ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : คนที่5- -การพบเจอ- -
        ที่โรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบปลายภาคเรียนที่2และวันนี้ก็เป็นสุดท้ายของการสอบ
        “ไอ้พีค สรุปญาติมรึงจะมาเรียนที่ไทยด้วยเปล่าว่ะ” ฉัตรถาม     
          “อือ มาดิแถมแม่เค้ายังมาฝากไว้ที่บ้านข้าอีก” พีคตอบ “เฮ้ย แล้วญาติมึงสวยมั้ยว่ะ”ทัตเสนอหน้าเข้ามา “ไอ้เชี่ย อย่าคิดจะจีบเชียวน่ะมึงบอกให้ แม่นี่อ่ะแสบอย่างกะอะไรดี”
              “555++ เอาดิแสบๆนี่แหละชอบ” ทัตสวน
              “แล้วเค้าจะมาเมื่อไหร่ล่ะ”
              “ก็คงเข้าปีหน้าเลยยัยนี่มันเรียนเก่งจะตาย” พีคบอก “อื้อหือทั้งสวยทั้งเก่งเลยน่ะเนี่ย”ทัตพูด     
      พีคมองหน้าฉัตรอย่างไม่ชอบใจ “เดียะๆๆ”
              “เฮ้ย ไอ้โจแล้วหลังนั้นเมิงได้เจอพิณเค้าอีกป่ะว่ะ” ฉัตรถาม
        โจครุ่นคิด “อืม ก็ไม่บ่อยเท่าไหร่หรอก”
                “ก็เจอใช่มั้ยล่ะ”
                “เออ แล้วไมว่ะ”
                “ก็อยากรู้ว่ามันเป็นไงต่อป่ะ”
                “ก็ได้เจอบ้างน่ะ ก็เค้าไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นนี่ โชคดีหน่อยระหว่างทางก็ได้เจอคุยกันบ้าง” โจตอบ
                “อ๋อ มิน่าถึงว่าแมร่งว่าไมมารรเช้าจังว่ะ” ฉัตรบอก “แล้วถ้าพวกข้าไปจะได้เจอเค้ามั้ยว่ะ ตั้งแต่คราวนั้นยังไม่ได้เจอกันอีกเลย” คราวนี้ทั้งพีคทั้งทัตเสนอหน้าเข้ามาหลังจากที่แอบฟังอยู่
          “ไม่รู้โว้ย อยากรู้ต้องไปดูเอง” โจสวน “เออ เดี๋ยววันนี้พวกข้าไปบ้างเอ็ งด้วยละกัน”ทั้งหมดว่ากันตามพร้อมใจลากโจกลับบ้าน
              “โอ้ย มาน่านี่วันนี้ชั้นเพิ่งสอบเสร็จยังมารับชั้นช้าอีก” เสียงไม่พอใจของร่างบางดังขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน
          “โธ่ ก็ขอโทษแล้วไงก็ชั้นนอนเพลินไปหน่อย...” มาน่าตอบ
              พิณหันกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์พยายามคิดให้มันแล้วกันไป วันนี้ถึงจะสอบเสร็จแต่คนก็ไปฉลองกันมากกว่าจะรีบกลับตามทางเดินนานๆจะมีคนสวนเดินมาแถมวันนี้ก็เลิกเร็วกว่าปกติระหว่างทางเดินกลับก็เงียบสงบไร้ผู้คนมาก แต่แล้วสายตาก็ไปจดจ้องผู้มาเยือนตรงหน้ากลุ่มเด็กผู้ชายม.ต้นประมาณ3-4คนเดินมาทางนี้แต่คงจะไม่สนใจอะไรถ้าเธอไม่เคยเจอพวกเค้ามาก่อน
            “เฮ้ย นั่นพิณนี่หว่า!” คนหนึ่งในกลุ่มตะโกนเมื่อเห็นเธอ พิณเริ่มรู้สึกงงๆหันไปหามาน่าที่จดจ้องอยู่กลับเด็กกลุ่มนั้น
            เด็กกลุ่มนั้นยังคงเดินมาทางพิณและหยุดอยู่ตรงหน้าแต่ทุกคนกัลป์หยุดชะงักเมื่อเห็นร่างของมาน่า “อะ...เอ่อ สะ...สะ...สวัสดีครับ” ทั้งหมดพูดขึ้นอย่างหวาดๆซึ่งทั้งหมดก็พนมมือไหว้ด้วย
            “อืม เป็นไงบ้างละ เอ๊ะเราเคยเจอกันมาแล้วนี่...” มาน่ากล่าว
            “อ่า คงงั้นแหละครับ” ทัตตอบทั้งๆที่ตัวเองยังจำไม่ค่อยได้
            “อะ...เอ่อ คือ...”แต่ก่อนที่ทัตจะได้พูดอะไรจบ มาน่าก็ยื่นหน้าภายใต้ผ้าลินินเข้ามาใกล้ๆทัต “คิดถูกแล้วละที่ไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ขอให้เงียบเรื่องนี้ไว้น่ะ ไม่งั้นละก็...”มาน่าพูดทิ้งท้ายไว้ ทำเอาทัตกลืนน้ำลายลงคอไป “อ้อ รวมทั้งเพื่อนๆนายด้วยน่ะ...”มาน่ากล่าวพร้อมหันไปมองคนอื่นๆ
            “มาน่า...รีบเข้าไปเก็บของเหอะกระเป๋าหนักจะตายเดี๋ยวใครมาเห็นด้วย”พิณเร่ง มาน่าหันกลับไปมองพิณกำลังจะเดินไปต่อ
            “เอ่อ เดี๋ยวสิพิณขอพวกเราไปบ้านเธอได้ม่ะ”ทัตรวบรวมความกล้าถาม ทั้งมาน่าทั้งพิณมองมาที่ทัตแล้วก็มองกันเอง “จะไปทำไมเล่า”พิณถาม
            “ก็ เห็นไอ้โจมันบอกว่าเธอไม่ได้อยู่บ้านนี่ กะ ก็เป็นห่วง...”
            “อยากรู้ว่างั้น”
            “แหะๆๆ เธอเรียกงั้นก็ไม่ผิด” ตอนนี้ทุกคนเริ่มสะกิดทัตเป็นนัยให้อย่าลามปามไปเลย
            “นี่ชั้นไม่เคยพาผู้ชายเข้าบ้านมาเลยน่ะ ทำแบบนี้เดี๋ยวก็...”
            “ไม่ๆๆๆใช่อย่างงั้น แค่อยากรู้ว่าบ้านเธออยู่ไหนไง รู้จักกันไว้ไม่เสียหลายหรอก”
พิณมองมาน่า “เหอๆๆ เกรงว่าถ้าได้เข้าไปในบ้านของพวกเราแล้วเดี๋ยวอาจจะไม่พอใจกับการต้อนรับของพวกเราซักเล็กกระมัง...”มาน่ากล่าวพร้อมโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆ
            “อะ เอ่อแบบนั้นก็ไม่เป็นไรฮะ ปกติพวกผมก็ไม่ค่อยมีมารยืดกันเท่าไหร่อยู่แล้ว”ทัตตอบอย่างหวาดๆ
              “ฮืม วันนี้พวกเรามีธุระน่ะคงอยู่ต้อนรับพวกเธอไม่ได้เอาเป็นว่านายเห็นบ้านนั้นมั้ย...”ในระหว่างที่มาน่าต้องโค้งตัวพูดเพราะมาน่าสูงกว่าพวกนี้ซะอีก มาน่าก็ชี้ไปทางขวามือเหมือนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่เจาะจง แต่เมื่อทั้งกลุ่มมองไปตามทิศนั้นกลับมีภาพขึ้นมาในจิตใจ ภาพที่รวดเร็วแต่มองออกทุกๆสิ่งเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ขวาๆซ้ายขวา ซ้ายวกไปวนมาอย่างเร็วแล้วก็มาหยุดที่หน้าบ้านหนึ่งบ้านนั้นก่อด้วยอิฐสีแดงมีเถาไอวี่เกาะตามผนังสนามหญ้าหน้าบ้านเขียวขจี ต้นไม้ในสวนขึ้นอย่างร่มรื่นสบายตา
            “ว่างๆแวะมาก็ได้น่ะ แต่ปกติพวกเราคงไม่ค่อยได้อยู่กันหรอกบอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาเก้อกัน...”เสียงของมาน่าทำเอาทุกคนหลุดออกจากภาพที่เห็น ปรากฎสู่ความจริงเบื้องหน้า
            “อ่า คับ”บางคนพูดพึมพำเบาๆ
            “ไปเหอะพิณ...”มาน่าเรียกแล้วก้าวผ่านทุกคนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินนำพิณไป พิณเดินตามมาแต่มาหยุดตรงหน้าทุกคน
            “นี่ๆนายคนนั้นน่ะ”พิณเรียกชายที่ยืนอยู่ข้างโจนั่นคือพีค
            “หะ หามีไรเหรอ”
            “อืม นายมีญาติรึเปล่าชั้นรู้สึกคุ้นกับกลิ่นนี้จัง” คำพูดของพิณทำเอาพีคเร่งดมตัวเองว่ามีกลิ่นอะไรเพื่อนๆก็มองด้วยสายตาที่งงงวยไปมา
            “นายไม่ได้มีกลิ่นอะไรหรอก ชั้นแค่ได้กลิ่นอะไรๆดีกว่าคนอื่นเค้าน่ะ”
ทั้งหมดหน้าเหวอ “ได้มาจากมาน่าเหรอทักษะนี้”โจถาม
            “อือ มาน่าเค้าให้มา  แต่แค่นายคนนั้นแตะใครก่อนอาบน้ำกลิ่นมันก็ติดแล้วแต่ชั้นรู้สึกคุ้นกับกลิ่นนี้น่ะ”
พีคเริ่มนึกถึงเมื่อเช้ายัยลิสลี่ย์ญาติที่มาจากอเมริกาแล้วมาพักที่บ้านเค้า เมื่อเช้านี้ยัยนั่นแกล้งกระโดดขี่หลังเรานี่หว่า “เอ่อ คงไม่ใช่ว่า”
            “อืม ใช่ๆจำได้แระยัยลิสน่ะเองนี่ยัยนั่นมาไทยด้วยเหรอเนี่ย”
          “นี่พิณเมื่อไหร่จะไปหน่ะ...”เสียงของมาน่าดังขึ้นหลังจากเดินย้อนกลับมาตาม
          “เออๆๆ ไปแล้วๆ”แล้วพิณก็ทำเพียงแค่หันมาโบกมือลาเท่านั้นแล้วก็วิ่งตามมาน่าไปทิ้งไว้แต่ความสงสัยอีกครั้ง
          เฮ่อ แล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน  หลังจากที่ปิดเทอมมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย  ฉัตรนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างเบื่อหน่ายเหลือบไปมองต้นไม้ผ่านหน้าต่างแสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้อง นี่ก็เกือบจะเย็นแล้วไปไหนดีหว่า ด้วยความเบื่อหน่ายฉัตรเลยเดินออกไปนอกห้อง ทั้งบ้านเงียบเหงาตั้งแต่ปิดเทอมมายัยแพมน้องสาวก็ออกไปเที่ยวไม่หยุดเลย วันธรรมดาแบบนี้ทั้งพ่อทั้งแม่ก็ออกไปทำงานกันหมดปล่อยให้ฉัตรเฝ้าบ้านอยู่คนเดียวในบ้านที่ค่อนข้างใหญ่โตโอ่โถงนี้ บ้านของฉัตรนับเป็นบ้านที่มีฐานะระดับหนึ่งไม่ค่อยขัดสนอะไรเท่าไหร่นัก
        ฉัตรตัดสินใจเดินลงบันไดไปกะจะออกไปเดินเล่นแก้ขัดซะหน่อย “ป้าคับ เดี๋ยวผมฝากบ้านไว้แปปนึงน่ะครับ!!!”ฉัตรตะโกนไปหาคุณป้าข้างบ้านที่รดน้ำต้นไม้อยู่
    “จ้ะๆรีบไปรีบกลับมาละกัน”
    “ขอบคุณครับ” ฉัตรไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินออกนอกบ้านไป
เพราะแบบนี้แหละถึงเหมาะแก่กับการมาเดินเล่นสาวๆส่วนใหญ่ที่เดินสวนกันแต่งชุดอยู่บ้านที่ไม่ค่อยปิดกันมิดชิดเลย ฮ่าๆๆหวานปากเราล่ะ แผล่บ  ฉัตรถึงกับต้องเช็ดน้ำลายเมื่อจะเดินไปปากซอยโดยไม่นั่งมอเตอร์ไซท์เหมือนทุกที ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ กำลังจะผ่านพวกวินมอเตอร์ไซท์
      “เฮ้ย ไอ้น้องเดี๋ยวก่อนเด่ะ!”มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
      “อ่ะหา”ฉัตรหันกลับไปมองเห็นพวกวินมอเตอร์ไซท์หน้าตาโหดๆทั้งนั้นประมาณ4-5คนมองมาที่ตนแล้วทั้งหมดก็ค่อยๆเดินมาหาฉัตร
      “เออ ก็เมิงนั่นแหละ วันก่อนทำไว้แสบมากน่ะ”
      “หะ หาผมไปทำอะไรให้พี่เหรอครับ...”
    “ไม่ต้องมาแกล้งโง่”
      “เฮ้ย ผมไปทำไรให้พี่ตอนไหน”
    “เฮ้ย พวกเราไม่ต้องสนใจรุมมันเลย!”
ตอนนี้พวกวินมอเตอร์ไซท์เริ่มเข้ามาล้อมรอบตัวเอง จะอยู่ให้โง่ไมล่ะ ฉัตรเริ่มค่อยๆถอยไปทีละก้าวๆลองหาทางหนีทีไล่ดูก่อน ฉัตรไม่รอช้ารีบใส่เกือกหมาแบบใส่วิญญาณนักวิ่งไปด้วยวิ่งหนีไปโดยไม่รอช้า
      “เฮ้ย ตามไป!” และแล้วพวกวินมอเตอร์ไซท์ก็วิ่งตามไป
  แฮ่กๆๆนี่มันอะไรกันว่ะเนี่ยแมร่งสันดารเวนตระไลจริงโว้ย! ตอนนี้ฉัตรวิ่งหนีไม่คิดชีวิตระหว่างทางตรงไปเรื่อยข้างหน้ามีทางแยกไปทางซ้าย ขวา ตรง ฉัตรไม่มีเวลามานั่งคิดแล้ว เอาว่ะเสี่ยงดูฉัตรเลี้ยวไปทางซ้ายและยังคงวิ่งหนีไปเรื่อยๆไม่คิดที่จะหันไปมองด้วย หวังว่าไอ้พวกนั้นมันคงตามมาไม่ถูกน่ะ  รู้ตัวอีกทีฉัตรก็รู้ว่าตัวเองวิ่งมาคงไกลแล้วล่ะ...มั้ง ขอหยุดพักหน่อยล่ะกันเอาไงดีเดี๋ยวนั่งพักแบบนี้เกิดทะลึ่งพวกมันดันมาเจอเข้า
        ตรงที่ๆฉัตรหยุดเหมือนจะเป็นบ้านใครซักคนละมั้ง หน้าบ้านมีรถลีมูซีนตอนยาวสุดหรูจอดอยู่  โอ้โหแมร่งรถใครว่ะเนี่ยโคดหรูเลย ฉัตรมองซ้ายมองขวาเพื่อหาพวกนั้น แปลกแหะแถวนี้ไม่เห็นมีคนเลยในละแวกนี้ก็มีบ้านนี้บ้านเดียว บ้านอื่นก็ทิ้งให้รกร้างไม่ใครมาอยู่มีแต่ติดป้ายประกาศขาย  ฉัตรมองบ้านตรงหน้าที่หน้าจะมีผู้อยู่อาศัยหลังเดียวในละแวกนี้
        มองไปมองมาด้วยไปหยุดตรงรถคันตรงหน้า ฉัตรลองมองส่องเข้าไปข้างในแต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะติดฟิล์มดำมืดสนิท ฉัตรลองคว้าหมับกับที่เปิด  ในใจนึก นี่กรูทำบ้าไรว่ะเนี่ยรถหรูขนาดนี้เค้าก้ต้องล็อคไว้ดิ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉัตรลองเปิดดูซักหน่อยก็ไม่เห็นเสียหายอะไร มือที่จับอยู่ดันขึ้นเพื่อเปิด
      กุกๆ...กึก แกร้ก ฟรึ่บ! อ้าวเฮ้ยแมร่งไม่ได้ล็อคนี่หว่า
      ตึกๆๆ “เฮ้ย มันมาทางนี้ป่ะว่ะ!”
โอ้ ฉัตรรู้ดีเลยไม่ต้องคิดมันมาแล้ว เอาไงดีๆมองตรงหน้า รีบกระโดดเข้าไปในรถปิดประตูฉัตรลงไปนอนขดตัวอยู่บนพื้นพยายามหลบๆใต้เบาะ เอาในนี้ก่อนแล้วกันว่ะ
      “หายไปไหนว่ะ เมื่อกี้ยังเห็นมาทางนี้นี่หว่า”
      “มันอาจจะซ่อนอยู่ก็ได้”
      “ก็แล้วมันที่ไหนล่ะว่ะ!”
      \"ว่าแต่นี่เราบุกมาถึงถิ่นไอ้เจ้าพ่อไสยแล้วน่ะเว้ย\"
      \"อ้าว ชิบหายแล้วมรึง เอาไว้ก่อนละกันไอ้เด็กนั่นน่ะตอนนี้ข้ายังไม่อยากตาย\"
แต่แล้วเสียงถกเถียงก็เงียบไปฉัตรรู้สึกได้ว่าคงจะมีสายตาจ้องมาทางนี้แน่ ฉิบหายล่ะกรูจะทำไงดีๆ
      กึกๆ  ฉัตรที่ยินเสียงที่เปิดประตูรถดังแต่เป็นของประตูตอนหน้าของฉัตร  ไม่สนใจไรแล้วฉัตรหลับตาจากเดิมที่ก็มืดพอดูแล้วคราวนี้กลายเป็นไม่เห็นเลย ฉัตรได้ยินเสียงเหมือนประตูรถกำลังจะเปิดแล้ว และ...
      “เฮ้ย พวกเอ็งเป็นใคร!” มีเสียงผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้น
      “อ่ะ เอ่อเปล่านี่ ว่าแต่เห็นใครผ่านมาทางนี้รึเปล่า”
      “อู้ย จะมีไม่มีข้าไม่สนโว้ย มาทางไหนน่ะกลับไปทางนั้นเลยไป!”
      “เดี๋ยวก่อน พวกแกมานี่หน่อย”คราวนี้อีกเสียงผู้ชายดังขึ้นแต่ฟังดูแล้วคงยังไม่แก่เท่าไหร่
กึกๆๆ  แกร้ก  เสียงอะไรน่ะหรือว่าจะเป็นปืน“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็อย่ามาเหยียบแถวนี้อีกและโดยเฉพาะห้ามยุ่งกับทรัพย์สมบัติใดๆของข้าเด็ดขาด ชั้นละเกลียดนักไอ้พวกชอบมาแตะต้องของๆข้า” แต่ฉัตรไม่ได้ยินเสียงพวกนั้นคงตอบโดยไม่ใช้เสียงล่ะมั้ง
      “อืม ดีเอแต่ชั้นสงสัยอยู่อย่างพวกแกก็น่าจะรู้นี่นาว่าชั้นเป็นใคร ใครๆก็รู้นี่นาว่าชั้นมาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีใครกล้าเข้ามาแถวนี้เลยน่ะเนี่ย พวกแกใจกล้าดีว่ะ”
      “ระ เราไม่ได้ตั้งใจมาลุกล้ำน่ะ คะ แค่มาหาไอ้เด็กเปรดเท่านั้น”
      “ฮ่ะๆๆ งั้นเหรอแต่ถึงชั้นเจอพวกแกก็น่าจะรู้ดีว่าชั้นไม่ปล่อยใครไว้อยู่แล้ว”
      “เอ้า เสร็จแล้วก็รีบไปสิ”
ตึกๆๆสงสัยพวกนั้นคงเผ่นแน่บไปแล้วฮ่าๆๆสมน้ำหน้า เอแต่ว่าเราจะทำไงต่อดีละดูเหมือนไอ้2ตัวข้างนอกจะเป็นมาเฟียขาใหญ่อะไรทำนองนั้นซะด้วยสิเอาไงดีว่ะกรู...
        “ไอ้พีค สรุปญาติมรึงจะมาเรียนที่ไทยด้วยเปล่าว่ะ” ฉัตรถาม     
          “อือ มาดิแถมแม่เค้ายังมาฝากไว้ที่บ้านข้าอีก” พีคตอบ “เฮ้ย แล้วญาติมึงสวยมั้ยว่ะ”ทัตเสนอหน้าเข้ามา “ไอ้เชี่ย อย่าคิดจะจีบเชียวน่ะมึงบอกให้ แม่นี่อ่ะแสบอย่างกะอะไรดี”
              “555++ เอาดิแสบๆนี่แหละชอบ” ทัตสวน
              “แล้วเค้าจะมาเมื่อไหร่ล่ะ”
              “ก็คงเข้าปีหน้าเลยยัยนี่มันเรียนเก่งจะตาย” พีคบอก “อื้อหือทั้งสวยทั้งเก่งเลยน่ะเนี่ย”ทัตพูด     
      พีคมองหน้าฉัตรอย่างไม่ชอบใจ “เดียะๆๆ”
              “เฮ้ย ไอ้โจแล้วหลังนั้นเมิงได้เจอพิณเค้าอีกป่ะว่ะ” ฉัตรถาม
        โจครุ่นคิด “อืม ก็ไม่บ่อยเท่าไหร่หรอก”
                “ก็เจอใช่มั้ยล่ะ”
                “เออ แล้วไมว่ะ”
                “ก็อยากรู้ว่ามันเป็นไงต่อป่ะ”
                “ก็ได้เจอบ้างน่ะ ก็เค้าไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นนี่ โชคดีหน่อยระหว่างทางก็ได้เจอคุยกันบ้าง” โจตอบ
                “อ๋อ มิน่าถึงว่าแมร่งว่าไมมารรเช้าจังว่ะ” ฉัตรบอก “แล้วถ้าพวกข้าไปจะได้เจอเค้ามั้ยว่ะ ตั้งแต่คราวนั้นยังไม่ได้เจอกันอีกเลย” คราวนี้ทั้งพีคทั้งทัตเสนอหน้าเข้ามาหลังจากที่แอบฟังอยู่
          “ไม่รู้โว้ย อยากรู้ต้องไปดูเอง” โจสวน “เออ เดี๋ยววันนี้พวกข้าไปบ้างเอ็ งด้วยละกัน”ทั้งหมดว่ากันตามพร้อมใจลากโจกลับบ้าน
              “โอ้ย มาน่านี่วันนี้ชั้นเพิ่งสอบเสร็จยังมารับชั้นช้าอีก” เสียงไม่พอใจของร่างบางดังขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน
          “โธ่ ก็ขอโทษแล้วไงก็ชั้นนอนเพลินไปหน่อย...” มาน่าตอบ
              พิณหันกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์พยายามคิดให้มันแล้วกันไป วันนี้ถึงจะสอบเสร็จแต่คนก็ไปฉลองกันมากกว่าจะรีบกลับตามทางเดินนานๆจะมีคนสวนเดินมาแถมวันนี้ก็เลิกเร็วกว่าปกติระหว่างทางเดินกลับก็เงียบสงบไร้ผู้คนมาก แต่แล้วสายตาก็ไปจดจ้องผู้มาเยือนตรงหน้ากลุ่มเด็กผู้ชายม.ต้นประมาณ3-4คนเดินมาทางนี้แต่คงจะไม่สนใจอะไรถ้าเธอไม่เคยเจอพวกเค้ามาก่อน
            “เฮ้ย นั่นพิณนี่หว่า!” คนหนึ่งในกลุ่มตะโกนเมื่อเห็นเธอ พิณเริ่มรู้สึกงงๆหันไปหามาน่าที่จดจ้องอยู่กลับเด็กกลุ่มนั้น
            เด็กกลุ่มนั้นยังคงเดินมาทางพิณและหยุดอยู่ตรงหน้าแต่ทุกคนกัลป์หยุดชะงักเมื่อเห็นร่างของมาน่า “อะ...เอ่อ สะ...สะ...สวัสดีครับ” ทั้งหมดพูดขึ้นอย่างหวาดๆซึ่งทั้งหมดก็พนมมือไหว้ด้วย
            “อืม เป็นไงบ้างละ เอ๊ะเราเคยเจอกันมาแล้วนี่...” มาน่ากล่าว
            “อ่า คงงั้นแหละครับ” ทัตตอบทั้งๆที่ตัวเองยังจำไม่ค่อยได้
            “อะ...เอ่อ คือ...”แต่ก่อนที่ทัตจะได้พูดอะไรจบ มาน่าก็ยื่นหน้าภายใต้ผ้าลินินเข้ามาใกล้ๆทัต “คิดถูกแล้วละที่ไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ขอให้เงียบเรื่องนี้ไว้น่ะ ไม่งั้นละก็...”มาน่าพูดทิ้งท้ายไว้ ทำเอาทัตกลืนน้ำลายลงคอไป “อ้อ รวมทั้งเพื่อนๆนายด้วยน่ะ...”มาน่ากล่าวพร้อมหันไปมองคนอื่นๆ
            “มาน่า...รีบเข้าไปเก็บของเหอะกระเป๋าหนักจะตายเดี๋ยวใครมาเห็นด้วย”พิณเร่ง มาน่าหันกลับไปมองพิณกำลังจะเดินไปต่อ
            “เอ่อ เดี๋ยวสิพิณขอพวกเราไปบ้านเธอได้ม่ะ”ทัตรวบรวมความกล้าถาม ทั้งมาน่าทั้งพิณมองมาที่ทัตแล้วก็มองกันเอง “จะไปทำไมเล่า”พิณถาม
            “ก็ เห็นไอ้โจมันบอกว่าเธอไม่ได้อยู่บ้านนี่ กะ ก็เป็นห่วง...”
            “อยากรู้ว่างั้น”
            “แหะๆๆ เธอเรียกงั้นก็ไม่ผิด” ตอนนี้ทุกคนเริ่มสะกิดทัตเป็นนัยให้อย่าลามปามไปเลย
            “นี่ชั้นไม่เคยพาผู้ชายเข้าบ้านมาเลยน่ะ ทำแบบนี้เดี๋ยวก็...”
            “ไม่ๆๆๆใช่อย่างงั้น แค่อยากรู้ว่าบ้านเธออยู่ไหนไง รู้จักกันไว้ไม่เสียหลายหรอก”
พิณมองมาน่า “เหอๆๆ เกรงว่าถ้าได้เข้าไปในบ้านของพวกเราแล้วเดี๋ยวอาจจะไม่พอใจกับการต้อนรับของพวกเราซักเล็กกระมัง...”มาน่ากล่าวพร้อมโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆ
            “อะ เอ่อแบบนั้นก็ไม่เป็นไรฮะ ปกติพวกผมก็ไม่ค่อยมีมารยืดกันเท่าไหร่อยู่แล้ว”ทัตตอบอย่างหวาดๆ
              “ฮืม วันนี้พวกเรามีธุระน่ะคงอยู่ต้อนรับพวกเธอไม่ได้เอาเป็นว่านายเห็นบ้านนั้นมั้ย...”ในระหว่างที่มาน่าต้องโค้งตัวพูดเพราะมาน่าสูงกว่าพวกนี้ซะอีก มาน่าก็ชี้ไปทางขวามือเหมือนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่เจาะจง แต่เมื่อทั้งกลุ่มมองไปตามทิศนั้นกลับมีภาพขึ้นมาในจิตใจ ภาพที่รวดเร็วแต่มองออกทุกๆสิ่งเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ขวาๆซ้ายขวา ซ้ายวกไปวนมาอย่างเร็วแล้วก็มาหยุดที่หน้าบ้านหนึ่งบ้านนั้นก่อด้วยอิฐสีแดงมีเถาไอวี่เกาะตามผนังสนามหญ้าหน้าบ้านเขียวขจี ต้นไม้ในสวนขึ้นอย่างร่มรื่นสบายตา
            “ว่างๆแวะมาก็ได้น่ะ แต่ปกติพวกเราคงไม่ค่อยได้อยู่กันหรอกบอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาเก้อกัน...”เสียงของมาน่าทำเอาทุกคนหลุดออกจากภาพที่เห็น ปรากฎสู่ความจริงเบื้องหน้า
            “อ่า คับ”บางคนพูดพึมพำเบาๆ
            “ไปเหอะพิณ...”มาน่าเรียกแล้วก้าวผ่านทุกคนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินนำพิณไป พิณเดินตามมาแต่มาหยุดตรงหน้าทุกคน
            “นี่ๆนายคนนั้นน่ะ”พิณเรียกชายที่ยืนอยู่ข้างโจนั่นคือพีค
            “หะ หามีไรเหรอ”
            “อืม นายมีญาติรึเปล่าชั้นรู้สึกคุ้นกับกลิ่นนี้จัง” คำพูดของพิณทำเอาพีคเร่งดมตัวเองว่ามีกลิ่นอะไรเพื่อนๆก็มองด้วยสายตาที่งงงวยไปมา
            “นายไม่ได้มีกลิ่นอะไรหรอก ชั้นแค่ได้กลิ่นอะไรๆดีกว่าคนอื่นเค้าน่ะ”
ทั้งหมดหน้าเหวอ “ได้มาจากมาน่าเหรอทักษะนี้”โจถาม
            “อือ มาน่าเค้าให้มา  แต่แค่นายคนนั้นแตะใครก่อนอาบน้ำกลิ่นมันก็ติดแล้วแต่ชั้นรู้สึกคุ้นกับกลิ่นนี้น่ะ”
พีคเริ่มนึกถึงเมื่อเช้ายัยลิสลี่ย์ญาติที่มาจากอเมริกาแล้วมาพักที่บ้านเค้า เมื่อเช้านี้ยัยนั่นแกล้งกระโดดขี่หลังเรานี่หว่า “เอ่อ คงไม่ใช่ว่า”
            “อืม ใช่ๆจำได้แระยัยลิสน่ะเองนี่ยัยนั่นมาไทยด้วยเหรอเนี่ย”
          “นี่พิณเมื่อไหร่จะไปหน่ะ...”เสียงของมาน่าดังขึ้นหลังจากเดินย้อนกลับมาตาม
          “เออๆๆ ไปแล้วๆ”แล้วพิณก็ทำเพียงแค่หันมาโบกมือลาเท่านั้นแล้วก็วิ่งตามมาน่าไปทิ้งไว้แต่ความสงสัยอีกครั้ง
          เฮ่อ แล้ววันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน  หลังจากที่ปิดเทอมมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย  ฉัตรนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างเบื่อหน่ายเหลือบไปมองต้นไม้ผ่านหน้าต่างแสงแดดอ่อนๆส่องเข้ามาในห้อง นี่ก็เกือบจะเย็นแล้วไปไหนดีหว่า ด้วยความเบื่อหน่ายฉัตรเลยเดินออกไปนอกห้อง ทั้งบ้านเงียบเหงาตั้งแต่ปิดเทอมมายัยแพมน้องสาวก็ออกไปเที่ยวไม่หยุดเลย วันธรรมดาแบบนี้ทั้งพ่อทั้งแม่ก็ออกไปทำงานกันหมดปล่อยให้ฉัตรเฝ้าบ้านอยู่คนเดียวในบ้านที่ค่อนข้างใหญ่โตโอ่โถงนี้ บ้านของฉัตรนับเป็นบ้านที่มีฐานะระดับหนึ่งไม่ค่อยขัดสนอะไรเท่าไหร่นัก
        ฉัตรตัดสินใจเดินลงบันไดไปกะจะออกไปเดินเล่นแก้ขัดซะหน่อย “ป้าคับ เดี๋ยวผมฝากบ้านไว้แปปนึงน่ะครับ!!!”ฉัตรตะโกนไปหาคุณป้าข้างบ้านที่รดน้ำต้นไม้อยู่
    “จ้ะๆรีบไปรีบกลับมาละกัน”
    “ขอบคุณครับ” ฉัตรไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินออกนอกบ้านไป
เพราะแบบนี้แหละถึงเหมาะแก่กับการมาเดินเล่นสาวๆส่วนใหญ่ที่เดินสวนกันแต่งชุดอยู่บ้านที่ไม่ค่อยปิดกันมิดชิดเลย ฮ่าๆๆหวานปากเราล่ะ แผล่บ  ฉัตรถึงกับต้องเช็ดน้ำลายเมื่อจะเดินไปปากซอยโดยไม่นั่งมอเตอร์ไซท์เหมือนทุกที ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆ กำลังจะผ่านพวกวินมอเตอร์ไซท์
      “เฮ้ย ไอ้น้องเดี๋ยวก่อนเด่ะ!”มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
      “อ่ะหา”ฉัตรหันกลับไปมองเห็นพวกวินมอเตอร์ไซท์หน้าตาโหดๆทั้งนั้นประมาณ4-5คนมองมาที่ตนแล้วทั้งหมดก็ค่อยๆเดินมาหาฉัตร
      “เออ ก็เมิงนั่นแหละ วันก่อนทำไว้แสบมากน่ะ”
      “หะ หาผมไปทำอะไรให้พี่เหรอครับ...”
    “ไม่ต้องมาแกล้งโง่”
      “เฮ้ย ผมไปทำไรให้พี่ตอนไหน”
    “เฮ้ย พวกเราไม่ต้องสนใจรุมมันเลย!”
ตอนนี้พวกวินมอเตอร์ไซท์เริ่มเข้ามาล้อมรอบตัวเอง จะอยู่ให้โง่ไมล่ะ ฉัตรเริ่มค่อยๆถอยไปทีละก้าวๆลองหาทางหนีทีไล่ดูก่อน ฉัตรไม่รอช้ารีบใส่เกือกหมาแบบใส่วิญญาณนักวิ่งไปด้วยวิ่งหนีไปโดยไม่รอช้า
      “เฮ้ย ตามไป!” และแล้วพวกวินมอเตอร์ไซท์ก็วิ่งตามไป
  แฮ่กๆๆนี่มันอะไรกันว่ะเนี่ยแมร่งสันดารเวนตระไลจริงโว้ย! ตอนนี้ฉัตรวิ่งหนีไม่คิดชีวิตระหว่างทางตรงไปเรื่อยข้างหน้ามีทางแยกไปทางซ้าย ขวา ตรง ฉัตรไม่มีเวลามานั่งคิดแล้ว เอาว่ะเสี่ยงดูฉัตรเลี้ยวไปทางซ้ายและยังคงวิ่งหนีไปเรื่อยๆไม่คิดที่จะหันไปมองด้วย หวังว่าไอ้พวกนั้นมันคงตามมาไม่ถูกน่ะ  รู้ตัวอีกทีฉัตรก็รู้ว่าตัวเองวิ่งมาคงไกลแล้วล่ะ...มั้ง ขอหยุดพักหน่อยล่ะกันเอาไงดีเดี๋ยวนั่งพักแบบนี้เกิดทะลึ่งพวกมันดันมาเจอเข้า
        ตรงที่ๆฉัตรหยุดเหมือนจะเป็นบ้านใครซักคนละมั้ง หน้าบ้านมีรถลีมูซีนตอนยาวสุดหรูจอดอยู่  โอ้โหแมร่งรถใครว่ะเนี่ยโคดหรูเลย ฉัตรมองซ้ายมองขวาเพื่อหาพวกนั้น แปลกแหะแถวนี้ไม่เห็นมีคนเลยในละแวกนี้ก็มีบ้านนี้บ้านเดียว บ้านอื่นก็ทิ้งให้รกร้างไม่ใครมาอยู่มีแต่ติดป้ายประกาศขาย  ฉัตรมองบ้านตรงหน้าที่หน้าจะมีผู้อยู่อาศัยหลังเดียวในละแวกนี้
        มองไปมองมาด้วยไปหยุดตรงรถคันตรงหน้า ฉัตรลองมองส่องเข้าไปข้างในแต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะติดฟิล์มดำมืดสนิท ฉัตรลองคว้าหมับกับที่เปิด  ในใจนึก นี่กรูทำบ้าไรว่ะเนี่ยรถหรูขนาดนี้เค้าก้ต้องล็อคไว้ดิ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉัตรลองเปิดดูซักหน่อยก็ไม่เห็นเสียหายอะไร มือที่จับอยู่ดันขึ้นเพื่อเปิด
      กุกๆ...กึก แกร้ก ฟรึ่บ! อ้าวเฮ้ยแมร่งไม่ได้ล็อคนี่หว่า
      ตึกๆๆ “เฮ้ย มันมาทางนี้ป่ะว่ะ!”
โอ้ ฉัตรรู้ดีเลยไม่ต้องคิดมันมาแล้ว เอาไงดีๆมองตรงหน้า รีบกระโดดเข้าไปในรถปิดประตูฉัตรลงไปนอนขดตัวอยู่บนพื้นพยายามหลบๆใต้เบาะ เอาในนี้ก่อนแล้วกันว่ะ
      “หายไปไหนว่ะ เมื่อกี้ยังเห็นมาทางนี้นี่หว่า”
      “มันอาจจะซ่อนอยู่ก็ได้”
      “ก็แล้วมันที่ไหนล่ะว่ะ!”
      \"ว่าแต่นี่เราบุกมาถึงถิ่นไอ้เจ้าพ่อไสยแล้วน่ะเว้ย\"
      \"อ้าว ชิบหายแล้วมรึง เอาไว้ก่อนละกันไอ้เด็กนั่นน่ะตอนนี้ข้ายังไม่อยากตาย\"
แต่แล้วเสียงถกเถียงก็เงียบไปฉัตรรู้สึกได้ว่าคงจะมีสายตาจ้องมาทางนี้แน่ ฉิบหายล่ะกรูจะทำไงดีๆ
      กึกๆ  ฉัตรที่ยินเสียงที่เปิดประตูรถดังแต่เป็นของประตูตอนหน้าของฉัตร  ไม่สนใจไรแล้วฉัตรหลับตาจากเดิมที่ก็มืดพอดูแล้วคราวนี้กลายเป็นไม่เห็นเลย ฉัตรได้ยินเสียงเหมือนประตูรถกำลังจะเปิดแล้ว และ...
      “เฮ้ย พวกเอ็งเป็นใคร!” มีเสียงผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้น
      “อ่ะ เอ่อเปล่านี่ ว่าแต่เห็นใครผ่านมาทางนี้รึเปล่า”
      “อู้ย จะมีไม่มีข้าไม่สนโว้ย มาทางไหนน่ะกลับไปทางนั้นเลยไป!”
      “เดี๋ยวก่อน พวกแกมานี่หน่อย”คราวนี้อีกเสียงผู้ชายดังขึ้นแต่ฟังดูแล้วคงยังไม่แก่เท่าไหร่
กึกๆๆ  แกร้ก  เสียงอะไรน่ะหรือว่าจะเป็นปืน“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็อย่ามาเหยียบแถวนี้อีกและโดยเฉพาะห้ามยุ่งกับทรัพย์สมบัติใดๆของข้าเด็ดขาด ชั้นละเกลียดนักไอ้พวกชอบมาแตะต้องของๆข้า” แต่ฉัตรไม่ได้ยินเสียงพวกนั้นคงตอบโดยไม่ใช้เสียงล่ะมั้ง
      “อืม ดีเอแต่ชั้นสงสัยอยู่อย่างพวกแกก็น่าจะรู้นี่นาว่าชั้นเป็นใคร ใครๆก็รู้นี่นาว่าชั้นมาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีใครกล้าเข้ามาแถวนี้เลยน่ะเนี่ย พวกแกใจกล้าดีว่ะ”
      “ระ เราไม่ได้ตั้งใจมาลุกล้ำน่ะ คะ แค่มาหาไอ้เด็กเปรดเท่านั้น”
      “ฮ่ะๆๆ งั้นเหรอแต่ถึงชั้นเจอพวกแกก็น่าจะรู้ดีว่าชั้นไม่ปล่อยใครไว้อยู่แล้ว”
      “เอ้า เสร็จแล้วก็รีบไปสิ”
ตึกๆๆสงสัยพวกนั้นคงเผ่นแน่บไปแล้วฮ่าๆๆสมน้ำหน้า เอแต่ว่าเราจะทำไงต่อดีละดูเหมือนไอ้2ตัวข้างนอกจะเป็นมาเฟียขาใหญ่อะไรทำนองนั้นซะด้วยสิเอาไงดีว่ะกรู...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น