ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Surprising Love : สุดเซอร์ไพร์ส รักนี้มาได้ไงเนี่ย!?

    ลำดับตอนที่ #5 : 5th Surprise : ได้เวลาแก้ข่าว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.27K
      4
      11 ส.ค. 51

      

     

     

    CHAPTER 05.- ได้เวลาแก้ข่าว

     

     

     

                    ฮึบ!! เอาล่ะ เริ่มต้นเช้าวันใหม่ของวันนี้ด้วยความมุ่งมั่น!! ฮะฮ้า~!! เพราะอย่างน้อย ฉันก็รู้แล้วว่าเตไม่ได้อยากจะฆ่าฉันอย่างที่ฉันคิดไปเองฝ่ายเดียว (เพิ่งรู้เรอะ..) นอกจากนั้น เตยังมาขอโทษกันอีกต่างหาก!! ^o^,, อิอิ... ว่าแต่ทำไมน้าาา พอเหลียวมองไปรอบ ๆ ทีไร ฉันก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศมันมีกลิ่นมาคุแปลก ๆ อยู่ดี -*-

     

     

                    อ้อ.......
                    คงเพราะบรรดาผู้หญิงในโรงเรียนเขายังอยากจะฆ่าฉันอยู่นี่เอง
    -*-;;;

     



                    แหม่.. จะว่าไป! มันน่าจะมีใครสักคนมาถามฉันถึงความสัมพันธ์ประหลาด ๆ นี้บ้างนะ  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงพากันหูเบาไปหมด เที่ยวฟังอะไรมาจากไหนไม่รู้แล้วก็พาลเชื่อกันซะอย่างนั้น - .. - เฮ้อออ

     

     

                    "พี่ปริมรึเปล่าคะ" เอ๊ะ!? มีคนเรียกฉัน!!? ใครน่ะ!??

     

                    ฉันหันไปมองเด็กผู้หญิง 2 คนที่ท่าทางจะอยู่ม.3 (ก็เพราะปัก 3 ดาวตรงอกเสื้อไง ต่างกับพวกฉันม.5ตรงที่ฉันปัก 2 ดาวบนปกเสื้อ) พวกเธอยืนอยู่ข้างหลังฉันนี่เอง ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ แบบนี้ คงไม่ได้หวังจะมาฆ่าฉันแน่นอน (รึเปล่า?)

     

                    "ชะ.. ใช่ค่ะ" อย่าว่าแต่พวกนั้นกล้า ๆ กลัว ๆ เลย   ฉันเองก็รู้สึกปอดพอกัน นี่ชีวิตฉันไม่เคยถูกคนแปลกหน้าสะกิดแบบนี้มาก่อนเลยนะ ToT

     

                    "พี่..... เป็นแฟนพี่เต.. เหรอคะ" *ปุ้ง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ* ฉันล่ะอยากจะจุดพลุซักสิบล้านนัดฉลองตรงหน้าโรงเรียนนี่เลย!!!! >0<,,, ในที่สุดก็มีคนมาถามฉันแล้วววววววว มีคนมาถามฉันแล้ว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยย เสียดายที่ฉันไม่มีปีก ไม่งั้นจะตีปีกบินให้ว่อนเล้ยยย >0<,,,

     

                    "มะ.. ไม่ใช่อะค่ะ... พี่ก็เพิ่งจะรู้จักกับเตตอนที่มีข่าวนี่แหละ" ใช่ ถ้าไม่มีข่าวลือแปลก ๆ อย่างนี้ ฉันก็คงไม่ได้รู้จักกับเตหรอก นี่ฉันพูดเรื่องจริงนะ T^T เด็กสองคนนี้จะเชื่อไหมเนี่ยย

     

                    ดังนั้นฉันจึงพยายามส่งสายตาที่จริงใจที่สุดไปให้ทั้งสองคนนั่น พวกเขาหันไปมองหน้ากันเองแว่บหนึ่งก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

     

                    "หนูก็ว่างั้นแล้วเชียว อิอิ ขอบคุณนะคะ" แล้วเธอทั้งคู่ก็วิ่งหายไป...... เอ.. ว่าแล้วเชียว.. ว่าแล้วว่าอะไรอะ??

     

                    หมายความว่าคิดอยู่แล้วใช่ม้ายยย ว่าหน้าอย่างฉันไม่มีทางได้เป็นแฟนเตเด็ดขาด ToT

     

     

                    ฉันเดินด้วยความเซ็งสุดขีดเข้าไปในห้องเรียน ซึ่งแน่นอน อีป่านยังไม่มา.. จะมาได้ยังไงล่ะ ก็ตอนที่ฉันออกมาจากห้องน่ะ นังรูมเมทตัวดียังละเลียดอาบน้ำอยู่เลย ไม่รู้มันอาบหรือมันหลับ รู้แต่ว่า ฉันรีบมาสูดวิตามินดีเข้าร่างกายก่อนดีก่า เผื่อจะได้สวยอย่างมีนาเขามั่ง

     

                    พูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บเลยนะ ตายยากจริงแม่คนสวย!

     

     

                    "ปริม!! วันนี้ฉันช่วยเธอแก้ข่าวไปเยอะเหมือนกันนะ มีคนเข้ามาถามฉันเรื่องข่าวลือนั่นหลายคนเลย" ข่าวดีข่าวแรกของวัน! เมื่อฉันได้ฟังมีนาพูดพร้อมกับทิ้งกระเป๋านักเรียนของเธอไว้ที่โต๊ะกลางห้อง ก่อนจะเดินลากเก้าอี้มานั่งคุยกับฉันตรงริมหน้าต่างนี่

     

                    "อืม ๆ วันนี้ระหว่างทางขึ้นตึกก็มีคนมาถามฉันหลายคนเหมือนกัน" ไอ้คิมได้ทีหันมาอวดมั่งว่ามันก็ทำตัวเป็นประโยชน์แก่สังคมเหมือนกัน กรี๊ดดดดดด... ถ้าลองเป็นแบบนี้ ข่าวลือคงหายไปในเวลาไม่นานสินะ >0<,,,

     

     

                    "โว้ยยยยยยย มันจะอะไรกันนักกันหนา!! เรื่องอีปริมเนี่ยยยยยยยยยย" แล้วนั่นไง.. เสียงของผู้หญิงที่โดนฉันทิ้งไว้ในห้องน้ำเมื่อเช้าดังแหวมาก่อนตัวเสียอีก ฉันมองเห็นยัยป่านเดินโวยวายล้งเล้งมาตั้งแต่ไกลพร้อมกับนลินคนดี ได้ยินฝีเท้าดังตึง ๆๆ ด้วยความหงุดหงิดใจนั่นมาหยุดตรงหน้า แล้วก็กระแทกตัวลงนั่งข้างฉัน ซึ่งเป็นที่ประจำของมันทันที

     

                    "มีคนมาถามฉันเยอะอย่างกับว่าฉันเป็นแม่หมอ ฉันปฏิเสธให้แกตั้งแต่หน้ารั้วโรงเรียนยันหน้าห้องเรียนเนี่ย อะไรมันจะอยากรู้กันขนาดน้านนนน" ไอ้ป่านว่าพลางเจาะกล่องนมสีชมพูดูดดังจ๊วบ ๆ โดยมีนลินยืนยิ้มอยู่เป็นแบ็คกราวน์ โอ้... ยัยเพื่อนเลิฟฟ <3 ฉันรักพวกแกทุกคนเล้ยย >0<,,

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

                    และในที่สุด ช่วงเวลาหนักใจก็มาถึงจนได้ -_-" ฉันเฝ้ามองและนั่งจ้องนาฬิกาหน้าห้องเรียนที่บอกเวลาแก่ฉันอยู่  ด้วยจิตภาวน๊าาา ภาวนาอย่าให้มันเดินไปถึงเวลาเที่ยงครึ่ง แต่ดูเหมือนฉันยิ่งสวดมนต์อ้อนวอนเท่าไหร่.......... มันก็ยิ่งเดินหน้าไปถึงเที่ยงครึ่งเร็วจี๋ซะอย่างนั้น!!!

     

                    'ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด'

     

                    ToT.................... ได้เวลาประหารรรรรรรรรรรรรรรรรรรร

     

     

                    ฉันเดินหน้าม่อยลงบันไดไปกับยัยป่านตามเคย ยัยนั่นยังคงซ้อมท่องกลอนวิชาภาษาไทยที่จะสอบตอนบ่ายนี้อย่างไม่ขาดปาก ส่วนฉันน่ะเหรอ... จะเอากะจิตกะใจที่ไหนไปท่องกับมันล่ะะ สมาธิน่ะมีซะเมื่อไหร่ T__T

     

                    ฉันทำหน้าเซ็งสุด ๆ พร้อมกับคิดไปด้วยว่าควรจะทำยังไงกับพ่อเทพบุตรหน้าร้านข้าวหมูแดงดี.. เพราะจะว่าไป วันนี้ฉันอยากกินข้าวราดแกงเจ้าประจำของยัยป่าน (ที่หนีไปกินมาเมื่อวาน) จังเลย  แต่ถ้าวันนี้ฉันยังไม่โผล่หน้าไปร้านข้าวหมูแดงล่ะก็.... เตคนดีจะต้องคิดว่าฉันยังหลบเขาอยู่แหง๋ ๆ T__T

     

     

                    เอาล่ะ เป็นไงเป็นกัน!!!!! (อดกินข้าวราดแกงก็ช่างมัน T___T)

     

     

     

                    ฉันเดินด้วยความมั่นใจเท่ากับ 0 ไปยังหน้าร้านข้าวหมูแดงเจ้าประจำ (ที่ชักไม่อยากประจำแล้ว) โดยพยายามไม่เหลียวซ้ายแลขวามากนักหากไม่จำเป็น เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเจอะขาประจำอีกคนหนึ่งเข้า ฉันคงไม่รู้จะทำหน้ายังไง..

     

                    "อ้าวปริม!" นั่นไง ToT ฉันรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องหันไปมอง ไม่ใช่ว่าฉันจำเสียงเตได้ขึ้นใจแล้วหรอกนะ แต่ผู้ชายที่จะทักฉันเนี่ย มันมีหลายคนซะที่ไหน! (รันทดเหลือเกินชีวิตสาวโสด)

     

                    "หวะ.. ว่าไง.. เต ^^;;;;" ฉันกลั้นใจฉีกยิ้มให้เขาอย่างที่ดูแหยที่สุดจนเตหัวเราะก๊าก.. เห้ย!! นี่ฉันกลายเป็นตัวตลกอีกแล้วเหรอเนี่ย!?

     

                    "ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ฮะ ๆๆ กินข้าวเหรอ" มาต่อแถวร้านข้าวหมูแดง กุจะกินก๋วยเตี๋ยวมั้ง -_-".. ฉันได้แต่ตอบในใจเงียบ ๆ ไม่กล้าส่งเสียงหรอก ทำได้จริง ๆ ก็คือพยักหน้ากลับไป แค่นั้นแหละ

     

                    แต่ดูเหมือนแค่มาทักทายฉัน เตคงยังไม่สาแก่ใจพอ เพราะตอนนี้เขาดันมาต่อคิวอยู่ข้างหลังฉันอีก!! ตายแหล่วววววววว แล้วแบบนี้ ไอ้ที่บรรดาฉันกับเพื่อน ๆ พากันวุ่นวายปฏิเสธเสียยกใหญ่เมื่อเช้า มันจะมีประโยชน์อะไรไหมเนี่ยยยยยยยยยยยยย ToT

     

                    ฉันยืนเหงื่อแตกพลั่กอยู่หน้าเตอย่างไร้ทางสู้ จะหนีไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว แต่ถ้าจะให้ยืนต่อ มีหวังความพยายามที่จะปฏิเสธข่าวลือนั่นของฉันคงเหลือเท่ากับ 0  แต่รู้อะไรไหม เตไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยยย!!! เขาพูดแค่คำว่า "ร้อนเหรอปริม" แล้วใช้นิ้วยาว ๆ ของเขามาปาดเหงื่อที่กำลังจะไหลเข้าตาของฉันออกให้!!! O.O".... น้องปริมช็อค!!!

     

                    เสียงฮือฮาดังมาจากที่ใดสักที่หนึ่งของโรงอาหารแทบจะทันที หรือมันอาจจะดังมาจากรอบทิศทางเลยก็ได้ ToT ทำเอาฉันสะดุ้งเฮือกด้วยความกลัว (โดนตบ) ต้องรีบเบี่ยงหน้าหนีจากมือข้างนั้นด่วนนน ทั้งที่ในใจจริง ๆ แล้วอะ ฉันตื่นเต้นเป็นบ้า >0<,,

     

                    ซึ่งดูเหมือนเตจะแปลกใจไม่น้อยที่ฉันมีปฏิกริยาหนีได้มากมายขนาดนั้น เอ่อ.. จะว่าไปฉันทำตัวเหมือนรังเกียจเขาเกินไปรึเปล่า -*- โอ่.. ไม่นะ.. อย่านะ... อย่าาาาาาา-- ทำหน้าหมาหงอยอย่างนั้นสิเต!!!! ฉันทนไม่ด้ายยยย ToT โอ่ยย ฉันแพ้ผู้ชายน่ารัก เห็นแล้วอยากกกกกก.. (อยากอะไร -*-)

     

                    "ขอโทษนะ ผมก็ลืมไปว่ามือผมมันไม่ค่อยสะอาด.." เตว่าพลางเม้มริมฝีปากบางของเขาเข้าหากันด้วยนัยน์ตาหมองลงไป.. จนฉันเกือบจะใจอ่อนอยู่แล้วเชียว ถ้าหากเขาไม่......... หยิบผ้าเช็ดหน้าสีเทาของเขาออกมาซับเหงื่อให้ฉันแทน!!!!!!!! OoO!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! น้องปริมช็อคยกกำลังสิบแปดฐานสี่!!!!!!!!!!!!

     

                    เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบโรงอาหารยิ่งกว่าเดิม ToT ให้ตายเถอะเต!! เธอหูหนวกหรือฉันหูดีเกินไปกันแน่!!!!!!!! T___T ฮือออ แบบนี้ที่พยายามอธิบายกับคนอื่นเสียจนปากเปียกปากแฉะไปเมื่อเช้าเนี่ยย ตกลงมันมีความหมายอะไรบ้างไหม ToT

     

     

                    ฉันฝืนฉีกยิ้มให้ดูจริงใจที่สุดกลับไปแล้วเบี่ยงหน้าหลบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเล็กน้อยพอให้เขารู้ว่า พอแล้วแหละ -_-;; พอที... เตยิ้มกว้างกลับมาให้ฉันเหมือนเด็ก ๆ ก่อนจะพับมันลงกระเป๋าเสื้อเหมือนเดิม แล้วก็ยังคงต่อแถวซื้อข้าวหมูแดงข้างหลังฉันไปเรื่อย ๆ

     

     

                    "หนูปริมกินอะไรดีจ้ะ"

                    "เอาข้าวหมูแดงกับหมูกรอบหนึ่งจาน แล้วก็ข้าวหมูกรอบล้วนหนึ่งจานครับป้า" อ้าวเฮ้ย!? นั่นมันไม่ใช่เสียงฉันนะ!! คือยังไม่ทั๊นนน ที่ฉันจะอ้าปากสั่งอะไรออกไป ก็มีอีกเสียงหนึ่งชิ่งสั่งแทนฉันเสียก่อน O.o เอ่อ....... อะไรกันอีกล่ะเนี่ยย

     

                    เตอมยิ้มให้ฉันอย่างที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันอยากจะได้ แล้วจัดแจงหยิบข้าวทั้งสองจานมาใส่ช้อนส้อมให้เสร็จสรรพ O.o??? ซึ่งแน่นอนว่าฉันยังคง งง อยู่ O.o????????

     

     

                    "มื้อนี้เลี้ยงไง" เขาตอบฉันที่ทำหน้าตาสงสัยออกมาอย่างปิดไม่มิด และฉันมั่นใจมาก ๆ ว่าตอนนี้คิ้วมันขมวดปมเป็นเงื่อนตายเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนไม่ว่าฉันจะพยายามคลายมันออกยังไง ฉันก็ยิ่งขมวดมันแน่นมากขึ้นเท่านั้น.. อึ่มมมมม อะไรกันเนี่ย??

     

                    เตเดินไปอีกทางก็นานแล้ว ส่วนฉันก็ยืนขมวดคิ้วค้างอยู่ตรงนี้นานแล้วเหมือนกัน จนยัยป่านมาตบกะโหลกเข้าให้โน่นแน่ะถึงได้รู้สึกตัว... เยี่ยมมาก ทีนี้ฉันจะทำยังไงต่อไปดีกับสายตาไม่ไว้ใจที่พุ่งมาจากทุกทิศทุกทางของโรงอาหาร

     

     

                    เอาชีวิตคนปกติของฉันคืนม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ToT

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

                    "เห้ย!!? เตเขาไม่สบายจนเพี้ยนป่าววะ" นี่คือความคิดเห็นแรกของยัยป่านทันทีที่ฉันเล่าให้มันฟังตั้งแต่ต้นยันจบ.. ขอบใจนะเพื่อนน การที่มีผู้ชายคนหนึ่งเขามาทำตัวแสนดีกับฉันเนี่ย มันจำเป็นต้องเพี้ยนด้วยเหรอฟะ!! -w-

     

                    "ไม่รู้" ฉันว่าพลางส่งข้าวหมูแดงของฟรีเข้าปากเป็นคำสุดท้ายก่อนจะรวบช้อนแล้วไหว้จานข้าวเสียหนึ่งที ตามที่คุณครูเคยสอนมาตั้งแต่สมัยอนุบาล  จะว่าไปนี่ตั้งแต่มีเรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้น ชีวิตฉันก็แลดูไก่กาอาราเล่ห์ไปเสียหมด ไม่ได้อยู่เป็นสุขเลยสักวินาทีเดียว ไม่เชื่อดูอย่างตอนนี้สิ... หน็อยแน่ะ ไอ้พวกรุ่นน้องม.ต้นตรงนั้น มันนั่งนินทาฉันกันอยู่ชัด ๆ

     

                    ฉันคาบหลอดน้ำมาดูดอย่างเซ็งในอารมณ์พลางกวาดสายตามองไปรอบอาณาบริเวณ.. ดูซิ พากันหลบตาฉันเป็นแถว นี่หมายความว่าฉันกำลังโดนนินทารอบทิศทางเป็นระบบเซอร์ราวด์เลยใช่ไหมเนี่ย -_-;;;

     

     

                    เอาล่ะน่า... คิดซะว่าเป็นโชคดีของฉันก็แล้วกันที่ถึงแม้จะหน้าตาไม่ดี แต่ยังอุตส่าห์กลายเป็นที่สนใจกับเขาได้ด้วย ก็เพิ่งจะเข้าใจหัวอกดาราตลกตอนวันนี้เอง ToT ทุกคนคงจะมองฉันเป็นแค่ตัวตลกที่นินทาได้สนุกปากเท่านั้น เพราะคนอย่างฉันมันไม่มีอะไรดีพอที่จะไปยืนอยู่ข้าง ๆ เตเลยนี่

     

     

                    ฉันเดินคอตกด้วยความคิดอันแสนรันทด บวกกับท่าทางสุดห่อเหี่ยวกลับไปยังตึกเรียน PA (Performing Art) ของเรา จนถึงตอนนี้ยัยป่านก็ยังคงท่องกลอนภาษาไทยไม่หยุด และดูเหมือนยัยนี่จะท่องได้แล้วสิ!! แล้วฉันล่ะ!!!! แค่กะจิตกะใจคิดจะท่องยังไม่มีเล๊ยย ToT

     

                   

                    'ปึก!'

                    'โครมมมม' โอ๊ยย---- ศอกใครน่ะมากระทุ้งฉันจนเจ็บสีข้างไปหมด แต่ฉันมีเวลาโอดครวญกับตัวเองไม่นานนักเมื่อข้าวของในมือของคนที่ (คาดว่าจะ) เดินมาชนฉัน เทกระจาดลงบนพื้นไปทั่วทางเดิน

     

                    อ้าว.. อย่างนี้พลเมืองดีอย่างฉันก็ต้องช่วยเขาเก็บซักหน่อยล่ะสิ ถึงแม้ว่าจะยังเจ็บอยู่ก็เถอะ T__T

     

     

                    "........" ฉันช่วยเธอคนนั้นเก็บของ และเช็คดูจนทั่วว่ายังมีอะไรหลงเหลืออยู่ที่พื้นอีกหรือเปล่า ทว่าน่าแปลกใจที่ฉันกลับไม่ได้ยินคำว่า 'ขอบคุณ' หลุดมาจากปากของคนตรงหน้าเลยสักคำ??

     

                    จนเมื่อฉันได้เงยหน้ามองดูบ้างนั่นแหละ จึงดูเหมือนจะเข้าใจอะไร ๆ ถ่องแท้ขึ้นมาทันที ในเมื่อคนตรงหน้าฉันคือ วิวี.. O.O!! แหม... รู้สึกเจ็บสีข้างแปลบขึ้นมาทันใดเลยฉัน พอคิดได้ว่าไอ้เมื่อกี้มันคงไม่ใช่อุบัติเหตุแน่ ๆ -*-

     

     

                    "เธอคบกับเตอยู่เหรอ" เสียงเรียบ ๆ ดังลอดจากริมฝีปากคู่สวยที่เคลือบลิปกลอสสีชมพูดูน่ากิน เอ๊ย!! น่าหลงไหล ของวิวี  ดีล่ะ!! ฉันจะได้ถือโอกาสปฏิเสธให้รู้ ๆ กันซักทีว่า.....

     

                    "ฉันกับเตไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ" ฮูเร่~~!!!! พูดออกไปแล้วววววว >0<,,,,, ทีนี้คนสวย (พอ ๆ กับมีนาของฉัน) จะได้เลิกขัดขา แล้วก็เลิกเอาศอกมากระแทกสีข้างฉันซักที! ฮึ่มมม

     

                    แต่วิวีกลับเหยียดริมฝีปากยิ้มให้ฉันอย่างที่ฉันเดาไม่ออก? นี่เขาเรียกว่ายิ้มหรือเปล่าอะ?? นี่คือเขาดีใจที่ได้ฟังคำตอบ หรือ เขาไม่เชื่อฉันกันล่ะเนี่ย -_-"...... การที่คนสวยเขายิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังไง -_-" คนไม่สวยเดาไม่ออกเลยแหะ --___--;;;;

     

     

                    "ก็ขอให้พูดแบบนี้ได้ตลอดก็แล้วกัน.." เธอว่าพร้อมกับเดินไปโดยที่ไม่มองฉันด้วยซ้ำ.. โอ่... นี่หรือวิถีแห่งคนสวย ดูเท่ห์ชะมัด >_<,,

     

                    "ท่ามากเป็นบ้า.." ไปว่าเค้าทำไมอะป่าน นี่ถ้าเกิดฉันสวยได้ขนาดเขานะ (ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว) ฉันจะท่ามากกว่านี้อีก (เพิ่มท่าหกสูงด้วยเป็นไง -- มุขไม่ฮาพากูเครียดนะ.. จากป่าน)

     

     

                    ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยว่าถ้าวิวีชอบเต จะมาใส่ใจฉันทำไม.. สวยขนาดวิวีน่ะนะ กินขาดฉันไปหลายขุมอยู่แล้ว

                    เฮ้ออ..

     

     

     

    -TBC-

     

     

     



    โอ่วววว์.. กว่าจะมาต่อได้ ลากเลือดมาก ๆ เพราะระบบใหม่ทำเรารวนไปหมดเลย -_-;; ถ้าใครได้คลิกมาอ่านเมื่อวานคงจะเห็นว่าก๊งมาก ๆ บรรทัดตีกันไปหมด ฮือ ๆๆ เสียใจ
    สุดท้ายเราพบว่า เรามันง่าวเอง เพราะปกติเราใช้พิมใน wordpad แล้วเอามาลง แต่ปรากดว่าพอลองก๊อบลง ms word ดู มันลงได้ไม่มีปัญหาเลยแหะ? อารายเนี่ยยย แบ่งชนชั้นนน แต่ก็ดีเหมือนกัน ใช้ ms word เลยได้มีย่อหน้ากะเค้าซักที อิอิอิ ^__^

    ขอโทษนะคะที่มาต่อช้า แบบว่าติดปัญหาเรื่องระบบจริง ๆ นา คราวหน้าจะพยายามมาต่อประมาณไม่วันอังคารก็วันเสาร์เหมือนเดิมนี่แหละค่ะ แต่จะพยายามมาภายในวันอังคารให้ได้นะ ><~

    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ คะแนนโหวต และการคลิกเป็นfav ด้วยค่ะ ^^ ดีใจจัง แต่อยากให้แสดงความเห็นกันเยอะ ๆ น้า แบบว่ามีกำลังใจดีอะค่ะ

    ไว้เจอกันตอนหน้า! ปริมทำเป็นปฏิเสธคนอื่นไปเถ๊อะ! แล้วจะได้รู้กัน 55555+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×