คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [เป้อ x วิน] Love...is about to calling for :: CH.2 - Unbalanced tears
Love...is about to calling for ::We are All or Nothing..?
[เป็บเปอร์xมาวิน]
Related Link
Chapter 1. - Hollow Dream
CHAPTER 2. - Unbalanced tears
"เฮ้ยเป้อ ตกลงไปใช่ปะคืนนี้" เสียงเมฆถามขึ้นหลังมิสมลเดินออกจากห้องไปได้เพียงครึ่งก้าว นำให้เป้อเลิกคิ้วเส้นบางกลับ "ทำไมวะ บอกว่าไปก็ไปดิ่ มีไร" ใบหน้าหาเรื่องนั้นทำเอาคนถามต้องผลักไหล่ "ถามไม่ได้ไงวะ! เออ งั้นมึงจะไปที่งานเลยหรือมาเจอกับกูก่อนล่ะ"
คราวนี้เป้อมีท่าทางคิด "กูยังไม่ซื้อของขวัญเลยว่ะ แถมเย็นนี้ต้องเข้าชมรมด้วย..."
"เออ เอาไงล่ะสัด" เมฆเร่งถาม เพราะตอนนี้ยุ่นกำลังกวักมือเรียกเขายิก ๆ จากหน้าห้อง ท่าทางรีบร้อนแบบนั้นบอกว่ากำลังรอให้ออกไปเตะบอลด้วยกัน
เป้อเหลือบมองใบหน้ามนของคนที่ส่งสายตามาอยู่ไม่ไกล "กูจะออกจากชมรมตอนห้าโมงเย็น แล้วไปซื้อของที่เซ็นทรัลเวิลด์ ค่อยกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า...มึงรอป่าวล่ะ" เจ้าของใบหน้าตี๋ถามกลับ ทำเอาเมฆหน้ายุ่งขึ้นทันใด "โห่ บ้านมึงไกลสัด งั้นกูเตะบอลรอมึงไปเซ็นทรัลเวิลด์พร้อมกัน ซื้อเสร็จแยกย้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปเจอที่ร้าน"
"ได้"
"เออ เจอกันเว้ย เลิกแล้วโทรมา" เมฆหันหลังออกจากห้องไป พร้อม ๆ กับที่ริมฝีปากอิ่มแดงของใครอีกคนตั้งท่าจะขยับถาม แต่ไม่ทันเป้อที่ชิงพูดก่อน "ไม่ต้องรอ จะไปซื้อของกับเมฆ"
"แต่...วินรอได้นะ แค่ห้าโมงเอง เดี๋ยวอ่านหนังสือรอ แล้วเรากลับบ้านพร้อมกันไง" มาวินแย้งพร้อมคว้ากระเป๋าตัวเองมาสะพายบ้าง เมื่อเห็นเป้อแบกเป้ขึ้นหลัง ทำท่าจะเดินออกไป
"ไม่ต้อง..." คนฟังบอกปัดพลางหันไปสะกิดน็อตที่มัวแต่คุยกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอยู่ "ไปยัง" เจ้าของร่างโปร่งที่สะพายเป้บนหลังถาม
น็อตเหลือบมองเพื่อนตรงหน้าทั้งสองคนอย่างงง ๆ ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นสายตาแข็ง ๆ จากเป้อก็พอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง "อ...เออ ไปชมรมเลยใช่ปะ ไป ๆ เฮ้ยไปก่อนว่ะเม"
"วันนี้กูออกห้าโมงนะ" เป้อเสริมขึ้นเมื่อสาวเท้าออกมานอกห้องเรียนได้แล้ว น็อตต้องพยายามเดินให้เร็วขึ้นบ้าง เพราะรู้สึกว่าตอนนี้เพื่อนข้าง ๆ เขาจะเร่งฝีเท้าเหลือเกิน
เสียงรองเท้าหนังคู่ที่สามจ้ำตามพวกเขามา น็อตหันไปพบเพื่อนร่วมห้องอีกคน ที่มักจะเดินข้างเป้อเสมอ...ในอดีต
"ก...ก็แล้วแต่ดิ่..." เด็กชายผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตอบรับคำบอกเมื่อกี้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระซิบถามเพื่อนด้านข้างเบา ๆ แทน "แล้ววินอะ"
เป้อถอนหายใจแรง เขาหันไปตวาดคนตัวเล็กกว่าด้านหลัง "ตามมาทำไม!"
มาวินสะดุ้งเฮือก ดวงตาโตฉายแววตระหนกแต่ก็ไม่ยอมแพ้ "ป...เปล่าตาม...แค่เดินมาทางเดียวกัน"
คำตอบนั้นทำเอาเป้อกัดฟันกรอด ก่อนจะสาวเท้าให้เร็วขึ้นอีก ซึ่งดูเหมือนวินเองก็ไม่ลดละ
สุดท้ายคนที่เดือดร้อนจึงกลายเป็นน็อต ที่ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเพื่อนร่วมห้องทั้งคู่ไป
***
"เฮ้ยเป้อ..." เสียงแตก ๆ ของประธานชมรมดนตรีขานชื่อรุ่นน้องคนสนิทที่กำลังนั่งรัวแสนร์อยู่ เป้อละสายตาจากกลองชุดตรงหน้า แหงนมองรุ่นพี่เจ้าของผมทรงสกินเฮดและผิวขาวหยวกด้วยความสงสัย
"ไรอะพี่โน่" แต่ในเมื่อเรียกแล้วไม่ยอมพูดจึงต้องเป็นฝ่ายถามแทนแบบนี้ เป้อขมวดคิ้วมองโน่ที่ปากก็เรียกชื่อเขา แต่สายตานี่สิ...มองอะไรอยู่
โน่จด ๆ จ้อง ๆ ที่หน้าประตูห้องชมรมก่อนจะพูดคำต่อไปออกมา "ให้น้องวินเข้ามารอข้างในดิ่ วันนี้อากาศเย็นนะ ให้เข้ามาเหอะ"
ดวงตาเรียวรีตวัดมองตามทิศที่โน่บุ้ยใบ้ เขาเห็นมาวินนั่งอ่านหนังสือรออยู่จริง ๆ "ช่างดิ่ ไม่ได้บอกให้รอ" ฝ่ามือผอมรัวสแนร์ต่อ
ท่าทีดื้อดึงแบบนั้นทำให้โน่ต้องยั้งมือทั้งสองข้างที่กำไม้ดรัมแน่นไว้ด้วยตัวเอง "เป็นไรวะ นั่นเพื่อนมึงนะ ไม่ห่วงบ้างไง"
"ไม่ได้บอกให้รอ..." เป้อย้ำอีกครั้งน้ำเสียงห้วน โน่รู้ว่านั่นเท่ากับหมายถึงเขากำลังยุ่งไม่เข้าเรื่องอยู่ จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยมือคู่นั้นให้กลับไปซ้อมต่อ
"เฮ้อ...ทำไรก็คิดดี ๆ นะมึง" ประธานชมรมดนตรีเจ้าของหัวทุย ๆ ว่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินจากไป พร้อม ๆ กับเป้อที่ถอนหายใจตาม...
...
ภายนอกตึกที่เขานั่ง มีรุ่นพี่รุ่นน้องกำลังจับกลุ่มทั้งเล่นบาสและเตะบอลอยู่ มาวินมองภาพเหล่านั้นด้วยนัยน์ตาว่างเปล่า
หนังสือฟิสิกส์บนตักดูจะเป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากเท่านั้น เมื่อดวงตากลมโตไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร หากเพียงจับจ้องไปยังลานอิฐสีส้มแดงคลาคล่ำด้วยผู้คนนั่น
เขาเห็นรุ่นน้องม.ต้นตัวเล็กเดินกอดคอหัวเราะให้กัน แต่ราวกับภาพเหล่านั้นยิ่งย้ำให้หวนนึกถึงอดีต
มาวินคิดถึงเป็บเปอร์คนเก่า...คนที่มักจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ โดยไม่มีข้อแม้ใดในความหวังดีนั้น...เขายังจำเป็บเปอร์ที่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนได้ แม้ครั้งสุดท้ายที่เห็นรอยยิ้มนั้นจะนานเท่าไรแล้วก็ตาม
ลมหนาวที่พัดมาวูบหนึ่งทำให้มาวินต้องกอดตัวเอง "ไม่น่าพูดออกไปเลย..." เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ต้องการให้ตัวเองได้ยินเท่านั้น โดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนมายืนอยู่ด้านหลัง
"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอ" เนื้อเสียงทุ้มฟังดูดุดันดังขึ้นไม่ไกลนักจนมาวินสะดุ้งได้เฮือกหนึ่ง เด็กชายรีบหันไปประจันหน้าเพื่อนที่รบกวนความคิดของเขาแทบตลอดเวลา
มาวินกะพริบตาสองทีกว่าจะทำใจดีสู้เสือได้ "...ก...ก็บ้านเราใกล้กันแค่นั้น แล้วห้าโมงมันก็ไม่ได้เย็นอะไรมาก...วินรอได้"
หากแต่สิ้นคำตอบ เป้อกลับจ้องเขานิ่งราวกับไม่ได้ฟังเหตุผลที่ถูกใจ ลมหายใจแรง ๆ และเสียงที่ถูกกดต่ำล้วนบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กักเก็บไว้ "พูดไม่รู้เรื่องรึไงว่าจะไปซื้อของต่อ..."
"ไป...ไปด้วย..." ครั้งนี้มาวินเตรียมตัวฟังคำต่อว่าแรง ๆ จากปากเป้อเรียบร้อย
...น่าแปลก ที่เพื่อนหน้าตี๋ไม่ได้ตะโกนพูดจาแรง ๆ ใส่เขาทันทีเหมือนที่ผ่านมา มาวินเหลือบมองเพื่อนสมัยเด็กที่เม้มริมฝีปากบางแน่น ขณะนัยน์ตาสีดำสนิทสะท้อนแววประหลาดชัดเจน เสียงเป้อกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะเบือนหน้าหนีไป
เป้อถอนหายใจยาว ขณะเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พูดคำต่อไปทั้งที่ไม่หันหน้ามา "บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง..." เสียงกลืนน้ำลายอีกอึกหนึ่งดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะหันกลับมา
ดวงตาเรียวรีสบมองอีกฝ่ายนิ่ง นิ่งจนยากที่มาวินจะคาดเดาว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ ความเงียบปกคลุมคนทั้งคู่ครู่หนึ่ง ก่อนเป้อจะคว้าต้นแขนเพื่อนสมัยเด็กให้เข้าไปใกล้ตัว "เคยบอกแล้วใช่มั้ยให้เลิกทำอย่างนี้ โตได้แล้ว! ชีวิตมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ เมื่อไหร่จะเลิกวุ่นวายกันซักที!"
คราวนี้ดวงตาที่เป้อมองมานั้นดุดันจนผู้รับแทบร้องไห้ มาวินมองท่าทางและคำพูดที่เขาไม่อยากทำใจให้ชินนั่น แต่ดวงตากลมไม่ได้หลบสายตาเกรี้ยวกราดจากคนตรงหน้า นอกจากส่งผ่านคำอ้อนวอนออกไปแทน
จะด่า จะว่า จะเกลียดกันยังไงก็ได้ ในเมื่อเขาไม่มีอะไรให้เสียแล้ว....
ขอเพียงอย่างเดียว...ขอแค่ที่ว่างเล็ก ๆ ให้เพื่อนที่เป้อแสนเกลียดได้นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ก็พอ
"ไปด้วยนะ..." ทั้งที่แทบจะเป็นคำเดิมแท้ ๆ แต่ทำเอาเป้อแทบหยุดหายใจ ดวงตาเรียวรีจ้องมองเพื่อนสมัยเด็กตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เป้อมองเข้าไปในดวงตาคู่ที่ไม่เคยหยุดอ้อนวอนเขา ก่อนจะผลักเจ้าของแขนกลมกลึงให้กระเด็นออกไปแรง ๆ
มาวินล้มลงนั่งเหมือนเดิมแต่ไร้ซึ่งเสียงประท้วงแม้เพียงสักแอะ ดวงตาเศร้าวางลงบนพื้นไม้ของที่นั่งนิ่ง ขณะที่ริมฝีปากขยับเบา ๆ "ขอบคุณ"
เป้อมองเพื่อนสมัยเด็กตรงหน้าที่ไม่ยอมสบตาเขาพลางกำมือตัวเองแน่น ดวงตาเรียวรีคู่นั้นวูบไหว "โธ่เว้ย!!!!!!!" เป้อสบถเป็นคำสุดท้ายก่อนจะผลุนผลันเดินกลับห้องชมรมไป
น้ำตาหนึ่งหยดไหลจากตาดวงโต...มาวินกัดปากตัวเองด้วยแน่นพยายามไม่ให้เสียงร้องเล็ดลอดออกมา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองทั้งโง่และบ้าที่ยังอดทนมาจนป่านนี้ ทั้งที่เป้อแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการเขาแล้ว แต่ก็ยังเป็นเขา ที่ดันทุรังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ราวกับทุกอย่างยังเหมือนเดิม
.... ทั้งที่ในใจมันเจ็บ
"ฮึก..." กะจะไม่ให้มีเสียงแล้วแท้ ๆ แต่มันกลับอดไม่ได้ มาวินส่ายหัวสมเพชตัวเองพลางใช้หลังมือปาดไล่น้ำตาแรง ๆ
ก่อนที่ความรู้สึกของอะไรอุ่น ๆ จะโถมเข้ามา
"ใส่นี่ รอแป๊บ เดี๋ยวจะไปแล้ว" เสียงที่เพิ่งตะโกนถ้อยคำมากมายใส่เขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน บัดนี้กลับมาดังอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง มาวินสะดุ้งเฮือกหนึ่งก่อนรีบปาดน้ำตาตัวเองลวก ๆ ไม่ให้หลงเหลือคราบ แล้วเงยหน้าไปหมายจะขอบคุณอีกฝ่ายสำหรับเสื้อกันหนาว หากแต่...
สายตาเป้อที่ทอดมองมาราวกับมีอะไรมากมายอยากจะบอกตรึงให้มาวินนั่งนิ่งอย่างไม่สามารถขยับตัวได้ ริมฝีปากบางเม้มปิดแน่นขณะก้อนกลม ๆ บริเวณคอดูจะเคลื่อนที่อย่างยากลำบาก วินมองตอบดวงตาที่เขาคุ้นเคยดีคู่นั้น ก่อนจะสังเกตเห็นว่าบนหางตาเรียวรีมีน้ำหยดหนึ่งซ่อนตัวอยู่
และเพียงแค่กะพริบตาครั้งเดียว มันก็ค่อย ๆ ไหลลงมาตามเรียวหน้าผอมอย่างง่ายดาย
"เป้อ..." มาวินอุทานเบา ๆ เมื่อเห็นน้ำตาจากคนตรงหน้า ทั้งที่เขาไม่เคยเห็นเป้อร้องไห้มากว่าสิบปีแล้ว หากแต่เพียงเสียงเรียกชื่อเบา ๆ ก็เรียกสติคนตรงหน้าให้กลับคืนมา
หลังมือผอมปาดข้างแก้มตัวเองเร็ว ๆ ก่อนจะละล่ำละลักพูดต่อ "รอแป๊บ จะไปเก็บของแล้วกลับบ้านกัน" เจ้าของร่างผอมชะลูดพูดห้วน ๆ ก่อนผลุนผลันเดินจากไป ปล่อยให้วินเป็นฝ่ายไม่เข้าใจในการกระทำทั้งหมดทั้งมวลแต่เพียงผู้เดียว
ฝ่ามือสีน้ำผึ้งเอื้อมกระชับเสื้อกันหนาวสีเขียวแก่ที่เป้อทิ้งไว้ให้ ขณะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เขารู้จักดีโชยมาแตะจมูก
มาวินกำผ้าเนื้อหนาสีเขียวแก่นั้นจนแน่น ขณะอธิษฐานกับตัวเองซ้ำ ๆ เหมือนกับที่เคยอธิษฐานอยู่ทุกวัน
ในโลกนี้เขาไม่เคยต้องการอะไร
นอกจากการมีเป้ออยู่ข้าง ๆ ตลอดไป
แม้คำขอนี้จะช่างเห็นแก่ตัว
แต่เขายินดีแลกทุกสิ่ง... ทุกอย่าง
แลกกับการมีเป้ออยู่ข้าง ๆ
ไม่ว่าจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกเท่าไหร่ หรือถูกเกลียดสักแค่ไหน
ก็ตาม...
***
"กรี๊ดดดดดดดดด น้องเป้อมาแล้วววว!" เสียงโหวกเหวกแสบแก้วหูของหญิงสาวกลุ่มใหญ่ร้องขึ้นเมื่อเด็กชายใบหน้าเรียวรีเช่นเดียวกับดวงตาในชุดเสื้อแจ็กเกตสีดำพอดีตัวตัดผิวขาวของใบหน้าและข้อมือ บวกกางเกงยีนเข้ารูปอวดขาคู่เล็กที่กำลังนิยมในหมู่วัยรุ่น กำลังเดินเข้ามาภายในร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น สถานที่นัดหมายในค่ำคืนนี้
เป้อคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้เจ้าของงาน ก่อนจะยื่นดอกไม้ช่อโตให้ "ว้า...คืนนี้ดอกไม้สวยไม่เท่าพี่แอมแฮะ Happy Birthday ครับ" คิ้วเส้นบางถูกยกขึ้นล้อ ๆ เมื่อพบว่าช่อกุหลาบสีชมพูในมือ หากเทียบกับหญิงสาวร่างเล็กในชุดเกาะสีอกขาวปลอดแล้วก็ดูหมองไปถนัด
"กรี๊ดดดดดดดดดดดด ยัยแอม! ถือว่าเป็นเจ้าของวันเกิดนะยะคืนนี้! ฉันจะยกน้องเป็บเปอร์ให้ก็ได้" เสียงสาวสวยอีกคนเจ้าของเดรสแขนกุดอวดผิวไหล่กระจ่างกระเซ้าเจ้าของงานวันเกิดอย่างสนุกสนาน ก่อนแอมจะหันไปโวยกลับ "น้อย ๆ หน่อยย่ะ น้องเป้อเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ยังไงคืนนี้ฉันก็ขอนะยะ คนนี้"
เป้อหัวเราะขำกับถ้อยคำเย้าแหย่ที่รุ่นพี่สาว ๆ ตรงหน้าทั้งหลายมอบให้ ก่อนจะเดินไปนั่งยังที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้บริเวณสนามหญ้า ซึ่งเมฆรอเขาอยู่แล้ว "ไงวะมึง จะกลับบ้านมะคืนนี้" น้ำเสียงนั้นฟังดูรู้ทันจนเป้อหัวเราะร่วน "ทำไมวะ กลับดิ่"
สีหน้าเมฆดูขำกับคำตอบนั้นเต็มประดา "พูดงี้ทุกทีอะมึง สุดท้ายก็..."
"น้องเป้อออออออ วันนี้มาช้านะ เรายังไม่ได้ชนแก้วกันเลย" น้ำเสียงหวาน ๆ ดังขึ้นขัดบทสนทนาของสองหนุ่ม เป้อหันไปมองใบหน้าหวานไม่แพ้น้ำเสียงของเจ้าของงานที่มานั่งเบียดอยู่บนเบาะของเขา
"มัวแต่หาซื้อดอกไม้ให้พี่แอมนั่นแหละ หาตั้งนานกว่าจะเจอที่พอจะสวยสูสีพี่แอมได้" เป้อว่าพลางยกแก้วในมือชนกลับ ขณะริมฝีปากเคลือบสีแดงของหญิงสาวคลี่ยิ้มกว้าง "ไม่เห็นต้องมีอะไรเลย แค่เป้อมาก็ดีใจจะแย่แล้ว"
ใบหน้าหวานที่ถูกแต่งแต้มสีสันอย่างดีเคลื่อนเข้ามาใกล้เขา ทั้งกลิ่นแอลกอฮอล์และน้ำหอมราคาแพงตีผสมกันคละคลุ้งจนกลายเป็นกลิ่นหอมยั่วยวนใจ "ถ้าพี่เมา...คืนนี้เราไปส่งที่บ้านให้หน่อยนะ"
เป้อสบดวงตาท้าทายคู่นั้นกลับไปอย่างไม่กลัวเกรง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มตอบ "ไม่อะ น้องสาวพี่แอมดุอย่างกับอะไร"
"คืนนี้บ้านว่าง..." ถ้อยคำที่ดูราวกับเป็นเพียงคำบอกเล่าดังตัดขึ้น นำให้เป้อยิ้มกว้างขึ้นไปอีก "งั้นเดี๋ยวจะไปช่วยกล่อมซักแป๊บนึงละกัน"
การเจรจาสัมฤทธิ์ผล...แอมคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะวางมัดจำเป็นรอยจูบที่ข้างแก้มขาวของเด็กหนุ่ม "เรานัดกันแล้วนะ" น้ำเสียงหวานกระซิบเบา ๆ ก่อนเดินจากไป
เมฆรีบใช้ขาสะกิดเพื่อนร่วมห้องยิก "เฮ้ยไงล่ะ จะได้กลับบ้านตัวเองมะ ตอนเช้ามีเรียนนะอย่าลืม" นำให้เป้อหัวเราะกลับ "เออ รู้น่า กลับตอนเช้าก็ถือว่ากลับเหมือนกันอะ" เสียงเพลงเบา ๆ จากลำโพงของร้านกลบถ้อยคำหลัง ๆ ของเขาเกือบมิด เด็กชายเจ้าของใบหน้าที่ทุกคนเรียกว่า ตี๋ คลี่ยิ้มพลางฮัมเพลงอารมณ์ดี
ค่ำคืนแห่งสีสันกำลังจะผ่านไป
เป้อรู้ว่าตัวเองจะไม่ต้องฝันถึงเรื่องราวเหล่านั้นอีก 1 คืน
***
"เฮ้ยเป้อ! ลอกเสร็จยัง จะถึงคาบแล้วนะเว้ย!" เสียงโวยวายของยุ่นร้องเร่งเพื่อนหน้าตี๋ดังลั่นเมื่อนาฬิกาแขวนผนังหน้าห้องบอกเวลาใกล้คาบเรียนเคมีเข้าไปทุกขณะ เป้อเร่งมือก็อปปี้คำตอบจากสมุดเล่มสีชมพูของน็อตลงในสมุดเล่มสีขาวของตัวเองโดยที่ใบหน้าแทบจะทิ่มเข้าไปในตำราอยู่แล้ว
"เออ ๆ กูเร่งอยู่ จะเสร็จแล้วโว้ยยยยย" น้ำเสียงทุ้มแตก ๆ ตะโกนตอบก่อนจะนึกอะไรได้บางอย่าง "วินลอกยัง จะเอาต่อรึเปล่า" เป้อหันไปถามเพื่อนสมัยเด็กเจ้าของใบหน้ามนที่นั่งเล่นเกมในมืออยู่ หากแต่วินส่ายหัวตอบช้า ๆ "อ๋อ ทำเสร็จแล้ว"
"ทำเสร็จ?"
แต่ยังไม่ทันที่เป้อจะได้ถามรายละเอียดดี เสียงทุ้มที่เขาและคนในห้องเรียนนี้ไม่รู้จักก็ดังขึ้นที่หน้าประตูก่อน "น้องวินอยู่ป่าวครับ"
เป้อเงยหน้าจากสมุดเรียนวิชาเคมีแทบจะทันที พร้อมกับมาวินที่คลี่ยิ้มหวานรับคำเรียกนั้น "พี่เชน!"
น็อตที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเหตุการณ์นักรีบหันไปมองเป้ออย่างรวดเร็ว แต่ดวงตาเรียวรีคู่นั้นผลุบกลับไปสนใจสมุดเคมีตรงหน้าต่อดังเดิมแล้ว
"ไหวป่าววะเนี่ยพวกมึง..."
TBC.
Postscript : เย้ย... แรง เมื่อกี้พิมพ์ ps ยาวปรื้ดดด แต่เด็กดีเฮี้ยน ข้อความหายหมดเลย (ขอบใจนะ -_-) ฮือ ๆ พิมพ์ใหม่ก็ด้ายยย T___T
ก่อนอื่นต้องกล่าวสวัสดีค่า ^^ ขอโทษด้วยเน่อที่ดองนานไปนิดส์ (แบบว่างม Timeline อยู่ 555) แต่เรื่องนี้เขียนยากจริง ๆ เพราะน้องเป้อเค้าอาร์ตตัวพ่อ -_- จะเขียนอะไรทีก็ต้องมานั่งเข้าญาณ (เขียนไงฟะ...) วิเคราะห์กันอยู่นาน 5555 ก็คงต้องเตือนไว้ก่อนเลยว่าหากใครชอบความรักในอุดมคติอย่าง Love Sick (ประเภทคนดี คนมีสติ คนมีเหตุผล 555) ก็อาจจะขัดใจกับน้อง ๆ ในเรื่องนี้อยู่บ้าง เพราะเห็ดจงใจที่จะเขียนให้น้องเป้อเป็นปุถุชนคนธรรมดา (เหรอวะ...) ที่มีความสับสน โลเล อ่อนแอ ไม่กล้าเผชิญกับความจริง...ฯลฯ เคยเป็นกันบ้างไหม ที่บางครั้งเราก็เลือกทำในสิ่งที่ทุกคนรุมประณาม แต่เราก็ยังทำ เพราะ....อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน (ฮา..) แต่นี่แหละคือมนุษย์... ยากแท้ หยั่งถึง (จนตอนนี้ก็ยังหยั่งไม่ถึงน้องเป้อเลย -*- อารายของเมิงเนี้ยยย) สรุปว่า... จะไหวไหมเห็ด 55555 ยังไงก็ค่อย ๆ รู้จักน้องไปพร้อม ๆ กัน (กับเห็ด) แล้วกันนะคะ ^^v
ใครมีข้อคิดเห็น/เสนอแนะ คอมเมนท์ หรืออยากอภิปรายอะไรก็เชิญตามสะดวก 5555 ยินดีอ่านทุกข้อความค่า ^^
อ้อ ก่อนไป! เจอนี่มาใน facebook แหละ ^^ ต้องขอบอกก่อนเลยนะว่า เห็ดไม่ได้ทำ (ขอขีดเส้นใต้ 555) แต่มีคนทำให้ค่า ขอบคุณมั่ก ๆ ^^ ใครชอบ Love Sick ก็แวะไปกด Like กันได้นะ ^^
Love Sick ชุมนุมหนุ่มกางเกงน้ำเงิน Fanpage on Facebook! (คลิก ๆๆ)
(ตั้งใจเขียนผิดใช่ปะ 555555)
ส่วนใครที่เล่นทวิตเตอร์ก็ยังคง follow เห็ดได้ที่อยู่เดิมนะจ๊ะ ^^ @drytimes โลด~~~
Cya next!
ความคิดเห็น