ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: At Academy Criminal ::

    ลำดับตอนที่ #10 : : Academy Criminal :: - :: คาบเรียน&การบ้านวิชาศิลปะการเอาตัวรอด

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 57


    ชื่อ – สกุล : ศศิธราธร จักรไพบูลย์ (นที)

    ลงชื่อ : (Sasitharatorn Jukpaibul)

    เพลงประกอบ : 

     
     


    ACADEMY CRIMINAL

    สถาบันนัก(ฆ่า)ล่าอาชญากร

    วิชาศิลปะการเอาตัวรอด


     

    Japan’s talk : สวัสดี Criminors ทุกคนในสถาบันด้วยนะครับ (ตาปรือ) ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ กระผม นายเจแปน จะมาทำหน้าที่อาจารย์สอนวิชาศิลปะการเอาตัวรอดในคลาสเรียนนี้ เด็กเก่าจาก CDS และเด็กโดมบุกแหลกของผมคงรู้จักผมดี ผมไม่ใช่คนถือตัวอะไร เพราะฉะนั้น ..... (เริ่มสะอึกออกมาเป็นกลิ่นเหล้า) ขอโทษที เมื่อวานเจ้าแบล็คเบิร์ดชวนกินวอดก้า เลยดื่มหนักไปหน่อย เอิ๊กกก (เลอก่อนจะรีบปิดปากตัวเองเพราะเหมือนจะอาเจียน)

    Natee : มองด้วยสายตาว่างเปล่า.... พร้อมกับคิดในใจว่า ...นกดำ? ยุ่นปี่? โคนัน???

     

    วิชาศิลปะการเอาตัวรอด
    การส่งงานในห้องเรียน
     50 คะแนน
    สอบข้อเขียน
     50 คะแนน

    วันนี้เริ่มเรียนกันเลยแล้วกันนะ ... เอิ๊กกกกก (กดรีโมทฉายเนื้อหาก่อนจะหลับฟุบกับโต๊ะ)

     

     

    LESSON#4 : รถจมน้ำ/หนีตายในกองเพลิง

     

    ทำอย่างไรเมื่อรถยนต์ตกน้ำ 

                คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์นั้นถือเป็นปัจจัยที่ ๕ ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน การเดินทางไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ถือเป็นการเดินทางที่แพร่หลาย
    ที่สุดในโลก และการเดินทางแต่ละครั้งก็จะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นแล้วจะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นความไม่ประมาทใน
    ขณะขับขี่รถยนต์ จะทำให้เกิดความปลอดภัยในที่สุด

                การที่ตนเองไม่ประมาทก็ใช่ว่าจะปลอดภัยได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เสมอไป เพราะว่าบนถนนนั้น มีรถยนต์วิ่งไปมาเป็นจำนวนมากมาย ผู้คนที่ขับขี่รถยนต์ก็มีความ
    สามารถในการขับขี่ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็อาจทำให้เราเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน แต่ถ้ากรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุตกน้ำ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่งที่มีข่าวเกิดขึ้นบ่อย
    ครั้ง แต่ละครั้งผู้ขับขี่หรือผู้ที่โดยสารร่วมอยู่ด้วย มีโอกาสน้อยมากที่จะรอดชีวิตอย่างน่าเสียดาย เป็นเพราะเพียงคิดง่ายๆ ว่าเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องไกลตัว  ไม่น่าจะเกิด
    กับตัวเรา


    เมื่อรถยนต์ตกน้ำ

                ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า เรายังมีเวลาพอที่จะทำอะไร หรือแก้ไขอะไรได้ เพราะขณะที่รถยนต์ตกน้ำ (รถยนต์ส่วนบุคคลสมัยนี้เกือบ ๑๐๐ % มักจะปิดกระจกใน
    ขณะขับขี่) ดังนั้น รถจะไม่จมลงในทันที แต่จะค่อย ๆ จมลงอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่องประมาณ ๑๗ - ๒๐ วินาที

    ขั้นตอนการเอาตัวรอดทำอย่างไร ( คัดจาก : หนังสือนาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๓ เล่มที่ ๑๑ )

    1.       อันดับแรกสำคัญมากที่สุด คือต้องตั้งสติให้มั่น (นับหนึ่งถึงสิบไม่ได้เพราะเวลาจะหมดไปโดยเปล่าประโยชย์) ให้คิดง่าย ๆ ว่า 'มันไม่ยากเกินไปที่จะแก้ไข
    เมื่อมีสติ'

    2.       ขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่จะตกน้ำ อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่ารถจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่จะลงน้ำ
    ก็จะปลดเข็มขัดนิรภัยออกในทันที ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้ศีรษะไปกระแทกจากแรงประทะของผิวน้ำได้

    3.       ทันทีเมื่อรถยนต์นิ่งสงบอยู่ในน้ำ ไม่ควรเปิดประตูรถเพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ (จนท.ตำรวจสหรัฐ พิสูจน์ความจริงข้อนี้
    แล้วว่า จากการนำรถยกห้อยรถในน้ำไว้ครึ่งคัน แล้วให้ตำรวจทั้งที่อยู่ในและนอกรถลองพยายามเปิดประตูรถ แต่ก็ไม่สามารถกระทำได้)

    4.       ขณะที่น้ำเข้ารถให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง แบบมือหมุน (MANUAL) มีเวลาพอ แต่สำหรับกระจกไฟฟ้าจากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้
    รถจะจมอยู่ในน้ำระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกประมาณ ๑๐ นาที ถึงแม้เครื่องยนต์จะดับ ไม่ต้องกลัวไฟช็อต เพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแส
    ตรง (D.C.) ไม่เหมือนไฟบ้านที่เป็นกระสลับ (A.C.) ซึ่งเมื่อโดนน้ำแล้วช็อตเลย ฉะนั้นในรถยนต์จะไม่มีการช็อต การทำงานของกระจกไฟฟ้าไม่กี่วินาทียังพอ
    มีเวลาที่จะทำงานได้

    5.       สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อยๆ เอาตัวออกที่ช่องหน้าต่าง ถึงแม้ช่วงที่เอากระจกลงจะมีน้ำไหลเข้ามาในรถก็ตาม ตัวเราก็สามารถว่ายน้ำออกทางหน้าต่าง
    ได้ ไม่ต้องห่วงข้าวของมีค่า ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยก็บอกให้กระทำเช่นเดียวกัน หากมีเด็กให้หนีบเด็กนั้นออกมากับตัวท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้น แม้เวลาเสี้ยว
    วินาที ก็ต้องรีบกระทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

    6.       กรณีไม่สามารถออกทางหน้าต่างได้ (เปิดหน้าต่างไม่ได้) ไม่ว่าสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ข้อควรปฏิบัติต่อไป คือ ให้ปลดล็อกประตูที่เป็นทางออก (MANUAL)
    ถ้าเป็นประตูไฟฟ้าก็ต้องกดปลดล็อก (เหตุผลเดียวกับข้อ 4) เมื่อน้ำเข้ามาในรถมากพอเกือบถึงหลังคา หลังความดันภายนอกและภายในรถใกล้เคียงกันแล้ว
    ก็ให้ผลักบานประตูออกให้กว้างสุด แล้วนำตัวออกจากห้องโดยสารของรถได้ ท่านอาจจะปล่อยตัวให้ลอยขึ้นเหนือน้ำตามธรรมชาติ หรือ จะว่ายขึ้นมาก็ได้
    ในกรณีหากน้ำลึกมาก ๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือหรือใต้น้ำ เพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจว่ายน้ำไปทางทิศที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ 
    ในกรณีนี้ควรปล่อยให้ตัวลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูฟองว่าลอยขึ้นทางทิศใด ก็ให้ว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป เช่นนี้แล้วจะไม่มี
    อาการหลงน้ำ

    7.       เมื่อไม่สามารถเปิดประตูหรือลดกระจกลงได้เนื่องจากเกิดแรงกระแทกและชน (เกิดอุบัติเหตุ) ก่อนรถจะตกน้ำ ขั้นตอนต่อไปควรหาของแข็งมาทุบกระจก
    เครื่องมือประจำรถที่เหมาะสมที่สุด คือ เหล็กขันน็อตที่มีอยู่ในถุงอะไหล่ รถกระบะทุกชนิดไม่ว่าสี่ประตู หรือ CAB จะเก็บถุงเครื่องมือไว้ใต้เบาะหลัง หรือ
    ส่วนที่อยู่ในเก๋งด้านหลัง ส่วนรถเก๋งต้องหาวัสดุที่เป็นเหล็กหรือของแข็งพอที่จะทุบให้กระจกแตกได้ กระจกที่เลือกทุบมีหลักอยู่ว่ากระจกหน้าหลังจะเป็น
    กระจกนิรภัยออกแบบให้แตกยาก ควรทุบกระจกด้านข้างเมื่อสู้แรงดันน้ำได้ หรือ ให้แรงดันน้ำในและนอกใกล้เคียงกันแล้วให้นำตัวออก  มีความเป็นไปได้
    กรณีไม่สามารถทุบกระจกข้างให้แตกได้ เพราะแรงดันน้ำภายนอก วิธีต่อไปให้เลือกทุบกระจกหลังเพราะเป็นส่วนที่จมน้ำหลังสุด (เพราะส่วนหัวจะจมก่อน)

    8.       อย่าตามอากาศอย่างเด็ดขาด การเสียชีวิตเนื่องจากติดอยู่ในรถก็เพราะผู้เสียชีวิตพยายามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันอยู่หลังรถ เพราะหน้ารถพุ่งลงน้ำ
    (เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า) หัวรถจะจมน้ำก่อนแล้วท้ายรถก็จะโด่งขึ้นอากาศจึงไหลไปรวมกันที่นั่งหลัง อากาศที่อยู่หลังรถดูเหมือนจะมีให้หายใจได้ แต่เมื่อ
    จมลงไปเรื่อย ๆ ตัวรถจะเริ่มตั้งฉากอากาศจะถูกบีบออกทางกระโปรงหลังภายในไม่กี่นาที

    9.       การตัดสินใจปฏิบัติตามขั้นตอน ควรทำอย่างรวดเร็วเพราะไม่สามารถทายได้ว่าก้นน้ำจะมีความลึกมากแค่ไหน ภูมิประเทศใต้น้ำอย่างไร ถ้าเป็นโคลนโอกาส
    รอดก็จะมีน้อยทีเดียว

                จากสาระเล็กๆ น้อยๆ นี้เชื่อว่าน่าที่จะเป็นประโยชย์ได้บ้าง เมื่อผู้ประสบภัยรถตกน้ำและพอที่จะจำขั้นตอนการปฏิบัติได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะนำไปปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุ หรือถ่ายทอดกับผู้อื่น และมีผู้ปฏิบัติรอดชีวิตสักเพียงหนึ่งคนก็จะเป็นอานิสงส์อย่างยิ่ง / นว.สส. เรียบเรียง

    เมื่ออยู่ในกองเพลิง

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ให้ข้อแนะนำว่า การออกไปอยู่ในอาคารปิดทึบ ไม่ว่าจะเป็นผับ บาร์ หรือห้างสรรพสินค้า สิ่งที่พึงกระทำเป็นอันดับต้น ๆ คือการมองหาทางหนีไว้อย่างน้อย 2 ทาง เช่น สังเกตตำแหน่งบันไดหลักและบันไดหนีไฟ ประตู หน้าต่าง เส้นทางหนีไฟ และทางออกจากตัวอาคาร และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทางออกนั้นไม่ได้ปิดล็อกหรือมีสิ่งกีดขวาง สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยจริง

              นอกจากนี้ ต้องสังเกตอุปกรณ์ช่วยชีวิตและอุปกรณ์เตือนภัยว่ามีอยู่หรือไม่ เป็นแบบใด อยู่ที่ไหน จำนวนและใช้อย่างไร ได้แก่ เครื่องดักจับควัน (Smoke Detectors) เครื่องดักจับความร้อน (Heat Detectors) อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ (Sprinkler)อุปกรณ์แจ้งเหตุฉุกเฉิน (Fire/Emergency Alarm) และเครื่องดับเพลิง (Fire Extinguisher)


     


    วิธีการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เมื่อประสบเหตุเพลิงไหม้

              1. ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้วเปิดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้(ถ้ามี) และหากได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ ให้รีบออกจากตัวอาคารทันที อย่าเสียเวลาตรวจสอบว่าเพลิงไหม้ที่ใด 

              2. หากเพลิงมีขนาดเล็ก พอที่จะดับเองได้ ให้ใช้ถังดับเพลิง เพื่อดับไฟ หากไม่มีอุปกรณ์ หรือไม่สามารถดับเพลิงเองได้ ให้รีบแจ้งตำรวจดับเพลิง โทร. 199 จากนั้นรีบออกจากตัวอาคารทันที และปิดประตู-หน้าต่างห้องที่เกิดเพลิงไหม้ให้สนิทที่สุดทันที (ถ้าทำได้) เพื่อให้เกิดภาวะอับอากาศ วิธีนี้จะช่วยให้เพลิงไหม้ช้าลง ทำให้ง่ายต่อการดับเพลิง แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครติดอยู่ข้างใน แล้วรีบวิ่งหนีออกมา

              3. หากอยู่ในอาคารที่มีเพลิงไหม้ ก่อนจะเปิดประตูต้องแตะลูกบิดก่อน โดยนั่งชันเข่าให้มั่นคงหลังประตู แล้วใช้หลังมือแตะที่ลูกบิดประตู ถ้ามีความร้อนสูงแสดงว่ามีเพลิงไหม้อยู่ในห้อง หรือบริเวณใกล้ ๆ ดังนั้น อย่าเปิดประตูโดยเด็ดขาด แต่หากลูกบิดไม่ร้อน ให้ค่อย ๆ บิดออกช้า ๆ โดยใช้ไหล่คอยหนุนประตูไว้ หากทำได้ควรหาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือผ้าห่มชุบน้ำชุ่ม ๆ ไว้ด้วย

              4. หากต้องเผชิญกับควันไฟที่ปกคลุม ให้ใช้วิธีคลานต่ำ ๆ และหนีไปยังทางออกฉุกเฉิน เพราะอากาศที่พอหายใจได้จะอยู่ด้านล่างเหนือพื้นห้องไม่เกิน 1 ฟุต เนื่องจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุเพลิงไหม้ประมาณร้อยละ 90 เป็นผลมาจากสำลักควันไฟ เพราะมีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไอร้อน ทำให้ขาดออกซิเจน ควรเตรียมหน้ากากหนีไฟฉุกเฉิน (Emergency smoke mask) ไว้จะปลอดภัยกว่า หรืออาจใช้ถุงพลาสติกใสขนาดใหญ่ตักอากาศ แล้วคลุมศีรษะหนีฝ่าควันออกมา เพราะการคลานต่ำจะไม่สามารถทำได้จากชั้นบนลงชั้นล่างที่มีควัน

              5. อย่าใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะหยุดการทำงานเนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้า ให้ใช้บันไดหนีไฟเท่านั้น

              6. หากติดอยู่ในวงล้อมของไฟ ให้โทรศัพท์แจ้งหน่วยดับเพลิงว่าท่านอยู่ที่ตำแหน่งใดของเพลิงไหม้ แล้วหาทางช่วยเหลือตัวเองโดยปิดประตูให้สนิท หาผ้าหนา ๆ ชุบน้ำอุดตามช่องที่ควันเข้าได้ เช่น ใต้ประตูหรือช่องลมต่าง ๆ ปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดหน้าต่างส่งสัญญาณด้วยการใช้ไฟฉายหรือผ้าโบก และตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ เพื่อให้คนนอกอาคารรู้ตำแหน่งที่แน่นอน

              7. หากมีไฟลามติดตัว อย่าเพิ่งวิ่ง เพราะยิ่งวิ่ง... ไฟจะยิ่งลุกลาม ให้หยุดนิ่ง และล้มตัวลงนอนกับพื้นทันที หลังจากนั้นให้ใช้มือปิดหน้า กลิ้งตัวทับเสื้อผ้าที่ติดไฟจนดับ

              8.ถ้าหนีออกมาได้แล้ว ไม่ควรกลับเข้าไปในอาคารอีก หากยังมีคนอื่นติดอยู่ภายในอาคาร ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทราบ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่

     


    การปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้เบื้องต้น

               1. ใช้น้ำสะอาด ราด รด หรือแช่ผู้บาดเจ็บจากไฟลวก เพื่อลดความเจ็บปวดของบาดแผล หยุดการทำลายจากความร้อน

               2. หากผู้บาดเจ็บสวมแหวน นาฬิกา กำไล ให้รีบถอดออก เพราะไม่นานบริเวณที่ถูกความร้อนจะเกิดอาการบวม

              3. ปิดแผลด้วยผ้าปิดแผล ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนพันบาดแผลไว้ และรีบนำส่งโรงพยาบาล

    สิ่งที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า

              1. บันไดหนีไฟ เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะช่วยให้เราออกจากสถานที่เกิดเหตุได้ พวกอาคารสูงๆ นั้นก็ต้องมีบันไดหนีไฟไว้ด้วย แต่ถ้ามีบันไดแล้วใช้ไม่เป็นก็ไม่ดีแน่ค่ะ นี่คือข้อแนะนำในการใช้บันไดหนีไฟ

              - ควรมีการตรวจสอบสภาพของบันไดหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา

              - ควรซักซ้อมความเข้าใจในการใช้บันไดหนีไฟ

              - หากมีลูกกรงเหล็กดัด ต้องทำกลอนประตูที่เปิดออกได้ง่าย ไม่ควรคล้องกุญแจเด็ดขาด

              2. อุปกรณ์ดับเพลิง ควรมีไว้ประจำบ้าน ประจำชั้นต่าง ๆ ของตึก และต้องเรียนรู้การใช้เครื่องดับเพลิงด้วย

              3. วัตถุไวไฟ ควรเก็บให้มิดชิด หากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรเก็บไว้นอกที่พักจะดีกว่า 

              4. อุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดี ควรมีการตรวจสอบอยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดต้องรีบแก้ไข ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้

              5. อย่าใช้ลิฟต์ขณะเกิดเพลิงไหม้ เพราะลิฟต์จะเป็นช่องทางให้ควัน ความร้อนและเปลวไฟผ่าน และยิ่งถ้ากระแสไฟถูกตัดขาด รับรองว่าติดอยู่ในลิฟต์ตายแน่นอน

              6. อย่าหวงข้าวของต่าง ๆ อย่าคิดว่ามีเวลาเหลือพอที่จะกอบโกยข้าวของออกมา ควรรีบหนีไฟออกมาก่อนดีกว่า เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาเอาใหม่ได้ 

              หวังว่าข้อแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ คงเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือการมีสติเท่านั้นที่จะช่วยให้เรารอดชีวิตได้

     

     

    เสียงกริ่งดังขึ้น เจแปนสะดุ้งก่อนจะรีบเช็ดน้ำลายของตัวเอง เด็ก ๆ ในคลาสกำลังเก็บของกันเตรียมจะออกจากห้อง

     

    เฮ้อย่าลืมทำการบ้านบนไสลด์ด้วยนะ เดี๋ยวช่วงเย็น ๆ จะมีคนมารับพวกนายไปทำภารกิจ

                Natee : เตรียมตัวเก็บของออกจากห้อง เก็บมีดพับไว้ในกระเป๋ากางเกง

     

    การบ้านวิชาศิลปะการเอาตัวรอด

    คำสั่ง : นักเรียนทุกโดมถูกวางยาสลบและพาตัวไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ทุกคนต้องอธิบายวิธีการหนีตายออกมาจากบริเวณที่กำหนดให้ได้

    Spinel Dormitory / = พวกหนู ๆ เป็นโดมที่ผมดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นจะเป็นโดมพิเศษที่ได้ถูกส่งไปยังตึกที่เกิดเพลิงไหม้ หนีตายจากตึกที่กำลังเกิดเพลิงไหม้โดยที่นักเรียนอยู่คนละห้องกัน

     

    Canalian Dormitory / Quartz Dormitory /  Topaz Dormitory = อยู่ในรถมือสองที่ใกล้จะจมน้ำเต็มที หาทางรอดออกมาจากรถให้ได้นะ ^^

    ขอย้ำขอย้ำนี่คือการปฏิบัติการจริงของนักล่าอาชญากรทุกท่าน เอาตัวรอดกลับมาส่งงานให้ได้นะ

    เงื่อนไข
    - อธิบายการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
    - คะแนน 50 คะแนน

    กำหนดส่งวันที่ 9 - 14 มิถุนายน 2557 เวลา 21.00 น.

    ค่าตอบแทนเมื่อทำงานสำเร็จ
    - Tact Skill +9
    - Body Skill + 12
    - Note Skill + 9
    - Decision Skill +7
    - Life +10
    คะแนนงานที่ได้ (ได้ไม่เท่ากัน)

    เมื่อทำงานไม่สำเร็จ!
    - Life-20
    โดนขึ้นป้ายรายงานที่หน้ากระดานคะแนน (เกิน 3 ครั้ง ตาย!)

     

     

     

     

     

    การบ้าน #4


     

    ชื่อ นามสกุล : ศศิธราธร จักรไพบูลย์

    ชื่อเล่น : นที

    Dormitory : Topaz Dormitory

    รหัสประจำตัว : ACT22

    สถานภาพการขาดส่งงาน : 0

    การบ้านวิชา : ศิลปะการเอาตัวรอด

    คำสั่ง : นักเรียนทุกโดมถูกวางยาสลบและพาตัวไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ทุกคนต้องอธิบายวิธีการหนีตายออกมาจากบริเวณที่กำหนดให้ได้

    สถานที่ส่ง : ห้องนอนของเจแปน

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์เจแปน

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

     

    ชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น : วิชาศิลปะการเอาตัวรอดเป็นต้นเหตุของหายนะ

     

    อัตราความเสี่ยงในเหตุการณ์ของคุณ : 61.74%

     

    เรียบเรียงเหตุการณ์การทำภารกิจในการเอาตัวรอด :

              หลังจากเสร็จสิ้นคาบเรียนของอาจารย์เจแปนผู้น่าเคารพรักและเอ็นดูอย่างมีเมตตากรุณา(?)  เด็กหนุ่มได้มานั่งอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีน้ำตาลของโถงโทปาสอันกว้างใหญ่และหรูหรา โคมไฟประดับเพชรนิลจิลดาถูกห้อยอยู่บนเพดาน รูปภาพต่างๆ ถูกติดไว้บนผนังห้อง

                เขามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ที่นี่เลยนอกจากตัวของนที แต่ก็ไม่สร้างความแปลกใจให้กับเขาเท่าไร...

                ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าเขาถูกอะไรบางอย่างตีเข้าที่ท้ายทอยจนสลบไป

                .

                .

                บางที...ใช้ยาสลบก็ได้นะ

     

              นทีตื่นขึ้นมาในรถเก๋งเก่าๆ ที่กำลังแล่นไปบนพื้นถนนด้วยความเร็วดั่งเ(ห)ยี่ยวทะยานฟ้า เด็กหนุ่มมองไปยังเบื้องหน้า...มันเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่(น่าจะ)สวยงามในขณะนั้น(?) รอบๆ มีกลุ่มคนที่เขารู้จักอยู่พอสมควร บางคนก็สลบ(?) บางคนก็กำลังผายปอดให้ใครบางคน(?)

                และเมื่อรถยนต์ที่เขานั่งมากำลังแล่นลงสู่ใต้น้ำ ก็มีไครมิเนอร์คนหนึ่ง(?) มองมาทางเขาด้วยสายตาประมาณว่า...

                ‘...โชคดีนะเพื่อน

                “วอท...? ‘ A ‘ <<< หนึ่งหนุ่มผู้โชคดี

     

                ณ ใต้บาดาลลึกหลายเมตร ในรถเก๋งเก่าๆ สีส้มแสบตามีออร่าวิ๊งๆ (?)

                เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ ด้วยสายตาว่างเปล่า สมองกำลังคิดวิธีหนี(?)จากรถเก๋งมรณะนี้ให้เร็วที่สุด

                ขณะที่รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่จะตกน้ำ อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่ารถจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่จะลงน้ำก็จะปลดเข็มขัดนิรภัยออกในทันที ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้ศีรษะไปกระแทกจากแรงประทะของผิวน้ำได้

              ตัวอักษรบนสไลด์ลอยมากระทบกระเทือนใจของเขา(?) เมื่อเด็กหนุ่มกำลังมองไปยังที่เข็มขัดนิรภัย นทีหาวอย่างง่วงมาก(?) ใจคิดแต่อยากจะไปฟัด(?)กับเตียงในห้องของเขาที่โดมสีน้ำเงิน

                เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ อีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารถยนต์เริ่มนิ่งสงบอยู่ในน้ำแล้วจึงคิดบางอย่างขึ้นมาได้

              ทันทีเมื่อรถยนต์นิ่งสงบอยู่ในน้ำ ไม่ควรเปิดประตูรถเพราะแรงดันน้ำจากภายนอกจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้

              แล้วสายตาของเขาก็ไปปะทะกับน้ำ....ที่กำลังรั่วเข้ามา(?)จากที่ไหนสักแห่ง(?)

    ขณะที่น้ำเข้ารถให้ออกทางหน้าต่างเท่านั้น โดยลดกระจกลง แบบมือหมุน (MANUAL) มีเวลาพอ แต่สำหรับกระจกไฟฟ้าจากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้รถจะจมอยู่ในน้ำระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอีกประมาณ ๑๐ นาที ถึงแม้เครื่องยนต์จะดับ ไม่ต้องกลัวไฟช็อต เพราะในรถยนต์จะใช้ไฟกระแสตรง (D.C.) ไม่เหมือนไฟบ้านที่เป็นกระสลับ (A.C.) ซึ่งเมื่อโดนน้ำแล้วช็อตเลย ฉะนั้นในรถยนต์จะไม่มีการช็อต การทำงานของกระจกไฟฟ้าไม่กี่วินาทียังพอมีเวลาที่จะทำงานได้

    ถ้านับ(?)ดูแล้ว ตอนนี้น่าจะผ่านมาเกือบห้านาทีแล้ว....

    แล้วนทีจึงเอื้อมไปลดกระจกลง...จะได้กลับโดมไปนอนสักที...

    ...ง่ายไปไหม(?)

    สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อยๆ เอาตัวออกที่ช่องหน้าต่าง ถึงแม้ช่วงที่เอากระจกลงจะมีน้ำไหลเข้ามาในรถก็ตาม ตัวเราก็สามารถว่ายน้ำออกทางหน้าต่างได้ ไม่ต้องห่วงข้าวของมีค่า ถ้ามีผู้โดยสารมาด้วยก็บอกให้กระทำเช่นเดียวกัน หากมีเด็กให้หนีบเด็กนั้นออกมากับตัวท่านได้อีกหนึ่งคน ดังนั้น แม้เวลาเสี้ยววินาที ก็ต้องรีบกระทำดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

    เนื้อหาบนสไลด์ปรากฏขึ้นมาในสมองอีกครั้ง...

    เด็กหนุ่มลอดตัวผ่านช่องหน้าตางออกมาปะทะกับสายน้ำในบ่อ..ทุกอย่างทุกสิ่งมืดไปหมดจนไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร...ทันใดนั้นเอง เนื้อหาอีกหนึ่งอย่างก็ปรากฏขึ้นมา

    ในกรณีหากน้ำลึกมาก ๆ อาจจะมองไม่เห็นว่าทิศใดเหนือหรือใต้น้ำ เพราะว่ามืดไปหมด ไม่ควรใช้วิธีว่ายน้ำ เพราะอาจว่ายน้ำไปทางทิศที่ไม่ขึ้นเหนือน้ำ ในกรณีนี้ควรปล่อยให้ตัวลอยขึ้นตามธรรมชาติ หรือลองเป่าอากาศดูฟองว่าลอยขึ้นทางทิศใด ก็ให้ว่ายไปทางทิศของฟองอากาศลอยไป เช่นนี้แล้วจะไม่มี
    อาการหลงน้ำ

    แล้วเขาก็ทำตามสิ่งที่ครูบอกอย่างว่าง่าย(?) นั่นก็คือการเป่าอากาศแล้วสังเกตฟองว่าลอยขึ้นไปทางทิศไหน เหนือ ใต้ ตะวันออก หรือตะวันตก...

    แต่ทว่า....

    เมื่อเขากำลังจะว่าย...ก็ดันมีสิ่งหนึ่งรัดพันขาเขา...จนทำให้นทีไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นไปตามฟองอากาศได้

    และจากที่คาดประมาณดูแล้ว...น่าจะเป็นพืชใต้น้ำ...(?)

    เดี๋ยวนะ...มันไม่ได้อยู่ในเนื้อหาที่สอนนี่..!

    เขาพยายามดื้นสุดแรงเกิด(?) เพื่อปลดห่วงที่พันธนาการเขาออกไปให้จงได้ ลมหายใจของเขาเหลืออีกไม่มากนัก แต่คงทันเวลา...ใช่ ทันเวลา

    ทันใดนั้นเอง เด็กหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่ามีมีดพับอยู่ในกระเป๋ากางเกง(?)

    และแล้วมีดพับก็ถูกใช้งาน นทีก็ว่ายน้ำขึ้นไปได้ในที่สุด....

    แต่

    เมื่อเขาผุดหัว(?)ขึ้นมากลางน้ำ

    เหล่าผู้คนรอบๆก็มองเขาอย่างกับตัวประหลาด

    แล้วเมื่อสังเกตดีๆ

    ก็พบว่ามีสาหร่ายทะเลอยู่บนหัวนทีกองหนึ่ง...

    .

    .

    .

    .

    ‘ . ‘   <<< ใบหน้าของนที

                *  A * <<< ใบหน้าของเหล่าไครมิเนอร์ผองเพื่อน

                = A = <<< ใบหน้าของสาวหล่อ

                ‘///’ a <<< ใบหน้าของนทีในปัจจุบัน

                .

                .

                .

                “เจแปนซังครับ...”

                เสียงหังเราะปริศนาลอยแว่วมา(?)

     

     

    ผลที่ได้เมื่อรอดจากเหตุการณ์นั้น :

    -          ได้ประสบการณ์(?)

    -          ได้ฉากขำๆ...(วอท?)

    -          ความแค้นต่ออาจารย์เจแปนเพิ่มขึ้นมา +0.99

    -          ความแค้นต่อสาหร่ายทะเลเพิ่มขึ้นมา +1.99

    -          ความแค้นต่อความง่ายเกินไป +0.1

    -          ได้ชีวิตที่ปกติสุขของตัวเองกลับคืนมา

    -          ได้เรียนรู้บางอย่าง(?)

    -          ได้อยู่ใต้น้ำ

    -          ได้ฝึกดำน้ำ

    -          ได้ปะทะกับพืชใต้ทะเล

    -          ได้เปียกน้ำ

    -          ได้มีความสุขกับเหล่าผองเพื่อนใต้บาดาล(???)

    -          ได้นอนพักหนึ่งวัน(?)

    -          ได้ XXX

    -          ได้ yyy

     

     

     

    อุปสรรคในระหว่างการทำภารกิจ :

    -          ความง่ายเกินไป(?)

    -          พืชใต้บาดาลที่พันแข้งพันขา

    -          มีดพับที่ขึ้นสนิม (เกี่ยว?)

    -          น้ำลึก

    -          มืด

    -          ง่วง ง่วง ง่วง ง่วง และง่วง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×