คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เข้าค่าย1
เช้าวันที่ไปค่ายทหาร
“ยายอุ้มตื่นเลยนะ” เสียงดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าอันมหาศาลของหนิง
“นี่เธอช่วยเบามือหน่อยได้ไหม ฉันตื่นแล้ว”
“เสียงงัวเงียอย่างงี้ ตื่นบ้านเธอซิ รีบๆเลยเราต้องไปคณะก่อน 7 โมงนะ” ฉันเห็นเงาลางๆของหนิงเดินออกไป
การที่ต้องลุกขึ้นจากเตียง นี่ยากจริงๆ ตอนนี้แม้แต่ลืมตาฉันยังทำไม่ได้เลย ฉันนั่งอยู่อย่างงั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหานาฬิกา หา!!!!! 6โมงครึ่งแล้ว ตาฉันเบิกกว้าง รีบผละตัวออกจากที่นอนทันที
“ทำไม ไม่ปลุกฉันเร็วกว่านี้” ฉันบ่นหนิง
“คิดว่าฉันเพิ่งปลุกเธอเมื่อ 5 นาทีนี้รึไง คนขี้เซา” หนิงพูดก่อนจะหยิบหวีมาหวีผม
ฉันไม่รู้ว่าฉันอาบน้ำกี่นาที แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถูสบู่แล้วรึยัง ฉันรีบวิ่งกลับมาแต่งตัวเมื่ออาบน้ำเสร็จ หนิงนั่งอ่านการ์ตูนอย่างสบายใจดูฉันซึ่งวิ่งไปวิ่งมาเพราะความรีบ ฉันแต่งตัวแล้วพร้อมออกจากหอเมื่อนาฬิกาชี้ว่า 6โมง 55 นาที เฮ้อ เช้าที่แสนจะวุ่นวายของฉันก็จบลง ฉันกับหนิงเดินถือกระเป๋าใบโตลงมา
“อุ้มวันพรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านนะ” หนิงพูดขณะที่เราเดินไปยังคณะ
“ตอนกลับมาจากค่ายหน่ะเหรอ” ฉันหันหน้าไปถาม
“ อืม เพราะเป็นงานญาติที่ต่างจังหวัดหน่ะ กลับมาจากค่ายฉันคงไปเลย แกนอนคนเดียวได้ใช่ไหม ” หนิงแสดงท่าทีที่เป็นห่วง
“บ้ารึเปล่า ห้องไม่มีแกสบายดีออก” ฉันล้อเล่นเพื่อให้หนิงสบายใจ
“เออนะ งั้นของฝากอย่าเอาเลยนะ”
“อ้า อย่านะ” ถึงจะพูดไปอย่างงั้น แต่การอยู่ห้อคนเดียวก็เหงาเกินไป จริงๆ
เฮ้อ นี่วันหยุดนี้ฉันต้องอยู่คนเดียวเหรอเนี่ย พ่อกับแม่ก็ไปต่างจังหวัดอีก ทำไมพระเจ้าลงโทษอุ้มอย่างงี้หล่ะค่ะ จะกลับบ้านก็ไม่มีใครอยู่ อยู่หอก็ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน แย่อะไรขนาดนั้น
“ทำไมทำหน้าอย่างงั้นหล่ะ อุ้ม” กันทัก ดูสีหน้าเขาจะเป็นห่วงฉันเหมือนกัน
“เปล่าหรอก พอดีอาทิตย์นี้เหมดกลับบ้านหน่ะสิ” ฉันพูดอย่างห่อเหี่ยว
“งั้นก็กลับบ้านซิ” กันส่งยิ้มให้
“พ่อแม่ก็ไปต่างจังหวัดซะนี่ เฮ้อ” ฉันถอนหายใจ
“งั้นมานอนหอเราไหม” กันยิ้มกว้างขึ้น
“หอชาย ขึ้นได้ที่ไหน” ฉันจ้องหน้าเขา
“ได้ซิฮ้า ก็แต่งเป็นเทยไงฮ้า” เขากวักมือ กระพริบตาถี่ๆ ดูเป็นกระเทยที่......................น่ารักจริง ^.^
“สยองพิกล” ฉันหัวเราะ ฉันไม่ชมเขาหรอก เพราะถ้าเขาเป็นจริงก็น่าเสียดาย
“ทำไม วินยังไม่มาอีก” ฉันหันไปมองข้างๆ แล้วมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง อ่ะ 7โมง 15แล้ว ฉันกดโทรศัพท์หาวินทันที
“อะไร” เสียงรับโทรศัพท์ยังโหดเหมือนเดิม
“เมื่อไรนายจะมาซะที” ฉันพูดอย่างเหนื่อยหน่าย
“ถ้าเธอไม่โทรมาคงเร็วกว่านี้แหละ ยายบ้า” คำพูดนี้ทำให้ความอดทนฉันหมดลง
“อะไรนะ จะไม่มาก็ช่างนาย คนอย่างนายฉันใครอยากเห็นหน้ามิทราบ” ฉันพูดด้วยเสียงที่โกรธสุดขีด
“อุ้ม ใจเย็นๆ นี่เราปันนะ” เสียงอีกฝ่ายดูสุภาพจัง
“ขอโทษนะปัน คือฉัน...” โอ้ยคนที่ฟังฉันด่าเหรอเนี่ย
“คือว่า รถปันเสียเลยให้วินมารับหน่ะ อย่าโกรธวินเลย ” โอ้ยพระเจ้าถ้าฉันรหัสข้างปันคงดีแน่
“ใครสนหล่ะว่ายายบ้าจะโกรธรึเปล่า” เสียงนายวินดังมาจากในโทรศัพท์
“แค่นี้นะอุ้มแล้วเจอกัน” ปันวางหูก่อนฉันจะได้พูดอะไร
ฉันรู้สึกอยากจะเอานายวินมาแล่เนื้อจริงๆ
“นายวิน” ฉันพูดอย่างโกรธสุดชีวิต
“จะมารึยังหล่ะ” กันยิ้มให้อย่างไม่รู้อะไร
“ช่างหัวเขาเถอะ” ฉันไม่รู้จะตอบอะไรดี
อีกไม่นานปันกับวินก็เดินเข้ามาใต้ตึกอย่างไม่เร่งรีบ โห นี่ฉันเสียค่าโทรศัพท์ไปเพื่อเถียงกับนายวินเหรอเนี่ย ฉันพยายามระงับความโกรธก่อนนายวินจะมานั่งข้างๆ
“น้องผู้หญิงเอากระเป๋าไปวางที่รถบรรทุกเลยครับ เอ้าลุกเลยครับ” พี่ผู้ชายปี 2 คนนึ่งที่ยืนข้างหน้าตะโกนเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
ฉันค่อยๆลุกขึ้น แล้วก็ยกกระเป๋าตัวเองขึ้นช้าๆ
“โอ้ย” เสียงนายวิน
อ่ะ การเป๋าฉันไปโดนวินเข้า นายวินหันหน้ามามองด้วยสายตาดุดัน
“อะไรของเธอยายซุ่มซ่าม” นายวินพูด
“ขอโทษ” ฉันว่าน้ำเสียงของฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พูด
ฉันตัดบทโดยการรีบเดินออกไป เพราะถ้ายืนอยู่ตรงนั้นฉันคงเถียงกับวินไม่เลิกราแน่ๆ ฉันเดินถือกระเป๋าไปไว้ที่รถบรรทุก ที่มีพี่ๆปี2 คอยยกกระเป๋าขึ้นรถให้
“ขอบคุณค่ะ” ฉันบอกพี่ที่รับกระเป๋าของฉัน
“ครับ ไปขึ้นรถข้างหน้าได้เลยนะครับ” พี่เขาพูดกับฉันอย่างสุภาพ
ฉันออกเดินมุ่งหน้าไปยังรถบัสพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันเพิ่งสังเกตว่าฉันออกมาจากแถวช้ากว่าคนอื่นๆ คงเป็นเพราะมัวเถียงกับนายวินนั่นเอง ฉันเดินไปจนเห็นหนิงยืนรออยู่ข้างหน้า
“อุ้ม เร็วๆไม่งั้นเธอต้องนั่งรถกับผู้ชายแน่ๆ” หนิงดูมีท่าทางตื่นๆ
เราเร่งฝีเท้าจนไปถึงรถบัสคันแรก ที่เต็มไปด้วยผู้หญิง ฉันว่าคงอัดเข้าไปไม่ไหวแล้ว
“คันที่2ก็ไม่ว่างแล้ว” ผู้หญิงที่ยังไม่ได้ขึ้นรถคนหนึ่งพูด
ฉันหันไปมองรอบๆ เห็นเหลือผู้หญิงอีกประมาณ 10 คนที่ยังไม่ได้ขึ้นรถ
“อ่ะ ยังเหรอครับ งั้นขึ้นรถคันที่ 3 เลยครับ” พี่ปี2คนที่ยกกระเป๋าให้ฉันเดินมาพอดี พลางชี้ไปที่รถบัสอีกคันหนึ่ง
ทุกคนทำหน้างง และมองหน้ากันโดยที่ไม่ได้เดินขึ้นรถแม้แต่คนเดียว
“ไปซิครับ เดี๋ยวผู้ชายมาแล้วไม่มีที่นั่งนะ” พี่เค้ายิ้มก่อนจะเดินนำไปทางรถคันที่ 3
ทุกคนที่เหลือรีบเดินไปขึ้นรถคันที่ 3 ทันที ฉันเดินเข้าไปนั่งริมหน้าต่าง แล้วหนิงก็ค่อยๆนั่งลงข้างฉัน ทุกคนนั่งด้านหน้าของรถโดยเหลือที่นั่งทางตอนท้ายไว้ให้ผู้ชายที่เหลือ
“น้องครับรีบๆขึ้นนะครับสายแล้ว” พี่ปี 2 คนหนึ่งพูดกับพวกผู้ชายที่เดินมาขึ้นรถ
มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งขึ้นมาบนรถคันที่ 3
“เฮ้ย นุ่นๆ นั่งรถคันนี้เหรอ” ผู้ชายแปลกหน้าทักผู้หญิงที่นั่งหน้าฉัน
เสียดังเริ่มเกิดขึ้นในรถ และรถคันอื่นก็ค่อยๆเต็ม จนกระทั่ง
“อ่ะ นั่นพวกนายวินนี่” หนิงทักเบาๆ
ฉันเห็นแล้ว สาธุนายวินไปนั่งรถคันอื่นเถอะ
“วิน ปัน หมี นั่งรถคันนี้ด้วยกัน” ผู้ชายแปลกหน้าคนเดิมชะโงกหน้าตะโกนออกไป
“นั่งคันนี้เถอะ ขึ้เกียจเดินละ ” หมีพูดกับวินและปัน
ทั้ง 3 คนเดินขึ้นมาทางด้านหลังของรถบัส
“อุ้ม ทำไมต้องหลบด้วย” หนิงทัก
อ่ะ ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าฉันพยายามทำตัวต่ำลงๆ เพื่อไม่ให้นายวินเห็นตั้งแต่เมื่อไร
“เมื่อกี้ฉันเพิ่งทำเลาะกับวินมา” ฉันกระซิบ
“แล้วทำไมต้องกระซิบด้วย” หนิงกลั้นหัวเราะก่อนจะถามออกมา
“ก็” ฉันกำลังอ้าปากตอบก่อนจะมีเสียงมาแทรก
“หนิง ” เสียงนายหมีดังมาจากข้างหลัง
ฉันค่อยๆนั่งยืดตัวขึ้นช้าๆ
“อุ้ม นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยเหรอ” หมีเดินมานั่งที่เบาะข้างๆเรา
“มีอะไรเหรอ ” ฉันทักอย่างเสียงแผ่วๆ
“แล้วหายโกรธวินรึยัง” ปันเดินมานั่งเบาะหลังจากหมี
รถเริ่มเคลื่อนที่ช้าๆ
“ฉันเปล่าโกรธนะ” ฉันไม่อยากเหลียวหลังไปมองเลย กลัวนายวินอยู่ใกล้ๆ
“อย่าไปถือสาเลย วินหน่ะปากร้ายไปยังงั้นเอง” ปันมองแล้วพูดอย่างจริงจัง
ฉันพยักหน้าก่อนจะเอามือรวบผ้าม่านที่สะบัดเพราะแรงลม
“นี่ๆ แล้วเธอสองคนจบจากโรงเรียนไหนเหรอ” หมีถามด้วยรอยยิ้ม
“เราจบจากรอบนอกหน่ะ พวกเธอไม่รู้จักหรอก” หนิงเป็นคนตอบ
“แล้วพวกนายหล่ะ” ฉันถามอย่าง
“พวกเราจบจากโรงเรียนวัด คงไม่มีใครรู้จักหรอก” ปันตอบพลางยิ้มไป
“วัดคริสต์หน่ะซิ แล้วอย่างพวกเธออย่าว่าแต่ในโรงเรียนเลย ไปโรงเรียนไหนสาวๆก็รู้จัก” นุ่นผู้หญิงที่นั่งหน้าฉันหันมาบอก
นุ่นเธอสวมแว่น ขาแว่นสีชมพูอ่อน ผมเธอยาวถึงกลางหลัง ดูเป็นสาวเรียบร้อยมาก
“เกินไป นุ่น” ปันพูดยิ้มๆ
“รู้จักนุ่นรึยัง นุ่นจบห้องเดียวกับพวกเรามาหน่ะ” หมีแนะนำ
“นุ่น 038 จ๊ะ” นุ่นยิ้มหวานและเริ่มแนะนำตัวก่อน
“หนิง รหัส 199 ” หนิงพูดก่อน
“อุ้ม 046 ” ฉันพูดพลางส่งยิ้มหวานให้
“เอองั้นอุ้มกับนุ่นก็รหัสใกล้กันหน่ะสิ” ปันถาม
“แต่รหัสระหว่างเรามีแต่ผู้ชายนะ” นุ่นพูด
“อื้ม ฉันก็เลยต้องนั่งข้างกับนาย... ”ฉันเงียบลง “วินหน่ะ”
ทุกคนหัวเราะฉันเบาๆ ฉันจึงแอบมองไปหานายวิน วินนั่งอยู่ข้างหลังกับเพื่อนๆคนอื่น แล้ววินก็หันมามองปันและหมี ทำให้ฉันต้องรีบหันหน้ากลับ ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธเรื่องที่ฉันเอากระเป๋าไปโดนเขาอยู่รึเปล่า
รถแล่นไปอย่างเร็ว ลมพัดผ่านหน้าต่างรถมาอย่างแรง แสงแดดที่เล็ดลอดมานั้นออกจะแรงไปซักหน่อย เสียงพูดคุยในรถเริ่มเบาลง ฉันมองไปรอบตัวสังเกตเห็นเพื่อนหลายคนหลับกันไปแล้ว รถแล่นบนถนนสายใหญ่อยู่นาน จนเลี้ยวเข้าค่ายทหารข้างทาง รถแล่นช้าๆผ่านต้นไม้สีเขียวมากมาย และรถก็หยุดอยู่ข้างสนามหญ้ากว้าง
“น้องๆลงมาเข้าแถวเลยครับ ไม่ต้องเอากระเป๋าลงมานะ” พี่ปี 2 ที่มาถึงอยู่ก่อนแล้วพูดอยู่ใกล้ๆรถที่เพิ่งจะดับเครื่อง
เราเดินลงไปเห็นครูฝึกทหารอยู่กลุ่มหนึ่ง พวกเพื่อนๆปี1 แต่ละคนดูตื่นเต้นเพราะไม่เคยมาค่ายทหารอย่างนี้ แต่ผู้ชายก็ดูเฉยๆ
“เอ้า เราจะแบ่งกลุ่มตามภาควิชาของแต่ละคน” ครูฝึกคนหนึ่งพูดขึ้น
“พี่เลึ้ยงมีภาควิชาอะไรบ้าง” ครูฝึกหันไปถามพี่ปี 2
“มี 8 ภาคนะครับ” พี่ ปี 2 ตอบอย่างสุภาพ
“โอ้ยเยอะไป เอาแค่ 5 ก็พอ” ครูฝึกมีท่าทางดุขึ้น
“งั้นก็ ไฟฟ้า คอมฯ อุตสาหการ เครื่องกล แล้วก็โยธาครับ” พี่ปี 2 นับนิ้วช้าๆ
“จัดกลุ่มเป็น กลุ่ม 1 ไฟฟ้า กลุ่ม 2 คอมพิวเตอร์ กลุ่ม 3 เครื่องกล กลุ่ม 4เครื่องกล และกลุ่ม 5 โยธา แถวตอนลึก แยกชายหญิง ปฎิบัติ! ” เสียงคำสั่งของครูฝึกทำให้ทุกคนวิ่ง
ฉันวิ่งไปเข้าแถวกลุ่มที่ 3อย่างเร็ว หนิงเองก็ยืนอยู่ข้างหลังฉัน
“แต่ละกลุ่มแบ่งผู้ชาย 3 แถว ผู้หญิง 1แถว เรียงตามลำดับไหล่ ตัวสูงอยู่ข้างหน้า เข้าใจไหม” ครูฝึกที่ยืนอยู่หน้าสุดอธิบาย
“เข้าใจครับ/ค่ะ” เสียงตอบดังลั่น
“ปฏิบัติ” เสียงคำสั่งทำให้ทุกคนทำตาม
หนิงตัวสูงกว่าฉันเล็กน้อยทำให้เธอได้ยืนอยู่ข้างหน้าฉัน เมื่อนับจากหัวแถวฉันเป็นคนที่3 แต่พอมองไปที่แถวผู้ชาย ข้างฉันเป็นเพื่อนใหม่แปลกหน้า ฉันเห็นหมีอยู่แถวที่ 2 ส่วนปันและวินก็อยู่หน้าสุดเพราะความสูงนั่นเอง
“ถ้าเรียกเข้าแถวครั้งต่อไป ให้เข้าแถวตามนี้ เข้าใจไหม” ครูฝึกพูดเสียงดัง
“เข้าใจครับ/ค่ะ”
หลังจากจัดกลุ่มเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินเข้าไปในค่ายกันทีละกลุ่ม ระหว่างทางแสงแดดตอนใกล้เที่ยงก็ส่องลงมาทำให้ทุกคนบ่นกัน แต่ก็ถูกพี่ปี 2 เตือนเพราะว่าถ้าครูฝึกได้ยินคงโดนทำโทษ เมื่อเราเดินไปใกล้โรงนอน เราก็สังเกตเห็นกระเป๋าของเราถูกขนมาวางไว้ที่ใต้ต้นไม้ใกล้กับโรงนอนเรียบร้อย เราจัดแถวใกล้ๆกองกระเป๋านั่น
“โรงนอน 3 ข้างหลังนี้จะเป็นของผู้หญิง ผู้ชายห้ามยุ่ง” ครูฝึกที่ดูท่าทางสนุกสนานคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้มีเสียงหัวเราะของพวกผู้ชายดังออกมา
“ส่วนผู้ชายนอนที่โรงนอน5และ6 เข้าใจไหม” ครูฝึกพูดต่อ
“เข้าใจครับ/ ค่ะ” เสียงพวกเราตอบดังสนั่น
“เดี๋ยวให้เวลา30นาทีเอาของไปเก็บที่โรงนอน เอาผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อย เสร็จแล้วมารวมกันที่นี่เมื่อมีสัญญาณนกหวีด แล้วจะกินข้าว เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ/ ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวบอกเลิกแถวแล้วพูดพร้อมกันว่า เฮ้! ทำได้ไหม” ครูฝึกย้ำ
“ได้ครับ / ค่ะ” เสียงแต่ละคนกระตือรือร้น
“เลิกแถว”
“เฮ้”
คนที่มาเอากระเป๋าเต็มไปหมด กว่าฉันกับหนิงจะหากระเป๋าเจอก็ผ่านไป 5 นาทีแล้ว เราค่อยๆเดินขึ้นไปที่โรงนอน เรา 2 คนเดินขึ้นบันไดไปได้ยินเสียงคุยกันดังสนั่น เราเดินผ่านบานประตูมุ้งลวดใหญ่เข้าไป ผ่านเตียงสองชั้นที่อยู่ชิดกัน เพื่อนที่ขึ้นมาก่อนก็จับจองเตียงนอนใกล้ประตูกันหมด เราจึงต้องเดินเข้าไปจนจวนจะถึงประตูอีกฝากหนึ่ง
“หนิง อุ้ม เตียงทางนี้ว่าง” เสียงคุ้นหูดังจากทางเตียงด้านใน
เราชะเง้อมองเข้าไปก็เห็นหน้าของนุ่นที่ส่งยิ้มหวาน เราจึงค่อยๆเดินผ่านคนอื่นๆเข้าไป
“โอ้ย ฝุ่นเต็มไปหมดเลย” เสียงบ่นดังขึ้นมา
ฉันวางกระเป๋าไว้บนเตียงข้างๆนุ่น หนิงปีนไปบนเตียงข้างบน ก่อนจะเริ่มปัดฝุ่นบนเตียง
“ฝุ่นเยอะจริงๆด้วย” หนิงพูดขณะตบหมอนเบาๆ
“เดี๋ยวฉันไปเอาผ้าปูมาให้ละกัน” ฉันเดินออกไปที่ระเบียง เพื่อเอาผ้าปู
เรานำผ้าปูสีขาวปัดฝุ่นบนที่นอนแล้วค่อยปู เมื่อปูที่นอนและใส่ปลอกหมอนมันก็ดูสะอาดพอที่จะนอนได้ เมื่อดูเวลาก็เห็นว่าผ่านไปแล้วประมาณ 20 นาที
“เหลืออีก 10 นาทีเราลงไปข้างล่างกันเถอะ” ฉันชวนหนิงกับนุ่น
“ลงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันต้องรอเพื่อนก่อนหน่ะ” หนิงส่งยิ้มให้
ฉันสังเกตว่ายังมีคนจัดของไม่เสร็จหลายคน ฉันกับหนิงเลยลงไปก่อน ฉันไปนั่งอยู่ตรงใต้ต้นไม้มองไปเห็นหอคอยสูงอยู่ตรงหน้า
“เราต้องโดดหอนี่เหรอ” หนิงมองอย่างเกรงๆ
“มีอะไรที่เธอกลัวด้วยเหรอ” ฉันหัวเราะ
“ยกเว้นความสูงเนี่ยแหละ” หนิงส่งสายตามาปรามๆฉัน
“น่าสนุกดีออก” ฉันยิ้มๆและมองขึ้นไปบนหอคอย
“ไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงจะชอบพวกเขา” ฉันมองตามสายตาของหนิงไป
เหมือนตอนที่ฉันไปรายงานตัวที่คณะวันแรก วิน ปันและหมีเดินมา เวลาที่ปันยิ้มนี่กระชากใจสาวๆแน่นอน ส่วนมาดขรึมของนายวินฉันก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าเท่ห์
“นี่ทำไมชอบใจลอยนัก” เสียงฮ้วนๆของนายวินทำให้ฉันหลุดจากผวัง
วินนั่งลงข้างฉัน ส่วนหมีและปันเดินอ้อมไปนั่งข้างหนิง
“แล้วทำไมนายต้องมานั่งข้างฉันด้วยหล่ะ” ฉันพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมเธอซื้อที่ไว้รึไง” วินทำหน้ากวนใส่ฉัน
“ฉันยังไม่อยากตายเพราะว่าพวกผู้หญิงของนายนะ” ฉันมองไปรอบตัวเพราะสัมผัสได้ถึงรังสีอัมหิต
“ใครเป็นผู้หญิงของวิน” หมีถามในขณะที่หน้าของวินก็ดูงงๆ
“แล้วไม่มีรึไง” ฉันหันไปถามวิน
“ฉัน” วินกำลังจะตอบ
“วินเคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนที่ไหน” หมีพูดแทรก
“เฮ้ยพูดดีๆกว่านี้หน่อยได้ไหม” วินชะโงกหน้าพูดกับหมี
“ฉันไม่ได้หมายถึงแฟน แต่หมายถึงผู้หญิงที่ชอบนายต่างหาก” ฉันทนฟังเขาเถียงกันไม่ไหว
“มีอะไรก็มาบอกฉันซิ เดี๋ยวฉันจัดการให้” วินถอนหายใจ
ทำไมหน้าของฉันร้อนขึ้นมาอย่างนี้นะ><
“ทำไมจะไปต่อยผู้หญิงรึไง” ฉันเถียงไป
ปี๊ด- - เสียงนกหวีดดังขึ้น
“มีอะไรเกิดขึ้นต้องบอกฉันเข้าใจไหม” วินมองหน้าฉันอย่างจริงจัง
“เจ้าค่ะ ไปเข้าแถวได้แล้ว” ฉันทนยืนมองหน้าวินอีกแม้แต่นาทีก็ไม่ได้แล้ว จึงรีบลากหนิงไปเข้าแถวโดยด่วน
“เห็นไหมเขาก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร” หนิงพูดขณะที่เราจัดแถว
ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพราะใบหน้าที่จริงจังของวินผุดขึ้นมาในความคิดของฉัน
เฮ้ย เลิกคิดได้แล้ว(>< ) ( ><)
ความคิดเห็น