ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมน่ะหรือว่าที่ราชาปีศาจ!!

    ลำดับตอนที่ #2 : นี่มันไม่ขำนะ!ล้อผมเล่นใช่ไหม?

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 55




    “ดอล...จงตื่นเถิด ตื่นจากห้วงนิทราและฝันร้ายอันน่าเศร้าแล้วจงลืมตาขึ้นมาดูภาพเบื้องหน้าท่านเถิด ฝันร้ายของท่านได้จบลงแล้ว จงตื่น...เจ้าชายแห่งความมืดเอ๋ย”

                     “อือ ใครเรียกฉันกัน”

                    “อ้าว นายตื่นแล้วงั้นเหรอ นึกว่าจะตายซะแล้ว”

                    ภาพเบื้องหน้าคือ ผู้ชายอายุราวๆไล่เลี่ยกับผม ดวงตาสีม่วงทับทิมจับจ้องมาด้วยความเป็นห่วง ผมยาวประบ่า ยามแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าดำสนิทดุจทับทิมที่ถูกเจียระไนอย่างดี อะไรจะเท่าผิวขาวที่ดูสุขภาพดีลูกเศรษฐีงั้นเหรอ

                    “ฉันก็คิดแบบนั้น ว่าแต่นายเป็นใครกัน”

                    “ฉันชื่อ มิลาน โอเรส เป็นนักเวทย์ฝึกหัดของโรซานกำลังเดินทางอยู่ในเขตป่าสนตอนเหนือ ฉันได้ยินเสียงคนร้องเลยรีบวิ่งไปดูก็เห็นนายในสภาพที่โดนงูรัดนั่นแหละ”

                    “ทำไมเมดูซ่า ถึงมาอยู่ที่ป่าสนตอนเหนือได้ ความจริงมันต้องอยู่ที่เขตป่าล้างมลทินนี่นะ”

                    “ฉันว่านายคงโดนจ้องเอาชีวิตอยู่แน่”มิลานวิเคราะห์

                    “ฉันไม่เคยมีปัญหากับใครเลยนี่ ว่าแต่ตอนฉันยังไม่ได้สตินายเรียกชื่อฉันหรือเปล่า”

                “อ่า...เปล่านะ ฉันไม่รู้แม้กระทั่งชื่อนายจะให้เรียกได้ไงล่ะ ว่าไหม??

                     “นั่นสินะ เสียงในความฝันเป็นเสียงผู้ชาย บอกว่าจงตื่นเถิด...เจ้าชายปีศาจหมายความว่ายังไงกันแน่”

                     ผมชักจะเริ่มมึนๆกับเรื่องนี้แล้วนะ มิลานนั่นเงียบสักครู่ก่อนจะเริ่มพูด

      “เจ้าชายปีศาจ...หรือว่านายคือเจ้าชายปีศาจดอลที่หายตัวไปเมื่อหลายปีที่แล้ว!!!

      หา???????

                 “ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยฉันไม่เข้าใจ”

                     “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชาและราชินีปีศาจ ราชาปีศาจเป็นชายที่สง่างาม รูปงามราวกับรูปแกะสลักของเทพเจ้า ส่วนราชินีมีเกศาสีทองเหลืองอร่ามเหมือนทองคำ มีดวงตาสีฟ้าสดใสดังท้องทะเลที่สามารถล้างมลทินบาปทั้งปวงของมนุษย์ ภูตพราย ปีศาจ ยักษ์ และวิญญาณได้ นางคือราชินีแห่งทุ่งกุหลาบสีเงิน วันๆหนึ่งนางได้ให้กำเนิดบุตรชายผู้มีดวงตาสีแดงวาวโรจน์ราวกับพระอาทิตย์ฉายแสงมีผมดำสนิทดุจความมืดแห่งรัตติกาล มีผิวขาวละเอียด มีใบหน้าที่งดงามราวกับรูปปั้นเหมือผู้เป็นพ่อ วันที่แสนสงบสุขก็ได้เลยผ่านพ้นไป เมื่อมนุษย์รุกล้ำดินแดนของจ้าวฮาเดส ราชาของปีศาจแห่งความมืดทั้งปวง พวกมนุษย์ผู้โง่เขลาสามารถบุกเข้าไปในปราสาท เพื่อปกป้องโอรสสุดที่รักไว้ ราชินีโรสริน่า ได้ใช้พลังชีวิตที่มีอยู่ปกป้องโอรส จนราชินีสิ้นใจไปในอ้อมแขนของท่านจ้าวฮาเดส ท่านจ้าวฮาเดสพิโรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่คำขอสุดท้ายของราชินีที่รักยิ่งจึงทำให้ท่านจ้าวฮาเดสพาพระโอรสหนีออกจากดินแดนปีศาจ ก่อนหน้านั้นท่านจ้าวได้แปลงกายเป็นพ่อค้าเร่ แล้วทิ้งพระโอรสไว้ที่ป่า เพื่อความปลอดภัยของโอรสทำให้พระองค์ต้องจำใจทำถึงเพียงนี้ มนุษย์ที่คิดจะเอาชีวิตโอรสจะไม่มีวันได้ทำอย่างนั้น ท่านจ้าวฮาเดสจึงต้องจำใจกลับปราสาทด้วยความโสมนัสใจยิ่งนัก ราชาปีศาจผู้ไม่เคยพ่ายต่ออะไร กลับกันแสงด้วยความเสียพระทัย เสียทั้งราชินีอันเป็นที่รักยิ่งเสียทั้งพระโอรสตัวน้อย ยิ่งคิดพระองค์ก็ยิ่งเกลียด เกลียดพวกมนุษย์ผู้มีจิตใจสกปรก หลงมัวเมาในสมบัติทั้งหลายแห่งราชวงศ์”

                    แน่นอนว่าเจ้ามิลานนี่ทำเอาผมมึนงง แล้วแม่บุญธรรมผู้แสนใจดีก็เก็บผมได้ในป่า เธอเห็นผลไม้ที่อยู่ในตระกร้าเลยตั้งชื่อว่าดอล

                    “มันก็จริงที่ฉันถูกเก็บมาเลี้ยง ไม่มีใครยืนยันได้นี่ว่าฉันเป็นเจ้าชาย”

                     “ดวงตาสีแดงเพลิงวาวโรจน์ดุจแสงอาทิตย์ ผมสีดำสนิท ผิวขาวละเอียด ฉันว่ายังไงนายก็ต้องเป็นโอรสของราชาปีศาจแน่ๆ”มิลานตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ ดีจริงนะ

                    “ใครจะเชื่อล่ะนั่นถ้ามีหลักฐานแค่นี้”

                    “มีสิขอรับเจ้าชาย”

                    หือ เสียงใครน่ะ ผมมองหันซ้ายหันขวาก็พบ พ่อมดเอล์ฟดำ??ตัวเล็กเท่าหน้าแข้งขา

                     “นาย...เป็นใคร!!!

                    “ข้ามีนามว่า โอลาฟ เดอะ บิทเทน ออฟ บารอนเทียร์ ขอรับ เป็นเอล์ฟพิทักษ์ของราชวงศ์ปีศาจในนามของท่านจ้าวฮาเดส ข้าตามหาเจ้าชายมาหลายปีจนในที่สุดก็เจอ แต่ระหว่างทางเองนั้นข้าก็ถูกนักฆ่าว่าจ้างของราชาเอเดส ส่งมาเพื่อตามหาแล้วกำจัดพระองค์ให้สิ้น พระองค์คือยอดหนามขวางคอขนาดใหญ่”มันทำท่าจะร้องไห้

                    “เดี๋ยวนะนี่ฉัน เป็นเจ้าชายจริงๆงั้นเหรอ??

                   “ข้ากระหม่อมมิบังอาจเอาเรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้มาล้อเล่นหรอก พระองค์โปรดอย่างทรงกังวล ข้าจะนำพาพระองค์กลับสู่แผ่นดินแห่งจ้าวฮาเดสเอง”

                     เจ้าเอล์ฟแคระพูดซะจนผมเสียเส้น ปีศาจ ปีศาจแล้วก็ปีศาจ ใครก็ได้ฆ่าผมทิ้งที...บอกซิว่านี่มันเป็นเรื่องล้อเล่นหาโจ๊กของรายการที่ผมชอบไปแอบดูบ่อยๆที่หน้าร้านขายกระจกเวทย์มนต์

      “ฮ่าๆๆ เรื่องของนายฮามากเลย กล้องอยู่ไหนล่ะรีบๆออกมาเร็ว ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นอะไรไร้สาระแบบนี้นะ ไปล่ะ”

                    ฟุ่บ

                     เงาดำประหลาดขนาดใหญ่ก็เข้ามาขวางทางซะงั้น

                     “โปรดอย่าทรงสงสัยข้าเอาหัวเป็นประกันว่าท่านคือโอรสในท่านจ้าวฮาเดสและราชินีโรสริน่า ราชินีแห่งทุ่งกุหลาบสีเงิน!!!

                     มันประกาศก้อง แต่ผมไม่อยากหาเหาใส่ตัวเอง แค่รู้ว่าตามโดนฆ่านี่ก็กลัวจนขาสั่นผับๆแล้ว!

                     “ดอล เชื่อเจ้าเอล์ฟเตี้ยนี่เถอะ”

                    “บังอาจ!!ข้าคือเอล์ฟดำ นามว่าโอลาฟ!!!

                    มันคำรามลั่น โอ๊ะ น่ากลัวจัง เหอๆ

      “เจ้าเอล์ฟแคระ ยังไงก็ยังแคระอยู่วันยังค่ำ ว่าแต่เมื่อไหร่พวกนายจะออกเดินทางล่ะ เดี๋ยวฉันขอตามไปด้วยกำลังว่างพอดี”

                     “ง่า...”

                     ผมจะพูดว่าไงดีล่ะ การเดินทางนี้สุดแสนจะมีพยันอันตรายน่ะเหรอ

                     “ดีสิเจ้าชายท่านจะได้มีคนรับใช้เพิ่ม”

                    “ฉันไม่ได้จะมาเป็นคนรับใช้ให้ใคร แค่อยากเห็นพระราชวังในตำนานของจ้าวฮาเดสเท่านั้น ได้ข่าวว่างดงามไม่มีผู้ใดเทียบเท่าในแผ่นดินจริงไหม”มิลานทำตาลุกวาว

                    นายดูน่ากลัวมากนะ จุดประสงค์เป็นแบบนี้นี่เอง อืมๆ

                    “แน่นอนปราสาทของท่านจ้าวทำจาก อัญมณีเจ็ดสีและทองคำขาวบริสุทธิ์ และลงอาคมเวทย์ด้วยน้ำตาของมังกรเก้าหางกับราชินีแห่งรุ่งอรุณ ไม่แปลกที่เจ้าจะว่าปราสาทถึงได้งดงามและมีพลังเวทย์ที่รุนแรง”เจ้าเอล์ฟแคระยังคงโม้ไม่หยุด “อย่างเจ้าไม่มีวันเข้าเหยียบปราสาทได้หรอก!!ผู้เข้าไปได้ต้องมีบารมีถึงขั้นสุดยอดถึงจะเข้าไปได้”

                     โอ๊ะ งั้นผมคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปหรอกจริงไหม ขนาดบุญบารมีจะอยู่ ณ แผ่นดินเกิดยังไม่มีเลย

                     “เจ้าชายทรงเป็นอะไรไปหรือขอรับ”

                     เจ้าเอล์ฟแคระเรียกทำให้ผมสะดุ้งโหยง

                     “เปล่า แค่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่”

                     “งั้นหรือขอรับ จากนี่ไปดินแดนมิดไนท์ ใกล้เขตชานเมืองบารอนเทียร์ที่สุดแล้ว ใช้เวลาอย่างน้อยสักครึ่งเดือนถ้าเดินทางโดยใช้รถม้า แต่เดินเท้าเปล่าคงประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง”

                    งั้นผมไปรถม้าก็แล้วกันนะ...เรื่องอะไรจะเดินเป็นเดือน

                     “ถ้าเราจะใช้รถม้า นายจะไปเอามาจากไหนล่ะเจ้าเอล์ฟเตี้ย”มิลานทำหน้าเจื่อยๆด้วยความเบื่อ ไม่ต่างจากผมหรอกเซงกว่านายหลายสิบเท่า

                    “ข้าสามารถเสกเกวียนได้แต่ม้าคงต้องหาแถวๆนี้ล่ะนะ”ว่าแล้วเจ้าโอลาฟก็หันไปที่ม้าสีขาวของมิลานทันที “ว่าแต่ม้านี่ของใคร”

                     “ของฉันเอง”

                     “ข้าขอยืมม้าเจ้าพาเจ้าชายแห่งความมืดกลับสู่บารอนเทียร์”

                     “อืม...ไม่”

                    มิลานได้โปรด อย่าให้เจ้าเอล์ฟเตี้ยนี่ยืมเด็ดขาดนะ ผมไม่กลับไปกับมันเด็ดขาดเรื่องรับตำนงตำแหน่งอะไรนั่นผมก็ไม่เอาขอเป็นเด็กชาวสวนธรรมดาๆทีเถอะ

                    เปรี้ยง~!!!

                 สายฟ้าสีทองฝ่าเปรี้ยงมาข้างๆผมอย่างเฉียดฉิว เฮ้ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย

                “ว้ากกกก”ผมเหวอออก

                    “ราชาแห่งท้องนภาทรงทราบความคิดของท่าน ท่านต้องเดินทางห้ามหลีกเลี่ยงไม่อย่างนั้นสายฟ้าจะตามมาอีกชุดสองชุด”

                     “รู้แล้วน่า”

                    ท่านกลั่นแกล้งผมหรือไงนั่นได้โปรดบอกสิล้อเล่น

      เปรี้ยง!!

      ผมรู้แล้วท่านไม่ได้ล้อเล่น...ใช่ไหม

                    “เข้าใจแล้ว ฉันจะให้นายยืมม้าก็ได้เห็นแก่ดอลล่ะนะที่จะได้กลับไปหาพ่อแท้ๆของตัวเอง”

                     ขอบคุณในความมีน้ำใจของนายนะไอ้บ้ามิลาน!!นายทำฉันซวยซ้ำอีกแล้ว

                    “ขอบคุณ”ผมว่าเบาๆ

                    สุดท้าวันที่แสนสงบสุขก็หายไปทีละน้อย สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแรกเมดูซ่าที่มีผมเป็นงูยั้วเยี้ยเต็มหัววิ่งมาบีบคอเพราะบอกว่ามีคนส่งมาฆ่า มิลาน นักเวทย์ฝึกหัดของแคว้นโรซานบังเอิญผ่านมาทางนี้เลยช่วยผมเอาไว้ โอลาฟ เอล์ฟดำแคระ เตี้ย อยู่ๆก็โผล่ออกมาพร้อมบอกข่าวดีว่าผมเป็นเจ้าชายพ่วงตามมาด้วยนักฆ่าของราชาเอเดส ดีไหมๆ ชีวิตนี้

      ยังไงก็ขอขึ้นเทียมเกวียนม้า นอนสักงีบก่อนแล้วกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×