ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06:: They're flying (100%)
บทที่6
They're flying
"ไม่ใช่ๆไปทางซ้ายอีกหน่อยสิ!"
โรมิโอว่าพลางชี้นิ้วไปทางซ้าย เพื่อให้สลาฟซึ่งปีนบันไดลิงอยู่แขวนลูกบอลคริสต์มาส(!?)บนต้นสน(??)ได้ดั่งใจเขา
"หา?ตกลงจะเอาตรงไหนกันแน่?"
"อ้า!ไม่สวยเลยเปลี่ยนเป็นตรงนั่นดีกว่า" โรมิโอเปลี่ยนใจเป็บรอบที่10
"จะเอาตรงไหนกันแน่ห๊ะ! นายเปลี่ยนใจมา10รอบแล้วนะ แล้วนี่ประสาทกลับหรือไงอยู่ดีๆก็ใช้ให้มาแต่งหน้าร้านเนี่ย!"
สลาฟพูดอย่างเร็วซึ่งน้ำเสียงนั่น แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เจ้าของร้านคนนี้นี่ทำให้เขาเหนื่อยใจได้ทุกเวลาจริงๆ
"ก็แหม! ก็ผมพึ่งจะรู้สึกว่าข้างนอกมันดูหน้ากลัวกว่าข้างในน่ะ"
"มันน่าจะรู้ได้ตั้งนานแล้วไม่ใช่เรอะ!" สลาฟเอ็ดว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่ทุกอย่างที่อยู่หน้าร้านและบ่นไปด้วยประมาณว่า รูปปั้นยูนิคอนนั่นคอหักแล้วทำไมไม่เอากาวมาติด ใยแมงมุมมีอยู่ทุกที่เลยทำไมไม่ทำความสะอาดซะบ้าง ถ้วยน้ำชาที่แตกแล้วเอามาวางกองไว้หน้าร้านทำไม บลาๆๆๆๆ
"อ้าว!แล้วผมผิดเร้อ~ แล้วอีกอย่างสลาฟต้องเป็นคนมาทำเองไม่ใช่เร้อ~ รู้แล้วยังไม่ทำอีกเร้อ~"
โรมิโอลากเสียงแบบกวนๆ แต่มีเหรอที่สลาฟจะยอม
"ก็...นายไม่ได้สั่งให้ฉันมาทำนี่!"
"นี่มันหน้าที่ของคนใช้นะ คนใช้ต้องรู้เองซี"
"สรุปฉันผิดใช่มั้ย?"
"คร้าบ ถูกต้องเลยคร้าบ"
"ว้อย! อยากจะโดดน้ำตายให้มันรู้แล้วรู้ร...."
"เฮ้!จะยืนเถียงกันไปถึงไหนเนี่ย ฉันยืนหัวโด่อยู่นี่แล้วยังไม่เห็นอีก"
เสียงหนึ่งดังขึ้นมา มันดังมาจากทางประตูรั่ว โรมิโอและสลาฟหยุดเถียงกันและหันไปทางต้นเสียง แต่ที่เจอกลับมีเพียงความว่างเปล่า
"มองลงมาข้างล่างเซ่!"
เจ้าของเสียงพูดขึ้นอีกครั้ง โรมิโอและสลาฟทำตามแล้วทั้งคู้ก็ได้พบกับแมวสีดำพูดได้ตัวหนึ่ง เชสเชอร์นั่นเอง!
ปกติแล้วถ้ามีลูกค้าเดินเข้ามาในร้านสลาฟจะรีบกระวีกระวาดออกไปต้อนรับทันทีไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์(!?) แต่ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นเช่นนั่น เขากลับตะโกนเสียงดังก้องว่า
"แก๊!! นี่ยังกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีกเรอะ!"
"สลาฟ!!"
โรมิโอดุ ก่อนจะหันมาพูดกับเชสเชอร์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ซึ่งปกติแล้วเขาก็ไม่ได้ชอบพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้เช่นเดียวกับสลาฟ
"มาทำอะไรที่นี้?"
"ก็แค่จะมาคุยด้วยหน่อย....เรื่องไอ้เด็ก'เพอร์เพิซลี'กับยัยหนู'แกลรี่'คนนั่น"
"อ้อ!ถ้าเป็นเรื่องนี้ เชิญเข้ามาในร้านก่อนสิคร้าบบ"
ท่าทีของโรมิโอเปลี่ยนกลับเป็นเหมือนเดิมทันที เมื่อเชสเชอร์กล่าวถึงบุคคลสองคนซึ่งต้องหมายถึงควีนและกริชแน่นอน
"เดี๋ยวก่อน!" สลาฟวิ่งมาขว้างเชสเชอร์เอาไว้ก่อนที่มันจะได้เข้าไปในร้าน
"มีอะไรงั้นรึ?" เชสเชอร์ถามเมื่อเห็นสลาฟเข้ามาขว้างทาง
"นาย...คงไม่คิดที่จะกลับไป'ที่นั่น'หรอกใช่มั้ย?"
"ฉันหนีมาจาก'ที่นั่น'นะ ไม่มีทางกลับไปหรอก"
"งั้นก็ดีเพราะ...."
"เพราะถ้าฉันกลับไป'แฮตเตอร์'เขาพร้อมที่จะฆ่าฉันได้ทุกเมื่อใช่มั้ย แหงล่ะก็ตอนนี้เขาเป็น'The Mad Hatter' ไปแล้วนี่"
"รู้ก็ดีแล้ว"
สลาฟกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเปิดทางให้เชสเชอร์เดินเข้าไปในร้านน้ำชา....
ประสบการณ์สุดหวาดเสียวอันดับหนึ่งของกริชคือ การเผชิญหน้ากับตุ๊กตาของพิน๊อคคิโอ ซึ่งทำให้เธอเกือบตาย อันดับสองคือการขึ้นไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกา10รอบ และอันดับสามคือ
"บ้าหรือเปล่าห๊า! อยู่ดีๆก็ลากฉันให้มาขี่หลังแล้วก็กระโดดลงมาจากชั้น6 เกิดฉันพลาดตกลงไปจะทำยังไงห๊า!"
กริชตะโกนเสียงดังใส่ควีนโดยไม่สนว่าคนรอบข้างจะมองเธออย่างไร แต่ก็แน่ล่ะมันต้องมี2ประโยคนี้คือ 'ยัยเด็กนี่บ้าหรือเปล่า?' กับ 'เขาคุยกับใครอยู่น่ะ?'
"อะไรของเธอเนี่ย? แค่นี้ไม่ตายหรอกน้า ฉันทำมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ" ควีนบ่น ส่วนกริชก็ได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
"ว่าแต่...อ่านใบประกาศจับแล้วใช่มั้ย?" ควีนถาม
"เออ...อ่านแล้ว แต่ว่าเขาทำอะไรผิดเหรอ? ปีเตอร์แพนน่ะ...ถ้าแค่เรื่องแหกคุกฉันว่าเขาก็น่าสงสารออก เป็นใครก็ต้องการอิสระกันทั้งนั่นแหละ"
กริชพูด ถึงเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากแต่เธอก็ไม่อยากมาตามจับตามฆ่าคนที่เธอยังไม่รู้จักแบบนี้ แต่กระนั้นควีนกลับบอกว่า
"อย่าไปคิดอะไรตื้นๆแบบนั่นสิ ที่ยุคโจรสลัดหมดไปก้เพราะปีเตอร์แพนนี่แหละ"
"แต่โจรสลัดก็ไม่ใช่คนดีเสียหน่อยนี่" กริชเถียง
"ใครบอก โจรสลัดที่ดีน่ะมีเยอะกว่าพวกที่ไม่ดีเสียอีก ก็แค่พวกที่ไม่ดีมันมีชื่อเสียงกว่าก็เท่านั่นเอง แต่ปีเตอร์แพดันเหมารวมฆ่าพวกบริสุทธิ์ซะหมด เหลือไว้แต่พวกโหดๆให้มันฆ่ากันเอง สุดท้ายก็จบยุคโจรสลัดอย่างอนาถสุดๆ"
ควีนเถียงกลับจนกริชต้องยอมแพ้อีกครั้ง ก็ดันพูดซะไม่มีอะไรให้เถียงเลยนี้หวา
"ว่าแต่...นายรู้ได้ยังไงว่าปีเตอร์แพนจะมาที่นี้?"
กริชถามพร้อมกับชี้ไปที่ป้ายร้านAmazon ซึ่งเป็นร้านที่ควีนพาเธอมายืนตากแดดยามเช้าตั้งแต่ตี5ครึ่ง
"ไม่รู้...เดาเอา" ควีนตอบ(แบบกวนประสาท)
"อะไรกัน!! นายพาฉันออกมาทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนเนี่ยนะ โอ๊ย!จะบ้าตาย"
กริชตบหัวตัวเองไปทีนึง เหมือนกับจะพูดประมาณว่า ทำไมต้องไปเออออตามหมอนี่อยู่เรื่อยเลยนะ
"แล้ว...เถอเคยเห็นรึเปล่าล่ะ ปีเตอร์แพนกับทิงเกอร์เบลล์น่ะ?" ควีนถาม
กริขหลุบตาลงมาก่อนจะตอบว่า "จำไม่ได้"
"เธอนี่มัน...พึ่งไม่ได้เล้ย!" ควีนหันหน้าไปอีกทางพลางเกาหัวอย่างจนปัญญาไปด้วย
"โห!พูดอย่างกับนายพึ่งได้มากงั้นแหละ" กริชย้อน
"เฮ้! จะพูอะไรหัดคิดก่อยซะบ้างสิ ฉันเตือนไปแล้วไงว่าระวังจะคอขาดไม่รู้ตัวน่ะ"
"อ้อเหรอ~ งั้นก็มาหั่นคอฉันเลยซี ถ้าฉันตายไปทั้งคนนายก็คงจะหาตัวพวกเทลส์ได้ลำบากหน่อยล่ะ อีกอย่างนายสัญญาไว้แล้วด้วยว่าจะไม่ให้ฉันตาย แต่ก็เอาเหอะ!"
กริชพูดด้วยสีหน้าของผู้มีชัย ประโยคนี้เล่นเอาควีนถึงกับเถีงไม่ออก เขาบ่นพึมพำกับตัวเองว่า
"เออว่ะ! มุกนี้มันใช้ไม่ได้แล้วนี่หวา"
"ฮึๆๆฉันชนะแล้ว!" กริชพึมพำกับตนเองเหมือนกัน แต่ทว่าบทสนทนาของทั้งคู่ที่อาจจะต้องดำเนินต่อไปจบลง เพราะมีดาบสั้นเล่นหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาทางกริช กริชรู้สึกตัวทันทีว่ามีอะไรบ้างอย่างที่เป็นอันตรายกำลังเข้ามาหาเธอ ดูเหมือนสัญชาตญาณของเทลส์ในตัวเธอจะสามารถรับรู้ถึงการมาของ'พวกเดียวกัน'ได้
กริชพร้อมจะหลบดาบสั้นนั่นได้ทุกเมื่อ แต่กระนั้นขาของเธอกัลบแข็งทื่อขึ้นมาดื้อๆ ขยับไม่ได้ ทำไมล่ะ? นี่รากลัวจนขาแข็งเป็นหินอย่างนี้เลยเหรอ? บ้าเอ๊ย!ขยับเซ่!! กริชคิด ในขณะที่ดาบสั้นพุ่งเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ ไม่ทันแล้ว!!!
ปั้ก!!
"โอ๊ย!!!" กริชอย่างเจ็บปวดเนื่องจากถูกควีนเตะเข้าที่ขาอย่างแรงจนเธอต้องล้มลงไปกองกับพื้น ส่วนดาบสั้น บัดนี้มันอยู่ภายในมือของควีนแล้ว
"ยัยงี่เง่าเอ๊ย! ถ้ารู้ว่ามันจะมา ทำไมไม่ตะโกนเรียกให้ช่วยเล่า! ประสาทสัมผัสของฉันมันไม่ได้ไวเท่าของเธอนะ" ควีนว่ากริชเสียงดัง ชนิดที่ถ้ามีคนอืนได้ยินคงจะต้องไปหาสุ่มไก่มาครอบหัวสักอาทิตย์หนึ่ง
"นาย...รู้ได้ยังไงว่าดาบนั่น..." กริชถามเสียงสั่น แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรอีกควันก็ยกนิ้วอันเรียวยาวของเขามาทาบไว้ที่ริมฝีปาก ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า
"ชู่ว! เงียบหน่อย'พวกมัน'อยู่แถวนี้"
กริชพยายามมองไปรอบๆเพื่อหาคนที่พยายามจะทำร้ายเธอ เธอเองก็รู้สึกได้เช่นกัน 'พวกมัน'กำลังเคลื่อนไหวอยู่และเร็วมาก ราวกับว่า'พวกมัน'กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า
'บินเหรอ?' กริชคิด ในที่สุดเธอก็หาคำตอบได้แล้วว่าทำไมครั้งนี้เธอถึงมองไม่เห็น ก็เพราะว่า'พวกมัน'ไม่ได้อยู่บนพื้นนั่นเอง
กริชแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า แสงอาทิตย์สาดส่องเข้าตาของเธอทำให้เธอเห็นสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าเป็นเพียงแค่เงา แต่...มันก็เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ เงานั่นคือเงาของปีเตอร์แพนและทิงเกอร์เบลล์กำลังบินเป็นวงกลมอยู่ เหมือนกับกำลังสังเกตท่าทีของควีนและกริช
"ควีน บนฟ้าไง!พวกเขากำลังบินอยู่!" กริชตะโกนบอกควีนที่กำงเหลือบตามองไปรอบตัวอยู่
"ฉันมองไม่เห็น!" ควีนบอกหลังจากแหงนหน้ามองขึ้นไป
"แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ถ้ามันรู้ตัว มันจะฆ่าเรานะ!" กริชพูดพลางมองไปบนท้องฟ้าเป็นระยะๆ
"ฉันถึงได้บอกไงว่า...ฉันจำเป็นต้องใช่ความสามารถของเธอ!"
"หา?" ไม่เข้าใจอีกแล้ว ไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง แต่ก่อนที่กริชจะถามอะไรไปมากกว่านี้ ควีนก็โน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูของเธอ
"โทษทีนะ มันจะเจ็บแล้วก็อึดอัดนิดนึงแต่ก็ทนเอาหน่อยแล้วกัน ที่เธอต้องทำก็แค่
'จ้องมองพวกมันเอาไว้' ที่เหลือ...ฉันจัดการเอง"
จากนั้นกริชก็รู้สึกเหมือนโดนต่อยเข้าที่ท้อง ฉับพลันเธอก็รูสึกราวกับว่ากำลังโดนลากลงทะเลหนำซ้ำยังโดนกดลงไปลึกเรื่อยๆๆ ทำให้แรงดันน้ำบีบอัดตัวเธออย่างรุนแรงอยู่
ทรมาน อึดอัด หายไจ...ไม่ออก
กริชพยายามควบคุมสติของตนไว้ไม่ให้มันหลุดลอยหายไป ก็เพราะหน้าที่ของเธอคือ 'จ้องมองพวกมันเอาไว้'นี่ จะให้คลาดสายตาไปได้ยังไงกัน
"ขอบใจนะ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ" ควีนเอ่ยขอบคุณเสียงเรียบ
"มะ...เมื่อกี้นาย..." กริชหงายหลังล้มลงไปนอนแผ่หลากับพื้น ความรู้สึกเมื่อกี้มันอะไรกัน ราวกับว่าพลังบางอย่างมันไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งร่างอย่างนั้นแหละ
ควีนทำมือขยุกขยิกบนอากาศ ทันใดนั่นประกายเพลิงสีฟ้าก็ปรากฎอยู่บนมือของเขาก่อนจะเปลี่ยนรูปไปเป็นไม้กางเขนสีทองอันนั่นของเขา ควีนเอามันมาพาดบ่าไว้ก่อนจะตะโกนเรียกเด็กหนุ่มที่บินอยู่เหนือหัวเขา ตอนนี้เหมือนเขาจะสามารถมองผ่านกลิ่นอายสีขาวได้แล้ว แต่...ความสามารถนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหนเนี่ยสิ
"เฮ้! ไปทำอะไรอยู่บนนั่นล่ะ 'แพน' " ควีนตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
ปีเตอร์แพนหยุดบิน ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตมาทางควีนพร้อมกับเอ่ยเสียงแข็งว่า
"ยมทูต...งั้นเรอะ"
"มงกุฎนั่น แกเป็นคนของ'เพอร์เพิซลี'นี่! แกคือควีน เพอร์เพิซลีใช่มั้ย?" เสียงใสๆดังมาจากข้างๆของปีเตอร์แพน นั่นคงจะเป็นเสียงของทิงเกอร์เบลล์ไม่ผิดแน่!
"อ้อ!นี่รู้จักฉันด้วยงั้นเหรอ ก็ดี...จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแนะนำตัว"
คำของควีนทำให้ปีเตอร์แพนฉุนจัด เขาชักดาบสั้นอีดเล่มของเขาออกมาก่อนจะเอ่ยถามว่า
"แกมองเห็นข้าได้อย่างไร?"
ควันยักไหล่ การแสดงออกด้วยท่าทางแบบนั่นต้องทำให้อีกฝ่ายยิ่งฉุนจัดกว่าเดิมแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั่นจริงๆ ปีเตอร์แพนพุ่งตรงมาทางควีนด้วยความเร็วสูง เขาฟันดาบลงมาที่ศรีษะของควีนแต่ควีนไม่ได้อยู่ตรงนั่นแล้ว เขาเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้ายก่อนจะเหวี่ยงไม้กางเขนอันยักษ์ของเขาลงมาที่ไหล่ของแพน แต่มันกลับโดนแค่ถากๆที่ขาเนื่องจากแพนขยับถอยไปเล็กน้อย
"ไม่เลวนี่" ปีเตอร์แพนสะแหยะยิ้ม
"หึ! ฉันไม่ได้ฝึกมาเพื่อแค่หั่นคอตุ๊กตาของพิน๊อคคิโอหรอกนะ" ควีนเอ่ยบ้าง
"แพน! ยัยเด็กนั่นไง ยัยเด็กนั่นเป็น'แกลรี่'จริงๆด้วย!" ทิงเกอร์เบลล์ร้องออกมาพลางชี้นิ้วไปทางกริชที่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่
" 'แกลรี่' ยังมีคนประเภทนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย ทิง!ไปจัดการยัยนั่นซะเธอเป็นศัตรูของเทลส์!"
ปีเตอร์แพนสั่งแต่ทิงเกอร์เบลล์กลับแย้งเขา
"ทำอย่างนั่นไม่ได้นะ! เธอเองก็เป็นเทลส์......ไม่รู้สิ มันขัดแย้ง...ขัดแย้งมากๆ เธอคนนั่นจะเป็นเทลส์ก็ไม่ใช่ มนุษย์ก็ไม่เชิง"
"แต่ยังไงเธอก็ยังเป็น 'แกลรี่' ไปจัดการเธอซะ!"
ปีเตอร์แพนออกคำสั่งอีกครั้งกับทิงเกอร์เบลล์ ซึ่งเธอก็ยอมทำตามแต่โดยดีแม้ว่าจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับแพนเท่าไร เธอกำลังบินไปทางกริชพร้อมกับ'ขนาดตัว'ที่ใหญ่ขึ้นของเธอ!
"บ้าจริง! หนีไปเร็วๆเซ่! กริช!!!" ควีนคำราม เขาพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่กลับถูกปีเตอร์แพนรั้งไว้ก่อน
"แกต้องเอาชนะข้าให้ได้เสียก่อน จึงจะไปช่วยยัยเด็ก'แกลรี่'นั่นได้" ปีเตอร์แพนพูด
"เอางั้นเรอะ! ก็ได้! แค่5นาทีก็จบแล้ว!"
"อย่าได้ดูถูกฝีมือของข้าเชียวนะเพอร์เพิซลี ต่อจากนี้ไปจะเป็นของจริง!" ปีเตอร์แพนประกาศ
ควีนเหยียดยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้นบ้างว่า
"นายก็อย่ามาดูถูกฝีมือของฉันเหมือนกัน บอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ได้ฝึกมาเพื่อแค่หั่นคอตุ๊กตาของพิน๊อคคิโอน่ะ!"
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนหน้าจะเริ่มบู๊กันแล้วเน้อ ตื่นเต้นจัง ยังไม่เคยลองเขียนบทบู๊มาก่อนเลย
สำหรับตอนนี้ไม่ขอพูดอะไรมากแล้วกันเชสเชอ์จะเริ่มมีบทแล้ว ยังไงก็
ช่วยคอมเมนท์ติชมกันหน่อยเด้อ~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น