คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 11th CHAOS - Open Mind
11th CHAOS - Open Mind
ตลอดทางบนรถแท็กซี่ ไอ้หมอนี่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
ผมลอบมองใบหน้าซีด ๆ ที่หมดหล่อแล้วของมันเป็นระยะ เมื่อรู้สึกว่าเสียงเงียบไป พร้อมกับพยายามจับแขนมันเอาไว้ เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายว่าสูงแค่ไหน รวมถึงต้องการจะบอกมันว่า ยังมีผมอยู่ข้าง ๆ ผมไม่ได้หายไป
แต่ตัวมันก็ร้อนซะจนผมอดประท้วงคนป่วยไม่ได้ "มึงไปหาหมอดีกว่าป่าววะ" แน่นอนว่า ถึงผมจะพยายามถามกึ่งบังคับ ขอร้อง อ้อนวอน ขู่เข็ญสักแค่ไหน คำตอบของไอ้ปุณณ์ก็ยังคงเหมือนเมื่อสิบห้านาทีที่แล้วไม่มีผิด "ไม่เป็นไรอะ พักหน่อยเดี๋ยวก็หาย" มึงเห็นกูเป็นนางพยาบาลเหรอ T__T
ผมนั่งสั่นขาเป็นเจ้าเข้าอยู่บนแท็กซี่อย่างร้อนใจ พลางบอกทางคุณลุงคนขับไปด้วย ใช้เวลาเพียงไม่นานนัก รถแท็กซี่คันสีฟ้าก็มาหยุดอยู่หน้ารั้วบ้านผม
"ไม่ไฮโซเท่า นอนได้ใช่ปะ" ผมว่าประชดมัน แต่ได้ยินกลับมาเพียงเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ มันไม่มีแรงด่าผมตอนนี้หรอก ผมรู้ ฮ่า ๆ
หลังจากแบกมันเข้ามาถึงในบ้านได้อย่างทุลักทุเล ผมก็เจ๊อะหน้าป๊ากับม้า ที่ยังคงดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นกันครบทีมเสียก่อน ทีนี้ผมจะบอกว่าอะไรดีวะครับเนี่ย ลูกชายพาผู้ชายเข้าบ้าน ป๊าม้าคงไม่คิดลึกเท่ากับที่น้องสาวและแม่บ้านตระกูลภูมิพัฒน์คิดหรอกมั้ง เหอะ ๆๆ
"หวัดดีฮะอาป๊า ม้า" ผมทำตัวเป็นเด็กดี แม้ว่าตอนนี้อยากจะวิ่งพรวดเดียวให้ถึงห้องใจจะขาด (กลัวไอ้ปุณณ์ตาย) แต่ก็ต้องชิงทักบุพการีเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยทางทรัพย์สิน (ของค่าขนม)
"กินข้าวมารึยังโน่ อ้าว? แล้วนั่นเพื่อนเป็นอะไร" เป็นม้านั่นเองที่สังเกตเห็นก่อน แต่เล่นทักซะเสียงดังจนป๊าต้องหันมามองด้วยอีกคน "อ้าว ลื้อไปแบกใครกลับมา"
"ส...สวัสดีฮะ" เสียงไอ้ปุณณ์กระท่อนกระแท่นทักที่บ้านผมอย่างน่าเวทนา ป่วยแล้วยังเสือกจะทำมารยาทงามอีกนะมึง ผมคิดพลางเหล่มองไอ้ตัวดีที่พยายามยกมือไหว้ทั้งที่ไม่มีแรงอย่างละเหี่ยใจ
"เพื่อนฮะ มันไม่สบาย กลับบ้านไม่ไหว โน่เอามันนอนนี่นะ"
"รีบพาเพื่อนไปพักเร็ว แล้วเดี๋ยวม้าหายาขึ้นไปให้" อิอิ น่ารักไหมล่ะครับม้าผม จริง ๆ แล้วบ้านผมใจดีกันทั้งบ้านครับ ไม่งั้นไอ้โอม ไอ้เก่ง และอีกสารพัดไอ้ จะแห่มานั่งเล่นเกมบ้านผมกันบ่อย ๆ ทำไม
แน่นอนว่าไม่มีการรอช้า หลังจากได้สัญญาณไฟเขียวแล้ว ผมรีบแบกไอ้ปุณณ์ขึ้นชั้นสอง มุ่งหน้าไปยังห้องนอนทันที
**
"นอนนี่แหละ โทษทีที่เตียงไม่ใหญ่เท่า" เมื่อถึงห้องนอน ผมพาไอ้ปุณณ์ที่กะปลกกะเปลี้ยไปวางไว้บนเตียงอย่างไม่รอช้า ดูท่าทางมันสบายตัวขึ้นมากเมื่อหลังได้สัมผัสกับฟูก
แว่วเสียงมันงึมงำอะไรขอบใจผมเบา ๆ แต่ไม่ได้สนใจนักหรอกครับ เพราะมัวแต่ง่วนอยู่กับการปรับองศาเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายไอ้ปุณณ์อยู่ โดยไม่ลืมที่จะลอบมองมันเป็นระยะ ๆ ว่าหนาวเกินไปหรือเปล่า
แน่นอนว่าเพราะฤทธิ์ไข้ ผมเห็นมันตะกายผ้าห่มผมอย่างกับเป็นสมบัติล้ำค่า เฮ้อ...ป่วยไม่เจียมเองเนอะมึงอะ
ก๊อก ๆ
"เข้ามาสิฮะ"
"ม้าเอายามาให้ เพื่อนโน่เป็นไข้ใช่รึเปล่า" ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นม้าเข้ามาพร้อมกับขวดน้ำและกระปุกยา "ใช่ฮะ ไว้มันตื่นจะไล่ไปขอบคุณม้าให้"
"ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่ใครล่ะ ม้าไม่เคยเห็น บอกที่บ้านเขารึยัง" ปกติม้าผมเห็นแต่ไอ้เหี้ยโอม กับไอ้สัดเก่ง แล้วก็ตัวเสื่อม ๆ ทั้งหลายเท่านั้นแหละครับ หน้าตาผู้ดี ๆ แบบนี้ไม่เคยมีมาหรอก สงสารม้าจริง ๆ
"เพื่อนที่โรงเรียนอะม้า ชื่อไอ้ปุณณ์ วันนี้มันป่วยผมเลยแบกมันกลับ เดี๋ยวว่าจะโทรไปบอกบ้านมันอยู่" ผมตอบพลางหันไปมองเจ้าตัวที่ผล็อยหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว แล้วก็ต้องถอนหายใจปลงอีกสักหนึ่งเฮือกใหญ่
"เปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดตัวให้เพื่อนด้วยสิโน่ แบบนั้นนอนไม่สบายหรอก" ม้าผมสั่งเสียไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป เออว่ะ! นั่นเป็นเรื่องที่ผมลืมเสียสนิท ปล่อยให้มันนอนทั้งกางเกงยีนแบบนี้ไม่ดีแน่
ผมคิดพลางหันไปมองมันที่หลับไม่รู้เรื่อง แล้วตัดสินใจเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำ ผ้าขนหนูผืนเล็ก รวมถึงเสื้อผ้าชุดใหม่มาเตรียมซับตัวให้
"ปุณณ์...ปุณณ์...ปุณณ์! มึงตื่นมากินยาก่อน" ใช้เวลาพักหนึ่ง กว่าที่ผมจะเขย่าตัวมันจนมันรู้สึกตัวขึ้นมากลืนยาลดไข้ได้ ผมส่งน้ำให้มันกรอกตามแล้วปล่อยปุณณ์นอนต่ออย่างเดิม หน้าตามันดูไม่ไหวแล้วจริง ๆ ว่ะ ไอ้เรื่องจะให้เช็ดตัวเองนี่ลืมไปได้เลย
"เช็ดตัวก่อนดีปะวะ มึงนอนไม่สบายหรอก มากูเช็ดให้" ผมบ่นไปปล้ำถอดเสื้อให้มันไป กว่าจะถอดเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อย (แม่งไม่คิดจะลุกขึ้นมาถอดเองเลยใช่ปะ) จนในที่สุด ผมก็มีเพื่อนเป็นชีเปลือยท่อนบนนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง โชว์กล้ามเนื้อแผงอกที่ขยับขึ้นลงเล็กน้อย จนเดาได้ยากว่ามันหลับไปแล้ว หรือหมดแรงจะกระดิกตัวกันแน่
แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากบิดผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตัวไปเรื่อย ไล่มาตั้งแต่ใบหน้าขาวซีดที่เริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างเล็กน้อยของมัน เลยมาถึงลำคอระหงที่คล้ายกับกำลังพยายามเปล่งเสียงอะไรสักอย่างด้วยความยากลำบาก
ผมมองหน้าปุณณ์พลางเลื่อนผ้าขนหนูมาเช็ดแขนยาว ๆ ของมันไปพลาง ตอนนี้ตัวปุณณ์ไม่ร้อนเป็นไฟเหมือนเมื่อตอนอยู่บนรถแท็กซี่แล้วครับ แต่ก็ยังถือว่าอุ่นอยู่มาก ผมสาละวนกับการเช็ดแขนของมันทั้งสองข้าง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นลูบเบา ๆ ที่แผงอก
หลังจากที่บิดผ้าขนหนูใหม่อีกน้ำหนึ่ง ผมจัดการเช็ดหน้าอกให้มันต่ออย่างพิถีพิถันที่สุด เพราะเล่นไปเดินตะลอน ๆ อยู่สยามจนเหงื่อออก ผมอยากให้มันนอนสบายตัว จึงเช็ดเรื่อยมาจนถึงบริเวณหน้าท้องที่ดูมันจะเกร็งเป็นพิเศษ
"อือ..." ครางทำเหี้ยไรวะ!
"ครางหาป๊ามึงเหรอ กูฟังแล้วหยิว" ผมด่ามันพลางกดน้ำหนักมือลงบนพุงที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อนั่น ก่อนจะแว่วเสียงมันหัวเราะเบา ๆ
"ก็กูเสียว" มีแรงเถียงผมงี้คงไม่ป่วยแล้วม้างงง
"ได้เสียวกว่านี้แน่...เอ้า! ถอดกางเกง" ผมพูดต่อหน้าด้าน ๆ พร้อมวางผ้าขนหนูลงกะละมัง แต่นั่นกลายเป็นต้นเหตุให้ไอ้คนป่วยนอนเคลิ้มเมื่อครู่ถึงกับเบิกตาโพลง
"เฮ้ย!"
"ตกใจเชี่ยไร จะใส่กางเกงยีนนอนรึไง หายป่วยแล้วก็ถอดเองสิวะ หรือจะให้กูถอดให้" เท้าสะเอวด่ามันนี่ดูข่มขู่ดีนะครับ ฮ่า ๆ ผมยืนมองหน้ามันที่เลิ่กลั่กไม่หาย ก่อนจะส่ายหัวหน่ายแล้วจัดการปล้ำปลดกระดุมรูดซิปกางเกงมันด้วยตัวผมเอง
"เฮ้ย!!!"
"อายห่าไร สัญญาว่าถ้าพะโล้มึงเล็กกูไม่บอกใครหรอก...นอกจากชมรมดนตรี สภานักเรียน เพื่อน ๆ ม.5 แล้วก็แก๊งคอนแวนต์แฟนมึง" ฟังดูดีปะครับ ฮ่า ๆๆ แน่นอนว่าไอ้ปุณณ์รั้งขอบกางเกงยีนตัวเองเอาไว้เหนียวแน่นอย่างกับเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายในชีวิต
"ม...ไม่ต้องถอดกางเกงหรอก"
"ไรวะ! ผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ เหนียมอยู่ได้ รำคาญโว้ย! ถอด ๆๆๆๆๆ" แต่คนป่วยหรือจะสู้คนหนุ่มแข็งแรงดีอย่างผมได้ ผมไม่ต้องเปลืองแรงมากมายเลยกับการดึงมือมันออกจากขอบกางเกงยีน และจัดการรูดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายที่น่าหวงแหนของมัน
คิดมากน่า! บ๊อกเซอร์มันผมก็ไม่ได้ถอดออกมาสักหน่อย!
"อย่าชักธงรบตอนกูกำลังเช็ดขาให้มึงแล้วกัน กูรับไม่ได้" ผมกำชับมันไว้แค่นั้นก่อนจะบิดผ้าขนหนูมาเช็ดตัวต่อ ได้ยินเสียงมันหัวเราะเหมือนคนปลงโลกแล้วก็กระหยิ่มยิ้มย่องได้อย่างหนึ่ง ว่าวันนี้ผมมีเรื่องชนะมันแล้ว
หลังจากจบเหตุการณ์ปลุกปล้ำเช็ดตัวไอ้ปุณณ์สำเร็จ ก็ถึงตาผมไปอาบน้ำชำระร่างกายบ้าง แน่นอนว่าไม่ลืมเด็ดขาดที่จะปิดโทรศัพท์มือถือทั้งของมันและของผม ป้องกันคนรบกวนเต็มรูปแบบ
ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลผ่านตัวผม ผมกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาอย่างช้า ๆ...
อันที่จริงผมกับปุณณ์รู้จักกันมานานก็ใช่อยู่ เพราะโรงเรียนของเรามีตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมัธยม จึงไม่แปลกอะไรที่เราทั้งคู่จะเคยเห็นหน้าค่าตากันมานานตั้งแต่ยังเด็ก ๆ (ตอนเด็ก ๆ ไอ้ปุณณ์ก็ไม่ได้หล่อหรอกครับ ฮ่า ๆ)
ปุณณ์ในความทรงจำของผมเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ดีจนเกือบจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กต์ ทั้งตัวสูง รูปหล่อ ผลการเรียนดี บ้านมีตังค์ (เหมือนเป็นสโลแกนอะไรสักอย่าง) พฤติกรรมเด่น ความสามารถทางดนตรี กีฬา ภาษา หมอนี่ก็มีครบ ที่สำคัญแฟนยังสวยจนใคร ๆ เขาก็ลือกัน
แต่เรื่องแปลกที่สุดก็คือ...ทั้งที่มีคนเพอร์เฟ็กต์เสียจนน่าหมั่นไส้ขนาดนี้อยู่ทั้งคนแล้ว กลับไม่เคยได้ยินว่ามีใครเกลียดไอ้ปุณณ์สักคน แม้แต่คนหมั่นไส้ยังไม่มี
ผมเคยคิดเรื่องนี้บ่อย ๆ ตั้งแต่สมัยยังไม่สนิทกับมันว่าเพราะอะไร ทั้ง ๆ ที่ผู้ชายเราต่างมีอีโก้ในตัวเองสูง เห็นใครได้ดีกว่ามักจะทนไม่ได้ เป็นต้องถูกเหม็นขี้หน้า ท้าตีท้าต่อยทุกรายไป เว้นแต่กับปุณณ์ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นบุคคลน่าไว้วางใจของใคร ๆ แถมยังมีเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังเสมอ
ผมเคยสงสัย จนกระทั่งช่วงหลัง ๆ มานี้ ผมจึงได้คำตอบ...
ปุณณ์เป็นมากกว่าคนเพอร์เฟ็กต์ สำหรับผม ผมมองผ่านความเพอร์เฟ็กต์ด้านความสามารถต่าง ๆ ของปุณณ์ไปแล้ว เพราะตลอดช่วงเวลาสองสามวันที่ผ่านมา มันพิสูจน์ให้ผมเห็นได้เสมอว่า ความเพอร์เฟ็กต์ของมันคือ การเป็นคนดี โดยที่ไม่ต้องอวดสรรพคุณอะไรในตัวเองเลย
ปุณณ์มักจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างใส่ใจและอ่อนโยนเสมอ ผมเห็นได้จากสิ่งที่มันตั้งใจทำให้เอม ให้ผม รวมถึงเพื่อน ๆ คนอื่น อาจจะกวนตีนไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังน่าคบมากกว่าน่าถีบ
ยิ่งได้อยู่ใกล้ปุณณ์ ผมก็ยิ่งหายสงสัย ว่าทำไมใครต่อใครถึงพากันชอบมัน ทั้งที่โรงเรียนผมผู้ชายเท่ ๆ ก็มีอีกเยอะแยะดาษดื่นไป
ดวงตาที่เปี่ยมด้วยความจริงใจและกล้าหาญเสมอนั้นคือคำตอบ
ปุณณ์เป็นมากกว่านั้นจริง ๆ...
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะพบมันหลับปุ๋ย นอนสบายตัวอยู่บนเตียงด้วยชุดที่ผมเปลี่ยนให้
เมื่อทาบหลังมือลงกับหน้าผากก็พบว่าอุณหภูมิอีกฝ่ายนั้นเย็นลงนิดหน่อย แต่ก็ดูไอ้ปุณณ์จะยังคงหนาวมากอยู่ดี เสียงครางด้วยความทรมานยังคงมีมาแผ่ว ๆ ไม่ได้หยุด
"ปิดไฟแล้วนะ" จริง ๆ ผมไม่เคยนอนเร็วขนาดนี้หรอกครับ แต่ครั้นจะปล่อยคนป่วยนอนเตียงคนเดียวแล้วผมชิ่งไปดอทเอก็คงเหี้ยเกินไป ^^"
ผมพยายามเงี่ยหูฟังคำตอบ ได้ยินเสียงมันครางอะไรไม่ได้ศัพท์ก็เหมาเอาเองว่าคงอนุญาตให้ผมปิดไฟได้นั่นแหละ ฮ่า ๆ ว่าแล้วก็จัดการดับไฟหมดทั้งห้อง จนเหลือเพียงแสงนวลของดวงจันทร์ที่สาดเข้ามาทางประตูระเบียงบานใหญ่ ทำให้ผมยังคงมองเห็นหน้าไอ้ปุณณ์อยู่
อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ามันคิดอะไร หัวคิ้วถึงได้ขมวดเป็นปมยุ่งเหยิงขนาดนั้น ผมคลี่ยิ้มให้ภาพตรงหน้า ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบให้ด้วยหวังว่าคงช่วยอะไรมันได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
"อืม..." มันครางรับสัมผัสนั้น ก่อนจะขดตัวมากยิ่งขึ้นจนผมละเหี่ยใจ นี่กูว่ากูเปิดแอร์ร้อนจนตับจะแตกอยู่แล้วนะ ไอ้ห่านี่
"หนาว..." กลายเป็นคำฮิตติดปากของมันช่วงนี้ไปแล้วครับ ผมหัวเราะเบา ๆ ให้ถ้อยคำคร่ำครวญนั้นของมัน ก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้าง
เห็นเพื่อนตัวเองนอนสั่นหงึก ๆ อยู่ชั่วครู่ก็ตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง
ผมหยิบแขนมันที่กอดตัวเองอยู่แน่นขึ้นมา เปลี่ยนเป็นให้พาดลงกับตัวผม แน่นอนว่าคนป่วยอย่างมันมีท่าทีตกใจ ดวงตาคมนั้นจ้องผมนิ่งอย่างเต็มไปด้วยคำถาม
ผมคลี่ยิ้มขำ ๆ ให้มัน "หนาวไม่ใช่รึไง กูเป็นฮีตเตอร์ให้มึงต่ออีกคืนก็ได้" เพื่อนกันมันไม่แปลกหรอกใช่ไหมครับ (แต่ผมก็ไม่เคยทำแบบนี้กับไอ้โอมนะ อย่างว่า คนบ้าไม่เคยเป็นหวัด ไอ้โอมมันเคยป่วยกับเขาซะที่ไหน ผมละอยากให้มันป่วยบ้างจะแย่ เผื่อจะได้เงียบปากมั่ง)
ปุณณ์ดูตกใจไม่น้อยกับคำพูดนั้น มือของมันสั่นนิด ๆ อย่างที่ผมไม่ทราบสาเหตุ "ย...อย่าเลย กูเกรงใจ" ก็กล้าพูดนะว่าเกรงใจ คิดช้าไปหน่อยมั้งพวก
ผมถอนหายใจให้กับความดื้อด้านของมัน ก่อนจะเป็นฝ่ายจัดการซุกหัวตัวเองลงในแผ่นอกที่มีไอร้อนของปุณณ์ แล้ววาดมือกอดรอบตัวมัน "เออ เกรงใจก็รีบหาย เมื่อกลางวันกอดกูแล้วไข้ลงไม่ใช่เหรอ คืนนี้อีกสักคืนแล้วกัน พรุ่งนี้วันเสาร์พอดี ได้พักต่อ" ผมพูดยาวพลางอิงหัวลงกับแผงอกของมันมากขึ้น แต่ดูปุณณ์ยังลังเลที่จะใช้งานผมเป็นฮีตเตอร์อยู่
"ด...เดี๋ยวมึงติดไข้"
"กูไม่แต๋ว โดนนิดโดนหน่อยก็ไข้ขึ้นอย่างมึงหรอกน่า"
"นิดหน่อยเชี่ยไร ราดแชมพูใส่กูทั้งตัว"
"เงียบแล้วนอนได้แล้ว" มัวแต่เถียงกันอยู่ได้ มีแรงเยอะนักรึไง ผมชักจะง่วงแล้วเหมือนกัน จึงตัดบทพลางกระตุกแขนเสียหนึ่งที เป็นการเตือนให้มันพักผ่อน
หลังจากปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักครู่ ดูปุณณ์จะผ่อนแรงเกร็งลง ก่อนจะค่อย ๆ วาดแขนผ่านตัวผมอย่างลังเล
ผมนอนนิ่งอยู่ชิดกับร่างที่อุณหภูมิสูงร่างนั้น ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีใครสักคนตัดสินใจกอดผมเอาไว้แน่น ด้วยความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจ
นาทีนี้ผมไม่รู้แล้วว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่คืออะไร ผมรู้แค่ว่าผมอยากจะกอดปุณณ์เอาไว้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลไหนก็ตามแต่
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่นวลผ่อง เราทั้งคู่ต่างได้ยินเสียงหัวใจเดินไปในจังหวะเดียวกัน
"ฝันดีนะ"
"ราตรีสวัสดิ์ว่ะ"
TBC.
Postscript (Since 2008) : อืม..... เด็กผู้ชายสองคนนี้มันยังไง.....................
ขอบคุณมากสำหรับคอมเม้น + คะแนนของตอนที่แล้วค่า~ กลับมาจากบ้านเพื่อนปุ๊บก็โพสให้ปั๊บเลยเย้ ๆๆ ไม่รู้ถูกใจมากน้อยแค่ไหน ไม่มี NC ซักทีเนี่ย 5555+ (ทำไมคนถามถึงกันเยอะจัง Y.Y น้องปุณณ์เค้าเป็นคนดีนะ Y.Y)
ตื่นมาตอนเช้าน้องโน่จะยังรอดอยู่ไหมเนี่ย.. หุ
ยังไงอ่านแล้วคิดอะไรก็ทิ้งข้อความไว้ได้นะคะ หรือมีคำแนะนำอะไรให้ผู้เขียนก็ทิ้งไว้ได้เน้ออ~ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและคะแนนโหวตค่า~ (เช่นเคย ชอบมากให้มาก ชอบน้อยให้น้อย ไม่ว่ากันอยู่แล้วเนอะ ๆๆ)
ปล. เริ่มมีคอมเม้นสงสัยกันเข้ามาว่าเรื่องนี้ใครจะกดใครกันแน่... สงสัยต้องเปิดโหวต 555+
อะตอบคอมเม้นพอเป็นกระสัยค่า ^___^
ถึงคุณ _Chompu JaE~JaE _
หอมแก้มโชว์ O.O!? อะไรมันจะขนาดนั้นนนนน ดุเดือดจริง ๆ คู่นี้ xDD
เอาน่า~ เป็นของกันและกันยังดีกว่าเป็นของหญิงอื่น อิอิ
ปล. น้องโน่สงสัยจะหน้าโหล 555 แต่หุ่นน้องโน่เนี่ยพยุงปุณณ์กลับบ้านได้ คิดเอาเองว่าใครกันแน่น่าปกป้อง กร๊ากกก (ทำไมไปทะลายจิ้นคนอ่านงั้นล่ะเห็ด!!)
ถึงคุณ โ P โ $ ติสต์!~ ) วันแดงเดืoด*
ถ้าโน่ไม่ตามไปโดนปลดออกจากนิยายเรื่องนี้ค่ะ น้องโน่เลยต้องทำคะแนนหน่อย ฮา ๆๆ
ปล. หืม... น่าเรียนสุด ๆ
ถึงคุณ ~รักคนอื่นไม่เป็น~
อยากให้มีเกือบๆเอ็นซีจัง ขอ NC แล้วไม่ได้เลยขอ “เกือบ ๆ” แทนเหรอคะ 555555+
ตอนนี้เกือบ ๆ NC พออ๊ะยัง xD (ฮา...)
ถึงคุณ hotcomer
อันนี้ต้องรอดูต่อไป... หุหุ...
ถึงคุณ Ciin
ต้องอย่าล้อมากค่ะ เดี๋ยวไก่ตื่น
ยุแบบพอประมาณ เราต้องมีชั้นเชิง (ฮา...)
ถึงคุณ ~!@\’\๑KEN_JI_RO๑\’\’@!~
น้องโน่น่าจะปากนิ่มนะ อิอิอิอิ
ถึงคุณ soul of writer
จริง ๆ แล้วเห็ดเป็นคนเชื่อคนง่ายค่ะ ฮา ๆๆๆ
ถึงคุณ ลิงน้อย
ค่า~ ขอให้สมหวังกับหนุ่มกางเกงน้ำเงินนะคะ ^___^v
ถึงคุณ LaLaLa
ค่ะ ผู้ชายน่ารักเป็นเกย์ซะจะได้ไม่เสร็จหญิงอื่น (ฮา..)
น้องโน่หน้าโหลอีกแล้ว อิอิ หาปุณณ์ให้เขาซักคนเร้ววว
ถึงคุณ AngelJS
รู้สึกเหมือนคนอ่านจะถูกคนเขียนสับขาหลอกอยู่ว่าใครจะกดใครกันแน่ (ฮา..)
ของแบบนี้ก็ใครดีใครได้แล้วกันเนอะ อิอิ
ว่าแต่คู่นั้น... ดูมวยยังสวีทได้อีกเหรอ อื้อหือ.... ของมันแน่นอนจริง ๆ (ฮา..)
ฉากละครพี่ถ้า Y โดนอาจารย์ตบแน่ค่ะ 5555+
ถึงคุณ Ms.Bean
ความลับค่ะ (เดี๋ยวขายไม่ออก) 5555555+
ถึงคุณ DeViL_de@th
อ่านบรรทัดแรกแล้วนึกว่าน้องโน่เป็นอัมพาต (ฮา..)
เออ คิดเหมือนกันว่าน้องเหมือนตัดพ้อ 555 (อกุศลจิง ๆๆ)
แฟนคลับลูกชายคุณแม่เยอะนะนี่!
ถึงคุณ Raincoat
ไอ้ปุณณ์แรงจะเดินยังไม่มีเลยค่า~ จับโน่กดม่ายหวายยย เด๋วล่มปากอ่าว (กรี๊ด)
ถึงคุณ ทามทาม
ค่า~ เดี๋ยวจะไปเตือนน้องโน่ให้นะ!
เรื่องตอนจบก็ปล่อยให้เวลาพาไปแล้วกันเนอะ (คนแต่งยังไม่รู้เลยจะจบไง ฮา...)
ถึงคุณ pee_babo
เอาล่ะ... เกิดอาการแท็กทีมกันเม้าเกิดขึ้น (ระวังเจ้าตัวมาอ่านล่ะยุ่งเลยนะเนี่ย 555)
แนะนำให้ตอนแปะปลาสเตอร์ตบหัวมันซักที หน้าจะได้ชนกันให้รู้แล้วรู้รอด ฮา ๆๆ
แนะนำอะไรออกไปเนี่ย.....
ตั้งป้อมรอลุ้นเมื่อไหร่พ่อเซเมะจะรู้ใจน้องเคะ
ถึงคุณ GRIKKT
ออกแนวเมะดุนะคู่นี้ ระวังอย่าเข้าใกล้เคะมาก เด๋วจะโดนหางเลข คิ ๆๆ
ถึงคุณ pafe_love
อยากเห็นรูปอะไรเอ่ย??? รูปคนแต่งรึเปล่า 5555555 (อีสำคัญ!!)
ถึงคุณ AngelJS
เย้ ๆๆ ถึงกับสมัคร id กันเลยทีเดียว ดีใจแทนเว็บเด็กดีด้วยค่า~ 555+
น้องฟันเหล็กนั่งอ้าขาได้ไง ไม่เป็นสุภาพสตรีเลย (??) พ่อนักบาสทำหน้าที่ได้ดีมาก ฮ่า ๆๆ
พี่จะ (พยายาม) ไม่ดองค่า 5555+
ถึงคุณ Darkline
อยู่ปีสุดท้ายอะค่ะ ^__^
รอบตัวเห็ดก็มีแต่ผู้หญิงเหมือนกัน ฮา... (ผู้ชายก็แมนซะ.. มีแฟนกันเป็นตัวเป็นตน)
ถึงคุณ สาว Y
แนะนำให้ย้ายไปเรียนโรงเรียนเดียวกับคุณ โ P โ $ ติสต์!~ ) วันแดงเดืoด* ค่ะ 5555+
ถึงคุณ PP_PaNdA
มีไหมน๊า..............................
ขอบคุณค่าที่รักเรื่องนี้ =^____^=
ถึงคุณ D_D_K_jr
ชอบรึเปล่าหว่า..... อิอิ
ถึงคุณ นู๋ซิมมี่
ถึงคราววิกฤตของน้องกางเกงน้ำเงินแล้ว
โดนเอามาจิ้นกันใหญ่ ฮา ๆๆๆ
ถึง คุณแม่เด็กกางเกงน้ำเงิน (ที่ทุกคนรอ)
5555+ คุณแม่เขียนนิยายเลยสงสัยจะรุ่งนะคะ แฟนคลับเยอะแล้ว 555+
ปล. ขอบคุณค่ะ คุณแม่ก็เช่นกันนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่และน้องเลย
ปปล. คุณแม่อ่านนิยายแต่เช้าเลยนะคะ 5555+
ถึงคุณ .::Sweet Latte::.
คนเขียนสั่งค่ะ 555+
สำหรับคนที่ไม่ได้ตอบไม่ต้องน้อยใจน๊า~~ อ่านทุกคอมเม้น และขอบคุณทุกคอมเม้นเช่นเคยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^___^
ความคิดเห็น