ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Maze of love (Fic Super Junior : Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER SEVEN : Can You Hear Me

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 49



    CHAPTER SEVEN : Can You Hear Me



    เมื่อคังอินมาถึงที่ห้องแต่งตัวก็พบว่าคยูฮยอนนั้นขอกลับไปก่อนกับซองมินและอึนฮยอกแล้ว...หลังจากนั้นสมาชิกที่เหลือทุกคนก็กลับบ้านไปพร้อมกัน....และพอถึงบ้านคังอินก็รีบเดินเข้าไปในบ้าน...แต่ก็ไม่พบคนที่ตามหาเลย...มีเพียงอึนฮยอกที่นั่งดูทีวีอยู่เท่านั้นเอง...


    แล้วคยูฮยอนล่ะ... ลีทึกที่เดินเข้ามาทีหลังถามอึนฮยอก...


    คยูฮยอนมานอนกับซองมิน...ซองมินเลยให้ฉันไปนอนที่อื่น...ดูหน้าก็รู้ว่าอึนฮยอกไม่พอใจเท่าไหร่หรอกที่ต้องระเห็จออกมาหาห้องนอนเองเนี่ย...


    เอ๋!!!” คังอินร้องเสียงหลง...


    ไม่ต้องมาเอ๋เลย...สรุปคือฉันต้องไปนอนกับนายวันนี้อึนฮยอกพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์สุดๆ ที่เจ้าตัวเล็กกับหมีทะเลาะกัน แต่เค้าต้องเป็นฝ่ายเดือดร้อนไปด้วยเนี่ย...


    คังอิน...มานี่หน่อย ฮีชอลที่ตอนนี้เดินไปนั่งลงบนโซฟาเรียบร้อยแล้ว


    อะไรเล่า ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่คังอินก็ยอมเดินมายืนอยู่ต่อหน้าเจ้าหญิงคนสวยโดยดี...


    นายจะบอกได้รึยังว่า...คยูฮยอนเป็นอะไรไป...ถ้านายไม่บอกฉันก็ช่วยอะไรนายไม่ได้หรอกนะ... ฮีชอลขอร้องแกมบังคับให้คังอินตอบ(ดูเหมือนจะบังคับมากกว่านะ^^)


    คร้าบๆ...บอกก็ได้...




     

    หลังจากเล่าจบแล้ว....

    โธ่เอ้ย...ทำไมชีวิตฉันวันนี้ มันโชคร้ายอย่างนี้น้า..... คังอินนั่งลงอย่างหมดแรงก่อนจะโวยวายออกมา...


    ฉันว่าแทนที่นายจะมานั่งบ่นอยู่อย่างนี้สู้คิดหาวิธีกลับไปแก้ความเข้าใจของเจ้าตัวเล็กใหม่ดีกว่ามั้ง  ฮีชอลเองก็อยากจะช่วยอยู่หรอก เพราะหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว....มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง แต่ถึงจะให้คนอื่นไปพูดละก็เจ้าตัวเล็กเองก็คงไม่เชื่อหรอก...มีแต่ตัวคังอินนั่นแหละต้องไปจัดการเอง...


    ไอ้วิธีน่ะคิดไว้แล้ว แต่ปัญหาคือเค้าจะยอมฟังฉันมั้ยต่างหาก...แค่วันนี้เค้าก็หนีฉันไปนอนกับซองมินแล้วเห็นมั้ยล่ะแต่คังอินก็ยังบ่นไม่เลิก...


    เออน่ะ...ฉันหาโอกาสให้นายได้...แต่เรื่องความเข้าใจนายจัดการเองละกันฮีชอลตอบอย่างรำคาญ...ทำไมไอ้หมีนี่ปัญหาเยอะจริง เดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะเลย...


    จริงนะ~~~” คังอินหันมาทำหน้าซื่อ สายตาขอร้อง...ทำให้ฮีชอลต้องล้มเลิกความคิดที่จะไม่ช่วยไปได้เลย...


    ~เอ๊า!!!ช่วยก็ช่วย...เกลียดตัวเองจริงๆเลย...แพ้สายตาแบบนี้ทุกที...เฮ้อ...เหนื่อยใจ...~



    จริงสิ...เอ่อว่าแต่...ลีทึกพรุ่งนี้มีงานอะไรบ้าง...เมื่อคิดจะช่วยได้แล้วก็เหลือวางแผนสินะ แต่ว่าพรุ่งนี้มีงานอะไรบ้างเนี่ย...ถ้าไม่ยุ่งมากก็จะดีหรอก...


    ก็มีแค่คิบอม แค่คนเดียวที่ต้องไปถ่ายละครตอนเช้า มี LIVE ที่ KBS ตอนเย็น ส่วน LIVE ตอนบ่ายน่ะยกเลิก สรุปคือ...นอกจากคิบอม พวกเราว่างจนถึงเย็นเลย...


    เฮ้ย...เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่างจริงเหรอ?อึนฮยอกถามด้วยน้ำเสียงตื่นๆ ก่อนที่ลีทึกช่วยย้ำความแน่ใจให้โดยการพยักหน้า...


    “Yeah!!!” อึนฮยอกร้องออกมาด้วยความดีใจ


    ~...นานๆจะว่างสักทีไปเที่ยวกับกระต่ายน้อยดีกว่า...~


    อึนฮยอกคิดในใจก่อนจะอมยิ้มออกมา แค่นึกภาพว่าพรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวกัน 2 ต่อ 2 แล้วก็อดดีใจไม่ได้ ... และเพราะทุกอย่างที่คิดออกมาทางสีหน้าซะหมด...จนฮีชอลรู้สึกหมั่นไส้จึงอดไม่ได้ที่จะขอเหน็บสักหน่อย...


    จะหนีไปเที่ยวไหนอีกละ...?ว่าพลางมองหน้าอึนฮยอก แต่คนถูกมองกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และตอบออกมาว่า...


    เปล่าสักหน่อย... อึนฮยอกปฏิเสธเสียงแข็ง...แต่แค่ท่าทางก็บอกอยู่แล้วไม่รู้จะพูดว่าเปล่าทำไม... ฮีชอลส่ายหน้าก่อนจะพูดต่อ


    สรุปว่ามีแค่คิบอมใช่มั้ยที่ไม่อยู่น่ะ...


    อะไรกันผมคนเดียวเองเหรอ...? คิบอมทำหน้าบูดๆ...


    ~อะไรกัน ทำไมต้องเป็นเค้าคนเดียวด้วยล่ะที่ไม่ได้เห็นอะไรสนุกๆน่ะ...~ (คิบอมจ๋า..ช่วยให้คืนดีกันนะจ้ะ..)


    งั้นพรุ่งนี้...นายก็รีบไปแล้วก็รีบกลับซิ...ไม่เห็นยากเลย...นางฟ้าสุดที่รักช่วยหาทางออกให้หนุ่มน้อยคิบอมซะเรียบร้อย จนเจ้าตัวยิ้มหวานออกมาทันที...ก่อนจะขยับตัวไปนั่งข้างๆแล้วหอมแก้มนางฟ้าไปทีหนึ่ง ทำเอาแก้มขาวๆของนางฟ้าตัวน้อยแดงระเรื่อขึ้นมาทันที


    ทำไมนางฟ้าของผมถึงได้น่ารักอย่างนี้น้า...พูดมาได้อย่างไม่อายปากและใครต่อใครที่ยืนฟังอยู่ทั้งสิ้น...

     


    คิมคิบอมเอ้ย...รู้ตัวมั้ย?...นายกำลังทำให้คนอื่นๆ ที่ยืนและนั่งฟังอยู่ด้วยทั้งเอียนทั้งอิจฉาและหมั่นไส้ไปพร้อมๆกันเลยด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดอะไรๆขึ้นกลางห้องนั่งเล่น เจ้าหญิงคนสวยจึงต้องขัดขึ้นมาซะก่อน


    นี่! ตกลงกันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย...?” ว่าพลางจ้องไปทาง 2 คนที่นั่งอยู่ข้างกัน



    ไม่รู้ว่าเพราะสายตาของคนสวยที่เริ่มจะน่ากลัวไปสักหน่อย หรือว่าพึ่งจะรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คนกันแน่ แต่ก็ทำให้คิบอมและดงแฮพยักหน้าพร้อมกัน... เมื่อเห็นดังนั้นฮีชอลพูดต่อไปว่า

    โอเค...งั้นเรามาวางแผนกันก่อนเข้ามาใกล้ๆกันหน่อยสิ...พอฮีชอลพูดจบคนอื่นก็เริ่มจะเดินเข้ามานั่งล้อมเป็นวงรอบโซฟา มีเพียงเจ้าชายสิงโตหัวฟูเท่านั้นแหละ ที่เดินไปนั่งข้างๆพร้อมกับเอามือของหัวเองโอบไหล่ขาวเนียนของคนสวยไว้...แต่ก็นั่นแหละนะ มีเหรอที่เจ้าหญิงคนสวยจะปล่อยให้เจ้าสิงโตตัวดีมาทำแบบนี้ได้...ฝันไปเถอะ...



    เพี๊ยะ.
    ~~~~


    โอ้ย!!!!...ฮีชอลจ๋ามันเจ็บนะ...ซีวอนร้องออกมาเมื่อฮีชอลตีมือของเขาที่ไปโอบไหล่เจ้าตัวไว้


    แล้วใครบอกให้นายมานั่งข้างๆฉันเล่า...ฮีชอลแว้ดใส่เจ้าชายสิงโตตัวปัญหาอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าชายตัวดีก็ไม่หวั่น... แถมยังเถียงต่ออีกต่างหาก... ก็นายเป็นคนบอกให้มานั่งใกล้ๆไม่ใช่เหรอ...


    ไอ้ที่ฉันบอกน่ะใช่...แต่ว่า...ไม่ใช่ใกล้ขนาดนี้...ไอ้สิงโตบ้า... เจ้าหญิงคนสวยแถมท้ายด้วยการตบหัวซีวอนไปทีหนึ่ง... แต่ไอ้เจ้าชายบ้านี่ก็ยังไม่ยอมเถิบออก...เพียงแต่มือที่ใช้โอบไหล่คนสวยเมื่อกี้นี้ไปอยู่บนหัวของเจ้าตัวเอง...ตอนแรกฮีชอลกะจะบ่นต่อ...แต่ตอนนี้เรื่องคังอินสำคัญกว่าจึงยอมปล่อยๆไป...


    เอาล่ะ...พรุ่งนี้นะ...เริ่มจากนายก่อนเลย...012487954845548*&^%$@#“  

    ข้อมูลต่อไปนี้เป็นความลับไม่อาจเปิดเผยได้...^^ และแล้วทั้ง 11 คนก็ปรึกษาวางแผนกันโดยมีเจ้าหญิงฮีชอลเป็นหัวหน้าในแผนการใหญ่ครั้งนี้...




     

    เช้าวันต่อมา...

    วันนี้เวรทำอาหารเช้าเป็นของเจ้าหญิงคนสวย...ดังนั้นเจ้าตัวจึงต้องตื่นเช้ากว่าปกติ...และด้วยความที่เจ้าตัวต้องตื่นนี่แหละที่ทำให้คนที่นอนอยู่ด้วย ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกัน...


    โธ่!!!ฮีชอล...นายจะตื่นไปทำอาหารก็ไปสิ..ทำไมจะต้องปลุกฉันด้วยล่ะ...เสียงงัวเงียของหัวหน้าวงที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอันแสนอบอุ่นจนไม่อยากจะตื่นขึ้นมาเลย


    น้อยๆหน่อย...นายน่ะ...หัดตื่นให้มันเช้าหน่อยเถอะ....เป็นหัวหน้าวงแท้ๆ ตื่นสายประจำฮีชอลดึงผ้าห่มออกก่อนจะบ่นต่อไปเรื่อยๆ จนลีทึกต้องยอมตื่นขึ้นมาโดยดี...ก่อนจะโดนเจ้าหญิงคนสวยอัดเข้าให้...


    คร้าบๆ....ขอโทษคร้าบ...จะตื่นเดี๋ยวนี้แหละคร้าบ~~~”


    ตื่นได้แล้วก็ไปปลุกคนอื่นด้วยล่ะ...เมื่อปลุกลีทึกได้แล้วฮีชอลก็เตรียมเดินไปในครัวแต่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งให้หัวหน้าวงคนเก่งไปปลุกคนที่เหลือด้วย....


    หา!!!!พูดเป็นเล่น....ก็ปกตินี่เป็นงานของนายไม่.....เอ่อ...ครับๆไปเดี๋ยวนี้แหละครับแค่ได้ยินที่คนสวยสั่ง ลีทึกก็ต้องสะดุ้งพร้อมกับตาสว่างขึ้นมาทันที จนต้องโวยออกมา แต่ยังไม่ทันจะจบก็เจอเข้ากับสายตาพิฆาตของคนสวยเข้าซะก่อน จึงต้องยอมรับไปโดยปริยาย...


    แล้วเดินออกจากห้องไปปลุกคนอื่นตามคำสั่งของเจ้าหญิงคนสวย (แต่โหดจ้า...)โดยปกติแล้วฮีชอลนั่นแหละจะเป็นคนปลุกทุกคนในบ้าน...แต่ไหงวันนี้ถึงยกให้เค้าทำซะดื้อๆเล่า...ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพวกเค้าน่ะตื่นยากกันขนาดไหน...แล้วจะให้เขาไปปลุกเนี่ยนะ...จะได้กินข้าวเช้าก็ตอน 10 โมงซะละมั้งวันเนี้ย.....


     

     

    ทางด้านฮีชอลเองเมื่อปลุกหัวหน้าวงผู้ขี้เซาตื่นแล้ว ก็เดินไปที่ครัวเพื่อจะเตรียมทำอาหารเช้า แต่แล้วสายตาของคนสวยก็สังเกตเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแปะติดอยู่บนตู้เย็น... จึงเดินไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่าน


     

              ...เพราะสมาชิกที่มีเป็นจำนวนมาก เวลาใครหายไปหรือจะไปไหนก็ไม่ค่อยจะรู้ตัวกันสักเท่าไหร่ พอรู้แล้วก็หากันไม่ค่อยจะเจอ... หรือเรียกว่ากว่าจะรู้กันครบทุกคนว่าใครไปไหนก็ตอนที่เจ้าคนที่หายไปกลับมาแล้วนั่นแหละ และเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยตัวอย่างเช่น

              เคยมีอยู่คืนวันหนึ่งที่อยู่ๆผู้จัดการโทรศัพท์มาบอกให้คิบอมกับฮีชอลไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดจึงต้องออกเดินทางตั้งแต่ตอนกลางคืน จึงรีบออกไปกัน 2 คนและไม่ได้บอกกับใครไว้เลย เพราะว่ามันดึกแล้วทั้ง 2 คนจึงไม่อยากทำให้เพื่อนๆตื่นกันจึงออกไปอย่างเงียบๆ แต่พอคนอื่นๆที่ตื่นเช้ามาแล้วไม่พบทั้ง 2 คนก็ออกตามหากันซะให้วุ่น กว่าจะรู้ว่าไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดกันทั้ง 2 คนก็เกือบเย็นแล้ว เล่นเอาคนที่เหลือวุ่นวายกันไปหมด...
     
                และเพื่อแก้ปัญหาอย่างนั้นลีทึกจึงบอกกับทุกคนไว้ว่า เวลาใครจะไปไหนหรือมีงานอะไรให้เขียนโน้ตติดไว้บนตู้เย็น...จะได้รู้ว่าใครไปไหนกันบ้าง...จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

     


    และกระดาษโน้ตแผ่นนั้นก็ทำให้คนสวยรู้ว่าแผนการที่เมื่อวานอุตส่าห์วางเอาไว้ซะดิบดีกลับล้มไม่เป็นท่า...ทำไมน่ะเหรอ..?ก็


     

    เฮ้...ลีทึกฉันมีข่าวร้าย...เจ้าหญิงคนสวยส่งเสียงเรียกท่านหัวหน้าวง...


    อะไรเหรอ... ลีทึกที่พึ่งจะเดินออกจากห้องของคิบอมกับดงแฮ หลังจากปลุกคู่รักที่ชอบสร้างโลกส่วนตัวกันอยู่สองคนให้คนอื่นอิจฉากันเล่นๆเรียบร้อยแล้ว......


    ซองมินออกไปข้างนอกกับคยูฮยอนน่ะบอกว่าบ่ายๆจะกลับมา...


    หา!!! งั้นก็หมายความว่า...?? แค่ได้ยินเสียงที่ฮีชอลพูดออกมาหัวหน้าวงก็ต้องตาสว่างรอบสองขึ้นมาทันที


    ใช่...อย่างที่นายคิดนั่นแหละ...


    แล้วฉันจะบอกคังอินยังไงดีเนี่ย...ลีทึกว่าพลางขยี้หัวตัวเองไปมาก่อนจะหันมาพูดกับคนสวยว่า
    แล้วจะทำยังไงต่อ...


    เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที...ตอนนี้ไปปลุกคนอื่นก่อนก็แล้วกัน...ฮีชอลแปะโน้ตแผ่นนั้นบนตู้เย็นตามเดิมก่อนจะเปิดประตูตู้เย็นออกมาเตรียมของ ปล่อยให้หัวหน้าวงคนเก่งไปจัดการกับการปลุกพวกลูกลิงที่สุดแสนน่ารัก(???)ต่อไป...


     

    เมื่อกี้ปลุกคิบอมกับดงแฮไปแล้ว ลีทึกจึงเดินไปยังห้องถัดไป...ซึ่งเป็นของห้องของคังอินกับคยูฮยอน แต่ตอนนี้คนในห้องกลายเป็นอึนฮยอกแทนคยูฮยอนเท่านั้นเอง...ลีทึกเดินเข้าไประหว่างใกล้ๆก่อนจะค่อยๆ...อืม...เรียกว่าตะโกนจะดีกว่านะ ^^....


    อึนฮยอกๆ... ตื่นได้แล้ว...เร็วๆเข้าสิ...

    ผลปรากฏว่า...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนที่ท่านเรียก....นี่ขนาดตะโกนแล้วนะเนี่ย....ทำไงดีล่ะทีนี้...ก่อนจะลองเรียกดูอีกรอบ...


    อึนฮยอก...อึนฮยอก คราวนี้ลีทึกดึงผ้าห่มออกด้วย แต่ไอ้คนที่นอนอยู่นี่สิ นอกจากจะไม่ยอมตื่นแล้วยังมีการถีบท้องเขาเต็มๆจนเกือบล้มแล้วยังแย่งผ้าห่มกลับไปอีกต่างหาก....และแล้วอึนฮยอกก็ทำให้ท่านหัวหน้าเริ่มโมโหแล้วน้า....ก่อนจะดึงผ้าห่มออกอีกรอบแล้วตะโกนข้างๆหูไก่ขี้เซานี่...


    อึนฮยอก...อึนฮยอกแจ ไอ้ไก่ขี้เซา!!! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เพราะเอาแต่นอนอยู่อย่างนี้แหละ ซองมินเขาเลยหนีนายไปแล้วรู้รึเปล่า...

    และดูเหมือนว่าคราวนี้จะได้ผล...แค่ได้ยินชื่อซองมินเท่านั้นแหละ เจ้าไก่ขี้เซาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที...


    อะไรนะ!!กระต่ายน้อยหนีไปไหน...ใครเอากระต่ายน้อยของฉันไป~~ซองมินจ๋า~~~”


    ~เอาเข้าไป...ตื่นมาก็โวยวายเลยน่ะ...แถมยังทำเป็นไม่เห็นเขาอีกต่างหาก~



    อึนฮยอก... เรียกไก่ขี้เซาที่ยังโวยวายกับตัวเองอยู่


    อ้าวลีทึกนายมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วซองมินล่ะอึนฮยอกถามพร้อมกับทำหน้างงๆเมื่อเห็นลีทึกยืนอยู่ข้างเตียง


    ~ดูมัน...เขายืนหัวโด่อยู่ตั้งนานพึ่งรู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้...แถมยังมีหน้ามาถามหาซองมินแต่เช้าเลย...มันน่าอัดซะจริงๆ แต่ไม่เป็นไรเหรอก เพราะเขาหาวิธีแก้เผ็ดไอ้ไก่ขี้เซาตัวนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โทษฐานที่กวนประสาทแถมยังถีบเขามาซะเต็มแรง ( แค้นนี้ต้องชำระ )~


    ฉันมาปลุกนาย เพราะฮีชอลกำลังทำอาหารเช้าอยู่...แล้วซองมินก็ออกไปข้างนอกกับคยูฮยอนแล้ว...เสียใจด้วยนะที่อดไปเที่ยวน่ะ...เอ่อใช่แล้วปลุกคังอินด้วยล่ะ ฉันจะไปปลุกคนอื่นต่อ...ลีทึกพูดไม่หยุดโดยไม่ยอมให้อึนฮยอกได้โต้เถียงอะไรก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้อึนฮยอกยังงงๆกับคำพูดประโยคเมื่อกี้อยู่ ขณะนี้สมองไก่กำลังเรียบเรียงสิ่งที่พึ่งได้ยินมา...



    ~ฉันมาปลุกนาย เพราะฮีชอลกำลังทำอาหารเช้าอยู่...~

    อืม...อันนี้เข้าใจ ว่าทำไมลีทึกถึงมาปลุกและมาอยู่ในห้อง....



    ~ซองมินก็ออกไปข้างนอกกับคยูฮยอนแล้ว...เสียใจด้วยนะที่อดไปเที่ยวน่ะ...~

    อะไรกันเนี่ย...เขาอุตส่าห์นอนคิดอยู่ทั้งคืนว่าจะพาซองมินไปเที่ยวไหนดี...ดันมีคนตัดหน้าพาไปก่อนเอาอย่างนี้เลยเหรอ....เซ็งจริงๆเลย...ทำไมคังอินต้องทะเลาะกับคยูตอนเวลาอย่างนี้ด้วยนะ...



    ~เอ่อใช่แล้วปลุกคังอินด้วยล่ะ ฉันจะไปปลุกคนอื่นต่อ...~

    เอ...เดี๋ยวนะ...เฮ้ย!!...เดี๋ยวสิ...พูดเป็นเล่นจะให้เค้าปลุกหมีคังอินเนี่ยนะ....เอาแล้วไง...ซวยจริงๆอึนฮยอกเอ้ย...ไปทำอะไรให้ท่านหัวหน้าโกรธขึ้นมาล่ะเนี่ย...ฝันร้ายชัดๆเลยให้เค้าปลุกคังอินเนี่ย...ให้เค้าปลุกทุกคนในบ้านก็ได้ ขอร้องล่ะลีทึกอย่าให้เค้าเป็นคนปลุกคังอินเลย ก็รู้กันอยู่ว่าหมอนี่ตื่นยากขนาดไหน...

    แต่คำขอร้องของอึนฮยอกดูจะไม่เป็นผล เพราะตัวคนสั่งนะเดินหายไปนานแล้ว อึนฮยอกจึงได้แต่คิดหาวิธีที่จะปลุกคังอินให้ตื่นจนได้....



     


    เดี๋ยวค่อยกลับมาดูผลกัน ตอนนี้ตามท่านหัวหน้าวงไปดีกว่า

    เมื่อลีทึกเดินออกจากห้องของคังอินแล้วก็รู้สึกสบายจนตัวลอยเพราะตอนนี้เค้าไม่ต้องปลุกคนตื่นยากอันดับหนึ่งของบ้านอย่างคังอินแล้ว...คนที่เหลือก็คงจะไม่ยากเท่าไหร่หรอกมั้ง...เดินมาจนถึงหน้าห้องของเยซองกับเรียววุค...แต่พอจะเปิดเข้าไปเยซองก็เดินออกมาพอดี...


    อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ...ลีทึกพูดด้วยความแปลกใจ ก็ปกติเยซองน่ะตื่นยากเป็นอันดับสี่รองจากชินดงเชียวล่ะ...


    อือ...เมื่อกี้นี้เอง...ได้ยินเสียงปลุกอึนฮยอกของนายน่ะ...


    อ่าเหรอ...โทษทีที่ทำให้นายตื่น...ลีทึกทำหน้าเอ๋อๆ..นี่เสียงเค้ามันดังขนาดปลุกคนที่อยู่ห้องข้างๆให้ตื่นได้เลยเหรอเนี่ย ???(ยังไงก็ต้องมาปลุกอยู่แล้วจะขอโทษไปทำไมกันนะ...ท่าจะบ้าแล้วแฮะเรา)


    ถึงยังไงถ้าฉันไม่ตื่นนายก็ต้องมาปลุกฉันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ...ก็ปลุกครั้งเดียวได้ 2 คนเลยไง


    แล้วเรียววุคตื่นรึยัง...? จริงๆถ้าเยซองตื่นเพราะเสียงเขาแล้วเรียววุคก็น่าจะตื่นแล้วนะ เพราะเรียววุคน่ะตื่นง่าย...


    ยังหรอก นายช่วยปลุกให้ด้วยละกัน...เยซองพูดยิ้มๆ...ก่อนจะหันหลังเดินไปล้างหน้าล้างตา...

    และคำตอบของเยซองก็ทำให้ลีทึกต้องแปลกใจ...ถ้าเสียงเค้าดังจริงเรียววุคก็ต้องได้ยินด้วยสิแล้วไหงถึงไม่ตื่นละเนี่ย...อีกอย่างทำไมเยซองตื่นถึงไม่ปลุกเรียววุคเองละเนี่ย... เค้าละงงจริงๆเลย...ลีทึกเลยเดินเข้าไปปลุกเรียววุค


    เรียววุค...ตื่นเถอะ... เพียงแค่ลีทึกเรียกพร้อมสะกิดเพียง 2 - 3 ที เรียววุคก็ตื่นขึ้นมา...


    พี่ลีทึกเหรอฮะ...แล้วพี่เยซองล่ะฮะไปไหน...


    อ้อ...หมอนั่นไปล้างหน้าแล้วน่ะ...เลยให้พี่ปลุกนายแทน...เออ...ว่าแต่เรียววุคก่อนหน้าที่พี่จะมาปลุกเนี่ยได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกบ้างมั้ย...?


    ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลยนี่ฮะ มีอะไรเหรอฮะเรียววุคตอบคำถามพลางทำสีหน้างุนงง...ถ้ามีเสียงใครตะโกนเค้าก็ต้องได้ยินสิ...เค้าไม่ใช่คนตื่นยากซะหน่อย


    อ้อ...เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก...  อยู่ๆลีทึกก็เงียบไปก่อนจะเรียกชื่อเรียววุคออกมา...


    เรียววุค...


    ฮะ???


    ถ้ามีอะไรไม่สบายใจล่ะก็บอกพี่ได้นะ พี่ยินดีจะเป็นที่ปรึกษาให้นายเสมอ


    ครับ...ขอบคุณมากครับ


    แล้วรีบๆไปล่ะ เดี๋ยวคนอื่นๆก็คงจะตามไปเองแหละ


    ครับ...


    เรียววุคตอบก่อนจะจัดเตียงให้เรียบร้อย แต่เมื่อจัดเสร็จแล้ว...เจ้าตัวกลับไม่ได้รีบไปตามที่ตอบรับกับลีทึกไว้ แต่กลับนั่งลงบนเตียงก่อนจะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...


    ~พี่เยซอง...ทำไมพี่ถึงไม่ปลุกผมเหมือนเดิมล่ะฮะ...พี่เกลียดผมแล้วเหรอฮะ?... สิ่งที่ผมพูดกับพี่วันนั้น...มันคงทำให้พี่เจ็บปวดมากสินะครับ...แต่ขอร้องอย่าเกลียดผมเลยนะฮะ...ผมเองก็มีเหตุผลที่ไม่อาจจะทำตามความต้องการของพี่และของตัวผมเองได้...แต่เมื่อไหร่ที่ผมหาคำตอบให้กับปัญหาของตัวผมเองได้ ผมรับรองว่าพี่จะเป็นคนเดียวที่อยู่ในใจของผม... ~

     


    ส่วนลีทึกก็ต้องรีบไปปลุกคนที่อยู่อีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องสุดท้ายแล้ว...แต่ตอนที่เดินไปก็อดคิดไม่ได้กับสิ่งที่พึ่งจะผ่านไปเมื่อกี้นี้...


    ~ถ้าเรียววุคไม่ได้ยินละก็ แสดงว่าเยซองไม่ได้ตื่นเพราะเสียงของเค้าหรอก...แต่ว่า...ทำไมต้องโกหกด้วยนะ....เยซอง


    เฮ้อ....ช่างเถอะ...จริงๆเขาก็พอจะสังเกตท่าทีของทั้ง 2 คนออก...แต่ไม่รู้ทำไม...หลังจากกลับจากตอนที่ไปเที่ยวทะเลครั้งนั้นแล้ว ทั้งเยซอง ทั้งเรียววุคก็เปลี่ยนไป...คนอื่นอาจจะไม่สังเกตเห็น เพราะที่ว่าเปลี่ยนนะเป็นท่าทีระหว่างกันสองคนไม่ใช่กับคนอื่น  แต่ตัวเค้าก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้...แต่เมื่อทั้งสองคนไม่ต้องการจะบอกและไม่ต้องการให้ใครรู้ เค้าก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อไป...
    ~


    แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ลีทึกไม่รู้...คนตื่นยากนั่นไม่ได้ตื่นเพราะเสียงของเค้าตามที่เจ้าตัวพูดนั่นนะ....ใช่... แต่เป็นเพราะเยซองไม่ได้นอนหลับอยู่ต่างหากจึงได้ยินเสียงนั่น...

     



    ณ ห้องนอนของ 3 หนุ่มคนละมุม...
    ใช่แล้วมันคือห้องนอนของฮันกยอง ซีวอน และชินดงนั่นเอง....

    เมื่อเปิดประตูเข้าไป...ก็พบทั้งสามคนนอนหลับกันอยู่ลีทึกเลือกที่จะปลุกฮันกยองเป็นคนแรก...เพราะอะไรน่ะเหรอ...ในบรรดาทั้ง 3 คนแล้วฮันกยองน่ะตื่นง่ายที่สุดแล้ว...


    ฮันกยอง...ฮันกยองแล้วก็ตามที่คิดไว้ฮันกยองตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดายดาย


    อืม...เช้าแล้วเหรอ... ถึงจะตื่นง่ายแต่ก็ยังคงงัวเงียอยู่ดี...


    อือ...ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ... เดี๋ยวอีก2คนนี่ฉันปลุกเอง... ลีทึกว่าพลางมายืนระหว่างเตียงของซีวอนกับชินดงอย่างชั่งใจ...ปลุกใครก่อนดีล่ะเนี่ย และดูเหมือนจะเลือกได้แล้ว...


    ซีวอน...ซีวอน...ตื่นได้แล้วนะ...ซีวอน...ลีทึกใช้มือเขย่าแขนซีวอนด้วยแรงที่ไม่มากนัก แต่แทนที่จะตื่น แขนของซีวอนกลับฉุดเค้าให้ลงไปอยู่ในอ้อมกอดนั้น....


    เฮ้...อะไรของนายเนี่ย...ซีวอน... ลีทึกเรียกคนที่ยังหลับไม่รู้ตัวและกำลังกอดเขาอยู่ให้ตื่น...แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล...เพราะซีวอนก็ยังไม่ปล่อยเขาแถมยังกอดแน่นกว่าเดิมอีกต่างหาก...


    อืม... ซีวอนส่งเสียงออกมาแต่ก็นั่นแหละเป็นแค่เสียงละเมอเท่านั้นเอง...


    ซีวอน... ลีทึกเรียกอีกครั้งอย่างละเหี่ยใจ...แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม ซีวอนยังคงไม่ตื่น...และแขนของเจ้าตัวยังคงกอดเค้าอยู่นี่นายกลายเป็นคนตื่นยากอันดับห้าของวงตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย...

    แต่ลีทึกก็ไม่ได้ไม่ชอบสักหน่อยที่ซีวอนทำแบบนี้...ถ้าเป็นตอนตื่นละก็ซีวอนไม่มีวันทำแบบนี้กับเขาแน่นอน...อ้อมกอดของซีวอน...อบอุ่นอย่างที่เค้าเคยคิดไว้จริงๆ...ไม่อยากออกไปจากอ้อมกอดนี้เลย...เมื่อคิดอย่างนั้นก็คิดจะปล่อยให้เป็นยังนี้ไปสักพักละกัน...แต่แล้วเสียงละเมอของซีวอนก็ทำให้ลีทึกต้องหยุดความคิดนั่นลงทันที...


    ฮีชอล...ฮีชอลตัวนายอุ่นจังนะเพียงแค่ได้ยินก็เจ็บแปลบขึ้นมากลางหัวใจ  นี่คงคิดว่าเขาเป็นฮีชอลอยู่สินะ...ขอโทษนะซีวอนที่ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงของนาย ฉันเป็นแค่สาวใช้ธรรมดาๆที่ใฝ่ฝันถึงเจ้าชายเท่านั้นเอง...


    ลีทึกตัดสินใจปลุกซีวอนอีกครั้ง เขาไม่อยากจมอยู่ในความฝันจอมปลอมนี้อีกแล้ว...ต้องตื่นมารับกับความเป็นจริงที่ว่าคนที่ซีวอนรักคือใคร...แม้แต่ในฝันของนายคนที่อยู่ในใจก็มีเพียงฮีชอลเพียงคนเดียวเท่านั้นสินะ..ซีวอน...


    ซีวอน...ซีวอนตื่นเดี๋ยวนี้นะ... ลีทึกเรียกไปพลางเขย่าตัวซีวอนแรงขึ้น... และคราวนี้คงจะแรงพอที่จะทำให้ร่างสูงบนเตียงรู้สึกตัวได้...


    อ้าว...ลีทึก...ทำไมนายอยู่ที่นี่ล่ะ... ซีวอนที่พึ่งตื่นยังงัวเงียอยู่จึงไม่ทันได้สังเกตหรอกว่าลีทึกกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเขา ลีทึกจึงใช้ช่วงเวลานี้...ขยับตัวออกและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว...เหมือนเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ไม่เคยเกิดขึ้น...


    ก็มาปลุกพวกนายนั่นแหละ  ซีวอนรู้ตัวมั้ย นายกำลังจะขึ้นอันดับคนตื่นยากอันดับห้าของวงแล้วนะ...


    อะไรกัน...เมื่อคืนแค่นอนดึกนิดหน่อยเอง...ไม่เอานะ...ไม่อยู่ในอันดับบ้าๆนั่นเด็ดขาด...ซีวอนโวยวายขึ้นมา เขาจะไม่ยอมไปอยู่ในอันดับพวกนั้นแน่ๆ


    งั้นตื่นแล้ว...ก็รีบไปกินข้าวสิ...วันนี้เวรเจ้าหญิงคนสวยของนายไง...แล้วอย่าลืมปลุกชินดงด้วยล่ะ... ลีทึกพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะเดินออกไป...
    ซีวอนที่ยังนั่งบิดขี้เกี้ยวอยู่บนเตียง...พลางนึกถึงความฝันเมื่อกี้นิด ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ...


    ~วันนี้ฝันดีจัง...ฝันว่าได้กอดคนสวยแต่เช้า...แถมพอตื่นมายังจะได้กินอาหารฝีมือคนสวยอีกต่างหาก...โชคดีของเขาจริงๆเลย~


    ซีวอนยิ้มอย่างมีความสุข ถึงจะต้องปลุกชินดงที่อาจจะตื่นยากไปซะหน่อยแต่ก็ไม่หวั่นหรอก ก็อุตส่าห์ฝันดีแต่เช้าเลยนี่นา...ผิดกับอีกคนที่ตอนนี้ในใจหดหู่ซะเหลือเกิน...ไม่ได้ร่าเริงเหมือนตอนก่อนจะออกมาเลยสักนิด...แค่คิดถึงเรื่องเมื่อกี้น้ำตาก็พาลจะไหลแต่ไม่ใช่ตอนนี้...และที่นี่...


    คิดก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารและพบว่าฮีชอลที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งทานอยู่พร้อมกับ คิบอม ดงแฮ เยซอง เรียววุคและฮันกยอง...


    อ้าว...แล้วอึนฮยอกกับคังอินยังไม่มาเหรอ... ลีทึกพูดก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆเยซอง แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครตอบ...คนที่พูดถึงก็มาพอดี...


    มาแล้ว... อึนฮยอกพูดก่อนจะเดินมานั่งข้างๆดงแฮและตรงกันข้ามกับลีทึก


    แล้วคังอินล่ะ... ลีทึกถามถึงคนที่ใช้ให้ปลุกเพราะเห็นว่าอึนฮยอกนั้นเดินมาคนเดียว


    คังอินไปล้างหน้าอยู่ เดี๋ยวก็มา...อึนฮยอกตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อย่างแรง...เขาจะไม่มีวันยอมรับหน้าที่ปลุกเจ้าหมีนี่อีกเด็ดขาด...


    แล้วคอนายเป็นอะไรน่ะ อึนฮยอก ลีทึกจำต้องถามอีกครั้งเมื่อเห็นอึนฮยอกจับคอตัวเองตั้งแต่ตอนเดินเข้ามานั่งแล้ว...


    จะมีอะไรซะอีกล่ะ...นอกจากผลงานไอ้หมียักษ์นั่นน่ะ...เล่นซะคอเคล็ดเลย


    พวกนายปลุกกันอีท่าไหนเนี่ย... ฮีชอลอดถามไม่ได้ เวลาเขาไปปลุกไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่นา...


    ถามหมีนั่นเองก็แล้วกัน...แล้ววันหลังอย่าให้ฉันไปปลุกหมีนั่นเลย...เข็ดแล้วล่ะ อึนฮยอกบอกก่อนจะเริ่มจัดการอาหารตรงหน้า...

    หลังจากนั้นสักพัก...ซีวอนก็เดินตามมารวมทั้งคังอินกับชินดงด้วย...แต่ดูเหมือนวันนี้ซีวอนจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จนฮีชอลสังเกตได้...


    อารมณ์ดีอะไรของนายน่ะ... ฮีชอลมองหน้าซีวอนที่ยิ้มระรื่นออกหน้าออกตา


    เปล่าสักหน่อย แค่ฝันดี...ดีมากๆด้วยซีวอนหันมาตอบพร้อมรอยยิ้ม โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามกำลังมีสีหน้าอย่างไร...


    อะไรของนายเนี่ย...เฮ้อ...ช่างเถอะ

     




    เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้ว...คิบอมก็ออกไปถ่ายละคร ฮีชอลเรียกทุกคนมาปรึกษากันอีกครั้ง ก่อนที่ผลสรุปจะออกมาว่ารอทั้ง 2 คนกลับมาก่อนดีกว่า

    นี่ก็บ่ายแล้วน้า...ทำไมยังไม่กลับมากันอีกล่ะ... ตอนนี้หมีเริ่มทำตัวงอแงอีกแล้ว...


    เอาน่าเดี๋ยวก็มากันเองนั่นแหละ... ฮีชอลว่าคังอินแต่ในใจก็คิดอยู่เหมือนกันว่ามันออกจะนานเกินไปแล้ว...


    เมื่อผ่านไปสักพักเสียงสวรรค์ที่คังอินอยากจะได้ยินนักหนาก็ดังขึ้น...ใช่แล้ว เสียงเปิดประตูของซองมินและคยูฮยอนนั่นเอง...คังอินจึงรีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังช้ากว่าอึนฮยอกนัก...


    คยูฮยอน!! ซองมิน!!” เสียงอึนฮยอกพูดอย่างตกใจ ทำให้ทุกคนเดินตามมา และภาพที่เห็นคือ....

     

    To Be Con…..

     

    กว่าจะพิมพ์เสร็จ ใช้เวลานานมากๆๆๆ

    ยาวจริงๆเลย....

    ขอบคุณที่เม้นต์กันนะ..

    Bye จ้าาา...

    - - + + R z.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×