คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : : Academy Criminal :: - :: คาบเรียน&การบ้านวิชาศิลปะการเอาตัวรอด
ชื่อ – สกุล : ศศิธราธร จักรไพบูลย์ (นที)
ลงชื่อ : (Sasitharatorn Jukpaibul)
เพลงประกอบ :
ACADEMY CRIMINAL
สถาบันนัก(ฆ่า)ล่าอาชญากร
วิชาศิลปะการเอาตัวรอด
Japan’s talk : สวัสดี Criminors ทุกคนในสถาบันด้วยนะครับ (ตาปรือ) ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ กระผม นายเจแปน จะมาทำหน้าที่อาจารย์สอนวิชาศิลปะการเอาตัวรอดในคลาสเรียนนี้ เด็กเก่าจาก CDS และเด็กโดมบุกแหลกของผมคงรู้จักผมดี ผมไม่ใช่คนถือตัวอะไร เพราะฉะนั้น ..... (เริ่มสะอึกออกมาเป็นกลิ่นเหล้า) ขอโทษที เมื่อวานเจ้าแบล็คเบิร์ดชวนกินวอดก้า เลยดื่มหนักไปหน่อย เอิ๊กกก (เลอก่อนจะรีบปิดปากตัวเองเพราะเหมือนจะอาเจียน)
Natee : มองด้วยสายตาว่างเปล่า.... พร้อมกับคิดในใจว่า ‘...นกดำ? ยุ่นปี่? โคนัน???’
วิชาศิลปะการเอาตัวรอด
การส่งงานในห้องเรียน 50 คะแนน
สอบข้อเขียน 50 คะแนน
วันนี้เริ่มเรียนกันเลยแล้วกันนะ ... เอิ๊กกกกก (กดรีโมทฉายเนื้อหาก่อนจะหลับฟุบกับโต๊ะ)
LESSON#4 : รถจมน้ำ/หนีตายในกองเพลิง
ทำอย่างไรเมื่อรถยนต์ตกน้ำ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์นั้นถือเป็นปัจจัยที่ ๕ ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน การเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ถือเป็นการเดินทางที่แพร่หลาย
ที่สุดในโลก และการเดินทางแต่ละครั้งก็จะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นแล้วจะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นความไม่ประมาทใน
ขณะขับขี่รถยนต์ จะทำให้เกิดความปลอดภัยในที่สุด
การที่ตนเองไม่ประมาทก็ใช่ว่าจะปลอดภัยได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เสมอไป เพราะว่าบนถนนนั้น มีรถยนต์วิ่งไปมาเป็นจำนวนมากมาย ผู้คนที่ขับขี่รถยนต์ก็มีความ
สามารถในการขับขี่ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็อาจทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน แต่ถ้ากรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุตกน้ำ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่งที่มีข่าวเกิดขึ้นบ่อย
ครั้ง แต่ละครั้งผู้ขับขี่หรือผู้ที่โดยสารร่วมอยู่ด้วย มีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิตอย่างน่าเสียดาย เป็นเพราะเพียงคิดง่ายๆ ว่าเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องไกลตัว ไม่น่าจะเกิด
กับตัวเรา
เมื่อรถยนต์ตกน้ำ
ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า เรายังมีเวลาพอที่จะทำอะไร หรือแก้ไขอะไรได้ เพราะขณะที่รถยนต์ตกน้ำ (รถยนต์ส่วนบุคคลสมัยนี้เกือบ ๑๐๐ % มักจะปิดกระจกใน
ขณะขับขี่) ดังนั้น รถจะไม่จมลงในทันที แต่จะค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่องประมาณ ๑๗ - ๒๐ วินาที
ขั้นตอนการเอาตัวรอดทำอย่างไร ( คัดจาก : หนังสือนาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๓ เล่มที่ ๑๑ )
1. อันดับแรกสำคัญมากที่สุด คือต้องตั้งสติให้มั่น (นับหนึ่งถึงสิบไม่ได้เพราะเวลาจะหมดไปโดยเปล่าประโยชย์) ให้คิดง่าย ๆ ว่า 'มันไม่ยากเกินไปที่จะแก้ไข
เมื่อมีสติ'
2. ขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่จะตกน้ำ อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่ารถจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่จะลงน้ำ
ก็จะปลดเข็มขัดนิรภัยออกในทันที ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้ศีรษะไปกระแทกจากแรงประทะของผิวน้ำได้
3. ทันทีเมื่อรถยนต์นิ่งสงบอยู่ในน้ำ ไม่ควรเปิดประตูรถเพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ (จนท.ตำรวจสหรัฐ พิสูจน์ความจริงข้อนี้
แล้วว่า จากการนำรถยกห้อยรถในน้ำไว้ครึ่งคัน แล้วให้ตำรวจทั้งที่อยู่ในและนอกรถลองพยายามเปิดประตูรถ แต่ก็ไม่สามารถกระทำได้)
4. ขณะที่น้ำเข้ารถให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง แบบมือหมุน (MANUAL) มีเวลาพอ แต่สำหรับกระจกไฟฟ้าจากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้
รถจะจมอยู่ในน้ำระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกประมาณ ๑๐ นาที ถึงแม้เครื่องยนต์จะดับ ไม่ต้องกลัวไฟช็อต เพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแส
ตรง (D.C.) ไม่เหมือนไฟบ้านที่เป็นกระสลับ (A.C.) ซึ่งเมื่อโดนน้ำแล้วช็อตเลย ฉะนั้นในรถยนต์จะไม่มีการช็อต การทำงานของกระจกไฟฟ้าไม่กี่วินาทียังพอ
มีเวลาที่จะทำงานได้
5. สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อยๆ เอาตัวออกที่ช่องหน้าต่าง ถึงแม้ช่วงที่เอากระจกลงจะมีน้ำไหลเข้ามาในรถก็ตาม ตัวเราก็สามารถว่ายน้ำออกทางหน้าต่าง
ได้ ไม่ต้องห่วงข้าวของมีค่า ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยก็บอกให้กระทำเช่นเดียวกัน หากมีเด็กให้หนีบเด็กนั้นออกมากับตัวท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้น แม้เวลาเสี้ยว
วินาที ก็ต้องรีบกระทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
6. กรณีไม่สามารถออกทางหน้าต่างได้ (เปิดหน้าต่างไม่ได้) ไม่ว่าสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ข้อควรปฏิบัติต่อไป คือ ให้ปลดล็อกประตูที่เป็นทางออก (MANUAL)
ถ้าเป็นประตูไฟฟ้าก็ต้องกดปลดล็อก (เหตุผลเดียวกับข้อ 4) เมื่อน้ำเข้ามาในรถมากพอเกือบถึงหลังคา หลังความดันภายนอกและภายในรถใกล้เคียงกันแล้ว
ก็ให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วนำตัวออกจากห้องโดยสารของรถได้ ท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือ จะว่ายขึ้นมาก็ได้
ในกรณีหากน้ำลึกมาก ๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือหรือใต้น้ำ เพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจว่ายน้ำไปทางทิศที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ
ในกรณีนี้ควรปล่อยให้ตัวลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูฟองว่าลอยขึ้นทางทิศใด ก็ให้ว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป เช่นนี้แล้วจะไม่มี
อาการหลงน้ำ
7. เมื่อไม่สามารถเปิดประตูหรือลดกระจกลงได้เนื่องจากเกิดแรงกระแทกและชน (เกิดอุบัติเหตุ) ก่อนรถจะตกน้ำ ขั้นตอนต่อไปควรหาของแข็งมาทุบกระจก
เครื่องมือประจำรถที่เหมาะสมที่สุด คือ เหล็กขันน็อตที่มีอยู่ในถุงอะไหล่ รถกระบะทุกชนิดไม่ว่าสี่ประตู หรือ CAB จะเก็บถุงเครื่องมือไว้ใต้เบาะหลัง หรือ
ส่วนที่อยู่ในเก๋งด้านหลัง ส่วนรถเก๋งต้องหาวัสดุที่เป็นเหล็กหรือของแข็งพอที่จะทุบให้กระจกแตกได้ กระจกที่เลือกทุบมีหลักอยู่ว่ากระจกหน้าหลังจะเป็น
กระจกนิรภัยออกแบบให้แตกยาก ควรทุบกระจกด้านข้างเมื่อสู้แรงดันน้ำได้ หรือ ให้แรงดันน้ำในและนอกใกล้เคียงกันแล้วให้นำตัวออก มีความเป็นไปได้
กรณีไม่สามารถทุบกระจกข้างให้แตกได้ เพราะแรงดันน้ำภายนอก วิธีต่อไปให้เลือกทุบกระจกหลังเพราะเป็นส่วนที่จมน้ำหลังสุด (เพราะส่วนหัวจะจมก่อน)
8. อย่าตามอากาศอย่างเด็ดขาด การเสียชีวิตเนื่องจากติดอยู่ในรถก็เพราะผู้เสียชีวิตพยายามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันอยู่หลังรถ เพราะหน้ารถพุ่งลงน้ำ
(เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า) หัวรถจะจมน้ำก่อนแล้วท้ายรถก็จะโด่งขึ้นอากาศจึงไหลไปรวมกันที่นั่งหลัง อากาศที่อยู่หลังรถดูเหมือนจะมีให้หายใจได้ แต่เมื่อ
จมลงไปเรื่อย ๆ ตัวรถจะเริ่มตั้งฉากอากาศจะถูกบีบออกทางกระโปรงหลังภายในไม่กี่นาที
9. การตัดสินใจปฏิบัติตามขั้นตอน ควรทำอย่างรวดเร็วเพราะไม่สามารถทายได้ว่าก้นน้ำจะมีความลึกมากแค่ไหน ภูมิประเทศใต้น้ำอย่างไร ถ้าเป็นโคลนโอกาส
รอดก็จะมีน้อยทีเดียว
จากสาระเล็กๆ น้อยๆ นี้เชื่อว่าน่าที่จะเป็นประโยชย์ได้บ้าง เมื่อผู้ประสบภัยรถตกน้ำและพอที่จะจำขั้นตอนการปฏิบัติได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะนำไปปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ หรือถ่ายทอดกับผู้อื่น และมีผู้ปฏิบัติรอดชีวิตสักเพียงหนึ่งคนก็จะเป็นอานิสงส์อย่างยิ่ง / นว.สส. เรียบเรียง
เมื่ออยู่ในกองเพลิง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ให้ข้อแนะนำว่า การออกไปอยู่ในอาคารปิดทึบ ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ หรือห้างสรรพสินค้า สิ่งที่พึงกระทำเป็นอันดับต้น ๆ คือการมองหาทางหนีไว้อย่างน้อย 2 ทาง เช่น สังเกตตำแหน่งบันไดหลักและบันไดหนีไฟ ประตู หน้าต่าง เส้นทางหนีไฟ และทางออกจากตัวอาคาร และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทางออกนั้นไม่ได้ปิดล็อกหรือมีสิ่งกีดขวาง สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยจริง
นอกจากนี้ ต้องสังเกตอุปกรณ์ช่วยชีวิตและอุปกรณ์เตือนภัยว่ามีอยู่หรือไม่ เป็นแบบใด อยู่ที่ไหน จำนวนและใช้อย่างไร ได้แก่ เครื่องดักจับควัน (Smoke Detectors) เครื่องดักจับความร้อน (Heat Detectors) อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Sprinkler)อุปกรณ์แจ้งเหตุฉุกเฉิน (Fire/Emergency Alarm) และเครื่องดับเพลิง (Fire Extinguisher)
วิธีการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เมื่อประสบเหตุเพลิงไหม้
1. ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้วเปิดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้(ถ้ามี) และหากได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ ให้รีบออกจากตัวอาคารทันที อย่าเสียเวลาตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด
2. หากเพลิงมีขนาดเล็ก พอที่จะดับเองได้ ให้ใช้ถังดับเพลิง เพื่อดับไฟ หากไม่มีอุปกรณ์ หรือไม่สามารถดับเพลิงเองได้ ให้รีบแจ้งตำรวจดับเพลิง โทร. 199 จากนั้นรีบออกจากตัวอาคารทันที และปิดประตู-หน้าต่างห้องที่เกิดเพลิงไหม้ให้สนิทที่สุดทันที (ถ้าทำได้) เพื่อให้เกิดภาวะอับอากาศ วิธีนี้จะช่วยให้เพลิงไหม้ช้าลง ทำให้ง่ายต่อการดับเพลิง แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครติดอยู่ข้างใน แล้วรีบวิ่งหนีออกมา
3. หากอยู่ในอาคารที่มีเพลิงไหม้ ก่อนจะเปิดประตูต้องแตะลูกบิดก่อน โดยนั่งชันเข่าให้มั่นคงหลังประตู แล้วใช้หลังมือแตะที่ลูกบิดประตู ถ้ามีความร้อนสูงแสดงว่ามีเพลิงไหม้อยู่ในห้อง หรือบริเวณใกล้ ๆ ดังนั้น อย่าเปิดประตูโดยเด็ดขาด แต่หากลูกบิดไม่ร้อน ให้ค่อย ๆ บิดออกช้า ๆ โดยใช้ไหล่คอยหนุนประตูไว้ หากทำได้ควรหาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือผ้าห่มชุบน้ำชุ่ม ๆ ไว้ด้วย
4. หากต้องเผชิญกับควันไฟที่ปกคลุม ให้ใช้วิธีคลานต่ำ ๆ และหนีไปยังทางออกฉุกเฉิน เพราะอากาศที่พอหายใจได้จะอยู่ด้านล่างเหนือพื้นห้องไม่เกิน 1 ฟุต เนื่องจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุเพลิงไหม้ประมาณร้อยละ 90 เป็นผลมาจากสำลักควันไฟ เพราะมีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไอร้อน ทำให้ขาดออกซิเจน ควรเตรียมหน้ากากหนีไฟฉุกเฉิน (Emergency smoke mask) ไว้จะปลอดภัยกว่า หรืออาจใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่ตักอากาศ แล้วคลุมศีรษะหนีฝ่าควันออกมา เพราะการคลานต่ำจะไม่สามารถทำได้จากชั้นบนลงชั้นล่างที่มีควัน
5. อย่าใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะหยุดการทำงานเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า ให้ใช้บันไดหนีไฟเท่านั้น
6. หากติดอยู่ในวงล้อมของไฟ ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยดับเพลิงว่าท่านอยู่ที่ตำแหน่งใดของเพลิงไหม้ แล้วหาทางช่วยเหลือตัวเองโดยปิดประตูให้สนิท หาผ้าหนา ๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันเข้าได้ เช่น ใต้ประตูหรือช่องลมต่าง ๆ ปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดหน้าต่างส่งสัญญาณด้วยการใช้ไฟฉายหรือผ้าโบก และตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ เพื่อให้คนนอกอาคารรู้ตำแหน่งที่แน่นอน
7. หากมีไฟลามติดตัว อย่าเพิ่งวิ่ง เพราะยิ่งวิ่ง... ไฟจะยิ่งลุกลาม ให้หยุดนิ่ง และล้มตัวลงนอนกับพื้นทันที หลังจากนั้นให้ใช้มือปิดหน้า กลิ้งตัวทับเสื้อผ้าที่ติดไฟจนดับ
8.ถ้าหนีออกมาได้แล้ว ไม่ควรกลับเข้าไปในอาคารอีก หากยังมีคนอื่นติดอยู่ภายในอาคาร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่
การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เบื้องต้น
1. ใช้น้ำสะอาด ราด รด หรือแช่ผู้บาดเจ็บจากไฟลวก เพื่อลดความเจ็บปวดของบาดแผล หยุดการทำลายจากความร้อน
2. หากผู้บาดเจ็บสวมแหวน นาฬิกา กำไล ให้รีบถอดออก เพราะไม่นานบริเวณที่ถูกความร้อนจะเกิดอาการบวม
3. ปิดแผลด้วยผ้าปิดแผล ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนพันบาดแผลไว้ และรีบนำส่งโรงพยาบาล
สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
1. บันไดหนีไฟ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะช่วยให้เราออกจากสถานที่เกิดเหตุได้ พวกอาคารสูงๆ นั้นก็ต้องมีบันไดหนีไฟไว้ด้วย แต่ถ้ามีบันไดแล้วใช้ไม่เป็นก็ไม่ดีแน่ค่ะ นี่คือข้อแนะนำในการใช้บันไดหนีไฟ
- ควรมีการตรวจสอบสภาพของบันไดหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา
- ควรซักซ้อมความเข้าใจในการใช้บันไดหนีไฟ
- หากมีลูกกรงเหล็กดัด ต้องทำกลอนประตูที่เปิดออกได้ง่าย ไม่ควรคล้องกุญแจเด็ดขาด
2. อุปกรณ์ดับเพลิง ควรมีไว้ประจำบ้าน ประจำชั้นต่าง ๆ ของตึก และต้องเรียนรู้การใช้เครื่องดับเพลิงด้วย
3. วัตถุไวไฟ ควรเก็บให้มิดชิด หากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรเก็บไว้นอกที่พักจะดีกว่า
4. อุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดี ควรมีการตรวจสอบอยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดต้องรีบแก้ไข ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้
5. อย่าใช้ลิฟต์ขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะลิฟต์จะเป็นช่องทางให้ควัน ความร้อนและเปลวไฟผ่าน และยิ่งถ้ากระแสไฟถูกตัดขาด รับรองว่าติดอยู่ในลิฟต์ตายแน่นอน
6. อย่าหวงข้าวของต่าง ๆ อย่าคิดว่ามีเวลาเหลือพอที่จะกอบโกยข้าวของออกมา ควรรีบหนีไฟออกมาก่อนดีกว่า เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้
หวังว่าข้อแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ คงเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการมีสติเท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดชีวิตได้
เสียงกริ่งดังขึ้น เจแปนสะดุ้งก่อนจะรีบเช็ดน้ำลายของตัวเอง เด็ก ๆ ในคลาสกำลังเก็บของกันเตรียมจะออกจากห้อง
เฮ้! อย่าลืมทำการบ้านบนไสลด์ด้วยนะ เดี๋ยวช่วงเย็น ๆ จะมีคนมารับพวกนายไปทำภารกิจ
Natee : เตรียมตัวเก็บของออกจากห้อง เก็บมีดพับไว้ในกระเป๋ากางเกง
การบ้านวิชาศิลปะการเอาตัวรอด
คำสั่ง : นักเรียนทุกโดมถูกวางยาสลบและพาตัวไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ทุกคนต้องอธิบายวิธีการหนีตายออกมาจากบริเวณที่กำหนดให้ได้
Spinel Dormitory / = พวกหนู ๆ เป็นโดมที่ผมดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นจะเป็นโดมพิเศษที่ได้ถูกส่งไปยังตึกที่เกิดเพลิงไหม้ หนีตายจากตึกที่กำลังเกิดเพลิงไหม้โดยที่นักเรียนอยู่คนละห้องกัน
Canalian Dormitory / Quartz Dormitory / Topaz Dormitory = อยู่ในรถมือสองที่ใกล้จะจมน้ำเต็มที หาทางรอดออกมาจากรถให้ได้นะ ^^
ขอย้ำ! ขอย้ำ! นี่คือการปฏิบัติการจริงของนักล่าอาชญากรทุกท่าน เอาตัวรอดกลับมาส่งงานให้ได้นะ
เงื่อนไข
- อธิบายการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
- คะแนน 50 คะแนน
- กำหนดส่งวันที่ 9 - 14 มิถุนายน 2557 เวลา 21.00 น.
ค่าตอบแทนเมื่อทำงานสำเร็จ
- Tact Skill +9
- Body Skill + 12
- Note Skill + 9
- Decision Skill +7
- Life +10
- คะแนนงานที่ได้ (ได้ไม่เท่ากัน)
เมื่อทำงานไม่สำเร็จ!
- Life-20
- โดนขึ้นป้ายรายงานที่หน้ากระดานคะแนน (เกิน 3 ครั้ง ตาย!)
การบ้าน #4
ชื่อ – นามสกุล : ศศิธราธร จักรไพบูลย์
ชื่อเล่น : นที
Dormitory : Topaz Dormitory
รหัสประจำตัว : ACT22
สถานภาพการขาดส่งงาน : 0
การบ้านวิชา : ศิลปะการเอาตัวรอด
คำสั่ง : นักเรียนทุกโดมถูกวางยาสลบและพาตัวไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ทุกคนต้องอธิบายวิธีการหนีตายออกมาจากบริเวณที่กำหนดให้ได้
สถานที่ส่ง : ห้องนอนของเจแปน
ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์เจแปน
ll ส่วนเนื้อหา ll
ชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น : วิชาศิลปะการเอาตัวรอดเป็นต้นเหตุของหายนะ
อัตราความเสี่ยงในเหตุการณ์ของคุณ : 61.74%
เรียบเรียงเหตุการณ์การทำภารกิจในการเอาตัวรอด :
หลังจากเสร็จสิ้นคาบเรียนของอาจารย์เจแปนผู้น่าเคารพรักและเอ็นดูอย่างมีเมตตากรุณา(?) เด็กหนุ่มได้มานั่งอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีน้ำตาลของโถงโทปาสอันกว้างใหญ่และหรูหรา โคมไฟประดับเพชรนิลจิลดาถูกห้อยอยู่บนเพดาน รูปภาพต่างๆ ถูกติดไว้บนผนังห้อง
เขามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลยนอกจากตัวของนที แต่ก็ไม่สร้างความแปลกใจให้กับเขาเท่าไร...
ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าเขาถูกอะไรบางอย่างตีเข้าที่ท้ายทอยจนสลบไป
.
.
‘บางที...ใช้ยาสลบก็ได้นะ’
นทีตื่นขึ้นมาในรถเก๋งเก่าๆ ที่กำลังแล่นไปบนพื้นถนนด้วยความเร็วดั่งเ(ห)ยี่ยวทะยานฟ้า เด็กหนุ่มมองไปยังเบื้องหน้า...มันเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่(น่าจะ)สวยงามในขณะนั้น(?) รอบๆ มีกลุ่มคนที่เขารู้จักอยู่พอสมควร บางคนก็สลบ(?) บางคนก็กำลังผายปอดให้ใครบางคน(?)
และเมื่อรถยนต์ที่เขานั่งมากำลังแล่นลงสู่ใต้น้ำ ก็มีไครมิเนอร์คนหนึ่ง(?) มองมาทางเขาด้วยสายตาประมาณว่า...
‘...โชคดีนะเพื่อน’
“วอท...? ‘ A ‘ ” <<< หนึ่งหนุ่มผู้โชคดี
ณ ใต้บาดาลลึกหลายเมตร ในรถเก๋งเก่าๆ สีส้มแสบตามีออร่าวิ๊งๆ (?)
เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ ด้วยสายตาว่างเปล่า สมองกำลังคิดวิธีหนี(?)จากรถเก๋งมรณะนี้ให้เร็วที่สุด
‘ขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่จะตกน้ำ อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่ารถจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่จะลงน้ำก็จะปลดเข็มขัดนิรภัยออกในทันที ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้ศีรษะไปกระแทกจากแรงประทะของผิวน้ำได้’
ตัวอักษรบนสไลด์ลอยมากระทบกระเทือนใจของเขา(?) เมื่อเด็กหนุ่มกำลังมองไปยังที่เข็มขัดนิรภัย นทีหาวอย่างง่วงมาก(?) ใจคิดแต่อยากจะไปฟัด(?)กับเตียงในห้องของเขาที่โดมสีน้ำเงิน
เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ อีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารถยนต์เริ่มนิ่งสงบอยู่ในน้ำแล้วจึงคิดบางอย่างขึ้นมาได้
‘ทันทีเมื่อรถยนต์นิ่งสงบอยู่ในน้ำ ไม่ควรเปิดประตูรถเพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้’
แล้วสายตาของเขาก็ไปปะทะกับน้ำ....ที่กำลังรั่วเข้ามา(?)จากที่ไหนสักแห่ง(?)
‘ขณะที่น้ำเข้ารถให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง แบบมือหมุน (MANUAL) มีเวลาพอ แต่สำหรับกระจกไฟฟ้าจากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้รถจะจมอยู่ในน้ำระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกประมาณ ๑๐ นาที ถึงแม้เครื่องยนต์จะดับ ไม่ต้องกลัวไฟช็อต เพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแสตรง (D.C.) ไม่เหมือนไฟบ้านที่เป็นกระสลับ (A.C.) ซึ่งเมื่อโดนน้ำแล้วช็อตเลย ฉะนั้นในรถยนต์จะไม่มีการช็อต การทำงานของกระจกไฟฟ้าไม่กี่วินาทียังพอมีเวลาที่จะทำงานได้’
ถ้านับ(?)ดูแล้ว ตอนนี้น่าจะผ่านมาเกือบห้านาทีแล้ว....
แล้วนทีจึงเอื้อมไปลดกระจกลง...จะได้กลับโดมไปนอนสักที...
...ง่ายไปไหม(?)
‘สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อยๆ เอาตัวออกที่ช่องหน้าต่าง ถึงแม้ช่วงที่เอากระจกลงจะมีน้ำไหลเข้ามาในรถก็ตาม ตัวเราก็สามารถว่ายน้ำออกทางหน้าต่างได้ ไม่ต้องห่วงข้าวของมีค่า ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยก็บอกให้กระทำเช่นเดียวกัน หากมีเด็กให้หนีบเด็กนั้นออกมากับตัวท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้น แม้เวลาเสี้ยววินาที ก็ต้องรีบกระทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลย’
เนื้อหาบนสไลด์ปรากฏขึ้นมาในสมองอีกครั้ง...
เด็กหนุ่มลอดตัวผ่านช่องหน้าตางออกมาปะทะกับสายน้ำในบ่อ..ทุกอย่างทุกสิ่งมืดไปหมดจนไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร...ทันใดนั้นเอง เนื้อหาอีกหนึ่งอย่างก็ปรากฏขึ้นมา
‘ในกรณีหากน้ำลึกมาก ๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือหรือใต้น้ำ เพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจว่ายน้ำไปทางทิศที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ ในกรณีนี้ควรปล่อยให้ตัวลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูฟองว่าลอยขึ้นทางทิศใด ก็ให้ว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป เช่นนี้แล้วจะไม่มี
อาการหลงน้ำ’
แล้วเขาก็ทำตามสิ่งที่ครูบอกอย่างว่าง่าย(?) นั่นก็คือการเป่าอากาศแล้วสังเกตฟองว่าลอยขึ้นไปทางทิศไหน เหนือ ใต้ ตะวันออก หรือตะวันตก...
แต่ทว่า....
เมื่อเขากำลังจะว่าย...ก็ดันมีสิ่งหนึ่งรัดพันขาเขา...จนทำให้นทีไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นไปตามฟองอากาศได้
และจากที่คาดประมาณดูแล้ว...น่าจะเป็นพืชใต้น้ำ...(?)
เดี๋ยวนะ...มันไม่ได้อยู่ในเนื้อหาที่สอนนี่..!
เขาพยายามดื้นสุดแรงเกิด(?) เพื่อปลดห่วงที่พันธนาการเขาออกไปให้จงได้ ลมหายใจของเขาเหลืออีกไม่มากนัก แต่คงทันเวลา...ใช่ ทันเวลา
ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่ามีมีดพับอยู่ในกระเป๋ากางเกง(?)
และแล้วมีดพับก็ถูกใช้งาน นทีก็ว่ายน้ำขึ้นไปได้ในที่สุด....
แต่
เมื่อเขาผุดหัว(?)ขึ้นมากลางน้ำ
เหล่าผู้คนรอบๆก็มองเขาอย่างกับตัวประหลาด
แล้วเมื่อสังเกตดีๆ
ก็พบว่ามีสาหร่ายทะเลอยู่บนหัวนทีกองหนึ่ง...
.
.
.
.
‘ . ‘ <<< ใบหน้าของนที
* A * <<< ใบหน้าของเหล่าไครมิเนอร์ผองเพื่อน
= A = <<< ใบหน้าของสาวหล่อ
‘///’ a <<< ใบหน้าของนทีในปัจจุบัน
.
.
.
“เจแปนซังครับ...”
เสียงหังเราะปริศนาลอยแว่วมา(?)
ผลที่ได้เมื่อรอดจากเหตุการณ์นั้น :
- ได้ประสบการณ์(?)
- ได้ฉากขำๆ...(วอท?)
- ความแค้นต่ออาจารย์เจแปนเพิ่มขึ้นมา +0.99
- ความแค้นต่อสาหร่ายทะเลเพิ่มขึ้นมา +1.99
- ความแค้นต่อความง่ายเกินไป +0.1
- ได้ชีวิตที่ปกติสุขของตัวเองกลับคืนมา
- ได้เรียนรู้บางอย่าง(?)
- ได้อยู่ใต้น้ำ
- ได้ฝึกดำน้ำ
- ได้ปะทะกับพืชใต้ทะเล
- ได้เปียกน้ำ
- ได้มีความสุขกับเหล่าผองเพื่อนใต้บาดาล(???)
- ได้นอนพักหนึ่งวัน(?)
- ได้ XXX
- ได้ yyy
อุปสรรคในระหว่างการทำภารกิจ :
- ความง่ายเกินไป(?)
- พืชใต้บาดาลที่พันแข้งพันขา
- มีดพับที่ขึ้นสนิม (เกี่ยว?)
- น้ำลึก
- มืด
- ง่วง ง่วง ง่วง ง่วง และง่วง
ความคิดเห็น