ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◤คลังฟิคสั้น 1D ◥

    ลำดับตอนที่ #6 : [Larry] เจ้าเล่ห์ part2 end

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57


    เจ้าเล่ห์ PART 2 (จบ)




    มีผู้หญิงอีกมากมายที่ผมนัดมาเดท


    และแฮร์รี่ก็ทำมันล่ม พังไม่เป็นท่า


    เหตุการณ์เป็นแบบนี้เสมอ เสมอ เลย


     


    แฮร์รี่ไม่เหนื่อยหรือไงวะ มากวนผมอย่างนี้


    แต่บอกตรงๆผม เหนื่อย-มาก


     


    จากเมื่อวานที่แม่โทรมาบ่นผมอีกครั้งทำให้ผมตัดสินใจว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องทำให้ได้


     


    ไม่ว่าใครหน้าไหนมันจะกวนใจยังไงก็ตาม


     


    ผมเลือกนัดคู่เดทเป็นนิกกี้ นางแบบสุดเอ็กซ์


     


    ยังไงคืนนี้ผมก็ต้องเผด็จศึกให้ได้


     


    อุว่ะฮ่าฮ่า!


     


    ผมโทรจองห้องที่โรงแรมจากบ้าน งานนี้จะไม่มีใครรู้เด็ดขาด ว่าผมนัดคู่เดทผมไปที่ไหน เพราะโรงแรมนี้จะไม่

    บอกรายชื่อผู้เข้าจองง่ายๆแน่


    คิดได้ดังนั้นผมก็ยิ้มกว้างกับตัวเอง ไม่ได้สังเกตถึงนัยน์ตาสีเขียวที่มองมาอย่างสงสัย


    ผมเดินผิวปากเข้าห้องซ้อมอย่างมีความสุข


     


     


     


     


    “ลูอิส... คุณช่าง เซ็กซี่”


    “หรอครับ” ผมพยายามทำเสียงให้ทุ้มและแหบอย่างเซ็กซี่


    พยายามทำเสียงให้ได้แบบแฮร์รี่


    ...เห้ ! จะไปทำตามหมอนั่นทำไมกัน


    ...เอ่อ ก็เวลาเขาพูดแล้วเสียงเขาเซ็กซี่ดีนี่เนอะ...


    “ค่ะ คิกๆ” เธอยิ้มน้อยๆเมื่อผมไล้มือไปตามหลังเธอ ต่ำเรื่อยๆ...จนกระทั่ง


    You’ve got that one thing ~ So Get out get out~


    Shit!!!!!!” ผมสบถออกมาเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น


    ใครแม่งโทรมาตอนนี้ว่ะสาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส


    กำลังจะได้แล้วเว้ยยยยย


    “ครับ” ผมรับโทรศัพท์ แต่ยังไม่วายส่งสายตาออดอ้อนให้นิกกี้


    “บูแบร์เหรอลูก รีบกลับบ้านเร็ว เพื่อนลูกมาที่บ้านกำลังไม่สบายอย่างหนัก ไข้ขึ้น 40 องศา ตัวร้อนจี๋เลยลูก

    เขายังไม่ได้สติ..เรียกแต่ชื่อลูกนะบูแบร์ “


    “โธ่ แม่ครับ พาไปหาหมอก็จบแล้วครับ ตอนนี้ผมไม่ว่างอย่างมากฮะ”


    “บูแบร์ พ่อออกไปข้างนอก เราก็รู้ว่าแม่ขับรถไม่เป็น”


    “แต่..แท็กซี่..”


    “ไม่ ฟังนะบู ถ้าไม่มาแม่จะโกรธลูกมาก เขาไม่สบายหนักมากนะลูก”


    “แต่เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันครับ ถ้าผมไม่ทำคืนนี้แม่ก็โวยผมอีก”


    ผมกระซิบ หันไปยิ้มกับนิกกี้เป็นพักๆ


    “ไม่บู แม่จะไม่โวยอะไรอีกถ้าลูกมาที่บ้าน ตอนนี้ ก่อนที่เพื่อนลูกจะตาย!


    ห๊า ! ตายเลยเรอะ


    คำว่าตายเริ่มทำให้ผมตระหนักได้


    เพื่อนผมไม่สบายหนัก แล้วทำไมผมถึงทำตัวเลวไม่ไปหาเพื่อนได้!


    ใครวะ มือผมเริ่มสั่น


    เลียม ?


    ไนออล ?


    เซน ?


    หรือว่าจะเป็น..


    ดวงตาผมเบิกกว้างเมื่อชื่อสุดท้ายลอยขึ้นมาในหัว


    แฮร์รี่ ?


    “แม่ แม่ครับ!เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”


    ผมรีบลานิกกี้พร้อมบอกเหตุผลที่ขัดไม่ได้ เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ ผมจูบปากเธอเบาๆแล้วรีบวิ่งลงบันได

    15 ชั้น ให้ตาย ลิฟต์โรงแรมตอนกลางคืน คุณก็รู้ว่ามันไม่ค่อยมาหยุดที่คุณง่ายๆ


    ไร้ทางเลือก


    ผมวิ่งอย่างทุลักทุเลลงมาจากชั้น15ถึงชั้น1อย่างรวดเร็ว


    ลืมว่าผมเป็นคนวิ่งช้าแค่ไหน


    ลืมว่าผมห่วยแตกการวิ่งแค่ไหน


    ลืมว่าผมเหนื่อยง่ายแค่ไหน


    ลืมทุกอย่าง


    ตอนนี้ผมคิดถึงแฮร์รี่ ..


    ถ้าเขาเป็นอะไรไปล่ะก็..


     


    ผมปาดน้ำตาใสๆที่เอ่อขึ้นมาคลอที่ดวงตา


    ผมขับรถอย่างรวดเร็ว


    ไม่คาดเข็มขัด ทั้งๆที่ผมเป็นคนเข้มงวดกับกฏจราจรมาก


    ฝ่าไฟแดง


    แซงตำรวจ


    ปาดซ้าย ปาดขวา อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน


    จราจรที่ติดขัดทำให้ผมเผลอคิดสิ่งที่ไม่ควรคิด..


     


    แฮร์รี่


    ถ้านายเป็นอะไรไปฉันจะทำยังไงดี


    ผมหวนคิดถึงสิ่งที่เราสองคนทำร่วมกัน


    ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ผมกับเขาเขียนร่วมกัน


    ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่เราอัดกันเล่นๆ ผมเล่นเปียโน ส่วนเขาร้องเพลง...


    ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน


    ไม่ว่าจะเป็นห้องเล็กๆอบอุ่นของเขาที่ผมไปนอนค้างบ่อยๆ


    หรือว่าจะเป็นห้องเล็กๆของผมที่เขามาขลุกตัวอยู่บ่อยๆ


    ...


    ความทรงจำมากมายระหว่างผมกับแฮร์รี่ผุดขึ้นมาเป็นสาย...


    ดั่งสายน้ำที่ไม่มีวันหยุด


    ความทรงจำมากขนาดนี้..


    คงไม่แปลกใช่มั้ย


    ถ้าผม...


    ถ้าผมจะ....


     


    ไม่นะ!ผมเบิกตากว้าง สลัดความคิดบ้าๆที่ผุดขึ้นมาในหัว


    รีบโฟกัสไปกับถนนสายยาวข้างหน้า อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว


    ตั้งใจขับรถสิ ลูอิส


    ตั้งใจ


    มองไปข้างหน้า


    อย่าคิดถึงมัน


     


    อย่าคิดถึง เขา


     


    ผมเตือนสติตัวเอง ก่อนจะขับรถถึงบ้าน จอดเอี๊ยดแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว


     


    ไม่มีทาง


     


    เขาไม่มีทางรักแฮร์รี่เด็ดขาด


     


     


    หลังจากที่เจอแม่ ผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องผมตามที่แม่บอกว่าแฮร์รี่อยู่ในห้อง


    หลังจากมารอเจอผมตั้งแต่เย็น


    ผมรีบวิ่งขึ้นบ้าน ไม่สนใจสายตาของแม่ที่มองมาด้วยความเป็นห่วง


    อาจเป็นเพราะเหงื่อที่ไหลท่วมตัวของผมตอนนี้ก็เป็นได้


     


    ทันทีที่ถึงห้องผมก็รีบเปิดประตู  วิ่งปราดเข้าไปหาร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียง


    “แฮร์รี่...แฮร์รี่” ผมเอ่ยเสียงเบา เอามือตบหน้าเขาเบาๆให้รู้สึกตัว


    เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหน้าผม ดวงตาสีเขียวมรกตมองเข้ามาในดวงตาผมเนิ่นนาน....ราวกับจะหาอะไร

    บางอย่าง..


     


    “แฮร์รี่ นายเป็นอะไรหรือเปล่า แม่บอกว่านายไข้ขึ้นสูงมาก ทำยังไงถึงเป็นไข้อย่างนี้ แล้วทำไมไม่ไปหาหมอ

    ถ้ารู้ว่าตัวเองไม่สบาย มาหาฉันที่บ้านทำไม แล้วเป็นตั้งแต่ตอนไหน ลุกไหวไหม ฉันจะพานายไปหาหมอ

    แล้ว...แล้ว...”


    มือหนาเอื้อมมาสัมผัสหน้าผมอย่างแผ่วเบา ปัดผมหน้าม้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อออกให้ เช็ดน้ำตาผมอย่างอ่อน

    โยนราวกับจะปลอบประโลมผมอย่างอ่อนหวาน..


     

    “ใจเย็นๆ” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยน้ำเสียงเบา


    “ค่อยๆพูดนะ..” เขาเอ่ย ผมส่ายหน้าไปมา น้ำตาร่วงหล่นหนักเมื่อเห็นหน้าแดงๆด้วยพิษไข้ของเขา


    ผมปีนขึ้นไปบนเตียง ขดตัวนั่งข้างๆเขาแล้วเอามืออังหน้าผากร้อน...


    เอ๊ะ?


     


    ทำไมไม่ร้อน?


     


    ไหนแม่บอกว่าไข้ขึ้น 40 องศาไง?


     


    ยังไม่ทันที่จะคิดได้ ร่างสูงก็ดึงแขนผมเข้าไปแล้วโอบกอดผมไว้ พลิกตัวขึ้นคร่อมผมทันที


     


    “ฮะ....แฮร์รี่?”


    ผมช็อค ไม่เข้าใจสิ่งตรงหน้า


     


    “นาย? ไม่สบายไม่ใช่หรอ ?”


     


    “หึ... “ เขายิ้ม “ไม่สบายครับ... ไม่สบายใจน่ะ”


     


    ผมเบิกตากว้าง


     


    เขา หลอก ผม!!


     


    อีก แล้ว!!


     


    แต่การโกหกครั้งนี้มันต่างจากครั้งก่อนๆ


     


    เขาใช้ความเป็นความตายมาหลอกผม


     


    ใช้ความเป็นห่วงของผม...


     


    นี่ก็คงเป็นแผนสินะ


     


    ในเมื่อไม่รู้ว่าผมนัดคู่เดทที่ไหน


     


    ก็ล่อให้กลับมาบ้านซะก็สิ้นเรื่อง


     


    ...ฉลาดจัง ผู้ชายคนนี้


     


    ฉลาดสมกับเป็นแฮร์รี่


     


    หลอกคนโง่ๆอย่างผมซะจม


     


    ฮะๆ


     


    ทำไมผมมันโง่ขนาดนี้นะ


     


     


    “ลูอิส... นาย เป็นอะไร”


     


    ดวงตาสีมรกตตรงหน้ามองผมอย่างเป็นห่วง

     

    ฮะ? เป็นห่วง

     

    ไม่มีทาง นี่ก็คงเป็นอีกไม้นึงที่หลอกให้ผมตายใจ

     

    “ฉัน..” ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้เสียงสั่น

     

    “ฉันไม่เข้าใจว่า...นาย... ฮึก”

     

    “....”

     

    “นายทำอย่างนี้ไป... เพื่ออะไร?”

     

    “...”

     

    “นายหลอกฉัน ! นายรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงนายแค่ไหนนะ ฮะ !!!นายเคยรู้อะไรบ้างไหม


     ฉันวิ่งลงมา 15 ชั้น ฉันรีบขับรถ ฉันแซงรถคันอื่น ไม่สนใจว่าเขาจะบีบแตรใส่ฉันขนาดไหน ฉัน... ฮึก...”


    ผมดันอกของร่างสูงตรงหน้า ซบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่


    “ฉันเป็นห่วงนาย... แต่ทำไมนายถึง ... หลอก... ฉันแบบนี้”


    มือใหญ่จับคางผมให้พลิกกลับไปสบตากับเขา


    ดวงตาสีมรกตของเขาฉายแววดีใจ


    “ลูอิส.. ฉันมีเรื่องจะบอก..”


    “ฮะ ? เหอะ คงดีใจมากสินะ” ผมข่มความเจ็บปวดไว้ข้างในใจลึกๆ เก็บน้ำตาไว้ในใจให้ลึกที่สุด


    “นายชนะฉันทุกอย่างเลยนี่ ฮะ.. ทุกคน คู่เดททุกคนของฉันกลายเป็นของนาย วันนี้นายคงดีใจสินะ ที่แผน

    เดทของฉันก็พัง.. ล่มไม่เป็นท่าอีกแล้ว”


    “ไม่ฉันไม่...”


    “แฮร์รี่ ถามจริงเถอะนะ ฉันทำอะไรผิดเหรอ?”


    “ไม่...” เขาส่ายหน้า


    “ทำไมต้องขัดขวาง ? ทำไมต้องแย่งทุกคนไป ? ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?”


    “...”


    ดวงตาสีสวยมองผมอย่างไม่เข้าใจ


    ไม่เข้าใจอะไร?


    มันควรเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ต้องมองเขาแบบนั้น


    “นายแย่งทุกคนไปจากฉัน ฉันเข้าใจว่าเราเป็นเพื่อนรักกันซะอีกนะ..”


    ดวงตาของเขาฉายแววเจ็บปวด...หากแต่ก็แปรเปลี่ยนกลับเป็นแบบเดิม


    “นายดีใจมากใช่มั้ย.. ที่ฉันยังไม่มีใครมาจนถึงทุกวันนี้”


    ผมมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ


    “ใช่..”


    สิ้นเสียงเขา ผมก็กำหมัดต่อยเขาไปเต็มแรง


    “ไอ้บ้าแฮร์รี่!ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ!ฉันเกลียดนาย! ออกไปเลยนะ”


    น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาผมไม่ขาดสาย


    แฮร์รี่เอามือกุมหน้า ดวงตาของเขาฉายแววเจ็บปวด ตัดพ้อผม..


    เขาจะรู้ไหมว่าสายตาแบบนั้นทำให้หัวใจผมเจ็บปวดเช่นกัน


    เขาจะเจ็บมากไหมนะ?


    ให้ตาย ผมคิดบ้าอะไรอยู่! ผมพลิกคว่ำซบหน้าลงกับหมอน ไม่อยากเห็นหน้าหมอนั่น


    ไม่อยากเห็น


    แม้แขนผมจะถูกเขาสัมผัสแล้วดึงเบาๆให้หันมาแต่ผมก็ไม่สนใจ


    “ลูอิส..”


    ผมไม่สนใจ


    “หันมาหาผมหน่อยนะคนดี..”


    แฮร์รี่กุมมือผมไว้กับหน้าอกตัวเอง เลื่อนมันไปที่หัวใจของเขา


    ตึกตึก ตึกตึก


    “นาย... ไม่เคยรู้เลยสินะ ว่าตลอดมาฉันรู้สึกยังไง”


    ระ..รู้สึก? อะไร?


    หรือเขาจะเกลียดผมตั้งแต่แรก


    ผมพลิกหน้าหันไปมองเขาทันที


    “นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงดีใจที่นายยังไม่มีใคร...”


    ผมทำได้แต่เงียบ มองเขาด้วยความไม่เข้าใจ


    เพราะนายเกลียดฉันงั้นเหรอ


    ความคิดนั้นทำให้ผมรู้สึกเจ็บลึกๆในใจ


    “นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงเข้าไปขัดขวางความรักของนายทุกคน”


    “ไม่.. ไม่เข้าใจ ทั้งที่นายก็หาของนายได้..” ผมส่ายหน้าไปมา


    “ฮะๆ.. ใช่ ใช่ ฉันหาเองได้ แต่ที่ฉันต้องมาแย่งนาย มาขัดขวาง”


    “...”


    “เพราะฉัน ไม่อยากให้ใครได้ตัวและหัวใจของนายไป”


    เขาทอดมองผม สายตาหวานทำให้ตัวผมเริ่มสั่น


    ผมเบิกตากว้าง


    หัวใจของผมเต้นระรัว


    “ฉัน.. ขอโทษนะ ถ้ามันทำให้นายไม่สบายใจ”


    ผมพูดไม่ออก


    “แต่.. อันที่จริง .. ฉันไม่เคยมองนายเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกแล้วล่ะ


    ฉันไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน


    ว่ามองนายไปทางนั้นตั้งแต่ตอนไหน


    รู้ตัวอีกทีฉันก็มองแค่นาย..”


    ความจริงที่ผมรู้ทำให้ผมช็อค


    “เสียงของนาย ใบหน้าของนาย รอยยิ้มของนาย ดวงตาของนาย .. ลูอี้”


    “...”


    “ทุกอย่างที่เป็นนายทำให้ฉันหลงใหล.. ฉันใช้ความเป็นเพื่อนสนิทที่นายให้ กั้นทุกคนที่คิดจะเข้ามาจีบนาย..”


    ฮะ ? นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่มีแฟนใช่มั้ย


    “ฉันแค่... ขอโทษนะ ฉันหวงนาย.. มาก”


    มือใหญ่ของเขายกขึ้นลูบใบหน้าผม สัมผัสแผ่วเบานั่นทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อน


    สัมผัสที่อบอุ่นของเขา


    อบอุ่นเสมอ


    “หลังจากที่ฉันแย่งทุกคนไปจากนาย... ฉันก็ทิ้งพวกเธอไว้ ไม่เคยคิดจะสานต่อเลย”


    ผมเบิกตากว้าง


    “ฉันมองนายแค่คนเดียว...”


    เสียงแหบพร่าของเขาทำให้หัวใจน้อยๆของผมสั่นไหว


    “ฉันรักนายมาตลอดนะลูอิส....”


    ผมนิ่ง


    ความคิดในหัวตีกันอย่างสับสน


    เขารักผม?


    ที่เขาแกล้ง มาคอยก่อกวนเพราะเขาไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ผม?


    ที่ผมไม่มีคนมาจีบ เพราะเขากันไว้ ?

     

     

    ฮะ ?


    ให้ตายเถอะ!

     


    ให้ตายเถอะ เขา รัก ผม หรอ เนี่ย!!!

     

    “นายมัน... บ้า บ้า บ้า! บ้าที่สุดเลย!!


    “ใช่” เขายิ้มละมุน “บ้ามากที่ไปหลงรักคนซื่อบื้ออย่างลูอิส ทอมลินสัน”


    “ฮะ? นายว่าใครซื่อบื้อนะ”


    “ก็นายนั่นแหละลูอิส บื้อมากมาก ฉันแสดงออกว่าฉันชอบนายตั้งแต่สมัยเรารู้จักกันแรกๆแล้วนะ”


    “หา? ว้อท?”


    “แต่นายไม่สนใจ... ไม่สิ นายไม่รู้เลยต่างหาก.... แม้แต่เพื่อนทุกคนในวงยังรู้แล้วเลย แต่เจ้าตัวยังไม่รู้..”


    “ห๊า!! ทุกคนรู้หมดเลย???”


    “ใช่” ร่างสูงยิ้ม


    “หน็อย.. ถึงว่า ทำไมหลังๆมานี่ฉันอยู่กับนายสองคนบ่อยจังเลยนะ”


    ผมกัดฟันกรอดๆ


    ทำไมไม่เคยเอะใจกันนะ โธ่ เจ้าโง่บูแบร์!


    “ใช่ ฉันนี่ทั้งโปรยเสน่ห์ใส่นาย ทั้งหยอดคำหวาน หยอกล้อ แต่นายไม่เคยเข้าใจอะไรเลยลูอี้!แต่ แต่ ช่างมัน

    เถอะ เอาเป็นว่าวันนี้นายก็ได้รู้แล้วนะ”


    ลักยิ้มสวยๆเผยให้ผมเห็น


    มาแล้วไง... รอยยิ้มพิฆาตใจของแฮร์รี่ สไตล์ส


    “นาย .. คิดยังไงกับฉันเหรอ”


    เขากุมมือผมไว้ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้


    ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของเขา


    ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม หัวผมมันหมุนไปหมดเมื่อมองตาเขาใกล้ๆ


    คำด่าที่เคยคิดไว้หายไปในทันทีเมื่อสบตากับเขา


    “..ฉัน... ไม่รู้”


    “แต่ฉันรู้” เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ลากนิ้วขึ้นมาเกลี่ยแก้มของผมเบาๆ


    “จากที่ฉันฟังนายเล่าเมื่อกี้น้า... เอ... อะไรนะ วิ่งลงมา 15 ชั้นเลยหรอ! ว้าว อันที่จริงนายห่วยแตกพละนี่”


    “แฮร์รี่” ผมทำหน้ามุ่ย


    แฮร์รี่หัวเราะใหญ่แล้วลากนิ้วมาจิ้มที่คิ้วผม


    “ฮะๆ ฉันล้อเล่น ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง วิ่งลงมา 15 ชั้นแล้วยังผิดกฏจราจรที่นายรักษานักรักษาหนา

    อีก... ฟังขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีกหรอลูอิส”


    “หืม...”


    “นายรักฉันไง ลูอิส”


    ประโยคสั้นๆที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแห่บพร่าราวกับมือหนาบีบหัวใจผมไว้


    ประโยคสั้นๆที่เป็นเครื่องยืนยันความคิดที่ผุดขึ้นของผมก่อนหน้า


    ผมรักเขา



    ให้ตายเถอะไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่


    แต่อันที่จริง..


    ผมก็คิดว่าเขาเท่ไม่หยอกตั้งนานแล้ว


    ใบหน้าของเขา ผมหยิกเป็นลอนน่ารักๆนั่น


    ไหนจะดวงตาสีมรกต


    รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์


    ลักยิ้มที่มักผุดขึ้นเวลาที่เขาเห็นผม


    โทนเสียงทุ้มแหบพร่าที่แสนเซ็กซี่ของเขา...


     


    คงไม่แปลกสินะ


     


    ถ้าคนทั่วไปจะตกหลุมรักเขา


     


    รวมถึงผมด้วย..


     


    “อื้อ..” ผมไม่พูดอะไร


    แฮร์รี่เบิกตากว้าง มองผมด้วยความดีใจ


    “นาย ยอมรับเหรอลูอิส!


    “อื้อ”


    ผมพยักหน้าน้อยๆ มุดหน้าลงกับผ้าห่มหลบสายตาหวานชวนใจสั่นของเขา

    ไม่อยากให้เขาเห็นหน้าแดงๆของผม


    เขินชะมัดเลย ไอ้หยอยบ้า!


    “ให้ตาย พระเจ้า ขอบคุณครับ ! ฉันนึกว่านายจะบื้อไม่รู้ความรู้สึกตัวเองแล้วนะเนี่ย”


    “อะไรนะ!” ผมดึงผ้าห่มออกจากหน้า มองแฮร์รี่ด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะรู้ตัวว่านี่เป็นกับดักของคนเจ้า
    เล่ห์


    “จุ๊บ!


    “แฮร์รี่!


    “จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ”


    “แฮร์รี่ !!


    เขาจุ๊บผมทั่วหน้าเลย ตอนนี้เริ่มเลื้อยไปที่คอแล้ว


    ไม่เพียงแต่ปาก


    มือเขายังซุกซนลูบไล้อยู่ที่หลังของผม


    ความรู้สึกแปลกๆแล่นขึ้นมาในตัวผมอย่างรวดเร็ว



    “แฮ..ร์...รี่...”


    “นะครับ... รอมาตั้งนาน ได้แต่เฝ้ามองนายในฐานะเพื่อนรักแอบรักเพื่อนมานานแล้ว วันนี้ใจตรงกันสักที ได้”

    เขาก้มลงมาใกล้ ส่งสายตาหวานฉ่ำให้ผม  เปี่ยมไปด้วยความรัก


    ผมจ้องตาเขากลับอย่างนั้นเช่นกัน เขาค่อยๆเลื่อนหน้าผากมาชิดใกล้กับหน้าผากผม เราจ้องตากันอย่างนั้น

    ไม่มีใครยอมใคร


    จนในที่สุดเราทั้งสองก็หัวเราะออกมา


    “นายนี่มัน.... เจ้าเล่ห์ที่สุดเลยแฮร์รี่!” ผมยิ้มกว้าง ทุกอย่างในโลกดูสดใสไปเสียหมด


    ถ้ามีเขา.. แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว

    และต่อจากนี้ เขาก็จะไม่ป่วนแผนเดทของผมแล้ว

    เพราะนั่นจะเป็นเดทของเราสองคน!

    เขาไล้มือจากแผ่นหลังผม ลงไปต่ำเรื่อยๆ ทำเอาผมได้แต่กลืนน้ำลาย


    คุมเสียงหัวใจตัวเอง พยายามไม่ให้มันดังอย่างน่าอาย


    “แล้วนายจะรู้..ลูอิส”


    เขาก้มหน้าลงมาใกล้ มือยังคงซุกซนไปทั่ว


    "โอ๊ะ แฮร์รี่ นายจับอะไรของ...นะ...นาย"


    “ฉันเจ้าเล่ห์ได้มากกว่าที่นายคิดเสียอีก...”
















    จบ.


    --------------------------------------------------

    อั้ยยยย จบแล้วววว เขินนนน

    คือแต่งเองเขินเอง ไม่จ้างหน้าม้า 55555555

    ส่วนตัวก็ชอบคู่นี้มากเหมือนกัน -/- สัมผัสได้ถึงความรัก

    รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะกับคู่นี้ ฮะฮ่า ลูอิสนางซื่อบื้อ(โง่)ได้น่ารักมากมาก

    แฮร์รี่ก็นะ อ่อยจนไม่ไหวเลยป่วนแทนแม่งเลย ฮ่าๆ 

    อยากรู้มั้ยว่าแฮร์รี่อ่อยยังไง ฮ่าๆๆ /ฟิ้ววว หลบเข้ากลีบเมฆ

    บ๊ายบายค่า วอนผู้ใจดีเม้นบอกความรู้สึกหน่อยน้าา อิอิ

    #warit3lala

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×