Title : SF. ( คั่นเวลา ) Mood & Feel
Pairing : Khun x Su , seungkwang , chanho
Author : iceki < icemin >
Rating : NC . . .
...............................................................
. . . คุณเคยรู้สึกหลงรักอะไรบางอย่างได้เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้เห็นไหม
คุณเคยอยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของสิ่งนั้นโดยทันทีเลยรึเปล่า
ถ้าคุณเคยเป็น . . . ตอนนี้ผมก็คงไม่ต่างจากคุณ
.
.
.
" พี่จุนซู อย่าบอกนะว่าพี่จะเลือกบ้านหลังนี้จริง ๆ นะ " ลีจุนโฮ อุทานขึ้นอย่างแผ่วเบา อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอะไรจะให้อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องแคบเท่ารูหนูหรือจะเป็นคฤหาสน์หลังโต แต่. . . กับบ้านที่อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับบ้านผีสิง เขารับไม่ได้จริง ๆ
" น่าสนใจจะตายไปจุนโฮ เขาขายให้เราแค่300,000วอนพร้อมตกแต่งเสร็จสรรพ์ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วอย่าคิด มาก " ชายหนุ่มหน้าสวยผู้มีศักดิ์เป็นพี่ตบบ่าน้องอย่างปลอบใจก่อนจะเคลื่อนสายตาไปจดจ่ออยู่กับบ้านหลังตรงหน้า เขายอมรับว่าบ้านที่เห็นอาจจะดูทรุดโทรมมากไปก็จริง ดูจะแย่ที่สุดในบรรดาบ้านที่เหล่านายหน้ามานำเสนอกว่าด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเพียงแค่เขาขับรถผ่านมาโดยบังเอิญ เพียงได้เห็นแค่แวบแรกก็ละสายตาไม่ได้ ราคาที่ถูกกับข้อเสนออันแน่พึงพอใจมันเป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้น ต้องบอกว่าคิมจุนซูหลงรักบ้านหลังนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยตะหาก
" น่ากลัวชะมัด อย่างกับบ้านผีสิงเลยพี่จุนโฮ " ร่างบอบบางของน้องเล็กผวาเข้าเกาะแขนพี่รองอย่างหวาดกลัว ใจของเขาสั่นหวิว ขามันก็สั่นจนแทบก้าวไม่ออก สัญญาณเตือนภัยในสมองมันสั่งการว่าบ้านหลังนี้มีอะไรไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
" พี่ก็คิดไม่ต่างจากนายเลยกีกวัง แต่เราจะทำไงได้ พี่จุนซูคงตัดสินใจไปแล้ว " ใช่ . . . พวกเขาคงต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่ชายต่างมารดาผู้เป็นใหญ่ ที่ผ่านมาพี่ของเขาก็ไม่เคยตัดสินใจอะไรผิดพลาด บ้านหลังนี้คงมีอะไรดี ๆ แอบซ่อนอยู่ . . . ล่ะมั้ง ?
. . . ไม่น่าเชื่อหลังจากที่จุนซูได้ตกลงซื้อบ้านผีสิงหลังนั้นจากนายหน้า " จางฮยอนซึง " ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียวจากสภาพที่เหมือนบ้านร้างก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างกับมีใครเนรมิตไว้ บ้านสไตค์ยุโรปยุคโกธิคที่ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสีโอ๊คโทนแบบโบราณเข้ากับบ้าน กำแพงรั้วจนถึงประตูเหล้กหนาที่เคยเกาะด้วยสนิมถูกพันธุ์ไม้เลื้อยปกคลุมอย่างสวยงาม ที่กลางสนามหญ้ามีศาลาเล็ก ๆ ตั้งถัดจากบ่อน้ำพุ แวดล้อมด้วยต้นไม้เขียวชะอุ่ม แถมด้วยเรือนเพาะชำพันธุ์ไม้หายากไว้ให้ดูเพลินตาเล่น
" ไม่น่าเชื่อเลยนะพี่ แค่อาทิตย์เดียวเอง . . . " จุนโฮอ้าปากค้างกับสภาพบ้านที่ตั้งอยู่ตรงหน้า นี่มันหลังเดียวกันแน่หรอเนี่ย ?
" ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ ไอ้น้องรัก " จุนซูตบบ่าน้องหยอกเย้าก่อนจะเข้าบ้านไปด้วยความอิ่มใจ ผิดกับน้องคนเล็กที่ยืนหน้ามุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
" เป็นอะไรไปกวัง พี่เห็นทำหน้าแบบนี้มาตั้งนานแล้ว หรือว่ายังกลัวที่นี่อีก ? "
" เปล่าหรอกฮะ ผมแค่ไม่เข้าใจทำไมพี่จุนซูถึงต้องจ้างจางฮยอนซึงมาเป็นเมดดูแลบ้านด้วย . . . ผมไม่ค่อยชอบเขาเลย " เด็กหนุ่มยู่หน้าเอาแต่ใจ เขารู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่เข้าใกล้คนดังกล่าว มันเหมือนกับจะหายใจไม่ออกเสียทุกที ไหนจะสายตาเย็นชาที่คอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลาจนเขาเสียวสันหลังทุกทีไป
" ก็คุณฮยอนซึงเคยอยู่แถวนี้นี่นา แล้วก็ยังอยู่บ้านหลังนี้ด้วย มีอะไรเราจะได้ช่วยกัน . . . เข้าบ้านเถอะ " ว่าแล้วพี่ชายก็เดินเข้าบ้านไปทิ้งน้องเล็กยืนทำหน้าขัดใจอยู่เพียงผู้เดียว แต่แล้วกีกวังก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ลมหายใจที่เป่ารดต้นคอในระยะกระชั้นชิด
" ไม่เข้าบ้านหรือครับ คุณหนูเล็ก " ใบหน้าหวานหันไปสบตากับผู้พูดแทบจะทันทีก่อนจะสะบัดพรืดตามพี่ ๆ เข้าไปด้วยความขุ่นเคือง โดยมีสายตาของชายหนุ่มอีกคนที่มองด้วยแววตาไม่อาจคาดเดาได้
. . . คุณเคยรู้สึกหลงใหลในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างไม่รู้สาเหตุหรือเปล่า
คุณเคยอยากจะสัมผัสสิ่งนั้นไหม ถ้าคุณเคยเป็น . . .
ตอนนี้ผมก็คงไม่ต่างจากคุณ
.
.
.
. . . มือเรียวค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามกระจกเงาบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน เพียงแค่เขาเปิดประตูเข้ามาก็ต้องสะดุดเข้ากระจกเงาบานนี้ น่าแปลกที่ถึงแม้มันจะเป็นแค่กระจกที่ล้อมกรอบด้วยไม้แบบเก่าแต่กลับดึงดูดให้น่าเข้าใกล้อย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับตกอยู่ในภวังค์
" พี่จุนซูไปทานข้าวกันเถอะ ผมหิวแล้ว !! " เสียงหวานของกีกวังทำเอาชายหนุ่มหน้าสวยสะดุ้งสุดตัว มือเรียวกำหน้าอกแน่นหัวใจเต้นระรัวจนออกอาการหอบ ดวงตาคู่หวานเชยมองดูกระจกเงาตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะตัดใจเดินออกไปจากห้องตามที่คนน้องเรียกร้อง โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า รูปเงาของตนที่เคยสะท้อนในกระจกนั้น ได้แปรเปลี่ยนเป็นคนอีกคน ดวงตาคู่คมของคนในนั้นวาวโรจน์ ริมฝีปากสวยแสยะยิ้มด้วยความพึงพอใจ . . .
" อาหารวันนี้อร่อยชะมัดเลย คุณฮยอนซึงเป็นคนทำหรือฮะ ? " จุนโฮเอ่ยถามด้วยความพอใจกับอาหารตรงหน้า นอกจากรสชาติจะดีแล้ว หน้าตาของมันยังน่ากินอีกตะหาก
" เปล่าหรอกครับ พ่อครัวของที่นี่เป็นคนทำ . . . นั้นไงครับ ฮวางชานซอง " ร่างโปร่งเอ่ยแนะนำผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่ ใบหน้าคมเผยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มหัวให้กับพี่น้องทั้งสาม
" คุณชานซองทำอาหารเก่งมากเลย ว่าง ๆ ช่วยสอนผมหน่อยนะฮะ " ร่างเล็กยิ้มจนตาหยีให้กับอีกคนด้วยท่าทางที่เป็นมิตร
" ได้เสมอครับ ถ้านั่นเป็นความต้องการของคุณหนู "
. . . คุณเคยรู้สึกร้อนรุ่ม เหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ในร่างบ้างไหม
เคยอยากให้ใครบางคนสัมผัสคุณอย่างลึกซึ้งบ้างหรือเปล่า
ถ้าคุณเคยเป็น . . . ตอนนี้ผมก็คงไม่ต่างจากคุณ
.
.
.
. . . ร่างบางนอนกระสับกระส่ายไปมาเหมือนคนฝันร้าย เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วใบหน้า ก่อนจะผวาลุกขึ้นนั่งกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ภายในห้อง แสงจันทร์ที่ส่องพาดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบกระจกเงาที่ตั้งเด่นเกิดเป็นแสงสลัว ดวงตาคู่สวยจดจ่ออยู่กับกระจกบานนั้นก่อนจะลุกขึ้นไปหยุดอยู่ตรงหน้า มือเรียวค่อย ๆ ยืนเข้าไปสัมผัสมันอีกครั้งก่อนจะชักมือกลับอย่างรวดเร็วมาโอบกอดตัวเอง เมื่อรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่แล่นพร่านอยู่ในร่าง ริมฝีปากบางเฉียบขบเม้มกันแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ดวงตาคู่สวยปิดลงช้า ๆ พร้อมกับทรุดลงกองอยู่บนพื้นตรงนั้น
" คนดีของข้าเป็นอะไรไปหรือ ? " เสียงทุ้มนุ่มที่ดังกังวาลอยู่ตรงหน้า ทำเอาคนที่สติกำลังติด ๆ ดับ ๆ ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง ดวงหน้าหล่อคมค่อย ๆ ก้มลงจนปลายจมูกโด่งแนบชิดจรดกับปลายจมูกของอีกฝ่าย ก่อนจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นอุ้งมือหนาที่ช้อนร่างของคนตรงหน้าขึ้นแนบอกแล้วว่างไว้บนเตียง พร้อมกับค่อย ๆ ทอดกายลงทาบทับอีกครั้ง
" อยากให้ข้าช่วยหรือเปล่า คนดี "
" ชะ ช่วย . . . ช่วยผมด้วย " ริมฝีปากแย้มยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะทาบทับแทรกตัวเข้าไปเกาะเกี่ยวลิ้นเล็กหาความหอมหวาน ขบเม้ม หยอกเย้า จนอีกคนเกร็งร่างไปทั้งร่าง มือเรียวขยุ้มปกเสื้อของอีกฝ่ายแน่นเป็นการผ่อนคลาย
" เรียกข้า เรียกชื่อข้า จุนซู "
" อะ ฮึก . . . อือออ นิช . . ชะ คุณ ฮึก . . . " ริมฝีปากบวมช้ำเอ่ยชื่อของใครคนหนึ่งที่วิ่งวนอยู่ในหัวอย่างฉับพลันอย่างกับเพิ่งนึกขึ้นได้ รู้สึกคุ้นเคย เหมือนรู้จักกันมานานแสนนานและอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ
" น่ารักมาก เจ้าหอมหวานเหลือเกิน จุนซูของข้า " ยิ่งฟ่อนเฟ้นร่างบางกลิ่นหอมประจำตัวก็ยิ่งกำจาย รอยแดงประปรายปรากฎไปทั่วบนร่างขาวเนียนละเอียด แผ่นอกกำยำทาบทับแผ่นอกบางจนแนบชิด บดเบียด รุมเร้า เอาแต่ใจ เม็ดเหงื่อที่พราวไปทั้งสองร่างส่องกระทบแสงจันทร์จนขึ้นแววเงางาม ใบหน้าหวานที่แดงจัดยิ่งเหมือนตัวเร้าให้กระทำรุนแรง อยากแทรกแซงเข้าไปให้คนในอ้อมกอดขาดใจตายด้วยไฟรักที่เขาเป็นผู้สร้าง
" อา !!! เจ็บ อึกกก เจ็บ . . อืออออ " เสียงหวานกรีดร้องอย่างทรมานปนวาบหวาม ท่อนเนื้อร้อนของอีกร่างกระแทกกระทั้นเหมือนจะทำให้แตกสลาย หยาดเลือดหยดย้อยลงตามขาเรียวงามแต่มันก็ไม่ได้รับความสนใจ มือบางจิกเกร็งลงบนแผ่นหลังอย่างอยากจะทำให้ได้รับรสของความเจ็บปวดปนหวามไหวนี้บ้าง ท่อนเนื้อร้อนของร่างบอบช้ำถูไถกับแผ่นท้องของร่างด้านบนจนน้ำขาวขุ่นค่อย ๆ ปริ่มไหล แล้วก็ค่อย ๆ เกร็งแอ่นร่างขึ้นแนบชิดเมื่อความรู้สึกเดินทางไปจนสุดปลาย
" อืมมม . . . เด็กดีของข้า " ความปรารถนาของร่างด้านบนไหลเยิ้มจนล้นช่องทางอุ่น มือหนาตระกองกอดร่างบองบางเข้าแนบแน่น ก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนต้นคอขาวฉายคมเขี้ยวแวววาวเจาะลงดูดดึงผิวเนื้ออ่อน หยดเลือดไหลซึมจากบาดแผลที่เขาเป็นคนทำ ดวงตาคู่สวยกระตุกเกร็งก่อนจะปิดปรือลง
" ข้าได้เจ้าคืนมาแล้วเด็กดีของข้า เจ้าจะเป็นของข้าตลอดกาล ข้าเฝ้ารอมานับพันปี ต่อแต่นี้จะไม่มีใครหน้าไหนมาพรากเจ้าไปจากข้าได้อีกแล้ว คิมจุนซู . . . "
ริมฝีปากอุ่นฉกจูบร่างในอ้อมกอดอีกครั้ง เนิ่นนาน ดวงตาที่เคยปิดสนิทเปิดปรือขึ้น มือเรียวขยับเข้าโอบกอดร่างหนา ยกกายขึ้นแนบชิดก่อนจะจรดริมฝีปากกระซิบที่ข้างใบหูของอีกคน
" ข้ากลับมาหาท่านแล้ว ท่านนิชคุณของข้า . . . " คนด้านบนแย้มยิ้มอย่างพอใจก่อนจะทาบทับทอดกายเข้าครอบครองแนบชิดอีกครั้ง
. . . คุณเคยรู้สึกเหมือนมีใครบางคนอยู่ข้างกายโดยมองไม่เห็นตัวตนบ้างไหม
คุณเคยอยากสัมผัสเขาหรือ อยากให้เขาครอบครองคุณบ้างไหม
ผมกำลังรู้สึกแบบนั้น มีอารมณ์แบบนั้น และกำลังทำแบบนั้น
ให้เขาสัมผัสคุณ ให้เขาครอบครองคุณ ให้คุณและเขาอยู่ด้วยกันไป . . . ตราบชั่วนิรันดร์
" แปลกจัง . . . วันนี้ทำไมมีแต่คนตื่นสาย หายไปไหนกันหมด ? " ร่างเล็กของกีกวังยืนหันรีหันขวางมองไปรอบ ๆ จะเข้าไปหาพี่ใหญ่ก็ล็อคห้อง พอไปหาพี่รองก็ไม่อยู่ ร่างเล็กกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่อย่างหงุดหงิด ก่อนจะผลุนผลันจะเลี่ยงหนีเมื่อเห็นใครอีกคนเดินเข้ามา
" จะไปไหนหรือครับคุณหนูเล็ก กลัวผมอย่างนั้นหรือ ? "
" เปล่า . . อะ ปล่อยนะฉันจะไปหาพี่จุนโฮ ปล่อย !!! " แขนเล็กสะบัดเร่า ดวงตาคู่เรียวสวยตวัดมองคนตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ
" ผมไม่ให้ไป ปล่อยพี่ของคุณอยู่กับชานซองเถอะ ส่วนคุณต้องอยู่กับผมเท่านั้น !! "
" ไม่เอา . . . ปล่อยนะ พี่ช่วย . . . " เสียงหวานที่หวีดร้องขาดหายเมื่อถูกริมฝีปากของคนที่ไม่ชอบเข้าทาบทับเกี่ยวกระหวัดอย่างรุนแรง มือเรียวพยายามยื้อยุดอีกคนให้ออกห่างก่อนจะค่อย ๆ หมดแรงและสติก็ดับหายไป มือหนาของฮยอนซึงช้อนร่างเล็กขึ้นมองดวงหน้าหวานที่แดงซ่าน
" ไม่ว่ากี่ภพ กี่ชาติ เจ้าชายก็เกลียดอสูรตนนี้อยู่นี้ แต่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนอสูรตนนั่นก็ไม่เคยหยุดรักเจ้าชายได้เลยและไม่ว่าจะวิธีใดก็รับรองได้ว่าอสูรนั้นจะไม่มีทางปล่อยให้เจ้าชายต้องหลุดรอดไปได้อีก . . . สาบาน "
. . . บ้านสไตค์ยุโรปโบราณแอบแฝง เร้นลับ ด้วยความรัก ความปรารถนา ด้วยคอารมณ์ ด้วยความรู้สึก เถาไม้ไอวี่ที่เลาะเลื้อยเกี่ยวพันไปตามระเบียงค่อย ๆ สานตัวเกี่ยวพันฝังรากยึดกับกำแพงตึกอย่างแน่นหนาก่อนจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นรกทึบจนมองไม่เห็นตัวตึก น้ำในบ่อน้ำพุค่อย ๆ เหือดแห้ง ศาลาสีขาว กับเรือนเพาะชำถูกไม้เลื้อยปกคลุมเข้าอยู่อาศัย
สุดท้ายกำแพงรั้วจนถึงบานประตูใญ่ก็ถูกปิดบังด้วยไม้เถาวัลย์ ครอบคลุมทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่อยู่ถายในให้ครองคู่กันไปตราบนานเท่านาน
...... END
จบจนได้
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^
ความคิดเห็น