ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [sf/os] smiles and tears ; Chanbaek

    ลำดับตอนที่ #5 : be Bad

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.21K
      77
      4 เม.ย. 60

    ;เราเข้ามาแก้แท็กค่า;

    Be bad

     

    “ทำไมเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้วะ” เสียงทุ้มของร่างสูงดังขึ้นอย่างหัวเสีย

    “แล้วทำไม ต้องทำตัวเรียบร้อยเหมือนไอ้คยองซูนั่นรึไง!!!” เสียงเล็กที่เถียงขึ้นมาก็ทำให้เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นก็หัวเสียเช่นกัน

    “เขาเป็นรุ่นพี่นะ พูดจาดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง”

    “อ๋อ..แตะต้องไม่ได้เลยหรอ”

    “ทำไมเข้าใจยากอะไรแบบนี้วะ”

    “เออ! เข้าใจยาก เข้าใจยากมาตั้งนานแล้ว”

    “แล้วทำไมไม่เปลี่ยนตัวเองบ้าง จะเป็นแบบนี้ไปตลอดเลยรึไง จะทนไม่ไว้แล้วนะเว้ย!” ชานยอลเจ้าของเสียงทุ้มนั้นตวาดขึ้น ทำเอาคนตัวเล็กตรงหน้าสะดุ้ง

    “นี่..ทนกันอยู่หรอ” แบคฮยอนถามเสียงเรียบ

    “เออ ทนอยู่ แล้วถ้ายังทำแบบนี้จะไม่ทนด้วยแล้ว คนอะไรวะ เอาใจยากชิบหาย เมื่อไหร่จะเลิกเอาแต่ใจตัวเองสักที”

     

     

    “เราเป็นคนเอาแต่ใจ”

    “เรารู้”

    “เราเป็นคนงี่เง่า”

    “อ่าฮะ”

    “เราขี้งอน”

    “อือ”

    ”เราขี้หึง”

    “รู้:”

    “เรา—“

    “ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ว่าแบคจะเป็นยังไง เราก็รักอยู่ดีแหละ เราชอบแบคเพราะแบคเป็นแบบนี้”

    “แต่ว่า—“

    “กังวลอะไรอยู่หืม เราไม่ทิ้งแบคเพราะแค่แบคเป็นตัวของตัวเองหรอกหน่า”

    “ขอบคุณนะ ที่รักคนแบบเรา”

    “อื้อ ขอบคุณเหมือนกัน ที่ยอมให้เรารัก”

     

    “งั้นก็ไม่ต้องทน”

    “เออ งั้นก็ไม่ทนแม่งแล้ว ไม่ต้องรอกินข้าวนะ วันนี้ไม่กลับห้อง” พูดจบ ชานยอลก็เดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้แบคฮยอนยืนนิ่ง

    แบคฮยอนแค่นยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวเองลงนั่งพื้น พร้อมหยดน้ำตาที่ไหลริน

     

    ไปแล้ว ชานยอลไปแล้ว เขาไม่ทนแล้ว เขาทิ้งแบคฮยอนไปแล้ว

     

    คืนนั้น แบคฮยอนร้องไห้ทั้งคืน ได้แต่กอดตัวเองทั้งคืน เพราะอ้อมกอดที่เขาได้รับทุกๆคืนไม่อยู่ ชานยอลไม่กลับเหมือนที่บอกไว้ วันนี้มีเรียนเช้า แบคฮยอนก็ไม่ได้รีบมากนัก เหนื่อยเหลือเกิน

     

    เขารู้ ว่าตัวเองงี่เง่าเกินไป แต่แฟนใคร ใครก็หวง เขาผิดหรอที่ไม่อยากให้ชานยอลไปยุ่งกับคยองซู เข้าใจว่าเป็นพี่รหัส แต่ก็เป็นคนที่ชอบชานยอล และรอเวลาที่เขากับชานยอลจะเลิกกัน ซึ่งเหมือนมันอาจจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน เพราะดูเหมือนว่า ความรู้สึกที่ชานยอลมี มันมากขึ้นเรื่อยๆ ผิดกับความรู้สึกที่มีต่อเขา ที่มันกลับลดลงเรื่อยๆ

     

    "ไง หน้าโทรมเชียว ไม่ได้นอนเหรอจ๊ะเมื่อคืน" จงแด เพื่อนสนิทเอ่ยแซวเมื่อเห็นแบคฮยอนเดินเข้าห้องมาด้วยสภาพอิดโรย

    "อือ ไม่ได้นอน"

    "ง่อว ทำอะไรล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้เรียนเช้ายังจะหักโหมกันอีก ว่าแต่ เจ้าตัวการไปไหนซะล่ะ ไม่ได้เดินมาส่งหรอ" จงแดชะเง้อไปที่หน้าห้อง มองหาคนที่เดินมาส่งเพื่อนเขาอยู่ทุกวัน

    "เมื่อคืนทะเลาะกัน ชานยอลไม่ได้กลับห้อง" แบคฮยอนพูดจบก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ จงแดได้แต่นิ่งเงียบ แล้วเอ่ยขอโทษ

     

    ทั้งคาบแบคฮยอนเอาแต่นอนฟุบอยู่แบบนั้น โชคดีที่อาจารย์ไม่ได้สังเกต

     

    "มึง นั่นชานยอลป่ะวะ ทำไมไปนั่งนั่นอ่ะ" เวนดี้ เพื่อนในกลุ่มอีกคนเดินเข้ามาหา แล้วชี้ไปที่โต๊ะในโรงอาหาร ที่มีคนที่คุ้นเคยนั่งอยู่

    กับคนที่บอกว่าเป็นพี่รหัส

    ใบหน้าของชานยอลแตกต่างกับแบคฮยอนอย่างเห็นได้ชัด ชานยอลมีแต่รอยยิ้มบนหน้า ผิดกับแบคฮยอนที่มีแต่คราบน้ำตา ชานยอลส่งยิ้มให้กับคนที่นั่งตรงข้ามอย่างอ่อนโยน มือหนาที่ชอบยีหัวหยอกล้อ ตอนนี้กลับเอื้อมไปลูบหัวคนอื่น แต่ภาพนั้นก็เลือนลางเต็มที เพราะในดวงตาแบคฮยอน เริ่มมีน้ำเอ่อล้นเตรียมไหลออกมาเต็มที

    เพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่นั่งเงียบ ไม่มีคำพูดปลอบประโลม มีแต่ผลัดกันลูบหลังกันเท่านั้น แบคฮยอนเป็นฝ่ายเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟัง แต่ยังดีที่ไม่กระจองงอแง มีแค่น้ำตาที่เอ่อล้นแต่ไม่ไหลนั่นแหละ

     

    "ทำไมวะ ที่คบกันได้ก็เพราะยอมรับข้อเสียกันได้ไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมตอนนี้ถึงเป็นปัญหาล่ะวะ" เวนดี้ที่หัวเสียก่อนใครเพื่อนเอ่ยขึ้นมาอย่างเหลืออด

    เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอไม่ได้ดีเด่มาจากไหน เพื่อนเธอมีข้อเสียเต็มไปหมด แต่ชานยอล ปาร์คชานยอลคนนั้นบอกว่ารับได้ และรักที่แบคฮยอนเป็นแบคฮยอน แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เคยรับได้ กลับหยิบยกมาเป็นปัญหาหน้าตาเฉย

     

    "คนมันไม่รักแล้วไง คำตอบง่ายๆอ่ะ" จงอินพูดขึ้นเนือยๆ ทำเอาจงแดหันไปดุ

     

    "พูดอะไรแบบนั้นวะจงอิน ดูหน้าไอ้แบคด้วย"

     

    "อือ ช่างมันเหอะ ก็คงไม่รักแล้วจริงๆแหละ"

     

    "แบค--"

     

    "จริงๆก็รู้มาสักพักแล้วว่าชานยอลไม่เหมือนเดิม แต่คิดว่าถ้าปล่อยไว้มันน่าจะดีขึ้น แต่กูก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ทุกทีเวลาที่ชานยอลอยู่กับคยองซู"

     

    แบคฮยอนหันไปมองที่ที่สองคนนั่งอยู่ แต่คราวนี้ เจ้าของดวงตาโตนั่น หันมาพอดี เขาจึงได้สบตากับชานยอลโดยบังเอิญ แบคฮยอนส่งยิ้มบางๆไปให้ แต่คนตัวสูงกลับเบือนหน้าหนีแล้วลุกออกไป โดยไม่ลืมจะคว้ามือเล็กๆของคนที่อยู่ตรงข้ามไปด้วย

     

    "จนสุดท้ายกูก็ต้องเสียเขาไป เพราะนิสัยเสียของตัวเอง" พูดจบ แบคฮยอนก็ลุกขึ้น

     

    "จะไปไหน" จงแดเอ่ยถาม แล้วคว้าเขาที่ข้อมือของเพื่อนตัวเล็ก

     

    "ไปทำให้เรื่องมันจบ เดี๋ยวมา" พูดแค่นั้น แล้วก็เดินไปยังที่ที่ตัวเองเห็นว่าชานยอลเดินไป

     

    ที่ห้องดนตรีของชมรมดนตรีที่ชานยอลเป็นสมาชิก และแน่นอน คยองซูก็เป็นสมาชิกชมรมนี้เช่นกัน ภาพที่แบคฮยอนเตรียมใจมาเห็น มันเกิดขึ้นตรงหน้า แต่น้ำตาเจ้ากรรมที่พยายามกลั้นมันก็ไหลออกมาจนได้

    คยองซูกับชานยอลกอดกัน และอีกไม่นาน เขาทั้งสองจะจูบกัน

    แบคฮยอนเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ แล้วเอื้อมมือไปเคาะประตูให้เกิดเสียง ทั้งสองคนผละออกจากกัน เมื่อชานยอลหันมาเห็นว่าเป็นใคร คิ้วที่เรียงสวยนั่นก็ขมวดทันที แต่ยังไม่ทันจะเปิดปากพูดอะไร แบคฮยอนก็ชิงพูดออกมาก่อน

     

    "ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะ มีเรื่องจะพูดด้วย"

    ผิดคาด แบคฮยอนไม่ได้โวยวายอย่างที่ชานยอลคิด

     

    "ก็พูดมันตรงนี้แหละ" เสียงของชานยอลที่เปล่งออกมา มันไม่น่าฟังเสียเท่าไหร่ แบคฮยอนรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ น้ำเสียงอ่อนโยนที่เขาเคยได้รับ ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว

     

    "อือ ก็ว่าจะพูดมันตรงนี้แหละ" แบคฮยอนพูดเสียงแผ่ว เขาสูดหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดมันออกมา "เมื่อวานเรายังคุยกันไม่จบ มันเลยยังไม่เคลียร์ วันนี้เลยจะมาทำให้มันเคลียร์ เราจะได้ไม่มีเรื่องอะไรคาใจกันอีก"

     

    "จะสื่ออะไร"

     

    "ก่อนออกจากห้องน่ะ ชานยอลลืมพูดกับเราประโยคนึงนะ"

     

    "อะไร" คำถามมันห้วนจนทำให้ใจแบคฮยอนวูบโหวง

     

    "ประโยคบอกเลิกไง ชานยอลลืมพูด แล้วตอนนี้ที่เราอยู่ตรงนี้ คือเรามาฟังมัน"

     

    "ทำไม..ทำไมต้องเป็นเราที่พูด" ชานยอลถามอย่างไม่เข้าใจ

     

    "ก็คนนิสัยไม่ดีอย่างเราอ่ะ ไม่ควรจะเป็นคนพูดประโยคนั้นออกมาหรอก" แบคฮยอนยิ้มให้ ถึงแม้ว่าในใจมันจะร้องไห้ก็ตาม

     

    ชานยอลนิ่งเงียบ คยองซูที่อยู่ข้างๆก็บีบมือชานยอล พร้อมส่งสายตาที่เป็นห่วงไปให้ แบคฮยอนเห็นภาพนั้น ก็ได้แต่บอกกับตัวเอง ว่ามันดีแล้วที่เลือกแบบนี้ ชานยอลควรไปเจอคนที่ดีกว่าเขา นิสัยดีกว่าเขา และรักชานยอลมากกว่าที่แบคฮยอนรัก

     

    "อือ เลิกกันเถอะ" ชานยอลก้มหน้าพร้อมพูดประโยคนั้นออกมา

     

    แบคฮยอนที่เตรียมตัวเตรียมใจฟังคำนั้นมาตลอดคืน ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง เตรียมใจมาทั้งคืน พอเจอโดนพูดเข้าจริงๆ น้ำตาเจ้ากรรมมันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว แบคฮยอนยกมือขึ้นมาเช็ดมันลวกๆ

     

    "อื้อ ขอให้ชานยอลโชคดี.." แบคฮยอนส่งยิ้มให้ชานยอล แล้วหันไปมองหน้าคยองซู "แล้วก็..ขอให้มีรักที่ดีกว่าเดิม"

    พูดจบ แบคฮยอนก็หันหลังเดินออกจากห้องทันที ไม่ไหวแล้ว ให้ยืนอยู่ตรงนั้นต่อน่ะ ทำไม่ได้จริงๆ

     

    "พ่อครับ.." แบคฮยอนที่เดินออกมาจากตรงนั้นไกลพอสมควร ยกมือต่อสายหาผู้เป็นพ่อทันที "..เรื่องนั้นน่ะ ที่พ่อเคยถาม ผมตกลงนะครับ" พูดแค่นั้น รอให้ปลายสายตอบรับ แล้วก็กดวางสาย

     

     

     

     

    3 ปีผ่านไป หลังจากที่ได้เลิกรากับชานยอล แบคฮยอนก็ทำเรื่องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพราะพ่อของเขาต้องย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ที่อังกฤษ พ่อเขาไม่อยากปล่อยให้แบคฮยอนอยู่คนเดียว ในคราวแรก แบคฮยอนปฏิเสธ เพราะมีชานยอลอยู่ด้วย พ่อเลยเบาใจไปเปราะหนึ่ง แต่พอวันที่ไม่มีชานยอลอยู่ด้วย มันเลยทำให้แบคฮยอนตัดสินใจง่ายขึ้น และคิดว่ามันคงทำให้ตัดใจจากชานยอลง่ายๆ

     

    แบคฮยอนไม่ได้ติดต่อกับใครเลยนอกจากเพื่อนกลุ่มตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่าแบคฮยอนไปไหน จนกระทั่งวันนี้ แบคฮยอนเรียนจบปริญญาแล้ว ถึงแม้จะจบหลังเพื่อนไปหนึ่งปีก็เถอะ

     

    "แบคฮยอน พร้อมหรือยังลูก" ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาในห้อง เห็นแบคฮยอนนั่งเงียบอยู่บนเตียงก็เดินเข้าไปหา

     

    "ครับ พร้อมแล้ว" แบคฮยอนหันไปตอบพร้อมกับสวมกอดผู้เป็นพ่อ พ่อของแบคฮยอนก็ได้แต่กอดตอบแล้วตบที่หลังเบาๆ

     

    "พ่ออยู่ตรงนี้นะครับคนดี"

     

     

    วันนี้เป็นวันที่จะได้กลับเกาหลี เพราะพ่อของแบคฮยอนต้องกลับไปทำงานที่เกาหลี ประจวบเหมาะกับที่แบคฮยอนเรียนจบด้วยแล้ว เลยได้ย้ายกลับไปเกาหลีพร้อมกันสองคน

     

    แบคฮยอนติดต่อเพื่อนตัวเองทันทีหลังจากที่ถึงเกาหลี เพื่อนทุกคนมารับแบคฮยอนกันอย่างพร้อมหน้า พาแบคฮยอนและพ่อของเขากลับบ้าน ก่อนจะออกไปข้างนอกเพื่อไปกินข้าว เลี้ยงต้อนรับแบคฮยอนกลับเกาหลี

    แบคฮยอนยิ้มมีความสุขที่ได้เจอเพื่อน จัดการจัดแจกของใากของเพื่อนทีละคน ก่อนจะเหลือถุงสุดท้าย ในนั้นเป็นเสื้อเชิ้ตแบรนด์ดัง เป็นแบรนด์ที่ใครบางคนชอบ

     

    "อันนั้นของใครอ่ะ เกินป่ะ ให้กูได้นะ" จงอินจะเอื้อมหยิบถุงใบนั้น แต่ก็โดนแบคฮยอนตีมือเข้าให้ก่อน

     

    "ของเพื่อนอีกคน แต่ไม่รู้ว่าจะได้เจอมั้ย"

    เพียงแค่ประโยคนั้น ทุกคนก็รู้ทันทีว่าเข้าของถุงนั้นเป็นใคร

     

    "อยากเจอ..รึเปล่า" เวนดี้เอ่ยถาม แบคฮยอนก็ได้แต่ส่ายหัว

     

    "ที่พกออกมาก็แค่เผื่อว่าจะเดินเจอกันตามถนน แต่ถ้าไม่เจอก็จะไม่เรียกมาเพื่อแค่ให้ของแค่นี้หรอก"

     

    แต่เป็นเพราะโชคชะตาหรือความบังเอิญก็ไม่รู้ สายตาแบคฮยอนเหลือบมองออกไปยังนอกร้านอาหาร ก็เห็นร่างสูงที่คุ้นตา เดินลงมาจากรถ ก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ใครอีกคน ให้เดาก็คงจะเป็นคยองซู คนที่เขาขอให้ชานยอลมีความรักที่ดีด้วยนั่นแหละ

     

    "คู่หมั้นเขาน่ะ"

    แต่ผิดคาด คนที่เดินลงมาไม่ใช่คยองซูพี่รหัสชานยอล แต่เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่ง

     

    "แล้ว..คยองซู“"

     

    "เห็นว่าคบกันได้ปีนึงก็เลิกน่ะ แต่พวกกูไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เห็นว่ามัน..ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่" จงแดเป็นคนตอบ

     

    "อือ ช่างมันเถอะ แล้ว..คนนี้พวกมึงรู้จักมั้ย"

     

    "เห็นว่าเป็นลูกเพื่อนแม่หรือเพื่อนพ่อสักคนนี่แหละ แต่ก็คบกันมาสองปีแล้วนะ เพิ่งประกาศหมั้นเมื่อต้นเดือนเอง"

     

    "อือออ" แบคฮยอนพยักหน้ารับ ก่อนจะมองไปยังจุดที่ตนเพิ่งมองไปเมื่อครู่ แต่กลับไม่เจอคนที่เป็นประเด็นสนทนาเมื่อกี้แล้ว

     

    และที่ตลกร้ายกว่านั้น คือทั้งคู่เดินเข้ามาฝนร้านที่แบคฮยอนนั่งอยู่

     

    "อ้าวจงอิน มากินร้านนี้เหรอ" น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยทักจงอินที่นั่งตรงข้ามผม เป็นเพราะผมนั่งหันหลัง เขาจึงไม่เห็นว่าผมนั่งอยู่

     

    "อือ มากินเลี้ยงต้อนรับเพื่อนกลับมาน่ะ"

     

    "เพื่อน..“" ชานยอลพึมพำก่อนจะเดินมายังโต๊ะ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ที่มาใหม่ด้วยสีหน้าว่างเปล่า

     

    "ชานยอลคะ เจอเพื่อนหรอ" ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นชานยอล เดินมาควงแขนพร้อมส่งยิ้มให้พวกผม

     

    พอมองใกล้ๆ เธอดูสวยมากจริงๆ เหมาะกับชานยอลแล้วล่ะ

     

    "ครับ ขอผมคุยกับเพื่อนแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวผมตามไป"

     

    "ค่ะ โต๊ะเดิมนะคะ" หญิงสาวส่งยิ้มให้ชานยอล และไม่ลืมหันมาก้มหัวทักทายพวกผมก่อนเดินจากไป

     

    "กลับมานานแล้วหรอ" ชานยอลเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน

    ตอนนี้รอบข้างผมเงียบไปหมด เพื่อนของผมก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

     

    "อื้อ เมื่อเช้าน่ะ"

     

    "ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" ชานยอลเอ่ยถาม แบคฮยอนพยักหน้ารับแล้วหยิบถึงของฝากให้ชานยอลติดมือไปด้วย

     

     

     

    "ไปอยู่ไหนมา เราหาแบคไม่เจอเลย" ชานยอลเป็นผู้เปิดบทสนทนา เมื่อเราสองคนเดินออกมานอกร้าน

     

    "เรียนต่อ" คำตอบที่แสนห้วนหลุดออกมาจากปากแบคฮยอน

    เขาไม่ได้อยากจะให้มันเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่อยากพูดยาวกว่านี้ กลัวว่าก้อนสะอื้นที่กลั้นไว้จะหลุดออกมา

     

    "ทำไมไม่บอกอะไรกันเลย"

     

    "มันกะทันหันน่ะ ขอโทษนะ"

     

    "แล้วทำไมไม่ติดต่อกันมาบ้างเลย"

     

    "เราแค่คิดว่ามันไม่จำเป็น เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาก่อน พอเลิกกันก็ทำตัวไม่ถูก คิดแค่ว่าเราควรจะหายไปจากชีวิตกันและกัน"

     

    "แบคฮยอน.."

     

    "แต่เราทำไม่ได้ อ่ะ..ของฝาก" แบคฮยอนยื่นถุงกระดาษให้ชานยอล เขาก็รับไปแบบงงๆ

     

    "ให้เราหรอ"

     

    "อือ พกออกมาด้วยเผื่อจะเจอ แล้วก็เจอจริงๆด้วย"

     

    "ขอบคุณนะ"

     

    "ถือว่าเป็นของขวัญ..วันแต่งงาน" แบคฮยอนพยายามข่มเสียงสั่นไว้ ทั้งที่อยากจะปล่อยโฮออกมาตั้งนานแล้ว

     

    "คือ--"

     

    "ยินดีด้วยนะชานยอล ขอให้มีความสุขกับรักครั้งใหม่ แต่งานแต่งงานไม่ต้องชวนเรานะ.." แบคฮยอนยิ้มให้ชานยอล โดยที่ไม่รู้ว่า น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ มันไหลออกมาแล้ว "เราทำใจไปงานแต่งงานของคนที่เรายังรักไม่ได้"

     

    พูดจบแบคฮยอนก็เดินเข้าไปหาเพื่อนทันที ชานยอลไม่ได้ตามไป เขายืนอยู่แบบนั้น พลันคิดไปถึงสิ่งที่แบคฮยอนพูด แบคฮยอนยังรักเขา ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนทำร้ายแบคฮยอน และเป็นคนทิ้งแบคฮยอนเอง

     

     

    แบคฮยอนที่เดินเข้ามาหาเพื่อน ก็เช็ดน้ำตาแล้วขอตัวกลับก่อน เพื่อนของเขาไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากนัก เพราะเข้าใจ ก็ได้แต่บอกให้แบคฮยอนกลับบ้านดีๆ

     

    แบคฮยอนคิดว่าเขาลืมชานยอลได้แล้ว แต่เปล่าเลย ตลอดสามปีที่เลิกกัน คนที่ยังอยู่ในหัวใจก็ยังเป็นชานยอลคนเดิมเสมอมา หรือนี่จะเหมือนที่คนเขาบอกกันนะ ว่าคนที่เป็นฝ่ายเข้าหาก่อนเขาเริ่มจากร้อย ผิดกับคนที่ถูกเข้าหาเริ่มจากศูนย์

     

    ความรักชานยอลเริ่มจากร้อย ความรักแบคฮยอนเริ่มจากศูนย์ ในขณะที่ความรักชานยอลลดลง ความรักแบคฮยอนก็เพิ่มขึ้นทุกวินาที จนสุดท้ายคนที่เจ็บปวดที่สุด ก็คือคนที่รักมากกว่า

    และในตอนนี้ คนคนนั้นคือแบคฮยอน คนที่รักชานยอลด้วยหัวใจที่เจ็บปวด

     

     

    "ความรักที่ชานยอลเคยให้เรา ความทรงจำที่เรามีด้วยกัน เราจะไม่มีวันลืมเลย ขอให้มีความสุขกับรักครั้งใหม่ และขอให้มีดีกว่ารักครั้งที่ผ่านๆมา.."

     

    ฟิคนี้เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ อ่านหนังสืออยู่แล้วพล็อตเข้าหัว เลยรีบแต่งก่อน555555555555555555555

    มันเลยสั้นแบบนี้ อิอิ ไปอ่านหนังสือแล้ว สอบพรุ่งนี้วันสุดท้าย

    สู้ๆนะ (บอกตัวเอง) 555555555555555555

    #smatCB

     

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×