คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความลับ
ตอนที่ 2 ความลับ
เช้าวันนี้ ข้าวโอ๊ตมาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแต่เช้า คุณแม่มาส่งข้าวโอ๊ตพร้อมกับส่งกระเป๋าเป้ที่บรรจุขวดนมให้กับครูเพ็ญ
“เดี๋ยวตอนเย็นคุณแม่มารับกลับนะคะ อย่าร้องไห้นะลูก”
น่าแปลกใจที่วันนี้ข้าวโอ๊ตไม่ร้องไห้เหมือนทุกวัน หลังจากส่งข้าวโอ๊ตให้ครูเพ็ญเสร็จ คุณแม่ก็รีบไปทำงานของเธอทันที
ครูเพ็ญกำลังจะจูงมือข้าวโอ๊ตเดินไปยังห้องของเล่น แต่ก็ต้องประหลาดใจเพราะข้าวโอ๊ตวิ่งปรู๊ดไปก่อนแล้ว ??
ข้าวโอ๊ตรีบวิ่งไปยังหลังบ้าน เพื่อที่จะไปดูจิ้งจกสีแดงมีปีกของเขา แต่ก็ผิดหวังเพราะประตูหลังบ้านล็อคอยู่ แล้วลูกบิดประตูก็อยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง ข้าวโอ๊ตจึงเดินคอตกกลับไปนั่งจุมปุ้กอยู่ในห้องของเล่นเหมือนเด็กๆคนอื่นแล้วเฝ้ารอช่วงเวลาบ่ายที่เขาจะได้ออกไปเล่นที่สนามหลังบ้านอีกครั้ง
ในห้องโถงใหญ่ ครูเพ็ญกำลังตั้งวงคุยกับ ครูแหม่มและครูนิด หากแต่วันนี้หัวข้อของเรื่องที่คุยไม่ได้เป็นเรื่องเด็กๆในศูนย์ หรือเรื่องคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กๆเหมือนอย่างเคย
“พี่ว่านะ ระยะเวลาของค่ายน่าจะประมาณ 1 เดือน กำลังดี”
“ใช่ค่ะพี่ แหม่มกับนิดคิดว่า เราใช้ห้องบนชั้นสองเป็นห้องนอนของเด็กๆได้ แล้วเราก็ควรจะพาเด็กๆไปทรรศนะศึกษาในสถานที่ใกล้ๆ อย่างเช่น สวนสัตว์ หรือว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ใกล้ๆนี้นะคะ”
ครูเพ็ญพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้างั้น นิดช่วยร่างโครงการมาหน่อยนะ แล้วเดี๋ยวพี่จะไปเสนอ ผอ. เอง ถ้าโครงการนี้ผ่าน เด็กๆจะได้มาร่วมเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพก่อนวัยเรียนด้วยกัน”
“ค่ะ พี่เพ็ญ” ครูนิดตกลง
คุณครูพี่เลี้ยงทั้งสาม มีความคิดที่จะทำค่ายพัฒนาศักยภาพก่อนวัยเรียนขึ้น โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งหากโครงการนี้ผ่านการอนุมัติจาก ผอ. ก็เป็นอันว่า ทั้ง ข้าวโอ๊ต น้ำใส ตะวัน และเด็กๆเกือบ 40 คน จะได้มาใช้ชีวิตร่วมกันที่ศูนย์แห่งนี้ เป็นระยะเวลา 1 เดือน
หลังจากเวลาเล่นของเล่นช่วงเช้าจบลง ครูเพ็ญ ครูแหม่ม และครูนิด ต่างพาเด็กๆมาที่ห้องโถงใหญ่ เพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ นั่นคือ การวาดรูประบายสีเทียน
“เด็กๆ รับกระดาษคนละ 1 แผ่นนะคะ แล้วก็เดี๋ยวครูเพ็ญจะแจกสีเทียนให้ ให้เด็กๆวาดรูปตามจินตนาการนะคะ แต่บอกไว้ก่อน ว่าให้วาดลงบนกระดาษ ไม่ใช่บนพื้น เข้าใจไหมคะ”
เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้ว เมื่อครูเพ็ญแจกสีเทียนให้เด็กๆวาดรูประบายสี แล้วก็เดินไปดูละครที่ตัวเองชอบในห้องของเล่น พอกลับมาครูเพ็ญก็ต้องมาตรวจภาพที่เด็กๆวาดบนพื้นแทน
เด็กๆทุกคนตั้งใจวาดกันอย่างสนุกสนาน หลายคนวาด สุนัข พระอาทิตย์ ดอกไม้ ต้นไม้ สุดแล้วแต่จะจินตนาการได้ น้ำใสวาดดอกไม้ ภูเขา แล้วส่งกระดาษให้ข้าวโอ๊ตดู อันที่จริงน้ำใสนั้นอายุมากกว่าข้าวโอ๊ต 1 ปี และสามารถเข้าโรงเรียนได้แล้ว แต่คุณพ่อกับคุณแม่ไปแจ้งเกิดให้น้ำใสช้า ทำให้อายุตามใบสูติบัตรของเธอน้อยกว่าความเป็นจริง 1 ปี
“สวยมั๊ยข้าวโอ๊ต” น้ำใสถาม
ข้าวโอ๊ตไม่ตอบ เพราะกำลังขะมักเขม้นใช้สีแดงและสีส้ม บรรจงวาดรูปอะไรบางอย่างบนกระดาษอย่างตั้งใจ
“นั่นตัวอะไรน่ะ ข้าวโอ๊ต”
“จิ้งจกไง จิ้งจกมีปีกที่โอ๊ตเห็นเมื่อวาน”
น้ำใสทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองดูภาพที่ข้าวโอ๊ตวาดอย่างประหลาดใจ
ทันใดนั้น สีแดงที่ข้าวโอ๊ตจับอยู่ก็ถูกมือน้อยๆของใครบางคนดึงออกจากมือ
“ตะวัน!!” น้ำใสตวาด
“เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่เห็นหรอว่าข้าวโอ๊ตใช้อยู่” น้ำใสพูดเสียงดังเพราะเด็กหญิงตะวันมาแย่งเอาสีเทียนที่ข้าวโอ๊ตกำลังใช้อยุ่ไป
“เอาสีเขียวไปแทนสิ” ตะวันโยนสีเทียนสีเหลือง ที่เธอเข้าใจว่าเป็นสีเขียวให้ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตไม่พูดอะไร แต่แย่งสีแดงมาจากมือของตะวัน
ตะวันก็ใช้ความรวดเร็วแย่งกลับคืนมา
ข้าวโอ๊ตยื้อกลับคืนมาอีกครั้งแต่คราวนี้ตะวันไม่ยอมปล่อย ทั้งสองจึงยื้อแย่งกันแบบนั้น โดยมีน้ำใสร้องห้ามว่า อย่าๆๆ
ทันใดนั้น สีเทียนเจ้าปัญหาก็หักครึ่ง ทำให้ตะวันที่ยืนอยู่ล้มหงายหลังก้นจ้ำเบ้ากระโปรงเปิด ส่วนข้าวโอ๊ตไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะตนเองนังอยู่
ตะวันร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด แม้น้ำใสจะเข้าไปโอ๋ให้เงียบเพราะกลัวครูเพ็ญครูแหม่มและครูนิดจะแห่กันมา แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะครูทั้งสามวิ่งหน้าตื่นมาทันที
“เกิดอะไรขึ้น ตะวันร้องไห้ทำไมลูก” ครูเพ็ญตรงดิ่งเข้ามาโอ๋ตะวัน
ตะวันกรีดร้องหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อมีคนมาโอ๋เธอ
“ข้าวโอ๊ตทำอะไรตะวัน”ครูเพ็ญถาม
ข้าวโอ๊ตส่ายหน้าเพราะรู้ดีว่า อธิบายอย่างไรคนผิดก็เป็นเขาอยู่ดี
ข้าวโอ๊ตโดนกักบริเวณอยู่ในตู้ใส่ผ้าปูนอนขนาดใหญ่ ครูเพ็ญเปิดประตูตู้ไว้แต่ไม่ให้ข้าวโอ๊ตออกมา 1 ชม. ระหว่างที่เพื่อนๆนั่งดูการ์ตูนอยู่ มีเพียงน้ำใสที่เดินมาหาข้าวโอ๊ตบ้างเป็นครั้งคราว
//////////////////////////////////////////////////////////////////////
หลังจากตื่นนอนกลางวัน ครูแหม่มพาเด็กๆไปล้างหน้าทาแป้งและทานอาหารว่าง ในวันนี้เป็นโดนัทคลุกน้ำตาลที่ข้าวโอ๊ตไม่ชอบที่สุด ครูเพ็ญบอกว่า ใครทานไม่หมดจะเอาโดนัทละเลงหัว ข้าวโอ๊ตจึงแอบเอาโดนัทชิ้นนั้นใส่กระเปากางเกงไว้
ครูเพ็ญเปิดประตูหลังบ้าน เด็กๆกรีดร้อง หัวเราะร่าอย่างสนุกสนานเมื่อรู้ว่า ตนเองกำลังจะออกไปเล่นที่สวนหลังบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ข้าวโอ๊ตไม่รอช้าขว้าข้อมือน้ำใสแอบวิ่งไปยังต้นอินทนินท์อีกครั้ง
“เดี๋ยวมันก็มา จิ้งจกสีแดงแบบในภาพไงน้ำใส”
น้ำใสพยักหน้า เด็กทั้งสองนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้ สายตา2คู่ต่างจ้องไปยังโพรงไม้ขนาดใหญ่ ที่ข้าวโอ๊ตเห็นว่า เมื่อวานเจ้าจิ้งจกสีแดงกระโดนผลุบหายเข้าไป
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งสองยังคงจ้องไปยังโพรงนั้น สักครู่ใบหน้าของทั้ง2 ก็ต้องยื่นเข้าไปใกล้ๆกว่าเดิมอีก เมื่อโพรงไม้นั้นสว่างวาบเหมือนใครจุดไฟแล้วโยนลงไปในนั้น ข้าวโอ๊ตทำปาก จุ๊ๆ กับน้ำใสแล้วดึงมือน้ำใสมาหลบยังพุ่มไม้ข้างๆ
เจ้าตัวปริศนาค่อยยื่นหน้าออกมา มันมองซ้ายขวา แล้วกระโดดออกมาจากโพรงไม้น้ำใสกำลังจะอ้าปากกรีดร้อง แต่โชคดีที่ข้าวโอ๊ตเอามือปิดปากของเธอไว้ทันมังกรตัวน้อยเกลือกกลิ้งไปมา เหมือนกับมันกำลังเล่นแสงแดด ในขณะที่น้ำใสและข้าวโอ๊ตจ้องมองมันอยู่ด้วยความตื่นเต้น ข้าวโอ๊ตค่อยๆลุกไปใกล้ๆเจ้ามังกรตัวน้อยนั้นอย่างระมัดระวัง ปล่อยน้ำใสให้นั่งอ้าปากค้างกับสิ่งที่เธอเห็น แววตาตื่นเต้นยิ่งนัก
เจ้ามังกรตัวน้อยก็ตกใจแล้วถอยห่างจากข้างโอ๊ต แล้วทำท่าขู่ ฟ่อ ๆๆ!! ข้าวโอ๊ตหยุดการเคลื่อนไหว แล้วนึกขึ้นได้ หยิบโดนัทที่แอบเอาใส่กระเป๋ามา ค่อยๆยื่นไปใกล้ๆมังกรน้อยมันค่อยๆเดินต้วมเตี้ยม มาใกล้ แล้วยื่นหัวกลมๆของมันมาดมที่โดนัทของข้าวโอ๊ตฟุดฟิดๆ ก่อนที่จะคว้าหมับไปกินด้วยปากเล็กๆ
มันเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อหมดแล้วมันมองหน้าข้าวโอ๊ตเอียงคออีกครั้งอย่างสงสัย ข้าวโอ๊ตนั่งยองๆอยู่แล้วเรียกมันว่า มานี่สิ มังกรตัวน้อยหรือจิ้งจกสีแดงของข้าวโอ๊ตกระโดดขโยกเขยกมาคลอเคลียที่ขาข้าวโอ๊ตอย่างเป็นมิตร ในขณะที่น้ำใสออกมาจากที่ซ่อนแล้วมานั่งมองข้างๆ
“มันคือตัวอะไร”น้ำใสถามอย่างประหลาดใจ
“ไม่รู้ แต่มันเหมือนจิ้งจก” ข้าวโอ๊ตตอบ
“ไม่ใช่ จิ้งจกตัวเล็กกว่านี้ จิ้งจกไม่มีปีกด้วย”น้ำใสเถียงตามประสบการณ์ที่เธอเคยเห็น
“มันเป็นตัวประหลาด งั้นหรอ”
“นั่นสิ แต่ที่แน่ๆ เราไม่เคยเห็น”น้ำใสตอบ
“งั้นมันต้องมีชื่อนะ” ข้าวโอ๊ตบอกกับน้ำใส
“ชื่ออะไรดีล่ะ”
“ ลูกไฟ “ ข้าวโอ๊ตบอก
เด็กๆทั้ง2 กับเจ้าลูกไฟเกลือกลิ้งเล่นกันอย่างสนุกสนาน จนลืมเวลาว่าใกล้เวลาที่คุณแม่-คุณพ่อของทั้งคู่จะมารับ ทำให้ครูเพ็ญต้องเดินมาตาม
“มาอยู่ที่นี่กันนั่นเอง” เสียงครูเพ็ญดังมาแต่ไกล
ข้าวโอ๊ตรีบจับเจ้าลูกไฟโยนเข้าโพรงไม้ที่เดิมเพราะกลัวครูเพ็ญจะมาเห็นเข้า และครูเพ็ญก็ไม่ฟังอะไร จับข้อมือของข้าวโอ๊ตและน้ำใสเดินบ่นไปตลอดทาง ว่ามาเล่นไกลหูไกลตาของเธอทั้งๆที่เธอดูละครอยู่ในบ้าน
ข้าวโอ๊ตตกลงกับน้ำใสว่า จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ จะมีเพียงข้าวโอ๊ต และน้ำใสเท่านั้น ที่รู้เรื่องเจ้าลูกไฟ
วันพรุ่งนี้ ข้าวโอ๊ตและน้ำใสจะมาที่นี่อีก มาเล่นกับเจ้าลูกไฟที่ชอบออกมาเล่นแสงแดดยามบ่ายอีกครั้ง
ความคิดเห็น