ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: At Academy Criminal ::

    ลำดับตอนที่ #6 : :: Academy Criminal :: ◈ :: การบ้านวิชากิจกรรมนันทนาการ [#2] ::

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 57


    การบ้าน #2



     

    ชื่อ นามสกุล : ศศิธราธร จักรไพบูลย์

    ชื่อเล่น : นที

    Dormitory : Topaz Dormitory

    รหัสประจำตัว : ACT22

    สถานภาพการขาดส่งงาน : 0

    การบ้านวิชา : กิจกรรมนันทนาการ

    คำสั่ง : ให้ Criminors ทุกคนออกมาแสดงที่สวนแห่งการไล่ล่าเพื่อสร้างการจดจำให้ทุกคน

    สถานที่ส่ง : สวนแห่งการไล่ล่า

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : แคนดี้

     

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

     

    ชื่อการแสดง : The End [จุดจบ]


    ความหมายของการแสดงชุดนี้ :

    เชิญพบกับเรื่องราวแห่งคำอธิษฐาน...ความเชื่อมั่น...และความศรัทธา

    ของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง...ท่ามกลางไฟสงครามที่พร้อมจะเข่นฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายทารุณ

    .

    .

    .

    ที่ถูกตัดจบอย่างทรมาณ

     

    ...มันเกี่ยวกับ เขายังไงน่ะเหรอ...

    ชมการแสดงชุดนี้สิ....

    “แล้วคุณจะไม่รู้”

     

    เริ่มการแสดง :

     

                เด็กหนุ่มนั่งลงบนพื้นของสวนแห่งการไล่ล่า ดวงตาสีน้ำตาลดำกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนแห่งการไล่ล่าด้วยแววตาที่เป็นปริศนา ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่การแสดงของใครสักคนซึ่งกำลังมีผู้คนอ้อมล้อมอยู่พอสมควร

                สายลมเย็ดพัดผ่านมา...กระทบกับร่างกายของเด็กหนุ่มทำให้ผมสีเดียวกับดวงตาเคลื่อนไหวเล็กน้อย

                การแสดงของบุคคลเบื้องหน้าสิ้นสุดลงแล้ว

                ใบหน้าของนทีปรากฏรอยยิ้มปริศนา จ้องมองผ่านผู้คนไปยังเวทีการแสดง

                ถึงเวลาแล้วสินะ

              .

              .

              .

              ม่านการแสดงเปิดออก เป็นสัญญาณของโชว์ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

                เด็กหนุ่มผู้สวมผ้าคลุมสีดำมิดไม่เห็นใบหน้าก้าวออกมากลางสวนแห่งการไล่ล่า ไฟของสถานที่แห่งนี้ค่อยๆ ดับสนิททำให้สภาพรอบตัวของผู้ชมและนักแสดงมีเพียงความมืดที่มองไม่เห็นสิ่งใด

                ใช่แล้ว...เขาคือนทีแห่งโทปาสนั่นเอง

                ทันใดนั้น เสียงบรรเลงเพลงก็ดังขึ้นมาจากความมืดมิดที่ว่างเปล่า ดวงไฟสองดวงถูกจุดขึ้นมาจากทางด้านซ้ายและขวาของตัวผู้แสดง รอบข้างมีแต่ความเงียบ ไร้เสียงพูดคุย ไร้เสียงโวยวาย ไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น

     

    [Game of Throne Main Theme Piano]

     

                มันคือเพลงมาร์ชของโดมแห่งความฉลาดแกมโกงโทปาสนั่นเอง…!

                และแสงไฟของสาดฉายลงมายังตัวของนที ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงผู้ครอบครองดวงตาสีเดียวกันกับเส้นผม แววตาที่อ่านไม่ออกจ้องมองมายังผู้ชม รอยยิ้มเป็นปริศนาปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า

                เขาสวมชุดสูทคู่กับเนคไทล์สีน้ำตาลแก่ และเขาก็กำลังก็กำลังนั่งบรรเลงเพลงด้วยแกรนด์เปียโนสีน้ำตาลดูหรูหราอยู่กลางเวทีการแสดง

                เด็กหนุ่มหลับตาลง บรรเลงเพลงผ่านปลายนิ้ว และพยายามบรรเลงเพลงมาร์ชของโทปาสให้ดีที่สุด ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

                ทันใดนั้นเอง ริมฝีปากของเขาก็ขยับขึ้นมา เสียงของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงดังไปทั่วสวนแห่งการไล่ล่าผ่านลำโพงตัวจิ๋วตามจุดต่างๆ ที่นทีทำการติดตั้งเอาไว้

                ”กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับหลับตาพริ้มบรรเลงเพลง “ยังมีดินแดนแห่งหนึ่ง...อยู่ไกลแสนไกล...ไกลเกินที่คนธรรมดาจะก้าวไปถึง”

                “แต่มันกลับเต็มไปด้วยไฟสงคราม...ที่เกิดขึ้นมาจากความรัก โลภ โกรธ และหลงของมนุษยพันธ์แห่งดินแดนนั้น...”  

                เด็กหนุ่มเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นต่อ “...แล้วยังมีครอบครัวหนึ่ง...ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกสาว...เธอคือเด็กหญิงที่ถือกำเนิดมาจากความรักอันบริสุทธ์ เป็นเด็กหญิงที่สว่างไสวเสียหมดทุกด้าน...”

                ทันใดนั้นเอง ไฟที่เคยสว่างก็ดับมืดไป ทำให้ทั่วสถานที่นี้มีแต่ความมืด

              “แต่ทว่า...ไฟสงครามก็ลุกโชนมาถึงประเทศของเธอ...ประเทศที่เธออาศัยอยู่

    ผู้คนล้มตาย ประเทศล่มสลาย ตกเป็นของประเทศมหาอำนาจ...ประเทศที่ยิ่งใหญ่กว่า คุณภาพสูงกว่า ประชากรมากกว่า กำลังรบมีประสิทธิภาพมากกว่า

    เพราะเหตุนั้น...ทำให้เด็กหญิง...กลายเป็น ทาสทาสที่ไม่เคยเห็นเดือนเห็นตะวัน ทาสที่ทำงานอยู่ในคุกใต้ดิน ทาสที่ไม่มีอิสรภาพ ทาสที่ไม่มีสิ่งใดเป็นของตน

    และในหนึ่งสับดาห์...เด็กหญิงจะออกไปนอกคุกใต้ดินอย่างเศร้าโศก...จิตใจนึกถึงผู้เป็นมารดา...

    และเธอก็จะไปนั่งเล่นที่แม่น้ำใกล้ๆ ในทุกครั้งที่เด็กหญิงออกมานอกโรงงานนรกนั่น ไม่มีใครรู้ว่าเธอทำสิ่งใด รู้เพียงแค่ว่าเด็กหญิงตัวน้อยมีความสุขที่ได้นั่งเล่นริมแม่น้ำเท่านั้น...”

    นทีเว้นช่วงไปพร้อมกับแสงไฟที่สาดส่องลงมาอีกครั้ง   เขายืนพร้อมกับลืมตาขึ้นมาเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลแดงซึ่งเต็มไปด้วยแววประกายปริศนา รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เด็กหนุ่มจ้องมองไปยังผู้ชม

    “...จบแล้วครับ”

    ความเงียบที่เคยมีอยู่กลับกลายเป็นเสียงพูดคุยต่างๆ นานาของเหล่าไครมิเนอร์รุ่นที่สองซึ่งอยู่กันในสวนแห่งการไล่ล่า ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นจุดสนใจแก่ผู้คน

    “ทำไมถึงตัดจบแบบนี้ล่ะ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นมาทางด้านขวาของนที ถ้าโสตประสาทของนทีทำงานไม่ผิดเพี้ยนล่ะก็ เสียงต่อๆ มาคงจะเป็นคำพูดประมาณว่า “ใช่ๆ” หรือ “นั่นสิ” แน่นอน

    รอยยิ้มที่เป็นปริศนาปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า ดวงตาฉายแววประกายแบบเดียวกัน

    “มันคือจุดจบ...ยังไงล่ะครับ” นทีเอียงคอน้อยๆ

    “จุดจบที่...เป็นปริศนานี่...น่าสนใจดีนะครับ?”




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×