คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [Ziam] Unable part 1
ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งZiamค่า ฮุๆ
เลียมxเซนนะคะเรื่องนี้ เราแต่งไปจินตนาการว่าเลียมเป็นเหมือนพี่ชายผู้อบอุ่น พร้อมจะปกป้องน้องชายของเขาทุกเมื่อ เป็นพี่หมีผู้อบอุ่นของเรานั่นเอง ฮ่าๆๆ ส่วนเซนจะเป็นเด็กที่ชอบมองโลกในแง่ร้าย เป็นเคะที่ปากอย่างใจอย่าง ดูขี้ใจน้อยนิดนึง ฮ่าๆ
Unable
PAIRING : Liam x Zayn
RATE : ทั่วไป
เสียงเปิดประตูดังขึ้นที่หน้าบ้านเรียกสายตาจากหญิงสาวและชายหนุ่มในห้องรับแขกให้
หันไปมอง ทันทีที่เห็นร่างสูงบางของน้องชาย เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ
“กลับมาบ้านแล้วเหรอ..เซน”
แต่เสียงของเขากลับต้องอ่อยลงเมื่อได้มองใบหน้าน้องชายที่เต็มไปด้วยบาดแผล..
ไปมีเรื่องมาอีกแล้วสินะ..
เลียมคิดในใจพลางส่งสายตาเป็นห่วงหากทว่าอีกฝ่ายไม่มองตอบ ไม่แม้แต่จะตอบเขา
กลับมาสักประโยค เซนหันหลัง เดินไปที่ห้องตัวเองแล้วปิดประตูใส่เอาดื้อๆ
เลียมมองการกระทำของน้องชายที่มีต่อตนแล้วได้แต่ทิ้งตัวลงบนโซฟา ถอนหายใจอย่าง
เหนื่อยอ่อน ในสมองคิดแต่เรื่องน้องชายคนสำคัญ
พวกเขาสองคนเป็นพี่น้องที่รักใครกลมเกลียวตั้งแต่เด็ก
รักมากจนไม่อาจหาสิ่งใดใดในโลกมาเปรียบเทียบได้
ชีวิตทั้งชีวิตของเขามีแต่น้องชาย... น้องชายคนเดียวเท่านั้น
เขาสามารถทำทุกสิ่งเพื่อน้องชายคนนี้ได้
แต่เขาไม่รู้เหมือนกัน ว่าเขาทำอะไรผิดพลาดตั้งแต่ตอนไหน
รู้ตัวอีกที น้องชายเขาก็เริ่มถอยห่าง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของพี่น้องกลับดูเหมือนจะ
ขาดลงเรื่อยๆ...
ถึงแม้จะเคยเป็นเชือกที่ผูกกันแน่นเพียงใด แต่หากถูกดึงนานไป มันก็ขาดได้อยู่ดีสินะ...
Zayn’s part
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า
เหนื่อยล้าทางกาย... ที่ไปมีเรื่องกับเด็กเซนต์คาเธอร์วันนี้
แต่ก็ไม่อาจเทียบกับความเหนื่อยล้าทางใจ.... เหนื่อยเหลือเกิน
ผมหลับตา ภาพใบหน้าที่คุ้นเคยของคนที่ผมเรียกว่า พี่ชาย ลอยขึ้นมาในหัว แววตาตัด
พ้อของเขา เสียงทุ้มของเขาที่มักพูดกับผมอย่างเป็นห่วงเสมอๆ.. ทำไมผมจะไม่รู้ ว่าเขา
เป็นห่วงผมเท่าไรที่ผมได้รับบาดแผลกลับบ้านทุกวัน
ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วงผม
แต่ในฐานะพี่ชาย
ซึ่งผมไม่ต้องการ
แต่ก่อนนั้น...
ถ้าจะพูดถึงว่าพี่ชายคนนี้มีความสำคัญสำหรับผมมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..
คงต้องย้อนไปเมื่อ 10 ไปก่อน
ตอนผมอายุ 8 ปี เลียมอายุ 13 ปี
ตอนนั้น ผมจำได้ว่ามันเป็นวันเกิดผม
วันเกิดครบรอบ 8 ปีของผม
ผมซึ่งยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ย่อมต้องการปาร์ตี้วันเกิดที่แสนสนุก ต้องการของขวัญที่ห่อ
ด้วยกระดาษลายอุลตร้าแมน ต้องการลูกโป่งที่เขียนว่าเซน!
แต่ทุกอย่างกลับพังลงมาสำหรับเด็กน้อยเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน กลับพบแต่เลียม..พี่ชาย
แท้ๆของเขานั่งอยู่บนโซฟา มือทั้งสองกุมหน้าร้องไห้สะอื้นอยู่
‘เลียมๆๆ ไหนอะ ไหนปาร์ตี้ของเซนอะ! ไม่เห็นจะมีลูกโป่งเลย!’
ผมตอนเด็กๆรีบวิ่งไปหาเลียม เขย่าแขนของเขาโดยไม่สนใจใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา..
‘ฮึก.. เซน เซน’ เลียมอุ้มผมไว้ในอ้อมแขน
‘อื้อ เซนชอบอ้อมกอดของเลียม’ เด็กน้อยถูหน้าเข้ากับแขนใหญ่ของพี่ชาย
ก่อนที่เสียงเครือจะเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา
‘ขอโทษนะ..ที่เลียมไม่ได้จัดปาร์ตี้ให้..ฮึก...แต่ พ่อกับแม่...ฮึก’
‘เลียม เลียม’
ผมในตอนนั้นยังไม่เข้าใจ ได้แต่เขย่าแขนเลียมถามว่าเป็นอะไร
เลียมไม่ตอบผม ได้แต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ผมเลยกอดเขาแล้วเอื้อมมือเล็กๆลูบหัวเลียมไปมา
‘โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวเทวดาบินหนีหมดเพราะเลียมไม่หล่อนะ!’
ผมในตอนนั้นไม่รู้เลย
ว่าวันเกิดครบรอบ 8 ปีของผม
คือวันที่พ่อและแม่ของพวกเราได้จากไป... อย่างไม่มีวันหวนคืน
หลังจากวันนั้น มา เลียมก็ลาออกจากโรงเรียน ออกมาหาเงินเลี้ยงชีวิตผมกับเขา
ทั้งที่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ด้วยจิตใจที่มุมานะและเข้มแข็ง ผู้ใหญ่หลายๆคนจึงสงสารและเอ็นดูเลียม ให้อาหาร
กับเงินกลับมาด้วยเสมอๆหลังทำงาน
พวกเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อกันได้ โดยไร้พ่อแม่
วันหยุดเลียมมักจะพาผมไปเที่ยวเสมอ
วันไหนที่เรามีเงิน เราก็จะไปซื้อไอศกรีมโคนเล็กๆมานั่งกินกันที่ข้างน้ำพุ
แต่ถ้าเราไม่มีเงิน เลียมก็จะพาผมไปที่บ่อน้ำในสวนสาธารณะ
เลียมรู้ว่าผมชอบดูปลา เลียมรู้จักปลาหลายๆชนิด เลียมบอกว่าเลียมคุยภาษาปลาได้
ตอนนั้นผมเชื่อเลียมสนิทเลย เรานั่งอยู่บนเนินหญ้าเขียวขจี เลียมนั่งสอนภาษาปลาให้
ผมไปหัวเราะไป ผมนั่งฟังเลียมสอนภาษาปลาอย่างใจจดใจจ่อ พวกเราหัวเราะไป
พร้อมๆกัน
บางครั้งเลียมก็จะพาผมไปเดินห้าง ในนั้นหรูมากๆเลย ผมมีของที่อยากได้เต็มไปหมด
ผมชี้ของอย่างนู้นอย่างนี้ให้เลียมดูแล้วบอกว่าอยากได้ เลียมได้แต่ยิ้มบางๆแล้วมองผม
ก่อนจะบอกผมว่า สักวันเลียมจะเก็บเงินซื้อให้
วันเกิดปีต่อมาผมก็ได้รับของขวัญเป็นเกมบอยที่ผมอยากได้ตอนนั้นจากเลียม
เลียมทำให้ผมมีความสุขมากๆ
ตอนนั้นผมคิดว่า ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่เป็นไร เพราะแค่มีเลียมคนเดียว
ผมก็รู้สึกเหมือนมีครอบครัวใหญ่ๆแล้ว
เพราะเลียมในตอนนั้นเป็นทั้งพ่อ
แม่
พี่ชาย
และ เพื่อน
ผมไม่รู้สึกเจ็บปวดที่เพื่อนหลายๆคนล้อว่าผมเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อไม่มีแม่
เพราะทุกครั้งที่ผมโดนล้อ
ผมก็จะพูดกลับไปอย่างมีความสุขว่า
‘เลียมเป็นพ่อ เป็นแม่ และก็เป็นพี่ชายฉัน เข้าใจหรือเปล่า!’
อาจเป็นเพราะความกล้าตอนเด็ก
ที่แม้จะถูกผู้อื่นรุมแกล้ง ผมก็ไม่เคยกลัว
แม้จะสู้ไม่ได้ ผมก็ไม่คิดหนี
แต่กลับพยายามพัฒนาตนเองขึ้นเรื่อยๆ
จนวึนนึงผมก็ได้เป็นหัวโจกของแก๊ง
เมื่อขึ้นมัธยม เลียมส่งผมให้เรียนต่อที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
โรงเรียนเซนต์ดอมินิกกับโรงเรียนเซนต์คาเธอร์ไม่ค่อยจะกินเส้นกันมากนัก
แก๊งของผมจึงมีเรื่องชกต่อยอยู่เสมอๆ
หากมีเรื่องสำคัญจริงๆ พวกเขาก็จะมาตามผมไปช่วยสู้
แต่เป็นที่รู้ๆกันว่าปกติผมจะไม่สู้ ไม่ไปมีเรื่อง ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น
เพราะเลียมไม่ชอบ
ทุกครั้งที่กลับบ้าน ถ้าหากวันไหนหน้าผมมีแผล เลียมมักจะเข้ามาในห้องแล้วทำแผลให้
อย่างอ่อนโยน แล้วบอกกับผมว่าอย่ามีเรื่องอีก ไม่งั้นเลียมจะไม่รักผม..
ผมกลัวเลียมไม่รัก ตั้งแต่ตอนนั้นผมเลยพยายามไม่ไปสู้ชกต่อยกับใครอีก
ผมทำตัวดี เป็นเด็กดีทุกอย่าง ผมเรียนเก่ง ตั้งใจอ่านหนังสือ
เพราะเลียมบอกว่าเลียมจะให้รางวัลถ้าผมเป็นเด็กดี
แต่วันหนึ่งขณะที่ผมอายุ 14
ผมก็ได้รู้ว่าทุกสิ่งที่ผมทำมามันไม่มีความหมาย..
เมื่อผมกลับบ้านแล้วพบเลียมกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนจูบกันอยู่ในห้องครัว
หลังจากวันนั้น เลียมก็พาเธอมาแนะนำตัวกับผม
เธอชื่อเดซี่.. ช่างอ่อนหวานเหมาะกับเธอเสียจริงๆ
เธอเป็นคนที่มีรอยยิ้มน่ารัก ผมสีน้ำตาลอ่อนหยิกยาวถึงหลังเธอดูนุ่มมาก..
ผมคงจะชอบเธอมาก
ถ้าหากเธอไม่เป็นแฟนกับพี่ชายผม
ผมปั้นยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกใบหน้าชาไปเสียหมด
ผมเดินเข้ามาในห้องกลับพบแต่ความโศกเศร้า น้ำตาใสๆไหลเอ่ออยู่ที่ขอบตา
ผมหัวเราะให้กับความโง่ตัวเองเบาๆ
ในที่สุด วันนั้น ผมก็รู้ตัว
ว่าผมได้หลงรักพี่ชายแท้ๆของผมมาตลอด...
หลังจากวันนั้นมา
ทุกอย่างที่ผมเคยทำได้เปลี่ยนเป็นอีกโลกหนึ่ง
ผมเลิกตั้งใจเรียน หนังสือทั้งหมดถูกเผาทิ้งอย่างไม่เสียดาย
ผมมีเรื่องชกต่อยทุกวัน
และทุกครั้งที่ผมกลับบ้าน
แม้จะเห็นใบหน้าเลียมที่มองมาอย่างเป็นห่วง แม้จะรู้ว่าเสียงของเลียมนั้นสั่นเครือ แต่
เมื่อเห็นใบหน้าหวานข้างๆกายเลียม ผมก็ได้แต่เบือนหน้าหนีแล้วเดินเข้าห้องนอนอย่าง
เฉยชา..
ไม่สิ
แกล้งทำเป็นเฉยชาต่างหาก..
สิ่งที่ผมหวัง .. มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย
มันเป็นไปไม่ได้
ผมเฝ้าย้ำกับตัวเอง พูดย้ำๆๆมันลงไปให้ฝังลึกลงในสมองโง่ๆของผม
ก็ในเมื่อผมกับเขาเป็นพี่น้องกันแท้ๆ
และเขาก็ยังมีเธอ..ยืนเคียงข้างกาย
เลียมคงนึกสงสัยทุกครั้งว่าผมทำตัวต่อต้านเขาทำไม
อันที่จริงแล้ว
ผมไม่ได้ต่อต้านเขาหรอก..
หากแต่ผมต่อต้านตัวเอง..
ไม่ให้หลงรักเขาไปมากกว่านี้...
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
เสียงเคาะประตูห้องดึงผมออกจากภวังค์แห่งความทรงจำ
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ก็คงเป็นพี่ชายแสนดีที่แสนจะเป็นห่วงน้องชายเลวๆคนนี้อีกตามเคย
ผมเอามือลูบหน้า ปรับอารมณ์ให้เฉยชาแบบที่เคยทำแล้วเดินไปเปิดประตู
“เซน..”
ผมเกลียดแววตานี้
แววตาอ่อนโยนของเลียมทำให้หัวใจของผมบีบตัวอย่างเจ็บปวด
เลียมเดินเข้ามาในห้องผมแล้วล็อคประตูก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงผม
“เซน เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะ”
เลียมมักจะแทนตัวเองว่าพี่เสมอ
แต่ผมไม่เคยเรียกเลียมว่าพี่
เพราะผมไม่ชอบ
“ไม่ต้องหรอก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา หัวใจผมปวดแปลบทันทีที่เห็นดวงตาของเลียม
สั่นไหว มือใหญ่ของเขาชะงักจากการเตรียมยา
“ไปอยู่เป็นเพื่อนเดซี่เถอะ”
“ไม่” เลียมสั่นหัว ยิ้มเบาๆให้ผม ใบหน้าหล่อเหลาของเลียมทำให้สมองผมเบลอ ผม
อยากจะยิ้มหวานๆให้เขาสักครั้งเหมือนตอนเด็กๆ หากแต่ก็ต้องกลืนรอยยิ้มนั้นลงไป
ผมต้องไม่แสดงความรู้สึกใดๆทั้งนั้น
“เดซี่กลับบ้านไปแล้ว ขอพี่ทำแผลให้น้องเถอะนะเซน”
ผมนิ่ง ไม่ตอบอะไร ได้แต่นั่งเฉยๆให้เลียมทำแผลให้อย่างนั้น
มือเลียมเบามาก อาจเป็นเพราะผมที่มีเรื่องชกต่อยบ่อย ทำให้เขาพัฒนาฝีมือการทำแผล
ขึ้นเรื่อยๆก็เป็นได้
ผมจ้องมองเลียมที่ตั้งใจทำแผลให้ผม สายตาของเลียมมุ่งมั่น ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นั่น
เป็นโอกาสดีที่ทำให้ผมได้แอบมองเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว ตอนนี้เหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่ดี
ที่สุดของวันๆหนึ่งสำหรับผม
การได้แอบมองเลียมโดยที่เขาไม่รู้ตัวเป็นอะไรที่ทำให้ผมยิ้มได้
ขอบตาของเลียมคล้ำขึ้นนิดหน่อย
ใบหน้าซีดลงไม่สมกับเป็นเลียมเลย
หรือเลียมจะมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ?
ผมจ้องใบหน้าพี่ชายที่ผมแอบรัก แม้ว่าใบหน้านี้จะซูบลงเล็กน้อยแต่เขาก็ยังคงความ
หล่อไว้อย่างเดิมเสมอ
ก่อนที่จะได้มองต่อ ผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบกับสายตาของเลียมที่มองมาสบตาผมพอดี
ผมรีบเบือนหน้าหนี ซ่อนแววตาโง่ๆนี้ของผมไว้ไม่ให้เลียมเห็น
เลียมจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“เซน..”
เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของเลียมเอ่ยขึ้นข้างหูผม มือของเขาหยุดจากการทำแผลบนใบหน้า
“อะไร”
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
เสียงของเขาอ่อนโยน แต่ก็เจือไปด้วยความเจ็บปวด
“เซน น้องเป็นอะไรบอกพี่ได้ไหม ?”
“....”
ผมส่ายหน้าเบาๆ
บอกไม่ได้
เพราะถ้าหากบอกไป
นอกจากเสียความรักครั้งนี้แล้ว
ผมอาจจะเสียพี่ชายของผมไปตลอดกาล
“น้องมีปัญหาอะไรหรือเปล่า โดนใครแกล้งหรือเปล่าที่โรงเรียน”
“ไม่มี”
ผมยังคงส่ายหน้า มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
ฝนตกตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“เซน ทำไมช่วงนี้ถึงมีเรื่องบ่อย พี่ขอเถอะนะ อย่ามีเรื่องชกต่ออีกเลย นะ”
เลียมใช้มือใหญ่ของเขาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน สัมผัสนั้นทำให้ผมเกือบจะยิ้มออกมา
เจ้าโง่เซน... เกือบแล้วไหมล่ะ
ผมปรับหน้านิ่ง รีบปัดมือเลียมออกจากหัว เลียมชะงัก
“ถ้าหาก..”
“...” ผมยังคงนั่งนิ่ง ทำเป็นไม่ใส่ใจแต่หูผมยังได้จับคำพูดของเลียมทุกประการ
“ถ้าหากน้องพร้อมจะเล่าให้พี่ฟังเมื่อไหร่... น้องก็ค่อยเล่าแล้วกันนะ พี่จะรอ”
เลียมพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากไป
ผมได้แต่นั่งเงียบมองร่างสูงโปร่งของเขาเดินห่างจากผมไปทีละก้าว.. ทีละก้าว..
ไม่มีวัน
เลียม
คงไม่มีวันที่น้องคนนี้พร้อมจะบอกพี่หรอก...
---------------------------
แฮ่!!ที่แท้บังเซนก็เป็นซึนเดเระดีๆนี่เอง!! ฮะฮะฮ่า
รู้สึกยังไงกับพี่น้องคู่นี้กันบ้างค้า อิๆ เรื่องนี้น้องอายขอมาค่ะเลยจัดให้
(อันที่จริงไม่ได้จิ้นหลักคู่นี้ แต่จิ้นได้ทุกคู่ค่ะ อิๆ) อยากได้คู่ไหนบอกได้น้า:D
#amm
ความคิดเห็น