ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมน่ะหรือว่าที่ราชาปีศาจ!!

    ลำดับตอนที่ #4 : กับดักหญิงงาม

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 55


                    “นี่มันสวรรค์ของผู้ชายชัดๆ”

                    ผมตาค้างกับภาพที่อยู่ตรงหน้า สตรีสาวแสนสวยกว่าร้อยคนกำลังยืนอยู่ตรงหน้า!!พวกเธอแต่ละคนยิ่งดูยิ่งหน้าหลงใหลเป็นที่สุด

                     “ตายแล้วพ่อหนุ่มน้อยสองคนกับ...เอลฟ์แคระ เข้ามาที่นี่ได้ยังไงกันจ๊ะ”สตรีสาวผมสีชมพูเริ่มเอ่ยถาม

      “หลงน่ะ”มิลาน

                     “...”โอลาฟ

                    “ไม่รู้สิครับ”ผมตอบอย่างหวั่นๆ เพิ่งจะออกมาจากป่านั่นได้ ยังมาเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ จะว่าดีมันก็ดีอยู่หรอกแต่ผมว่ามันแปลกไปหน่อยนะคุณว่าไหม

                    “งั้นก็เชิญเข้าไปในบ้านของเราก่อนดีไหม พวกเธอตัวเย็นอย่างกับน้ำแข็งสงสัยจะเพิ่งเจอเรื่องร้ายๆมาล่ะสิท่า”สตรีสาวผมสีแดงเพลิงเอ่ย

                     “ฉันรู้แล้วพวกเธอคงออกมาจากป่านั่นล่ะสิท่า”

                     “เอ่อ...”ผมตอบอึกอัก

                     “ฮ่าๆๆๆ โอ้ย ขำจะบ้าตายอยู่แล้วขอโทษนะแต่ฉันไม่ไปหรอก พวกเราคงต้องออกเดินทางกันต่อแล้วล่ะ กำลังรีบน่ะ”มิลานตอบปัดคำเชิญจากสาวๆทันที

                     “ใจร้ายจังนะคะ แหม ไม่เชื่อใจพวกเราล่ะสิท่า”สตรีสาวผมสีบลอนด์เริ่มทำหน้าตาออดอ้อน

                     “จะว่างั้นก็ได้”

                     “แล้วคุณจะว่าไงคะ พ่อหนุ่มผมช็อคโกแลต”แม่คนผมชมพูพูดพลางใช้มือลูบไล้ผมของผม ขนลุกจริง

                    “ขอความกรุณาด้วยนะครับ”

                     “เฮ้ย นี่นายบ้าไปแล้วเหรอไง”มิลานรีบกรูเข้ามากระชากคอเสื้อผม

                     “เอาน่า เราก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่พักซักหน่อยจะเป็นไรไป พวกเธอก็ดูจะไม่มีพิษมีภัยตรงไหนเลยด้วย”

                     “ไม่มีพิษมีภัย เหอะ เชื่อตายล่ะยายพวกนี้ปลิ้นปล้อนจะตายชักฉันผ่านประสบการณ์มาเยอะกว่านายทำไมฉันจะไม่รู้กัน”

      “นี่ เจ้าคนชั้นต่ำปล่อยมือของเจ้าออกเดี๋ยวนี้นะ!!

                     เจ้าโอลาฟกัดฟันกรอดๆด้วยความโมโห มันรีบกระโดดมางับแขนมิลานทันที เขาตกใจมากถึงกับสลัดแขนพร้อมยกดาบคู่กายเกือบจะฟันโอลาฟทันที

                    “หยุดนะทำบ้าอะไรกันน่ะ ฉันจะพักที่นี่ใครมีปัญหาอะไรไหม!!!”ผมตะโกนก้อง

                     “เหอะ น่าสนุกดีนี่อยากรู้เหมือนกันว่าเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงต่อไป”มิลานยิ้มนิดๆ ดูนายจะอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยนี่

                     “แล้วแต่ท่านเลยขอรับ กระหม่อมไม่มีปัญหา”

                     “งั้นท่านหญิงขอความกรุณาด้วยนะครับพวกผมจะขอพักที่นี่สักคืนจะว่าอะไรไหม”

                     “ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ นานๆทีจะมีคนเข้ามาที่นี่” พวกเธออยู่ๆก็ยิ้มหวานออกมาผมคิดว่าผมชักไม่แน่ใจซะแล้วล่ะ

                    “พวกคุณก็พักกันที่ห้องนี้ก็แล้วกันนะคะ ห้องนี้มีสองเตียงห้องน้ำอยู่อีกทางถัดจากห้องนี้ไป อาหารจะเริ่มรับประทานตอนสามทุ่มตรงที่ห้องอาหารด้านล่างนะคะ”แม่สาวผมฟ้าพูดแจ้วๆจบเธอก็ปิดประตูแล้วก็ออกไป

                    “ให้ตายเถอะ ที่นี่มันชักพิลึกๆขึ้นทุกนาทีแล้วนะ นายคิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ เราออกมาจากไอ้ป่าเลวร้ายนั่นได้อยู่ๆมาเจอผู้หญิงเป็นร้อยยืนรับแขกเหมือนจะรู้ว่าพวกเราต้องมาทางนี้แน่นอน ทางเข้าออกป่าแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ทางเดียวนะมันมีหลายทาง มันถึงเรียกว่าป่าหลงลืมไง ไม่เคยมีใครรู้เส้นทางออกที่แน่ แล้วอยู่ๆยายพวกนี้ออกมาต้อนรับ เหอะ! โคตรแปลกเลยว่ะ”

                    มิลานนายจะทำตัวมีประโยชน์ขึ้นถ้าหุบปากแล้วเงียบไปซะนะ

                    “ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ยิ่งเข้าใกล้ดินแดนแห่งบารอนเทียร์แน่นอนว่าย่อมมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แม่สาวพวกนั้นเองก็ท่าทางจะเป็นปีศาจแต่เดี๋ยวนี้มีศาจที่ลบกลิ่นไอได้ก็มีออกเยอะแยะไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ข้าดูไม่ออกหรอกนะ”เจ้าเอล์ฟแคระก็เสนอขึ้นมาอีกคน

                    “ฉันว่าพวกนายคิดมากกันไปเองแล้วนะ เจอของดีแล้วก็สงสัยเจอของไม่ดีก็สงสัย สรุปจะเอายังไงกันแน่”

                    “นี่เจ้าเอล์ฟแคระสงสัยเจ้าชายของนายจะเป็นพวกเชื่อใจคนง่ายสินะ มีแววว่าอายุขัยจะน้อยแล้วซะแล้วสิ เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆหรอก คิดว่ามานั่งกินนอนกินอยู่นี่แล้วมันจะฟรีหรือไงฉันคิดว่ายายพวกนั้นอาจจะวางยาเราสามคนแล้วลากไปแล่เนื้อกินก็ได้ใครจะไปรู้ มันก็คงจะคล้ายๆเรื่องเล่าของไซเรนนั่นล่ะ”อยู่ๆมิลานก็ยืนเงียบไป”หรือไม่เราก็ลองเล่นตามน้ำไปเผื่อจะเจออะไรที่มันเจ๋งๆช่วงนี้ฉันเองก็อยากจะออกกำลังกายอยู่ซะด้วยสิ”

    เขาเริ่มยิ้มขึ้นมานิดๆ รู้แล้วล่ะว่านายมันพวกชอบบู๊น่ะ

    “เอาตามที่เจ้าหนูนี้ว่าแล้วกัน ข้าเองก็อยากรู้ว่าพวกนั้นเป็นปีศาจประเภทไหน ถ้าน่าสนใจคงต้องเอาไปทดลองสักหน่อย”

    เจ้าแคระเตี้ยอยู่ๆมันก็ยิ้มกว้างที่แท้นายมันก็พวกนักวิจัยสิท่า ชอบเอานู่นเอานี่ไปทดลองอะไรแปลกๆน่ะ

    “หึ ฉันไปอาบน้ำหน่อยดีกว่าเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”

    มิลานคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาก่อนจะจัดการหยิบนู่นหยิบนี่ออกแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมผ้าเช็ดตัว

    “เจ้าชายขอรับ ให้ข้ากระผมนำอาหารขึ้นมาให้บนนี้ดีกว่าไหมขอรับ เกรงว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นถ้าลงไปนั่งร่วมโต๊ะกับพวกนั้น”

    “คิดมากไปแล้วไม่ต้องขนาดนั้นหรอก”

    เคร้ง ตุบ!

    อยู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับมิลานที่เปิดประตูพรวดออกมากับผ้าเช็ดตัวที่คลุมเฉพาะส่วนท่อนล่างเท่านั้น

    “บ้าจริงให้ตายเถอะ!!”มิลานสบถออกมา

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ”ผมรีบวิ่งมาดู

    “น้ำน่ะสิ มันเป็นเลือดผสมโคลน ไหลอย่างกับเขื่อนแตกแถมมีหนอนออกมาอีกขนลุกเป็นบ้า”

    มิลานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเช็ดร่างกายที่เต็มไปด้วยโคลนออก ผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆมิลานได้กลิ่นแปลกๆจากตัวเขา กลิ่นนี้มัน

    “มิลานกลิ่นตัวนายเหมือนกลิ่นศพเลย รู้สึกหยะแหยงชะมัด”ผมปิดจมูกแล้วเดินถอยห่างจากเขาไปเยอะพอสมควร

    “จริงด้วยไอ้หนูกลิ่นตัวเจ้าเหมือนศพเลย”โอลาฟเองก็ได้กลิ่นอย่างที่ผมได้กลิ่น

    “บ้าจริง ทำไมฉันไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย”เขาสำรวจรอบตัวเอง แล้วพยายามหากลิ่น

    “จริงๆนะ กลิ่นตัวนายอย่างกับศพเหม็นเป็นบ้า ก็สมควรอยู่หรอกโคลนผสมเลือดกับหนอนเนี่ย แต่กลิ่นมันไม่แรงไปหน่อยเหรอ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปหาต้นตอของน้ำนี่แล้วกัน น้ำคงไหลมาจากแท๊งก์ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้”

    ผมคว้าเสื้อคลุมก่อนจะบิดลูกบิดก็มีคนมาจับมือผมไว้ก่อน

    “เจ้าชาย...ไปไม่ได้นะขอรับ!!ถ้าเกิดมีอันตรายขึ้นมาจะทำยังไง ให้กระผมไปแทนดีกว่า”ที่แท้ก็มือนายเองงั้นเหรอ

    “ไม่ได้นะเจ้าแคระเตี้ย!นายต้องอยู่ที่นี่กับมิลานถ้าเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็ช่วยไม่ทันน่ะสิ ก็แค่ไปสำรวจดูนิดหน่อยเท่านั้น ฉันไม่ไปไกลจากที่นี่หรอกอย่าห่วงเลย”ผมยิ้มให้ ผมพยายามบอกพวกเขาว่าไม่เป็นอะไร

    “แต่...”

    “นี่เป็นคำสั่งนะโอลาฟ อยู่ที่นี่ซะ ฉันไปไม่นานหรอกอย่าห่วงเลย”

    ผมพูดจบก็รีบออกมาจากห้องพักทันที ทางเดินมือสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย อยู่ๆแขน ขา ก็เริ่มเย็นขึ้นมาอย่างประหลาด ผมตั้งสติก่อนจะท่องคาถาที่พ่อเคยสอน

    “ไลเตอร์ ฟลัด”

    ฟุ่บ

    ตอนนี้เทียนที่ไม่มีวันดับได้อยู่ในมือผมเรียบร้อย มันจะดับก็ต่อเมื่อผมบอกให้ดับและมันจะสว่างขึ้นอีกก็ต่อเมื่อผมท่องคาถา จะเรียกว่าคาถาก็ไม่ถูก เพราะไอ้นี่มันสั้นมากคงเรียกคาถาไม่ได้หรอกนะผมว่า เอาเถอะผมไม่มีเวลาอยู่ตรงนี้นานมากๆหรอก ยังไงก็ต้องหาแท๊งก์น้ำนั่นให้เจอ

    ผมเดินไล่มาตามทางเดินที่มีแค่แสงสว่างจากเทียนในมือที่ให้ความสว่างเท่านั้น จนได้ยินเสียงดังมากจากห้องด้านขวามือ เสียงผู้หญิงคุยกัน?

    “ผู้ชายคนนั้นอาบพิษนั่นเรียบร้อยแล้ว รอแค่ถึงเวลาเท่านั้น เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดา สมควรนำไปให้แก่ท่านผู้นั้น”

    “ข้าเองก็คิดเช่นนั้น บางทีพิษของเราอาจทำอะไรมันไม่ด็ได้นะ”

    “แล้วเจ้าสองตัวที่เหลือล่ะจะทำยังไง”

    “ฆ่ามันทิ้งซะ ท่าทางไร้ประโยชน์แบบนั้นท่านผู้นั้นคงไม่พอใจหรอก ว่าแต่เจ้าคนข้างนอกจะยืนฟังพวกเราพูดอีกนานไหม”

    ตาผมเบิกโตด้วยความตกใจ พวกนั้นรู้ว่าผมมาแอบฟังตั้งแต่แรก ผมรีบวิ่งไปตามทางเดินให้เร็วที่สุด

    “เจ้าหนู เธอไม่มีวันหนีรอดจากที่นี่ได้หรอก ต่อให้วิ่งไปจนตายยังไงก็ไม่มีทาง...”เสียงผู้หญิงเริ่มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ยิ่งวิ่งยิ่งรู้สึกว่าไกลกว่าเก่าทำไมยังไม่ถึงสักทีนะ บ้าเอ้ย!! ผมต้องรีบไปที่ห้องต้องไปบอกพวกเขาว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น!!!

     

    “นานเกินไป นานเกินไปแล้วต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเจ้าชายแน่ๆ”โอลาฟลุกพรวดขึ้น

    “ไม่ได้ยินที่ดอลบอกหรือไงนายต้องรอนี่นะ”

    “ใครจะไปทนรอได้กัน ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าชายแน่ๆข้าสัมผัสได้ กลิ่นไอของเจ้าเองก็เช่นกัน มันชักจะเริ่มแรงขึ้นทุกทีแล้วนะ”

    “...”

    “เฮ้ ไอ้หนูเป็นอะไรอยู่ๆก็เงียบไป...!

    มิลานที่เงียบไปอยู่ๆก็ลุกขึ้นมา สายตาของเขาว่างเปล่าไม่มีแม้กระทั่งเงาในดวงตา

    “นี่มัน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!เจ้าจะไปไหน มันอันตรายนะ ถ้าเจ้าออกไปต้องแย่แน่ ควบคุมสติสิอย่าให้มันครอบงำจิตใจเจ้าได้ ตั้งสติสิไอ้หนู!!!”โอลาฟตบหน้ามิลานเพื่อเรียกสติแต่ก็ไม่เป็นผลเขายังคงเดินไปที่ประตู

    “ต้องไปหาท่านผู้นั้น...”อยู่ๆมิลานก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นยะเยือก

    “ไอ้เด็กบ้าเอ้ย!ข้าบอกให้หยุดไง ไม่ได้ยินเหรอไง”

    “พูดไปเขาก็ไม่ได้ยินหรอก อย่าพยายามเลยเจ้าเอล์ฟน้อย อา...ยังไงข้าก็อยากจะเก็บเจ้าไว้แท้ๆแต่ว่าเก็บไปก็คงไม่มีประโยชน์เท่าพ่อหนุ่มนี่หรอกนะ พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งแบบนี้ข้าเพิ่งเคยเห็น ท่านผู้นั้นจะต้องพอใจแน่ๆ”สตรีสาวผมสีบลอนด์ยิ้มน้อยๆมาให้เขา

    “เหอะ ดูถูกข้าไปหน่อยแล้ว ข้าไม่ได้มีน้ำยาแค่เท่าที่เจ้าเห็นหรอกนะข้ามีมากกว่านี้ซะอีก”

    “เพราะมีแค่นี้ไงถึงขัดขืนได้ ยังไงซะห้องนี้ก็โดนวงเวทย์พันธนาการไว้แล้ว เจ้าไม่มีวันออกไปจากที่นี่ได้หรอกข้าบอกไว้เลย”เธอยังคงส่งยิ้มมาให้

    เจ้าชาย...ข้าอาจจะไม่รอด ขอให้ท่านออกไปจากที่นี่ได้ก็เพียงพอแล้ว

    ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน ไม่ไหวแล้ววิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว ทำไมเราถึงอ่อนแอแบบนี้นะเพราะอะไรกัน

    แค่นี้ก็หมดแรงแล้วเหรอเจ้างั่งเอ้ย

    เสียงใครกัน นายเป็นใคร

    ก็เป็นแกนั่นแหละเจ้าโง่ อยากพบเพื่อนไม่ใช่เหรอ อยากช่วยพวกมันไม่ใช่เหรอ แข็งใจแล้วลุกขึ้นซะ ทำในสิ่งที่ควรจะทำ แกไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น พวกมันมานู่นแล้ว รีบลุกเดี๋ยวนี้!!’

    รู้แล้วน่า อย่ามาสั่งฉันหน่อยเลย

    ผมฮึดลุกขึ้นวิ่งอีกครั้ง ยังไงก็ต้องไปให้ได้ ต้องไปให้ถึง ไม่งั้นพวกมันแย่แน่

    “อ้ากกก...!!!

    โอลาฟร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อวงเวทย์พันธนการเริ่มออกฤทธิ์ เขาดิ้นไปมาไม่หยุด สตรีสาวผมบลอนด์ยังคงยืนกอดอกพิงประตูหน้าตาเฉย ทำให้เขารู้สึกฉุนยายผู้หญิงคนนี้

    “ฮ่าๆ เจ้าเอล์ฟน้อย พอเห็นเจ้าในสภาพนี้น่าสงสารจนข้าอยากจะปล่อยออกมาให้รู้แล้วรู้รอดจริงๆ”

    “อะไรเล่า งั้นก็ปล่อยข้าสิ คอยดูเถอะถ้าข้าออกจากเวทย์พันธนาการห่วยๆนี่ได้ล่ะก็ เจ้าโดนข้าสับเป็นชิ้นๆแน่”

    โอลาฟกัดฟันกรอด

    “รอจนถึงตอนนั้นก่อนแล้วกัน...หืม?

    ตูม!!!

    “ปล่อยโอลาฟเดี๋ยวนี้นะยายผู้หญิงงี่เง่า!”ผมปล่อยเวทย์ที่พ่อเคยสอนให้ใส่ผู้หญิงที่ยืนทำหน้ากวนตรงประตู ตายหรือยังนั่น?

    “พ่อหนุ่มผมช๊อคโกแลตเองเหรอ ว่าไง มาทำอะไรแถวนี้ล่ะเจ้าน่าจะตายไปแล้วนี่นา”

    “ใครจะไปตายง่ายๆกันล่ะ ถ้าตายง่ายก็ไม่ใช่ฉันแล้ว”

    ผมหอบแฮกๆด้วยความเหนื่อย บ้าเอ้ย มิลานหายไปไหนแล้ว

    “ถ้าจะหาพ่อหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นก็ไม่อยู่แล้วล่ะ เขากำลังจะเป็นของฝากให้ท่านผู้นั้นจากพวกข้า คิดดูสิว่าท่านผู้นั้นจะประทับใจขนาดไหน”

    หนอย...อึก อะไรกันอยู่ๆก็ปวดหัวอย่างประหลาด

    สงสัยฉันต้องออกโรงแทนแกแล้วล่ะ ทำไมอ่อนแอขนาดนี้นะทั้งที่มีสายเลือดปีศาจไหลเวียนอยู่ในตัวแกแท้ๆ แถมใช้เป็นแต่เวทย์เห่ยๆอีก ชิ

    นายอีกแล้วเหรอ

    ถ้าแกยังทำตัวแบบนี้อีกนะ คอยดูเถอะ สักวันฉันจะครองร่างนี้โดยสมบูรณ์แน่ รอบนี้ถือว่าฉันช่วยแล้วกัน

    “หนึ่งคำก็ท่านผู้นั้น สงคำก็ท่านผู้นั้น พูดพล่ามอะไรนักหนาฟระ น่ารำคาญชะมัด ฮ่าๆๆๆไม่ได้ออกมาสูดอากาศเต็มปอดขนาดนี้นานแล้ว ขอยืดเส้นยืดสายหน่อยแล้วกัน เฮ้!ยายผู้หญิงคนนั้นไม่เข้ามาหน่อยเหรอ หรือมีน้ำยาแค่ยืนอวดเบ่งอยู่นั่นล่ะ?

    “หืม...อย่าคิดว่าดูถูกฉัน แล้วทำเป็นสร้างภาพว่าตัวเองหยาบคายขึ้นแล้วจะทำให้ข้ากลัวนะ”เธอตอบฉุนๆ

    “ชักช้าจริง คิกๆ”

    ตูม!!

    เคียวเล่มใหญ่สีดำเข้าปะทะกับร่างของสตรีสาวผมบลอนด์อย่างจัง จนทำให้เธอกระเด็นติดกำแพง

    “เจ้าชาย...นี่มัน”โอลาฟเบิกตาโตด้วยความตกใจ ภาพตรงหน้าทำเอาเขาหัวใจแทบหยุดเต้นเพียงเสี้ยวนาที

    “ฮ่าๆๆๆ เป็นไงล่ะ รู้สึกเสียวสันหลังวูบเลยแฮะ คิดจะรุมฉันหรือไง??

    แรงกดดันมหาศาลแบบนี้มันอะไรกัน เหมือนไม่ใช่เจ้าหนูคนที่เจอเมื่อตอนช่วงเย็น มันปีศาจชัดๆแบบนี้ เกิดอะไรขึ้น สตรีสาวผมบลอนด์คิด

    “แต่ว่าสู้ในที่แคบๆแบบนี้ฉันไม่ค่อยชอบเลยแฮะ ไปตรงลานดีกว่านะ”

    วูบ

    อยู่ๆร่างของเขาก็หายตัวไป พร้อมผู้หญิงเกือบสิบคนที่ตามหลังมาติดๆ เหลือเพียงแค่โอลาฟ ที่ยังถูกเวทย์พันธนาการที่ยังไม่สามารถออกมาได้

    “เจ้าชาย ไม่สิดวงตานั่นเหมือนท่านจ้าวไม่มีผิด ท่าทางห้ำหั่นบ้าเลือดขนาดนั้นเองก็เช่นกัน เหมือนไม่ใช่เจ้าชายแต่เป็นท่านจ้าวไม่มีผิด”

     

    “โอ้ กว้างดีนี่ เหมาะจะเป็นสถานที่ละเลงเลือดพอดี ฮ่าๆๆๆ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×