ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความลับของเพื่อนที่ชื่อว่าความรัก

    ลำดับตอนที่ #6 : ผู้ชายที่เล่นไวโอลินเหมือนศิลปินกำลังสร้างสรรค์งานศิลปะ (25%)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 65



    ผู้ชายที่เล่นไวโอลินเหมือนศิลปินกำลังสร้างสรรค์งานศิลปะ (25%)     

     

    ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์คุ้นตาจนฟ้าครามไม่อาจปล่อยผ่าน เขาคลิกเร็วๆ บนรูปภาพ จากนั้นก็ขยายให้ใหญ่เต็มจอ

    แมวสีดำ อุ้งเท้าสีขาวตัวนี้ รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับนายแบบจำเป็นที่เขาเจอเมื่อวานเลย...

    ทว่า... ประเด็นที่เขากำลังคิดอยู่ไม่ใช่เรื่องความเหมือน เพราะจะว่าไป ก็มีแมวหลายๆ ตัวที่ลักษณะคล้ายๆ กัน ถ่ายภาพออกมาแล้วดูกลมกลืนกันไป แต่สิ่งที่สะดุดใจมากกว่า เห็นจะเป็นวิวด้านหลัง ที่ช่างชวนให้รู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน

    เหมือนบรรยากาศหน้าคอนโดมิเนียมของเขาไม่มีผิด

    จะเป็นไปได้ไหมว่า คนถ่ายอาศัยอยู่แถวๆ นี้ 

    ฟ้าครามคลิกเข้าไปดูที่มาของภาพในทันที และพอเห็นชื่อเพจ คิ้วของเขาก็ขมวดยุ่ง

    moon cat แมวมาจากดวงจันทร์ อย่างนั้นหรือ?

    ปลายนิ้วเคลื่อนไหวว่องไว ฟ้าครามคลิกที่ชื่อเพจ ดูสถิติยอดคนกดไลค์ แล้วคิ้วก็ยิ่งขมวดยุ่งกว่าเดิม

    ๑๔๕,๙๙๙ ไลค์ มากกว่าเพจที่เขาทำตั้งเกือบ ๔๐,๐๐๐ ไลค์!

    ด้วยอารมณ์หงุดหงิดระคนไม่สบอารมณ์ ฟ้าครามกดปุ่มคลิกแอปพลิเคชั่นดูแลเพจส่วนตัวขึ้นมา เพื่อจะดูภาพล่าสุดที่เขาโพสต์เปรียบเทียบ

    ภาพแรกที่ปรากฏคือ ภาพของแมวสีดำ อุ้งเท้าขาว กำลังกระโดดลงจากขอบกำแพง เป็นท่าทางที่เขาเห็นว่าเป็นธรรมชาติและหาดูได้ยากที่สุดภาพหนึ่ง ยอดไลค์สูงถึงหลักหมื่น แต่ถึงอย่างนั้น มันก็น้อยกว่าภาพที่เจ้าของเพจ moon cat แชร์มา เพราะยอดของทางนั้นสูงถึง ๕๐,๐๐๐ ไลค์

    อะไรกัน เลียนแบบแล้วยังทำได้ดีกว่า!

    “ทำไมทำหน้าซีเรียสจัง คิดอะไรอยู่” เสียงที่ดังขึ้นใกล้ตัวทำให้ฟ้าครามเงยหน้ามอง พอเห็นว่าเป็นใคร ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นชูให้ดู

    “มาก็ดีแล้ว โมดูนี่ เจ้าของเพจนี้เลียนแบบภาพเราชัดๆ แย่มากเลย เราลงรูปก่อนแท้ๆ ทำยังงี้ไม่แฟร์ ทำไมคนสมัยนี้ไม่หาไอเดียใหม่ๆ บ้าง คอยลอกจากคนอื่นอย่างเดียวยังงี้เหรอ”

    ชมพูนุทมองภาพที่ปรากฏบนจอ แล้วก็อุทานว่า

    “เอ๊ะ นี่เพจแมวมาจากดวงจันทร์ไม่ใช่เหรอ”

    “ก็ใช่น่ะสิ!” ฟ้าครามกระแทกเสียงนิดๆ “เพจคู่แข่งนะเนี่ย จู่ๆ ลงภาพเหมือนกันซะงั้น ดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว นี่มันแถวบ้านเราชัดๆ สงสัยสะกดรอยตามแหงๆ”

    “แหม แต่ยอดเพจเขาสูงกว่าของแค็ปตั้งเยอะ จะว่าเขาเลียนแบบก็ไม่น่าใช่นะ แล้วแมวก็หน้าตาคล้ายๆ กันหมดน่ะแหละ”

    “อ้าวๆ พูดดีๆ นะ”

    ชมพูนุทหัวเราะ

    “โอ๋ๆ อย่าเพิ่งงอนน่า เราไลค์ทั้งสองเพจ บอกได้เลยว่าอารมณ์เพจมันต่างกันมาก ของเพจมูนแคทเขาจะใสๆ น่ารัก ส่วนของแค็ป ก็จะมีสไตล์หน่อย ออกแนวแมวฮิปสเตอร์ คนละคาแร็คเตอร์กันนะ ไม่เหมือนกันแน่นอน”

    ฟ้าครามหน้ามุ่ย

    “ที่โกรธนี่ไม่ใช่อะไรนะ” เขาบ่น “คือทางนั้นเลียนแบบแล้วยังทำได้ดีกว่า นี่แหละประเด็นสำคัญ เห็นแล้วมันน่าโมโห”

    “เอาน่าๆ ไหนแค็ปเคยบอกว่าทำเพื่อความสุขไม่ใช่หรือ แล้วจะไปสนใจทำไมว่าใครจะทำตามหรือไม่ทำตาม เราทำแล้วสบายใจก็พอแล้ว ลืมชมไป ภาพนี้สวยมาก แสงสวยตามเคย สมแล้วที่เป็นฝีมือแค็ป”

    ความหมายบางอย่างจากประโยคที่ได้ยินทำให้คนฟังค่อยคลายความหงุดหงิดลง ดูเหมือนจะเป็นคำว่า ‘ความสุข’ ที่ทำให้ทุกอย่างฟังดูอบอุ่น

    “นั่นสิ” เขาคล้อยตามอย่างว่าง่าย “ว่าแต่ตกลงโมออกวันไหนนะ เราจำไม่ได้ ต้องเลี้ยงส่งเมื่อไหร่ พี่ต้นนัดหรือยัง”  

    “ปลายเดือนนี้” สีหน้าของชมพูนุทสลดลงเล็กน้อย “จริงๆ ก็ไม่ต้องนัดอะไรจริงจังมากก็ได้ เราคิดว่าถ้าเรียนจบคงกลับมาสมัครงานที่นี่อีกน่ะแหละ ทำงานกับพี่ต้นกับแค็ปแล้วสนุก แต่เรื่องไปเรียนต่อนี่ขัดพ่อแม่ไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวเขาว่าเอา”

    ฟ้าครามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแปร่งๆ

    “สรุปว่าที่ต้องไปเรียนเพราะพ่อแม่เหรอ เราคิดว่าโมอยากไปเรียนเองเสียอีก”

    “นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่หลักๆ เขาก็บอกว่าอยากให้ไปเรียนด้วย พ่อเราเขาจบอังกฤษ เขาบอกว่าเรียนที่นั่นมันดีกว่าเมืองไทย ก็ต้องตามใจเขาหน่อย เอาจริงๆ เรายังไงก็ได้ เรียนที่ไหนก็ได้ เรียนเมื่อไหร่ก็ได้”

    “แปลกดีนะว่าไหม ความจริงพวกเราก็โตๆ กันแล้ว อายุตั้ง ๒๕-๒๖ แต่กลับต้องทำตามที่พ่อแม่สั่ง ไม่มีสิทธิ์กำหนดชีวิตของตัวเอง”

    ชมพูนุทเอียงคอมองคนพูดอย่างแปลกใจ

    “แค็ปก็โดนบังคับเหมือนกันเหรอ เราคิดว่าแค็ปจะไม่โดน ไม่เห็นเคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ทำไมล่ะ โดนเรื่องอะไร เล่าให้ฟังบ้างสิ”

    ฟ้าครามหัวเราะฝืดๆ

    “ไม่มีอะไรหรอก” เขากลบเกลื่อนเพราะเริ่มรู้สึกอึดอัด นัยน์ตาไวเหลือบไปเห็นเตวิชช์เดินเข้าประตูที่ทำงานเข้ามาพอดี ก็เลยรีบตะโกนทักเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “เอ้า พี่ต้นมาพอดี พี่ต้นสวัสดีครับ”

    เตวิชช์ยกมือข้างเดียวขึ้นเป็นการรับคำทักทาย จากนั้นก็เบี่ยงตัวออก ให้ลูกทีมทั้งสองคนได้เห็นคนที่เดินตามมาด้านหลัง

    “ไปเจอลูกจันทน์เดินถ่ายรูปแมวอยู่ข้างล่างเลยชวนขึ้นมาพร้อมกันเลย ท่าทางแค็ปจะเจอเพื่อนแล้ว สมาชิกชมรมคนรักแมวเหมือนกัน”

    ‘คนรักแมว’ ทั้งคู่สบตากันแว่บหนึ่ง แล้วต่างคนก็ต่างเมินไปทางอื่น โชคดีที่เตวิชช์พูดจบ ก็ไม่ได้สนใจจะเอาคำตอบ แต่เปลี่ยนเรื่องว่า

    “เออ เดี๋ยวเช้านี้คุยงานกันหน่อยดีกว่า สักสิบโมงนะ ฝากโมจองห้องประชุมให้ด้วย แต่ครั้งนี้เราไม่ต้องเข้าประชุม พี่มีโปรเจ็คท์ใหม่ให้แค็ปกับลูกจันทน์ทำด้วยกัน เพิ่งรับงานมาสดๆ ร้อนๆ ยังมีกลิ่นไหม้ๆ อยู่เลย”   

    “แหมๆ” ชมพูนุทร้อง “พอจะลาออกล่ะ พี่ต้นลืมโมเลยนะ เมื่อก่อนอะไรๆ ก็โม”

    “เอ้า ไม่ดีหรือไง ไม่ต้องทำงานเหนื่อย เห็นจะออกแล้วก็เลยอยากให้พักผ่อน เตรียมตัวไปเรียนให้เต็มที่ เออ แล้วยังไง อย่าลืมหาวันว่างให้พี่ด้วยนะ จะได้กินข้าวเลี้ยงส่งกัน แค็ปกับลูกจันทน์ก็ไปด้วยกันนะ ไปเลี้ยงส่งโม เลี้ยงต้อนรับลูกจันทน์ ควบกันไปเลย”

    “ดีค่ะ เอาร้านแพงๆ เลยนะ พี่ต้นเลี้ยง” ชมพูนุทดีดนิ้วถูกอกถูกใจ “แค็ปกับลูกจันทน์ช่วยกันคิดร้านด้วยนะ แล้วเดี๋ยววันไหนเรามาโหวตกัน”

    “พอๆ เราล่ะเหลือเกิน” เตวิชช์ปราม ก่อนจะตัดบทว่า “ไปๆ เริ่มทำงานกันได้แล้ว เดี๋ยวเจ้าของบริษัทมาเห็นจะหาว่าทีมเราอู้งานอีก อย่าลืมจองห้องประชุมให้พี่ด้วยนะ สิบโมงเจอกัน แค็ป ลูกจันทน์”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×