ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destined love หล่อนักรักซะเลย

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 56


    ณ ไดมอนยูนิเวอร์ซิตี้

                    ร่างสูงโปร่งในชุดยูนิฟอร์มมหาวิยาลัยกำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับกับหนังสือที่กองนับสิบเล่มซึ่งทั้งหมดนี้เธอจะต้องสรุปทำรายงานให้เสร็จภายในสามวัน  สามวันงั้นหรอให้ตายสิแค่คิดฉันก็อยากจะบ้าตายอยู่แล้ว นี่มันเวรกรรมอะไรของช้านนน

    ฉันอยากจะบ้าตาย หนังสือกองเท่าภูเขาขนาดเนี่ยให้อ่านอย่างเดียวยังทำไม่เสร็จเลย แล้วนี่จะให้ฉันสรุปทำรายงานในเวลาสามวัน ใครมันจะไปทำทัน

                    ฉันออกปากบ่นกับเพื่อนสนิทอย่างเหลืออด  ให้ตายสิเรื่องน่าสลดแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าฉันไม่พลั้งปากด่ายัยหัวหน้าห้องตัวแสบนั่น ก็ใครจะไปทนได้หล่ะที่จู่ก็มีผู้หญิงมาสารภาพรักด้วย ฉันเป็นผู้หญิงนะไม่ได้เป็นผู้ชาย ด้วยความเหลืออดฉันเลยตะโกนใส่หน้ายัยนั่นว่า ยัยโรคจิต แล้วก็เดินหนีเท่านั้นเอง ไม่รู้แม่คุณเค้าจะเก็บไปแค้นอะไรหนักหนา พออาจารย์ฝากงานให้หล่อนถึงได้เอามาให้เธอตอนที่อีกสามวันจะต้องส่ง ใครมันจะไปทำทันฟร่ะ

    แล้วใครใช้ให้แกไปด่าเ ค้าแบบนั้นหล่ะ  ผู้หญิงเค้ารักแรงเกลียดแรงนะเว้ย

    คนที่ตอบกลับมาไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก หมอนี่ชื่อซิดนีย์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ดูสิฉันอาภัพแค่ไหนขนาดฉันกลุ่มอกกลุ่มใจแทบตายคุณเพื่อนสุดที่รักมันยังนั่งโยนขนมใส่ปากหน้าตาเฉย ไม่สนใจกันเลยไอ้เพื่อนบ้า

    ก็ใครใช้ให้ยัยนั่นมารักฉันล่ะ ผู้หญิงด้วยกันหน่ะเว้ยแค่คิดก็สยองแล้ว รอแกมีผู้ชายมาชอบเมื่อไหร่เถอะแล้วแกจะเข้าใจฉัน

    ช่วยไม่ได้แกอยากเกิดมาหล่อเองนิJ แล้วแกจะเอายังไงกับหนังสือพวกนี้"

    เอาไปพับถุงกล้วยแขกมั้ง ฉันก็ต้องนั่งอ่านนะสิ

    งั้นก็จงอ่านต่อไปสู้ๆนะเพื่อนรัก

    ไม่ใช่ฉันคนเดียวซิดแกต้องช่วยฉันทำด้วย

    เกี่ยวอะไรกับฉันว่ะไอ้โซ  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเว้ย

    ซิดนีย์

    ฉันส่งเสียงหวานอ่อนเพื่อนรักอย่างเอาใจไม่รู้ละไม่ว่ายังไงซะอีตาซิดนีย์ก็ต้องช่วยฉัน ไม่อย่างงั้นละก็ฉันกับมันเห็นดีกันแน่

    น้า ถือว่าช่วยเพื่อนสาวตาฟ้าๆคนนี้แกจะใจร้ายปล่อยให้ฉันจมไอ้กองหนังสือบ้านี่ตายหรอ แกจำได้ไหมเวลาแกรถไฟชนกันใครห้ามทัพให้ ใครคอยเช็คชื่อแทนเวลาแกโดด ใครคอยส่งการบ้านให้แก ใคร..”

    “พอๆ ช่วยก็ได้ว่ะลำเลิกบุญคุณจริงเลยนะ”

                    เยส น่ารักที่สุดเลย

                    ฉันกระโดดกอดซิดนีย์  ก่อนที่จะรีบปล่อยมืออกเมื่อมีสายตานับสิบคู่มองตรงมาที่พวกเรา เป็นสายตาที่รับรู้ได้ว่าคนมองมีความคิดน่ากลัวอยู่ในสมอง

                    แกดูเคะกับเมะคู่นั้นดิ น่ารักเนอะ

                    เด็กสาวกลุ่มนึงชี้มาทางพวกฉัน  แถมพวกหล่อนยังทำหน้าตาฟินไปถึงฟินแลนด์แล้ว ขอร้องอย่ามาจิ้นฉันกับซิดนีย์ได้ไหมจะอ้วก แล้วเคะกับเมะคืออะไรรรรรรรรรรร

                    แกนี่มัน

                    เออ ฉันมันผิดหนิที่เกิดมาหน้าเหมือนผู้ชายอ่ะL

                    โซนาร์ฉันก็มีเรื่องให้แกช่วยเหมือนกันว่ะ

                    ช่างมันก่อนเถอะ รีบๆปั่นไอ้รายงานบ้านี่ให้เสร็จก่อนเถอะ

                    ถ้าฉันทำมันให้เสร็จแกจะช่วยฉันใช่ไหม

                    เออๆๆ ช่วยก็ได้ถ้าแกทำเสร็จนะ

                    งั้นเอามาหนังสือมาพรุ่งนี้มารอรับได้เลย

                    แกพูดจริงอ่ะ

                    ถ้าแกตกลงจะช่วยฉัน ฉันก็ช่วยแกwin win กันทั้งสองฝ่าย จะพูดมากทำไมรีบหาข้อมูลเข้าไปสิเดี๋ยวรายงานก็ไม่เสร็จหรอก

                    ซิดก้มหน้าก้มตาทำงาน จนฉันแทบจะไม่ต้องจับคอมพิวเตอร์เลย ซิดพิมพ์ทุกอย่างลงไปในนั้นอย่าง   คล่องแคล่วไม่ต้องสงสัยหรอกว่ามันทำได้ยังไงก็ไอ้เนี่ยมันสอบเข้าได้ที่หนึ่งของมหาวิทยาลัย แค่เปิดผ่านก็ทำงานได้สบายอยู่แล้ว แต่หมอนี่มันจะตั้งอกตั้งใจทำงานเกินไปแล้วนะ ฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงชอบกล ฉันว่ามันต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาให้แก้ไขอีกแน่เลย

                    อ่ะรายงานที่แกขอให้ทำ ฉันทำให้เสร็จแล้ว

                    ขอบใจมาก เพื่อนรัก

                    ไม่ต้องขอบใจ แกรีบเอารายงานนี้ไปส่งเถอะแล้วพรุ่งนี้มาเจอกันฉันที่สนามบินเซเรท เข้าใจ

                    ไปทำไมที่สนามบิน

                    เถอะน่า แกสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยฉัน

                    ค่ะๆๆๆ ทวงบุญคุณคืนหรอ

                    แน่นอน คนอย่าซิดนีย์ เซเรททำอะไรต้องมีผลตอบแทน

                    เหอะ ไอ้คนน้ำใจงาม

                    ขอบคุณมากที่ชม แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะบาย

                    พอมัน้ดินไปตาขวาฉันก็กระตุกขึ้นมาดื้อๆ แถมยังกระตุกแบบไม่หยุดอีกต่างหาก สงสัยเร็วนี้ต้องมีงานเข้าแน่เลย ช่างเถอะไหนๆวันนี้บอดี้การ์ดฉันก็มาสายแล้วแอบหนีเที่ยวดีกว่า  ฉันขับรถวอลโว่ของตัวเองออกจากมหาลัย  แต่ขับอยู่ดีก็มีหญิงสาววัยกลางคนโดนผลักมาชนหน้ารถ ตามหลักการของคนดีฉันสมควรลงไปดูใช่ไหม

                    เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ

                    ฉันลงไปถามพี่สาวคนนั้นดูเธอกำลังมีเรื่องกับผู้ชายกลุ่มนึงที่กำลังเดินมาทางเรานะ หนึ่งในสองคนนั้นตะคอกใส่พี่สาวเสียงดัง

                    “แกจ่ายค่าคุ้มครองมาซะดีๆ ถ้าไม่อยากตาย

                    ฉันไม่จ่าย”

                    ไม่จ่ายใช่ไหม เพี๊ยะ

                    ชายร่างยักษ์จะเข้ามาตบหน้าพี่สาวคนนี้ ฉันเลยเอาตัวเองขวางไว้โดยอัตโนมัติไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะแต่มันยังไม่ทันคิด ผ่ามือหนาเลยซัดเข้าหน้าฉันเต็มที่แรงตบทำให้หน้าฉันสะบัด ถ้าหน้าฉันเสียโฉมจะทำยังไงอ่ะ แต่ช่างเถอะสนใจสถานการณ์ตรงหน้าก่อนดีกว่า(ช้าไปไหมย่ะ) ตบฉันมาฉันก็เจอชวนกลับด้วยหมัดละกัน

                    พลั่ก ก ก

    “กล้าดียังไงมาตบหน้าฉัน”

                     เฮ้ยไอ้หน้าตุ้ดแกกล้าต่อยหน้าฉันหรอ”

                    หน้าตุ๊ดงั้นหรอ เจ็บปวดที่สุด Lกับอีแค่หน้าสวยกระเดียดไปทางหล่อทำไมต้องหาว่าฉันเป็นตุ๊ดด้วยนะ พูดแบบนี้นี่คือไม่เคยตายใช่ไหม
                   
    ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามาเรียกฉันมาตุ๊ด

                    พวกฉันจะเรียกแกจะทำไม หลีกไปซะไอ้หน้าตุ๊ด 

                    ไอ้พวกนี้วอนหาที่ซะแล้วเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับน้องสาวยากูซ่า ก็ดีมีกันเวลาฝึกเทควันโดทีไรก็มีแต่คนออมมือให้ทีนี้แหละจะได้ฝึกอย่างเต็มที่กับคนจริงๆสักที ฉันแสยะยิ้มด้วยความสงสารไอ้คนพวกนี้นิดหน่อยซวยจริงนะหาเรื่องใครไม่ยักจะหามาหาเรื่องคนอย่างโซนาร์

                    พลั่ก พลั่ก ตุ้บ โครมมมมมม ฉันปล่อยหมัดออกไปไม่ต่ำกว่าสิบหมัด แถมยังรัวลูกเตะใส่ไอ้บึกที่พยายามจะเข้ามาล๊อคตัวฉันไว้ให้เพื่อนมันจัดการได้ง่ายๆแต่มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกจะจับฉันได้ก็ต้องมีความเร็วมากกว่าฉันก่อน ไม่ถึงสิบนาทีร่างของนักเลงสองคนล้มลงไปกองกับพื้น

                    “หึหึ แพ้ตุ๊ดนี่มันน่าอายจริงเลยนะ”

                    ฉันยิ้มเยาะเย้ยคนตรงหน้า ในขณะที่ฉันกำลังจะไปต่อยมันซ้ำอีกสองสามหมัดมือหนาของใครบางคนก็มากระชากตัวฉันออกไปก่อน ฉันเงื้อมัดขึ้นเตรียมจะสวนกลับแต่ก็ต้องชะงักกับใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ของอีกฝ่าย สายตาดุดันแต่อ่อนโยนแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ยูกิซัง เพื่อนสนิทพี่ชายฉัน

                    “เกิดอะไรขึ้นครับ โซนาร์”

    เสียงทุ้มเอ่ยถามแบบไม่สบอารมณ์ เวรล่ะรู้ได้ไงฟร่ะว่าฉันอยู่แถวนี้ นี่คงไม่ได้แอบฝังชิพสัญญาณไว้ในสมองฉันหรอกนะ น่ากลัวไปแล้วนะยูกิซัง

                    “ยูกิซัง*ตามมาได้ไงอ่ะ”

                    “เรื่องนั่นมันไม่สำคัญหรอกครับ ตอบมาก่อนดีกว่าว่าหน้าเธอไปโดนอะไรมา”

                    “ตอบก็ได้ ทำไมยูกิซังต้องทำหน้าโหดใส่ฉันด้วยล่ะT^T

                    “ก็ตอบมาสิครับ อย่าบอกว่ามาจากคนพวกนี้”

                    “ทำนองนั่น”

                    “ว่าไงนะ พวกแกจัดการ”

                    ยูกิซังหันไปพยักเพยิกกับคนที่ติดตามมา เฮ้ยจะร้อนไปไหนแค่นี้พวกมันก็เกือบตายแล้วนะ  ด้วยความที่เป็นคนดี(เหรอ)ฉันเลยเข้าไปขวางก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายมากกว่านี้

                    “ใจเย็นสิคะ ยูกิซัง”ฉันเดินเข้าไปเกาะแขนเขา

                    “โซจัง อย่าบอกนะครับว่าจะห้ามพี่”

                    “ง่า อย่ามีเรื่องกันเลยนะ ฉันไม่อยากให้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้กลับบ้านกันเถอะนะคะ”

                    “โซนาร์”

                    “นะคร้าาาา”

                    ดูเหมือนครั้งนี้ถ้าฉันแค่ทำเสียงออดอ้อนคงไม่พอ ฉันเลยจัดเต็มทั้งหน้าตาท่าทางแทบจะเอาหน้าถูแขนเค้าอยู่แล้ว เพราะมั่นใจว่าทำแบบนี้แล้วคนตรงหน้าต้องยอมตามใจเหมือนทุกครั้งและดูเหมือนครั้งนี้ก็ด้วย

                     “เฮอะ อย่างนี้ทุกที”

                    ยูกิซังพูดเสียงหน่ายๆ แต่ก็ยอมทำตาม เขาหันไปสั่งให้ลูกน้องให้หยุดหลังจากกระทืบต่อมาพักนึงแล้ว แต่ก็มิวายขู่ไอ้พวกนั้นพี่ชายฉันนี่เท่ห์ซะมัดเลยอ่ะ ปลื้มม>///<

                    “จำใส่หัวพวกแกไว้นะอย่ามายุ่งกับคนของฉันอีก แล้วก็ลืมไสหัวไปไกลๆก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

                    จบคำพูดยูกิซังพวกนั้นก็รีบเผ่นแนบไปเลย ฉันเลยก้มลงเก็บของที่ตกอยู่บนพื้นส่งคืนให้พี่สาวคนนั้น พี่สาวคนนั้นทำท่ากล้ากล้ากลัวกลัวแต่ก็เดินเข้ามารับของคืน มีอะไรน่ากลัวตรงไหนหรอ??(ใครไม่กลัวแกก็แปลกแล้ว)

                    “พี่ขอบคุณหนูมากนะ ถ้าไม่ได้หนูพี่คงแย่แน่ๆเลย”

                    “ไม่เป็นไรหรอกคะ”

                    “แต่พี่อยากจะตอบแทนหนูจ๊ะ”

                    “ตอบแทนหนู  ยังไงหรอคะ”

                    “เอาอย่างงี้เดี๋ยวพี่ดูดวงให้เอาไหม พี่เป็นหมอดู”

                    “ก็ดีคะ”ฉันยกมือขึ้นพี่สาวคนนั้นยกมือฉันขึ้นมาดู

                    “ไร้สาระ”ยูกิซังพูด

                    “หึพวกโลกแคบ”

    พี่สาวพูดตอกกลับ สองคนนั้นจ้องตากันอย่างฟาดฟันนี่จะทำสงครามเย็นกันหรือไงเนี่ย ฉันเลยต้องทำอะไรเพื่อทำลายสถาณการณ์น่าอึดอัดตอนนี้

                    “เออ ฉันว่ายูกิซังไปรอในรถก่อนดีกว่าไหม”

                    “ดี พี่ก็ไม่อยากฟังอะไรแบบนี้หรอก”

                    ยูกิซังกำลังจะเดินไปขึ้นรถ พี่หมอดูคนสวยก็ตะโกนไล่หลังด้วยคำที่ทำให้ยูกิซังหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองด้วยสายตาเอาเรื่อง

                    “หรอ นายไม่อยากรู้หรอว่าน้องสาวคนนี้จะเจอเนื้อคู่เร็วๆนี้”

                    “แล้วไง”

                    “ข่าวดีก็คือมันไม่ใช่นายยังไงล่ะ เออช่วงนี้หนูมีดวงได้เดินทางไกลนะ ถ้ามีเหตุการณ์ที่ทำให้หนูได้ไปต่างที่พี่แนะนำให้หนูตกลงทันทีเพราะมันจะทำให้หนูพบเจอสิ่งดีๆในชีวิตไม่ต้องมาจมอยู่กับบางอย่างแย่ๆแถวนี้ ความซวยมันจะได้หมดไปจากชีวิตหนูสักทีนะ”

                    มีแอบแขวะยูกิซังด้วย ตอนนี้เชื่อเลยว่าตอนนี้ยูกิซังคงโกรธจนฆ่าคนได้แล้วละ ถึงฉันจะอยากพายูกิซังกลับก่อนที่จะฆ่าใครตายแต่ฉันอยากรู้มากกว่าว่าใครที่เป็นเนื้อคู่ฉัน เออฉันก็แอบเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่นิดหน่อย

                    “เนื้อคู่หรอคะ แล้วรูปร่างหน้าตาเค้าเป็นยังไงคะ”

                    “เค้าก็....”

                    ~Today I don't feel like doing anything I just wanna lay in my bed ~ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สงสัยถ้ากลับบ้านช้าอีกนิดนึงพี่เชต้องอาละวาดบ้านแตกแน่เลย

                    “อ่า โทษทีนะคะหนูคงต้องกลับบ้านแล้ว”

                    “น่าเสียดายจัง โชคดีนะจ๊ะ”

                    ยูกิซังให้คนขับรถฉันกลับแล้วให้ฉันไปนั่งในรถตัวเอง ตอนแรกฉันก็ยืนยันที่จะขับรถกลับบ้านเองอ่ะนะแต่พอเห็นสายตาฟาดฟันของเขา ฉันก็เลยทำได้แต่เงียบแล้วยอมเดินตามไปแต่โดยดี ต้องขอบคุณยูกิซังที่อดทนไม่ดุฉันต่อหน้าลูกน้องตัวเองแต่พออยู่บนรถกันสองคนเหอะ พี่แกเปิดฉากบ่นไม่ยั้งเลย

                    “ทำไมไม่รอให้คนขับรถมารับครับ”

                    “ขอโทษคะ ก็ใครมันจะไปรู้หละว่าวันนี้ยูกิซังจะมา”

                    “ถึงพี่จะมาหรือไม่มาโซก็ควรกลับพร้อมบอดีการ์ดนะครับ ไม่ใช่อยากจะกลับก็กลับมันอันตรายรู้ไหมถ้าเกิดโซเป็นอะไรขึ้นมาเชกับพี่จะทำยังไงครับ”

                    “คร้าบ แต่ฉันก็ไม่เป็นไรนี่คะ”

                    “ไม่เป็นไรแล้วแผลปากละ จะให้พี่อธิบายกับพี่ชายเราว่าไงหึ

                    ก็บอกว่าฉันสะดุดยอดหญ้าหน้ามหาวิทยาลัยก็ได้นี่

                    โซคิดว่าเชมันโง่นักหรอ คิดว่าเชมันแยกแผลหกล้มกับโดนตบไม่ออกหรอครับ

                    ก็ถ้ายูกิซังช่วยยืนยันยังไงเชนี่ซัง*ก็เชื่อ ยูกิซังช่วยฉันหน่อยนะ

                    แล้วพี่ควรช่วยโซโกหกหรอครับ

                    นะคะ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ดื้อไม่ซนเชื่อฟังยูกิซังทุกอย่าง

                    แน่ใจนะว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่โซหาเรื่องเจ็บตัว

                    สัญญาค่ะ ตกลงว่ายูกิซังจะไม่บอกเชนี่ซังแล้วใช่ไหมค่ะ

                    อืม แล้วพี่เคยขัดใจเด็กดื้อแบบโซได้หรอยูกิซังมองฉันแล้วระบายยิ้มออกมา

                    รักยูกิซังที่สุดเลย

                    เอี้ยดดดดดดดดดดด จู่ยูกิซังก็เหยียบเบรกกะทันหัน ฉันพูดอะไรผิดหรอก็พี่ชายฉันน่ารักขนาดนี้ฉันจะไม่รักได้ยังไง ทำไมต้องทำหน้ากระอักกระอ่วนใจขนาดนั้นด้วย เอ๊ะทำไมยูกิซังถึงได้หน้าแดงขนาดนั้นนะอากาศร้อนหรอ ฉันว่าตอนนี้มันออกจะหนาว

                    ฉันพูดอะไรผิดหรอค่ะ ก็ยูกิซังออกจะเป็นพี่ชายที่น่ารัก

                    “ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่ตกใจนิดหน่อย

                    “แต่ฉันว่ายูกิซังหน้าแดงมากๆเลยนะ ไม่สบายหรือเปล่าค่ะ

                    “ช่างเถอะ พี่ว่าเรารีบกลับบ้านก่อนที่ไอ้เชมันจะอาละวาดดีกว่า

                    “เอางั้นก็ได้คะ

                    ยูกิซังตั้งใจจะตัดบทการสนทนาหุบปากก็ได้ชิ  พี่ชายคนนี้ก็แบบนี้อ่ะอยากพูดอะไรเขาจะพูดออกมาเอง โดยที่ฉันไม่ต้องซักไซ้แต่ถึงบทที่ไม่อยากจะพูดต่อให้ฉันแง้มปากยังไงเค้าก็ไม่บอกหรอกเพราะงั้นอย่าเปลืองน้ำลายเลยดีกว่า  

    *โอนี่ซัง พี่ชาย หรืออาจใช้ชื่อของผู้ชายแทนคำว่า โอ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×