ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Maze Runner Trilogy FanFiction

    ลำดับตอนที่ #2 : ฉันจะไม่ลืมนาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 456
      6
      17 ต.ค. 57

    The Maze Runner

    Minho x Ben

    ฉันจะไม่ลืมนาย...

    มินโฮพยายามหักห้ามใจอย่างหนักไม่ให้มองภาพอันน่าสยดสยองตรงหน้า กัลลี่ นิวท์และชาวทุ่งคนอื่นๆ พยายามกดเบนลงกับเตียง ร่างกายของเบนกำลังเปลี่ยนแปลง พิษจากการถูกต่อยเปลี่ยนเขาให้เป็นใครอีกคนที่มินโฮไม่เคยรู้จักมาก่อน พิษนี้ไม่มีทางรักษาและสิ่งที่อัลบีจะทำคือขังเบนไว้ในห้องพยาบาลห่างจากชาวทุ่งคนอื่นๆ ถ้าเป็นเรื่องนี้มินโฮทำใจไว้แล้วว่าเบนจะเปลี่ยนไป แต่ทว่าเบนทำร้ายโทมัสซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่มินโฮคาดไว้เลยแม้แต่น้อย เบนเป็นคนอ่อนโยนและร่าเริง ระยะเวลาสามปีที่อยู่ด้วยกันมา มินโฮวางใจในตัวของเบนเต็มที่ แต่หลังจากที่เขาได้ยินจากปากนิวท์ว่าเบนพุ่งเข้าทำร้ายโทมัสในป่า โลกทั้งใบก็บีบรัดเข้ามาและทำให้มินโฮรู้สึกอ้างว้าง กฎย่อมเป็นกฎ ในวันพรุ่งนี้เบนจะต้องถูกเนรเทศออกไปอยู่ในวงกตกับโศกาเป็นโหลเพียงลำพัง และไม่เคยมีใครรอดจากโศกาพวกนั้น

    กฎข้อที่สอง จะต้องไม่ทำร้ายชาวทุ่งด้วยกัน

    เบน...

    “ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันนะ โทมัสมันเป็นปีศาจ มันเป็นปีศาจ! มันเป็นปีศาจ! เบนตะโกนคำเหล่านี้มาราวๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว ชาวทุ่งร่างกายกำยำหลายคนยังไม่สามารถทำให้เขาสงบได้

    “ใจเย็นๆ เบน” กัลลี่บอก พยายามจับแขนเบนพาดหลัง

    “พวกนายจะต้องเสียใจ ถ้าพวกนายฆ่าฉัน พวกนายจะต้องเสียใจ ฉันเห็นมัน! มันเป็นคนทำ” เบนหวดซ้ายป่ายขวา หมัดหนักๆ ของเขาฟาดโดนกัลลี่ไปทีหนึ่ง มินโฮอยากหัวเราะออกมาเมื่อเจ้ายักษ์นั่นโซเซไปหลังห้อง

    เจฟฟ์ตัดสินใจทิ่มเข็มเข้าที่แขนของเบน นาทีต่อมาเขาก็สงบลง

    “เราควรมัดเขาไว้กับเตียง” คลินท์แนะนำ

    นิวท์หันสบตามินโฮแล้วส่ายหน้าให้กับคลินท์ “ไม่จำเป็นหรอก”

    “ไม่น่าเลย” เจฟฟ์พึมพำ มินโฮก้าวเข้าไปหลังจากดูสถานการณ์จนแน่ใจว่าเขาสามารถเข้าไปได้แล้ว “มินโฮ เบนถูกต่อยได้ยังไง”

    “ฉัน...ไม่รู้” มินโฮสารภาพ “เขาคลาดสายตาฉันไปแวบเดียวเอง”

    กัลลี่ขมวดคิ้วมองเบนด้วยสายตายากจะอ่านออก “โศกาไม่ต่อยคนในเวลากลางวัน”

    “เราไม่เคยเห็นมันในเวลากลางวัน” มินโฮแก้ “มันต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ”

    “ก็ตั้งแต่ไอ้ปลวกนั่นมา” กัลลี่พูด น้ำเสียงไม่พอใจ มินโฮรู้ว่ากัลลี่หมายถึงโทมัส “ฉันจะไปคุยเรื่องเบนกับอัลบี”

    “ทำไม” มินโฮถามห้วนๆ

    “เจ้านั่น! เขาชี้ไปที่เบนซึ่งสลบอยู่บนเตียง “มันเป็นตัวอันตราย เราต้องเนรเทศเขาเดี๋ยวนี้”

    “ไม่!มินโฮแย้งเสียงดังจนทุกคนหันมองเขาเป็นตาเดียว “เราจะรอประตูปิด เราจะพาเขาไปที่นั่นตอนประตูใกล้ปิด นายก็รู้ ยังไงเขาก็ต้องหาทางกลับมาปลวกเอ๊ย เขาเป็นนักวิ่ง! เขาฉลาดและรวดเร็วกว่านายหลายเท่า”

    กัลลี่พ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดแล้วเรียกคนอื่นๆ ให้เดินตามออกไป นิวท์ตบไหล่มินโฮผู้พยายามหลบตาตั้งแต่เขาเห็นสภาพของเบน ถ้าไม่นับอัลบีที่นิวท์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา มินโฮก็เป็นอีกคนที่นิวท์มองออกเสมอ

    “นายแน่ใจนะว่าไม่อยากให้เราอยู่ข้างนอก” นิวท์ถามดั่งรู้ใจมินโฮ “นายก็รู้ เผื่อไว้”

    “ฉันอยากอยู่กับเขาเพียงลำพัง” มินโฮตอบเสียงมั่นใจ

    “แต่ --”

    “ฉันรู้จักเบน” มินโฮขัด “เขา...ไม่ทำร้ายฉันแน่นอน”

    “ตามใจนาย” นิวท์ถอนหายใจ เดินออกไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ

    มินโฮรอจนแน่ใจว่าทุกคนลงไปข้างล่างหมดแล้วจึงเดินไปนั่งข้างเตียง ยกมือขึ้นสัมผัสรอยแปลกปลอมบนใบหน้าที่เคยหล่อเหลานั้น ยาสลบจะมีผลต่อคนถูกต่อยน้อยกว่าคนปกติ อีกไม่กี่นาทีเบนจะฟื้นขึ้นมาและเริ่มคลุ้มคลั่ง ข้ออ้าง ใช่ ที่มินโฮพูดไปมันก็แค่ข้ออ้าง ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นยังคงแขวนอยู่ที่ปากเหว แม้ราวแขวนนั้นจะมั่นคงมากแค่ไหนมันก็สามารถหักได้ถ้าอีกฝ่ายต้องการแบบนั้น...

    เบนจะหักมันใช่ไหม มินโฮถามตัวเอง รู้สึกแสบร้อนที่ดวงตา

    เบนขยับตัวเล็กน้อย เขาปรือตามองมินโฮด้วยสายตาหวาดกลัวระคนสับสน

    “ไง เพียก” มินโฮว่า “ดูแย่ลงไปเยอะนะ”

    “ฉันก็หล่อกว่านายอยู่ดี” เบนตอบกลับมา เขายังคงเป็นคนเดิม หรือในทางกลับกันตัวตนบ้าคลั่งของเขายังถูกควบคุมอยู่ ไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวทุ่งถูกฝังความคิดไปแล้วว่าคนที่โดนต่อยสมควรถูกขัง พวกเขาจะบ้าคลั่ง เพ้อเจ้อ พูดจาในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่อาจเข้าใจ มินโฮปรารถนาอย่างแรงกล้าให้มียารักษาอาการหลังจากการถูกต่อย แต่เขาหนีความจริงไม่ได้อยู่ดีว่า เบนจะต้องถูกเนรเทศ

    “ฟังนะ เบน” มินโฮไขว้นิ้ว “ฉัน...อาจจะทำอะไรบางอย่างได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้” เขาบอก เบนมุ่ยหน้า “เราอาจขอร้องอัลบีได้”

    “ไม่ได้ มินโฮ! เบนแย้งเสียงดัง “มันเป็นกฎ นายคิดดูสิว่าชาวทุ่งจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีกฎ นายคิดดูจะมีคนมากมายแค่ไหนวิ่งออกไปจากที่นี่แล้วไปเจอกับ --”

    เบนหยุดชะงักกลางคัน ใบหน้าเหยเกตัวเริ่มสั่น เงาดำฉายอยู่บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวมันคือเงาของอะไรบางอย่างที่มินโฮไม่อาจเข้าใจได้ เขาจึงรีบคว้ามืออีกฝ่ายมากุมไว้แน่นถึงจะเสี่ยงก็ตามที เบนค่อยๆ สงบลง

    “นายต้องอยู่กับฉัน เบน” มินโฮบอก อาการแสบร้อนที่ดวงตากลับมาอีกครั้ง “เราเป็นคู่หู จำได้ไหม ไอ้อ่อนตัวไหนมันก็ไม่เจ๋งเท่านาย พวกนั้นมันแค่กองเผละกองหนึ่ง นายต้องอยู่กับฉัน”

    “ไม่ได้หรอก” เบนบอก ไม่มีอาการของคนลังเลเลยแม้แต่น้อย

    “เบน...”

    มินโฮก้มหน้า ซุกใบหน้าไว้ในฝ่ามือ เขารู้สึกถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่สวมกอดร่างกายอันสั่นเทา มือเล็กๆ ที่อ่อนโยนเสมอกำลังลูบผมเขาเบาๆ มินโฮไม่รู้เลยว่าอาการแสบร้อนที่ดวงตามันคืออาการของคนอยากร้องไห้แต่กลั้นน้ำตาไว้สุดความสามารถ แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว นานแค่ไหนที่เขาวิ่งในวงกตกับชายคนนี้ พูดคุย หยอกล้อ และจู่ๆ กลายเป็นคนต้องไล่คนที่อาจเป็นเพื่อนสนิทมากที่สุดคนหนึ่งไป นี่มันมากเกินไป วงกตนั่นมันล้อเล่นกับความรู้สึกของมนุษย์มากเกินไป และสักวันเขาจะต้องเอาคืน

    “มินโฮ” เบนเรียก เสียงอ่อนโยนมากกว่าทุกที “นายต้องไม่ร้องไห้”

    “นายเป็นใครถึงมาสั่งฉันว่าต้องทำอะไร ฮะ” มินโฮตวาดใส่อกอีกฝ่ายที่ยังกอดเขาอยู่

    “เป็นคนที่นายต้องเนรเทศออกไปในเย็นนี้” อีกฝ่ายตอบเสียงสงบเกินคาด “ฟังฉันนะ ฉันกำลังขอร้องนาย นายต้องพาฉันไปที่หลุม ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น นายจะต้องไล่ฉันออกไปจากทุ่งให้ได้ ไม่ว่าฉันจะขอร้องยังไงก็ตาม เข้าใจฉันไหม”

    มินโฮไม่ตอบ

    “ฉันถามว่านายเข้าใจฉันไหม”

    มินโฮไม่อยากตอบ ในตอนนี้เขาไม่อยากได้ยิน ไม่อยากพูด ไม่อยากอะไรทั้งนั้น สิ่งที่เขาต้องการมากกว่าการตอบคำถามงี่เง่าพวกนั้นคือ ย้อนเวลากลับไปในตอนเช้าและกอดเบนให้อยู่ข้างกายตลอดเวลา ทำแบบนั้นไอ้บ้าโศกาตัวไหนก็แยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้ และเบนจะไม่ถูกต่อย (ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม) เขาจะไม่ทำร้ายโทมัส และเขาจะไม่ถูกเนรเทศ

    “ฟังฉัน พวกชาวทุ่งจะว่ายังไง นายเป็นหัวหน้านักวิ่ง นายมีคนเคารพ แต่นายกลับฉีกกฎที่ปฏิบัติเป็นปีๆ เพื่อช่วยลูกน้องที่จู่โจมไอ้บ้าจากจากความทรงจำของเขา พวกนั้นจะเลิกศรัทธาในตัวนาย เพียกเอ๊ย” เบนว่า มินโฮหัวเราะ ไม่บ่อยนักที่เบนจะใช้คำปลวกๆ พวกนั้น เขากอดเบนเพราะมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้ทำ “มีอีกอย่างนึง”

    “อะไร”

    “สัญญากับฉัน นายจะไม่ร้องไห้”

    “ฉันไม่สัญญา” มินโฮบอกเสียงแข็ง

    “มินโฮ” เสียงของเบนสั่นเครือ “นี่เป็นวันและเวลาสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน ฉันอยากให้นายทำตามคำขอของฉัน”

    “นายมันปลวก เบน”

    “สัญญาสิ มินโฮ” เบนขึ้นเสียงเล็กน้อย ตัวเริ่มสั่นแรงขึ้นทุกที “สัญญากับฉันว่านายจะไม่ร้องไห้”

    มินโฮเม้มปาก วันสุดท้าย เวลาสุดท้าย แต่ต้องมาสัญญาเรื่องงี่เง่าอะไรนี่ด้วยรึไง “ฉันสัญญา”

    “มีอีกเรื่องที่ฉันอยากบอก” เบนพูดเบาๆ อ้อมกอดแน่นขึ้น “ฉันรักนาย”

    มินโฮอยากปิดหู คนที่พูดว่ารักควรเป็นคนที่ต้องอยู่อนาคตด้วยกัน ไม่ใช่ปล่อยอีกคนไว้เพียงลำพัง ไม่เช่นนั้นคำว่ารักจะต้องทรมานอีกคนไปจนวันตาย

    “เบน นายรักฉัน นายบอกว่ารักฉันในวันที่ฉันต้องสูญเสียนายไป ทำไมนายไม่บอกกับฉันให้เร็วกว่านี้ เบน”

    เบนไม่ตอบ ปล่อยมินโฮแล้วยิ้มให้ ถึงแม้ใบหน้าแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิมแต่มินโฮเห็นเบนอยู่ในแววตาเสมอ เบนหันหลังแล้ววางมือไว้บนหัว “ถึงเวลาแล้ว หัวหน้า”

    “เบน ฉันจะไม่ลืมนาย ไม่มีวัน”

     

    เมื่อพาเบนไปที่หลุม มินโฮไม่รู้สึกเข้มแข็งหรือเป็นวีรบุรุษเลยแม้แต่น้อย เบนไม่ใช่เบนคนเดิมอีกแล้ว เขาดิ้นรน พูดเพ้อ ต่อว่าเหมือนคนบ้ามากไปทุกที มินโฮอยากนำเขาไปซ่อนไว้ที่ไหนสักแหล่งแล้วแสร้งทำเป็นว่าเขาหนีไปได้ มินโฮไม่อยากทำแบบนี้ ไม่อยากเลย แต่เบนขอร้องเขาไว้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเขาจะทำตามคำขอร้องนั้น สายตาของชาวทุ่งที่มองมาเต็มไปด้วยความเศร้า มินโฮสูดลมหายใจลึกๆ บอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้แล้วตัดเชือกที่มัดมือเบนออก พยายามเมินเสียงเขาที่ร้องคร่ำครวญขอร้องใครๆ ฟัง แน่นอนพวกเขาฟัง แต่กฎอยู่เหนือพวกเขา ไม่มีใครทำอะไรได้ แม้เขาคนนั้นคืออัลบี

    ไอ้กฎบ้าๆ นั่นฉันจะต้องฉีกมันเข้าสักวัน มินโฮคิด

    “โอ ไม่นะ ได้โปรด อย่าทำ อย่าทำอย่างนี้” เบนอ้อนวอน

    สายตานั่นแทงทะลุหัวใจมินโฮ บีบคั้นความรู้สึกเศร้าหมองออกมา เสียงประตูเขาวงกตดังขึ้นบ่งบอกเวลาย่ำค่ำที่ไม่เคยเศร้าเท่านี้มาก่อน มินโฮมองขอความเข้มแข็งจากอัลบีที่พยักหน้า เขาจึงโยนถุงเสบียงเข้าไปในเขาวงกตแล้วหันหลังหนีจากมา แต่ทว่าเสียงนั่น เสียงของเบนที่เขาพยายามเมินมันดังเข้าหูเขาตลอดเวลา หลอกหลอนอยู่ในความคิดและความทรงจำอันสับสน ได้โปรดเถอะ หยุด!

    “ฉันยังหายได้ ฉันยังหายได้!

    ได้ยินไหม เขายังหายได้! อัลบี ได้โปรด เถอะ ได้โปรด!

    “ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!เสียงร้องโหยหวนของเบนถูกกลบด้วยเสียงปิดประตูดังกึงสยองขวัญ มินโฮวิ่งหนีจากตรงนั้น วิ่งหนีออกจากความเศร้า ความรู้สึกผิด

    ไอ้วงกต ไอ้ผู้สร้าง พวกแกสนุกไหม เราต้องสูญเสียคนไปเท่าไรกับอะไรบ้าๆ ทั้งหมดนี่ พวกแกดึงทึ้งชีวิต ฉีกกระชากความรู้สึกของใครต่อใครไปเท่าไรแล้ว สักวันฉันจะเอาคืน สักวันฉันจะทำให้พวกแกรู้สึกอย่างที่ฉันรู้สึก

    มินโฮยังคงวิ่ง หวีดร้องราวคนบ้า

    สัญญาสิ มินโฮ เสียงของเบนดังขึ้นในโสตประสาทเขา สัญญากับฉันว่านายจะไม่ร้องไห้

    “เบน ฉันขอโทษ” เขาคร่ำครวญ ชกต้นไม้อย่างบ้าคลั่ง “ฉันขอผิดสัญญาได้ไหม”

    เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วสดใส ลมพัดเย็นสบายราวกำลังเยาะเย้ยเขา ทำไม ทำไม ทำไม เขาถามตัวเองแล้วทรุดตัวนั่งซุกหน้าไว้ระหว่างเข่า

    มินโฮร้องไห้ออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×