คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เขาวงกต
The Maze Runner
(Minho x Thomas)
ตอน เขาวงกต
“เฮ้” เสียงใครบางคนดังแหวกความมืดมา “เจ้าอ่อน ตื่นได้แล้ว”
“อะไรอีกล่ะเนี่ย” โทมัสพึมพำ หรี่ตาขึ้นมองผู้มาปลุก เขาเป็นชายชาวเอเชีย รูปร่างล่ำ หน้าตาเชื่อถือได้เหมือนคนมีสภาวะผู้นำตั้งแต่เกิด และเขาเป็นผู้ดูแลนักวิ่ง “มินโฮ มาปลุกอะไรแต่เช้า”
“ประตูจะเปิดแล้ว วันนี้นายต้องไปวิ่งกับฉัน”
‘วันแรกของฉันในฐานะนักวิ่ง’ โทมัสคิดดังๆ ขณะที่ลุกขึ้นจากเปล
“อีกห้านาทีที่หน้าประตู โทมัส” มินโฮบอก วิ่งเหยาะๆ ไปที่ประตู โทมัสได้ยินเขาทักทายชาวทุ่งคนอื่นๆ อย่างอารมณ์ดี คนที่ต้องเข้าไปวิ่งเสี่ยงตายในเขาวงกตแทบทุกวันอย่างมินโฮยังอารมณ์ดีแบบนี้ได้ยังไงนะ โทมัสอดสงสัยไม่ได้
ห้านาทีให้หลัง หลังจากไปรับอาหารมาจากฟรายแพน โทมัสไปสมทบกับมินโฮ นิวท์ยืนอยู่ตรงนั้นกับมินโฮเหมือนรอมาส่งเขาให้เดินทางปลอดภัยอะไรเทือกนั้น แต่โทมัสรู้สึกใจหายมากกว่าสบายใจ ถ้าเขาไม่ได้กลับมาล่ะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นหน้านิวท์ใช่ไหม
“รู้สึกยังไงบ้าง ทอมมี่” นิวท์ทักทาย “วันแรกของนาย”
“ตื่นเต้นดี”
“แค่นี้ก็กลัวหัวหดแล้วเหรอ เด็กใหม่” มินโฮว่า
“ฉันไม่ได้กลัว ปลวกเอ้ย” โทมัสโต้ มินโฮยิ้มมุมปาก
มีเสียงดังกึก พื้นดินสั่นสะเทือน กำแพงขนาดมหึมาเคลื่อนที่แยกออกจากกันด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หัวใจของโทมัสเต้นแรงแทบกระเด็นออกมาจากอก อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเขาจะได้ไปเห็นเขาวงกตแล้ว สารอาดีนนาลีนในตัวเขาพุ่งกระฉูดจนอยู่นิ่งแทบไม่ได้ เขาจะได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างในนั้น...กับมินโฮ
“มาเร็ว โทมัส” มินโฮเรียก วิ่ง นำโทมัสเข้าในเขาวงกต โทมัสหันมองนิวท์ผู้ตบไหล่เขาเบาๆ
“โชคดี ทอมมี่”
โทมัสยกนิ้วโป้งให้ วิ่งตามมินโฮเข้าไป เขาวงกต! กำแพงเหล็กสีเทาสูงเสียดฟ้า เถาวัลย์ห้อยระโยงรยางค์ราวกับว่ามันเป็นเส้นเลือดของเขาวงกต น้ำขังบนพื้นขรุขระเป็นเลือดที่หล่อเลี้ยงที่แปลกประหลาดแห่งนี้ตัวขับเคลื่อนให้มันเปลี่ยนแปลงทุกวัน โทมัสวิ่งตีคู่กับมินโฮ ชายชาวเอเชียขยิบตาให้แล้วเลี้ยวซ้ายอย่างกะทันหัน
“นายจำทุกอย่างในนี้ได้เหรอ” โทมัสถาม เสียงของเขาดังก้องไปตามทางแคบๆ
“ทุกตารางนิ้วของมัน” มินโฮตอบ “สามปีที่ฉันวิ่ง เขาวงกตมันเปลี่ยนรูปแบบทุกวัน แต่มันจะวนกลับมาเป็นรูปแบบเดิมซ้ำๆ ทุกอาทิตย์”
“แล้วโศกาล่ะ” เขาสงสัย โศกาเป็นสิ่งสุดท้ายที่โทมัสอยากเจอ ตัวขนาดมหึมาและขาทแยงมุมยุบยับทำให้โทมัสขนลุกซู่
“มันไม่ค่อยออกมาตอนกลางวัน” มินโฮตอบเบาๆ “ถ้ามี ก็คงน้อยกว่าตอนกลางคืน”
“เบน...”
“เรื่องของเบนเป็นสถานการณ์เกินกว่าฉันจะคาดถึง” มินโฮตอบฉับพลัน โทมัสรู้เรื่องของเบนยังคงหลอกหลอนเขา “ฉันเสียใจที่ต้องทำแบบนั้น แต่มันเป็นกฎ ถ้าเราไม่ทำตามกฎเราก็อยู่ไม่ได้”
“ฉันรู้” โทมัสตอบเบาๆ “แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดี”
“อย่าสงสัยมากไปเจ้าเด็กใหม่ มันเป็นอันตรายได้เหมือนกัน” มินโฮว่า “มาทางนี้”
โทมัสวิ่งตามมินโฮ เขาวิ่งเร็วราวลมกรด จากประสบการณ์สามปีที่ต้องวิ่งในเขาวงกตแทบทุกวันทำให้มินโฮคล่องแคล่วว่องไว โทมัสสังเกตรูปร่างของมินโฮ เขาไม่ได้เพรียวบางเหมือนนักวิ่งคนอื่นๆ แต่เป็นคนมีกล้ามเนื้อแน่นและแข็งแรง มันน่าแปลกใจที่คนอย่างมินโฮเป็นผู้รักสงบต่างจากกัลลี่ เจ้าหมีเถื่อนนั่น
“เฮ้ น้องใหม่ มองอะไรอยู่ได้ ตามมาสิ” เสียงเข้มๆ ของมินโฮดังเข้ามาในโสตประสาทของโทมัส เขากะพริบตาพบว่าตัวเองยืนนิ่งมองมินโฮอยู่ “ยืนเป็นเป้าล่อโศกาหรือไงเพียกงี่เง่า”
“ฉันไม่ได้งี่เง่า ปลวกเอ๊ย”
“น้องใหม่ก็เป็นน้องใหม่อยู่วันยังค่ำ” มินโฮว่า
“ฉันไม่ใช่...” โทมัสเงียบเมื่อมินโฮยกมือขึ้น ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง “มีอะไร”
“ฉันรู้สึกแปลกๆ”
“ปวดฉี่รึไง”
มินโฮเหวี่ยงกำปั้นมา โทมัสหลบทันพร้อมกับหัวเราะคิกคัก “เออ ให้มันได้อย่างนั้นเถอะ”
“รุนแรงว่ะเพียก นิวท์ไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย” โทมัสตำหนิขำๆ สีหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นมินโฮขมวดคิ้วจ้องโทมัสเขม็ง “อะไร”
“ฉันไม่ใช่นิวท์” เขาตอบห้วนๆ “รีบไปกันเถอะ”
ทั้งสองชะงัก เสียงดังครืดคราดราวโศกาลากขาขนาดใหญ่ผิดปกติของมันดังมาจากอีกทางของเขาวงกต เสียงลมหวีดหวิวทำให้นึกถึงเรื่องสยองขวัญสักเรื่องหนึ่ง ขณะที่เขาวงกตกำลังเคลื่อนที่ มินโฮจับต้นแขนโทมัสแล้วออกวิ่ง เขาถลาเกือบหน้าทิ่มแทบไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างมินโฮจะวิ่งได้เร็วขนาดนั้น
“โทมัส วิ่ง! อย่าหันกลับไปมอง” มินโฮตะโกนแข่งกับเสียงดังโครมครามของวงกต
โทมัสมองแผ่นหลังมองโฮแล้วหันหลังกลับไป เห็นเขาวงกตกำลังเปลี่ยนรูปร่าง แรงกระแทกของกำแพงเขาวงกตทำให้ฝุ่นคลุ้งกระจายไปทั่ว โทมัสสะดุดก้อนหินกลิ้งขลุกขลัก ใบหน้าสัมผัสกับผืนซีเมนต์ขณะเสียงโครมครามค่อยๆ เงียบไป โทมัสพยุงตัวขึ้นยืนไอเมื่อสูดฝุ่นเข้าไปเต็มปาก เมื่อลืมตาก็ต้องรีบหลับตาอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางกลุ่มฝุ่นหนาที่ไม่มีที่ทางจะบางลง
“โทมัส!” มินโฮตะโกน เสียงของเขาอยู่ไกลออกไปราวกับอยู่อีกโลกหนึ่ง “ไอ้อ่อน โทมัส”
“ฉันอยู่ตรงนี้!” โทมัสตอบ ยื่นมือควานหาเจ้าของเสียงนั้น “มินโฮ!”
ไม่มีเสียงตอบกลับ
“มินโฮ!”
โทมัสเริ่มใจหายไม่ออก ท่ามกลางฝุ่นหนามองอะไรไม่เห็น นักวิ่งอาจจะถูกโศกาโจมตีเอาเมื่อไรก็ได้ และนั่นเป็นฝันร้ายที่ร้ายที่สุดของนักวิ่ง ภาพของเบนหลังถูกต่อยยังคงตรึงอยู่ในความทรงจำของโทมัส ไม่มีใครอยากถูกต่อยหรอกเขารู้ หรือ...มินโฮจะทิ้งเขาอยู่ที่นี่แล้ววิ่งเอาตัวรอดคนเดียว ถ้ามินโฮทำแบบนั้นกับเบนล่ะ และถ้าเขาจะทำแบบนั้นกับโทมัสบ้าง...
วินาทีนั้นที่ใจเหวง มือแข็งแรงมือหนึ่งคว้ามือโทมัสแล้วจับไว้แน่นอีกมือโอบเอวเขาผู้มองอะไรไม่เห็นแล้วพาวิ่งนำทาง โทมัสขยุ้มเสื้อคนนั้นราวเขาเป็นผู้ช่วยชีวิตออกจากฝูงโศกา แม้โทมัสจะหลับตา แต่มือของเขายังสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของอีกคนที่แรงขึ้นทุกขณะ อีกมือที่โอบเอวโทมัสกำลังดึงเขาให้ชิดเข้าไปใกล้ร่างกายกำยำนั้น โทมัสรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ ไร้เวลา ไร้เสียง มีแต่ความเงียบที่น่าอภิรมย์หากอยากอยู่กับใครคนรักเพียงลำพัง
ร่างนั้นวิ่งช้าลง อาการแสบผิวลดน้อยลงแสดงว่าปลอดภัยที่จะลืมตาแล้ว โทมัสค่อยๆ ลืมตาแล้วเงยหน้ามองมินโฮผู้กำลังหอบก้มมองโทมัสด้วยแววตาสั่นระริก
“ไอ้อ่อนเอ๊ย! เป็นห่วงซะแทบแย่” มินโฮว่า โทมัสเพิ่งรู้ตัวว่าเขายังอยู่ในอ้อมกอดนั้น อ้อมกอดช่างอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์ในยามเช้าจนเขาไม่อยากผละออกไปไหน มินโฮยังคงตกอยู่ในอารมณ์โกรธจนไม่สนใจอะไรนอกจากบ่น เขาจึงยังอยู่ในอ้อมแขนนั้นต่อไป “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าหันหลังกลับไปมอง นายนี่มันเหมือนเผละจริงๆ บอกอะไรก็ไม่ฟังแบบนั้นจะเป็นนักวิ่งได้ไหมฮะ! หรือฉันต้องออกกฎใหม่ไว้ใช้สำหรับนายโดยเฉพาะเลยว่าต้องเชื่อฟังฉันทุกคำพูด ถ้านายโดนต่อยขึ้นมาจะเป็นยังไง คิดบ้างไหมว่าฉันจะรู้สึกยังไง แค่นายหายไปในกลุ่มฝุ่นฉันก็เป็นห่วงนายจะตายแล้ว ไอ้ปลวกเอ๊ย!”
“ฉัน...ขอโทษ” โทมัสพูดได้แค่นั้น
มินโฮค่อยๆ คลายอ้อมแขนเหมือนเพิ่งรู้ตัวอย่ายังโอบโทมัสอยู่ เขาเสไปมองเถาวัลย์แล้วหันกลับมาสำรวจโทมัส ไม่มีใครพูดอะไร ทั้งสองจึงตกอยู่ในความเงียบดั่งที่โทมัสคิดไว้ ความเงียบราวห้วงอวกาศที่ไร้เวลานั้น...
“ไม่บาดเจ็บใช่ไหม” มินโฮถามเสียงแตกพร่า
“ไม่หรอก นายล่ะ”
“ฉันเป็นหัวหน้านะเผละเอ้ย ฉันจะเจ็บตัวเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ”
“ฉันลืมไปนะว่านายมันคือลิงกอริลลา” โทมัสเหน็บแนม หลบกำปั้นมินโฮไม่ทันเลยยืนมึนหลังถูกต่อยเข้าที่ขมับ
“กลับได้แล้ว” มินโฮบอกเสียงเข้ม
แต่โทมัสไม่อยากกลับ เขาอยากใช้เวลากับมินโฮในเขาวงกตให้มากกว่านี้ ถ้าเป็นในอดีต แน่นอนจุดประสงค์เขาคืออยากเป็นนักวิ่ง แต่ในเวลานี้เขาเป็นนักวิ่งแล้ว เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเป้าหมายต่อไปคือการหาทางออกหรือ...ใช้เวลากับใครสักคนในวงกตพิศวงแห่งนี้จนกว่าพวกเขาจะหาทางออกพบ
พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการวิ่งกลับ นิวท์กับกัลลี่ยืนรออยู่ที่ปากทางออก มินโฮจับมือกับนิวท์แล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับพวกเขา โทมัสเหลือบมองกัลลี่ผู้ทำหน้าบึ้งใส่
“นายน่าจะตายในนั้นนะเพียก” กัลลี่ประกาศ หันเดินกลับไปที่บ้านพัก
“ไหวนะทอมมี่” นิวท์ถามพลางขยิบตาให้ “ฉันไปก่อนนะ”
โทมัสรอให้นิวท์เดินไปไกลเกินระยะได้ยินแล้วโจมตีมินโฮทันที “นายบอกอะไรกับพวกเขา!”
“จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอ” มินโฮตอบด้วยเสียงเย็นชา
“ถ้ามันเกี่ยวกับฉันน่ะ ใช่”
มินโฮพยายามกลั้นยิ้มอย่างหนัก “มันไม่เกี่ยวกับนายหรอกปลวกเอ้ย ฉันบอกพวกนั้นว่าวงกตเปลี่ยนระหว่างที่พวกเรากำลังวิ่ง มันเป็นข่าวใหม่ แล้วนายควรจะรู้ไว้ว่านอกจากเรื่องวงกต ฉันไม่เล่าเรื่องเราให้พวกนั้นฟังหรอกน่ะ”
“ ‘เรื่องเรา’ เหรอ” โทมัสทวนอย่างงงงัน
มินโฮขยับไปมาอย่างไม่สบายใจ “เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก โอ๊ย หิวจะตายแล้ว แล้วเจอกันเพียก ฉันจะเป็นคนเขียนแผนที่เอง นายไปพักเถอะ”
มินโฮวิ่งเร็วจี๋ไปที่ห้องเก็บแผนที่ทิ้งให้โทมัสได้แต่อ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น ถึงได้รู้จักกันแล้ว มินโฮก็ยังเป็นมินโฮผู้เข้าใจยากอยู่ดี โทมัสหัวเราะให้ตัวเอง ลากขาอันเมื่อยล้าไปยังครัว วันนี้น่าจะมีแซนวิชเขาจะได้เอาไปฝากมินโฮสักชิ้น แล้วมินโฮจะชอบหรือเปล่านะ
ความคิดเห็น