คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จิ้งจกมีปีก
ตอนที่ 1 จิ้งจกมีปีก
รุ่งอรุณสดใส แสงแดดอบอุ่นรำไรส่องผ่านกระจกและถูกกรองด้วยผ้าม่านสีเหลืองลายลูกแกะที่โบกไสวไปตามแรงลมอ่อนๆ ทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ดูอบอุ่นและสงบเงียบ
บ้านหลังเล็กที่ถูกดัดแปลงเพียงเล็กน้อยให้กลายเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองไปไม่มากนัก มีรั้วไม้สีขาวสลับสีชมพู ที่ ณ บัดนี้ มันก็ไม่ค่อยจะเป็นสีขาวสักเท่าไหร่ ถัดจากรั้วไม้เป็นสวนหย่อมและชิงช้าเด็กเล็ก พร้อมเครื่องเล่นอีกไม่มาก ตั้งอยู่ก่อนที่จะถึงตัวบ้าน ภายในบ้านมีห้องโถง 1 ห้องใช้เป็นที่เลี้ยงดูเด็กๆ พร้อมกับห้องครัวและห้องของเล่นที่อยู่ไม่ห่างกัน หลังบ้านมีอาณาเขตค่อนข้างกว้าง มีม้านั่งและบ่อทรายอยู่ติดกับตัวบ้านพร้อมกับสนามหญ้าสีเขียวทอดยาวไปจนถึงรั้วหลังบ้าน โดยมีต้นอินทนินท์ต้นใหญ่คอยให้ร่มเงาอยู่บริเวณริมรั้ว เมื่อถึงฤดูหนาว มันมักจะออกดอกสีม่วงอ่อนและกลีบของดอกก็จะโปรยลงมาบนพื้นหญ้าทำให้สนามหลังบ้านที่ไม่ค่อยจะได้ใช้ประโยชน์ดูร่มรื่นสบายตา
“ข้าวโอ๊ต ฉี่รถกางเกงอีกแล้วหรอ สอนไม่เคยจำเลยว่าให้ลุกไปฉี่ๆ เดี่ยวก็ให้นอนจมอยู่ในกองฉี่แบบนี้เลย ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ !!!”
“เอาอีกแล้ว ข้าวโอ๊ต มันเอาอีกแล้ว เป็นแบบนี้ทุกวัน” ครูแหม่มพึมพำเบาๆ ให้ครูนิดฟัง หลังจากได้ยินเสียงครูเพ็ญโวยวายยกใหญ่
“ข้าวโอ๊ต ก็เหลือเกินจริงๆ” ครูนิดส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจกับภาพที่ครูเพ็ญถูลู่ถูกัง ลากข้าวโอ๊ตที่ร้องไห้จ้า เข้าห้องน้ำด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
อันที่จริงครูเพ็ญไม่ใช่คนที่ดุสักเท่าไหร่ แต่ด้วยวัยทองหรืออะไรก็ไม่ทราบที่ทำให้แก่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ก็อย่างว่ามีแกเท่านั้นที่เอาข้าวโอ๊ต อยู่หมัด
เวลาบ่ายคล้อย เด็กๆพากันกินอาหารว่าง ที่วันนี้เป็นเงาะในน้ำเชื่อม แล้วก็พากันไปเล่นที่ห้องของเล่นอย่างสนุกสนาน ข้าวโอ๊ตเดินแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนไปยังสวนหลังบ้านนั่งบนเก้าอี้ไม้ ใต้ต้นอินทนินท์ต้นนั้น น้ำใสวิ่งตามมาติดๆ พร้อมกับตะโกนเรียกข้าวโอ๊ตเสียงดังสดใส
“ข้าวโอ๊ต...............!!!” เธอยิ้มเห็นฟันกระต่ายสีขาว
ข้าวโอ๊ตหันไปมองแล้วแกว่งขาไปมา
“ครูเพ็ญ ให้มาตามไปเล่นในห้อง”
“ไม่ไป เบื่อครูเพ็ญ”
“งั้น เราไปก่อนนะ” น้ำใสรีบวิ่งกลับไปห้องของเล่นเพราะกลัว ตะวัน จะมาแย่งตุ๊กตาหมีที่เธอโปรดปราน
ข้าวโอ๊ตมองไปยังพุ่มไม้รกร้างที่อยู่บริเวณหลังรั้ว แมลงปอ ผีเสื้อ บินวุ่นวายเล่นแสงแดด ทำให้ข้าวโอ๊ตนึกถึงบ้านขึ้นมานิดๆ ข้าวโอ๊ตไม่ชอบเล่นรวมอยู่กับเพื่อนๆ เพราะเพื่อนๆมักจะชอบล้อข้าวโอ๊ตว่า ฉี่รดกางเกงบ้าง เป็นเด็กดื้อบ้าง หรือบางครั้งก็ขี้แกล้ง ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากจะเข้าใกล้ข้าวโอ๊ตเท่าไหร่ แต่ข้าวโอ๊ตเองก็ไม่อยากไปใกล้ใครเช่นกัน
แกรก .... แกรก !!!
เสียงพุ่มไม้สั่นไหว ข้าวโอ๊ตสะดุ้งตกใจ แล้วหันไปมอง
พุ่มไม้พุ่มนั้น ขยับไปมาราวกับว่า มีตัวอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น ข้าวโอ๊ตตั้งสติ และรวบรวมความกล้าเท่าที่เด็กในวัย 3ขวบครึ่งจะพึงมี ย่องเข้าไปดูใกล้ๆอย่างเงียบที่สุด ข้าวโอ๊ตยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ
ทันใดนั้น เจ้าตัวปริศนาก็กระโดดออกมาจากพุ่มไม้ มาเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้าข้างหน้าข้าวโอ๊ต แล้วข้าวโอ๊ตก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
เจ้าตัวปริศนามันมีหัวโตคล้ายๆกับไดโนเสาร์ในหนังสือนิทาน มีสี่ขา แต่ยืนบนขาหลังที่ใหญ่กว่าขาหน้า ตาของมันกลมโต ผิวเรียบสีแดง ตัวเท่ากบเหลาดินสอแบบมีที่หมุนบนโต๊ะทำงานของครูเพ็ญ บนหลังมีปีกน้อยๆงอกออกมา
มันเองก็ตกใจเช่นกัน มันกระโดดเข้าไปในโพรงไม้บนต้นอินทนินท์ พร้อมๆกับที่ข้าวโอ๊ตวิ่งหน้าตั้งไปบอกคุณครู หรือใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด โดยที่ไม่สนใจรองเท้าสีแดงคู่น้อยที่ถูกถอดทิ้งไว้
“มีอะไร ข้าวโอ๊ต!! วิ่งมารองเท้าไม่ใส่ เดี๋ยวก็หกล้มหรอก” ครูเพ็ญร้องเรียกข้าวโอ๊ต ในขณะที่กำลังนุ่งกางเกงให้น้ำใสอยู่
“จิ้งจกยักษ์ มีปีก จิ้งจก สีแดง มีปีก อยู่ที่ต้นไม้ จิ้งจกๆ” ข้าวโอ๊ตละล่ำละลัก อธิบายเหตุการณ์ที่เห็นอย่างตื่นเต้น
“บ้าบอ.. สงสัยจะโดนตีจนเลอะเลือนไปแล้ว ข้าวโอ๊ต”
“จิ้งจก จิ้งจก จริงๆ ครูเพ็ญ จิ้งจกมีปีกด้วย” ข้าวโอ๊ตพยายาม
“โอ๊ยๆ ไร้สาระข้าวโอ๊ต เดี๋ยวครูเพ็ญตีปากเลย เด็กโกหก”
ครูเพ็ญสะบัดก้นใหญ่ๆของเธอเดินจากไป
“น้ำใส ไปดูกันมั๊ย” ข้าวโอ๊ตชักชวนน้ำใส เพื่อนที่เขาไว้ใจเพียงคนเดียวไปดูในสิ่งที่เขาเห็น
“ไปสิ ข้าวโอ๊ตพาน้ำใสไปหน่อยนะ”
ข้าวโอ๊ตจูงมือน้ำใสวิ่งไปยังต้นอินทนินท์ริมรั้ว
“ไหน ข้าวโอ๊ต???”
“นี่ไง เมื่อกี๊มันอยู่ตรงนี้ จิ้งจกยืนสองขาตัวใหญ่เท่ากบเหลาดินสอ ตัวสีแดง มันมีปีกด้วย” ข้าวโอ๊ตชี้ไปยังพื้นว่างเปล่า
น้ำใสทำหน้างงสงสัย ค่อนข้างเอนเอียงไปทางไม่เชื่อเสียมากกว่า
“มันออกมาจากพุ่มไม้นี้ โดนมดกัดเต็มตัว แล้วกระโดดลงไปในโพรงต้นไม้นี่” ข้าวโอ๊ตเล่าแล้วชี้ๆ
“จริงๆนะน้ำใส”
น้ำใสไม่พูด แต่เก็บรองเท้าสีแดงของข้าวโอ๊ตมาให้ข้าวโอ๊ตใส่ แล้วจูงมือข้าวโอ๊ตเดินกลับบ้าน พร้อมๆกับที่ข้าวโอ๊ต ก็พยายามอธิบายไปตลอดทาง
เย็นวันนั้น คุณแม่มารับข้าวโอ๊ตกลับบ้าน พร้อมๆกับที่ข้าวโอ๊ตก็เล่าเรื่องจิ้งจกสีแดงมีปีกให้แม่ฟัง แม่ของข้าวโอ๊ตชื่นชมว่าข้าวโอ๊ตมีจินตนาการที่กว้างไกลอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
ความคิดเห็น