คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : first chapter (1/2)
‘ผัวเมียทะเลาะกันว่ะ’ (เสียงจากความคิดของผู้เห็นเหตุการณ์)
“เอาน่าๆ โกคุเทระ แค่เดินหาด้วยกันมันไม่ตายหรอก เนอะๆ” เมื่ออีกฝ่ายสวนกลับมาอย่างนี้ ปรากฏการณ์ใบ้รับประทานก็กลับมาปกคลุมบริเวณรอบๆ ตัวทั้งคู่ในรัศมี 2 กิโลเมตร
‘พ่อแง่แม่ งอนเว้ย... พ่อแง่แม่ งอน’ (เสียงจากความคิดของผู้เห็นเหตุการณ์)
“เออ ไม่ตาย แต่รำคาญโว้ยยย!!” โกคุเทระที่นิ่งไปนาน (สามนาทีครึ่ง) พูดจบก็ชิ่งเดินหนีไป ปล่อยให้ยามาโมโตะยืนอึ้ง แต่พอตั้งสติได้ก็วิ่งตามไป
...ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ต้องตามง้อผู้ชาย T^T
___
หลังตรง หน้าเชิด ตามเสต็ปของนางสาวไทยที่พึงปฏิบัติ ขาทั้งสี่ข้างก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ แม้จะมีสายตาของคนรอบข้างมองมาเขา (หรือเธอ) ก็หาได้หวั่นไม่ เมื่อเทียบความรู้สึกที่ถึงเป้าหมาย สวรรค์อยู่ตรงหน้าโดยแท้!!!
‘ร้านขายปลา’
“เอ่อ...แก กะ...แก =O=” เสียงของคุณลุงเจ้าของร้านที่ดูเหมือนจะช็อคอย่างยิ่ง เขาแทบจะเอาผ้ากันเปื้อนสีขาวมาขยี้ตาตัวเอง สาบานด้วยพุงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งไม้บรรทัดครึ่ง มัน...สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในจักรวาล มัน...มันมาอีกแล้ววว TOT
อุริเข้าไปคลอเคลียขาเจ้าของร้าน มันยืนสองขาและใช้ขาหน้าทำท่าแบมือขอของ แววตาของมันเป็นประกายราวเพชรน้ำหนึ่ง ซี่งเราจะเรียกอิริยาบถเหล่านี้โดยรวมว่า ‘ท่าขออาหาร’
หงิง~
“อ๊ากกก ตาแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น แกจะมาหลอกถล่มร้านฉันด้วยมาตราการขอกินฟรีใช่ม้ายยย!?!” โวยวายอย่างบ้าคลั่ง
เมี้ยว~ (ใช่ฮะ)
“ม่ายน้า~” คุณลุงร้องโหยหวนราวน้องหมาสุดที่รักโดนรถชน แต่ก็...ไม่ทันเสียแล้ว อุริใช้ความไวแสงกระโดดเข้าฉวยปลาจากเขียงไปคาบไว้ในปาก แถมยังไม่วายส่งสายตาคอมเม้นท์รสชาติอาหารในปากอีกด้วย
ปิ๊งๆ~ (ปลาแซลมอนเหรอฮะ วันนี้สดดี แต่กลิ่นคาวไปนิดนึง ที่หลังช่วยเอาไปหมักสมุนไพรก่อนได้มั้ยอ่ะ มันจะได้หอมๆ ว่าแต่ วันนี้มีปลาไหลมั้ยเอ่ย ?)
“แกกินฟรียังมีหน้ามาว่าปลาคนอื่นอีกเหรอ!!!ไอ้...ไอ้...TOT” เจ้าของร้านซึ่งออกอาการอึ้งกิมกี่เมื่อไอ้แมวเจ้าเก่าผู้มาอุดหนุน (กินฟรี) ฉกปลาแซลมอนบนเขียงไปกินหน้าตาเฉย ช่วงนี้แซลมอนหายากนะเว้ยเฮ้ย!!!
ขณะคิดว่าจะเอายังไงดี เจ้าอุริก็หันไปส่งสายตาไม่ชอบหน้าให้เขา เจ๊ย! เราไปทำมันไม่พอใจตรงไหนเนี่ย แต่พอดูดีๆ สายตาเป็นมิตรที่อุริส่งไปนั่นไม่ใช่เจ้าของร้าน แต่เป็นสุนัขญี่ปุ่นที่คาบดาบสามเล่มอยู่ในปากต่างหาก ด้วยเซนส์อันช่ำชองของเจ้าของร้านมันบอกว่า ไอ้หมาน้อยนี่มันกะจะมาแย่งอาหารเจ้าอุริชัวร์ป้าบ!
อุริ+เจ้าหมาหน้าใหม่ = ร้านขาดทุนซี้แหง!!!
‘นายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ’ จิโร่ถามด้วยแววตาใสซื่อ
‘เห็นว่าฉันนั่งตบยุงอยู่ รึเปล่าล่ะ -*-’ อุริส่งสายตาเซ็งเป็ดไปให้ผู้มาเยือน ทำไมวันนี้มาร (หัวใจ) มันเยอะจังเนี่ย กะจะกินปลาซาบะของดีซะหน่อย (เจ้าของร้าน:งั้นตูก็หมดตูดสิเฟ้ย)
‘คนเขาถามดีๆ นะเนี่ย ไม่มีใครไปแย่งแกกินหรอก ใครเค้าอยากกินปลาดิบๆ อย่างงั้นเล่า ไร้คลาสจะตาย-3-’ (เริ่มกวนกลับ)
‘พูดใหมอีกทีซิ แกบอกว่าไงนะ’ ต่อมฮอร์โมนของอุริเริ่มสะเทือนบ้างแล้ว
‘แล้วนายได้ยินว่าฉันนั่งลับดาบอยู่รึเปล่าล่ะ’ จิโร่รู้สึกปลื้มอย่างบอกไม่ถูก ไอ้การกวนอุ้ง...(เซ็นเซอร์) คนอื่นนี่สนุกจริงๆ
‘แกพูดงี้เค้าเรียกดูถูกสายพันธุ์!! มาลองตัว-ตัวดูกันมั้ยล่ะ’
‘ใครกลัวล่ะ!!!’
สำหรับคำตอบของคำถามที่ว่าใครกลัว ก็เจ้าของร้านคนนึงล่ะ ที่กลัวจนเป็นลมไปแล้ว...
___
“นี่ไง จับได้แล้ว ^^” ยามาโมโตะคว้าข้อมือเล็กของโกคุเทระเอาไว้ทำให้คนร่างเล็กกว่าเห็นมาจ้องหน้า ท่ามกลางทางเดินที่ค่อนข้างเปลียว มีเพียงรถสองสามคันที่ขับผ่านไปมา (ทำไมแกบรรยายบรรยากาศซะ)
“แกปล่อยข้อมือฉัน ‘เดี๋ยวนี้’” โกคุเทระเน้นคำว่า ‘เดี๋ยวนี้’ ให้เสียงดังฟังชัด
“เวอร์รี่อะไรนักหนาเนี่ย - -;;; ปล่อยก็ได้ แล้วเราจะไปหาจิโร่กับอุริที่ไหนล่ะ” ยามาโมโตะถามด้วยใบหน้าที่บ้องแบ๊วสุดขีด
“ถ้ารู้ก็ไปหาตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้แกเกาะติดอย่างงี้หรอก” โกคุเทระพูดด้วยน้ำเสียงเอียนสุดๆ
“แล้วนี่คุณทั้งคู่ไม่เคยคิดจะหันกลับมามองข้างหลังบ้างเลยเหรอคะ?” เสียงเล็กแหลมของผู้หญิงดังมาจากด้านหลังของทั้งคู่ ทั้งสองจึงหันไปข้างหลังอย่างพร้อมเพรียง
เด็กสาวผมสั้นสีบลอนด์ทองใช้ดวงตาสีฟ้ามองจิกมาทางทั้งคู่ ด้านข้านเป็นเด็กผู้ชายใส่หมวกแก๊ป ถึงจะมองเห็นโครงหน้าไม่ชัดแต่ก็จัดว่าหน้าตาดีที่เดียว
...ยามาโมโตะเอ่ยขึ้นด้วยความซื่อ
“ผีเหรอ?แล้วมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
...แต่เขาหารู้ไม่ว่าการเอ่ยถามด้วยใบหน้าบ้องแบ๊วเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวมันทำให้เด็กสาวถลึงตาใส่ แต่ก็กลับมาเป็นเย็นชาเหมือนเดิมในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา
“งั้นขอตอบทีละคำถามนะคะ ฉันไม่ใช่ผี!!!นางฟ้ามายืนอยู่ตรงหน้าแท้ๆ มองเป็นผีได้ยังไงฟะ!! ละคำตอบของคำถามที่สอง ลองกลับไปอ่านแนะนำตัวละครดูก่อนก็จะรู้ว่าฉันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วย่...ค่ะ” เด็กสาวพยายามกดอารมณ์เต็มที่ เย็นไว้...เย็นไว้...ทางเดียวที่จะทำภารกิจให้สำเร็จคือเข้าทางหมอนี่ อดทนไว้...
“ช่างเถอะ พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเราเป็นใคร” เด็กหนุ่มพูดขึ้นบ้าง น้ำเสียงเย็นชาเล็กๆ ของเขาให้ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เขาชูขวดแก้วเล็กๆ ใสๆ ตรงหน้าของทั้งคู่ ภายในมีของเหลวสีชมพูอยู่ “เอายาขวดนี้ไปใส่ในอาหารของสัตว์ในกล่องของพวกคุณกินซะ พวกเรามีธุระแค่นี้แหละ”
“แล้วพวกแกต้องการอะไร” โกคุเทระพยายามใช้เสียงต่ำเข้าสู้ แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทำก็มีเพียงเปรยออกมาเบาๆ
“แล้วนายคิดว่าอาชีพของกามเทพเป็นยังไง บทบาทหน้าที่ของเราก็คืออย่างงั้นแหละ”
“แต่ถึงกระนั้นความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์มันก็ยังคงอยู่วันยันค่ำล่ะนะ แต่ก็คงเหมือนกับการคิดเลขบวกลบเศษส่วนนั่นแหละ ถ้าไม่ทำให้ตัวส่วนมันเท่ากันซะก่อนก็ไม่มีทางบวกได้ แม้ว่านั่นจะเป็นนักคณิตศาสตร์ที่เก่งมาจากไหนก็ตาม”
โกคุเทระรับขวดแก้วนั้นมาถือด้วยความฉงนสุดขีด พวกมันเป็นสายลับมามอมยาสัตว์ในกล่องเรารึไง เขาจึงหันไปขยิตายิบๆ ใส่ยามาโมโตะด้วยความรู้สึกประมาณว่า
‘ฉันว่าไว้ใจไม่ค่อยได้ว่ะ’
ยามาโมโตะคงพอจะเข้าใจความหมาย แต่เขาก็ทำได้เพียงส่งยิ้มเล็กๆ ให้แล้วยักไหล่เป็นเชิงว่าไม่รู้สิ
“สัตว์ในกล่องของพวกนายอยู่ที่นามิโมริซอยสิบสอง แล้วเราจะรอนะจ๊ะ” เด็กสาวดัดเสียงให้สูงเหมือนแม่มดก่อนจะหันหลังกลับไปพร้อมเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง
บรรยากาศรอบๆ ตัวนั้นเงียบไปประมาณสามนาที (ต้มมาม่า) โกคุเทระจ้องน้ำสีแปลกๆ ในขวดนั้นอย่างวิเคราะห์ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนน้ำผลไม้สีชมพูธรรมดาๆ ที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วเล็กๆ... เจ้าตัวใช้เวลาเสี้ยววินาทีตัดสินใจและหันไปพูดกับยามาโมโตะ
“ปะ...เราไปนามิโมริซอยสิบสองกัน”
ความคิดเห็น