ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++~~ไดค่ายสังคมจ๊า~~++

    ลำดับตอนที่ #4 : ~B@ngKoK tOur++วัดวาอาราม~

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 48


    ตอนเช้าพวกเพื่อนๆในห้องตื่นกันตีห้า แต่เรากะไอ่เกรท ตื่นตีห้าครึ่ง ผลพวงจากการคุยกันเมื่อคืนนี้ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงไปกิน



    ข้าว ที่บีซีซีนี่อาหารเค้าก็ทำดีนะ แถมยังมีคนมาช่วยเก็บจานอีกด้วย เสร็จครูก้อแจกพวกอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการแรลลี่ดินแดนประวัติ



    ศาสตร์ที่ๆเราจะจำไปอีกนานแสนนาน ตอนแรกก็นั่งรถไปที่วัดเชตุพน ครูเค้าก็มีโจทย์ให้ไปถ่ายรูปโบราณสถาน โบราณวัตถุต่างๆมาให้ครบ



    ไอ่เราก็เดินค่ะ เดินวนมันอยู่อย่างนั้น ได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วไอ่ที่เป็นปัญหาก็คือ สิ่งที่เป็นโจทย์เหล่านั้นนับชิ้นได้เลยที่จะมีป้ายชื่อบอก ต้อง



    อาศัยปากอย่างเดียว แล้วรูปปั้นหินแต่ละอย่างก็คล้ายๆกันทั้งนั้น จะไปรู้ได้ไงว่าอันไหนเป็นอะไร มีอันเดียวซะที่ไหนล่ะ อย่างเจดีย์ลายเนี่ย



    เดินไปไหนก็เจอ ส่วนไอ้ที่หายังไงก็หาไม่เจอก้อคือ รูปปั้นสาวจีน กะ ลั่นเลา ไอ่ลั่นเลาเนี่ยมันคืออะไรกัน ใครรู้ช่วยบอกหน่อย และไอ่ความ



    ที่ไม่รู้เนี่ยแหละก็เลยหาไม่เจอ ถามคนแถวนั้นก็ไม่รู้จัก ไอ่พวกผู้ชายในกลุ่มก็หายหัวไปอยู่กะเพื่อนมาน ไม่ได้คิดจะช่วยอะไรบ้างเล้ย มี



    เหมือนไม่มี เหนื่อยสุดๆ เสร็จแล้วก็รับภารกิจต่อไป ในนั้นเค้าบอกว่าให้ข้ามถนนแล้วเดินไปเรียบกำแพงไปจนสุดกำแพง พอเราข้ามถนนไป



    อ๊ะ เจอแล้วสุดกำแพงห่างจากที่เรายืนประมาณ 200 เมตร ถึงแม้แดดจะแรง ไม่เป็นไร สู้! V(*o*) แต่ใครจะรู้ว่านั่นมันเป็นเพียงแค่ด้านหนึ่ง



    เท่านั้น เรายังคงต้องเดินไปอีกด้านหนึ่ง TTOTT เมื่อไหร่จะถึงฟะ เพิ่งจะรู้ว่ากำแพงเมืองมันยาวขนาดนี้ ในทีวีไม่เห็นยาวแบบนี้เลยอ่ะ พอเข้า



    ไปที่ประตูกำแพง ก็ไปนั่งพัก สักพักหนึ่งก็เห็นพวกนักเรียนม.ปลายญี่ปุ่นเดินผ่านมา อ๊ายยยย น่ารักมาก ทั้งคนทั้งชุดได้ใจมาก เหมือนใน



    การ์ตูนเลย ผู้หญิงก็ใส่เสื้อเชิร์ตแขนสั้นสีขาว ทับด้วยเสื้อไหมพรมแขนกุด กระโปรงเป็นกระโปรงสั้นลายขาวดำ ถุงเท้าสีดำขึ้นถึงเข่า น่า



    ร๊ากกก ส่วนผู้ชายก็ใส่เชิร์ต กางเกงสแลคสีดำ ว่าแต่ผู้ชายญี่ปุ่นเนี่ย มีสองประเภท ไอ่ที่ไม่หล่อก็ไม่หล่อจนต้องเมินหน้าหนี แต่ไอ่ที่หล่อก็



    หล่อโคตรรๆ หล่อมากกกกกจนต้องเหลียวหลัง หุหุหุ ดีจิงๆที่รีบเดินมาถึงก่อน เลยได้เห็นทุกคนเลย แล้วมีพี่ผู้ชายคนนึงเดินมากับเพื่อนอีก



    สองคน เค้ามองมาทางที่เรากะเพื่อนยืน เราก็นึกว่ามองอะไร พอเหลียวหน้าเหลียวหลังก็ตรัสรู้ว่าเค้าชี้ให้เพื่อนดูไอ่ชาย-สุดที่รัก ซึ่งมันเดินมา



    เหนื่อยแล้วก็มานั่งกองอยู่ที่พื้นตรงหน้าที่เรายืน อารมณ์ประมาณว่า ‘ดูเด็กคนนั้นสิ ทั้งอ้วน ทั้งดำ นั่งเหมือนอึ่งอ่างจำศีลเลย’ ขอโทดนะไอ่สุด



    ที่รัก แต่หน้าพี่เค้าประมาณนี้จิงๆ เหมือนเจอสิ่งมหัศจรรย์ยังไงยังงั้นเลย









    ที่วัดพระแก้วนี้ภารกิจแรกเค้าให้ไปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติที่มาเที่ยว เช่น ชื่ออะไร มาจากไหน อยู่กี่วัน รู้จักเชียงใหม่มั้ย ชอบเมืองไทยรึป่าว



    ตอนแรกเราจะไปถามพวกนร.ญี่ปุ่น แต่ไอ่แต้มมันขอถามเอง เราก็ตกลง แล้วมันก็ไม่กล้าไปถามสักทีจนพวกนั้นเดินกลับไปหมด พอมีพี่สาว



    ฝรั่งคนนึง ส้วย สวย หน้าอย่างกะดารามากับแฟนเค้า มันก้อไม่กล้าไปถามอีก เราก็บอกว่าจะไปเรียกให้ มันก็บอกไม่กล้า พอบอกว่าจะไป



    สัมภาษณ์ให้เอง มันก็ไม่เอา เซ็ง จนสุดท้าย แถวนั้นแทบจะไม่มีคนก้อเลยใช้ทางเลือกสุดท้ายไปขอสัมภาษณ์คนเกาหลีที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เรา



    สังเกตแล้วเราว่าไม่เวิร์กเลย เพราะดูจากลักษณะเค้าประมาณว่า เป็นพวกนักเที่ยวแบบเพลย์บอย เพลย์เกิลมากกว่า แล้วพอไปสัมภาษณ์มัน



    ก็ไม่เวิร์กจิงๆ เราเคยดูคนผิดซะที่ไหนกันล่ะ เค้าเอาแต่หัวเราะอย่างเดียว  ไม่ค่อยตอบ ไม่รู้เป็นเพราะเค้าพูดอังกฤษไม่เก่งหรือว่าไอ่แต้มพูด



    ไม่รู้เรื่องกันแน่ แล้วก็เอาแต่พูดเกาหลีกะเพื่อน ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  เดินๆไปสักพักก็



    ลืม จากนั้นก็ไปเดินวนถ่ายรูปในวัดพระแก้วตามโจทย์เหมือนที่วัดเชตุพน ถ่ายจนเหลืออยู่อย่างเดียว คือ อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1-2-3 ด้วยความ



    ที่ไม่รู้เราก็ไปถามยามที่หน้าพระอุโบสถเค้าก็บอกว่าอยู่ฝั่งนู้น แต่ก็ไม่ได้บอกว่านู้นน่ะมันนู้นไหน ไอ่เราก็ไปเดินหา เดินผ่านเพื่อนถามก็ไม่มี



    ใครรู้สักคน ก็เลยไปถาม Guideที่พาทัวร์มาเที่ยว เค้าก็บอกว่าอยู่ข้างบนให้ขึ้นบันไดไป เราก็ขึ้นไป พอไปถึงก็ไม่เห็นมันจะมีอนุสาวรีย์อะไร



    เลย พอไปถามบางคนเค้าก็บอกไม่รู้ แต่บางคนเค้าก็ชี้ไปที่แท่นพระปรมาภิไธย ซึ่งมีอยู่ 3แท่น พอไปถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำแท่นเค้าก็บอกว่า



    เนี่ยเป็นของ ร.7-8-9 ของ ร.1-2-3 น่ะอยู่อีกด้านหนึ่งของเจดีย์เราก็เดินอ้อมเจดีย์ไป ก้อไม่เห็นมีอะไร จนไปถามใครก็ไม่รู้เค้าก็เฉลยให้ฟัง



    ว่าที่มันมี 3 แท่นน่ะ เพราะแท่นที่ 1 นั้นคือของ ร.1-2-3 รวมกัน อันที่ 2 คือ ร.4-5-6 และอันสุดท้ายคือ ร.7-8-9 อ๋อ ก็เพิ่งเก็ท แต่ตอนนั้นน่ะ



    นะแทบเข่าอ่อนเลย ก็ไอ้สิ่งที่หาอ่ะมันอยู่ตรงหน้านั้นแท้ๆ แล้วเราก็เดินผ่านมันไปมาหลายรอบแล้ว พอหาเจอนี่แค้นเลยนะเนี่ยกว่าจะหาเจอ



    เสร็จแล้วก็ไปรับภารกิจใหม่ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า มันต้องไปถ่ายรูปหมู่เป็นกลุ่มนี่สิ เลยโทรตามพวกผู้ชาย,เปิ้ล,แต้ม ซึ่งหายไปไหนก็รู้ พอโทร



    เรียกปรากฏว่าพวกผู้ชายมันไปกะอีกกลุ่มนึงแล้วไปรอที่ถ่ายรูปแล้ว ส่วน 2สาวไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ก้อต้องนั่งรอกันไปตามระเบียบ





    ...รอแล้วรอเล่า ใยเจ้ายังไม่มา...รอนานมาก มันไปไหนกันนะ ระหว่างที่รอก็มีฝรั่งคน





    นึงเห็นกลุ่มเรานั่งอยู่ ก็เดินเข้ามาพูด”Are you OK If I take a photo ? ” ไม่ว่าเปล่าทำท่าทางอีกด้วย อยากจะบอกว่าพวกหนูถึงไม่ได้



    อังกฤษท็อปแต่ก้อไม่ได้โง่นะค่ะ แต่ก็ยกโทษให้ก็ได้ เพราะคุณลุงอุตส่าห์เล็งเห็นในความสวยของหนู(ที่คนอื่นยากจะเห็น)^^





    1-2-3 แชะ!!    



    จะว่าไปนี่รอบสองแล้วนะที่โดนถ่ายรูปเนี่ย รอบแรกนั้นอยู่ในช่วงการโดนปั่นหัวให้หาอนุสาวรีย์i.1-2-3อยู่ ก็มีพวกแขก(อินเดีย)กลุ่มหนึ่ง



    กำลังถ่ายรูปอุโบสถกันอยู่ เรากำลังจะเดินผ่าน พอเห็นไอ่เราก็มีมารยาทไง เลยเดินออกมาให้พ้นระยะกล้อง แต่ลุงแขกแกดันเดินเข้ามา



    ประมาณว่าจะให้ถ่ายรูปด้วย เอามือโอบเราเข้าไปซะงั้น ไอ่พวกเพื่อนผู้แสนดีน่ะเหรอ? นู่น วิ่งหนีไปหลายเมตรเลย ปล่อยให้เราต้องถ่ายรูป



    คนเดียวซะงั้น ฮึ่ม! -*-



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×