คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บุคคลผู้ไม่น่าจะพบเจอ
รีเมอร์ซีบิดขี้เกียจ หาวหวอดๆ และกลิ้งลงบนผืนทรายเป็นการจบการบริหารร่างกายประจำวัน เรียกสายตาของไซเรนสาวหลายตนให้หันมามองดูเด็กน้อยอย่างขันๆ
“รีม เลอะทรายหมดแล้ว” ไซเรนตนหนึ่งบินลงมาจากโขดหินพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ช่วยหนูน้อยปัดทรายออก เด็กหญิงยิ้มหวานขอบคุณ เบิกตากว้างเมื่อนึกอะไรออก ก่อนจะล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อ ยื่นของในมือไปให้ “รีมเอามาให้ค่ะ พี่สาวใส่นะ ต้องสวยจนคนหลงแบบยังไม่ต้องฟังเพลงเลย รีมรับรอง”
ไซเรนน้อยหัวเราะหน่อยๆอย่างไม่อยากเชื่อนัก แต่ก็ยอมให้เด็กน้อยเอาเปลือกหอยสีนวลทัดผมของนางตามใจชอบ แต่นัยน์ตาสองสีกลับเหลือบดูพระอาทิตย์ยามเช้าที่พ้นจากขอบน้ำมาพอสมควรแทนที่จะดูผลงานในมือ จนปีศาจสาวตนอื่นต่างก็กลั้นหัวเราะไม่ไหว เสียงคิกคักหวานใสสมกับสายเลือดนางไซเรนดังขึ้นระงม ขณะที่แอบจ้องมองทรงผมใหม่บนศีรษะเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์จากฝีมือเด็กน้อย
“เจ้าไปทำอะไรกับหัวซาเบียเนี่ย” เด็กชายที่โผล่ออกมาจากบริเวณป่าร้องอย่างตกใจ ทำให้มือเล็กละออกจากผมที่ดูไม่ต่างจากฟองน้ำทะเลถูกตัดที่มีปะการังเสียบอยู่ แปะด้วยเปลือกหอยสีนวลอันนั้น เด็กหญิงวิ่งโร่ไปกอดผู้เป็นพี่ชายที่เข้าไปฝึกวิชาในป่าตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ทำหน้างงๆกับคำพูดของพี่ชายโดยปราศจากอาการรู้สึกผิด ซาเบียหัวเราะเล็กๆกับสองพี่น้อง ก่อนจะเอามือสางผมให้เรียบร้อย ไม่ลืมที่จะเอาเปลือกหอยสีเหลืองนวลมาทัดที่ข้างหู
เควนตินยิ้มแห้งๆ ผงกหัวขอโทษนางไซเรนนิดหน่อย เพราะทั้งสองอายุใกล้กันมาก ซาเบียเองก็ใจดีและชอบเล่นเป็นเพื่อนเด็กน้อย ทำให้รีเมอร์ซีเหมารวมนางเป็นพี่อีกคน
“พี่สาวยังไม่ว่าอะไรข้าเลย” เด็กหญิงสะบัดหน้า หันไปอ้อนไซเรนน้อยแทน เด็กชายถอนหายใจเฮือกใหญ่ เรียกชื่อน้องสาวเสียงต่ำ
“ขอโทษค่ะ พี่สาวไม่ชอบเหรอ” รีเมอร์ซีถามเสียงอ่อย เมื่อถูกพี่ชายเรียกด้วยเสียงแบบนั้น ทำให้อดรู้สึกผิดไม่ได้ ซาเบียส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลูบเส้นผมสีดำอีกครั้ง ตอบด้วยเสียงเอ็นดู “ไม่ได้ไม่ชอบจ้ะ แต่มันล้ำสมัยเกินไปที่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจในความงาม”
เป็นเควนตินที่กรอกตาไปมาอย่างระอา ไอ้ทรงนั่นน่ะนะที่เรียกว่า‘ล้ำสมัยเกินไป’ เด็กชายเอามือแปะหน้าผาก รู้สึกปวดหัวแปลบๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาอ้อนๆแบบรู้สึกผิดอย่างนั้นของน้องสาวทำไปตามธรรมชาติ หรือเป็นความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวเล็กเองกันแน่
“ข้ารักพี่สาวที่สุดเลย” ร่างเล็กที่ไม่รับรู้ความคิดของพี่ชายกระโดดเกาะร่างที่สูงกว่าเพียงคืบสุดแรง จนทั้งสองกลิ้งหลุนๆ ไปชนเควนติน เด็กหญิงทั้งสองหัวเราะคิกคักกับสภาพเลอะทรายของตน โดยไม่ได้หันไปมองหัวที่ปูดขึ้นมาเล็กน้อยจากศอกเล็กๆบนหัวของเด็กชายเลย
“เอาละ เจ้าไปก่อนนะ วันนี้พี่ไปด้วยไม่ได้” ซาเบียหยุดหัวเราะ บอกเด็กหญิงตัวเล็กด้วยใบหน้ายิ้มๆ รีเมอร์ซีถอนหายใจเบื่อๆ แต่ก็ยอมเดินออกไปเล่นน้ำทะเลตามลำพัง วันนี้พี่ชายนางก็ต้องไปฝึกใช้พลัง พี่สาวยังไปล่าเหยื่ออีก น่าเบื่อที่สุด!
“ชิ” เด็กน้อยเดินออกมาอย่างงอนๆ เควนตินถอนหายใจระอาอีกครั้ง ก่อนจะไปฝึกใช้พลังต่อจากเมื่อวานที่ถูกแม่ตัวดีกวนถึงในป่าลึกจนฝึกไปไม่ถึงไหน ขณะที่ฝูงไซเรนสาวเริ่มร้องเพลงทันทีที่ทั้งสองห่างออกไปพอ
รีเมอร์ซีเดินเตะทรายไปเรื่อยๆ คอยเก็บเปลือกหอย และเด็ดผลไม้กินไปตามทาง นางต่างจากพี่สาวและพี่ชาย ขณะที่พี่สาวร้องเพลงเพราะขึ้นทุกวันๆ พี่ชายเก่งขึ้นทุกวันๆ แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พลังปีศาจก็ใช้ไม่ได้ พลังความมืดก็ใช้ไม่ได้ มนุษย์ก็กินไม่เป็น กินแต่น้ำอย่างพี่ชายก็ไม่อิ่ม แถมยังกินพืชที่นับได้ว่าเป็นญาติห่างๆอีก ถ้าไม่นับตาสองสีที่แปลกเกินมนุษย์ เด็กน้อยคงคิดว่าตัวเองเป็นลูกมนุษย์ที่ถูกเก็บมาเลี้ยงแน่ๆ
“อะไรกันเนี่ย”เสียงที่ดังขึ้นทำให้เด็กหญิงหันไปมองด้วยความตกใจและรีบซ่อนตัวตามสัญชาติญาณ เพราะที่นี่เป็นเกาะร้างที่ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ ถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องบินไปเกือบชั่วโมง ซึ่งนางก็เคยไปกับท่านน้าซิเรเน่ เด็กน้อยมองคนทั้งสามด้วยความครุ่นคิดจนคิ้วเล็กๆขมวดยุ่ง สามคนนั้นไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ จะเป็นปีศาจก็ไม่น่าใช่
อย่างน้อยก็รังสีประหลาดๆ ของสองคนนั่นที่นางคิดว่าไม่ชวนให้เข้าใกล้ ปีศาจต้องมีพลังแบบผู้ชายอีกคนนั่น ที่แผ่รังสีความมืดและกลิ่นอายความตายที่อบอุ่นสำหรับนาง สามคนนี้เป็นใครกันแน่...แค่พลังความมืดของคนนั้นแค่คนเดียวก็เหนือกว่าพวกท่านน้าทั้งถ้ำรวมกันแล้ว
“โพไซดอน นี่เจ้าพาพวกเรามาที่ไหนกันเนี่ย” ชายคนแรกถามชายอีกคน เด็กหญิงเงียบกริบแทบไม่กล้าหายใจขณะซ่อนตรงโขดหินพลางกรอกตาไปมาอย่างครุ่นคิด ชื่อคุ้นหูนั่นมันชื่อใครกันหว่า
“เจ้าพาพวกข้าหลงทางสินะ เสียเวลาชะมัด อย่าชวนข้ามาหลงได้ไหม” ชายพลังความมืดสูงพูดบ้าง จ้องมองไปยังอีกคนด้วยสายตานิ่งเย็น
“ฮาเดส ซุส พวกเจ้าจะมาโทษข้าได้อย่างไร” คนที่ถูกทั้งสองจ้องสวนกลับ ก่อนจะว่าต่อ “ต้องโทษเจ้าสิซุส อยู่ดีๆก็ถามที่ที่มีผู้หญิงสวยๆกับข้า ข้าจะรู้รอบจักรวาลหรือ”
คราวนี้รีเมอร์ซีสะดุ้งด้วยความตกใจจนเผลอถอยหลัง ล้มดังโครม
ใช่ นางคิดออกแล้ว ทั้งสามคนนี้คือคนที่ท่านน้าของนางเคยเล่าให้ฟัง เด็กหญิงรู้สึกอยากเอาหน้ามุดทราย และซ่อนอยู่ในนั้นไปตลอด ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ท่านเทพฮาเดสกำลังยกร่างของนางขึ้นมาอยู่ด้วยสายตาอ่านยาก ที่รีเมอร์ซีรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนางแน่ๆ
“แงๆ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น พวกท่านมาทำอะไรข้าไม่รู้เลย ปล่อยข้ากลับไปเถอะเจ้าค่ะ นะๆ” เด็กหญิงพูดรัวออกมาหลังจากทนสบตาเจ้านรกต่อไม่ไหว ร้องไห้ด้วยความกลัวสุดขีด ขณะที่มหาเทพทั้งสามมองหน้าปรึกษากันเล็กน้อย
“เจ้าได้ยินที่พวกข้าพูดไหม” ซุสถามเด็กน้อยที่ร้องไห้ไม่เลิกอย่างขันๆด้วยเสียงนุ่มน่าฟัง แต่ไม่ได้ทำให้รีเมอร์ซีรู้สึกหวาดกลัวน้อยลง นางสะบัดหน้าส่ายหัวทันทีแบบไม่ต้องคิด ขณะที่ฮาเดสจ้องเข้าไปในดวงตาสองสี เอ่ยกับผู้เป็นน้องชาย “นางเป็นปีศาจนะซุส”
“งั้นหรือ ว่าไง ปีศาจน้อย เจ้าได้ยินสินะ” ซุสรับคำอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะหันไปพูดกับเด็กน้อยต่อ “เอ้า ถ้าเจ้าสัญญาว่าไม่บอกใคร ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
“บอกใครเรื่องอะไรหรือ” เสียงหวานเอ่ยถาม
“เรื่องที่พวกเราจะมาเที่ยวผู้หญิงน่ะสิ” โพไซดอนตอบ เลิกคิ้วงงๆ เมื่อเห็นว่าริมฝีปากเล็กไม่ได้เอ่ยถาม พลางค่อยๆหันไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“พวกท่าน...” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยเสียงนิ่งๆ ขณะที่อีกคนตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ มหาเทพทั้งสองถึงกับหน้าซีดเผือด ขณะที่โพไซดอนถอนหายใจโล่งอกที่อีกคนไม่โผล่ออกมาด้วย
“เดี๋ยวนี้เจ้ารังแกเด็กด้วยรึไง” เฮราพูดเสียงเรียบ ซุสรีบปล่อยมือจากเด็กหญิงทันที ส่วนรีเมอร์ซีตัวน้อยก็ร้องไห้โฮหนักกว่าเดิม จนเพอร์ซโพนอดไม่ได้ที่จะดึงตัวเด็กหญิงเข้ามาปลอบ
“โอ๋ ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ข้าจะจัดการเอง”ราชินีแห่งมหาสมุทรที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ปลอบเด็กน้อยในอ้อมแขนเทพีแห่งยมโลก พูดประโยคสุดท้ายเสียงเรียบ จนผู้เป็นสามีขนคอลุกชัน
“อ้าว ว่าไง ซุส โพไซดอน ฮาเดส” เฮรายิ้มเรียบเย็น แบบที่ซุสเคยเห็นตอนที่นางกำลังพิโรธหนัก ผู้ที่พ่วงตำแหน่งราชินีแห่งโอลิมปัส และพี่ของสามมหาเทพมองกราดไปยังผู้เป็นน้องด้วยสายตานิ่งเรียบจนน่ากลัว ก่อนที่ฮาเดสจะมือกระตุกชี้ไปทางขวา พร้อมกับพูดอย่างรวดเร็ว
“ซุสพาข้ามา”
“เฮ้ย แต่โพไซดอนเป็นคนนำทางนะ”
“เพราะเจ้าบอกให้ข้าพามาไม่ใช่หรือไง”
เทพีแห่งโอลิมปัสละสายตาจากมหาเทพทั้งสาม หันไปมองเด็กน้อยที่สะอึกสะอื้นก่อนจะถามเสียงหวาน “เจ้าหนูน้อย เจ้าได้ยินอะไรบ้าง ตอบมา ข้าจะปกป้องเจ้าจากทั้งสามคนนี้เอง”
รีเมอร์ซีชั่งใจอยู่ชั่วครู่ คิดว่าจะเข้าข้างใครดีระหว่างมหาเทพ กับมหาเทพี ก่อนจะพูดเสียงเบา “เป็นอย่างที่ท่านเทพทั้งสามพูด”
ฮาเดสแอบยิ้มมุมปากอย่างโล่งใจ ดูท่าว่าความพิโรธของเทพีทั้งสามจะไปตกอยู่ที่พี่ชายทั้งสองแน่ๆ แต่เสียงหวานกลับเอ่ยต่อตามที่ได้ยินต่อ “แต่ข้าได้ยินว่าชวน ไม่ใช่พา”
คำสองคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่แตกต่างกันมากพอจะทำให้ฮาเดสติดบ่วงไปอีกคน เจ้านรกมองไปยัง สตรีทั้งสามที่กำลังประสานเสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมกันอยู่ด้วยความหวาดหวั่น ไม่อยากคาดคิดอนาคตของตนเองนัก
“รีเมอร์ซีเกิดอะไรขึ้น” เควนตินพุ่งเข้ามาหาน้องสาวด้วยความตกใจ ที่มีคนแปลกหน้าหกคนอยู่ แถมพลังที่แผ่ออกมาใช่ว่าจะเป็นพลังที่หาได้ทั่วไปร่างเล็กชะงักอยู่ไม่ไกลนัก เรียกต้นไม้มาพร้อมโจมตีทันที ขณะมองไปยังทั้งหกเขม็ง พร้อมที่จะเข้าไปช่วยรีเมอร์ซี หากอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรน้องสาวตัวน้อยของเขา
“อย่าตกใจเลยเจ้าหนูน้อย” เฮราว่าเสียงอ่อนโยน หันไปมองเด็กตัวเล็กที่ใช้พลังปีศาจได้อย่างมหาศาลจนน่าตกใจ
“พวกข้ามาดีน่ะนะ” แอมฟริไทรท์จ้องไปยังโพไซดอน ‘แต่กับเจ้าน่ะมาร้าย’
“พี่ ม..มหาเทพ” รีเมอร์ซีบอกด้วยเสียงสั่นๆ เควนตินเลิกคิ้วราวกับพิจารณาสิ่งที่น้องสาวพูดชั่วครู่ ก่อนที่นัยน์ตาสีเขียวจะเหลือบไปเห็นสามง่ามข้างกายชายคนหนึ่งเป็นเครื่องยืนยัน เด็กชายเบิกตากว้างอย่างตกใจรีบสะบัดมือทิ้งคลายพลังปีศาจ หมอบราบลงไปกับพื้นทันที “ท่านมหาเทพ มหาเทพี โปรดปล่อยน้องของข้าด้วยเถิดครับ”
“พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันรึ” เฮราเลิกคิ้ว นางมองเด็กน้อยตัวเล็กน่าเอ็นดูที่ยังมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อน กับเด็กชายที่หมอบราบกับพื้นโดยปราศจากความกลัวทั้งสีตา สีผม โครงหน้า ท่าทาง...ดูยังไงก็ไม่เหมือนพี่น้องกันเลยแฮะ
“นางเหมือนแม่ ส่วนข้าเหมือนพ่อน่ะครับ” เด็กชายเงียบสักพัก ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยตอบ “พวกท่านได้โปรดปล่อยนาง หากนางล่วงเกินอะไรท่านข้าขอรับแทนเองโทษฐานที่ไม่ได้สั่งสอนนาง”
“หืม เจ้าเป็นดรายแอดส์สินะ แล้วพ่อแม่เจ้าล่ะ” แอมฟริไทรท์เอ่ยถามบ้าง มองเด็กน้อยทั้งสองที่ไม่มีความคล้ายกันอย่างพิจรณา
“ข้าเป็นลูกครึ่งดรายแอดส์ พ่อกับแม่ของข้าตายไปแล้วครับ...ข้าอาศัยอยู่กับไซเรน” เด็กชายตอบประโยคสุดท้ายเสียงแผ่ว เกรงว่าจะนำความเดือดร้อนไปให้พวกไซเรน
“ไซเรน พาข้าไปหาพวกนางทีสิ ข้าไม่ได้เจอพวกนางนานนัก” เพอร์ซโพนแทรกขึ้มาเสียงสดใส ดูเหมือนจะลืมคดีเก่าของฮาเดสไปชั่วครู่ ก่อนที่จะตวัดตาคู่งามกลับไปมองสามีที่แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ‘โล่งใจรึ เสียใจด้วยที่ข้ายังไม่ได้ลืม’
“อย่าทำอะไรพวกพี่สาวเลยนะเจ้าคะ” รีเมอร์ซีที่เงียบมาสักพักพูดด้วยเสียงสะอื้นตะกุกตะกัก ดึงแขนเสื้ออย่างอ้อนวอน ขณะมองหน้าเทพีที่อุ้มนางอยู่ ดวงตาสองสีคลอน้ำตาอย่างน่าสงสาร
“อย่าห่วงเลย ข้าแค่อยากเจอเพื่อนเก่าน่ะ ข้าสัญญาว่าพวกนางจะไม่เป็นอะไร” นางรีบปลอบประโลมเด็กน้อยตัวเล็กที่รู้สึกถูกชะตาด้วยทันที ขณะกวาดสายตามองไปยังมหาเทพทั้งสาม ผิดกับเทพสาวผู้อ่อนโยนอย่างปกติ “หรือพวกท่านจะทำอะไรพวกนาง”
ราชาจากสามโลกส่ายหน้าพรืด นึกโทษกันไปโทษกันมาอยู่ในใจ สุดท้ายคือโทษแม่หนูตัวน้อยที่ฟ้องสามเทพี นึกอย่างส่งนางไปเป็นกลุ่มดาวอะไรซักอย่าง
แต่ก็นั่นแหละ มหาเทพีทั้งสามถึงกับออกโรงเอง ดูท่าจะถูกใจเจ้าหนูตาสองสีกันมิใช่น้อย แถมไอ้สายตาว่าเจ้าจะทำอะไรเจ้าหนูนี่หรือนั่นอีก คดีเก่าก็ยังไม่ทันหาย ใครมันจะกล้าส่งนางไปล่ะ!
อ่านด้วยนะคะ
ก่อนอื่นสวัสดีค่ะ
ไรเตอร์เอง(ไม่งั้นจะเป็นใคร) หลังจากที่หายใบนานวันนี้ก็มาอัพให้แล้วนะคะ
ก่อนอื่น สำหรับคนที่ติดตามอีกสองเรื่องด้วย ต้องขอโทษจริงๆที่ยังไม่ได้อัพให้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เขียนไว้แบบไม่มีพล็อต ตอนนี้พอใส่พล็อตไป เลยต้องแก้อีกยาว (เรื่องนี้มีพล็อตอยู่แล้ว เลยไม่ต้องแก้ค่ะ แต่อาจจะมีปรับบ้าง หากที่แก้ไปกระทบเนื้อหาจะแจ้งอีกที)
อันที่จริงกะว่าจะรอเขียนให้จบก่อน แล้วค่อยอัพลงทีเดียวไปทีละเรื่อง เพราะภาษาจะได้ไม่ประหลาดมาก แต่เปลี่ยนใจเป็นค่อยๆปรับไปดีกว่า และจะรีไรท์ใหม่หมดถ้ามีโอกาส
จะว่าเราน้อยใจก็ได้นะ เพราะเรื่องนี้มีแฟนคลับที่เยอะมากสำหรับเราที่เขียนได้ห่วยแตก เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เปิดได้น้อยกว่า และเนื้อหาที่ลงไปได้เล็กน้อย
แต่มันกลับมีเม้นแค่เม้นเดียว...รู้สึกเซ็งหน่อยๆน่ะค่ะ
อีกอย่าง เราก็ยุ่งมาก มากจริงๆ พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้ว เสาร์อาทิตย์ก็เรียนพิเศษ สารภาพตามตรงว่าดองแน่ ที่วันนี้มาลงเพราะว่าเปิดคอมอ่านหนังสือแล้วแวบมาเขียนให้ เราก็อยากได้กำลังใจบ้างนะ เพราะอุตส่าห์หาเวลามาลงทั้งที อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ชอบไหม ต้องปรับตรงไหน
เราขอไม่มาก 1คน อ่าน1ตอน ให้1เม้น เราขอแค่นี้ล่ะ
อันที่จริงสารภาพตามตรงว่าเรากะจะดองยาวเพราะงอนมาก แต่ก็เห็นหลายอันที่เขาเขียนดีกว่าเรา สนุกกว่าเรา แต่ไม่มีเม้นจนเกือบจะจบเรื่องแล้ว เราเลยรู้สึกผิด แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนดีแบบเขาที่จะทนไหวนะ
สรุป ขอเม้น! ขอกำลังใจ! (จะบ่นมายืดยาวเพื่ออะไร 55 เราไปละไปอ่านหนังสือต่อ ชีวะหนาเตอะยังอ่านไม่เสร็จเลย T^T)
ปล.มาขอเป็นเพื่อนก็ได้นะ เราไม่ค่อยได้เล่น แต่เข้ามาดูบ้างนานๆที เวลาอัพจะได้บอกได้ เพราะเราส่งmessageไม่ได้ ไม่รู้ว่าidเป็นอะไร ข้อความลับก็ส่งไม่ได้
ความคิดเห็น