ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destined love หล่อนักรักซะเลย

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 มหาวิทยาลัย

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 56


    "ที่นี่เพิ่งเปิดภาคเรียนหรอครับโอนี่ซัง"

                    ฉันหันไปถามโอนี่ซัง วันนี้ฉันถูกเขาปลุกตั้งแต่เช้าแล้วไล่ไปแต่งตัว เห็นเขาบอกว่าจะพาไปมหาวิทยาลัย เวลาเห็นเจ้าตัวเขาใส่ชุดนักศึกษาแล้วดูดีไปอีกแบบนะ ถึงแม้ชุดนักศึกษาเขาจะดูไม่ค่อยถูกระเบียบสักเท่าไหร่  ถ้าจะไม่ติดกระดุมเม็ดบนเยอะขนาดนี้ไม่ถอดเสื้อโชว์กล้ามมาเรียนเลยหล่ะครับโอนี่ซัง

                    "ยังไม่เปิดหรอก "

    “แล้ว โอนี่ซังพาผมมาทำไมอ่ะ”

                    “ก็พามาลงทะเบียนเรียนไงครับ เอกสารที่กรอกไว้จะไม่ส่งมหาวิทยาลัยหรือไง”

                    “เอกสารอะไรหรอกครับ”

                    “ก็เอกสารสมัครเรียนปีหนึ่งไง”

                    หะ สมัครเรียนปีหนึ่งได้ข่าวว่าฉันขึ้นปีสองแล้วนะ แล้วนี่ฉันต้องกลับมาเรียนปีหนึ่งใหม่เนี่ยนะ  ต้องเอาไว้โซแค่ปีเดียวเท่านั้น อ้ากกก อยากจะบ้าตายกลับไปพ่อจะกระโดดเตะวิดนีย์เพื่อนรักเป็นสองท่อนเลยคอยดูเถอะ

                    "ครับ"

                    “แล้วนายเลือกเรียนคณะอะไรเนี่ย”

                    “คณะวิศวะกรรมครับ”

    “หน้าแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะชอบเรียนวิศวะ”

    “อันที่จริงผมก็ไม่ชอบหรอก พอดีผมสอบติดแล้วโอนี่ซังก็สั่งให้ผมไปเรียน”

    "อะไรเรื่องแบบนี้นายต้องเลือกเองสิ"

                    "ไม่รู้สิชีวิตผมผมถูกตีกรอบมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้อยู่ในความดูแลของพี่ชาย เขารักและหวงผมมากจนบางครั้งเขาก็กลัวว่าผมจะเป็นอะไรมากเกินไปจนไม่ยอมปล่อยให้ผมทำอะไรด้วยตัวเองเลย ผมรักเขานะแต่บางทีผมก็อยากมีชีวิตของผม"

                    "นายคิดถูกแล้วหละ ชีวิตนายนายต้องเลือกเองรู้ไหม มาอยู่กับฉันนายจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำก็ได้ที่อยากเป็น นายมีอิสระเต็มที่นะน้องชาย"

                    "โอนี่ซังผมอยากเป็นน้องชายของโอนี่ซังจัง"

                     "ตอนนี้นายก็เป็นน้องชายฉันนิ เออว่าแต่นายเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่หรอวะ"

                    โอนี่ซังหันมามองฉันอย่างสงสัย ซวยแล้วปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่มเลยเขาจะรู้ไหมนะว่าฉันไม่ใช่ซิดนีย์ ถ้าเขารู้แล้วไล่ฉันออกจากบ้านละแย่แล้วจะทำไงดี

                    "ทำไมทำหน้าแบบนั้นหล่ะ หรือว่าาา"

                    "หรือว่าอะไรครับ"

                    "พี่ชายที่นายพูดถึงเป็นคนที่นายแอบชอบแน่เลย ว่าจะถามมาตั้งนานแล้วเป็นเกย์หรือเปล่าฮะ หน้านายเคะมาก"

                    "บ้าหรอ พี่ชายข้างบ้านครับโอนี่ซังคิดอะไรพิเรนทร์แบบนั้น"

                    "ไม่เป็นแน่นะ"

                     "แน่สิครับ ถ้าล้อผมอีกผมจะโกรธแล้วนะ"

                    "ไม่เป็นก็ไม่เป็นรออยู่บนรถแป๊บเดี๋ยวฉันไปเอาของก่อน "

                    โอนี่ซังเปิดประตูรถเดินลงไป ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นเขาเดินไกลออกไปแล้วฉันรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะฉันสื่อสารกับใครไม่ได้เลยมีเขาเป็นเพื่อนแค่คนเดียว ฉันรีบเปิดประตูรถลงไปคว้าแขนเขาเอาไว้

                    "โอนี่ซัง"

                     "ตามมาทำไมบอกให้รออยู่บนรถ"

                    "ผมกลัวนี่นา ผมกลัวโดนโอนี่ซังทิ้ง"

                    "เด็กบ้า ฉันจะไปทิ้งนายได้ยังไง

                    "ผมกลัว"

                    ฉันพูดเสียงสั่น ฉันไม่อยากอยู่คนเดียวจริงๆนะ ตอนแรกฉันคิดว่าโอนี่ซังจะโกรธแต่เขากลับเอามือมากุมมือฉันไว้ มืออีกข้างหนึ่งก็โอบเข้าที่ไหล่ของฉัน

                     "เอ้าจับแน่นๆหละจะได้ไม่หลง "

                    "ครับผม"

                    "นายนี่มัน นี่ฉันเลี้ยงน้องหรือว่าเลี้ยงลูกวะ"

                    โอนี่ซังแล้วเขกหัวฉันเบาๆ เขกหัวฉันอีกแล้วนะคราวนี้ฉันทำอะไรผิดอีกหละ หรือว่าที่จริงเขาแค่อยากเขกเล่นด้วยความหมั่นไส้กันแน่

                    “เออ โอนี่ซังอยู่คณะอะไรหรอครับ”

                    "โชคดีของนายหรือโชคร้ายของฉันว่ะ เราอยู่คณะเดียวกันเลย"

                     "จริงเหรอครับ"ฉันทำตาเป็นประกาย

                      "ล้อเล่นได้โล่ไหมหละ ไปเดินเร็วๆฉันจะรีบไปเอาของจะได้รู้จักเพื่อนฉันด้วย"

                     โอนี่ซังกึ่งลากกึ่งจูงจนมาถึงห้องๆหนึ่งในคณะวิศวกรรม ซึ่งเขาบอกกับฉันว่าเป็นห้องที่พ่อของเขาและพ่อของพวกเพื่อนๆเป็นคนบริจาคเงินสร้าง คิดว่าในมหาวิทยาลัยนี้กลุ่มของพวกเขาคงจะมีอิทธิพลมาพอสมควรไม่อย่างงั้นคงไม่สามารถสร้างห้องส่วนตัวของตัวเองในมหาลัยได้หรอ รู้สึกว่าพ่อของใครสักคนในกลุ่มจะมีหุ้นอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ด้วย กลุ่มเค้าจะไฮโซไปแล้วนะ

                    “นี่เช็คหน้าเช็ดตาซะเดี๋ยวพวกนั้นจะหาว่าฉันแกล้งเด็ก”

                    “ผมไม่ได้เด็กนะ”

                    “คนโตแล้วที่ไหนเค้าร้องไห้กันฮะ”

                    “ไม่ได้ร้องซะหน่อย”

                    “เอ้าไม่ได้ร้องก็ไม่ได้ร้อง ไปเร็วจะยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม”

                    โอนี่ซังเดินนำเข้าไปในห้อง ฉันเลยได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียวก็เพราะใครกันละ ชอบแกล้งเขาอยู่เรื่อยไม่อย่างงั้นก็เข้าห้องไปตั้งนานแล้ว พอฉันเปิดประตูเข้าไปโอนี่ซังแนะนำฉันให้รู้จักกับเหล่าเพื่อนๆของเขาทันที

                        "พวกนายนี่ซิดนีย์ น้องชายฉันเอง"
    
                        "น่ารักจังเลยอ่ะ พี่ชื่อพายนะคะสุดหล่อ"
                        พี่สาวคนสวยถลาเข้ามากอดฉัน เธอดูตัวเล็กกว่าฉันซะอีกฉันว่าเธอน่ารักมากเลยหละเหมือนพวกตุ๊กตาเลย ท่าทางดูจะใจดีด้วย เขากอดฉันไม่ยอมปล่อยเลยละจนโอเน่ซังต้องมาดึงตัวฉันออกไปแล้วหันไปซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ ฉันอยากจะบอกทั้งสองคนเหลือเกินว่าเลิกกระซิบเถอะยังไงฉันก็ฟังไม่ออกอยู่ดีอ่ะ
    
                        "ถอยไปไกลๆเลยพาย น้องชายฉันไม่ชอบคนแก่ที่สำคัญมันไม่ชอบผู้หญิงด้วย"
    
                        "อะไรเป็นเกย์หรอ เสียดายซะมัด"
    
                        "โอนี่ซังคุยอะไรกันทำไมมองผมแปลกๆใส่ร้ายอะไรผมหรือเปล่า"ฉันสะกิดถามโอนี่ซัง คอยดูนะฉันจะต้องรีบไปเรียนภาษาไทยให้รู้เรื่อง จะได้ไม่ต้องโดนโอนี่ซังแกล้ง
    
                        "ไม่มีอะไร ไม่ต้องมาทำหน้าไม่เชื่อเลยเดี๋ยวเถอะ"
                        โอนีซังคุยอะไรสักอย่างกับพวกเพื่อนเขา สงสัยคงบอกว่าฉันพูดไทยไม่ได้พวกเขาก็เลยพูดภาษาอังกฤษใส่ฉัน จะมีก็แค่ตอนที่พวกพี่เขาอยากจะแซวหรือนินทานั่นแหละถึงจะพูดภาษาไทย แถมพี่คัมภีร์ยังบอกอีกว่าถ้าอยากรู้ก็ต้องไปเรียนภาษาไทยเอาเอง
    
                        "รีบพามาเปิดตัวหรอวะ วันนี้ยังไม่เปิดเรียนนิ"
    
                        พี่คัมภีร์ถาม ตามความเข้าใจของพวกพี่เขาเขาต้องคิดว่าฉันกับโอนี่ซังเป็นพวกบราค่อนแน่เลย ไม่ถงไม่ถามฉันสักคำ
    
                        "ใช่ที่ไหนเล่า ฉันพาน้องมันมายื่นเอกสารแล้วจะพาไปหาที่เรียนภาษาไทยด้วย ก็เห็นอยู่ว่าเด็กนี่พูดไทยไม่ได้"
    
                        "พูดมาเป็นชุดเลยนี่แก้ตัวป่ะเนี่ย"
                        “แก้ตัวบ้านแกดิพาย ล้อนักเดี๋ยวพ่อก็แช่งให้เลิกกับไอ้วินเทอร์เลย”
                        “ปากหรอแก จีบน้องมันไม่ได้เพราะน้องมันเป็นผู้ชาย แล้วเอาความแค้นมาลงกับความรักของฉันกับวินเทอร์ทำไมย่ะ”
                        “ทะเลากันอยู่ได้ไม่สงสารน้องหรือไง ดูดินั่งมองตาแป๋วแต่ฟังไม่รู้เรื่อง”
                        “ฉันเห็นด้วยกับไอ้ออกัสนะ เออเห็นว่าจะให้ซิดนีย์เรียนภาษาไทยทำไมนายไม่สอนน้องมันเองเลยหล่ะ นายก็พูดญี่ปุ่นได้นิ”
                        “ไม่เอา ขี้เกียจสอน”
                        “ขี้เกียจสอนหรือกลัวเคลิ้มกันหน้าหวานๆของซิดนีย์กันจ๊ะ”
    
                        พี่พายส่งยิ้มล้อเลียนมาทางฉัน รู้ทั้งรู้ว่าฟังไม่ออกก็ยังแกล้งกันอีก ถึงจะไม่รู้ว่าพูดอะไรกันแต่ดูจากอาการหน้าขึ้นสีของโอนี่ซัง และรอยยิ้มของพี่พาย พวกพี่เขาคงยังไม่เลิกแซวแล้วคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน
    
                        "ไอ้พวกโรคจิตฉันไม่คุยกับพวกแกแล้ว ดีนะที่น้องมันฟังไม่ออก ไม่งั้นเดี๋ยวน้องมันไม่กล้าเข้าใกล้ฉันพอดี"
    
                        "เป็นห่วงกันด้วย ฮิ้วววว"
    
                        "นี่ยังไม่เลิกกันใช่ไหม"
                        “ไม่มีวัน แกจะอายทำไมวะยังไงเด็กนี่ก็ฟังไม่ออกอยู่แล้ว”
                        “ถ้าฟังออกแล้วแกจะเลิกล้อไหม”
                        “เลิกสิ เดี๋ยวน้องเค้าอายฉันให้เกียรติเด็ก สตรี และเคะนะโว้ย”
                        “ไอ้คัมภีร์ อยากตายรึไงว่ะ ไอ้พวกเพื่อนเลววววว”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×