ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destined love หล่อนักรักซะเลย

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 น้องชายตัวปลอม

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 56


    บทที่ 2

    http://www.bishin.jp/shokuhinn/rjgj014.files/gj014-1.jpg

     

                    “รอตรงนี้ก่อนนะครับคุณหนูเดี๋ยวผมจะไปติดต่อลูกพี่ลูกน้องของคุณหนูซิดนีย์ให้”

                    ฉันพยักหน้ารับคำ ทซึกิวางกระเป๋าเดินทางแล้วมองไปทางฝูงชน คาดว่าเขาคงกำลังมองหาลูกพี่ลูกน้องที่ว่านี่ สายตาทซึกิไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายท่าทางแปลกๆเท่านั้นแหละเขาก็รีบวิ่งตามไปเลย ก็แค่ลูกพี่ลูกน้องซิดนีย์ทำไมเขาต้องทำท่าลุกลี้ลุกลนรีบตามไป ถ้าจะบอกว่ากลัวคลาดกันก็ไม่น่าใช่เบอร์โทรอีกฝ่ายทซึกิก็มีถ้างั้นแล้วเขาจะรีบตามไปทำไมกันหล่ะ

                    ฉันนั่งมองทซึกิหายไปกับฝูงชน อดคิดเล่นๆไม่ได้ว่าถ้าหมอนี่เกิดหายตัวไปไม่กลับมาแล้วฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยยังไง คงจะเป็นชีวิตที่สนุกสนานพิกลเพราะฉันแทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยถ้าไม่ได้ทซึกิคอยตามดูแลบวกแปลภาษาไทยให้มันคงไม่ต่างอะไรกับการที่ตัวฉันติดเกาะ

                    อ้ากกก นี่ผ่านไปเกือบชั่วโมงฉันก็เริ่มนั่งไม่ติดละ อีตาทซึกิไปไหนของเขานะแค่เดินตามคนไปมันจะใช้เวลาเป็นชาติเลยหรือไง ใช้ไม่ได้เลยคอยดูนะจะบอกให้ไอ้ซิดตัดเงินเดินให้เข็ด คนยิ่งไม่อยากอยู่คนเดียวด้วยไม่ใช่อะไรหรอกเมื่อกี้ฉันรู้สึกว่ามีผู้ชายท่าทางแปลกมองฉันอยู่และเขาก็มองฉันมาตั้งนานแล้วด้วย พวกโรคจิตหรือเปล่านะไม่ได้การหละในเมื่อทซึกิไม่กลับมาฉันคงต้องรีบหาทางเอาตัวรอดแล้วหละ ฉันรีบโกยอ้าวออกจากตรงนั้น ผู้ชายที่มองอยู่ทำท่าทางตกใจแล้วรีบวิ่งตามฉันมา แง้ๆทซึกิมาช่วยเค้าเดี๋ยวนี้นะเค้าจะถูกข้าหมกศพอยู่แล้วเมื่อกี้ที่ว่านายเค้าขอโทดดดด

    “เฮ้ นายนายได้ยินฉันหรือเปล่า หยุดก่อน”

                    ผู้ชายท่าทางแปลกๆคนนั้นวิ่งตามฉันมาแล้ว ทำไงดีเขาคงไม่คิดจะจับตัวฉันไปขายใช่ไหม แล้วถ้าใช่จะทำยังไงดีหล่ะ โอ๊ยอีตาทซึกิหายไปไหนนะกะจะลอยแพทิ้งฉันหรือไง อีตาบ้าที่วิ่งตามมาก็วิ่งเร็วซะมัดยังไม่ทันจะหาทางหนีทีไล่ผู้ชายคนนั้นก็เข้าประชิดตัวฉันแล้ว มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือฉัน

                    ฉันพยายามแกะมือเขาออกจากข้อแขนตัวเอง แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอกับชายตาคมกริบของคนตรงหน้าฉันเลยต้องยื่นนิ่งให้เขามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ง่าหน้าตาก็ดีนายคงไม่ใช่พวกโรคจิตชอบจับผู้หยิงไปทำมิดีมิร้ายหรอกนะ

                    “บอกให้หยุดไม่ได้ยินหรอ”

                    เขาถามอะไรอ่ะฉันฟังไม่ออก เพราะไอ้บ้าซิดนีย์คนเดียวแท้ๆที่ถีบส่งฉันมาประเทศไทยทั้งๆที่ฉันไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศไทยสักอย่าง อย่าว่าแต่วัฒนธรรมไทยเลยแค่ภาษาไทยฉันก็พูดหรือฟังไม่ได้เลยสักนิด

                    “ถามทำไมไม่ตอบ เป็นใบ้หรือไงฮ้า”

    อ่า เขาทำท่าโมโหแล้วอ่ะทำไงดีทำไงดี  อ้อภาษาไทยเวลาทักทายกันเขาต้องพูดคำว่าสวัสดีใช่ไหม

    “เออ.. เออ สวัสดีคะ”

    “พูดได้ก็ไม่ยอมพูดบ้าหรือเปล่า”

                    “ผมฟังนายพูดไม่รู้เรื่อง ผมฟังภาษาไทยไม่ออก” ฉันตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษ พยายามทำหน้าตาน่าสงสารที่สุดเพื่อหมอนี่จะเปลี่ยนใจไม่ฆ่าฉัน

                    “พูดไทยไม่ได้”

                    ฉันพยักหน้าหงึกหงัก นี่ยังดีนะที่เขาพูดภาษาอังกฤษได้ไม่อย่างงั้นฉันคงต้องนอนรอทซึกิกลับมารับที่สนามบินแน่เลย หลังจากคุยกันไปพักหนึ่งฉันก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ชื่อโซนิกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับซิดนีย์แถมยังพูดภาษาญี่ปุ่นได้ฉันก็เลยสื่อสารกับเขาด้วยภาษาญี่ปุ่น

                    “เมื่อกี้พูดว่าอะไรหรอ”

                    ฉันถามตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถสุดหรูของพี่ชาย ตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะน้องชายกำมะลอของเขาสินะจะทำยังไงให้เขาจับไม่ได้นะหมอนั่นยิ่งดูฉลาดล้ำเกินมนุษย์อยู่

                    “ก็แค่พยายามบอกให้นายหยุดวิ่ง ตอนแรกฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไรหรอกว่านายคือซิดนีย์เออไม่ยักรู้ว่านายพุดไทยไม่ได้เห็นตอนเด็กๆพูดออกจะคล่อง”

                    “นั่นมันนานมาแล้วนะ ใครจะไปจำได้กันเล่า”

                    “จำไม่ได้ถึงขนาดว่าผู้ชายเวลาพูดต้องลงท้ายด้วยคำว่าครับไม่ใช่คะ”

    “ง่า ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่นา”

    “จะว่าไปนายนี่พอโตแล้วนายเปลี่ยนไปเลยนะ แต่ก่อนหน้าออกจะคมเข้มมากกว่านี้ทำไมตอนนี้ออกไปทางหน้าหวานซะงั้น”

    “แล้วนายจะมาวิจารณ์หน้าผมทำไมเล่า”

    ฉันแหวใส่ โซนิกไม่ได้พูดอะไรแต่เอามือมาเขกหัวฉันแทน เขกหัวเขาทำไมอ่ะมันเจ็บนะไอ้พี่ชายจอมโหดเอ่ยฉันทำอะไรไม่ได้ได้แต่มองค้อนใส่คนใจร้าย ยังไงตอนนี้เขาก็เป็นผู้ปกครองฉันนี่นา

    “ไม่ต้องมามองตาค้อนเลย ฉันเป็นพี่ชายนายต่อไปหัดเรียกฉันว่าพี่ซะนะ”

    “เรียกโอนี่ซังละกัน”

    “โอนี่ซังงั้นหรอ”

    “ก็ฉันออกเสียงคำว่าพี่ชายไม่ได้นิ ถึงเรียกได้สำเนียงฉันมันคงทุเรศมาก”

    “เห้ออ ช่างเหอะเอาไว้จะสอนพูดภาษาไทย ตอนนั้นถ้าพูดได้แล้วไม่ยอมเรียกพี่หล่ะน่าดู”

    “ขู่อยู่นั่นแหละ โอนี่ซังเป็นยากูซ่าหรือไงกัน”

    ป๊อกก

    “โอ๊ย เจ็บนะ”

    ฉันลูบหัวตังเองปอยๆโดนเขกหัวมาเป็นรอบที่สองของวันแล้วนะ คอยดูเถอะมีโอกาสเมื่อไหร่ฉันจะเอาคืนโอนี่ซังตัวแสบให้สาสมเลย

    “ถ้าฉันเป็นยากูซ่านายคิดว่าตัวเองจะได้มานั่งต่อล้อต่อเถียงฉันอยู่บนรถแบบนี้หรือไง  นายนี่พูดมากเป็นบ้าเลยรู้งี้ฉันไม่รับปากว่าจะดูแลนายหรอก”

    “โอนี่ซังพูดมากกว่าฉันอีกนะ”ฉันบ่นอุบอิบ

    “อยากโดนอีกสักทีไหม”

    โอนี่ซังกำมือขึ้นเตรียมจะเขกหัวฉัน ฉันเลยแกล้งหลับตาปี้ทำท่าจะนอนเพื่อให้เขาหันไปสนใจการขับรถต่อ แต่ว่าตาของฉันก็แอบหลี่มองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังขับรถอยู่ หน้าตาก็ดีทำไมใจร้ายจังนะ

    “หลับไปเลย เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุก”

    โอนี่ซังขับรถไปเรื่อยๆ ฉันเองจากที่ตอนแรกแกล้งหลับก็กลายเป็นว่าหลับไปเสียจริงรู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มมาจนจะถึงห้องอยู่แล้ว ฉันอดโมโหตัวเองที่หลับอุตุไม่รู้เรื่องไม่ได้นี่ถ้าไม่ใช่เขาป่านนี้ฉันไม่โดนพาตัวไปขายมาเลย์แล้วหรือไง

    “ทำหน้างออะไรอีกหละ เห็นว่าเพิ่งลงจากเครื่องหรอกนะ ไม่งั้นไม่อุ้มนายหรอตัวเล็กแบบนี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าตัวนักเป็นบ้าเลย”

    “โอนี่ซังใจร้าย ปล่อยเลยนะ”

    “ปล่อยอยู่แล้ว”

    โอนี่ซังย่อตัวให้ฉันลงยืนบนพื้น เขาควานหาคีย์การ์ดจากในกระเป๋ามาเปิดประตูห้อง แล้วหยิบการ์ดอีกใบหนึ่งส่งให้ฉันเพื่อเวลาที่เราเข้าห้องไม่พร้อมกัน

    “นี่ห้องของฉัน แล้วต่อไปนี้ก็จะเป็นห้องของนายด้วยทำตัวตามสบายไม่ต้องเกรงใจ”

    “เออ โอนี่ซังครับแล้วห้องนอนผมละ”

    “ก็นอนห้องเดียวกับฉันนี่แหละ ทำไมปัญหาหรือไง”

    “มีสิ”

    “ไหนพูดมาสิว่ามีปัญหาอะไร”

    “ผมนอนดิ้นนะ ผมกลัวจะเบียดโอนี่ซัง”

    “อ้อถ้าเรื่องนั่นหน่ะฉันก็นอนดิ้น ไม่เห็นเป็นไรเลยเราก็พลัดกันถีบอีกฝ่ายตกเตียงก็แค่นั้นแหละ แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้านายดิ้นมาฉันก็ไม่นอนเฉยๆให้นายเตะหรอก”

    “โอนี่ซังผมว่า”

    “ไม่ต้องเถียงเลยไปเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ไป เออแล้วนายทำอาหารเป็นหรือเปล่า”

    “เป็น”

    เป็นซะที่ไหนหล่ะคะ แต่ถ้าฉันตอบว่าไม่ต้องโดนโอนี่ซังดุอีกแน่เลย ยังไงก็ตอบส่งๆว่าทำได้ไปก่อนแล้วกันโอนี่ซังคงไม่บ้าจี้อยากลองกินฝีมือฉันหรอก

    “เป็นก็ดีแล้ว ช่วยทำอะไรให้กินหน่อยสิฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน”

    “เดี๋ยวสิครับโอนี่ซังผมขออาบก่อนได้ไหม”

    “อาบน้ำก่อนแล้วไปทำกับข้าวเดี๋ยวก็ตัวเหม็นกลิ่นกับข้าวหรอก ไปทำกับข้าวให้ฉันกินก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำ”

    “โอนี่ซังครับ”

     “ไม่ต้องมาต่อรอง ไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้”

    “ครับ”

    ฉันเดินคอตกมาที่ห้องครัว หัวสมองพยายามขุดความรู้เรื่องการทำอาหารที่เคยเรียนสมัยมัธยม ใช่แล้วทำเทมปุระไง ก็แค่เอากุ้งตัวโตๆชุบแป้งแล้วโยนลงกระทะก็น่าจะใช้ได้แล้ว(มั้ง) ความนี้แหละโอนี่วังจะต้องชมว่าฉันทำอาหารอร่อย คิดได้ดังนั้นฉันก็ไปหาอุปกรณ์ในตู้เย็นในตัวเย็นมีของสดเต็มเลยแสดงว่าโอนี่ซังคงจะทำอาหารเก่งใช่ย่อย แล้วเขามาฝากท้องกับเด็กอย่างฉันทำไมนะ

    ฉันเอากุ้งไปล้างทำไมกุ้งมันมีหัวด้วยหล่ะ ตอนที่อยู่ญี่ปุ่นตอนแม่ครัวเอามาให้ก็มีแต่หางนี่นาหรือว่ากุ้งไทยกับกุ้งญี่ปุ่นจะไม่เหมือนกัน งั้นก็เอาลงกระทะไปทั้งตัวเลยแล้วกัน ฉันจัดการนำกุ้งไปชุบแป้งเตรียมจะทอดอ่าอันไหนแป้งข้าวเจ้าอันไหนแป้งสาลีนะ ฉันอ่านภาษาไทยไม่ออกภาษาอังกฤษก็ดันไม่มีกำกับไว้ด้วย ผสมๆไปเถอะเนอะยังไงก็แป้งเหมือนกัน

    ตอนนี้ก็ถึงเวลาตั้งกระทะให้น้ำมันเดือด แล้วมันต้องเดือดขนาดไหนอ่ะใช่แล้วมันต้องรอให้มีฟองปุดๆขึ้นมาถึงจะเรียกว่าเดือดเหมือนเซ็นเชจะเคยสอนไว้ ฉันจัดการโยนกุ้งใส่กระทะ

                    “กรี้ดดดดด”

                    ฉันกระโดดถอยหลังแล้วเอาแขนบังหน้าตัวเองไว้ น้ำมันร้อนๆยังคงกระเด็นไม่หยุดนี่ฉันทำอะไรผิดไปอ่ะ

                    “เกิดอะไรขึ้น”

                    โอนี่ซังรีบวิ่งออกจากห้องน้ำมาดูฉัน สงสัยเขาคงรีบมากเพราะแม้แต่เสื้อผ้าเขาก็ยังไม่ใช่ให้เรียบร้อยเลย อร้ากกกจะบ้าตายเขาหุ่นดีซะมัด นี่ฉันไม่ได้หื่นเลยนะแต่เห็นผู้ชายเดินเปลือยท่อนบนมาก็ต้องมองนิดนึง

    นิดนึงจริงๆนะ

                    “นี่เป็นอะไรมากหรือเปล่ายืนนิ่งอยู่นั่นแหละ”

                    “เออ ผมตกใจหน่ะครับ”

                    “ทำอะไรไม่รู้จักระวังมันน่าไหมหะ ทำไม่เป็นทำไมไม่บอก”

                    “ก็มันคุ้นๆเหมือนเคยเรียน ก็เลยคิดว่าจะทำได้อ่ะ”

                    “นี่ที่บ้านคงจะเลี้ยงแบบคุณหนูสินะ”

                    “เปล่าสักหน่อย”

                    “งั้นทำอะไรเป็นบ้าง”

                    “อืมมมมม”

                    “เวรกรรม นี่ฉันต้องเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กอนุบาลหรือไงฟร่ะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×