ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คนเดียวกัน...!!!
บทที่3 คนเดียวกัน...!!!
ตอนนี้ฉันกำลังวุ่นวายกับการแต่งหน้าที่เรื่องมาก มากเรื่อง แค่ฉันต้องมาตื่นเช้าแล้วยังมาเลือกมากเลือกมายอีก>O< ฉันก็ไม่ได้อยากไปดูตัวคู่ชู้ชื่นบ้า อะไรนั่นหรอก แต่ก็ยังดีที่ดูตัวแค่ครึ่งวัน จะได้นอนอยู่บ้านแล้ว อดทนไว้นะกีวี่ แค่ครึ่งวันท่องไว้ๆๆ!
ตอนนี้เป็นเวลานัดดูตัวของฉันกับคู่หมั้นปริศนา ฉันใส่ชุดเดิมที่เลือกไว้เมื่อวาน ทรงผมทรงเดิมแต่ถูกเซ็ตใหม่ไม่ให้ยุ่งมาก ใบหน้าแสนธรรมดาของฉันถูกแต่งเติมให้ดูเป็นสาวหวานๆ โดยปกตินั้นฉันจะแต่งหน้าอ่อนไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมาย ฉันเดินลงจากบันไดเพื่อไปที่ห้องโถงใหญ่ ด้วยสีหน้าพะอืดพะอมสุดขีด โอ๊ย ฉันอยากจะบ้า
“วันนี้ลูกสวยมากเลยจ๊ะ” เดดดี้เอ่ยทักด้วยสีหน้าดีใจสุดฤทธิ์
“ค่ะ” ฉันที่ยิ้มแสนฝืดให้เดดดี้พร้อมขานรับไปอย่างไม่มีอารมณ์สุดๆ ส่วนยัยจัสมินน่ะหรอยืนอยู่ข้างๆฉันพลางกดบีบีเล่นอย่างสบายใจเฉิ่ม ที่เธอมายืนอยู่ตรงนี้เพราะเธออยากจะอยู่ดูว่าคู่หมั้นของฉันว่าเป็นใครน่ะ เรื่องชาวบ้านนี้น่ะ ตัวแม่เลย!! เราทั้งสามยืนรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ อ้อ!! อีกอย่าง คุณแม่ของฉันเสียชีวิตไปตั้งแต่ฉันยังแบเบาะอยู่ พ่อของฉันเลยดูแลเลี้ยงดูฉันนับแต่นั้นจนบัดนี้
‘ตึกๆๆๆๆๆ’เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น นั้นทำให้ฉันรับรู้ถึงการมาของคนสำคัญของฉัน เสียงฝีเท้าที่ดูเหมือนเดินสบายดังขึ้นเรื่อๆ จนเจ้าของเสียงเท้านั้นชะงักลงเพียงเพราะเขาเดินเข้ามาในห้องและเจอฉันที่เดินเป็นแกนนำต้อนรับ ทั้งๆที่จริงแล้วมันควรเป็นเดดดี้มากกว่า แต่เจ้าตัวก็ดันทุรังอยากให้ฉันอยู่ข้างหน้าต้อนรับแขกคนสำคัญ ฉันชะโงกใบหน้าขึ้นเพื่อมองใบหน้าคู้หมั้นของฉัน และมองใบหน้าอันหล่อขั้นเทพนั้นราวกับที่ต้องมนตร์สะกดปนอึ้งในความหล่อของหมอนี้นิดนึง รู้สึกคุ้นใจแปลกๆ ใบหน้าหล่อเหลานี้เคยเห็นที่ไหนนะ ผมสีบลอนด์ทองยุ่งนิดๆ ดวงตาสีฟ้าสดใส ระหว่างที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น อยู่ๆก็มีใบหน้าของสกายลอยเข้ามาทับใบหน้าคู่หมั้นที่อยู่ตรงข้ามฉัน ใช่แล้ว!! นะ...นายสกาย!!!
[ sky’ s part]
ผมมองใบหน้าแสนสวยของกีวี่ คู่หมั้นของผม เธอดูสวยดุจเทพธิดาในสรวงสวรรค์ก็ว่าได้ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ผมก็ไม่แตกต่างจากเธอนักหรอก ความสวยของเธอทำให้ผมสติหลุดไปเลย
“สวัสดีครับ ผมสกาย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เจอว่าที่ภรรยาในอนาคตครับ”
ผมคว้าสติที่เลือนหายไปกว่าครึ่งเพราะถูกบั่นทอนด้วยความสวยของกีวี่ ก่อนจะพูดพลางยื่นมือเข้าไปจับมือนิ่มๆของเธออย่างถือวิสาสะ แต่เธอเหมือนจะตั้งสติได้ เลยสะบัดมือผมออกไป ก่อนชักสีหน้ารังเกียจปน ขยะแขยงใส่ผม ส่วนพ่อของเธอจะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ตีกีวี่เบาๆ เพื่อให้ขอโทษผม ผมมองไปที่เธอพร้อมส่งสายตาวิ้งๆให้ แต่เธอกลับส่งสายตาขยะแขยงที่สุดในชีวิต เหมือนกับคนเห็นแมลงสาบมาให้ผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างให้ผมทันที ผมชักจะตามอารมณ์ของเธอไม่ทันซะแล้วสิเนี่ย เธอเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ และยิ้มให้ผมอีกระรอก
“ ยินดีเช่นกันค่ะ” น้ำเสียงหวานใสระลื่นหู ดังขึ้นมา เธอพูดพลางเผยยิ้มหวานๆให้ผม ผมอยากจะจูบเธอจริงๆ ปากของเธอจะหวานแค่ไหนกันเชียว
“โอ๊ย!!!” ผมร้องขึ้น เมื่อกีวี่เดินเข้ามาประชิดตัวผม จนเธอเหยียบเท้าผม (อย่างจงใจ) ก่อนจะกรีดยิ้มแสนร้ายกาจออกมา
“หึ สำออยจริงๆ” เธอเอ่ยปากอย่างรังเกียจก่อนวิ่งกลับเข้าห้องโดยไม่สนใจพ่อและเพื่อนของเธอ
“กีวี่ ลูกกลับมาขอโทษพี่เลยนะ กีวี่ๆๆ” คุณพ่อของกีวี่ร้องขึ้นด้วยสีหน้าโกรธนิดๆ แต่ดูเหมือนท่านจะพยายามควบคุมอารมณ์ และสงบลงไป ก่อนพูดกับผมว่า
“ไม่เป็นไรนะ สกาย เดี๋ยวนั่งก่อนนะ”ท่านพูดพร้อมมาประคองผมนั่ง โอ๊ย!!!เจ็บเป็นบ้าเลย เท้าหนักจริงๆ!!!
“จัสมิน ไปหากีวี่ด่วนเลย”ท่านว่าพลางดันผู้หญิงรสนิยมจัดจ้านไปหากีวี่ (ของผม)
“ว่าแต่ผมพักห้องไหนครับ” ผมถามคุณพ่อของสุกที่รักของผม เพราะตอนที่เราตกลงจะให้สองครอบครัวดองกัน ท่านก็ชักชวนให้ผมไปพักบ้านท่าน เพื่อคุ้นเคยกับลูกสาวของท่าน ผมเลยตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังเลย^-^
“อ้อได้ เดี๋ยวให้ลิลลี่ แม่บ้านคนสนิทของกีวี่พาไปนะ ห้องของสกายอยู่ติดกับห้องของกีวี่” คุณพ่อว่าพลางตบไหล่ผมเบาๆ โอ้รักพ่อจัง อยู่ใกล้กันอย่างนี้มีเรื่องสนุกสนานแน่ๆ ผมคิดพลางเดินตามแม่บ้านอย่างคนไม่เคยโดนใครเหยียบเท้ามาก่อน เพราะใจผมคิดแต่กีวี่อย่างเดียว
[ end sky’spart]
“ อ๊าก อยากจะบ้า ทำไมนายสกาย...ทำไมต้องเป็นเขา” ฉันพูดพลางกระทีบเท้าไปมาในห้องของตัวเอง โดยที่ยัยจัสมินมองมาทางฉันด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายสุดๆ
“แก ฉันว่าแกน่าจะอึ้งมากกว่านะ ที่จู่ๆคนฮอตอย่างสกาย มาเป็นคู่หมั้นแก”
จัสมินพูดพลางตบไหล่ฉันเขย่าไปมาเพื่อเลือกสติ จะให้ฉันดีใจกับคนที่เจ้ามาคุยในเฟซบุ๊คของฉันเนี่ยนะ แล้วนายบ้านั่นไม่ได้บอกฉันว่าทำไมถึงมาแอดฉันเป็นเพื่อนได้ ทั้งที่ฉันแทบไม่รู้จักนายฟ้าไม่มีสีบ้านั่น โอ๊ยเซ็งจริง มีสิ่งเดียวที่สามารถระบายอารมณ์ของฉันได้ คือ การเอาบีบีขึ้นมากดพิมพ์ว่า
‘อยากตายยยยยโว้ย’ แน่ๆนอนๆว่าตอนนี้ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว อีตาบ้านั่นคงเข็ดจนไม่กล้าโผล่หน้ามาเจอฉันแล้วละมั้ง ตอนนั้นคิดแผนออกมาได้สะใจจริงๆ หึทีนี้ นายบ้านั่นจะได้รู้ซักทีว่า อย่ามายุ่งกับคนอย่างฉันจะดีกว่า
“ก๊อกๆๆ คุณหนูขา ลิลลี่นะค่ะ ขอเข้าไปหน่อยค่ะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงของป้าลิลลี่ แม่บ้านคนสนิทของฉัน ถ้าเป็นคนอื่นนะ ฉันไม่เปิดให้หรอก ฉันเลยเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อหาลิลลี่แต่สิ่งที่ฉันเห็นกลับเป็น...
‘นายฟ้าไม่มีสี!!!!!!’
“ฮัลโหล กีวี่ครับ” หมอนั่นพูดพลางยิ้มขี้เล่นน่ารักๆ แต่ฉันไม่ใจอ่อนหรอก
“O[]o” ฉันน่ะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
‘ปึ้ง!!!’ ฉันทำอะไรไม่ถูกปิดประตูใส่หน้าหมอนี้ซะเลย อ๊าก!!ตายยาก
“อะไรของแก ปิดประตูเสียงดังคนอื่นจะนอนไม่ได้อยู่แล้วนะ” ยัยจัสมินว่าพลางหาวชุดใหญ่ อ้อ ลืมไปตอนที่ฉันเปิดประตูออกไปน่ะนะ ยัยจัสมินก็หลับไปแล้วหล่ะ
“นายสกาย...!!!” ฉันว่าพลางเหงื่อไหลเป็นสายน้ำเอราวัณ ตัวฉันแนบชิดติดฝาฝนังประตูสีดำ อยากตายยกกำลังสองT^T
“ก็ไปหาเขาสิ จบเรื่องคนจะนอน” ยัยจัสมินไม่ว่าเปล่า เปิดประตู แล้วดันฉันออกไปหาอีตาบ้านั่นที่ยืนแฉ่งอยู่
“ไม่ไป เฮ้ยอย่าดัน ไม่ไป” ฉันตะโกนลั่นบ้านในขณะที่ยัยมะลิเน่าดันฉันออกไปนอกห้องก่อนปิดประตูดังปังทันที TT เพื่อนใจร้าย เพื่อนเนรคุณ ฮือๆ อ๊ากไม่มีที่ให้หลบแล้ว มีทางเดียวคือ ‘ เผ่น’ ละ
“บาย” ฉันพูดพลางยิ้มฝืดให้นายสกายก่อนจะวิ่งหนี...
‘หมับ!!!’ แต่ดูเหมือนว่านายนั่นจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันกำลังทำคืออะไร หมอนั่นเลยจับข้อมือของฉันไม่ให้ไปไหน
“นี่ นายบ้าปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไงนายบ้า” ฉันว่าพลางสะบัดข้อมือแรงๆ แต่กลับไม่เป็นผล ที่จะทำให้เขาสะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“ผมชื่อสกาย ไม่ใช่นายบ้านะครับ คุณหนูกีวี่” นายสกายพูดด้วยน้ำเสียงหลงใหลในตัวของฉัน แต่สิ่งที่ฉันจะทำต่อไปคือ...
“นี้แน่ะ!!”ฉันเหยียบเท้าของนายสกายอย่างแรงที่สุด เท่าที่จะแรงได้ ก่อนจะสะบัดมือและวิ่งหนีไปในที่สุด
“โอ๊ย” นายสกายนอนกลิ้งหลุนๆกับพื้น มีเสียงโอดครวญดังขึ้นมาเป็นระยะๆ
เหอะ!!! คนอะไรไม่รู้ ‘บ้า’ จริง แต่ฮู่วเกือบไปแล้วเรา-3- ว่าแต่ตรูจะไปไหนแว๊ ห้องตัวเองล็อคอยู่ ถ้าไปหาเดดดี้อาจจะต้องมาหานายบ้านั่นก็ได้ อ้าก!!! จะหนีนายนั่นพ้นได้ไงเนี่ย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น