ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Surprising Love : สุดเซอร์ไพร์ส รักนี้มาได้ไงเนี่ย!?

    ลำดับตอนที่ #2 : 2nd Surprise : เกือบไป..

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 51


     

     

    CHAPTER 02.- เกือบไป..

     

     

     

                    สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ปริม หรือ ปริณทิพย์ เนตรนที หรือ อีปริม อีปลิ้น อีปลิง อี ฯลฯ ของเพื่อน ๆ (แล้วแต่มันจะเรียก เถียงก็ไม่ได้ -_-") ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียน นิชาอุดมศึกษา หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า นัส (NUS) เป็นโรงเรียนที่ฉันภาคภูมิใจมาก ๆ เพราะทางโรงเรียนสนับสนุนทุกความสนใจของนักเรียนเลยล่ะค่ะ อย่างฉันที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ยังไม่แก่นะ!) ห้อง 17 (โรงเรียนเรามีถึงห้อง 24 โน่นนนแน่ะ) ประจำอยู่สายนาฏศิลป์สากล ซึ่งเป็นความสนใจของฉันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ  รวมถึงเพื่อนร่วมห้องทุกคนก็มีอุดมการณ์เดียวกันทั้งนั้น ^^ นี่เป็นสาเหตุให้พวกเราทั้ง 25 คนสนิทกันมากยังไงล่ะคะ ^^

                   

                    ส่วนลักษณะของฉันน่ะเหรอ.. ฉันน่ะ เป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ (ก็สูงแค่ 168 เอ๊งงง... 555) ที่แขนขาออกจะดูเก้งก้างไปสักหน่อย ผมของฉันก็ไม่ได้ยาวสลวยเหมือนกับที่เห็นนางแบบในทีวีเขาเป็นกันหรอกนะ ออกจะดูเป็นผมยาวที่ไม่ค่อยยาวเสียด้วยซ้ำ แถมฉันยังเป็นเด็กผู้หญิงที่ธรรมดาที่สุดในหมู่เด็กผู้หญิงธรรมดาด้วยกัน ฉันไม่ได้สวยจัดเหมือนยัยมีนา ไม่ได้เรียนเก่งเหมือนนลิน ไม่ได้ห้าวหาญเหมือนไอ้ปุ้ย ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษทั้งนั้นแหละ แล้วฉันก็พอใจกับชีวิตธรรมดา ๆ ของฉันมากโขอยู่

     

                    เพียงแต่ตอนนี้ มันชักจะมีเรื่องไม่ธรรมดาเข้ามาในชีวิตฉันแล้วน่ะสิ - .. -

     

     

     

                    อย่างที่คุณได้อ่านไปในตอนแรกนั่นแหละ.. ฉันจะขอบอกตรงนี้อีกทีเลยนะว่า เรื่องเมื่อเช้าก่อนเข้าเรียนที่เพื่อน ๆ พูดถึงน่ะ ฉันไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ !! จะเอาฉันไปสาบานกับพระประทานพรประจำโรงเรียนตอนนี้เลยก็ได้!! โดยเฉพาะกับนายเตคนนั้นน่ะ ฉันไม่เคยไปรู้จักมักจี่กับเขาแม้แต่นิดเดียวจริง ๆ !!

     

                    ก็แหม.. อย่างเขาน่ะเป็นถึงที่หมายปองของทุกคนในโรงเรียนเสียขนาดนั้น แถมยังเรียนอยู่ห้อง 1 !!! ห้องนั้นน่ะ ห้องสายวิทย์-คณิต ห้องคิงส์เชียวนะคุณ!! อนาคตไม่หมอก็วิศวะแหง๋ ๆ คนนั้นน่ะ คนละโลกกับเด็กนาฏศิลป์สากล เต้นกินรำกินอย่างฉันโดยสิ้นเชิง - .. -

     

                    แถมโรงเรียนเราก็กว้างอย่างกับอะไรดี -_-" มีนักเรียนตั้งสี่พันกว่าคนเข้าไปแล้ว ถึงทุกคนจะอยู่หอพักที่ทางโรงเรียนจัดให้ก็เถอะ ใช่ว่าจะทำให้ฉันได้เข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นมากขึ้นสักหน่อย ซึ่งถ้าจะให้ลองคิดดูน่ะนะ ช่วงเวลาที่ฉันเคยอยู่ใกล้เขามากที่สุดก็เป็นคงตอนที่ไปเบียดเสียดแย่งกันซื้อข้าวหมูแดงร้านป้าแจ่มเจ้าอร่อยในโรงอาหารล่ะมั้ง.. จะว่าไปฉันก็เบียดกับเขาเกือบทุกพักกลางวันนะ อืมมม........

     

                    แต่ก็ไม่ได้คุยกันซักหน่อยนิ่ -_-" เขารู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่บนโลกนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย

                    ป่านนี้เขาก็คง งง เป็นกาละแมตาแตกแล้วมั้ง (ไก่จ้ะไก่) ว่าอยู่ดี ๆ มามีข่าวลือกับยัยนี่ได้ไง รู้จักยังไม่รู้จัก ฮ่า ๆๆๆ

     

                    --___--" ช่างเป็นผู้ชายที่น่าสงสารเสียจริง ๆ

     

     

     

                    "ปริณทิพย์เธอเหม่ออะไรน่ะ!!!!" และแล้วเสียงอันเฉียบขาดของอ.นีรนารถก็ดังแหวขึ้นไม่ไกลนักจากตัวฉันเลย เอ่อ.. พูดง่าย ๆ เธอมายืนอยู่ข้างหลังฉัน T__T แล้วฉันก็เพิ่งพบว่า ไอ้ขาเจ้ากรรมของฉันมันดันยังพาดอยู่บนบาร์ ทั้งที่เพื่อนคนอื่นเขาเปลี่ยนท่ากันไปนานโขแล้ว T___T ฮืออ ตายแน่ฉัน ตายแน่ แน่ ฮืออออออออออ ........ .. . ....

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

     

                    "แหม..... ทำไปได้นะปริม เหม่อในคาบ practice ของ อ.นีรนารถ เนี่ย" ไอ้ปุ้ยว่าด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ชัดว่าเห็นเรื่องของฉันเป็นเรื่องตลก พลางยกเท้าขึ้นมาถอดรองเท้าบัลเล่ต์สีฟ้าหม่นของมันออก แหม.. ไม่ยกให้สูงอีกนิดล่ะ จะได้เสยคางกันไปเลยเป็นไง

     

                    "มันเหม่อคิดถึงแฟนมันนนนนนนนน" แถมยังไม่เลิกแซวกันอีกนะอีพวกนี้ ฉันหันไปส่งสายตาสีเขียวปั๊ดดด (แอบคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกเรื่องกาษานาคา) ใส่ยัยพริ้มตัวดีที่เป็นต้นเสียง แล้วดูสิ ไอ้เพื่อนเวรคนอื่นยังไม่วายส่งเสียงแซวต่อกันเป็นทอด ๆ อย่างกับหมาเวลามันหอนรับกันยังไงยังงั้น โธ่เว้ย!! ฝากไว้ก่อนเห๊อะ!!!

     

                    ฉันชักสีหน้าใส่พวกมันทั้งหมดแล้วกระฟัดกระเฟียดปล้ำถอดรองเท้าบัลเล่ต์สีส้มอ่อนของตัวเองออกทันที ยิ่งเรียกเสียงเฮจากเพื่อน ๆ ได้ยกใหญ่ที่ฉันมีปฏิกริยาตอบสนองกับเรื่องแบบนี้ แหม่เว้ย!! สนุกมากไหมล่ะ!! มันน่าาาาาาาาาาาาาาารักกันเสียจริง ๆ เพื่อนฉัน

     

                    "แกไม่ดีใจเหรอ เตน่ะหล่อนะเว้ยย" ไอ้ป่านว่าพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่ฉันพลางพิงตัวลงกับล็อคเกอร์ของปีใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับล็อคเกอร์ของฉัน แต่ก็โดนปีใหม่ดันให้หลบไปเสียก่อน เพราะต้องเปิดล็อคเกอร์เก็บของเหมือนกัน

                    "ใช่ ๆๆ เป็นชั้นนะ! จะเออออห่อหมกซะเลย อิอิ อยู่ดี ๆ ก็ได้เป็นแฟนเต ส้มหล่นยิ่งกว่าถูกหวยอีกนะแก!" เป็นยัยปีใหม่นั่นแหละที่พูดขึ้นหลังจากที่เก็บรองเท้าเข้าล็อกเกอร์แล้ว ฉันได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบเสียงสีหน้าเพ้อฝันและเสียงหัวเราะอิ๊อ๊ะนั่นอย่างดีใจด้วยไม่ออก

     

                    ลองมาเป็นฉันดูจริง ๆ สิ ไอ้พวกบ้า --___--"

     

     

                    ฉันส่ายหัวอย่างระอาเต็มทนกับความคิดของเพื่อนแต่ละคน ในขณะที่ง่วนเปลี่ยนรองเท้าให้เป็นรองเท้าผ้าใบคู่เก่งเพื่อเข้าเรียนวิชาต่อไป เสียงจ้อกแจ้กจอแจก็ดังขึ้นทั่วห้องล็อคเกอร์ของเด็กนาฏศิลป์สากลเมื่อนักเรียนม.4 กำลังทยอยเดินเข้ามา

     

                    แล้วทำไมต้องมาจ้องหน้าฉันกันอย่างนั้นด้วยเล่า -_-"

     

                    เพื่อน ๆ ฉันดูจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเล้ยย ยังคงเม้าแตกพากันเดินออกจากห้องล็อคเกอร์อย่างอ้อยอิ่ง

                    อ้อยอิ่งพอที่จะให้พวกการแสดง (ห้อง 20) เดินผ่านมานั่นแหละ (พวกนั้นเรียนในห้องกระจกถัดจากเราไปไม่กี่ห้องเอง)

     

                   

                    จริง ๆ แล้ว ฉันเองไม่ได้สังเกตสังกาอะไรมากมายหรอก แต่ที่รู้ว่าพวกที่กำลังเดินสวนกับฉันอยู่คือห้อง 20 ก็เพราะพวกนั้นสวยมากน่ะสิ ออร่างี้แผ่ไปเจ็ดกิโลเมตรเลยทีเดียว ผู้หญิงก็สวย ผู้ชายก็หล่อ (แต่จะแมนแท้ ๆ หรือไม่นี่อีกเรื่องหนึ่งนะ) พอได้เห็นคนเหล่านี้แล้วก็อดเศร้าไม่ได้ T__T ฟ้าช่างลำเอียงแท้ ๆ ที่เทเอาความสวยงามไปให้คนพวกนั้นหมด แล้วดูฉันซิ มีอะไรพอจะสู้ได้บ้างไหม T___T

                   

                    แต่ระหว่างที่ฉันก็กำลังคุยอยู่กับเพื่อนจอมโวยวายอยู่ดี ๆ นั้น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาขัดขาของฉันที่กำลังก้าวเดินอยู่จนหน้าทิ่ม!! เดชะบุญที่ไอ้ปุ้ยอยู่ข้างหน้าฉันแล้วรับไว้ทันพอดี ไม่งั้นนะ......... (ต้องเสียโฉมยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่ ๆ) เฮ้ออ... ว่าแต่ ใครมาขัดขาฉันล่ะเนี่ย!!!?

     

                    "นี่เธอ มาขัดขาเพื่อนเราทำไม" ยังไม่ทันที่สมองของฉันจะประมวลผลเสร็จ ปรากฏว่ายัยคิมจอมเก๋าประจำห้องมันประมวลเหตุการณ์เสร็จก่อนไปแล้ว ฉันทำตาโตมองมันที่เดินอาด ๆ ไปดึงไหล่ของ................ จะดีเหรอ!!! นั่นมัน วิวี นี่หน่าาาา สวยมาก ๆ เลย (สูสีกับยัยมีนาเลยนะ) ฉันเคยเห็นคนนี้ในทีวีบ่อย ๆ เล่นโฆษณา เล่นมิวสิกวีดีโอ แถมยังพิธีกรรายการอะไรต่อมิอะไรอยู่เรื่อย

                   

                    คนสวยอย่างนั้นเนี่ยนะจะมาขัดขาฉัน!? ไม่เจื๊ออออออออออออออออออ ToT

     

     

                    แล้วก็ดูท่าทางคนสวยจะไม่สนใจยัยคิมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะถึงจะโดนดึงยังไง เธอก็สะบัดออกง่าย ๆ แล้วเดินต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำเอายัยคิมตัวสั่นงันงกด้วยความโกรธราวกับเจ้าเข้า

     

                    "เรื่องอะไรฉันจะต้องลดตัวไปทำอย่างนั้นกับเพื่อนเธอ" เสียงคนสวยพูดทั้งที่ไม่ได้หันมามองพวกเราด้วยซ้ำ! ให้ตายเถอะ ทำแบบนี้เลยดูเหมือนฉันกลายเป็นพวกอันธพาลไปซะฉิบ สุดท้ายฉันจึงทำได้แค่เลิกคิ้วด้วยความงง ๆ (สมองยังคงประมวลไม่เสร็จอยู่) มองตามหลังสวย ๆ ของวิวีที่เดินจากไปอย่างผู้ชนะ แต่แหม... ไม่อยากจะบอกเลยนะ ว่าเวลาคนสวยทำแบบนี้แล้วมันดูสง่าอย่างบอกไม่ถูก

     

                    ว่าแต่เขาเป็นคนขัดขาฉันจริงเหรอ??

     

                    "เก็กเป็นบ้า" ยัยพริ้มบ่นงึม ๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะตบบ่ายัยคิมให้สงบจิตสงบใจลงบ้าง ส่วนตัวฉันเองถึงแม้จะยังงง ๆ เล็กน้อย แต่ก็ยื่นมือไปตบบ่าด้วยอีกแรง

                    "ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่เป็นไรซักหน่อย ปุ้ยมันก็รับไว้ทัน"

     

                    "แหง๋ล่ะ ถ้าไม่ได้คุณปุ้ยคนนี้ โลกนี้ก็คงไม่สงบสุข" ไอ้ปุ้ยได้ทีอวดใหญ่ แถมยังเชิดหน้าเหมือนมันกู้โลกเสียเต็มประดาอีกต่างหาก ทำเอาเพื่อนคนอื่นโก่งคออ้วกกันแหวะ แล้วพากันเดินส่ายหัวผ่านไอ้ปุ้ยไปอย่างไม่สนใจใยดี ฮ่า ๆๆ

     

     

                    แต่แหม.. ไม่ค่อยสบายใจเลย

     

     

     

                    ----------------------------------------------------------------------------

     

     

                    'ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด' เสียงออดเรียกพักกลางวันดังขึ้นท่ามกลางวิชาภาษาอังกฤษอันแสนน่าเบื่อ ทำเอาฉันสะดุ้งตื่นเฮือกใหญ่เพราะไอ้ออดนี่มันดันมาดังบนหัว ใครนะมันช่างเอาลำโพงโรงเรียนมาติดไว้ใกล้กับโต๊ะเรียนเด็ก เฮ้ออ ว่าแล้วฉันก็ต้องทำหน้าที่หันซ้ายขวาหน้าหลังปลุกเพื่อน ๆ คนอื่นให้ตื่นกันให้หมด ช่างน่าสงสาร Ms. Kate จริง ๆ ที่ไม่มีใครฟังเธอสอนเลย T___T หนูขอโทษค่ะ (แต่มันก็อดไม่ได้อะนะ แหะ ๆๆ)

     

     

                    ฉันมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงกว่า ๆ แล้วในขณะที่เดินบิดขี้เกียจลงบันไดอย่างเกียจคร้านไปด้วย พร้อมกับฟังไอ้ป่านพล่ามเรื่องของกินไม่หยุด ว่าวันนี้มันจะกินอะไรดี ระหว่างสลัดหรือผัดผัก... แหม จะกลัวอ้วนไปไหน ดูดิ๊ ฉันยังไม่เคยกลัวเลย ฮ่า ๆๆ

     

                    ว่าแล้วฉันก็มุ่งไปที่ร้านข้าวหมูแดงดีกว่า

     

     

                    ร้านข้าวหมูแดงวันนี้ก็ยังมีคนแน่นเหมือนทุกวัน -_-" โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชายทั้งนั้น สงสัยเป็นเพราะว่าเด็กผู้หญิงโรงเรียนนี้เขาไม่นิยมกินอะไรห่าม ๆ กัน ก็เด็กผู้หญิงน่ะ เขาต้องไปต่อแถวโน่น... สปาเกตตี้ อาหารญี่ปุ่น หรือไม่ก็สารพัดยำ อะไรเทือกนั้น..

     

                    ว่าแต่ฉันมาทำอะไรที่นี่ -_-"...........

     

     

                    ฉันต่อแถวไป คิดไปพลาง ว่าทำไมฉันถึงได้พิศวาสข้าวหมูแดงนัก แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะบรรลุถึงโสดาบัน (เอาขนาดนั้นเลย?) ก็มีอะไรบางอย่างแข็ง ๆ มากระทบหัวไหล่ของฉันจากด้านหลังดัง 'ปั๊กก!!' เสียก่อน อ็อกกกกกกกกกกก เจบบ T__T

     

                    ทันทีที่ฉันหันไปมองด้วยความเจ็บ ก็พบว่ามันคือเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะอยู่ปีเดียวกันกับฉัน ดูเหมือนหมอนั่นกำลังขำอะไรสักอย่างอยู่แล้วเผลอโยกหัวมาฟาดโดนไหล่ฉันดังปั๊ก! -_-" โง่ไหมนั่น...... ดูท่าว่ามันจะเจ็บอยู่ แต่ก็ยกมือขอโทษขอโพยฉันเป็นพัลวันทันทีที่เงยหัวขึ้นมา

     

                    อ้าว....... แล้วนั่นมันจะอึ้งอะไร ไม่เคยเห็นคนสวยต่อแถวกินข้าวหมูแดงหรือไงหาา -_-^^

     

     

                    อ๋อ.. ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันอึ้งอะไร เพราะหลังจากที่มันจ้องหน้าฉัน 2 วินาทีแล้ว มันก็แสยะยิ้มด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ได้โล่ ก่อนจะหันหลังกลับไปหาพลพรรคของมันที่ประกอบด้วย........... เอ่อ... เต...... -_-"

     

                    ฉันเห็นนะว่ามันทำหน้าบุ้ยใบ้ให้เตหันมามองฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วเราก็ได้สบตากันจัง ๆ >///< ตายแล้ว ฉันกำลังทำตัวไม่ถูก!! ตั้งแต่อยู่โรงเรียนนี้มา 5 ปี เพิ่งจะได้สบตากับเตเป็นครั้งแรกนี่แหละ >///< หัวใจจะวายย ก็ไอ้ดวงตากลม ๆ สีดำสนิทบนหน้าใบขาว ๆ นั่นน่ะ มันน่ามองน้อยยซะที่ไหนล่ะ >///<

     

                    ขณะที่ฉันกำลังอึ้งรับประทานอยู่นั้น ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าเตแลกที่กับไอ้เตี้ยซุ่มซ่ามนั่นแล้วมายืนตรงหน้าฉันตั้งแต่ตอนไหน แล้วนั่น.. เตกำลังจะพูดอะไร................................!?

     

     

                    "เธ..............................................."

     

                    "หนูปริมวันนี้กินอะไรดีจ้ะ!" โธ่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ป้าแจ่ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เตเขาจะพูดอะไรกับหนูอยู่แล้วเชียว แต่ป้าดันมาถามหนูก่อนเสียนี่.. ดวงหนอดวงงง

     

                    "เอาข้าวหมูแดงหมูกรอบเหมือนเดิมจ้ะป้า" ฉันหลุดปากสั่งออกไปก่อนจะคิดได้ว่า O.o ตายแล้ว เตจะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงตะกละไหมเนี่ย >///< ปกติมีผู้หญิงที่ไหนกินเนื้ออย่างจริงจังเท่าฉันบ้างไหม!? อายจังงง ดังนั้น พอป้าแจ่มวางจานข้าวของฉันลงปุ๊บ ฉันถึงต้องรีบจ่ายเงินปั๊บ แล้วชิ่งหนีทันที โอ่ยยยยยยย หัวใจจะวาย

     

     

     

                    ว่าแต่เตจะพูดอะไรกับฉันอะ?

     

     

     

     

    -TBC-




    มาต่อแล้วค่า.. แอบทำหน้าแรกนิดหน่อย แหะ ๆ (เรื่องจริงคือทำไม่เป็น)
    มีคนคอมเม้นตั้ง 1 คนแน่ะ ดีใจจัง แล้วจะมีคนอ่านไหมเนี่ย แต่งมาสองตอนแล้วพระเอกของเรายังไม่ได้พูดเลยซักคำ ฮือ ๆๆ T__T

    อ่านแล้วคิดยังไงก็บอกได้นะคะ แล้วจะพยายามมาอัพต่อภายในอาทิตย์นี้ค่ะ (เอ่อ.. ไม่รู้วันศุกร์หรือวันเสาร์แหะ?)

    ขอตัวแว่บไปเรียนก่อนแล้วกันนะคะ!! >_<,,


    ปล. แวะมา edit นิดนึง อิอิ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×