คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF : It's Me 100%
SF : It’s Me
“ดงเฮ จะไปไหน นี่มันใกล้เวลาเรียนแล้วนะ”
“เอาน่าฮยอก เดี๋ยวเค้ามานะ แปปเดียว”
ว่าแล้วร่างบางของลีดงเฮนักเรียนชั้นมัธยมปลายปี3ก็ยื่นกระเป๋านักเรียนให้เพื่อนรักก่อนจะวิ่งออกจากห้องเรียนของตัวเองไปอย่างรวดเร็ว ฮยอกแจเพื่อนสนิทได้แต่มองตามอย่างงุนงง
หรือว่าดงเฮจะไป...เฮ้อ
ร่างผอมบางของฮยอกแจคิดถึงสิ่งที่เพื่อนรักกำลังจะทำแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
ทำมานี่ก็เข้าปีที่3แล้ว เจ้านั่นไม่เห็นจะรับรู้อะไรบ้างเลย…
ร่างบางของดงเฮที่วิ่งออกมาจากห้องเรียนกำลังหอบน้อยๆ สายตาหวานๆสอดส่ายไปทั่วเพื่อมองหาคนคนนั้น
คนที่ทำให้ร่างบางวิ่งหอบมานี่ไงล่ะ
“อย่าเพิ่งมาแถวนี้เลยนะฮะ…โอ้ย ดงเฮเอ้ย ไม่น่าตื่นสายเลยเรา”
คนตัวเล็กกำลังยืนอยู่หน้าล็อคเกอร์ของใครคนหนึ่ง ตาหวานก้มลงสำรวจสิ่งของที่ตนเตรียมมาจากที่บ้าน นมจืดหนึ่งกล่องพร้อมกับคุ้กกี้ธัญพืชสองสามชิ้นนอนอยู่ในถุงกระดาษลายน่ารักที่ดงเฮลงทุนทำเองกับมือ พร้อมกับการ์ดรูปก้อนเมฆใบน้อยที่มีข้อความสั้นๆ หลังจากที่มองซ้ายมองขวาแล้วเห็นว่าไร้ผู้คน เจ้าของมือขาวๆก็ค่อยๆแขวนถุงพลาสติกลายน่ารักนั้นไว้หน้าล็อคเกอร์หมายเลข
129
ต่อค่ะ
“เพราะมึงนั่นแหละไอ้คิบอม กูบอกให้มาช่วยทีมกูก็เสือกไม่มา เป็นไงล่ะ แพ้เลยไอ่ห่า”
“ไม่ใช่เรื่องของกู”
เสียงทุ้มที่ดังใกล้เข้ามาทำเอาคนตัวเล็กออกอาการลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด
เอาไงดี เอาไงดี ดงเฮเอ้ย ตายแน่ๆเลย... เอาวะ ต้องเนียนไว้ก่อน
คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงทำเป็นค่อยๆเดินออกมาจากล็อคเกอร์แถบนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดงเฮพยายามก้มหน้าลงให้มากที่สุดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นสีหน้าที่มันแดงและเห่อร้อนของเขาในตอนนี้ เวลาชั่วอึดใจที่ต้องเดินสวนกับคนที่แอบชอบผ่านไป ดงเฮแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะวิ่งกลับไปฝั่งห้องเรียนของตน
“ไอ้คิบอม นั่นมันลีดงเฮแผนศิลป์ไม่ใช่เหรอวะ มาทำอะไรแถวนี้”
“ไม่รู้สิ”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบเพื่อนรักแผ่วเบาแต่หากใครได้เห็นสีหน้าของผู้ตอบในตอนนี้แล้วล่ะก็คงไม่เชื่อในคำตอบของเขาแน่ คิมคิบอม แผนวิทย์ เด็กหัวกะทิของโรงเรียนกำลังลอบยิ้มมุมปาก นอกจากเขาจะเรียนเก่งชนิดที่เรียกว่าไม่มีใครเทียบติดแล้วเรื่องกีฬาเขาก็ไม่เคยแพ้ใคร บาสเก็ตบอลเห็นจะเป็นกีฬาชนิดโปรดของหนุ่มฮอตคนนี้ ถ้าหากเพียงแค่เขาเรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่งเพียงเท่านั้นคงไม่มีสาวๆมากมายมารุมล้อม คิมคิบอมมีใบหน้าที่หล่อเหลา สายตาคมๆที่ทำเอาสาวๆหรือเคะใจละลายมานักต่อนัก
“มาแล้วไง น้องคุ้กกี้ของมึง นี่...กูขอชิ้นนึงได้ป้ะ” ฮันกยองเอ่ยถามเพื่อนรักเมื่อเห็นถุงพลาสติดลายน่ารักแขวนไว้ที่หน้าล็อกเกอร์ของเพื่อนเขา
“ไม่ได้ กูหิว”
“เออ ไอ้เพื่อนเลว ทำกันได้นะมึง แค่คุ้กกี้ชิ้นเดียวก็ให้กูไมได้ กูถามจริงเหอะ$%$#@$^&*&^%*” เสียงบ่นของฮันกยองยังคงดังอย่างต่อเนื่องหากแต่ไม่ได้เข้าหัวของคิบอมเลยสักนิด มือเรียวที่ดูแข็งแรงของคิบอมหยิบถุงพลาสติกลายน่ารักนั้นขึ้นมาก่อนจะเดินผ่านล็อคเกอร์เข้าห้องเรียนของตัวเองไป
“คุณลีดงเฮ ไปไหนมา!” เสียงคุณครูอารึมที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในแผนศิลป์ดังขึ้นขณะที่ดงเฮกำลังค่อยๆคลานอยู่ที่ประตูหลังห้อง
ซวยแล้วดงเฮเอ้ย
ร่างบางคิดอย่างหัวเสียก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นเพื่อทำความเคารพคุณครูสุดโหดที่ยืนอยู่หน้าห้อง สายตาของทุกคนในห้องจ้องเขม็งมาทางตนในทันที ตอนนี้ลีดงเฮกำลังตกเป็นจุดสนใจของเพื่อนๆอย่างช่วยไม่ได้
“คือ... ผมไปเข้าห้องน้ำมาครับ”
“ใครเป็นพยานได้บ้างว่าคุณลีดงเฮไปเข้าห้องน้ำ” เสียงโหดๆดังขึ้นเพื่อถามหาคนที่จะสามารถยืนยันในสิ่งที่ดงเฮทำได้ ฮยอกแจที่กล้าๆกลัวๆค่อยๆยกมือผอมขาวขึ้นเหนือศรีษะก่อนที่เสียงหวานจะเปล่งออกมา
“ผมครับ ลีดงเฮท้องเสียครับ ผมยืนยันได้”
“คุณลีฮยอกแจ คุณแน่ใจใช่ไหมว่าคุณลีดงเฮท้องเสียจริง”
“ครับ ผมแน่ใจ”
“งั้นก็ดี เชิญคุณลีดงเฮกลับไปนั่งที่ได้...แต่คุณรู้ใช่ไหมว่าโทษของการโกหกฉันคืออะไร…เอาล่ะ วันนี้เรามาเริ่มเรียนเรื่อง...” เสียงของคุณครูอารึมจอมโหดยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ดงเฮลอบถอนหายใจเป็นครั้งที่สองของวัน ฮยอกแจค่อยๆแอบหันหน้าไปทางเพื่อนรักก่อนบทสนทนาเสียงเบาจะเริ่มขึ้น
“ทำไมวันนี้ช้านักล่ะดงเฮ”
“ก็เจอคิบอมพอดีน่ะสิ เค้ายังตื่นเต้นไม่หายเลย”
“จริงดิ!! แล้วเขารู้รึเปล่า!!!!” เสียงใสของฮยอกแจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องเรียน
“คุณลีฮยอกแจและคุณลีดงเฮ เชิญออกไปที่ระเบียงเดี๋ยวนี้!!”
“เค้าขอโทษนะฮยอก”
“ขอโทษอะไรกันล่ะ ฉันตะโกนเสียงดังเอง ฉันสิต้องขอโทษดงเฮ”
“ก็เพราะเรื่องที่เค้าเล่าไปทำให้ฮยอกแจตกใจ ฮยอกแจก็เลยเผลอทำเสียงดัง...เค้าขอโทษนะ”
“อ่ะๆๆ โอเคๆ ฉันยกโทษให้นะ” ฮยอกแจพูดแบบตัดรำคาญ
ร่างบางทั้งสองกำลังยืนขาเดียวอยู่หน้าห้องเรียน สายตาของคนที่เดินผ่านไปมาจับจ้องมาเป็นระยะ นอกจากคิมแจจุงที่เป็นเคะดาวเด่นของแผนศิลป์แล้วก็ยังมีลีดงเฮและลีฮยอกแจนี่แหละที่เป็นที่ชื่นชอบของหนุ่มๆ ทั้งใบหน้าหวานๆ ผิวขาวจัด รูปร่างบอบบางทำให้ทั้งสองคนไม่ต่างจากหญิงสาว เป็นที่หมายปองของเมะทั้งโรงเรียน หากแต่เจ้าตัวคงไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไรนัก
“คุณครูอารึมปล่อยช้าอีกแล้วฮยอก” เสียงหวานของดงเฮบ่นงุ้งงิ้ง
“ยังไม่ชินอีกรึไง...น่าอายจริงๆเลย” ประโยคแรกหันไปพูดกับเพื่อรักแต่ประโยคหลังหันมาบ่นกับตัวเอง
ก็เมื่อหมดชั่วโมงเรียนแบบนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเดินออกไปเข้าห้องน้ำบ้าง ไปหาขนมกินบ้างหรือบางคนอาจต้องไปเรียนตึกอื่นบ้าง แล้วการที่เขาสองคนต้องมายืนขาเดียวอยู่หน้าห้องแบบนี้มันไม่อายรึไงเล่า
“มายืนทำอะไรที่หน้าห้องจ๊ะคนสวย” อ๊คแทคยอนเด็กแผนวิทย์ที่บังเอิญเดินผ่านมาส่งเสียงแซว
“..........”
“แหม หยิ่งซะด้วย ถามไม่ตอบแบบนี้ สงสัยต้องสั่งสอนซะหน่อยมั้ง” แทคยอนว่าพลางเดินเข้าไปใกล้ร่างบอบบางของดงเฮ คนตัวเล็กได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆถอยหลังไป ไม่ใช่ว่าดงเฮกลัวหรอกนะ ออกจะชินกับการกระทำของแทคยอนซะแล้วล่ะ เพราะเจอกันกี่ครั้งผู้ชายตัวโตคนนี้ก็แซวเขาได้ทุกครั้ง
“เฮ้ยมึง ไอ้แทคนี่มันโง่เนอะ จะจีบเคะน่ารักอย่างลีดงเฮทั้งทีเสือกใช้วิธีห่ามๆ” ฮันกยองกระซิบที่ข้างหูเพื่อนรักในขณะที่เดินออกมาเข้าห้องน้ำแล้วเหลือบไปเห็นการกระทำของแทคยอนเพื่อนร่วมห้อง
“ไม่ใช่เรื่องของกู”
“เออ ไม่ใช่เรื่องของมึงแต่กูขอให้มึงเป็นแฟนกับลีดงเฮแล้วก็ขอให้ไอ้แทคมาเกาะแกะลีดงเฮ มันจะได้เป็นเรื่องของมึงสักที!!”
คำอวยพรที่ออกจากปากของเพื่อนรักทำให้คิบอมลอบยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่ใส่ใจ
ไว้ถึงวันนั้นก่อนแล้วกัน
“คุณลีดงเฮ คุณลีฮยอกแจ เชิญเข้าไปในห้องได้แล้ว... แล้วคุณอ๊คแทคยอนมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ” คุณครูอารึมเดินออกมาเรียกลูกศิษย์ที่เธอสั่งทำโทษไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วเข้าห้องและแน่นอนว่าเธอต้องเห็นแทคยอนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
“ผมบังเอิญผ่านมาครับ ขอตัวนะครับครู” แทคยอนตอบเสียงสุภาพก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา ไม่วายยังแอบขยิบตาให้ดงเฮไปอีกหนึ่งที
“แทคยอนนี่คิดว่าตัวเองเท่ห์มากสินะ ฉันไม่เห็นว่าไอ้วิธีจีบห่ามๆแบบนั้นจะเท่ห์ตรงไหน” หลังจากคุณครูอารึมออกไปแล้ว ฮยอกแจก็เอ่ยปากถึงชายหนุ่มที่เข้ามาจีบเพื่อนเขาด้วยวิธีเมื่อสักครู
“ช่างเขาเถอะฮยอก เค้าไม่หวั่นไหวหรอกน่า”
“ก็แน่สิ นายมีคิมคิ อุ๊บ อี่อ่อยอั๊นอ้ะ” มือบางของดงเฮปิดปากเพื่อนรักอย่างรวดเร็ว
“ฮยอกอ้ะ อย่าเพิ่งพูดสิ เพื่อนอยู่เต็มห้องเลยนะ” มือบางค่อยๆลดลงพลางกระซิบเพื่อนรักเสียงเบา ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อที่เพื่อนรักกำลังจะเอ่ย
“อ่ะ ฉันไม่พูดก็ได้ นายนี่น๊า...”
การเรียนการสอนเริ่มขึ้นต่อไปจนกระทั่งเวลาเลิกเรียนก็มาถึง เด็กนักเรียนต่างดีใจเมื่อเวลานี้มาถึง เสียงคุยกันดังครึกครื้นไปทั่วทั้งห้องเรียนเพราะวันนี้ก็เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ ความดีใจของเด็กๆจึงทวีคูณเป็นสองเท่า ดงเฮเองก็ไม่ต่างกัน ติดที่ว่าวันนี้เป็นเวรทำความสะอาดห้องของเขาทำให้คนตัวเล็กอาจจะต้องกลับบ้านช้ากว่าเพื่อนไปสักหน่อย
“ไว้อาทิตย์หน้าฉันจะทำแทนดงเฮเองนะ ขอบคุณมากจริงๆ ฉันไปนะ รีบกลับบ้านด้วยล่ะ”
เสียงใสของฮยอกแจว่าพลางจับมือเพื่อนรักแน่นก่อนจะบอกลา วันนี้ฮยอกแจต้องรีบกลับบ้านเพราะมีแพลนจะไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว นั่นทำให้ดงเฮต้องทำความสะอาดกับเพื่อนที่เหลือเพียงสองคน
“เดินทางปลอดภัยนะฮยอก” ดงเฮโบกมือลาเพื่อนหยอยๆก่อนจะเดินเข้าห้องเรียน
“เอ๋ นั่นมัน...” คนตัวเล็กเงยหน้ามองไปยังกระดานหน้าห้องก็พบเข้ากับข้อความที่ว่า...
ขอโทษนะฮยอกแจ ดงเฮ แต่วันนี้ฉันรีบไปเดต...ฝากด้วยนะ
แทมิน
“งั้นเราก็ต้องทำคนเดียวน่ะสิ” ร่างบางบอกตัวเองเสียงเบา งานหนักร่างบางไม่กลัวหรอกนะ กลัวอย่างเดียว
ไม่มีเพื่อนเลย
“เอาล่ะ รีบทำรีบกลับแล้วกัน”
เวลาผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงร่างบางของลีดงเฮก็ทำความสะอาดห้องเรียนเรียบร้อย มือขาวๆยกขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดออกมาตามไรผมก่อนจะหยิบถุงขยะสีดำใบใหญ่ที่ตั้งไว้หลังห้องไปทิ้งเป็นอย่างสุดท้าย
ร่างบางของดงเฮเดินออกมาจากห้องเรียน มือเล็กขาวพยายามยกถุงขยะให้ลอยเหนือพื้นเพื่อที่จะไม่เลอะพื้นอาคารเรียนแต่แรงอันน้อยนิดของคนตัวเล็กหรือจะสู้ไหว
ฟึ่บ
“ฉันช่วย”
เสียงทุ้มที่ดงเฮจำได้ขึ้นใจดังขึ้นข้างหูทำเอาคนตัวเล็กมือสั่น ใบหน้าหวานค่อยๆเงยขึ้นช้าๆ คนที่ยืนอยู่ข้างๆตนตอนนี้เป็นเขาจริงๆ
คิมคิบอม
ต่อค่ะ
“ทำไมวันนี้ทำเวรคนเดียว” เสียงทุ้มเอ่ยถามเหมือนเป็นเรื่องปกติของคนรู้จักกัน แต่นั่นไม่ใช่เรื่องปกติของลีดงเฮ คนที่เขาแอบชอบมาหลายปีกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา พูดคุยกับเขาราวกับรู้จักกันมานาน ใบหน้าหวานๆของลีดงเฮกำลังแดงระเรื่อมากขึ้น มากขึ้นจนคิบอมได้แต่นึกเอ็นดูกับปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก
“จะไม่พูดกับฉันจริงๆเหรอ”
“อ่ะ เอ่อ... คะ คือ มะ เมื้อกี้ คะ คิบอม ถะ ถามอะ อะไรฉัน ระ เหรอ” อาการตะกุกตะกักที่เกิดขึ้นกระทันหันของคนตัวเล็กทำเอาคิบอมยิ้มขำ นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กสติกระเจิงยิ่งกว่าเดิม
“ฉันถามว่า ทำไมวันนี้ทำเวรคนเดียว”
“อ่ะ ฮะ ฮยอกต้อง ระ รีบกลับบ้านน่ะ สะ ส่วนแทมิน กะ ก็ไป ดะ เดต...”
“คุยกับฉัน ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย” เสียงทุ้มถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียนทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดงจนแทบระเบิด
“ฉะ ฉัน...”
“เอาเถอะ ลงไปกันได้แล้ว มา ฉันช่วย” ร่างสูงตัดบทพลางยกถุงขยะขึ้นแล้วเดินนำร่างบางลงไปทางบันได หากแต่ลีดงเฮยังคงยืนอยู่ที่เดิม
หรือเรากำลังฝัน...ใช่แน่ๆดงเฮ ตะ ตื่นได้แล้ว ตื่นๆๆ
“นี่ จะลงมารึยัง หรือต้องให้ฉันอุ้มลงมา” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกรอบดึงสติคนตัวเล็กกลับมา
มะ ไม่ได้ฝัน นะ นั่นคิบอม คิมคิบอม จะ จริงๆ
“ปะ ไปแล้วๆ”
หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากร่างสูง การทิ้งขยะก็ไม่ใช่เรื่องยากหรือใช้เวลานานอีกต่อไป ตอนนี้ดงเฮกำลังเดินต้อยๆกลับบ้านของตัวเองเหมือนทุกวัน ต่างตรงที่วันนี้มีคนมาเดินข้างๆด้วย
เดินกลับบ้านกับ...คิบอม
“บะ บ้านคิบอม ยะ อยู่ทางนี้เหรอ” ร่างบางตัดสินใจเอ่ยถามคนข้างๆเสียงเบาเมื่อเห็นว่าคนข้างๆไม่มีท่าทีว่าจะแยกไปทางอื่น
“ไม่รู้จริงๆเหรอว่าบ้านฉันอยู่ตรงไหน”
“คะ คือ เอ่อ...”
“ฮะๆๆ ฉันไปส่งนะ”
ความเงียบโรยตัวเข้ามาตลอดทางที่เดินไปบ้านของดงเฮ คนตัวเล็กที่ไม่กล้าพูดอะไรอีกก็เพราะใจหนึ่งกำลังสับสนกับการกระทำของคนที่ดินอยู่ข้างๆ อีกใจก็คิดถึงแต่เรื่องที่เขาทำให้คิบอมมาตลอดหลายปี ส่งนมกับขนมทุกเช้าจนเป็นกิจวัตร...หรือว่าคิบอมจะรู้แล้ว
“ฉันชอบคุ้กกี้นะ อร่อยดี” เมื่อเห็นว่าร่างบางหยุดเดินอยู่ที่บ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบ้านของคนตรงหน้า คิบอมก็เอ่ยขึ้นราวกับได้ยินคำถามในใจของดงเฮ
“……….” ไม่มีเสียงตอบรับจากดงเฮ ใบหน้าหวานได้แต่แดงระเรื่อ ตาหวานๆจ้องมาที่ใบหน้าคมอย่างตกใจ
“ขอบคุณมากกับมื้อเช้าเล็กๆตลอดสองปีกว่า”
“……….”
“คะ คิบอมรู้...”
“อืม”
“ตะ ตั้งแต่ มะ เมื่อไหร่เหรอ” ถึงจะเขินอายเพียงใด ความอยากรู้ก็ผลักดันให้ดงเฮเอ่ยถามออกไป
“อาทิตย์แรก”
“หา!...ละ แล้ว” คำตอบของคนตรงหน้าทำเอาดงเฮเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ฉันรอให้เธอมาบอกฉันเอง แต่ก็รอมาตั้งสองปีกว่า วันนี้เลยคิดว่าต้องเข้ามาหาเธอเพื่อจะบอกว่า...ขอบคุณครับ”
ตาคมของคิบอมก้มลงมองตาหวานๆของดงเฮ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับอายม้วน แล้วเสียงทุ้มก็เอ่ยต่อไปว่า
“คืนนี้โทรหาฉันได้ไหม”
“ฉะ ฉันไม่มี เอ่อ...”
“เธอไม่มีเบอร์โทรศัพท์ฉันจริงๆเหรอ...ฮะๆๆๆ เอาแบบนี้แล้วกัน”
“……….”
“ดงเฮ ฉันขอเบอร์โทรศัพท์เธอได้ไหม” คิบอมควักโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นให้คนตัวเล็กตรงหน้า
“เอ๋”
“ได้ไหมครับ”
“คะ คือ...ก็ได้” ดงเฮกดหมายเลขลงในโทรศัพท์เครื่องหรูที่คิบอมยื่นให้ก่อนจะก้มหน้างุดๆหลบสายตาเจ้าเล่ห์นั่น
“ฉันไปนะ” คิบอมกล่าวลาก่อนจะหมุนตัวกลับไปทิศทางเดิม ขายาวค่อยๆก้าวไปตามทางเรื่อยๆ ดงเฮยังคงยืนมองคิบอมจากหน้าบ้านของตน ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะเดินลับตา โทรศัพท์เครื่องเล็กในมือดงเฮก็สั่นเตือนว่ามีข้อความเข้ามา
“คืนนี้ฉันจะโทรหานะ”
ร่างบางดงเฮทานข้าว อาบน้ำเรียบร้อยตั้งแต่หนึ่มทุ่ม สร้างความแปลกใจให้บิดามารดาอย่างมาก เพราะมันผิดวิสัยของคนที่ขี้เกียจอาบน้ำที่สุดในบ้านอย่างดงเฮ
ตอนนี้คนตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงนอนสีหวาน เฝ้ามองโทรศัพท์เครื่องเล็กเผื่อว่าคนที่กำลังคิดถึงจะโทรมา รอจนแล้วจนเล่าเจ้าเครื่องมือสื่อสารก็ยังไม่ส่งเสียงเตือนสักที ดงเฮจึงได้แต่นอนรอฆ่าเวลาไปเรื่อยเปื่อย เหตุการณ์ในวันนี้ทำเอาหัวใจเขาแทบหยุดเต้น พลันรอยยิ้มหวานๆก็แย้มขึ้นบนใบหน้าสวย
ถ้าถามว่าดงเฮแอบชอบคิบอมตั้งแต่ตอนไหน คำตอบก็คงเป็นเมื่อประมานสองปีกว่าที่แล้ว คิมคิบอม หนุ่มฮอตของโรงเรียนเป็นที่หมายตาของทั้งสาวๆ เคะทั้งหลายนั่นรวมถึงเขาด้วย หากแต่อาการแอบปลื้มก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางคิดอะไรมากนัก จนกระทั่งวันที่เขากำลังเดินกลับบ้าน ภาพของเด็กผู้หญิงอายุประมาณ5ขวบกำลังยืนร้องไห้ โดยมีร่างสูงของคิมคิบอมกำลังเอ่ยปลอบทำเอาคนมองใจสั่น
เพียงแค่คิอบมยกมือแกร่งลูบหัวของเด็กคนนั้นเบาๆ ราวกับมีเวทมนตร์ เด็กผู้หญิงคนนั้นหยุดร้องไห้ในทันที ก่อนรอยยิ้มน้อยๆจะค่อยๆเกิดขึ้น ความอ่อนโยนของผู้ชายตรงหน้าพุ่งตรงเข้าละลายหัวใจของลีดงเฮที่กำลังแอบมอง
อาจฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำหรับดงเฮแล้ว ผู้ชายที่อ่อนโยนคนนั้นทำให้เขาหลงรักเข้าเต็มหัวใจ หลังจากวันนั้นดงเฮก็มักจะไปเชียร์คิบอมเวลาที่แข่งกีฬาทุกครั้งหรือในตอนเช้าเขาก็มักจะไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อแอบดูคิบอม จนกระทั่งดงเฮสังเกตเห็นว่าคิบอมไม่ค่อยไปทานมื้อเช้าที่โรงอาหาร เพียงเท่านั้นร่างบางก็เริ่มหัดทำขนมเล็กๆน้อยๆจำพวกคุ้กกี้หรือชิฟฟ่อนทันที นั่นเป็นที่มาของถุงพลาสติกลายน่ารักที่บรรจุนมจืดหนึ่งกล่องกับขนมเล็กๆน้อยที่แขวนไว้หน้าล็อคเกอร์หมายเลข129 ทุกวัน
“ฉันเองคิบอม คือฉันเองที่แอบหลงรักนายมาตลอด...” ร่างบางเอ่ยกับตัวเองอย่างแผ่วเบา
RRRrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรียกสติดงเฮให้กลับมายังปัจจุบัน มือเรียวขาวค่อยๆสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายคนที่โทรเข้ามา
คิมคิบอม
“ยะ ยอโบเซโย”
เสียงหวานๆดังมาตามสายคิบอมยิ้มกับตัวเองเล็กน้อย ในที่สุดวันนี้เขากับดงเฮก็ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักที หลังจากที่อีกฝ่ายแอบเอานมกล่องและขนมมาแขวนหน้าล็อคเกอร์เขามาเป็นเวลาสองปีกว่า!
มันเป็นอย่างที่เขาตอบร่างบางไปเมื่อเย็นจริงๆ เขารู้ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ดงเฮเอาถุงอาหารเช้าไปแขวนไว้ หากแต่ก็ยังคงใจเย็นรอให้ร่างบางเดินเข้ามาบอกเขาเอง จะสารภาพรักก็ได้เขาก็ไม่ได้ขัดอะไร วันเวลาที่เดินไปเรื่อยๆเปรียบเสมือนเครื่องพิสูจน์ว่าร่างบางคิดอย่างไรกับเขา
เขาก็ผู้ชายคนหนึ่ง มีเลือดเนื้อมีจิตใจ การที่มีเคะตัวเล็กๆ ผิวขาวใส หน้าตาน่ารักมาทำดีด้วยทุกวันนั่นก็ทำให้เขาใจสั่นได้เหมือนกัน แม้จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่การที่เขาทานอาหารเช้าที่อีกฝ่ายส่งมาทุกวันน่าจะเป็นเครื่องแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่เคยปฏิเสธ และในวันนี้คิบอมถือว่าเป็นวันดีสักทีที่เขาจะได้รู้จักกับคนตัวเล็กสักที
คิดจะเปลี่ยนใจก็ไม่ทันแล้วนะ...คุณคุ้กกี้
오직 너밖에 모르는 그런 나야
มีแค่เธอเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าคือฉันเอง
너만을 사랑해 줄 사람 바로 나야
คนที่รักแค่เธอ ก็คือฉันเอง
널 만난 세상이 내겐
การที่ได้พบเธอบนโลกใบนี้
기적 같은 일이라 그런 거야
มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของฉันเลยนะ
오직 너만을 원하는 그런 나야
เป็นฉันเองที่ต้องการแค่เธอ
너만을 지켜 줄 사람도 바로 나야
คนที่จะดูแลแค่เธอ ก็คือฉันเอง
니 곁에 너만 바라보는 그게 나야
เป็นฉันที่ได้แค่เฝ้ามองเธออยู่ข้างๆ
내 마음이 말하잖아
ฉันกำลังบอกเธอจากหัวใจ
너뿐이라고 말하잖아
จะบอกแค่เธอคนเดียวนะ
너를 너만 사랑하는
คนที่รักแค่เธอ
이런 나야 이게 나야
คนนั้นก็คือฉัน คือฉันเองนะ
……………………………………………………………….
ความคิดเห็น