คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าของเพจแมวผู้มีความหลังกับไวโอลิน (50%)
เจ้าของเพจแมวผู้มีความหลังกับไวโอลิน (50%)
ฟ้าครามกำลังคิดว่าจะลองเพิ่มสีสันในภาพอีกสักนิด จากเหลืองอ่อนๆ อาจจะเพิ่มสีให้จัดขึ้น น่าจะทำให้ภาพเด่นขึ้นได้ ส่วนตัวอักษรสีขาว เขาอาจจะต้องเพิ่มขอบให้หนาขึ้น ไม่อย่างนั้นภาพจะกลืนกันไปหมด ไม่สะดุดตา
ยังไม่ทันที่จะได้ทำอย่างใจคิด เสียงใสๆ ของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน
"แค็ป เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกันเร้ว"
ฟ้าครามเหลือบมองนาฬิกาแว่บหนึ่ง แล้วนิ่วหน้าเมื่อเห็นตัวเลข ๑๒.๑๐ น. ที่ปรากฏบนหน้าปัด ดูเหมือนเขาจะทำงานเพลินจนไม่ทันได้สังเกตว่าเลยเวลาพักกลางวันมาแล้ว
"วันนี้เราอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ว่าจะพาลูกจันทน์ไปกินด้วย ไปเร้ว จะได้ทำความรู้จักกันเอาไว้"
สายตาของฟ้าครามแลเลยไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว สบตากับใครอีกคนที่ยืนข้างๆ ชมพูนุท และเจ้าหล่อนก็ส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เขา
ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าผ่านเข้ามาในความคิด ฟ้าครามวางหน้าเฉย ไม่ยิ้มตอบ และไม่ออกความเห็นใดๆ เพิ่มเติม
ให้ตายสิ คนมาสมัครตำแหน่งนี้ก็ตั้งเยอะแยะ ทำไมเตวิชช์จะต้องรับยายคนนี้มาทำงานด้วยก็ไม่รู้
"เอ้า แค็ป มัวเหม่ออะไรอยู่เล่า ไปได้แล้ว เร็วๆ เข้า เที่ยงสิบนาทีแล้ว เดี๋ยวขึ้นมาทำงานสาย พี่ต้นก็ว้ากเอาหรอก เร็วๆ เข้า"
ไม่มีทางเลือก ฟ้าครามจำเป็นต้องลุกขึ้นยืน และก้าวตามชมพูนุทไป อย่างไรก็ตาม เขาไม่มองไปทางใครอีกคนเลย... ทั้งๆ ค่อนข้างแน่ใจว่า เจ้าหล่อนมองตามเขามาตลอดเวลาก็ตาม
สิบห้านาทีต่อมา หนุ่มสาวทั้งสามก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งเป็นร้านโปรดของชมพูนุท เสียงใสๆ ของเจ้าตัวขยายสรรพคุณร้านดังแจ้วๆ
"ร้านนี้อร่อยมาก น้ำแกงเด็ดจริงๆ ลูกจันทน์ชอบกินรสจัดไหม ถ้าชอบเราแนะนำเลยว่าต้องต้มยำเท่านั้น พริกเขาทำเอง รสดีมาก หอมด้วยนะ"
คนถูกถามยิ้มเก้อๆ
"เรากินเผ็ดไม่เก่ง ขอสั่งแบบธรรมดาดีกว่า"
อย่างรวดเร็วที่นัยน์ตาคู่นั้นมองแลเลยไปทางใครอีกคนที่นั่งเฉย ไม่พูดไม่จา ริมฝีปากบอบบางขยับจะพูดบางสิ่งบางอย่าง แต่เมื่อเห็นสีหน้าเฉยชาและท่าทางไม่เป็นมิตรของอีกฝ่าย ก็นิ่งไป
ชมพูนุทเป็นคนเดียวที่ไม่สังเกตเห็นความจืดเจื่อนในบรรยากาศ เธอยังคงชวนคุยเสียงใส
"แค็ปเอาเหมือนเดิมใช่ไหม เดี๋ยวเราจดให้ เออนี่ ขอเม้าให้ฟังนะลูกจันทน์ แค็ปเขาชอบกินมาม่ามาก กินสามมื้อยังไหว ไม่รู้เพราะไม่มีตังหรือเพราะชอบรสชาติกันแน่"
ฟ้าครามจุปากเป็นเชิงห้าม
“เยอะนะเราอ่ะ” เขาบ่น “อย่ามัวแต่ฝอย รีบๆ สั่งมาเถอะ หิวจะตายแล้ว นี่ตัดเว็บให้พี่ต้นยังไม่เสร็จ ต้องรีบขึ้นไปแก้ เดี๋ยวส่งลูกค้าไม่ทันจะยาว”
“จ้า” ชมพูนุทลากเสียงล้อๆ “ลูกจันทน์เอาอะไร มา เราจดให้เอง สั่งมาได้เลย ช่วยเร็วนิดนึงด้วยนะ เพื่อนเราเขาหิว”
ฟ้าครามกลอกตาไปมาแต่ก็ไม่พูดอะไร เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วกดเข้าอัลบั้มภาพ ไล่เช็กภาพที่ถ่ายมาทีละภาพ หูแว่วเสียงสองสาวพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ส่วนใหญ่ชมพูนุทเป็นฝ่ายพูด มีเสียงใครอีกคนตอบรับบ้างเป็นระยะ
ฟ้าครามเพ่งสมาธิไปที่ภาพตรงหน้า ปลายนิ้วเรียวเคลื่อนไหวว่องไว กดเลือกภาพที่ต้องการ จากนั้นก็กดเปิดแอปพลิเคชั่นสำหรับแต่งภาพอย่างง่าย ปรับสีและแสงเพื่อให้ได้ตามต้องการ เพียงเท่านั้นเขาก็ลืมทุกอย่าง ไม่ได้สนใจอีกเลยว่าผู้ร่วมโต๊ะคนอื่นจะพูดคุยหรือพาดพิงอย่างไรบ้าง มารู้ตัวอีกทีเมื่อชมพูนุทเรียกเต็มเสียง
"แค็ป ที่ถามนี่ได้ยินหรือเปล่า มัวแต่แต่งภาพอยู่นั่นแหละ คุยกับเพื่อนบ้างสิ"
ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นจากมือถือ สีหน้าบอกว่าเบื่อ
"จะคุยอะไรเล่า เอ้า มีอะไรพูดมา"
"นายเรียนที่เดียวกับลูกจันทน์เหรอ เขาบอกเมื่อกี้ ยังงี้ก็แปลว่าเป็นเพื่อนกันน่ะสิ แล้วทำไมไม่เห็นทักกันบ้างเลย ประหลาดจริง"
ฟ้าครามเหลียวขวับไปมองคนพูดทันที และอีกฝ่ายก็ยิ้มเก้อ
"คือ..."
เจ้าหล่อนทำท่าจะอธิบายอะไรบางอย่าง ทว่าชายหนุ่มไม่สนใจ เขาพูดแซงขึ้นอย่างไม่เกรงใจ
"ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นเรียน ไม่ได้สนิทอะไรกันสักหน่อย เราจำหน้าเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่พูดขึ้นมาก็คงนึกไม่ออก"
หน้าใสๆ ของคนฟังซีดลง รอยยิ้มที่เก้ออยู่แล้วยิ่งเก้อหนักกว่าเก่า ขณะพึมพำว่า
"ก็ไม่ได้สนิทกันจริงๆ น่ะแหละ แค่อยู่..."
"นี่เธอเป็นฝ่ายซักประวัติหรือไง เรื่องอะไรมาอยากรู้เรื่องคนอื่น หน้าที่นั้นของฝ่ายบุคคลไหม คุณแตงโม" ประโยคนั้นยังไม่ทันจบดี ฟ้าครามก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน เพราะพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะพูดอะไร ข้อความก็คงไม่พ้น 'อยู่ชมรมเดียวกัน เล่นไวโอลินเหมือนๆ กัน' ขืนปล่อยให้พูดออกมา ชมพูนุทก็จะรู้ และทีนี้ ความลับที่เขาเพียรพยายามเก็บเอาไว้ ก็คงจะแพร่กระจายไปทั่วที่ทำงาน
เพียงแค่คิดว่าทุกคนจะมาซักถามเรื่องประวัติการเล่นไวโอลิน เขาก็ใจหายเสียแล้ว
โชคดีที่ชมพูนุทไม่เอะใจและไม่รู้ความคิดของเขา เจ้าตัวก็เลยหัวเราะอารมณ์ดี
"คนอื่นที่ไหนเล่า ก็เพื่อนกันแท้ๆ ทำพูดเข้า เกิดฉันออกแล้วอย่ามาฟูมฟายไม่รู้นะ พี่ต้นเจ้าระเบียบน้อยอยู่เสียเมื่อไหร่ ไม่มีฉัน นายหนักแน่”
“ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน” ฟ้าครามบอกปัด พอดีกับพนักงานยกก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ เขาก็เลยได้จังหวะจบบทสนทนาลงเพียงนั้น
"ก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว รีบกินเถอะ เดี๋ยวต้องรีบไปทำงานอีก จะเม้าอะไรค่อยไว้งานเสร็จก่อนก็แล้วกัน วันนี้ขอตัวก่อน ทำงานไม่ทันจริงๆ!"
ความคิดเห็น