ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ~B@ngKoK tOuR+++เที่ยวๆ เที่ยวกันเหอะ~
ที่รัฐสภาเราเสร็จกันประมาณ 4 โมง แต่กว่าจะไปถึงที่พักก็ 5 โมงกว่าแล้วไปถึงเค้าก็ให้เรากินข้าว เราก็เพิ่งรู้วันนี้เองว่า ไอ่ที่เมื่อวานเค้าแทบ
จะไม่ให้ทำอะไรเลย ปล่อยให้เราสบายก็เพราะว่าวันนี้มันจะโหดอย่างนี้น่ะสิ แต่จะไปว่ากิจกรรมเค้าก็ไมได้หรอก ที่มันโหดก็เพราะความโก๊ะ
ของเราเองนั่นแหละ กลุ่มอื่นเค้าคงไม่รู้สึกอะไรมั้ง? พอกินข้าวเสร็จไอ่เกรทก็เดินมาบอกว่า เดี๋ยวครูโอห์มจะไปด้วย (งานหนังสืออ่า) เราก็โอ
เค รีบขึ้นไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนชุดอะไรเรียบร้อย นัดกัน 6 โมง รีบสุดๆ แต่ผลสุดท้ายก็ต้องมายืนรอคนอื่นๆ พวกผู้ชายก็มาช้าเหลือเกิน
กว่าจะมาครบปาไป 6 โมงครึ่ง ในกลุ่มเราที่เดินด้วยกันมีเรา เกรท ตาลเล็ก มิว ปอง อธิฐษ์ 6 คน นอกจากนี้ก็เป็นพวกผู้หญิงกลุ่มน้ำตาล
(ทำไมชื่อตาลนี่มันโหลจังฟะ? เยอะจังง่ะ สับสน) แต่รู้อะไรมะ ตอนที่กำลังจะออกเดินทางอ่านะ ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาซะงั้น ตกเหมือนเขื่อน
แตกบนฟ้า แต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความมุ่งมั่นของพวกเราเลย ดังนั้นเรา ตาลเล็ก เกรท ก็เป็น 3 คนแรกที่วิ่งฝ่าฝนออกไปนอกร.ร แต่ไอ่
ที่น่าเจ็บใจก็คือ ระยะทางจากร.ร ถึงทางขึ้น BTS นี่มันใกล้กันซะที่ไหนล่ะ ตอนแรกพวกเราวิ่งไปหยุดที่ใต้สะพานลอยก่อน พอเหลียวซ้าย
เหลียวขวาก็เห็นพวกผู้ชายวิ่งตามมา ก็สังหรณ์ใจว่าพวกเราจะเป็นเพียง 6 คนที่วิ่งตากฝนมาอย่างกะคนโง่ เพราะนอกจากพวกเราที่จะไปงาน
หนังสือ เด็กคนอื่นเค้าก็ไม่ไปเที่ยวกันเพราะฝนมันตกหนักมาก แต่ที่ไหนได้ ระหว่างที่ฝากกระเป๋าตังค์กะมือถือไว้ในกระเป๋ามิว ก็เห็นครูกะ
พวกที่เหลือวิ่งตามมา ค่อยยังชั่ว เกือบจะกลายเป็นตัวตลกซะแล้ว
จากนั้นเราก็วิ่งไปกันต่อจนถึงสะพานขึ้น BTS แต่ละคนดูไม่จืดเล้ย นี่ถ้าเอาสบู่ แชมพูไปด้วยนี่คงสนุกน่าดู แต่ที่น่าแปลกใจก็คือน้ำตาล มาย
มิ้น ก็วิ่งมากะเค้าด้วย ตอนแรกเรานึกว่าฝนตกขนาดนี้คงจะแคนเซิลโปรแกรมแหงๆ พอเห็นเจ๊แกวิ่งเอาหมวกคลุมหัวมานี่รู้สึกเหมือนกะเห็นสิ่ง
มหัศจรรย์ชนิดที่ 9 ของโลกเลย พอไปถึงสถานีสุรศักดิ์พวกเราก็เดินไปซื้อตั๋วและไปขึ้นรถกันอย่างรวดเร็วด้วยความที่กลัวว่าจะไม่ทันนั่นเอง
พวกเรานั่ง BTS จากสุรศักดิ์มาที่อโศกจากนนั้นก็เดินบนทางเชื่อมจากอโศกไปMTS สีลม(รถไฟใต้ดิน) การซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินนี่ก็เป็นอะไร
ที่แปลกเหมือนกันเนอะ ยิ่งไอ่พลาสติกกลมๆสีดำนั่นเป็นอะไรที่แปลกมาก ตอนแรกก็งงว่ามันให้มาทำไม ตอนหลังถึงเข้าใจ ว่าเค้าให้เอาด้าน
ที่มีตัวอักษรนูนขึ้นมาไปทาบกับเครื่อง ตอนแรกก็คิดว่า ทำไมมันไม่เอาบัตรเหมือน BTS ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่พอมาคิดอีกที งั้นคนที่
เนียนเอาบัตร BTS มาได้ก็ได้นั่งฟรีน่ะสิ แล้วความสงสัยในเรื่องนี้ก็ผ่านไป พวกเราเดินลงไปถึงที่รอรถไฟ แล้วรถไฟมันมาพอดีไง ครูโอห์มก็
เลยบอกให้พวกเราไปกันก่อน(แค่ 6 คน)เพราะครูต้องรอพวกที่ยังซื้อเหรียญพลาสติกไม่เสร็จ (ชื่อใหม่มันไง) พวกเราไม่ลังเลที่จะไปก่อน
เลย เพราะรีบมากนั่นเอง พอไปถึงที่สถานีหอประชุมสิริกิติ์ฯ ตอนแรกก็กะจะยืนรอครูนั่นแหละ แต่ Mr.Shrimp เค้าแนะนำให้ไปก่อน เราก็โอ
เคอ่านะ เอางี้ ถ้าเกิดครูทำโทษมาละก็ ก้อบอกว่า Mr.Shrimp เป็นคนบอกให้ไปก่อนก็สิ้นเรื่อง ^^ พวกเรากึ่งวิ่งกึ่งเดินไป(เหมือนจะรู้ทาง)
แต่ในที่สุดก็ไปถึงจนได้ จากนั้นพวกเราก็ทางใครทางมันทันที แล้วเราก็ไปเพลิดเพลินกับกองหนังสือใหม่ในบูธต่างๆ
ตอนแรกดูบูธของนานมี แต่สักพักก็เดินออกไปข้างนอก ไปเจอบูธของนายอินทร์ มันลดราคาหนังสือ เราก็เลยไปได้สาวใส หนุ่มซ่าส์ ตามล่า
หารักมา 2 เล่ม ทั้งที่อ่านไม่รู้กี่รอบ แต่ก็อยากได้มาสะสมง่ะ ให้ลูกให้หลานได้อ่าน(คิดไปไกลวุ้ย - -;;) และก็ได้หนังสือไปฝากน้องอีก 1
เล่ม จริงๆก็อ้างไปงั้นแหละ ตัวเราเองก็อยากอ่านด้วย แหะๆ หมดไป 500 พอดีเป๊ะ ก็ปลอบใจตัวเองว่า “ไม่เป็นไรหรอกน่า นานๆทีมันจะลด
นะ ถูกกว่าเชียงใหม่ตั้งเยอะ ไม่ซื้อวันนี้แล้วจะซื้อเมื่อไหร่ จิงมะ?” ระหว่างนั้นเกรทก็โทรมา เสียงมันรอบๆมันดังมาก เราก็ได้ยินอะไรแว่วๆ
ว่า “โดนครูตี...ว่ะ”  โอ้โห ตอนนั้นแหละ ขนลุกซู่เลย รู้สึกอากาศรอบๆตัวมันร้อนขึ้นมา ครูต้องโกรธแน่เลยที่พวกเรามาก่อนโดยไม่รอครูที่
สถานนี พอนึกภาพครูโอหม์โกรธตอน ม.2 (ที่พวกเราไม่ส่งงาน) ครูน่ากลัวมากเลย เหงื่อตกเลยค่ะทีนี้ ก็เลยลองถามไปใหม่ให้แน่ใจ “อะไร
นะ” “บงกชการ์ตูนเพียบเลยว่ะ” โธ่เอ๊ย นึกว่าอะไร ค่อยยังชั่วหน่อย ว่าแต่กลับไปต้องไปเช็คหูหน่อยละ ได้ยินเพี้ยนไปคนละโยชน์เลย
สงสัยจิตใต้สำนึกอันดีงาม(แหวะ) มันหลอนให้ได้ยินอย่างนั้น จากนั้นก็เลยนัดเกรทให้พาเราไปที่บูธบงกช เรื่องการ์ตูนมีเรอะตาลจะพลาด
พอเกรทมันส่งเราเสร็จ มันก็ไปของมันต่อ พอเราไปยืนที่บูธ พี่ผู้หญิงในบูธกำลังเล่าเรื่องย่อการ์ตูนให้ลูกค้าฟังอยู่ เราก็แบบ โห นี่พี่อ่านทุก
เรื่องเลยเหรอ? เล่าได้เป็นฉากๆ จากนั้นพี่เค้าก็หันมาถามเราว่า อยากได้เรื่องไหนสอบถามได้นะค้า... เราก็ลองตอบมั่วไปว่า “อรุณสวัสดิ์ ส่ง
รักมาทักทายค่ะ” พี่เค้าก้อหยิบมาให้เลย 
เอาแล้วทูตในสมองเราเริ่มทำงานแล้ว เอวิลก็บอกว่า
“ตาลซื้อเลยมันเป็นเรื่องโปรดของเธอนะ “
แองเจิลก็ขัดขึ้นว่า “แต่มันแพงนะ เค้าขายเป็นเซ็ทตั้ง 13 เล่มแหน่ะ”
“แต่เค้าก็ลดราคานะ” อืมๆมีเหตุผลแหะ จากนั้นเอวิลก็ร่ายยาวเลย
“เรื่องนี้น่ะที่เชียงใหม่ไม่มีขายแล้วนะ แล้วซื้อที่นี่ของก็ใหม่ด้วย โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆนะ คิดดีๆ” ก็รู้กันใช่มะว่ายังไงเอวิลก็ชนะอยู่วันยังค่ำ
เสียไปอีกประมาณ 370 บาท
มาครั้งนี้เสียด้าย เสียดายที่เจสปายไม่มาตั้งบูธ อุตส่าห์ตั้งใจจะมาซื้อ แต่ไม่มาน่ะดีแล้ว ไม่งั้นวันกลับคงได้เดินตัวเปล่าแน่เลย พอเดินๆไป
เรื่อยๆก็เห็นหนังสือ J pop star ลด 50% ซื้อมา 2 เล่ม 70 บาท เธอกับฉัน ปกพี่บีม 50 บาท พอเดินไปจุดที่นัดกับเพื่อนไว้ ก็เริ่มรู้สึกหนักขึ้น
มาแล้ว เดินๆไปก้อเริ่มหนักมากกกก ขากลับก็เลยต้องแบ่งให้พวกผู้ชายถือกันบ้าง เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของเรา(ที่คนอื่นเค้าไม่ต้องการ) แต่
ยกเว้นมิวนะ เห็นมันถือของให้ตาลเล็กแล้วสงสาร เพราะตาลเล็กก็ซื้อแบบเรานั่นแหละ เยอะแยะเต็มไปหมด เบ็ดเสร็จมาวันนี้ทั้งค่าหนังสือ
ค่าเดินทาง เสียไปพันกว่าๆ มานั่งคิดแล้วก็เพิ่งเข้าใจหัวอกพวกสาวๆนักช็อปตอนถังแตกขึ้นมาเลย ก็มันเพลินนี่ อันนี้ก็ดี อันนี้ก็น่าซื้อไปหมด
คืนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะนอนหลับฝันดีเพราะได้ของที่ต้องการ หรือฝันร้ายที่กระเป๋าตังค์แฟบดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น