ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tortarus มหานครนักฆ่า

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 งานชิ้นแรก

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 53


                   ณ ห้องพักห้องหนึ่งในปราสาท แห่ง ทอร์ทารัสแสงแดดยามเช้าฉายลงบนเตียงเล็กซึ่งมี

    เด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่ผมสีทองของเขาทอประกายดูสวยงามหูจิ้งจอกของเขาลู่ลงเหมือนลูกหมา

    ตอนนี้เขากำลังมีความสุขกับการนอนแต่คงทำได้อีกไม่นานนัก

                    ตึง ตึง

                   เสียงเคาะประตูดังขึ้นแถมดังขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนกับว่าคนข้างนอกเปลี่ยนจากมือเป็นใช้

    เท้าเคาะประตูแทนแล้ว

                    ตูม

                   ประตูห้องพักแสนสุขถูกถีบจนหลุดจากบานพับซึ่งมันเสียงดังพอจะปลุกให้หนุ่มน้อยตื่นจาก

    การนอนได้

                    "เวน!! นายคิดจะนอนไปถึงไหนกัน" เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันตะโกนขึ้นขณะเดินผ่าน

    ซากประตูเข้ามาในห้อง

                    "ผมว่าคุณต้องซ่อมประตูให้ผมด้วยนะครับ" เวนพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียเขาอาศัยอยู่ที่ทอร์

    ทารัสนี้มาได้ 2 ปีแล้ว ซึ่งนอกจากการฝึกซ้อม และนั้งอ่านหนังสือที่หอสมุดแล้ว ถ้าไม่นับการกินข้าว

    เดินเล่น เขาก็อยู่แต่ในห้องอย่างเดียว ไม่เคยมีงานอะไรมาให้เขาทำเลยเงินที่ใช้อยู่นั้นก็เป็นเงินของ

    ไคเซอร์และตั้งแต่เขาเข้ามาในสมาคมเขามีเพื่อนไม่มากนักหนึ่งในนั้นคือ รอส คนที่พึ่งจะพังประตู

    ห้องเข้ามาเมื่อกี้ เขามีอายุพอๆกับเวนเขามีผมสีเงินเป็นประกาย นัยตาสีเหลืองแถมเขายังเป็นครึ่ง

    สัตว์เหมือนกับเวนอีกด้วย คนๆนี้มีความสามารถต่างๆสูงโดยเฉพาะด้านเวทมนต์เรียกว่าอัจฉริยะเลย

    ก็ได้ แต่ความสามารถที่อัศจรรย์ที่สุดคือ การจีบสาวร้อยทั้งร้อยเขาสามารถเอาชนะใจสาวได้ด้วย

    หน้าตา และคารมซึ่งเวนไม่สามารถทำแบบเขาได้ถึงหน้าตาจะอยู่ระดับเดียวกัน

                     "นายนี่นะ เป็นหมาซะเปล่านอนเยอะกว่าแมวอย่างฉันอีก" รอสพึมพำเบาๆ

                     "แล้วคุณมีอะไรครับมาหาผมถึงห้องเลย" เวนถามขณะเดินไปเตรียมอาบน้ำ

                     "ก็แค่วันนี้ฉันมีงานต้องทำ เลยจะมาขอให้นายช่วยไปฝึกให้โรสหน่อยนะ" รอสพูดจบก็

    เดินออกจากห้องไป โรสนั้นคือน้องสาวสุดหวงของเจ้ารอสความสามารถนั้นดีแถบทุกด้านยกเว้น

    เวทมนต์เธอมีฝีมือต่างจากพี่ลิบลับจึงต้องหมั่นฝึกเป็นประจำ

                     "อย่าตายกลับมานะคับ" เวนตะโกนตามไป

                     "ประตูฉันซ่อมให้แล้ว พอกลับมาหวังว่าน้องฉันคงไม่ก่อเรื่องนะ" รอสตะโกนกลับมาใน

    ห้อง



                     ลานกว้างด้านหลังปราสาทมักถูกใช้เป็นที่ฝึกซ้อมเวทมนต์เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีพลังใน

    การรักษาตัวเองได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นหนึ่งอย่างที่เวนแปลกใจเมื่อได้รับรู้ และอีกอย่างคือ คน

    ทุกคนในเมืองนี้ล้วนเป็นนักฆ่าแต่ไม่ค่อยมีงานให้ทำพวกเขาจึงมาทำการค้าขาย ปลูกไร่ไถนาเพื่อ

    เป็นงานเสริมหาเงินมาใช้แก้ขัดก่อนที่งานจะเข้ามา

                     "เฮ้! เวนวันนี้เธอมาช่วยฉันฝึกแทนพี่ใช่ไหม" สาวน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้าหาเวน เธอมีผมยาวสี

    แดงเพลิงหน้ากลมรูปไข่เข้ากับตางามสีนิลถือได้ว่าเธอหน้าตาดีเลยทีเดียว เธอคือโรส น้องสาวของ

    รอสเพื่อนอีกคนหนึ่งของเวนอายุเธอนั้นน้อยกว่าเขากับรอสแค่ปีเดียวแต่ด้วยร่างกายที่เล็กทำให้ดู

    เหมือนเธอเด็กกว่าพวกเขาเยอะมากแต่ที่น่าแปลกคือเธอไม่ใช่ครึ่งสัตว์เหมือนพี่ของเธอ

                     "วันนี้ผมจะสอนควบคุมไอเวทให้นะครับ ดีรึเปล่าครับ" เวนดึงร่างของโรสที่เกาะอยู่บน

    หลังเขาออก

                     "ฝึก ฝึก ถ้าเวนสอนไม่ว่าอะไรฉันจะฝึกหมด" โรสโปยยิ้มหวานซึ่งแน่นอนผู้ชายที่กำลัง

    มองเธออยู่ส่วนใหญ่เริ่มหน้าแดงแล้วแต่ต้องยกเว้นเวนคนหนึ่งที่ไม่เป็นอะไรเลย อันที่จริงเธอเป็น

    คนขอให้พี่ช่วยให้เวนมาสอนเธอเองเพราะเธอนั้นชื่นชอบเขามาก

                     "งั้นเริ่มกันเลย รับนะ" เวนโยนลูกบอลเหล็กให้โรส ซึ่งเธอรับมาแล้วทำท่างงๆ แต่ก็เริ่มเข้า

    ใจเมื่อลูกบอลที่เวนถือเริ่มมีไฟมาปกคุมหมดทั้งลูก "หลักการนั้นง่ายๆคือควบคุมให้ไอเวทคุมลูก

    บอลทั้งลูกเพื่อเป็นการฝึกกำหนดไอเวทในการใช้เวทต่างๆ และสิ่งที่ควรระวังคือไม่ควรใส่ไอเวท

    มากไปเพราะมันจะ..."

                      ตูม

                     ไอเวทที่ห่อหุ้มบนลูกบอลระเบิดออก "นี้คือตัวอย่าง" โรสลองทำบ้างผลคือไอเวทคุมได้

    นิดหน่อยแล้วก็ระเบิดออก และเมื่อมองที่เวนเธอก็ต้องอึ้งเพราะเวนทำให้ไอเวทในมือเป็นทรงกลม

    ได้โดยไม่ใช้ลูกบอลทำให้เกิดลูกบอลไฟขึ้นแบบเดียวกันกับตอนที่ทดสอบพลังแฝง แล้วเขาก็ขว้าง

    ออกไปคราวนี้มันไม่ระเบิดแต่กลับลอยไปลอยมาตามที่เวนต้องการ

                      "นายทำได้ไง" โรสถามอย่างตกใจ เพราะรอสเคยบอกเธอว่าการส่งไอเวทออกจากร่าง

    แล้วทำให้มันคงสภาพเดิมนั้นทำได้ยากนอกจากเขาแล้วในโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คนที่ทำได้ แต่เธอกลับ

    ได้เห็นมันต่อหน้าต่อตา เธอรู้ดีว่าถามไปเขาคงไม่ได้ยิน เพราะต้องใช้สมาธิสูงมาก

                      "ลองไปถามรอสดูนะครับ" เวนหันหน้ามาตอบ

                      "หวัดดีเวน อ้าวโรสก็อยู่ด้วยหรอ" คนที่อยู่ดีๆก็มาอยู่ดีๆก็ไปแบบนี้มีเพียงคนเดียวนั้นก็คือ

    ไคเซอร์

                      "มีอะไรหรอครับปกติไม่ค่อยเห็นคุณออกจากห้อง" เวนถามขณะเรียกลูกบอลไฟกลับมา

    อยู่ในมือ

                      "ฝีมือดีขึ้นเยอะนะ ฝึกเสร็จแล้วไปพบฉันที่ห้องด้วย" แล้วเขาก็ไป

                      "คุณโรสฝึกต่อไปนะครับผมจะไปหาคุณไคเซอร์" เวนหายตัวตามไคเซอร์ไปทิ้งโรสไว้

    คนเดียว



                      "อ้าว! มาไวจัง" ไคเซอร์เปิดประตูเข้ามาเห็นเวนนั้งรออยู่แล้ว

                      "เอาน้ำชาไหม" ไคเซอร์เดินไปหยิบชุดน้ำชามาให้

                      "น้ำเปล่าดีกว่าครับ" ถึงจะทำให้ไคเซอร์หงุดหงิดนิดหน่อยแต่เวนก็ไม่สามารถดื่มชาของ

    ไคเซอร์ได้ ครั้งสุดท้ายเขาท้องเสียไป 3 วัน 3 คืน

                      "เอารับ" ไคเซอร์โยนเอกสารกองหนึ่งใส่เวน

                      "อะไรหรอครับ" เวนถามอย่างงงๆ

                      "สิ่งที่เธอปรารถนามาตลอด 2 ปี" พอได้ยินเวนก็ยิ้มกว้าง เมื่อเขาได้รับงานทำเขาก็จะ

    สามารถออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกทอร์ทารัสได้

                      "ฉันจะขออธิบายรายละเอียดแบบคร่าวๆนะ ที่เหลือไปอ่านเองคงไม่ว่ากันนะ" แต่ตอนนี้

    เวนก็เปิดเอกสารเหล่านั้นอ่านอย่างมีสมาธิเขาไม่ได้ยินแล้วว่าไคเซอร์พูดอะไรบ้าง

                      "ให้สังหารผู้นำลัทธิ แคร์โรลิส ตอนนี้อาศัยอยู่ที่โซวานาเมืองที่อยู่แบบเอกเทศไม่ขึ้นต่อ

    อาณาจักรใด ส่วนค่าจ้างวาน อืม....เอาเป็นว่าเยอะละกัน" เวนไม่ค่อยชำนาณด้านตัวเลขเลขศูนย์

    ต่อๆกันประมาณ 12 ตัวก็ทำเขาตาลายได้เลย

                      "ค่าจ้าง 5 ล้านล้านเดนี พอที่นายจะเอามาใช้หนี้ฉันได้หมดจริงไหม" ไคเซอร์พูดด้วยน้ำ

    เสียงเย็นชาเพราะเงินของเขาที่เวนใช้ตลอด 2 ปีนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย

                      "คะ...ครับ" แล้วเวนก็หายตัวไป

                      "5ล้านล้านนี้มันค่าจ้างราคาต่ำสุดเลยนะ แต่ท่าทางหมอนั้นจะไม่รู้ตัวนะ" ไคเซอร์บ่น

    พึมพำพลางเดินไปที่โต๊ะทำงาน



                      "คุณโรสครับผมต้องออกไปทำงานนะครับ ฝึกคนเดียวได้ไหมครับ" คำว่าทำงานถูกเน้น

    ด้วยความดีใจโดยไม่รู้ตัว เขากลับมาหาโรสที่สนามฝึกเพื่อบอกลาก่อนไปทำงาน

                      "งานชิ้นแรกของเวน ขอให้ทำงานสำเร็จนะ" โรสอวยพร

                      "นี้ นี้ ว่าแต่เธอใช้อาวุธอะไรหรอ" โรสไม่เคยเห็นเวนใช้อาวุธเธอจึงอยากรู้ไว้เผื่อว่าจะได้

    ร่วมงานด้วย

                      "อาวุธหรอครับ อืม....นี้คงนับเป็นอาวุธได้นะครับ" เวนหยิบมีดพับในกระเป๋าออกมาแล้ว

    กางให้โรสดู เธอทำหน้าอึ้งแบบสุดๆคงไม่เชื่อว่าเวนจะใช้แค่มีดพับ "พอดีผมไม่ค่อยมีทุนหาอาวุธ

    ดีๆ แต่เจ้ามีดนี้ผมว่าเหมาะมือดีนะครับ" ว่าแล้วเวนก็ควงมีดโชว์ด้วยความรวดเร็วแถมหยิบออกมา

    อีกเล่มเพื่อควงเพิ่มอีกมือ

                      "งั้น..งั้นช่วยบอกวิธีใช้ที่นายคิดว่ารุนแรงที่สุดให้ฉันดูหน่อย" โรสพูดขึ้นเธอไม่เชื่อว่าจะ

    ใช้อาวุธนี้ฆ่าคนได้เพราะมันเป็นอาวุธประชิดที่เล็กมากจึงเสียเปรียบอาวุธทุกชนิด

                      "ก็แค่เข้ามาประชิดตัวแล้วก็แทงง่ายๆครับ" เสียงดังมาจากด้านหลังเธอเวนมาอยู่ข้าง

    หลังเธอแล้วตอนนี้ 'มองไม่ทันเลย' เธอคิดขึ้นแล้วก็เชื่อว่าเวนสามารถฆ่าคนได้ด้วยมีดพับ 2 เล่มนี้

                      "ผมว่าผมไปดีกว่าจะได้มีเวลาเที่ยวเล่นเยอะๆ" เวนพูดจบก็ร่ายเวทเคลื่อนย้ายขึ้น แล้วก็

    หายตัวไปทิ้งไว้เพียงไออุ่นจากร่างกายที่ยังอบอวนอยู่บริเวณหลังของเธอแต่เพียงแค่นี้เธอก็พอใจ

    แล้ว



                      ห้องของไคเซอร์เป็นห้องที่รกที่สุดที่เวนเคยเห็นบนโต๊ะมีแต่กองเอกสาร บนพื้นก็มีแต่

    กองเอกสาร บนโซฟามีหมอนพร้อมผ้าห่ม ชั้นหนังสือจัดเรียงอย่างไม่เป็นระเบียบตอนนี้เจ้าของห้อง

    กำลังนั้งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานพออ่านจบก็็โยนลงไว้บนพื้น

                      "คุณไคเซอร์ครับ ผมขอยืมแผนที่ได้ไหมครับ" เวนโผล่เข้ามาในห้องแล้วถามไคเซอร์

    ขณะที่ร่างของตนเต็มไปด้วยเหงื่อ

                      "ไปหลงมาละสิ แผนที่หรอ...อยู่ที่กองทางซ้ายมือนายกองล่างสุดอันที่สามจากทางขวา"

    ไคเซอร์พูดโดยไม่เงยหน้ามามอง นี้คือความสามารถอย่างหนึ่งของเขาไม่ว่าเขาจะโยนของอะไรไว้

    ตรงไหนเขาก็จำได้หมด

                      "โซวานาเป็นเมืองกลางทะเลทรายนายจะหลงก็ไม่แปลกหรอก" เขาย่อมรู้ดีเพราะเขาเคย

    ไปหลงมาแล้ว

                      "เปล่าหรอกครับผมไม่ได้หลงผมแค่อยากรู้ว่าโซวานามีที่ดีๆใ้ห้เที่ยวรึเปล่า" เวนพูดขึ้น

    อันที่จริงเขาไปเดินหลงอยู่กลางทะเลทรายมาแต่ไม่กล้าบอก "คุณไคเซอร์ครับที่คุณเขียนไว้ว่า โน

    บราผับมันคืออะไรครับ" คนถูกถามถึงกับสะดุ้งสุดตัว

                      "ถ..ถ้านายจะ..จะหาที่เที่ยวนะ...นายละ..ลองไปที่ พะ..พาราได สิ" ไคเซอร์พูดตะกุกตะกัก

    ด้วยความอาย "แล้วโนบราพับล่ะครับ" เวนย้อนถามอย่างสงสัย

                      "เป็นที่ๆนายห้ามไปเด็ดขาด!!!!!" ไคเซอร์ตะโกนลั่นแล้วก็ถีบเวนออกจากห้อง

                      "สงสัยคงต้องแวะไปดูซักหน่อย" เวนพูดแล้วยิ้มแบบขบขัน "เพื่อมีอะไรดีๆที่ไคเซอร์ปิด

    บังไว้" แล้วเวนก็ยิ้มกว้างแล้วหายตัวไป



                      กลางทะเลทรายที่ร้อนระอุมีเมืองๆหนึ่งตั้งอยู่ประตูทางเข้าเมืองมีป้ายใหญ่ติดไว้ว่าโซวา

    นาเป็นเมืองที่แสนจะสงบสุขเป็นเมืองที่ไม่มีผู้นำทุกคนเชื่อแต่ในลัทธิแคร์โรลิสว่าเป็นลัทธิที่ยิ่งใหญ่

    ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้าจ้าวลัทธิเป็นเหมือนร่างจำแลงของพระเจ้าแต่หารู้ไม่ว่าความเชื่อเหล่านี้

    กำลังจะพังทลายไปด้วยน้ำมือของเด็กคนหนึ่งที่ดูไร้พิษสงที่ตอนนี้กำลังเเดินเล่นอยู่ที่ลานกลาง

    เมืองที่เรียกว่า พาราได เป็นที่ๆสวยงามมากพื้ปูด้ยอิฐทรายรูปร่างต่างๆตรงกลางมีน้ำพุ 5 ชั้น ตัว

    เมืองเป็นอาคารต่ำๆเพื่อป้องกันความเสียหายจากพายุทะเลทรายพื้นถนนที่เด็กคนนั้นกำลังเดินอยู่

    ทำจากอิฐทรายทรงสี่เหลี่ยม เด็กคนนี้กำลังเดินหาอะไรบางอย่าง

                      "รู้ไหมคับว่าที่ตั้งลัทธิแคร์โรลิสไปทางไหนครับ" ในเมื่อหาไม่เจอเขาจึงต้องถามคนที่

    อาศัยอยู่ในเมือง

                      "ไปทางโน่นเลยจ๊ะหนู ว่าแต่หนูจะไปทำไมหรอ" คนที่ตอบเป็นหญิงวัยชรากำลังนั้งขาย

    ผลไม้อยู่ "ผมมีธุระนิดหน่อยบนะครับ"

                      "แล้วหนูชื่ออะไรล่ะ เอาผลไม้ย่าให้" ผลไม้ทะเลทรายเป็นผลไม้ที่อร่อยมากแถมราคาก็

    แพงมากด้วยไม่รู้ด้วยเหตุใดย่่าคนนี้จึงมอบมันให้เด็กน้อยฟรีๆ

                      "ขอบคุณครับ ผมชื่อว่าเวนครับ" เด็กน้อยตอบพอรับผลไม้มาแล้วก็เดินจากไป

                      "ช่วยด้วยจ้า!!
    ช่วยด้วยจ้า!! เด็กนั้นขโมยผลไม้ฉันไปจ้า" ย่าตะโกนลั่นแล้วยิ้มให้เวน

    อย่างเจ้าเล่ "ซวยแล้วไงเรา" เวนเริ่มออกตัววิ่งเพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามีความามารถในการ

    วาร์ปเขาจึงต้องหาบริเวณที่ไม่มีคนเพื่อวาร์ปหายตัวไป แต่ปัญหามีอยู่ว่า เมืองมีมีประชากรหนาแน่น

    แถมผังเมืองวางไว้แบบไม่มีซอก ซอยเลยมีแต่ถนนใหญ่ และตอนนี้กลุ่มทหารก็วิ่งใกล้เข้ามาแล้ว

                      จากจะมาฆ่าคนตอนนี้เขากำลังถูกไล่ฆ่าแล้วงานชิ้นนี้ของเขาจะสำเร็จไหมเนี่ย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×