ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Surprising Love : สุดเซอร์ไพร์ส รักนี้มาได้ไงเนี่ย!?

    ลำดับตอนที่ #3 : 3rd Surprise : หนีสุดชีวิต >0

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 51


     

     

     

    CHAPTER 03.- หนีสุดชีวิต >0<"

     

     

     

                    (O.O)!!!!!!!!! นี่คือสีหน้าของยัยป่านเมื่อได้ยินเรื่องตอนกลางวันทั้งหมดที่ฉันเพิ่งได้ฤกษ์เล่าให้ฟังไปเมื่อกี้ แล้วให้ตายสิ เว่อร์จริง ๆ เล่นทำหน้าเหมือนกับได้ยินเรื่องผียังไงยังงั้น

     

                    "ทำไมแกเพิ่งมาบอกตอนนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" นั่นไง.. ยัยป่านโวยวายตามคาด  โอยย หนวกหู.. ว่าแต่ยัยนี่จะเสียงดังไปไหน ที่นี่หอพักนะยะ ไม่ใช่สนามฟุตบอล อยู่ก็อยู่กันแค่นี้เองแท้ ๆ ฮ่วย -_-"...

     

                    "ก็ถ้าบอกตอนอยู่โรงเรียนเลย แกก็ได้โวยวายให้คนเขารู้กันทั้งบางอีกน่ะสิ"

     

                    "ไม่ต้องมาอ้าง ถึงแกบอกตอนนี้ ฉันก็จะเอาไปพูดกันทั้งบางอยู่ดีแหละย่ะ!"

     

                    เอ่อะ.......... นี่หรือเพื่อนสนิทฉัน -*-.....

     

     

                   

     

                    หลังจากที่เราสองคนเงียบไปพักใหญ่เนื่องจากใช้ความคิด (จะใช้ทำไมเนี่ย เวลาคิดเลขยังไม่เห็นจะควักขึ้นมาใช้เลย) ฉันที่กำลังนั่งทำหน้าเซ็งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำลายความเงียบที่มีแต่เสียงแอร์หึ่ง ๆ ให้ได้ยินในห้องนอนนี้

     

                    "แล้วทำไมแกไม่ไปคุยกับเขาต่อให้จบล่ะ!!!!!!!!!!" อ๋าววว.. อินี่ นึกว่าจะจบแล้ว แต่ดันโวยวายเหมือนเป็นเรื่องของตัวเองซะงั้นเลยนะยะ แต่เออนั่นสิ.. พอมาลองคิด ๆ ดูแล้ว ทำไมฉันไม่คุยให้มันจบ ๆ ไปเลยนะ? หนีมาแล้วมันค้างคาใจน้อยอยู่ซะที่ไหนล่ะเนี่ย

     

                    "ไม่รู้เหมือนกัน -_- ... มันเขินอะ" ฉันแทบจะตบปากตัวเองที่ตอบไปด๊ายย พนันเหอะ เดี๋ยวจะต้องถูกด่า.....

     

                    "ยัยบ้าาา!!!" น่านน..... ทำไมซื้อหวยมันไม่ถูกยังงี้ว๊าาา -_-a

     

                    "แต่อย่างน้อยก็แสดงว่าเตเขารู้จักเธอเหมือนกันนะปริม" ในที่สุด ไอติมที่นั่งทาสีเล็บเงียบ ๆ อยู่บนพื้นมานานจึงได้โอกาสพูดบ้าง ทั้งที่ยังง่วนกับการแต่งสีเล็บเท้าของตัวเองอย่างขมักเขม้น เธอเป่ามันดัง พ้วงง แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาพูดต่อ

     

                    "แสดงว่าเขาคงได้ยินเรื่องนั้นมาเหมือนกัน"

     

                    "เรื่องมันดังขนาดนั้น ถ้าเจ้าตัวไม่รู้สิแปลก" ยัยป่านว่าพลางหยิบเอาหมอนข้างของฉันมาฟัดเล่น.. แล้วนี่ -_-" ทำไมต้องมาฟัดของฉันด้วยล่ะ มันเหี่ยวหมดแล้วเห็นม๊ายยยย

     

                    ฉันถอนหายใจโฮกใหญ่เพราะไม่รู้จะทำยังไงดี พลางกดมือขวาลงบนเม้าส์คอมพิวเตอร์ตรงหน้าไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ

     

                    "ไหนแกลองเข้าเวบบอร์ดโรงเรียนดูดิ๊" แน่ะ.. เห็นยัยป่านทำตาเป็นประกายแบบนั้นแล้ว ฉันก็รู้ทันทีว่ายัยนี่กำลังเห็นเรื่องของฉันเป็นเรื่องสนุกอยู่ใช่ไหมยะ -_-^^ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ยกมือมาพิมพ์อะไรลงไป มันก็กระโดดพรวดเดียวมาถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว

     

                    "จะดีเหรอ" ไอติมท้วงขึ้น แต่ก็เดินมาดูด้วย -_-" เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันเนี่ยเพื่อนฉันแต่ละคน

     

     

                    ทันทีที่หน้าเวบโหลดเสร็จ ฉันก็อึ้ง อึ้ง อึ้ง ทันที.................................

     

     

                    เตทำไมทำอย่างนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! - Red Earth [12/67] [05/06/2007]

                    ปริมนี่ใคร ไม่เห็นรู้จักเลย แล้วคบกับพี่เตได้ไงอะ อยากรู้มั่ก - เด็กอยากรู้ [9/70] [05/06/2007]

                    คิดยังไงกับคู่พี่เตกับพี่ปริม - poll [87/350] [05/06/2007]

                    ไม่เห็นจะเหมือนแฟนกันตรงไหนเลยพี่เตกับพี่ปริมอะ - ไม่เชื่อ [31/200] [05/06/2007]

                    ปริมมันทำเสน่ห์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! - รู้จริง [24/879] [05/06/2007]

     

     

                    และอีกมากมาย....................... -_-" อะไรกันเหนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่เรื่องมันกลายเป็น Talk of the Town ไปตั้งแต่เมื่อไหร่!? แล้วฉันกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้านตั้งแต่ตอนไหน!!!!!!!?? เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย ช่วยด้วยยยยยย ToT

     

     

                    "โห....... ดุเดือดกันน่าดู" ยังจะมีหน้ามาทึ่งอีกนะไอ้ป่านนนนนนนนนนนน เพื่อนแกโดนคนเขาสาปแช่งกันทั้งโรงเรียนแล้วยังทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองรึไงฟะ!!!

     

                    "น่ากลัวมีคนเอาน้ำกรดมาสาดหน้ายัยปริมเหมือนกันนะเนี่ย" พอเถอะไอติมมมมมมม แค่นี้ชีวิตฉันยังเน่าไม่พออีกหรือไง Y_Y แล้วถ้ามีคนอุตริทำแบบนั้นจริง ๆ หน้าที่มันไม่สวยอยู่แล้วของฉัน ไม่ยิ่งอุบาทว์เข้าไปใหญ่รึไงเนี่ย ToT

     

     

                    ฉันค่อย ๆ คลิกอ่านทีละหัวข้อ ซึ่งกว่าจะอ่านจบก็เล่นเอาตาลายได้เหมือนกัน มีข้อความด่าฉันนับสิบ แถมยังไม่มีใครเห็นดีด้วยเลยกับข่าวนี้ (แหง๋ล่ะ ฉันก็ไม่ได้เห็นว่าดีด้วยเหมือนกัน) จะมีคนเถียงกลับไปบ้างเวลาฉันโดนด่าแรง ๆ ก็เพื่อนฉันนี่แหละ แหม.. แอบไปทำสงครามอยู่ในอินเตอร์เนทกันก็ไม่บอก เฮ้ออ.. กลายเป็นว่าลำบากกันไปหมดเลย Y_Y

                   

                    ว่าแต่สิ่งที่ฉันสงสัยก็ยังไม่มีใครคลี่คลายคำตอบให้ได้ซักที....

     

                    "ข่าวนี้มันเริ่มมาจากไหนอะ" ฉันถามโพล่งออกไปหลังจากอ่านกระทู้ได้ถึงหัวข้อที่ 20 กว่า ๆ และรู้สึกล้าสายตาเต็มที  แต่ก็ดูเหมือนว่าคำถามนี้จะยังคงเป็นปริศนาดำมืดอยู่

     

                    "เออ.. ไม่รู้หวะ" ไอ้ป่านว่าพลางเกาหัวแกรก แถมหันไปขอความเห็นจากไอติมที่ยืนทำตาโตอยู่ข้าง ๆ

     

                    "เห้ย ไม่รู้เหมือนกัน ๆ" ไอติมสะบัดหัวพรืดจนผมแกละที่เธอมัดไว้สองข้างหมุนฟิ้วไปมา แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอก (แล้วไปสังเกตทำไมนักหนา)

     

                    "พอดีมีรุ่นน้องสายศิลปะเข้ามาถามอะ ฉันเลยรู้"

     

                    "เออ ของฉันก็ได้ยินพวกเด็กสายฝรั่งเศสพูด ก็เลยรู้เหมือนกัน" อ้าว... ยังไงกันล่ะเนี่ย สรุปว่าแหล่งที่มาของมันมาจากไหนกันแน่ ฟังแล้วดูพิลึกกึกกือดีแท้

     

                    "........................................................."

     

                    หลังจากที่พวกเราเงียบเพื่อระลึกชาติกันอยู่พักใหญ่ คนที่มีความอดทนน้อยที่สุดในที่นี้ก็โวยวายขึ้น

     

                    "โว้ยยยยยยยยยย คิดไม่ออกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" ยัยป่านนั่นเอง -_-"

     

     

                    "นี่.. แต่ฉันว่านะ ข่าวลืออะ มันก็ต้องมีคนปล่อยใช่ปะ" ไอติมผู้ที่ดูมีสติมากที่สุดในห้องสี่เหลี่ยมห้องนี้พูดขึ้น ทำให้ฉันและป่านต้องหยุดฟุ้งซ่านและตั้งใจฟังทันที อืมมม์..

     

                    "เราไม่รู้ว่าใครปล่อย แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่พวกเรา" ไอติมยังคงพูดต่อพร้อมกับชี้หน้าฉันและป่าน ซึ่งแน่นอนว่าเราสองคนส่ายหัวพรืดดด.. ใครจะบ้าหาเรื่องใส่ตัวอย่างนั้นเล่า!!

     

                    "แต่ระวังเหอะ เตจะคิดว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าวซะเอง" นิ้วเรียวยาวของไอติมมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันเสียอย่างนั้น!  อ้าววววว พูดงี้ได้ไงอะไอติม!!!!!!! ฉันโวยวายทันที่ทีเธอพูดจบ

     

                    "ตลก!!!!!!!!!!! ฉันเนี่ยนะะะะะะ!! ปล่อยข่าว!!!!!!!!!!!!!!!!" ขอโวยมั่งเหอะ เดี๋ยวจะหาว่าเสียชื่อที่เป็นเพื่อนยัยป่านจอมโวยวายหมด แต่ไอติมรีบโบกมือปฏิเสธฉันเป็นพัลวัน ทำเอาต้องหยุดฟังแต่โดยดี

     

                    "ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ทำ แต่เตจะรู้ด้วยเหรอ เขาออกจะป๊อบขนาดนั้น จะแอบคิดรึเปล่าก็ไม่รู้ว่าที่แท้เธอกรี๊ดกร๊าดเขา แล้วก็ปล่อยข่าวไปทั่วโรงเรียนซะเองว่าตัวเองเป็นแฟนเขา จริงปะล่ะ!" เออ... ที่ไอติมพูดมันก็น่าคิด  จนฉันฟังจบแล้วเกิดอาการเซ็งขึ้นมาทันที

     

                    "ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วทำไงดีอ่า Y__Y"

     

                    "ไม่รู้สิ" ไอติมว่าพลางสะบัดสองแกละของเธอไปมาอีกรอบ ก่อนจะก้มลงมองนิ้วเท้าพลางขยับมันขึ้นลงเล็กน้อย "สีเล็บฉันแห้งแล้ว กลับห้องก่อนนะ ไม่ต้องเครียดล่ะ อิอิ"

     

     

                    ยัยไอติมมมมมมมมมมมมม มาปล่อยระเบิดไว้แล้วก็ทิ้งฉันปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฮือ ๆๆ แล้วฉันจะมีหน้าไปสู้เตได้ยังไงล่ะ ถ้าเกิดเขาคิดอย่างที่เธอว่าจริง ๆ น่ะ!!!!! ToT โฮ...

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

                    ตอนเช้าที่สดใส.. คนอื่นอาจจะบอกว่าอย่างนั้นอะนะ แต่สำหรับฉันมันแย่สิ้นดี --____--^^^ คิดไปเองหรือเปล่าเนี่ยว่าทุกคนกำลังมองฉันที่เดินต๊อก ๆๆ ตัวลีบเป็นแผ่นกระดาษอยู่ตรงนี้ ฮือ ๆ   รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเลย เกิดมาไม่เคยเป็นจุดสนใจขนาดนี้มาก่อน ขนจมูกแล่บรึเปล่านะเรา แล้วยังมีขี้ตาอยู่รึเปล่า ฮือออออออออออออ รู้งี้น่าจะรอยัยป่านแล้วออกมาพร้อมกันก็คงดี T______T

     

                    ฉันข่มใจเดินไปเรื่อย ๆ ส่วนในใจก็ท่องแต่ว่า 'ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ' สติจะได้ไม่ว้อกแว้ก (จริง ๆ มันกระเจิงไปนานแล้วแหละ) แต่แล้วก็มีเสียงวี้ดว้ายดังขึ้นไม่ไกลนักจากด้านหลังฉัน เห้ยอะไรกัน! คนกำลังทำสมาธิอยู่ ปัดธ่อออออ~

     

                    ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เริ่มต้นนับก้าวเดินใหม่แต่อย่างใด เมื่อหางตามันเหลือบไปเห็น................... เต!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

                    ชิกหายแล๊ววววววววววววววววววววว!!!! มาเดินข้างตูตั้งแต่เมื่อไหร่ !!! ToT

     

     

                    ฉันเหลือบตามองคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ... คือมันก็ไม่เชิงข้าง ๆ หรอกนะ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่เราไม่ได้ห่างกันสักเท่าไหร่เลยนี่สิถ้าเทียบกับพื้นที่ว่างของถนนแล้ว.... คือ ดูเผิน ๆ อย่างนี้เหมือนกับเดินมาด้วยกันอย่างบอกไม่ถูก -_-"

     

                    อ๋าววววววววว แล้วจะยิ้มให้ฉันอีกทำไมล่ะค๊าาพ่อเต๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! -*-

     

     

                    ฉันตัดสินใจฝืนยิ้มแห้ง ๆ ตอบกลับไปตามมารยาท และดูท่าว่าผู้ชายตัวสูงกว่าฉันที่เดินอยู่ไม่ไกลนี้กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง จนฉันต้องมองดูริมฝีปากบาง ๆ สีชมพูอมส้มนั่นอย่างหลงไหล.. ก็มันเป็นริมฝีปากคู่ที่ยิ้มแล้วน่ามองที่สุดเลยนี่นา >__<

     

                    ว่าแต่เขาจะพูดอะไร!!??

     

                    เขาจะหาว่าฉันเป็นคนปล่อยข่าวลือบ้า ๆ นี่รึเปล่า!!!!!!!!!?

     

     

                    โอ้ ไม่นะ!!!!!!!!!!!!!!! ToT

     

     

                    พอคิดได้เช่นนั้นแล้วฉันจึงหักเลี้ยวหนีอย่างว่องไวทันที หลบไปทางสวนพฤกษาของพวกห้อง 13 (สายเกษตรกรรม) ดีกว่า ถึงทางมันจะอ้อมไกลและลำบากนิดหน่อย ก็คงยังดีกว่าต้องถูกมองอย่างดูถูกแหละฟะ T__T

     

                    เมื่อไหร่ชีวิตฉันจะกลับไปสงบสุขซักที! ToT

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

     

              "แล้วแกก็หนีเรอะ!!" เสียงประสานกันของเพื่อนกว่า 20 ชีวิตที่ได้ฟังเรื่องนี้ดังขึ้นจนแก้วหูฉันระบม.. อะไรเนี่ยย แค่นี้ก็ต้องมาทำเสียงดังใส่กันด้วย ฉันล่ะไม่เข้าใจพวกนี้เลยจริง ๆ.. อูยย ขี้หูเต้นแจ๊สแด๊นซ์

     

                    "ก็ถ้าเขาเดินมาพูดว่า 'เธอใช่ไหมที่ปล่อยข่าวลือบ้า ๆ' แล้วบีบคอฉัน ฉันจะทำยังไงเล่าา!!! ฉันไม่อยากตายแบบหน้าเขียวนะ!!!!!!!!" ได้ทีแล้วก็ขอฉันโวยวายบ้างได้ไหมล่ะ หึ.. พวกแกน่ะไม่เข้าใจความรู้สึกหวาดกลัวจับจิตของฉันว่ามันล้ำลึกขนาดไหนหรอก!! แค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ฉันก็ระแวงจนใกล้บ้าแล้วนะเว่ย!!!

     

                    "เออ ฉันก็ว่าแกบ้าแล้วจริง ๆ แหละ" เห้ย!? ไอ้พริ้มมันอ่านใจฉันออกได้ยังไง ฉันจ้องมันตาเป๋ง แต่มันกลับทำหน้าระอาใส่ฉันสุดขีดพร้อมกับส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ

     

                    นี่อย่ามาทำเหมือนเห็นฉันเป็นเด็ก ๆ นะ!!!!!!!!!! >0<!!

     

                    "ฉันว่าแกต้องย้ายไปเรียนห้อง 15 (สายวรรณกรรมไทย) แล้วหวะ" หน็อยแน่ะไอ้มิ้ม แกมาหาว่าฉันเพ้อเจ้องั้นเรอะ!! เดี๋ยวแม่ทุบหัวให้ตัวหดยิ่งกว่าเดิมเลยนิ๊!!

     

                    "พวกแกอะ!!" สุดท้าย เมื่อเถียงไม่ได้ ฉันก็ได้แต่พูดแค่นี้แหละ -_-" จะอะไรกันนักหนาเนี่ย พวกนี้

     

     

                    "ว่าแต่ ฉันอยากรู้ว่ะ ว่าเตมันอยากพูดอะไรกับปริม..." ปุ้ยเป็นคนสุดท้ายที่ปิดประเด็นอย่างน่าคิด............ นั่นสิ..

     

     

                    เตอยากพูดอะไรงั้นเหรอ?.....

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

                    'ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด' เสียงที่เปรียบดั่งสวรรค์เพรียกน้อย ๆ ดังขึ้นท้ายคาบทฤษฏีการเต้นอันน่าเบื่อของ อ.ชิตชัย ราวกับจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า ฉันไม่ต้องทนเบิ่งลูกกะตามองดูกระดานอีกต่อไปแล้ว! เย้!!

     

                    ฉันบิดขี้เกียจตัวยาวเมื่อคล้อยหลังอาจารย์ทันที ก่อนจะคว้าแก้วน้ำของตัวเองหมับ หมายมาดว่าจะออกไปกดน้ำจากตู้น้ำเย็นตรงบันไดให้ได้ หลังจากที่รับฝากแก้วมาจากยัยป่านแล้ว ฉันก็เลื่อนบานประตูห้องเรียนออกเพื่อที่จะพบกับ....................... O.o

     

     

                    ห้องเรียนสายวิทย์อยู่อีกตึกหนึ่งไม่ใช่เหรอ!? ฉันคิดอย่างร้อนรนก่อนจะวิ่งกลับมาที่โต๊ะเรียนของตัวเอง

     

     

                    "ไหนอะน้ามม" ยัยป่านยังมีหน้าเงยหัวมาถามฉันได้อย่างโคตรขี้เกียจ เดี๋ยวเหอะ นอนมากชาติหน้าแกได้เกิดเป็นงูแน่ ๆ แต่ก่อนเป็นงูแกต้องช่วยฉันก่อนน้าาาา ToT

     

                    "ป่านนนน ToT" ฉันทำหน้าอ้อนวอนที่สุดในชีวิตเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่ยัยโฟนซึ่งเพิ่งเดินอาด ๆ ไปกดน้ำมา จะรีบวิ่งตาเหลือกกลับห้องเรียนอย่างกับเห็นผี.. ผีตัวเดียวกับที่ฉันเห็นแน่ ๆ -*-

     

                "เห้ย!!!!!!!!!! เตอยู่หน้าห้อง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เท่านั้นแหละ ทำเอาทุกคนตาสว่างยิ่งกว่าเทน้ำราดเสียอีก เมื่อเพื่อน ๆ ที่เหลือ พากันลุกฮือขึ้นมามองเสียยกใหญ่

     

                    "มาทำไมวะ ๆๆ" มิ้มร้องเสียงแหลมอย่างตื่นเต้นพลางวิ่งไปรอบห้อง ส่วนเพื่อนคนอื่นพากันแต่งหน้าทำผมเป็นการใหญ่.. เห้ย ให้มันน้อย ๆ หน่อยซี่!! พวกแกนิ่ -_-^^

     

                    "ป่านไปเติมน้ำน้าาาาาาาาาาาาาาา" ฉันรีบโยนหน้าที่ที่เพิ่งรับมาเมื่อกี้กลับไปให้ป่านทันที ทำเอาเจ้าตัวที่กำลังบรรจงหวีผมอยู่หันมาค้อนขวับ "ทำไมล่ะ!!!"

     

                    "ก็.............................." ฉันอึกอัก จะถามทำไมล่ะวะ ก็รู้ ๆ กันอยู่!

     

                    "อ๋อ.. เข้าใจละ! โอเค ฉันไปเอง อิอิอิ" แหม... ทีอย่างนี้ล่ะขยันเชียวนะยะ หึ! ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยเพื่อนบ้า -*-

     

     

     

     

     

                    เพียงแค่ป่านก้าวขาออกจากประตูห้องเรียน 5/17 ก็ดูเหมือนว่าเตจะสะดุ้งทันที  เขารีบเงยหน้ามองผู้ที่เดินออกมาจากห้องราวกับกำลังรอใครสักคนอยู่ แต่ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ดูเหนื่อยบาง ๆ แทนเมื่อพบว่าคนที่ออกมานั้นไม่ใช่คนที่เขารอ

     

                    ป่านลอบมองพฤติกรรมนั้นอย่างสงสัย แต่ก็ยักไหล่ให้ตัวเอง  เธอเดินผ่านหน้าเตไปยังเครื่องกดน้ำเย็น โดยไม่ลืมที่จะกดให้แก้วสีส้มของปริมด้วย

     

                    "เอ่อ.... ปริมฝากมากดน้ำเหรอครับ" เสียงผู้ชายที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาเธอผวาเฮือก! เตกำลังถามเธออยู่ >///<

     

                    "ค... ค่ะ...... รู้ได้ไงอะ" ป่านถามกลับไปทั้งที่ยังอึ้งอยู่.. แต่ที่อึ้งอยู่นี่คนละเรื่องกับตกใจที่เตรู้นะ อึ้งที่ได้เห็นคนหล่อใกล้ขนาดนี้ต่างหาก >__<,,

     

                    "ก็เห็นเขียนชื่อไว้ที่แก้วอะครับ.." เขาตอบเธออย่างหงอย ๆ และเมื่อป่านชูแก้วสีส้มในมือขึ้นดูก็พบว่ายัยปริมใช้ปากกาเมจิกสีดำเขียนคำว่า 'Prim' ไว้ข้างแก้วจริง ๆ ด้วย หมอนี่ตาดีแหะ..

     

                    "เขากลัวผมเหรอ" อันนี้ป่านชักไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นคำถามที่เธอต้องตอบ หรือเป็นคำที่ผู้ชายคนนี้บ่นกับตัวเองเฉย ๆ ? เธอรู้แต่ว่าใบหน้าของเตตอนนี้ ที่นัยน์ตาลูกกลม ๆ สีดำนั้นดูหงอยเหงา ปลายคิ้วตก และริมฝีปากเม้มบาง มันช่างน่าปลอบใจซะเหลือเกินนนนนนนนนนนนนนนน >3<,,,,

     

                    แต่ยังไม่ทันที่สาวเจ้าจะได้ปลอบประโลมเรียกขวัญพ่อหนุ่มน่ากรี๊ดแห่งโรงเรียน เขาก็เดินคอตกลงตึกไปเรียบร้อยเสียก่อนแล้ว..... โธ่!! ยัยปริมหนอยัยปริม! เตเขาออกจะดูอ่อนโยนไร้เดียงสาขนาดนี้แล้ว แกยั๊งงง จะกลัวเขามาบีบคอได้ลงอีกเนอะ!!

     

     

     

                    'ครืดดดดดดดด' เสียงลากประตูเปิดซะไม่กลัวประตูพังแบบนี้ ไอ้ป่านแน่ ๆ เพราะไอ้ปุ้ยยังคงลบกระดานหน้าห้องอยู่ (ไม่งั้นจะต้องเดาว่าเป็นใครดี) ฉันเหลือบมองเพื่อนรักที่เดินหน้าบานนนนเป็นจานดาวเทียมเข้ามาอย่างหมั่นไส้นิด ๆ

     

                    "อะไร ไปกดน้ำแค่นี้ ทำหน้าอย่างกับเพิ่งดูคอนเสิร์ตเรนจบ" ฉันแขวะเข้าให้ ทำเอายัยป่านโขกหัวฉันด้วยแก้วน้ำเย็นดังโป๊ก! โอ๊ย ยัยบ้า!!!! สมองเสื่อมขึ้นมาแกจะลอกการบ้านใคร!! (แน่ใจเหรอปริมว่าให้เขาลอกได้น่ะ.......)

     

                    "เตคุยกับฉันด้วย!!!!" อะไรนะ!!!!! แกออกไปกดน้ำแค่นี้ถึงกับตีท้ายครัวฉันเลยเหรอ!!!!!!!!!! เห้ยไม่ใช่! ลืมไปเลยว่าเตไม่ใช่แฟนฉัน ฮ่า ๆๆ ว่าแต่เตคุยอะไรกับยัยป่านน่ะ!!!!!!! O.o

     

                    "อะไร ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เพื่อนทุกคนพากันกรูมาจากรอบทิศทางทันที ทำเอายัยป่านเชิดหน้าราวกับเป็นเจ้าหญิงแห่งโลกใบนี้ -_-;; เอาเถอะจ้าา แม่คู๊ณณ

     

                    "เตคุยกับชั้น!!!!!!" แน้... มีการทำเสียงเย้ยหยันย้ำให้ฟังอีกรอบ มันน่าาาา ดีดกะโหลกนัก แต่ความอยากรู้ยังมีอยู่มากกว่า เลยต้องทนฟังไปก่อน

     

                    "คุยว่าไร ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เป็นมีนานั่นเองที่เขย่าแขนยัยป่านจนตัวโยน โห.. ไม่ยักรู้ว่าสาวสวยอย่างมีนาที่ไม่เคยแยแสผู้ชายหน้าไหนมาก่อน ก็แอบสนใจนายเตกับเขาด้วย!?

     

                    "ก็คุยว่า....................................."

     

                    หึ้ยยยยยย จะเว้นทำไม!! อยากรู้จะแย่แล้ว!!!!!!!!!!!!! >[]<!!

     

     

                    "ว่า.................................... ฉันมากดน้ำแทนปริมเหรอ เขารู้เพราะอิปริมมันโง่เขียนชื่อไว้ข้างแก้ว แถมเขายังคิดว่ามันกลัวเขาอีก จบ!!" ยัยป่านว่าเป็นชุดทำเอาฉันเหวอไปเลย เห้ย! ตกลงนี่เขามารอฉันจริงอะ!? คิดจะตามบีบคอฉันให้ได้เลยใช่ม๊ายยยยยยยยย ToT

     

     

                    จะว่าไปวันนี้ฉันก็วิ่งหลบเขาทั้งวันเลยนะ ตั้งแต่ตอนเช้าที่เราบังเอิญ (?) มาพร้อมกันแล้วฉันหนีไปทางสวนพฤกษาแทนที่จะเดินถนนไปตึกเรียนแบบที่คนธรรมดาเขาเดินกัน แล้วก็ยังตอนกลางวันอีกที่ฉันไม่ไปกินข้าวที่ร้านหมูแดงทั้งที่ปกติฉันไปทุกวัน แล้วก็ยังเมื่อกี้อีกที่เขามารอฉัน (ตกลงมารอฉันจริงอะ?) แล้วฉันก็ไม่ยอมออกไปให้ได้

     

                    ถึงตอนนี้เพื่อน ๆ จะออกความเห็น จะพูดกันยังไงฉันก็ไม่ฟังแล้วววววว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเตจะอยากคุยอะไรดี ๆ กับฉันจริง ๆ อย่างที่บรรดาเพื่อนของฉันหวัง เพราะฉันรู้ดีว่าเตต้องมาฆ่าฉันแน่ ๆ โทษฐานเป็นตัวการทำให้เขาเสียหาย!!

     

                    เอ๊ะ! อะไรนะ? ฉันรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ.................

     

                    อืมมม....................

     

                    ฉันรู้ก็เพราะฉันรู้ยังไงล่ะ!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

     

    -TBC-

     

     

     




    อ่าจ้ะ.. มาอัพแล้ว และด้วยความพารานอยของปริม ก็เลยทำให้เตเข้าไม่ถึงซักที -*- ง่า..
    อย่าเพิ่งเบื่อกันนะจ้ะ รับรองตอนหน้าปริมหนีไม่พ้นแน่นอน อิอิอิ

    ยังไงจะพยายามอัพตอนหน้าไม่เกินวันจันตอนเที่ยงค่ะ (หรืออาจจะซักอาทิตย์ค่ำ ๆ เนอะ)
    เดี๋ยวดูฤกษ์ยามก่อนนะ แต่ไม่ค่อยมีคนอ่านเลย T__T สงสัยเป็นเพราะพระเอกเรื่องนี้ไม่ค่อยพูด (555)
    ใครหลงมาอ่านก็คอมเม้นให้กำลังใจกันหน่อยเนอะ ชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็บอกได้ ยินดีรับฟังซำเหมอค่า ^__^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×