ตอนที่ 6 : บทที่ 2.2 - เจ็บซ้ำสอง!
เมนต์ๆ โหวตๆ เป็นกำลังใจให้เพื่อนแพงด้วยนะคะ
บทที่ 2
เจ็บซ้ำสอง!
15 ปีที่แล้ว…
‘คุณป้าคะ หนูเอามาคืนค่ะ’
เด็กน้อยดวงตากลมโตยื่นกระเป๋าเงินสีทองราคาแพงให้กับแหม่มฝรั่ง ด้วยความที่หนูน้อยพูดเป็นภาษาไทย จึงทำให้เธอไม่เข้าใจในความหมาย มือเรียวขาวสะอาดกวักมือเรียกเลขาคนสนิทให้เข้ามาใกล้ตน
‘อะไรครับหนู ?’
เสียงเข้มเอ่ยถามอย่างใจดีเป็นภาษาไทย…
‘หนูเก็บกระเป๋าตังค์ของคุณป้าได้ค่ะ เลยเอามาคืน’
เสียงเล็กตอบด้วยความใสซื่อตามประสา ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตังค์จากเด็กหญิงมาถือไว้ในมือ แล้วส่งมันให้กับผู้เป็นเจ้าของ พลางกับซุบซิบๆ กับเจ้านายด้วยรอยยิ้ม
ไม่นาน… แหม่มฝรั่งก็ย่อตัวลงมาลูบศีรษะของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
‘Thank you.’ ภาษาต่างถิ่นที่เด็กหญิงไม่คุ้นเคย ใบหน้าเล็กเหลอหลาจนน่าหมันเขี้ยว
‘เธอขอบคุณหนูน่ะจ้ะ’
เป็นหน้าที่ของชายหนุ่มที่ต้องแปลอังกฤษเป็นไทย เมื่อได้ฟังคำแปลหนูน้อยก็ยิ้มกว้างอวดฟันหลอ
‘ไม่เป็นไรค่ะ พี่เลี้ยงที่นี่สอนว่าหากเราเก็บของๆ ผู้อื่นได้ เราก็ต้องนำมาคืนค่ะ ถ้าไม่คืนเราจะดูเป็นเด็กไม่ดี หนูอยากเป็นเด็กดีค่ะ’
เสียงเล็กเอ่ยแจ้ว มาดามเธียน่าเลิกคิ้วหันหน้าไปหาเลขาคนสนิท มองเป็นนัยๆ ว่าช่วยแปลให้ฟังหน่อยสิ ? คนถูกมองอมยิ้มก่อนจะถ่ายทอดทุกถ้อยคำของเด็กหญิงตัวน้อยออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
เพียงเท่านั้น… รอยยิ้มอบอุ่นก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากของผู้ที่เพิ่งเข้าใจความหมาย มาดามเธียน่าพูดอะไรสักอย่างกับชายหนุ่ม ก่อนที่ชายหนุ่มจะแปลให้กับเด็กน้อยฟังอีกครั้ง และคราวนี้ประโยคของมันก็ช่างยาวเหยียดกว่าตอนแรกนัก
‘เธอบอกว่าหนูเป็นเด็กดีและน่ารักมาก อายุเท่าไหร่ครับ ?’
‘ขอบคุณค่ะ’ เด็กหญิงพนมมือไหว้ที่ผู้ใหญ่ชม ก่อนจะตอบคำถามถัดมา ‘หนูอายุ 9 ขวบค่ะ’ รอยยิ้มหวานไร้เดียงสา
คำพูดของเจ้าหนูถูกแปลให้กับผู้เป็นนายฟังอีกครั้ง มาดามเธียน่ายิ้มหวาน ก่อนจะพูดอะไรสักอย่างกับชายหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นล่ามในครานี้
เลขาคนสนิทมีสีหน้าที่ดูแตกตื่นไม่น้อยหลังจากที่ได้ฟังจนจบ…
‘หนูจ้ะ… เจ้านายของฉันเขาอยากจะอุปการะหนู หนูตกลงไหมจ้ะ’ ชายหนุ่มเอ่ยถาม
‘คะ ?’ เด็กน้อยที่ดูจะงงๆ
‘เจ้านายฉันอยากมีลูกสาว แล้วตอนนี้ก็ชอบหนูมาก อยากได้หนูมาเป็นลูกสาวน่ะจ้ะ หนูจะตกลงไหม ?’
คำว่า ลูกสาว เหมือนเป็นฟ้าประทานที่ทำให้หัวใจดวงน้อยมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
เด็กหญิงยิ้มกว้างพยักหน้าอย่างสุดซึ้ง…
‘ตกลงค่ะ หนูอยากมีแม่… หนูจะได้มีแม่แล้ว เย้ๆ’
ร่างเล็กกระโดดดีใจท่ามกลางสายตาที่ทอดมองอย่างเอ็นดู…
กลับสู่ปัจจุบัน…
เธอก็ไม่ปฎิเสธหรอกนะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่มีความสุข เพราะมาดามเธียน่าดูแลเธอเป็นอย่างดี ให้ทั้งความรัก ความอบอุ่น ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการมีแม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ
วันแรกที่เธอมาอยู่กับท่านที่อเมริกา เธอจึงได้รู้ว่าท่านมีลูกชายแล้วหนึ่งคน ลูกชายของท่านอายุมากกว่าเธอสิบปี ตอนนั้นเขากำลังเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ดูใจดีและน่าเข้าหา
สายตาของเซนตอนที่มองเด็กหญิงผิวขาวตัวผอมโคร่งในตอนนั้นมีแต่ความรักใคร่ และเอ็นดู…
ชายหนุ่มทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่แสนดีมาโดยตลอด เขาคอยดูแลเธอ และคอยเล่นกับเธออยู่เสมอ คอยฝึกปรือภาษาอังกฤษให้ และด้วยความคึกคะนองตามประสา ชายหนุ่มก็ชอบสอนคำแสลงตลกๆ ของภาษาอังกฤษให้กับเธอ ยิ่งเวลาที่เธอเอาไปพูดกับมารดา ชายหนุ่มก็ยิ่งสนุกสนานเป็นพิเศษ
ตอนนั้นเธอมีความสุขมาก ชีวิตครอบครัวมันอบอุ่นแบบนี้นี่เอง นาเดียใช้ชีวิตราวกับเป็นซินเดอเรอล่ากลับชาติมาเกิดก็ไม่ปาน
แต่แล้วความสุขเหล่านั้นของเธอก็จางหายไป เมื่อ…
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว…
หลังงานเลี้ยงฉลองเรียนจบเกรดสิบสามของนาเดีย ทุกคนที่มางานดูสนุกสนานเป็นอย่างมาก ทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชายต่างก็มารุมมะตุ้มถ่ายรูปเจ้าของงานอยู่ตลอดเวลา จนหญิงสาวแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเพื่อนๆ เพราะว่าหลังจากเสร็จสิ้นงานนี้เธอก็ต้องบินไปอยู่ที่ไทยเป็นระยะเวลากว่าสี่ปีเต็ม สำหรับการเรียนต่อในระดับชั้นปริญญาตรี
นาเดียถึงแม้ว่าจะอยู่เมืองนอกมานาน แต่ยังไงซะรากฐานของเธอก็คือคนไทย หญิงสาวรู้สึกคิดถึงเมืองไทยอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อเรียนจบมอปลายเธอจึงแอบสมัครสอบชิงทุนกับทางมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง แล้วก็ติดตามที่ใจหวัง วินาทีนั้นเธอดีใจมากที่จะได้กลับมาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนอีกครั้ง
แต่ความสำเร็จก็มักมีอุปสรรค์คอยกั้นขวางเสมอ เมื่อมาดามเธียน่าไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เธอกลับไปใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่เมืองไทย
หญิงสาวจึงต้องงัดไม้ตายมาอ้อนวอนผู้เป็นมารดาสุดฤทธิ์ จนมาดามเธียน่าอดใจอ่อนไม่ได้…
‘ไปอยู่ได้ แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆ และต้องอยู่ที่บ้านที่แม่ซื้อให้นะรู้ไหม ?’ คนเป็นแม่กำชับ ก่อนจะพูดต่อ
‘แม่จะให้คนไปดูความเรียบร้อยของหนูทุกอาทิตย์นะ แล้วทุกวันต้องโทรฯ หาแม่เพื่อรายงานความเป็นอยู่ เข้าใจไหม ?’
สิ่งที่พูดมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความห่วงใยทั้งสิ้น…
‘ค่ะ คุณแม่’ หญิงสาวยิ้มตาหวาน
บทสนทนาของคนทั้งคู่กำลังสร้างความไม่พอใจให้กับใครคนหนึ่ง ร่างสูงโปร่งที่นั่งไขว่ห้างอ่านนิตยสารเกี่ยวกับกีฬามองร่างบางตาขวาง
‘จะห่วงอะไรกันนักก็ไม่รู้’ เสียงห้วนตามอารมณ์
‘เป็นอะไรไปเซน อยู่ดีๆ ก็หาเรื่องน้อง’ มาดามเธียน่าถาม คนถูกถามวางนิตยสารชื่อดังลงกับโต๊ะตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเอามือกอดอก
‘ผมไปหาเรื่องลูกรักคุณแม่ตอนไหนครับ มีแต่คุณแม่ที่คิดไปเองทั้งนั้น’ ชายหนุ่มเบ้ปาก
‘เซน…’ มาดามเธียน่ากดเสียงต่ำ มองหน้าลูกชายตัวดี
‘พี่เซนคะ อย่าพูดแบบนั้นกับคุณแม่สิคะ’ นาเดียเตือนด้วยความหวังดี แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเธอเปรียบเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ราดรดบนกองเพลิงอย่างเขา
เซนจ้องคนปากกล้าด้วยสายตาคมกริบ !
‘อย่ามาปากดีกับฉัน ยัยน้องสาวนอกไส้ !’ ชายหนุ่มเสียงดังใส่
‘มากไปแล้วนะเซน ! แม่บอกแล้วไงว่านาเดียเป็นลูกของแม่ แล้วก็เป็นน้องสาวของเรา ทำไมถึง…’ มาดามเธียน่ายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกขัดด้วยเสียงทุ้มล้อเลียน
‘คร้าบๆ ผมผิดเองครับ พอใจไหมครับคุณแม่’ ชายหนุ่มลากเสียงยาว แสร้งยกมือยอมแพ้
มาดามเธียน่าถึงกับถอนหายใจกับกิริยาของลูกชาย…
‘หนูขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะคะคุณแม่’ นาเดียตัดปัญหาด้วยการแยกตัว มาดามเธียน่ายิ้มพลางพยักหน้ารับรู้
หญิงสาวเดินผ่านหน้าชายหนุ่มที่กำลังมองเธอด้วยหางตา ใบหน้าหล่อใสตามแบบฉบับของวัยรุ่นอเมริกันยิ้มหยัน
‘คิดจะไปอยู่เมืองไทย คงหวังจะทำตัวเหลวแหลกได้เต็มที่สิท่า’ คำพูดถากถางที่ทำให้คนฟังเจ็บจนจุก
นาเดียฝืนทำสีหน้าเป็นปกติ ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา ร่างบางเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใยดี และการกระทำของเธอก็ทำเอาคนบ้าอำนาจถึงกับฟิวขาด
เซนคาดโทษหญิงสาวเอาไว้ในใจ…!
คุยกันหน่อยนะคะ
เพื่อนแพงมารีอัปนิยายเรื่อง SO BAD LOVE รักสุดร้ายของนายจอมมาร ให้อีกรอบนะคะ เผื่อว่าบางท่านยังไม่ได้อ่าน ยังไงถ้าใครหลงเข้ามาแล้วก็ฝากติดตามนิยายด้วยนะคะ เมนต์ๆ โหวตๆ เป็นกำลังใจให้เพื่อนแพงด้วยนะคะ ติ ชม ได้เต็มที่ค่ะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นจ้า
ปล. นิยายเรื่องนี้แต่งเมื่อนานมาแล้ว ดังนั้นภาษาอาจยังไม่สละสลวยเท่ากับเรื่องอื่นๆ ในปัจจุบัน ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
อัพนิยาย วัน เว้น วัน นะคะ ฝากติดตามด้วยจ้า ^_^
SO BAD LOVE รักสุดร้ายของนายจอมมาร
ฉบับ E-Book ราคา 139 บาท ฝากด้วยนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
