ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destined love หล่อนักรักซะเลย

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ไอ้เพื่อนทรยศ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 56


    แสงแดดยามเช้าสาดเข้ามาในหน้าต่างกลิ่นหอมของดอกไม้อบอวนไปรอบห้อง  ร่างสูงโปร่งกำลังนั่งจิบน้ำชายามเช้าและนั่งเล่นไอเพดอย่างสบายอารมณ์  โดยลืมนัดสำคัญของเพื่อนสนิทอย่างสิ้นเชิง

    ~Today I don't feel like doing anything I just wanna lay in my bed ~
    ใครช่างโทรมากวนอารมณ์สุนทรีย์ของฉันเนี่ย กำลังจะได้ฟีลลิ่งแล้วแท้ๆ
                        “ฮัลโหล
                        (นี่แกอยู่ไหนฮะ)
                        “นึกว่าใครที่แท้ก็แกนี่เอง ฉันก็อยู่บ้านฉันสิคะคุณซิดนีย์แกจะให้ฉันอยู่ในรูหรือไง
                        (แกยังไม่ออกจากบ้านอีกหรอ)
                        “ออกไปไหน
                        (อย่าบอกนะว่าแกลืม)
                        “โทษที ฉันลืมJ
                        (งั้นก็รีบไสหัวแกมาให้ถึงสนามบินเซเรทก่อน8โมง ไม่งั้นฉันจะตามไปจิกหัวแกถึงบ้านเลย )
                        “ง่า เดี๋ยวนี้เลยหรอ
    7.59 น.
                        ณ ห้องรับรองสนามบินเซเรท ฉันรีบวิ่งลงจากรถวอลโว่ของตัวเอง กว่าจะหลบสายตาบอดี้การ์ดนับร้อยมาได้แทบจะเอาตัวไม่รอด เชื่อสิเมื่อวานยูกิซังต้องฟ้องเชนี่ซังแหงๆ ไม่งั้นเชนี่ซังไม่บ้าจี้ส่งบอดี้การ์ดตามดูฉันเป็นโขยงหรอก ยูกิซังนะยูกิซังฝากไว้ก่อนเถอะ            
                        “แฮ่กๆๆๆ ยังไม่สายนะเว้ย”
                        =.=” ช่างกล้าพูดนะ”
                        “เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะตกลงแกเรียกฉันมาทำเพื่อ”
                        “จำได้ไหมที่เมื่อวานฉันบอกว่ามีเรื่องอยากให้แกช่วยอ่ะ คราวนี้มันถึงเวลาที่แกจะต้องตอบแทนบุญคุณฉันแล้วหล่ะ”
                        “อ่าฮะจะให้ช่วยอะไรก็ว่ามาเลยคะ”
                        “คือก็แม่ฉันหนะสิคิดอะไรไม่รู้อยู่ๆก็จะส่งฉันไปเรียนที่ไทยแล้วให้ฉันไปพักอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง แกช่วยไปเรียนที่ไทยแทนหน่อยดิ แค่ปีเดียวเองนะ”
                        “โถ่คิดว่าเรื่องไร ห้าไอ้บ้าแกพูดใหม่อีกทีสิ”
                        “ไปเรียนแทนหน่อยนะครับคนสวย”
                        “ตอนกลางเทอมเนี่ยนะ  แล้วแกจะให้ฉันไปเรียนแทนแกยังไงฉันเป็นผู้หญิงแกเป็นผู้ชายถึงแม้หน้าเราจะคล้ายกันแต่คนทางนู่นก็ต้องรู้อยู่ดี หรือแกจะให้ฉันบอกพวกเขาว่าแกไปแปลงเพศมา”
                        “น่าเกลียด อย่าเชียวนะเรื่องนั่นฉันมีทางออกอยู่แล้ว แกก็แค่ตัดผมทรงเดียวกับฉันแล้วก็ทำตัวให้เหมือนผู้ชายซึ่งไอ้ทำตัวเหมือนผู้ชายแกก็เหมือนอยู่แล้ว เห็นไหมไม่เห็นยากเลย”
                        “แล้วทางนั่นเค้าจะไม่รู้หรอว่าฉันไม่ใช่แก ไอ้ซิดช่วยมันก็อยากจะช่วยอ่ะนะแต่แกจะบ้าหรอที่อยู่จะให้ฉันเป็นแก
                        “ใจร้าย แกมันคนไม่รักษาสัญญาฉันไม่น่ามีเพื่อนแบบแกเลย
                        “อย่ามาดราม่า แกจะให้ฉันทำยังไงไหนจะเรื่องเชนี่ซังอีก
                        “เชนี่ซังของแกไม่ว่าหรอกหน่าทำอย่างนี้ดีสุดแล้ว
                        “เชนี่ซังไม่ว่าอะไร ไปบอกเด็กอนุบาลยังไม่เชื่อเลย”
                        “ลองโทรไปถามดูสิ ถ้าไม่เชื่ออ่ะ”
                        ได้ในเมื่อมันกล้าท้าฉันก็กล้าสนองโทรหาคุณพี่ชายหน่อยจะเป็นยังไง 
                        “โมชิ โมชิ เชนี่ซังนี่เห็นซิดนีย์บอกว่าจะอนุญาตให้โซไปอยู่ประเทศไทยหรอ”
                        (ก็เห็นมันบอกว่าโซอยากไปนิ ถ้าโซอยากไปพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร)
                        “ว่าแล้วว่าเชนี่ซังต้องให้ เฮ้ยเชนี่ชังพูดจริงอะไรจริงอ่ะเรื่องที่จะให้ฉันไปอยู่ประเทศไทยอ่ะ”
                        (พี่เคยโกหกโซหรอ)
                        “ไม่จริงอ่ะ เชนี่ซังป่วยหรือป่าวคะ”
                        (พี่ไม่ได้ป่วย แค่นี้นะโซดูและตัวเองด้วยพี่รักโซมากนะ รักมากจริงๆ)
                        “เดี๋ยวสิคะ เฮ้”
                        วางไปซะแล้วอ่ะ ไอ้ซิดนีย์ที่แอบฟังมาตั้งแต่ต้นยิ้มอย่างผู้มีชัย เหอะทำไมพี่ชายฉันยอมง่ายจังอ่ะ มันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้
                        “เฮอะ แล้วแกจะให้ฉันไปเมื่อไหร่ย่ะจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ”
                        “พอถึงเก้าโมงแล้วไปขึ้นเครื่องซะ”
                        “เยี่ยม ขอบคุณนะที่อุตส่าห์เหลือเวลาเตรียมตัวให้ตั้งหนึ่งชั่วโมง”
                        “ไม่เป็นไร”
                        “ไอ้บ้า ฉันประชดโว้ย”
                        “โอ้ๆๆ อย่างอนสิเพื่อนรัก แกไม่ต้องเตรียมตัวอะไรหรอกฉันเตรียมทุกอย่างให้พร้อมแล้ว ทั้งเสื้อผ้าและก็ของใช้ทุกอย่างที่จำเป็น แกไม่ต้องเตรียมอะไรหรอ”
                        “แต่ฉันยังไม่ได้เตรียมใจนิ”
                        “ไม่ต้องตรงไม่ต้องเตรียมมันแล้วไปขึ้นเครื่องไป”
                        “แล้วผมฉันละ”
                        “อ่ะเกือบลืม ทซึกิช่างตัดผมที่สั่งให้ไปตามมายัง”
                        “มาแล้วครับ”
                        “เรียกเข้ามาเลย”
    แอร้ดดดดดดด 
                        “สวัสดีครับคุณหนูซิดนีย์  มีอะไรให้ผมรับใช้หรอครับ”
                        “สวัสดี นายช่วยทำยังไงก็ได้ให้ยัยเนี่ยดูคล้ายฉันมากที่สุดในเวลาครึ่งชั่วโมง นายทำได้ไหมใช่ไหม”
                        “แน่นอนครับ”
                        “ส่วนเรื่องราคา ติดต่อกับทซึกิแล้วกัน”
                        “แกพูดเหมือนแกจะไปไหน”
                        “ไปธุระซิวะ”
                        “ธุระอะไรของแก อย่าบอกนะธุระกับแม่นางแบบสาวร่างซะบึ้มที่ควงอยู่”
                        “อ่าฮะช่างเป็นเพื่อนที่รู้ใจจริงๆ”
                        “แกให้ฉันมาทำอะไรบ้าบอนี่ในขณะที่เคยไปเริงร่ากับสาวเนี่ยนะ ไอ้เพื่อนเนรคุณ”
                        “หยุดคำด่าของแกไว้เท่านั่น ฉันขี้เกียจฟังไปดีกว่าโชคดีนะเพื่อนรัก อ่อลืมบอกไปอย่างนึงฉันจะส่ง        ทซึกิไปดูแลแกอยากได้อะไรก็บอกเคนละกัน บ้ายบาย”
                        “คอยดูนะไอ้เพื่อนบ้า ฉันอย่าให้ถึงทีฉันบ้าง”
                        หลับหลังร่างซิดนีย์ ฉันก็ได้แต่กระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว ช่างทำผมก็เริ่มละเลงหัวฉันอย่างเมามัน ตรงโน้นทีตรงนี้ทีแถมยังเปลี่ยนสีผมให้ฉันด้วย เฮ้อถ้ามันจะนานขนาดนี้หลับรอดีกว่า              
                        “เสร็จแล้วครับ”
                        “ขอบใจมากค่ะ”
    
                        “เออ ทำไมคุณหนูยังไม่ลืมตาอีกละครับ”
                        “ฉันยังไม่อยากมองตัวเองในกระจกอ่ะ ทซึกินายว่าฉันเป็นไงบ้าง”
                        “ดูเหมือนคุณหนูซิดนีย์มากเลยครับ นี่ถ้าผมไม่รู้มาก่อนผมต้องคิดว่าคุณหนูโซเป็นคนเดียวกับคุณหนูซิดนีย์แน่เลย”
                        “อี้ เหมือนมากขนาดเลยหรอ”
                        “ไม่หรอกครับ ต่างกันตรงที่คุณหนูดูน่ารักกว่า”
                        “พูดอย่างงี้ค่อยกล้าลืมตาดูหน่อย”
                        พอฉันมองเข้าไปในกระจก ผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งก็หันมายิ้มให้ฉัน ผมสีดำสนิททำให้เจ้าของเรือนผมดูมีเสน่ห์ลึกลับ ดวงตากลมโตสีดำกำลังมองมาทางฉัน  นี่มันไอ้บ้าซิดนีย์ชัดๆเลย
                        “ชิ เหมือนเจ้าบ้านั่นซะมัด”
                        “ได้เวลาแล้วครับไปขึ้นเครื่องกันเถอะ คุณหนูซิดนีย์เตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้ให้แล้ว”
                        “หมอนี่ก็เวอร์ได้ตลอดจริงๆเลย อ่ะทซึกิช่วยไรฉันหน่อยสิ”
                        ฉันยิ้มด้วยกรุ่มกริ่มแบบมีแผนในใจเมื่อมองไปเห็นไอเพดของเซียที่ลอกอินเฟชบุ๊คเอาไว้  หึหึไอ้เซียแกทำฉันไว้ก่อนนะ
                        “มาใกล้หน่อย”               
                        “ยิ้มแบบนั่น คุณหนูมีแผนอะไรครับ”
                        “เถอะหน่า”
                        ทซึกิยอมเดินเข้ามาใกล้ๆ ฉันซวยโอกาสนั่นใช้ไอเพดถ่ายในมุมกล้องที่ดูเหมือนว่าฉันหอมแก้มเค้า
    แชะ แชะ
                        “คุณหนูทำอะไรหนะครับ”ทซึกิหันมองหน้าฉันอย่างตกใจ ใบหน้าเค้าแดงก่ำ เดาว่าไม่โกรธฉันก็คงเขินละมั่ง
                        “อิอิ ก็แก้แค้นไอ้เพื่อนเนรคุณนั่นไง  อ่ะอัพโหลดเสร็จแล้ว”
                        ฉันหยิบไอเพดที่มีรูปภาพฉัน(ในคราบซิดนีย์)จุ๊บแก้มทซึกิอยู่ แล้วกดคอมเม้นไปว่า”แฟนใหม่ผมน่ารักไหมครับ”
                        “คุณหนูเลิกเล่นได้แล้วครับถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว”
                        “ฉันหมดห่วงแล้ว ไปกันเถอะ”
    
                        “คุณหนูหมดห่วงแต่คุณหนูเพิ่มห่วงให้ผมหนะสิครับ ถ้าคุณหนูซิดนีย์เห็นเล่นงานผมตายแน่”
                        “พนันได้เลยว่าอีกไม่ถึง 10 นาทีมันจะโทรมาหานาย”
                        “ฉะนั้นเอาโทรศัพท์มานี่”ทซึกิส่งโทรศัพท์ให้ฉันอย่างงงฉันกดปิดเครื่องแล้วถอดซิมออก แล้วโยนไปที่ถังขยะ
                        “แค่นี้มันก็ติดต่อนายไม่ได้แล้ว หาเบอร์มาเปลี่ยนใหม่เองละกันนะ”
                        “คุณหนูใจร้ายแล้วผมจะติดต่อกับคนอื่นยังไงL
                        ทซึกิบ่นฉันมาตลอดทางเดินจนถึงรันเวย์ แต่ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินท่าทางเค้าจะหัวเสียน่าดูที่ฉันหักซิมเค้า เฮ้อแต่นึกแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะที่อยู่ต้องจากอเมริกาไปไทยหนะ หวังว่าลูกพี่ลูกน้องซิดนีย์ของจะเป็นคนน่ารักนะ เอะแต่จะว่าไปฉันเพิ่งได้คำทำนายว่าจะเจอเนื้อคู่ถ้าได้เดินทางไกล ไปต่างประเทศนิคือเดินทางไกลหรือเปล่านะ
                        ทางด้านซิดนีย์ สาเหตุที่เขาไม่รอส่งเธอไม่ใช่เพราะกำลังคั่วนางแบบสาวอะไรนั่นหรอก แต่เป็นเพราะกลัวว่าตัวเองจะตัดใจส่งเธอไปอยู่ประเทศไทยคนเดียวไม่ได้นะสิ
                        “นายแน่ใจนะว่าทำแบบนี้แล้วโซนาร์จะปลอดภัย”
                        ยากูซ่าหนุ่มถามเสียงเข้ม ใบหน้ายังไม่คลายความกังวลที่ต้องส่งน้องสาวไปห่างจากสายตาจะให้เขาไม่เป็นห่วงได้ยังไงตั้งแต่เกิดมาเค้าไม่เคยปล่อยโซนาร์ให้อยู่ไกลสายตาเลย
                        “ยังไงก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่ ญาติของฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดี”
                        “ส่งคนติดตามเธอกี่คน”
                        “คนเดียวถ้าหลายคนโซนาร์รู้ตัวแน่”
                        “อะไรนะ นายกล้าปล่อยโซจังไปพร้อมกับบอดี้การ์ดแค่หนึ่งคนหรอ”ความนี้เป็นเสียงยูกิบ้างที่โพล่งออกมาด้วยความร้อนใจ 
                        “วางใจเถอะฉันซ้อนกล้องและแผ่นซิพติดตามไว้ที่ตัวโซนาร์แล้ว ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นแผ่นชิพจะส่งข้อมูลมาที่ฉันและคนของฉันที่อยู่ในไทยโดยตรง รับรองความปลอดภัยได้”
                        “ถ้าพลาดแล้วโซเป็นอะไรแม้แต่ปลายก้อยนายกับฉันเห็นดีกันแน่”
                        “เหอะๆ ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×