ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◤คลังฟิคสั้น 1D ◥

    ลำดับตอนที่ #8 : [Ziam] Unable part 2 end

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 57


    Unable [end]














     


    เย็นวันต่อมา...

     

    หลังจากที่ผมเลิกเรียนแล้วผมก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่เดิมๆที่คุ้นเคย.. ต้องไปซัดไอ้หัวโจก

    แก๊งนั้นให้หงายสักครั้ง!  มันหยามแก๊งผมไม่พอยังแอบจับผู้หญิงหลายคนของเพื่อนใน

    แก๊งผมไปด้วย ไอ้พวกขี้เรื้อน! ชกต่อยกันซึ่งๆหน้าไม่ชนะก็เลยเอาผู้หญิงมาเป็นข้อ

    ต่อรอง ทุเรศที่สุด

     

    ทันทีที่ถึงที่ ผมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งตรงไปยังไอ้หัวหน้าแล้วต่อยมันทันที

     

     

     

     

    ผมไม่รู้ว่าพวกเราต่อสู้กันนานแค่ไหน รู้เพียงแต่ดวงอาทิตย์ลับไปนานแล้ว..

     

    แต่ที่รู้ๆคือฝ่ายผมชนะ! ฮะฮะฮ่า

     

    ผมยิ้มในใจ หลังจากที่ช่วยผู้หญิงไว้ได้ ซัดไอ้พวกขี้ขลาดนั้นจนหมอบ พวกเราก็แยกย้าย

     

    กลับบ้าน  แต่ทันทีที่ผมถึงบ้านก็ต้องแปลกใจ  ไฟทั้งบ้านดับมืด ไม่มีเงาแม้แต่เลียม หรือ

     

    เดซี่ ความทรงจำอันโหดร้ายสมัยเด็กของผมฉายวาบเข้ามาในหัวทันที

     

    หรือว่า.. เลียม!

     

    ดวงตาผมเบิกกว้าง รีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

     

    เลียม

     

    เลียม...

     

     

    แต่ทันทีที่พบร่างสูงนอนขดอยู่ตรงโซฟา ผมก็ได้แต่ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอก

     

    ผมปาดน้ำตาที่รื้นอยู่ตรงขอบตาแล้วก้มลงโน้มตัวไปหาเลียม ก่อนจะเขย่าที่แขนเบาๆ

     

    “เลียม... เลียม”

     

    “หืม..” เลียมขยี้ตา ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าผม

     

    “เฮ้ย!!!เซน”

     

    ผมไม่ค่อยเข้าใจกับกับท่าทางตกใจสุดๆของเซนเมื่อเห็นผม

     

    “อื้อ นี่มันดึกแล้วนะ” ผมหันไปมองนาฬิกาบอกเวลา5ทุ่ม “ทำไมไม่ขึ้นไปนอนข้างบนดีๆล่ะ”

     

    ผมพยายามเอ่ยโดยไม่ทำน้ำเสียงเป็นห่วง แต่มันก็ยากจริงๆ

     

    เลียมทำหน้าตกใจ หันไปมองนาฬิกา ก่อนจะหายใจออกด้วยความโล่งอก

     

    ท่าทางของเลียมทำให้ผมงง

     

    ยังไม่ทันที่จะคิดอะไร เลียมก็รีบวิ่งไปที่ตู้เย็น เดินกลับมาพร้อมกับ..

     

    เค้ก?

     

    Happy Birthday to you….

     

    Happy Birthday to you…

     

    เค้กก้อนโตข้างหน้าทำให้ผมช็อค พูดอะไรไม่ออก ลายการ์ตูนอุลตร้าแมนตัวใหญ่อยู่ตรงหน้าผมพร้อมครีมสีสวยที่เขียนว่า HBD Zaynie 18 yrs. old

     

    Happy Birthday

     

    Happy Birthday..

     

    Happy Birthday to… you..

     

    ผมรู้สึกว่าภาพข้างหน้ามันเลือนรางและเบลอไปหมด มองไปรอบๆไม่ชัด

     

    เลียมยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยน เขายื่นเค้กมาตรงหน้า

     

    ผมก่อนจะก้มตัวลง มองหน้าผมใกล้ๆ

     

    หัวใจผมเต้นแรงขึ้นเมื่อสบตากับดวงตาสวยของเขา

     

    “สุขสันต์วันเกิดนะเซน” เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม “18 ปีแล้ว มีความสุขมากๆนะ”

     

    เขาลูบหัวผมเบาๆ ผมหลับตารับสัมผัสอ่อนโยนนั้น อยากจะซึมซับทุกอย่างไว้

     

    ก่อนที่มันจะหายไป

     

    ผมยิ้มให้เขา เลียมวิ่งไปเปิดไฟ

     

    ภาพตรงหน้าทำให้ผมนิ่งอึ้งเป็นรอบที่สอง

     

    ลูกโป่งมากมายหลากสีสันลอยอยู่ในบ้าน ที่ลูกโป่งมีปากกาสีดำเขียนชื่อผมเต็มไปหมด

    ทุกใบ

     

    รอบๆบ้านถูกผูกด้วยสายรุ้งสีสวย ตรงกลางบ้านมีป้ายเขียนว่า Happy Birthday

    Zaynie! ห้อยลงมา

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างคือปาร์ตี้วันเกิดในฝันของผมเมื่อ10ปีก่อน..

     

    เลียมยังจำมันได้

     

    เลียมไม่เคยลืม...

     

    ผมหลุดจากสิ่งที่ผมพยายามจะเป็นมาตลอด

     

    ผมยิ้มกว้าง มองรอบๆบ้าน พยายามเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำ ก่อนที่รอยยิ้มผมจะ

     

    ไปหยุดอยู่ที่เลียม

     

    เลียมเบิกตากว้าง จ้องรอยยิ้มของผมอยู่อย่างนั้น หากไม่นานเขาก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

    พร้อมสายตาที่อ่อนโยนและอุบอุ่น ใบหน้าสีแดงอ่อนๆของเขาเขยิบเข้ามาใกล้ผม

     

    “ชอบหรือเปล่า”

     

    ผมยิ้มกว้าง พยักหน้าขึ้นลงหลายๆรอบจนเลียมต้องหัวเราะขึ้นมา

     

    จากนั้นเลียมก็จูงมือผมไปที่โต๊ะกินข้าว ตัดแบ่งเค้กออกเป็น 2 ส่วน

     

    “เซน... นี่ ของขวัญของน้อง”

     

    เลียมเอ่ยขึ้นหลังจากตัดเค้กเสร็จ มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าพร้อมกล่องของขวัญเล็กๆลายอุลตร้าแมน

     

    ผมหลุดหัวเราะขึ้นเบาๆแล้วหันไปมองหน้าเลียม

     

    “เลียม ยังจำได้อยู่อีกหรอ”

     

    “อืม.. เรื่องราวของน้องพี่จำได้หมดแหละ ขอโทษนะที่เมื่อ10ปีที่แล้วพี่ไม่ได้จัดปาร์ตี้วัน

    เกิดให้น้อง แถมยังเกิดเรื่องร้ายๆอีก แต่วันนี้พี่ได้ชดเชยมันแล้วนะ น้องชอบใช่มั้ย”

     

    ผมยิ้ม พยักหน้าขึ้นลง “อื้ม ชอบมากเลย ขอบคุณนะเลียม... มันเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดเลย!

     

    “ดีใจจังที่น้องชอบ .. ว่าแต่วันนี้น้องมีเรื่องอีกแล้วเหรอเซน พี่รอน้องตั้งต่5โมงเย็น”

     

    เลียมคงรู้ได้จากแผลบนใบหน้าผม

     

    ผมหลบสายตาของเลียม ก้มหน้าลง  เลียมรอผมตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 5 ทุ่ม

     

    ความจริงข้อนี้ทำให้ผมเจ็บปวด.. ที่รู้ว่าเขาทำเพื่อผมมากขนาดไหน

     

    “ใช่”

     

    “วันหลังอย่ามีเรื่องอีกได้มั้ย .. นะ เซน”

     

     

    ผมไม่ตอบ แต่ลุกขึ้นแล้วตั้งใจจะเดินกลับที่ห้องนอน

     

    แต่มือใหญ่ของเลียมก็ฉุดแขนผมลงที่โซฟานุ่ม

     

    “อย่าเพิ่งหนี.. เซน เรามาคุยกันให้รู้เรื่องเถอะ”

     

    เรื่องของผม เลียมจะมีวันเข้าใจหรือเปล่า ?

     

    “อืม...” ผมไม่อยากตอบปฏิเสธ

     

    บางทีการเผชิญหน้ากับปัญหาก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน

     

    แม้ว่าผลที่ตามมาอาจจะทำให้เสียใจจนไม่อาจบรรยาย

     

    “น้องเลิกชกต่อยเถอะนะ”

     

    “...”

     

    “ถึงแม้ว่าน้องจะเกลียดพี่ แต่น้องก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย...”

     

    คำพูดและแววตาของเขาทำให้ผมชะงัก เงยหน้าขึ้นมองเลียมอย่างไม่เข้าใจ

     

    “ผมไม่เคยเกลียดเลียม”

     

    “แล้วที่น้องทำอยู่คืออะไร ฮะเซน หลบหน้า ไม่พูดจากับพี่ พี่ถามอะไรก็ไม่ตอบ วันๆกลับมาก็เอาแต่หลบอยู่ในห้อง เซน.. ถ้าไม่ใช่เกลียดพี่แล้วมันคืออะไรเหรอ?”

     

    ไม่ใช่เกลียดหรอกเลียม..

     

    แต่เป็น รัก .. ยังไงล่ะ

     

    แต่ผมไม่สามารถพูดออกไปได้

     

    สิ่งที่ผมทำได้คือเงียบเท่านั้น

     

    “เซน แต่ก่อนเราเคยเป็นพี่น้องที่รักกันมากไม่ใช่เหรอ

     

    น้องมีปัญหาอะไรก็มาบอกพี่

     

    เราสามารถช่วยแก้ปัญหาได้

     

    ไม่ใช่น้องเอาแต่หนีปัญหาแบบนี้ ฝ่ายเดียว

     

    ความเป็นพี่น้องของเรามันไม่จบลงง่ายๆหรอกนะเซน

     

    พี่ยังรักน้องเสมอ น้องรู้ไหม”

     

    คำว่าพี่น้องของเขาทำให้ความอดทนในใจของผมถูกทำลายลง

     

    ได้..

     

    ถ้าเลียมอยากรู้นัก ผมจะบอกให้ก็ได้ว่าปัญหาที่ติดอยู่ในใจของผมมันคืออะไร!

     

    “เลียม... รู้หรือเปล่าว่าทำไมผมถึงไม่ชอบเรียกเลียมว่าพี่

     

    เหอะ.. นั่นก็เพราะผมไม่อยากได้เลียมเป็นพี่น่ะสิ!

     

    ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟัง ตอนนี้ดวงตาของเลียมสั่นไหวด้วยความเจ็บปวด

     

    ยังหรอกเลียม ยังไม่ถึงจุดที่เลียมจะต้องตกใจ

     

    “เหตุผลที่ผมเปลี่ยนไปก็เพราะผมเห็นเลียมกับเดซี่จูบกัน..

     

    เหตุผลที่ผมชกต่อยหลังเลิกเรียนเพราะผมไม่อยากรีบกลับบ้านมาเห็นเลียมอยู่กับเดซี่สองคน

     

    เหตุผลที่ผมไม่อยู่บ้านวันหยุดเพราะผมไม่อยากว่างอยู่ที่บ้าน เพราะถ้ามีเวลาว่างผมก็จะ

    คิดถึงแต่เรื่องของเลียม

     

    เหตุผลที่ผมไม่กินข้าวที่บ้านเพราะผมไม่อยากมองเลียมกับเดซี่นั่งด้วยกัน

     

    เหตุผลที่ผมไม่ตั้งใจเรียนเพราะผมไม่ต้องการให้เลียมรักผม..แบบพี่น้อง

     

    เหตุผลที่ผมทำตัวเฉยชาใส่เลียม เพราะผมพยายามเก็บความรู้สึกในใจไว้ ..

     

    ผมพยายามกดมันให้ลึกที่สุด..

     

    ฮึก...”

     

    ผมกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ได้... ในที่สุดผมก็ต้องชันเข่าขึ้นแล้วเอาหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาซบลงไป กอดเข่าแล้วสะอื้น

     

    เลียมเหมือนจะยังไม่เข้าใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างอยู่อย่างนั้น

     

    “เลียมพอจะเข้าใจปัญหาของผมหรือยัง... ว่า ผมเป็นอะไร”

     

    ผมเงยหน้าขึ้น น้ำตายังคงไหลรินเมื่อเห็นเลียมทำหน้าอย่างนั้น

     

    ผมยิ้มขมขื่น เตรียมใจกับสิ่งที่จะต้องหายไป

     

    ทุกๆอย่างระหว่างเรา รวมถึงตัวเขาก็คงจะเดินจากผมไป..

     

    “ความจริงคือผม...รัก...”

     

    หากแต่ผมยังไม่ทันพูดจบ เลียมก็ปิดปากผมด้วยริมฝีปากของเขาทันที!

     

    ผมเบิกตากว้าง ตกใจกับสัมผัสนุ่มที่ปาก เลียมไล้ริมฝีปากของผมเบาๆ ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่น

    มิ้นต์หวานๆจากปากของเขา..

     

    สมองของผมเหมือนโดนฉีดยาชา คิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น

     

    ผมได้แต่หลับตาลงแล้วรับสัมผัสหวานที่อยู่ปลายลิ้น

     

    สัมผัสจากริมฝีปากหวานของเลียมทำให้ผมรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนปุยนุ่น

     

    ผมค่อยๆเลื่อนมือไปโอบคอเลียมอย่างไม่รู้สึกตัว

     

    เลียมโอบเอวผมแล้วอุ้มผมไปนั่งบนตักเขา

     

    “อืม...”

     

    เลียมลูบหน้าผมเบาๆก่อนจะถอนริมฝีปากออก แต่หากสายตาเขายังคงจดจ่ออยู่ที่ปาก

    ผม ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้า

     

    ให้ตายเถอะตอนนี้ผมคงหน้าแดงมากๆแหง

     

    เลียมลากสายตาขึ้นมาสบตาผม ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน

     

    “เอ่อ ขอโทษที ได้ยินน้องพูดอย่างนี้แล้วพี่ลืมตัว..”

     

    ผมสะดุ้ง มองมือผมที่โอบรอบคอเลียมแล้วก้มลงมาพบว่าผมนั่งอยู่บนตักเขา

     

    ผมรีบดันตัวออกแต่ก็ไม่ไวเท่าแขนเซนที่รั้งผมไว้ในอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม

     

    “อย่าเพิ่งไป.. ฟังพี่พูดก่อนนะเซน” ดวงตาหวานเชื่อมของเขาสบตาผมอีกครั้ง

     

    “พี่รักน้อง”

     

    อะไรนะ?..

     

    ผมนิ่งอึ้งกับประโยคที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อครู่ แต่ก็เปลี่ยนเป็นถอนหายใจ ทอดสายตาไปยัง

     

    แผ่นป้ายวันเกิดข้างหลังเลียม

     

    แต่เหมือนเลียมจะรู้ว่าผมคิดอะไร จึงไม่รอให้ผมพูดแล้วแทรกพูดต่อ

     

    “พี่รักเซนแบบไม่ใช่พี่น้อง...”

     

    ผมหันมาสบตาเลียมอย่างตกใจ มือผมกำคอเสื้อด้านหลังของเลียมโดยไม่รู้ตัว

     

    หมายความว่ายังไง?

     

    หูผมเป็นอะไรหรือเปล่า?

     

    หรือว่าผมอยู่ในฝัน?

     

    ผมตบหน้าตัวเองก่อนจะรู้สึกถึงความเจ็บ

     

    “ฮะๆ น้องทำอะไรน่ะ ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ”

     

    เลียมเอื้อมมือมาจับมือผมที่เพิ่งตบหน้าไปเมื่อกี้

     

    “แต่.. เลียม เราเป็นพี่น้องกัน”

     

    “ใช่ เราเป็นพี่น้อง..” เลียมยิ้มกรุ้มกริ่ม

     

    “แต่ไม่แท้นี่!

     

    เลียมทำให้ผมตกใจอีกครั้ง

     

    “หมายความว่าไง?”

     

    “อันที่จริงพี่เป็นเด็กกำพร้า..พ่อแม่ของพี่ทำงานเป็นลูกน้องของพ่อเซน แต่พวกเขาได้ตาย

     

    จากพี่ไปตั้งแต่พี่ยังเด็ก พ่อแม่เซนเลยรับพี่มาเลี้ยงดู  ต่อมาไม่นานแม่เซนก็คลอดเซน

     

    ออกมา ตั้งแต่นั้นเราก็เลยเป็นพี่น้องกัน” เลียมยิ้ม มองหน้าผมอย่างอ่อนโยน

     

    “จริงหรือนี่..”

     

    ผมอึ้ง รู้สึกเหมือนความทุกข์ที่เคยแบกไว้บนบ่าได้ถูกคนตรงหน้ายกออกไปทันที

     

    “อื้อ.. อันที่จริง พี่รักน้องตั้งแต่ยังเล็กแล้ว.. “ เลียมเอามือเกาท้ายทอยอย่างเคอะเขิน

    ก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้มเขินอาย

     

     

    “แต่ตอนนั้นน้องยังเล็ก พี่เลยได้แต่ปกป้องน้อง ดูแลน้องให้ดีที่สุดอย่างที่พี่ชายคนนึงสม

    ควรทำ  อันที่จริงพี่กะว่าจะไม่บอกความรู้สึกพี่ออกไปหรอก.. พี่กะจะเป็นพ่อบ้านเลี้ยงดู

    ลูกของน้องเวลาน้องแต่งงานออกไปนะเนี่ย  ฮ่าๆๆ เพราะพี่คิดว่ายังไงน้องก็คงไม่มีวันรัก

    พี่หรอก..”

     

    เลียมยิ้มขมขื่น ก่อนจะแปรเปลี่ยนมาเป็นยิ้มที่มีความสุข

     

    “แต่น้องเนี่ยแหละที่ทำให้พี่ต้องสารภาพออกมา! เอาล่ะ น้องก็พูดบ้างสิว่าคิดยังไง”

     

    เลียมยักคิ้วให้ผม

     

    “อืม... “ สิ่งที่ผมเพิ่งรับรู้ทำให้ผมตั้งตัวไม่ถูกสักเท่าไหร่

     

    เราไม่ได้เป็นพี่น้องกันหรือนี่?

     

    “ผมก็รักเลียม .. “ ผมเอ่ย ตั้งใจจะหลบสายตาเลียมด้วยความเขิน แต่ก็ไม่ทัน มือใหญ่

    ของเลียมเอื้อมมาจับคางผมให้หันไปสบตากับดวงตาอ่อนโยนของเขา

     

    “ผมรักเลียมมานานแล้วเหมือนกัน แต่เพิ่งรู้ตัวตอนอายุ14 ตอนที่ผมกลับมาแล้วเจอ

     

    เลียมกับเดซี่จูบกัน..”

     

    “เอ่อ.. นั่น เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยนะ เดซี่เป็นแค่ลูกสาวของเจ้านายพี่นะเซน”

     

    “แล้วทำไมต้องจูบกันด้วย!

     

    ผมเผลอตวัดหางเสียงด้วยความน้อยใจ ก่อนชะงักแล้วบอกตัวเองให้ผ่อนคลายลง

     

    เลียมหยุดขำกับท่าทางของคนที่เขารักข้างหน้า

     

    นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนกันยังหึงขนาดนี้เลยนะเนี่ย ดุชะมัดเลย

     

    ร่างสูงนึกขำในใจแล้วส่ายหัวไปมา

     

    “เดซี่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ชอบน้อง เราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้ววันนั้นพี่อยากลองว่าพี่จะจูบ

    กับคนอื่นได้มั้ย.. พี่ก็เลยลองจูบกับเดซี่ แต่จูบไปนิดเดียวพี่ก็รีบผลักเธอออก เพราะพี่ทำ

    ไม่ได้... พี่คิดถึงแต่หน้าน้อง”

     

    คำพูดตรงๆของเลียมทำให้หัวใจผมเต้นแรง

     

    “นั่นล่ะ.. พี่คงจูบได้แค่กับน้องคนเดียว” เลียมพูดยิ้มๆ

     

    “อ้อ ที่เดซี่ต้องมาอยู่กับพี่ตอนเย็นเพราะบอส.. หมายถึงพ่อเดซี่น่ะ ติดงาน อยู่บ้าน

    ไม่ได้เลยให้พี่เฝ้าเธอแทน แถมให้เงินพี่เป็นผลตอบแทน  อีกอย่างเราเป็นเพื่อนสนิทกัน 

    ไม่เกินเลยกว่านั้น เข้าใจยังครับ?”

     

    เลียมก้มหน้าลงมาถามผม

     

    “อื้อ เข้าใจแล้ว” ผมยิ้ม สบตาคนตรงหน้าด้วยความเขินอาย

     

    “พี่รักเซนนะ”

     

    “ผมก็รักเลียม”

     

    “เรียกพี่สิ”

     

    เซนชะงัก คำว่าพี่ทำให้เขาเจ็บปวดอยู่เสมอๆ

     

    “คำว่าพี่มันน่ารักกว่านี่นา” เลียมยิ้มตาหยี ผมเลยอดหัวเราะไม่ได้ เอื้อมมือไปกอดคอ

    เขาเบาๆ

     

    “ครับ ผมก็รักพี่”

     

    เลียมดึงผมออกจากอ้อมกอดอุ่น 

     

    มองผมด้วยสายตาจริงจัง

     

    “คบกับพี่นะเซน พี่รอมาเกือบ 10 ปีแล้วนะ”

     

    ว่าไงนะ!

     

    นี่เลียมรักผมมานานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!

     

    “อื้ม..” ทันทีที่ผมตอบรับ เลียมก็ยิ้มกว้าง ดึงผมไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะมอบจูบที่แสน

    หวานให้ผมเป็นครั้งที่สอง.... และสาม.... และสี่....

     

    “อืม...”

     

    เลียมค่อยๆผลักผมลง  หลังของผมเอนลงติดโซฟา มือใหญ่ของเลียมจับที่ชายเสื้อของผม

     

    อย่างแผ่วเบา

     

    “เดี๋ยวนะ..” เสียงทุ้มเอ่ย

     

    เลียมหยุดมือ มองหน้าผมแล้วพูดต่อ

     

    “สัญญากับพี่ก่อนว่าต่อจากนี้ไป ต้องตั้งใจเรียน ห้ามมีเรื่องชกต่อย ห้ามเผาหนังสือเรียน

     

    ห้ามเฉยชากับพี่อีกนะ”

     

    “ครับ” ผมตอบอย่างหนักแน่น อย่างทำให้เขามั่นใจในตัวผม

     

    “รู้ไหมว่าตอนที่เราเมินเฉยใส่พี่ หัวใจพี่เจ็บแค่ไหน...”

     

    เลียมมองผมอย่างตัดพ้อ ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ย..

     

    “ขอโทษนะเลียม” ผมเอามือลูบลงตรงหัวใจเลียมเบาๆราวกับจะรักษาบาดแผลของมัน

     

    แต่ทันใดนั้นเลียมก็กระโจนเข้าหาผม ผมเบิกตากว้างรู้สึกตัวว่าได้ตกหลุมลงในกับดักเสียแล้ว!

     

    “หน็อย... เจ้าเล่ห์!

     

    เลียมเลิกเสื้อผมขึ้น

     

    เอ่ยด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

     

    “น้องต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำให้พี่เจ็บปวดตลอดมา เซน.. คืนนี้พี่จะทำให้น้องเจ็บตัวจน

    ระบมเลย!  ฮ่าๆๆ”

     

    ผมได้แต่หยุดนิ่ง คิดครู่หนึ่งก็เข้าใจกับประโยคเมื่อกี้ ทำอะไรไม่ได้นอกจากแยกเขี้ยวใส่

    คนที่กำลังอุ้มผมขึ้นไปบนห้องนอนอย่างมีความสุข

     

    “เลียม!!!

     

     

     

     

     

     

    จบ.








    ----------------------------------

    อั้ยยะ ♥ ในที่สุดพี่น้องคู่นี้ก็ลงเอยกันจนได้ ฮี่ๆๆ =.,=


    อ่านจบแล้วเม้นได้น้าา เราอยากอ่านความคิดเห็น ฮ่าๆๆ 


    ไว้เจอกันเร็วๆนี้นะคะ... #เหรอ

    บรัยส์!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×