ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้าวโอ๊ตกับมังกรไฟ

    ลำดับตอนที่ #2 : ความลับ

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 50


    ตอนที่ 2            ความลับ

           

            เช้าวันนี้  ข้าวโอ๊ตมาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแต่เช้า  คุณแม่มาส่งข้าวโอ๊ตพร้อมกับส่งกระเป๋าเป้ที่บรรจุขวดนมให้กับครูเพ็ญ 

            เดี๋ยวตอนเย็นคุณแม่มารับกลับนะคะ  อย่าร้องไห้นะลูก

            น่าแปลกใจที่วันนี้ข้าวโอ๊ตไม่ร้องไห้เหมือนทุกวัน  หลังจากส่งข้าวโอ๊ตให้ครูเพ็ญเสร็จ  คุณแม่ก็รีบไปทำงานของเธอทันที 

            ครูเพ็ญกำลังจะจูงมือข้าวโอ๊ตเดินไปยังห้องของเล่น  แต่ก็ต้องประหลาดใจเพราะข้าวโอ๊ตวิ่งปรู๊ดไปก่อนแล้ว ??

     

            ข้าวโอ๊ตรีบวิ่งไปยังหลังบ้าน  เพื่อที่จะไปดูจิ้งจกสีแดงมีปีกของเขา  แต่ก็ผิดหวังเพราะประตูหลังบ้านล็อคอยู่  แล้วลูกบิดประตูก็อยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง  ข้าวโอ๊ตจึงเดินคอตกกลับไปนั่งจุมปุ้กอยู่ในห้องของเล่นเหมือนเด็กๆคนอื่นแล้วเฝ้ารอช่วงเวลาบ่ายที่เขาจะได้ออกไปเล่นที่สนามหลังบ้านอีกครั้ง

           

            ในห้องโถงใหญ่  ครูเพ็ญกำลังตั้งวงคุยกับ ครูแหม่มและครูนิด  หากแต่วันนี้หัวข้อของเรื่องที่คุยไม่ได้เป็นเรื่องเด็กๆในศูนย์  หรือเรื่องคุณพ่อ  คุณแม่ของเด็กๆเหมือนอย่างเคย 

            พี่ว่านะ  ระยะเวลาของค่ายน่าจะประมาณ 1 เดือน  กำลังดี

            ใช่ค่ะพี่  แหม่มกับนิดคิดว่า เราใช้ห้องบนชั้นสองเป็นห้องนอนของเด็กๆได้  แล้วเราก็ควรจะพาเด็กๆไปทรรศนะศึกษาในสถานที่ใกล้ๆ  อย่างเช่น  สวนสัตว์  หรือว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ใกล้ๆนี้นะคะ

            ครูเพ็ญพยักหน้าเห็นด้วย 

            ถ้างั้น  นิดช่วยร่างโครงการมาหน่อยนะ  แล้วเดี๋ยวพี่จะไปเสนอ ผอ.  เอง  ถ้าโครงการนี้ผ่าน  เด็กๆจะได้มาร่วมเข้าค่ายพัฒนาศักยภาพก่อนวัยเรียนด้วยกัน

            ค่ะ  พี่เพ็ญ  ครูนิดตกลง

           

            คุณครูพี่เลี้ยงทั้งสาม  มีความคิดที่จะทำค่ายพัฒนาศักยภาพก่อนวัยเรียนขึ้น  โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือน  ซึ่งหากโครงการนี้ผ่านการอนุมัติจาก  ผอ.  ก็เป็นอันว่า  ทั้ง ข้าวโอ๊ต  น้ำใส  ตะวัน  และเด็กๆเกือบ 40 คน  จะได้มาใช้ชีวิตร่วมกันที่ศูนย์แห่งนี้  เป็นระยะเวลา 1 เดือน

     

            หลังจากเวลาเล่นของเล่นช่วงเช้าจบลง  ครูเพ็ญ ครูแหม่ม  และครูนิด  ต่างพาเด็กๆมาที่ห้องโถงใหญ่  เพื่อทำกิจกรรมอื่นๆ  นั่นคือ  การวาดรูประบายสีเทียน

     

            เด็กๆ  รับกระดาษคนละ 1 แผ่นนะคะ  แล้วก็เดี๋ยวครูเพ็ญจะแจกสีเทียนให้  ให้เด็กๆวาดรูปตามจินตนาการนะคะ  แต่บอกไว้ก่อน   ว่าให้วาดลงบนกระดาษ   ไม่ใช่บนพื้น  เข้าใจไหมคะ

            เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้ว  เมื่อครูเพ็ญแจกสีเทียนให้เด็กๆวาดรูประบายสี แล้วก็เดินไปดูละครที่ตัวเองชอบในห้องของเล่น  พอกลับมาครูเพ็ญก็ต้องมาตรวจภาพที่เด็กๆวาดบนพื้นแทน

     

            เด็กๆทุกคนตั้งใจวาดกันอย่างสนุกสนาน  หลายคนวาด สุนัข  พระอาทิตย์  ดอกไม้  ต้นไม้  สุดแล้วแต่จะจินตนาการได้  น้ำใสวาดดอกไม้  ภูเขา  แล้วส่งกระดาษให้ข้าวโอ๊ตดู  อันที่จริงน้ำใสนั้นอายุมากกว่าข้าวโอ๊ต 1 ปี  และสามารถเข้าโรงเรียนได้แล้ว  แต่คุณพ่อกับคุณแม่ไปแจ้งเกิดให้น้ำใสช้า ทำให้อายุตามใบสูติบัตรของเธอน้อยกว่าความเป็นจริง 1 ปี

            สวยมั๊ยข้าวโอ๊ต น้ำใสถาม

            ข้าวโอ๊ตไม่ตอบ  เพราะกำลังขะมักเขม้นใช้สีแดงและสีส้ม  บรรจงวาดรูปอะไรบางอย่างบนกระดาษอย่างตั้งใจ

            นั่นตัวอะไรน่ะ  ข้าวโอ๊ต

            จิ้งจกไง  จิ้งจกมีปีกที่โอ๊ตเห็นเมื่อวาน

            น้ำใสทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองดูภาพที่ข้าวโอ๊ตวาดอย่างประหลาดใจ

            ทันใดนั้น  สีแดงที่ข้าวโอ๊ตจับอยู่ก็ถูกมือน้อยๆของใครบางคนดึงออกจากมือ

            ตะวัน!!”  น้ำใสตวาด

            เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ  ไม่เห็นหรอว่าข้าวโอ๊ตใช้อยู่  น้ำใสพูดเสียงดังเพราะเด็กหญิงตะวันมาแย่งเอาสีเทียนที่ข้าวโอ๊ตกำลังใช้อยุ่ไป

            เอาสีเขียวไปแทนสิ  ตะวันโยนสีเทียนสีเหลือง  ที่เธอเข้าใจว่าเป็นสีเขียวให้ข้าวโอ๊ต

            ข้าวโอ๊ตไม่พูดอะไร   แต่แย่งสีแดงมาจากมือของตะวัน

            ตะวันก็ใช้ความรวดเร็วแย่งกลับคืนมา

            ข้าวโอ๊ตยื้อกลับคืนมาอีกครั้งแต่คราวนี้ตะวันไม่ยอมปล่อย  ทั้งสองจึงยื้อแย่งกันแบบนั้น  โดยมีน้ำใสร้องห้ามว่า  อย่าๆๆ 

            ทันใดนั้น  สีเทียนเจ้าปัญหาก็หักครึ่ง  ทำให้ตะวันที่ยืนอยู่ล้มหงายหลังก้นจ้ำเบ้ากระโปรงเปิด  ส่วนข้าวโอ๊ตไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด  เพราะตนเองนังอยู่

            ตะวันร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุด  แม้น้ำใสจะเข้าไปโอ๋ให้เงียบเพราะกลัวครูเพ็ญครูแหม่มและครูนิดจะแห่กันมา  แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว  เพราะครูทั้งสามวิ่งหน้าตื่นมาทันที

            เกิดอะไรขึ้น  ตะวันร้องไห้ทำไมลูก ครูเพ็ญตรงดิ่งเข้ามาโอ๋ตะวัน

            ตะวันกรีดร้องหนักเข้าไปใหญ่  เมื่อมีคนมาโอ๋เธอ

            ข้าวโอ๊ตทำอะไรตะวันครูเพ็ญถาม

            ข้าวโอ๊ตส่ายหน้าเพราะรู้ดีว่า  อธิบายอย่างไรคนผิดก็เป็นเขาอยู่ดี

           

            ข้าวโอ๊ตโดนกักบริเวณอยู่ในตู้ใส่ผ้าปูนอนขนาดใหญ่  ครูเพ็ญเปิดประตูตู้ไว้แต่ไม่ให้ข้าวโอ๊ตออกมา  1 ชม.  ระหว่างที่เพื่อนๆนั่งดูการ์ตูนอยู่  มีเพียงน้ำใสที่เดินมาหาข้าวโอ๊ตบ้างเป็นครั้งคราว

            //////////////////////////////////////////////////////////////////////

     

     

            หลังจากตื่นนอนกลางวัน  ครูแหม่มพาเด็กๆไปล้างหน้าทาแป้งและทานอาหารว่าง  ในวันนี้เป็นโดนัทคลุกน้ำตาลที่ข้าวโอ๊ตไม่ชอบที่สุด  ครูเพ็ญบอกว่า  ใครทานไม่หมดจะเอาโดนัทละเลงหัว  ข้าวโอ๊ตจึงแอบเอาโดนัทชิ้นนั้นใส่กระเปากางเกงไว้

            ครูเพ็ญเปิดประตูหลังบ้าน  เด็กๆกรีดร้อง หัวเราะร่าอย่างสนุกสนานเมื่อรู้ว่า  ตนเองกำลังจะออกไปเล่นที่สวนหลังบ้านเหมือนเช่นทุกวัน  ข้าวโอ๊ตไม่รอช้าขว้าข้อมือน้ำใสแอบวิ่งไปยังต้นอินทนินท์อีกครั้ง

           

            เดี๋ยวมันก็มา  จิ้งจกสีแดงแบบในภาพไงน้ำใส

            น้ำใสพยักหน้า  เด็กทั้งสองนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้  สายตา2คู่ต่างจ้องไปยังโพรงไม้ขนาดใหญ่  ที่ข้าวโอ๊ตเห็นว่า  เมื่อวานเจ้าจิ้งจกสีแดงกระโดนผลุบหายเข้าไป

            เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง  ทั้งสองยังคงจ้องไปยังโพรงนั้น  สักครู่ใบหน้าของทั้ง2 ก็ต้องยื่นเข้าไปใกล้ๆกว่าเดิมอีก  เมื่อโพรงไม้นั้นสว่างวาบเหมือนใครจุดไฟแล้วโยนลงไปในนั้น  ข้าวโอ๊ตทำปาก  จุ๊ๆ กับน้ำใสแล้วดึงมือน้ำใสมาหลบยังพุ่มไม้ข้างๆ

            เจ้าตัวปริศนาค่อยยื่นหน้าออกมา  มันมองซ้ายขวา  แล้วกระโดดออกมาจากโพรงไม้น้ำใสกำลังจะอ้าปากกรีดร้อง  แต่โชคดีที่ข้าวโอ๊ตเอามือปิดปากของเธอไว้ทันมังกรตัวน้อยเกลือกกลิ้งไปมา  เหมือนกับมันกำลังเล่นแสงแดด  ในขณะที่น้ำใสและข้าวโอ๊ตจ้องมองมันอยู่ด้วยความตื่นเต้น  ข้าวโอ๊ตค่อยๆลุกไปใกล้ๆเจ้ามังกรตัวน้อยนั้นอย่างระมัดระวัง  ปล่อยน้ำใสให้นั่งอ้าปากค้างกับสิ่งที่เธอเห็น  แววตาตื่นเต้นยิ่งนัก

            เจ้ามังกรตัวน้อยก็ตกใจแล้วถอยห่างจากข้างโอ๊ต  แล้วทำท่าขู่  ฟ่อ ๆๆ!!  ข้าวโอ๊ตหยุดการเคลื่อนไหว  แล้วนึกขึ้นได้  หยิบโดนัทที่แอบเอาใส่กระเป๋ามา  ค่อยๆยื่นไปใกล้ๆมังกรน้อยมันค่อยๆเดินต้วมเตี้ยม มาใกล้  แล้วยื่นหัวกลมๆของมันมาดมที่โดนัทของข้าวโอ๊ตฟุดฟิดๆ   ก่อนที่จะคว้าหมับไปกินด้วยปากเล็กๆ 

            มันเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย   เมื่อหมดแล้วมันมองหน้าข้าวโอ๊ตเอียงคออีกครั้งอย่างสงสัย  ข้าวโอ๊ตนั่งยองๆอยู่แล้วเรียกมันว่า  มานี่สิ  มังกรตัวน้อยหรือจิ้งจกสีแดงของข้าวโอ๊ตกระโดดขโยกเขยกมาคลอเคลียที่ขาข้าวโอ๊ตอย่างเป็นมิตร  ในขณะที่น้ำใสออกมาจากที่ซ่อนแล้วมานั่งมองข้างๆ

            มันคือตัวอะไรน้ำใสถามอย่างประหลาดใจ

            ไม่รู้  แต่มันเหมือนจิ้งจก ข้าวโอ๊ตตอบ

            ไม่ใช่  จิ้งจกตัวเล็กกว่านี้ จิ้งจกไม่มีปีกด้วยน้ำใสเถียงตามประสบการณ์ที่เธอเคยเห็น

            มันเป็นตัวประหลาด  งั้นหรอ

            นั่นสิ  แต่ที่แน่ๆ  เราไม่เคยเห็นน้ำใสตอบ

            งั้นมันต้องมีชื่อนะ  ข้าวโอ๊ตบอกกับน้ำใส

            ชื่ออะไรดีล่ะ 

                      ลูกไฟ            ข้าวโอ๊ตบอก

     

             เด็กๆทั้ง2  กับเจ้าลูกไฟเกลือกลิ้งเล่นกันอย่างสนุกสนาน  จนลืมเวลาว่าใกล้เวลาที่คุณแม่-คุณพ่อของทั้งคู่จะมารับ  ทำให้ครูเพ็ญต้องเดินมาตาม

            มาอยู่ที่นี่กันนั่นเอง  เสียงครูเพ็ญดังมาแต่ไกล

            ข้าวโอ๊ตรีบจับเจ้าลูกไฟโยนเข้าโพรงไม้ที่เดิมเพราะกลัวครูเพ็ญจะมาเห็นเข้า  และครูเพ็ญก็ไม่ฟังอะไร  จับข้อมือของข้าวโอ๊ตและน้ำใสเดินบ่นไปตลอดทาง  ว่ามาเล่นไกลหูไกลตาของเธอทั้งๆที่เธอดูละครอยู่ในบ้าน

            ข้าวโอ๊ตตกลงกับน้ำใสว่า  จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ  จะมีเพียงข้าวโอ๊ต  และน้ำใสเท่านั้น  ที่รู้เรื่องเจ้าลูกไฟ

            วันพรุ่งนี้  ข้าวโอ๊ตและน้ำใสจะมาที่นี่อีก  มาเล่นกับเจ้าลูกไฟที่ชอบออกมาเล่นแสงแดดยามบ่ายอีกครั้ง 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×