ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่โรมคลั่งรัก #พี่โรมเถื่อนมาก [แซ่บXดุ] มี E-Book + เล่ม

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 2.1 - สถานการณ์ฉุกเฉิน

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 66












    เพื่อนแพงเปิดจองนิยายเรื่อง

    พี่โรมคลั่งรัก #พี่โรมเถื่อนมาก แล้วนะคะ

    ถ้าใครต้องการรูปเล่มพี่โรมคนแซ่บ

    คนดุไปนอนกอดที่บ้าน

    อย่าลืมมาลงชื่อจองกันน้า

    เปิดจองตั้งแต่ วันนี้ – 9 เมษายน 2566

    มีเวลาหยอดกระปุกกันได้ยาว ๆ เลยจ้า

    ฝากพี่โรมคนดีย์ (แบบมี ย์ ด้วยนะคะ) 

    รายละเอียดการจองตามหน้าใบจองเลยจ้า






    สถานการณ์ฉุกเฉิน



                ทุกวันหลังเลิกเรียนพริ้งพลอยมีหน้าที่ต้องไปสอนพิเศษ ณ สถาบันกวดวิชาชื่อดังในตัวเมือง เป็นงานเสริมที่ทำให้เธอมีรายได้มาใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่ค่าตอบแทนก็ยังถือว่าน้อยนิดหากเทียบกับเม็ดเงินที่โรมและพี่สาวของเขาโอนเข้าบัญชีธนาคารให้เธอทุกเดือน อีกทั้งบัตรเครดิตมากมายที่โรมให้ไว้ พริ้งพลอยไม่เคยใช้บัตรเหล่านั้นรูดซื้อของแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะลำพังเงินเดือนที่เธอรับจ้างสอนพิเศษก็ทำให้มีกินมีใช้อย่างสบาย ๆ

                จะว่าไปตั้งแต่เธอเริ่มทำงานเป็นติวเตอร์ เธอก็ไม่เคยแตะเงินเดือนที่สองผู้อุปการะจ่ายให้อีกเลย เงินทุกบาททุกสตางค์พริ้งพลอยเลือกที่จะเก็บเอาไว้เป็นเงินฉุกเฉินในอนาคต เผื่อวันหนึ่งเดือดร้อนต้องการใช้จะได้ไม่ต้องรบกวนโรมและเรนนี่

                “ครูพริ้งครับ ผมไม่เข้าใจข้อนี้เลยครับ” เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีถือแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์ปึกหนาเดินมาหาติวเตอร์สาว

                “ไหนดูสิ” พริ้งพลอยรับกระดาษปึกหนามาวางบนโต๊ะ กวาดสายตาอ่านโจทย์ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็รู้ว่าต้องแก้สมการอย่างไรให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง หญิงสาวอธิบายวิธีคิดให้นักเรียนในคลาสฟังอย่างละเอียด

                “ไง ยากไหม” ครูสาวถามยิ้ม ๆ

                “ยากครับ แต่พอฟังครูอธิบายแล้วผมเข้าใจขึ้นเยอะเลย ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง รู้สึกสมองโล่งคิดอะไรได้อีกเยอะ รีบขอตัวไปแก้โจทย์ที่เหลือให้เสร็จ

                พริ้งพลอยมองดูเด็ก ๆ ที่ตัวเองสอนตั้งหน้าตั้งตาฝึกทำข้อสอบที่เธอนำมาแจกด้วยความขะมักเขม้นก็อดภาคภูมิใจไม่ได้

                อาชีพครูเป็นอาชีพในฝันของเธอตั้งแต่เด็ก แม้ว่าโตขึ้นจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการไปสอนนักเรียนในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบเคร่งเครียดก็เถอะ แต่ลึก ๆ แล้วเธอยังมีความกระหายอยากที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้เด็ก ๆ เสมอ

                พริ้งพลอยเป็นคนฉลาด เรียนรู้ไวตั้งแต่เล็กจนโต บางคนจะเก่งได้อาจต้องเรียนเสริมหรือฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่พริ้งพลอยจัดอยู่ในประเภทที่อ่านและฟังเพียงครั้งเดียวก็สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ นับเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

                อย่างน้อยเด็กกำพร้าอย่างเธอก็มีข้อดีให้ภาคภูมิใจ

                นัยน์ตากลมโตเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้องเหนือจอโปรเจคเตอร์ อีกสิบนาทีจะหมดเวลาเลิกคลาส หญิงสาวเตรียมเก็บโน๊ตบุ๊คและชีทการบ้านที่นักเรียนนำมาส่งใส่กระเป๋าผ้าใบใหญ่บรรยกาศภายในห้องเรียนครึกครื้นเหมือนทุกวัน แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือร่างผอมบางของเด็กสาววัยสิบแปดปีที่ไม่มาเรียนได้สองสัปดาห์แล้ว

                “มีใครรู้บ้างว่าแยมเขาไปไหน ทำไมถึงไม่มาเรียน”

                เสียงหวานของติวเตอร์สาวหยุดทุกการสนทนาเจี๊ยวจ๊าว ทุกคนพร้อมใจหันไปมองที่โต๊ะเรียนหลังห้อง ซึ่งเป็นโต๊ะประจำของ ปาหนัน หรือ แยม ที่คุ้นเคย

                “ไม่รู้ค่ะ พวกหนูก็โทร.หาแยมไม่ติดเหมือนกัน” เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งตอบ พริ้งพลอยถอนหายใจเป็นกังวล

                อย่าว่าแต่เด็ก ๆ ติดต่อหาเพื่อนไม่ได้เลย เธอเองก็เช่นกัน ครั้นพอติดต่อไปที่เบอร์ผู้ปกครองกลับได้ความว่าไม่รู้ไม่เห็น ทั้งพ่อและแม่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแยมกลับไปเยี่ยมป้าที่ต่างจังหวัดตั้งแต่วันเสาร์เดือนที่แล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมา พอเธอขอเบอร์ป้าของแยมฝ่ายนั้นก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าแยมคงเรียนหนักเลยอยากพัก แต่พริ้งพลอยไม่คิดเช่นนั้น เธอสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

                ปกติแยมเป็นเด็กรักการเรียนมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดเรียนติดต่อกันหลายวันทั้ง ๆ ที่ใกล้ถึงช่วงสอบปลายภาคเข้าไปทุกที

                พริ้งพลอยเลยตัดสินใจเข้าไปสอบถามความคืบหน้ากับครูประจำชั้นของเด็กสาว ถึงรู้ความจริงว่าปาหนันเป็นคนชอบเก็บตัวเวลาอยู่ที่โรงเรียน ไม่มีเพื่อนคบและไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร

                เธอไม่อยากเชื่อเลย

                ภายนอกแยมดูเป็นเด็กร่าเริง หัวเราะเสียงดัง ยิ้มเก่ง ทุกครั้งที่เธอเดินเข้าห้องเพื่อมาสอน เธอมักได้ยินเสียงหัวเราะของแยมเสมอ

                “ชีทที่ครูให้ไป อาทิตย์หน้านำมาส่งด้วยนะคะ ห้ามลอกกันนะ ทำด้วยตัวเอง ผิดถูกยังไงจะได้รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจตรงไหน”

                “ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียว พริ้งพลอยส่งยิ้มหวานให้นักเรียนหนึ่งทีก่อนเดินออกจากห้อง

                ร่างบางตัดสินใจโทร.หาปาหนันอีกครั้ง และผลลัพธ์ก็ไม่ต่างจากเดิม คืออีกฝ่ายไม่ยอมรับสาย พริ้งพลอยไม่อยากรออีกต่อไป วันนี้เธอจะไปตามหานักเรียนของเธอที่บ้านของพ่อแม่แยม ไปถามให้รู้เรื่องว่าลูกสาวของพวกเขาอยู่ที่ไหน ทำไมถึงขาดการติดต่อนานขนาดนี้

                เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว หญิงสาวจึงโทร.เรียกรถให้มารับที่หน้าสถาบันกวดวิชา รอประมาณครึ่งชั่วโมงรถเก๋งสีดำก็เข้าจอดเทียบริมฟุตบาทตรงหน้าตึก พริ้งพลอยที่นั่งรออยู่ภายในตัวอาคารรีบเดินออกมาข้างนอกทันที เตรียมจะเปิดประตูขึ้นรถ ทว่ามีใครบางคนตะโกนเรียกชื่อเธอแต่ไกล

                “พริ้ง พริ้ง!” ร่างสูงโปร่งที่คุ้นตากำลังวิ่งตรงมาที่เธอ

                “จะไปไหน พี่เรียกตั้งนาน”

                โรมเท้าเอวถามหน้าบึ้ง ขนาดเขาวิ่งมาตั้งไกลยังไม่มีท่าทีเหนื่อยหอบเลยสักนิด บ่งบอกว่าสุขภาพร่างกายของเขาแข็งแกร่งเพียงใด

                “จะกลับบ้านเหรอ?” หางตาคมชำเลืองมองมือของน้องที่ยังจับประตูรถเอาไว้ พริ้งพลอยทำหน้าไม่ถูก

                “เอ่อ คือ

                “กลับกับพี่” เขาดันประตูปิดเสียงดัง เดินอ้อมร่างบางไปยังด้านหน้าฝั่งคนขับ หงายหลังมือเคาะกระจกรถเรียกคนด้านใน

                “ครับ” คนขับลดกระจกลงเหลือครึ่งเพื่อมองหน้าลูกค้า

                “ผมให้พี่สองพันนะ กลับไปได้เลย” โรมหยิบเงินยื่นให้คนขับ

                “สองพัน แล้ว” อีกฝ่ายทำหน้างง เบนสายตามองพริ้งพลอย “น้องผู้หญิงไม่ไปเหรอครับ”

                “งั้นเอาไปสามพัน ส่วนพี่ก็ไปรับลูกค้าคนอื่นแทนแล้วกัน”

                โรมตัดความรำคาญ ควักแบงค์พันออกมาอีกหนึ่งใบรวมเป็นเงินสามพันบาทถ้วน คราวนี้คนขับไม่คลางแคลงใจสิ่งใดอีกต่อไป รีบรับเงินจากชายหนุ่มทันที

                “ครับ ๆ ขอบคุณมากครับ” วิ่งงานมาทั้งวัน ลาภปากก็คราวนี้

                พริ้งพลอยมองตามรถเก๋งสีดำขับออกไปต่อหน้าต่อตา

                “ไป” โรมเดินนำหน้าเธอไปที่รถหรูเปิดประทุนของเขา เปิดประตูรถให้เสร็จสรรพ์ พริ้งพลอยถอนหายใจ

                “ทำไม ไม่อยากกลับกับพี่เหรอ”

                “เปล่าค่ะ”

                “แล้ว?” ดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้มมองคนตัวเล็กนิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด พริ้งพลอยจึงตัดสินใจบอกเขาไปตรง ๆ

                “พริ้งไม่ได้จะกลับบ้านค่ะ”

                โรมขมวดคิ้วกำลังจะอ้าปากถามต่อว่าน้องจะไปไหน ทว่าอีกฝ่ายรู้ทันรีบชิงตอบ

                “พริ้งจะไปตามหาคนค่ะ” เสียงหวานเอ่ย โรมขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก “นักเรียนคนหนึ่งของพริ้งไม่มาเรียนได้สองอาทิตย์แล้วค่ะ โทร.ไปก็ไม่รับสาย โรงเรียนก็ไม่ไป เพื่อน ๆ ก็ติดต่อไม่ได้ พริ้งเป็นห่วงก็เลยจะไปตามหาค่ะ” หญิงสาวอธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด

                “งั้นเหรอ” โรมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอียงคอไปที่รถ

                “ก็ไปสิ เดี๋ยวพี่ไปด้วย” ดีเหมือนกัน เขาเองก็รู้สึกเบื่อ ๆ ยังไม่อยากกลับบ้าน ถือโอกาสนี้ขับรถเล่นไปในตัว

                แถมมีตุ๊กตาหน้ารถเป็นยัยเด็กหน้าหวาน ได้ใช้เวลาอยู่กับน้องสองต่อสองโดยปราศจากสายตาผู้อื่น มีหรือที่เขาจะพลาดนาทีทอง!



    แวะคุยกันหน่อยนะคะ ^_^

    พี่โรมนี่เขานิสัยดีนะคะ นิสัยรวย >O< 555 ใช้เงินแก้ปัญหาให้มันจบ ๆ ไปซะ แต่คุ้มนะ เพราะกำลังจะได้นั่งรถไปกับน้องพริ้งสองต่อสอง มาลุ้นกันนะคะว่าพี่โรมคนดุ คนแซ่บจะหาเรื่องแกล้งอะไรน้องพริ้งหรือเปล่า อิอิ ^^



    ฝากแฟนเพจนิยายด้วยนะคะ





    ฝากนิยาย E-Book ของเพื่อนแพงด้วยนะคะ รับประกันความแซ่บจ้า

    กดเข้าที่ภาพได้เลยจ้า

    กดเข้าที่ Link ด้านล่างเลยจ้า

    https://bit.ly/3YwJcSN





    E-Book พี่โรมคลั่งรัก

    ราคาโปรโมรชั่น 140 บาท

    ฝากความรักแซ่บๆ แบบฉบับพี่โรมด้วยจ้า

    ไปโหลดกันน้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×