึ่งปีนี้เรียนลีลาศแม่งทิ้งให้ผมไม่มีคู่อยู่คนเดียว
ตอนนี้โคตรคว้างเลยครับ แบบโดดเดี่ยวเดียวดายและโลนลี่มาก ไอ้อินนี่กับฮุนนี่สองแฝดต่างขั้วยืนกอดกันประหนึ่งว่าผมจะเข้าไปแทรก ผมนั่งอยู่ตรงแสตนด์ทำหน้าง้ำงอรอคนที่เหลือมาจับคู่ มองเห็นไอ้คยองซูแว้บๆแต่มันก็ไปคู่กับจื่อเทาซะแล้ว ปีนี้พละเรียนรวมกันทุกห้อง เลยทำให้ผมต้องเจอกับไอ้ประธานนักเรียนที่ผมฝากรอยรักไว้ที่หัวนมเมื่อวันเสาร์ มันเดินมาหยุดอยู่หน้าผม
เห็นแบบนั้นเลยลุกขึ้นยืนแล้วฉีกยิ้มให้เห็นเขี้ยว ให้เสียวสันหลังกันไปข้าง
“มึงไม่มีคู่ใช่มั้ย?”
“เออ ไม่มี แต่กูไม่คู่มึงนะบอกเลย กูจะคู่คนอื่น”
“ก็มองดิ เหลือใครบ้าง” ไอ้ชานยอลทำหน้าหน่ายในขณะที่ผมก็กวาดสายตาไปทั่วโรงยิม พยายามจะมองหาคนที่ยืนเดี่ยวๆ.....เหยดเข้! ไม่มีแล้ว นี่พวกมึงจับคู่กันไวไปไหนกูนั่งเพลินๆได้ยังไม่ถึงห้านาทีเลย แล้วเรื่องอะไรทำไมถึงเหลือไอ้ชานยอลมาให้กูวะเนี่ย
“เดี๋ยวกูจัดการเอง”
ผมว่าก่อนจะตบหน้าตักตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน ไอ้ชานยอลมองตามด้วยสายตาที่.....เออ มันคงเอือมผมล่ะ แต่ทำไงได้ ผมไม่เต้นลีลาศคู่มันหรอกเรื่องอะไร ผมเดินเข้าไปหาคยองซู ดูแล้วหมอนี่เป็นเหยื่อได้ดี อย่างน้อยเวลาเต้นกับมันผมจะได้เป็นผู้ชายไง ด้วยความสูงแล้ว ถ้าผมคู่กับชานยอลอาจารย์บังคับให้ผมเต้นเป็นผู้หญิงแน่นอน
“คยองซู.......”
“ไม่ คยองซูคู่กับกู”
ไอ้จื่อเทารีบออกตัวขวางทันที ผมกระทืบเท้าด้วยความขัดใจหน่อยๆ และยิ่งอยากจะร้องไห้เมื่อได้ยินเสียงนกหวีดของอาจารย์ดังขึ้น บ่งบอกว่าหมดเวลาจับคู่แล้ว ทุกคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานสองแถวส่วนผมก็โดนไอ้ชานยอลลากให้ไปยืนให้ถูกที่
“..........กูเป็นผู้ชาย! มึงเต้นเป็นผู้หญิงแล้วกัน!”
“พูดไม่คิดอีกแล้ว เดี๋ยวมึงรอฟังอาจารย์”
“โอ๊ยไม่เอา! กูไม่ชอบ กูไม่ใช่ผู้หญิง”
“แล้วที่นี่มีใครเป็นผู้หญิงซักคนมั้ยล่ะเตี้ย” ผมทำหน้าหงิกเมื่อได้ยินไอ้โย่งเรียกแบบนั้น
“ใครเตี้ยกว่าในคู่ให้เต้นเป็นผู้หญิงไปก่อน เข้าใจมั้ย?”
ผมผิดตรงไหนที่เกิดมาเตี้ย....ก็แค่เมื่อก่อนไม่ยอมกินนมไม่ยอมออกกำลังกายนั่งเล่นเกมทั้งวัน ทำไมสังคมต้องเรียกร้องหาแต่คนสูงๆ......
ในที่สุดผมก็จำใจจะต้องรับบทเต้นเป็นฝ่ายหญิง ไอ้ชานยอลยกยิ้มอย่างเหนือกว่า ทำเอาผมหมั่นไส้มันอีกครั้งในรอบสัปดาห์ที่เจอกัน
“เอ้าผู้ชาย มือซ้ายหงายขึ้นข้างตัว มือขวาแตะลงที่เอวของผู้หญิง”
ผมอยากจะเข้าไปตบปากครู(เบาๆด้วยความมุ้งมิ้ง)แล้วบอกว่า กูไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ เข้าใจคำว่าศักดิ์ศรีมั้ย? ป่นปี้แหลกเหลวไม่เหลืออะไรแล้วตอนนี้ ผมมองไอ้ชานยอลและสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อมันวางมือลงบนเอวผมพลางดึงให้เข้าไปใกล้
“ส่วนผู้หญิง....เอ่อ ไม่ใช่ อีกคนให้วางมือขวาลงไปบนมือเพื่อน แล้วใช้มือซ้ายจับที่บ่า”
ผมยืนอิดออดเมื่อต้องทำอะไรที่มันน่าอาย ชานยอลคิ้วกระตุก “ทำสิวะ”
“มึงไม่ใช่กูมึงไม่รู้หรอก”
ปี๊ด!
“คู่นั้นรออะไรอยู่ครับ เพื่อนๆเข้าคู่กันหมดแล้วเหลือคู่คุณอยู่คนเดียว”
ผมยังคงทำท่าอิดออด สุดท้ายไอ้ชานยอลก็จัดการจับมือผมวางบนบ่ามันและจับมืออีกข้างไว้แน่น ผมถลึงตาใส่พยายามจะสะบัดออกแต่พอสายตาของอาจารย์จ้องมาผมเลยหยุดทำท่าสะบัดสะบิ้งพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ท่าเบสิคคือการเดินไปข้างหน้าและถอยหลัง โดยที่ฝ่ายหญิงจะเป็นคนถอยก่อน ผมสะดุ้งตอนที่ชานยอลรุกเข้ามา เมื่อจบจังหวะที่สี่มันก็ดึงตัวผมให้ก้าวกลับไป
ดะ....เดี๋ยว! นี่กูเป็นหุ่นเชิดรึอะไร จับกูเดินอย่างกับเป็นตุ๊กตา
ผมก้มลงมองพื้นแล้วจับจังหวะอีกครั้ง คราวนี้จะไม่ให้มันได้บังคับจังหวะของผมอีก แค่มองเท้าก็อยากจะร้องไห้...แค่เท้าก็คนละไซส์กันแล้ว ผมสาบานเลยว่าต่อไปนี้จะกินให้เยอะขึ้น ขยันออกกำลังกาย จะไม่เกี่ยงเวลาพี่คริสให้กินแคลเซียมด้วย
“เอ้าเงยหน้าหน่อย ก้มแบบนั้นจะมองเห็นอะไรมั้ย หน้าเพื่อนคุณอยู่ข้างล่างหรือไงครับ”
ผมไม่เคยเกลียดครูพละขนาดนี้มาก่อนให้ตายสิ!
“กลัวเหยียบเท้าเพื่อนครับ” ผมตะโกนสวนกลับไป เรื่องอะไรจะบอกว่าไม่อยากมองหน้าไอ้ชานยอล โดนโบกกบาลแยกกันพอดี
“เงยหน้าขึ้นไม่งั้นผมจะตัดคะแนนคู่ของคุณ”
ผมเลยจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าตากวนตีนของไอ้ชานยอลที่กำลังยักคิ้วให้ ผมกรอกตาไปมา สาบานเลยจริงๆว่าหมดคาบผมจะเตะมันแน่
ผมเงยหน้าขึ้นมาแต่สายตาของผมก็อยู่แค่ที่ริมฝีปากของมันเท่านั้น ว่าแล้วก็นึกสมเพชตัวเองในใจอีกครั้งที่เอาแต่ดื้อไม่ยอมกินนมตามที่แม่บอก ผมเดินถอยหลังเมื่อเริ่มนับจังหวะใหม่ ไอ้ชานยอลก้มลงมามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนที่คู่ของเราจะชะงักเมื่อมันเหยียบเท้าผมเข้าเต็มๆ
เชี่ยยยยยยยยย โอ้โห เหยียบไม่สงสารตีนกูเลยยยยยยยยย
ผมทรุดตัวลงไปนั่ง มันเอาซะเต็มแรงเลยให้ตายห่าเถอะครับ เสียงครูเป่านกหวีดปี๊ดๆๆมาทางนี้อีกแล้ว พ่อเป็นตำรวจจราจรหรือไงก็ไม่ทราบได้ เป่าจนถุงลมในปอดแม่งจะโป่งหมดแล้วมั้งน่ะ ชานยอลหันไปอธิบายอะไรกับอาจารย์ก่อนที่มันจะก้มตัวลงมาหา
“เจ็บหรอ?”
“เมื่อกี้มึงจงใจใช่ป้ะ? มึงกระทืบตีนกูใช่ป้ะไอ้ห่า”
“เปล่า....ว่าแต่มึงจะสำออยอีกนานมั้ย”
“......หึ สำออยอะไร อย่างกูนี่ระดับไหนแล้ว พี่แบคหอสามนะครับ”
ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะตบอกตัวเองอย่างแมนๆ ชานยอลมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอาความมั่นใจหายไปซะครึ่ง
ในที่สุดคาบพละวันแรกของเทอมแรกก็ผ่านพ้นไป ผมต้องรอไอ้เซฮุนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จก่อนผมถึงจะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนได้ แถมไม่ได้เปลี่ยนที่หน้าล็อคเกอร์เหมือนคนอื่นๆ ไอ้แฝดนรกเบอร์สองจับผมยัดเข้ามุมก่อนจะยืนหันหลังให้ มันทำแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร อ้างว่าเป็นคำสั่งของพี่คริสอีกที ถึงจะไม่ชอบใจเอามากๆก็เถอะ แต่ผมก็เลิกที่จะโวยวายไปแล้ว
มันเป็นมานานแล้วไงครับ....
“ทำอะไรน่ะเซฮุน”
เสียงของคู่เต้นลีลาศของผมดังขึ้น ด้วยความที่คุ้นชินกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าคนเดียวมานานผมเลยสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะรีบถอดกางเกงวอร์มออกแล้วยัดตัวเข้าไปในกางเกงนักเรียนอย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าของคนที่ทักกำลังเดินเข้ามาใกล้ “แบคฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่”
“หืม?”
“เฮียคริสแม่งบอกว่าไม่ให้เปลี่ยนรวมกับคนอื่น”
“ทำไมวะ”
“แม่งกลัวโดนคนอื่นจับทำเมียมั้ง” ผมตบหัวไอ้เซฮุนทันที
ป้าบ!
“มันเจ็บนะไอ้ห่า!”
“ก็มึงพูดว่ากูจะโดนเอา”
“แล้วหุ่นมึงมันน่าเอามั้ยล่ะ!” ผมเตะมันให้พ้นจากรู เห็นชานยอลยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาหน่อยๆแล้วถอดเสื้อยืดออกตรงนั้นเสียเลย ให้มันรู้ไปสิว่าไอ้ชานยอลแม่งจะวิ่งเข้ามาปล้ำผมอะ ไม่ใช่แค่นั้น ผมหันไปยืนเท้าเอวโชว์ความมาดแมนส่วนบนให้ดูพลางยักคิ้ว
ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“......เสียสายตาชิบหาย กูว่าไม่ใช่อย่างที่มึงว่าแล้วล่ะเซฮุน เฮียแม่งกลัวคนอื่นเขานอนไม่หลับต่างหาก”
มันว่าจบก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนโพสต์ท่าเคว้งอยู่คนเดียว
ทำไม!! หุ่นผมมันเลวร้ายตรงไหน ตอบ!!
ผมกระแทกเท้าจะเดินเข้าไปเค้นคำตอบจากไอ้ชานยอลแต่แฝดคนน้องมันดึงผมไว้ก่อนแล้วเอาเสื้อเชิ้ตมาสวมให้ ผมทำท่าฮึดฮัดแล้วสอดแขนเข้าไปในเสื้อ ยืนนิ่งๆให้เซฮุนติดกระดุมเสื้อ
ไอ้นี่มันถนัดดูแลคนอื่น ถึงมันจะปากหมาด่าผมบ่อยๆ แต่มันก็เป็นห่วงผมอันนี้รู้ดี
ได้แต่เก็บอารมณ์ฮึดฮัดไว้ในใจและเมื่อติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จไอ้เซฮุนก็ตบหัวผมหนึ่งทีเพื่อเอาคืนที่ผมตบมันไปเมื่อกี้ ยังไม่ทันจะเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าไอ้ชานยอลก็วกกลับเข้ามาอีกครั้ง
“วันนี้อย่าลืมไปทำความสะอาดห้องกูด้วยนะ”
เห็นกูสวมชุดเมดแล้วทำหน้ายินดีมากรึไงห๊า? เรียกใช้งานอยู่ทุกวันเนี่ย!?
สุดท้ายผมก็ต้องมาทำความสะอาดห้องมันจริงๆล่ะ
เสาร์อาทิตย์ได้รับยกเว้นเพราะฉะนั้นสัญญาของผมกับมันจะสิ้นสุดวันพฤหัสที่จะถึง ไอ้จื่อเทาเอ่ยปากแซวและล้อเลียนตอนที่ผมเต้นลีลาศคู่กับชานยอลด้วยการเต้นท่าผิดแผกแปลกพิสดารและจบลงด้วยท่าที่โอบเอวและรั้งจงฮยอนที่เป็นลูกคู่เข้าไปใกล้ ผมเลยชูนิ้วกลางใส่ไปทีก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องที่ช่วงนี้ผมมักจะมาประจำ
ไม่มีการเคาะประตูเพื่อมารยาท ผมเปิดประตูเข้าไปทันทีตามความพอใจส่วนบุคคล ก่อนจะพบว่าชานยอลนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินอยู่กลางห้อง ผมผงะไปนิดหน่อยก่อนจะยืนค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น มันหันมามองผมแล้วขมวดคิ้วนิดๆ
“ทำไมไม่เคาะประตู”
“.......งั้นเอาใหม่” ผมรีบปิดประตูก่อนจะตบสมองให้เข้าที่เข้าทาง ชิบหายแล้วครับ....เกิดอาการตาร้อนด้วยความอิจฉา ไอ้ห่านี่ไม่ได้แห้งอย่างที่คิดนี่หว่า ผมดึงเสื้อตัวเองออกมาก่อนจะมุดลงไปในนั้นมองเห็นแต่พุงที่ช่วงนี้มันมีมากเกินความจำเป็นไปซักหน่อย
คือเพิ่งเปิดเทอมเข้าใจไหม? อยู่บ้านพ่อแม่เลี้ยงดีก็งี้ไง มีอันจะกินอะ
ผมคงยืนพิจารณาหน้าท้องยื่นๆของตัวเองนานเกินไป ไอ้ชานยอลถึงได้เปิดประตูออกมาในสภาพที่แต่งตัวเรียบร้อย ผมสะดุ้งเมื่อเสียงเปิดประตูทำลายสมาธิ ไอ้โย่งนั่นยืนพิงประตูแล้วกอดอกทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมดึงเสื้อยืดๆของตัวเองจัดให้เข้าที่ก่อนจะเชิดปลายคางตัวเองขึ้นเล็กน้อย
คิดว่าทำท่านั้นแล้วจะเท่ล่ะสิถ่อววววว
“ทำไม เห็นกูโป๊นิดเดียวแล้วหวั่นไหวไง?”
“โอ้โห ดูถูกพี่แบคคนแมนมากครับมึง ต่อให้มึงเปลือยทั้งตัวกูก็ไม่หวั่น! แห้งๆงี้มีอะไรน่าดู”
“ก็แล้วไป นึกว่าหวั่นไหวแล้วติดใจขึ้นมา ไล่ออกนอกห้องนา”
มันว่าก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องในขณะที่ผมก็จีบปากจีบคอทำท่าล้อเลียน หล่อเลือกได้ตายห่าล่ะ หูก็กางตาก็โปน เหอะ! มีอะไรน่าหวั่นไหวไม่ทราบ เมื่อกี้ต่อมสำนึกของความเป็นผู้ดีบอกให้ปิดประตูไปก่อนต่างหาก ทำไมต้องเหมารวมว่าผมจะหวั่นไหว
นี่ใคร? รู้จักน้อยไปแล้ว พี่แบคหอสามนะครับ
ผมเดินเข้ามาในห้อง ปิดประตูลงก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ.....ถ้าเป็นผู้หญิงนี่มีกรี๊ดจริงๆล่ะ ผมมองเศษซากเสื้อผ้าของมันที่กองไว้ในนั้นแล้วก็หันกลับไปมองมันที่นั่งอยู่ที่โซฟา คือผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ากองนั้นมีแต่เสื้อผ้า ไม่มีบ๊อกเซอร์วางพาดอย่างทุเรศอยู่ตรงนั้น
“ไอ้ชานยอล! มาเก็บไปเลยไอ้ห่า!”
“เก็บให้หน่อยดิ”
“โอ๊ยยยย ถามจริง ตอนมึงอายุสิบห้ายังให้แม่ล้างก้นให้อยู่ป้ะ กูไม่เก็บ! ของของมึงก็ทำเองดิวะ”
“เออน่า เก็บไปเหอะ” มันโบกมือไปมาก่อนจะก้มลงไปดูแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือ ผมทำท่าโมโหฟึดฟัดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วใช้เท้าคีบบ๊อกเซอร์ของไอ้ชานยอลขึ้นมา สะบัดปลายเท้าอันสวยงามไปทางด้านหน้าอย่างถูกตำแหน่ง บ๊อกเซอร์สีเทาวางแหมะลงบนหัวของไอ้หูกาง
ขอเสียงปรบมือให้กับนักกีฬาบยอนแบคฮยอนด้วยครับ!
Talk -04-
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย
กลอนสุนทรภู่ บางตอนจาก "เพลงยาวถวายโอวาท"
ปิ๊บปิ๊บปิ๊บปิ้ววววววว
ไร้สาระทั้งตอน....ฮื่อ อย่าหาสาระ อ่านคลายเครียดๆ
มีแต่คนอยากให้ชานแบคได้กัน
กรี๊ดดดด มันไม่งาม (?) ใจเย็นๆ ได้แน่ 55555
อะนะ แบคเป็นตามสไตล์เด็กผู้ชายเกรียนๆ
ส่วนเรื่องเรียนลีลาศ คือเพิ่งเรียนไปแงะ เลยลองแต่ง
เออๆ มันประหลาดดีนะ 5555555
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะฮ้าบบบ
แต่งไปแต่งมาเลยเห็นว่า วลีเด็ดของนางคือ
'นี่ใคร พี่แบคหอสามนะครับ' 55555
จัดไปสำหรับแทค #พี่แบคหอสาม กับ #ฟิคหอแตก
ชอบอ่านน้าาา แทคได้ กิ กิ
เจอกันตอนหน้าจย้าาา
ความคิดเห็น