คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ป่าหลงลืมดินแดนแห่งการหลงลืม
สุดเขตป่าสนตอนเหนือ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่หน้าเขตป่าหลงลืม ว่ากันว่าคนที่เข้าไปกลับออกมาจะจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้ แต่จะได้อดีตที่โหดร้ายกลับมาเป็นของฝาก โอ้ อยากได้จังเลย อดีตที่โหดร้าย...บ้าจริง
“นี่คือ ป่าหลงลืมขอให้พวกท่านทั้งสองอยู่ข้างในห้ามออกมาเด็ดขาด ถ้าพวกท่านหลุดออกจากอาณาเขตเวทย์ของข้า พวกปีศาจหรือภูตผีที่อยู่ในป่านี้จะออกมาสิงร่างของท่าน”
“ไร้สาระจะปล่อยให้เอล์ฟเตี้ยอย่างนาย มาขึงอาณาเขตเวทย์คนเดียวได้ยังไง อย่างนายน่ะต้องพึ่งฉันถึงจะถูกนะ”
เจ้าโอลาฟยิ้มน้อยๆก่อนจะกลับไปเป็นสีหน้าหงิกตามเดิม ผมชอบหน้าเก่านายมากกว่านะ
“เหอะ เจ้าเด็กไร้น้ำยาเห็นอย่างนี้ข้าก็อายุหลายร้อยปีนะจะบอกให้”
“จะว่าไปพ่อของฉันอายุประมาณ...”
“หนึ่งพันห้าร้อยปีพะยะค่ะ”
จริงสิ ปีศาจมีอายุยืนเป็นหมื่นๆปีก็ยังได้จะตายก็ต่อเมื่อหมดอายุขัยกับโดนฆ่าก็เท่านั้น
“งั้นฉันก็มีสิทธิอายุยืนขนาดนั้นงั้นเหรอ”
“ไม่ขอรับ หากพระองค์มีเวทย์ที่แข็งแกร่งพอๆกับท่านจ้าวฮาเดสท่านถึงจะมีอายุขัยเป็นพันๆปี”
งั้นก็อย่าหวังขนาด สิบหกปีที่ผ่านมาตัวยังแทบเอาไม่รอดเลย จะไปหวังอะไรกับร้อยปี พันปี ข้างหน้ากัน ทำปัจจุบันให้อยู่รอดก่อนก็พอ เหอๆ
“ท่าทางเราจะมีแขกนะ เจ้าเอล์ฟแคระ ขนาดยังเข้ามาไม่กี่ชั่วอึดใจ แม่มดแห่งป่าหลงลืมก็ออกมาทักทายซะแล้ว”มิลานเหยียดยิ้ม เย็นยะเยือก “รอเวลาจะได้ใช้ไอ้นั่นแล้ว”เขาไม่รอช้าหยิบคทาเวทย์ที่หัวลูกแก้วทำจากหินอควอไลเทียส ชนิดเปล่งแสง ส่วนด้ามคทาทำจากไม้ควอนเรเร่ ที่หายากแบบสุดๆและมีราคาแพงมากๆประมาณ หนึ่งแสนเอคูลหรือมากกว่านั้นซึ่งผมไม่มีปัญญาจ่ายแน่นอน
มิลานร่ายเวทย์อย่างใจเย็นเสียงดังกึกก้องไปทั่วป่า เวทย์ไอร้อนค่อยๆแผ่ปกคลุมไปทั่ว จนแม่มดสลายไป
นี่มันเวทย์ชั้นสูงชัดๆ
“เจ้าคือหนึ่งในห้าผู้ใช้เวท อัคคีสินะ มิลาน โอเรส ฟินิค เมจิคเชี่ยน ออฟ โรซาน”เจ้าเอล์ฟแคระเหยียดยิ้มน้อยๆ
“ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง พูดชื่อเต็มแล้วรู้สึกแปลกๆ แฮะ”เขายักไหล่
“ไหนนายว่าเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดไง”
“เหรอ ฉันเคยพูดแบบนั้นเหรอ ท่านเจ้าชาย”
ตีหน้าซื่อมากนะท่านจอมเวทย์อัคคี
“งั้นฉัน คงผิดเอง หูคงตึงตาคงถั่วแล้วล่ะ”
ผมเดินลงจากเกวียนเทียมม้า จะให้เรียกว่าเกวียนก็ไม่ถูก มันคือรถม้าที่ทำจากไม้เก่าๆชนิดว่าจะพังแหล่ไม่พังแหล่ มันไม่สมควรใช้คำว่ารถม้าได้เลยแม้แต่น้อย ว่าแต่เมื่อไหร่ผมจะได้ออกจากป่าเงียบๆแบบนี้สักที
“อ๊า...ท่าทางจะหลงของจริงซะแล้วล่ะ รู้สึกว่าเดินวนกลับมาที่เดิมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
มิลานก้มลงไปหยิบก้อนหินที่ทิ้งไว้ตอนจะเข้าป่า พอจะรู้แล้วว่านายทำเพื่ออะไร
“ข้าบอกแล้วว่าอย่างเจ้าเดินนำไม่มีทางได้หรอก”เจ้าโอลาฟทำจมูกฟึดฟัด
“งั้นท่านแคระเตี้ยก็เชิญหาทางออกป่าเองก็แล้วกันฉันชักจะเริ่มเบื่อแล้วนะ เดี๋ยวก่อนมีอะไรบางอย่างอยู่แถวนี้”ทุกคนหยุดชะงัก “หืม...ปีศาจเงางั้นเหรอ”
อะไรนะ ปีศาจเงา!!!มันคือตัวอะไร
“ปีศาจเงาถือว่าเป็นปีศาจพิทักษ์ป่าหลงลืม อันดับต้นๆของบารอนเทียร์เชียวล่ะขอรับ มีพลังที่แข็งแกร่งมาก มันจะดูดซับเอาพลังของคนที่เข้ามาในป่าไป ทำให้มันมีพลังเหนือพวกเรา งานนี้คงตายกันหมดแน่ แต่ว่าถึงชีวิตจะดับมอดข้าจะต้องพาเจ้าชายกลับไปให้ได้ขอรับ!!”เจ้าโอลาฟตะโกนเสียงดังก้อง
ผมซาบซึ้งใจจริง
“อย่าพูดคำชวนคลื่นไส้แบบนั้นจะได้ไหม ไม่มาช่วยกันสกัดไอ้พวกสวะนี่ ฉันล่ะรำคาญไม่รู้จักเหนื่อยกันบ้างหรือไง”
ลานวาดตัวอักษรแปลกๆลงบนพื้นก่อนมันจะเป็นเหมือนพลุลูกไฟกระเด็นใส่พวกปีศาจเงา
“ของแบบนั้นทำอะไรปีศาจไม่ได้หรอกเจ้าเด็กไร้น้ำยา เงาเกิดจากแสงสว่าง ถ้าไม่มีแสงสว่างพวกมันก็จะไม่หายไป”
โอลาฟหยิบคทาที่ทำจากต้นโอ๊คพิษ ชนิดหายาก ขึ้นมาวาดบนอากาศก่อนจะมีเมฆดำทะมึนลอยอยู่ทั่วท้องฟ้า แล้วสายฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาแล้วเริ่มหนักขึ้น
แต่เงาพวกนี้ก็ไม่ได้หายไปเลย มันยังกลับสู้อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประมาณว่าคาถาเรียกฟ้าเรียกฝนเป็นค้อปเซ็ตเสริมก่อนเราจะตายกันหมดแค่นั้น
‘เจ้าชายปีศาจเอ๋ย...ตอนนี้ท่านกำลังจมดิ่งของห้วงแห่งฝันร้าย จงจมลงไปแล้วรู้ความจริงเสีย’
อยู่ๆร่างกายก็สั่นเทิ่มอย่างประหลาดสติค่อยๆดับวูบทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นความมืด ทั้งหมด
ความทรงจำอันเลวร้ายไหลทะลักเข้ามาเหมือนน้ำทะเลซัดเข้าฝั่งอย่างไม่ปราณี ความจริงประจักษ์ตรงหน้า
ฝันร้ายได้ปรากฏขึ้น
‘โอ ท่านมนุษย์ผู้ปราณีได้โปรด กลับไปเสีย อย่าเข้ามารุกล้ำเขตแดนปีศาจเลย ข้าขอร้อง’
‘เจ้าปีศาจ...พวกเราจะทำการกำจัดเจ้า ปีศาจจะได้หายไปจากดินแดนของเราคืนสู่ความสงบ กำจัดโอรสของความชั่วร้าย’
‘ได้โปรด เราไม่อยากทำร้ายพวกท่าน’
ราชินีปีศาจหลั่งน้ำตา อยู่ๆต้นกุหลาบยักษ์ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินก่อนจะเลื้อยพันเหล่าผู้บุรุกอย่างไม่รอช้า แล้วรัดพันตัวก่อนเลือดจะพวยพุ่งออกมาจากร่าง
‘ข้าเตือนพวกท่านแล้ว...’
ราชินีปีศาจว่าด้วยเสียงสั่นเครือ ที่จริงไม่น่าทำแบบนี้เลย
ฉึก
‘อา...ลูกชายฉัน’
ราชินีผู้งดงามล้มลง เลือดสีแดงสดค่อยๆไหล เหมือนสายน้ำ
‘โรสริน่า!!!’
จ้าวฮาเดส โผลกอดราชินีสุดที่รัก ด้วยใจที่เต้นรัว กลัวเหลือเกินความตายที่จะมาพราก
‘ท่านฮาเด...ส’
ราชินีพูดด้วยเสียงที่ขาดห้วง ในอ้อมแขนกอดโอรสไว้แนบอก ก่อนจะส่งให้กับท่านจ้าวฮาเดส
‘ฝากโอรสของเราด้วย ปกป้องเขาให้พ้นจากอันตราย ให้เขาเติบโตเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ ให้เขา...ปกครองอย่างยุติธรรมเป็นราชาผู้เที่ยงตรง’
เสียงสุดท้ายของราชินีหายไป จ้าวฮาเดสคำรามด้วยความโกรธ แล้วค่อยๆอุ้มโอรสกับราชินีไปไว้บนเตียง ก่อนจะหยิบดาบคู่กายแล้วกระโดดลงจากหน้าต่าง ฟาดฟันทุกสิ่งที่ขวางทาง ด้วยความรู้สึกที่อยากฆ่าเพียงอย่างเดียว
น่าสงสารเหลือเกิน...
“อ๊ากกกก...”
ดอลร้องอย่างเสียสติ เจ็บปวดเหลือเกิน
“จงดูซะ เพราะเจ้าเกิดมา ราชินีผู้งดงามหนึ่งเดียวในทุ่งกุหลาบสีเงิน ต้องมาจบชีวิตด้วยการเพียงปกป้องเจ้า ไร้ค่า ไร้ค่าจริงๆ...”
เพราะเราเกิดมาคนๆนั้นถึง ต้องเป็นแบบนี้งั้นเหรอ
“ชีวิตเจ้าช่างไร้ความหมายบุตรแห่งจ้าวฮาเดสเอ๋ย ชีวิตเจ้าช่างไร้ค่าโดยสิ้นเชิง ได้ยินดังนั้นเจ้าจะยังอยากมีชีวิตต่ออีกหรือ??”เสียงปริศนายังคงถาม
“หึๆๆฮ่าๆๆ อะไรกันจะบ้าหรือไงเกิดบ้าเกิดบออะไรกัน แกมันก็แค่ปีศาจชั้นต่ำที่ชอบเอาความทรงจำของคนอื่นมาเล่นสนุก!!แกรู้ดีแล้วงั้นเหรอที่ยัยราชินีงี่เง่ากับไอ้พ่อปีศาจบ้าบอนั่น ปกป้องฉัน เหอะ!อยากจะอ้วกสุดเกินทนถ้าปล่อยให้ไอ้เด็กบ้านี่มันมัวยืนทึ่มรอฟังอะไรงี่เง่าของแกล่ะก็มันเดี้ยงแล้วโว้ย”
“เจ้าเป็นใครกันแน่...”
“ฉันก็เป็นฉันน่ะสิ เพราะฉะนั้น พ่อแม่ที่เลือกอยากให้ลูกเกิดมาจากความรักมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือไร้ค่า!!มันคือความรักที่บริสุทธิ์แม้แต่แกก็ไม่มีวันเข้าใจหายไปซะกระจกสะท้อน....คำโกหก”
ฟุ่บ
“ช่างเก่งเหลือเกิน บุตรท่านจ้าวฮาเดส ข้าคงมองเจ้าผิดไป แล้วเราคงจะได้เจอกันใหม่”
“ใครจะอยากเจอกับแกกันไปตายซะไป”
ว่าแล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองตื่นจากความฝัน ฝันที่คิดไม่ออกว่าตัวเองกำลังฝันอะไรเจ้าแคระเตี้ยรีบเข้ามาพยุงผมด้วยสีหน้าหวั่นๆทั้งสำรวจร่างกายผมทั่ว
“เจ้าชายไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหมขอรับ”
“ไม่นี่”
“ค่อยยังชั่วหน่อยขอรับ ถ้าพระองค์ทรงเป็นอะไร กระหม่อมโดนท่านจ้าวตัดหัวแน่”มันทำท่าขนลุกก่อนจะจับคอตัวเองอย่างหวงๆ
“ถ้ายังมีเวลามานั่งแล้วบ่นฉันว่าพวกนายน่าจะออกเดินทางกันได้แล้ว จะมืดอยู่แล้วแท้ๆ ป่านี้ยิ่งมือยิ่งแย่กว่านี้อีกนะจะบอกให้”มิลานบ่น ด้วยความเบื่อพลางบิดตัวด้วยความเมื่อย
“อา...นั่นสินะ รีบๆออกกันเถอะ”
ว่าแล้วรถ(เกวียน)ม้าก็ค่อยๆเคลื่อนออกจากที่ตรงนั้น อา...ผมรอเวลานี้มานานจริงๆนะ อยากออกไปจะแย่อยู่แล้ว
ความคิดเห็น