ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #3 : >>> 03

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 50



    *~Timeless Love~*


    ...Hurt Of Heart...


    [ฤดูใบไม้ร่วงปี 2004]

    ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสไร้เมฆ  แสงแดดอ่อนๆทอประกายลงมายังพื้นดิน  ลมเย็นที่พัดไปมาบ่งบอกให้รู้ว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนอีกครั้ง ใบไม้สีเหลืองทอง และสีแดงต่างผลัดกันร่วงลงจากต้นไม้ เป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหงา...และเดียวดายที่สุด

    เขาเคยชอบฤดูนี้มากที่สุด...เพราะเขากับคนรักจะเดินทางผ่านใบไม้ที่กำลังร่วงลงจากต้นอย่างงดงาม...

    แต่นั่นก็แค่ 'เคย' สำหรับเขาในตอนนี้มันเป็นฤดูที่เขาเกลียดที่สุด...

    ถ้าไม่ใช่เพียงเพราะว่า  บรรยากาศแบบนี้ทำให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมา...

    สามปีแล้ว...ที่แจจุงหายตัวไป...

    ไม่มีร่องรอย ไม่มีแม้แต่คนพบเห็น...ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันคือหน้าโรงเรียน

    นึกอีกครั้งก็ได้แต่โทษตัวเอง...ถ้าวันนั้นเขาไม่ใจอ่อนยอมให้แจจุงกลับบ้านคนเดียว...

    ในตอนนี้...แจจุงอาจจะยังยืนอยู่ข้างๆเขาก็ได้...


    ……………………………….

    …………………….

    ………….


    3 ปีก่อน...


    ชายหนุ่มมองแผ่นหลังของคนรักที่กำลังเดินกลับไป และความคิดที่กลัวจะไม่ได้พบกับแจจุงทำให้ ขาคู่ยาวจะสั่งให้ตัวเองตามไปถ้าไม่มีเสียงใสๆของคนคุ้นเคยขัดขึ้นมาซะก่อน...


    "ยุนโฮ...นั่นนายจะไปไหนน่ะ? อาจารย์มินตามหานายอยู่แน่ะ รีบไปได้แล้ว... " เด็กหนุ่มว่าอย่างตำหนิที่ชายหนุ่มมัวแต่ชักช้าไม่ยอมไปทำเวรสักทีจนอาจารย์ต้องให้เขาลงมาตาม...


    "หา...เอ่อ...โอเคจุนซู ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ..."  ยุนโฮตอบรับแล้วไล่ความคิดไม่ดีๆของตนเองออกไปก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องเพื่อทำเวรตามที่อาจารย์สั่ง...


    กว่าชายหนุ่มจะทำความสะอาจห้องเรียนเสร็จก็เป็นเวลาค่ำเสียแล้ว ชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนรักทั้งสองคน จุนซู และยูชอน... บ้านของยุนโฮกับจุนซูนั้นไปทางเดียวกัน ส่วนบ้านยูชอนนั้นอยู่ติดกับบ้านของแจจุงเลยทีเดียว...


    "เฮ้อ!~ อาจารย์มินนะ อาจารย์มิน... ฉันแค่เผลอหลับในห้องหน่อยเดียว ใช้งานซะอย่างกับฉันทำผิดอะไรมากมาย..."


    "เอาน่า นายนี่น้า~ คาบใครไม่หลับดันมาหลับ คาบอาจารย์จองมินสุดโหดซะนี่... ถือว่าฟาดเคราะห์ไปละกันเพื่อน..." ยูชอนช่วยพูดปลอบ แต่สำหรับยุนโฮแล้วเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ยเสียมากกว่าเพราะหน้ายูชอนตอนนี้กำลังกลั้นหัวเราะเต็มที่เลย...


    "เฮอะ!!~ ว่าแต่ฉันแล้วนายล่ะห่ะไอ้ไก่ผี... สอบตกเข้าไปได้ยังไงภาษาเกาหลี สบายหูดีไหมล่ะ? ไปเรียกเสริมกะตา'จารย์จีฮุนนั่นน่ะ..." ยุนโฮแค่จะหยอกยั่วยูชอนเล่นๆ แต่ดันได้ผลดีเกินคาด...


    "เชอะ!!~ ดีตายล่ะให้ไปนั่งเรียนเสริมอยู่ได้ 3 ชั่วโมงตอนนี้ฉันแทบจะเห็นหน้านายเป็นหมีเกาหลีอยู่ ไอ้ยุนเอ้ย!!~ เฮ้อ~....ทำไมคนหล่อๆ นิสัยดี๊ดี อย่างปาร์คยูชอนคนนี้ต้องไปนั่งทนฟังไอ้ถึกนั่นสอนตามลำพังอยู่กันสองต่อสองด้วยนะ เสียอารมณ์ชะมัด!~"


    "อยากรู้ม่ะ? ฉันจะบอกให้เพราะนายติดศูนย์วิชาภาษาเกาหลีศาสตร์คนเดียวในโรงเรียน... ถึงต้องไปซ่อมกับตา'จารย์จีฮุนถึกเจ้าของวิชาไง...ไอ้เพื่อนยาก" หน้ายียวนกวนประสาทของหมีเกาหลีว่าพลางลอยหน้าลอยตาไปมาแกล้งยูชอนเล่น  ปกติยูชอนก็คงอารมณ์ดีเล่นด้วยหรอก แต่เสียใจ...วันนี้ตาไก่ดีแตก (ว่าแต่ไก่มันมีดีมั้ยหว่า?)


    "ไอ้ยุน!!!~ไอ้หมีเกาหลีแกอย่าอยู่เลย!!~" หมีเกาหลีได้วิ่งหนีไก่ดีแตกก็วันนี้แหละ...!!!~


    "จุนซูวิ่งด่วนเลยไปเร็ว!!" มือหนาคว้าข้อมือเด็กหนุ่มที่เดินเงียบมาตลอดทางให้วิ่งไปด้วยกันตรงทางแยกระหว่างทางไปบ้านของพวกเขา


    "ไอ้หมีเกาหลีกลับมานี่นะโว้ย!!~" ยูชอนหยุดวิ่งตามยุนโฮแล้ว แต่ยังอุตส่าห์ตะโกนมาเรียกให้ยุนโฮกลับไปรับโทษ


    "กลับไปให้โง่ดิ... ฝากบอกแจด้วยนะว่าฉันคิดถึง แล้วพรุ่งนี้เจอกัน...ไอ้ไก่สอบตก... " แล้วยุนโฮก็เดินกลับบ้านพร้อมจุนซู ไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมคนตัวเล็กข้างๆเขาถึงได้เงียบนัก...



    กลับมาที่อีกคนหนึ่งที่เดินบ่นอย่างหัวเสียไปตลอดทาง แค่เจอกับตา
    'จารย์ถึกนั่นมันก็มากเกินพอแล้วสำหรับความโชคร้ายของเขาวันนี้... ชายหนุ่มเดินเข้าประตูบ้านหลังใหญ่ที่แค่ตัวกำแพงบ้านก็ยาวไปไกลเกือบ 1 กิโลแล้ว ไม่ต่างอะไรกับบ้านข้างๆสักนิด ป้ายชื่อหน้าบ้านสลักด้วยตัวอักษรสีทองเป็นประกายส่องกับโคมไฟเหนือป้ายเป็นชื่อตระกูล...ปาร์ค


    ส่วนบ้านข้างๆที่ขนาดและความหรูหราของบ้านไม่ต่างกัน  แม้ยามนี้ตัวบ้านจะยังเต็มไปด้วยความมืดเพราะเจ้าของยังกลับมาไม่ถึงและคงจะไม่ได้กลับมาอีกนาน...บ้านตระกูลคิม


    แอ๊ด
    !!~


    เสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้นพร้อมร่างของชายหนุ่มที่ก้าวเข้ามาทางเดินสองข้างเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่ง...



    สวนดอกไม้นี้พ่อกับแม่ของเขาช่วยปลูกเองกับมือ โดยมีเขา และพี่ชายอยู่ช่วยและวิ่งเล่นไปรอบๆ ช่วงเวลานั้นเป็นความทรงจำที่มีความค่าที่สุดของชีวิตในวัยเด็กของชายหนุ่ม ก่อนที่หลังจากนั้นช่วงเวลาแห่งความโหดร้ายก็เข้ามาเยือน เสียงทะเลาะเบาะแว้งมีให้ได้ยินไม่เว้นแต่ละวัน แม้กระทั้งตอนนอนเด็กน้อยก็ยังได้ยินมันอยู่ในสมองอย่างชัดเจน... 


    ไม่นานเสียงเหล่านั้นก็เงียบไปพร้อมกับการจากไปของคุณผู้หญิงของบ้าน...  ในตอนนี้บ้านหลังใหญ่แห่งนี้จึงมีเพียง คุณผู้ชายซึ่งก็คือพ่อของเขาที่ถึงแม้จะงานยุ่งแต่ก็ยังเจียดเวลามาคอยดูแลเขาเสมอ  พี่ชายหน้าหวานผู้แสนใจดีและตามใจเขาทุกอย่าง อาจเป็นเพราะคนทั้งคู่กลัวว่าเขาจะน้อยใจ หรือเสียใจที่ไม่มีแม่เหมือนคนอื่นเขา...


    แต่คนทั้งคู่ไม่รู้หรอก ว่าแค่ทั้งคู่อยู่กับเขาแค่นั้นชีวิตเขาก็มีความสุขมากพออยู่แล้ว มีพ่อที่น่ารัก มีพี่ชายที่แสนดี มีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้และคบกันอย่างจริงใจ เท่านี้ชีวิตของปาร์คยูชอนก็ดีกว่าใครหลายๆคนแล้ว...



    ชายหนุ่มมองสวนดอกไม้ไปพลางเดินไปพลางสักพักก็เข้ามาถึงตัวบ้าน
      แล้วสายตาของชายหนุ่มก็เห็นหญิงสาวร่างท้วมแม่บ้านคนเก่าแก่ของตระกูลที่เดินออกมารอรับคุณหนูเล็กของบ้าน...


    "ป้าฮันซูครับ... ป้ามายืนทำไมแถวนี้มันหนาวนะครับ เดี๋ยวไม่สบายหรอกครับ?" ชายหนุ่มว่าอย่างเป็นห่วงทั้งที่รู้ดีว่าหญิงสาวมารอเขานั่นแหละ


    "แหม่...คุณหนูก็...ป้ามารอคุณหนูนะสิค่ะ ว่าแต่ป้า...คุณหนูนั่นแหละตัวเย็นหมดแล้ว ป้าบอกแล้วว่าให้ฮยอกแจไปรับก็ได้... ไม่เห็นคุณหนูต้องเดินมาเองเลยนิค่ะ" แม่บ้านพูดถึงคนขับรถประจำตระกูลปาร์ค...


    "ไม่เป็นไรหรอกครับใกล้แค่นี้เอง อีกอย่างฮยอกแจเขาต้องไปรับพี่จองซูที่มหาลัยนี่ครับ... ผมเองก็ไม่รู้ด้วยว่าจะสอบซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ให้ผมกลับเองอ่ะดีแล้ว ว่าแต่วันนี้มีอะไรทานบ้างฮะป้า ผมหิวแล้วล่ะ.. บรือ!~หนาวชะมัด" ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนป้าฮันซูของเขาจะว่าอะไรไปมากกว่านี้...


    "รีบเข้าบ้านเถอะค่ะ คุณผู้ชายกับคุณหนูใหญ่รอคุณหนูอยู่..." แล้วชายหนุ่มก็เดินตามป้าฮันซูไป...




    หลังจากมื้ออาหารของครอบครัวสิ้นสุดลง... ยูชอนที่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมหนุ่มหน้าสวยเพื่อนสนิทเขาเขาที่อยู่บ้านข้างๆถึงยังไม่มาอีกทั้งที่ตอนเย็นยังตกลงกับเขาว่าจะมาหาตอนค่ำๆอยู่เลย ชายหนุ่มเปิดหน้าต่างจากห้องของตัวเองดูบ้านหลังใหญ่ข้างๆที่ยังคงมืดมิดเหมือนไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว เพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งไปบ้านข้างๆอย่างเร่งรีบ


    บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ข้างๆตระกูลปาร์คนั้นเป็นบ้านของตระกูลคิม ที่มีเจ้าของตอนนี้คือคิมแจจุง ทั้งสองตระกูลเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทั้งในด้านธุรกิจและมิตรภาพ... ทั้งแจจุง , ยูชอน และจองซูจึงสนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ


    จนวันหนึ่งที่บ้านตระกูลคิมจะต้องเศร้าเพราะเหลือเจ้านายของบ้านอยู่เพียงคนเดียวคือ...แจจุง ที่ในตอนนั้นมีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น  คุณชายและคุณนายคิมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์... สมบัติทุกอย่างจึงตกเป็นของแจจุงแต่เพียงผู้เดียว...



    บัดนี้ที่บ้านตระกูลคิมไม่มีใครเหลืออีกแล้วเพราะเหล่าแม่บ้านและคนรับใช้ต่างๆก็ออกไปจนหมดเหลือเด็กหนุ่มเจ้าของบ้าน และ ซอฮุนแม่บ้านเก่าแก่ที่ไม่ยอมไปไหนอยู่เพื่อดูแลแจจุงตามคำสั่งเสียของนายท่านทั้งสอง



    ยูชอนเคยขอร้องให้แจจุงมาอยู่กับเขาที่บ้านตระกูลปาร์ค เพราะยังไงทั้งสองตระกูลก็เหมือนครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว อีกอย่างชายหนุ่มไม่อยากให้แจจุงอยู่ในบ้านที่มีแต่ความทรงจำของพ่อและแม่ตัวเอง เพราะชายหนุ่มคิดว่า ถ้าเป็นตัวเขาที่ต้องอยู่เพียงลำพังในบ้านที่มีแต่ความทรงจำแบบนั้นคงจะต้องเจ็บจนแทบทนไม่ได้อย่างแน่นอน  แต่เพื่อนอย่างแจจุงกลับขอแค่ที่จะอยู่บ้านหลังนั้นต่อไป เพราะเหตุผลที่ว่ามันคือบ้านแห่งความทรงจำของครอบครัวของเขา...



    ตอนนี้ยูชอนมาถึงหน้าบ้านแล้วชายหนุ่มลองกดกริ่ง... ก่อนจะปรากฏร่างหญิงสาววัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาเปิดประตูต้อนรับ


    "ป้าซอฮุนครับ แจจุงกลับมารึยังครับ?" ชายหนุ่มถามด้วยความร้อนรน


    "ไม่นิค่ะ ป้านึกว่าคุณหนูเธออยู่กับคุณเสียอีก..."


    "เปล่าครับ แจจุงกลับมาก่อนผมตั้งนานแล้ว... ทำไมป่านนี้ยังไม่ถึงบ้านอีกนะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?"


    "คุณหนู...คุณหนูของป้า...โอ้!!~ไม่นะ คุณผู้ชายคุณผู้หญิง ซอฮุนคนนี้ดูแลคุณหนูไม่ดี ซอฮุนขอโทษ..." หญิงสาวคร่ำครวญ เมื่อทราบว่าคุณหนูที่แสนน่ารักของเธอหายตัวไป...


    "ป้าซอฮุนครับใจเย็นๆนะครับ ผมจะออกไปตามหาแถวๆนี้ดู ป้าโทรแจ้งตำรวจด้วยนะครับ...
    ยูชอนวิ่งกลับมาที่บ้านของตนพร้อมโทรเข้าหามือถือของแจจุง...



    "ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลยที่ท่านเรียก... กรุณาฝากข้อความหลังได้ยินเสียงสัญ....ญ.........." เสียงของสัญญาณฝากขอความทำให้ยูชอนรีบกดทิ้งก่อนจะโทรหาใครอีกคน


    "ฮัลโหล...ยุนโฮ แจจุงไปหานายหรือเปล่า?" ทันทีที่ปลายสายรับ ชายหนุ่มรีบถามด้วยความร้อนใจ แต่อีกฝ่ายนั้นไม่ได้รู้สึกเลย



    "หือ? เปล่านี่ เอ่อ...ว่าจะถามนายพอดีเลย ฉันโทรหาแจจุงไม่ติดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว... เฮ้ๆ!!~ ยูชอน!! ยูชอน!! เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น?" ยุนโฮเห็นว่าเงียบไป แล้วยิ่งคำถามแปลกๆของยูชอนอีก


    "ป่านนี้แจจุงยังไม่บ้าน..."


    "ยูชอนนายว่าอะไรนะ... ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวฉันจะไปหานายเดี๋ยวนี้..." ชายหนุ่มรีบวางสายคว้าแจ็กเก็ตด้วยความเร่งรีบและวิ่งไปหายูชอนที่บ้าน


    หลังจากนั้นการค้นหาก็ดำเนินไปเรื่อยๆจากกลางคืนเป็นเช้า
    จากเช้าเป็นวัน...
    จากวันเป็นอาทิตย์...
    จากอาทิตย์เป็นเดือน...
    จากเดือนเป็นปี....
    จากปีแรกไปเป็นหนึง...สอง...และสาม


    ตลอดสามปีที่ผ่านมานับตั้งแต่แจจุงหายตัวไป... ชายหนุ่มออกตามหาโดยไม่เว้นแต่ละวัน...แต่สิ่งที่ได้ก็ยังเป็นเพียงความว่างเปล่า...ไม่มีอะไรเลยที่ชายหนุ่มจะใช้ตามหาแจจุงได้...จนเขาคิดว่าบางทีแจจุงคงต้องการเป็นฝ่ายไปจากเขาเองก็ได้... ถึงได้ไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยไว้แบบนี้...เคยคิดจะตัดใจ แต่ก็ทำไม่ได้สักที...


    บางที...เขาคง '
    รัก' แจจุงมากเกินไป...


     

    ยุนโฮมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย พริบตาแรก...แววตาของยุนโฮดูเหมือนจะมีความสุข เพราะมันทำให้เขานึกถึงแจจุง...ตอนที่เดินอยู่ท่ามกลางใบไม้สีเหลืองทองนั่นอย่างงดงามราวกับภาพวาด... แต่แล้วแววตานั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความเหงาและเศร้าคละกันไป... เพราะคนคนนั้นไม่อยู่แล้ว...แจจุงไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว...

    สายตาของชายหนุ่มเริ่มพร่า...ภาพตรงหน้าเลือนรางมากขึ้นทุกที...ทุกที  ความผิดปกติกับร่างกายของตัวเองชายหนุ่มรู้ดีและก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจนไม่ทำอะไรเลย... ยุนโฮไปพบจักษุแพทย์เพื่อปรึกษาเกี่ยวการมองเห็นที่พร่ามัวในบางครั้งก่อนจะพบว่า ดวงตาทั้งสองข้างของเขาอาจจะบอดได้หากไม่รีบทำการรักษา เพราะเส้นเลือดใต้ดวงตานั้นเกิดอักเสบขึ้นมาจากความเครียด แต่การรักษาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 ปี

    แต่เขาก็ไม่ได้บอกยูชอนกับจุนซูหรอก....ชายหนุ่มปิดเป็นความลับเพราะไม่อยากให้ทั้ง 2 คนเป็นห่วง
    ...อีกอย่างเขาอยากตามหาแจจุงให้เจอก่อนจะรักษา...แต่ถ้าบอกสองคนนั้นแบบนี้ล่ะก็ยังไก็คงไม่ยอมแน่นอน...


    ...ฉันจะตามหานายให้พบ...ต่อให้ต้องมองไม่เห็นไปตลอดชีวิต...ฉันก็ต้องตามหานายให้เจอ...แจจุง...

    ...ฉันเชื่อว่านายยังอยูแถวนี้...เชื่อว่านายไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน...

    ...ถ้าฉันจะเชื่อแบบนี้ต่อไปมันคงไม่ผิดใช่มั้ย?


     

    "ยุนโฮไปกันเถอะ..." เสียงทุ้มเรียกสติที่กำลังหลุดลอยของยุนโฮให้รู้สึกตัวขึ้นมา...


    "ยูชอน..." ยุนโฮเรียกชื่อเพื่อนรัก...ก่อนจะมองไปยังทางเดินใบไม้ร่วงตรงหน้าอีกครั้ง...


    "คิดถึงแจจุงเหรอ?" ร่างสูงเอ่ยถาม...ทั้งที่จริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่ายุนโฮรู้สึกอย่างไร... ขนาดเขาเองยังอดคิดถึงไม่ได้ แล้วยุนโฮล่ะจะขนาดไหน... ความจริงแล้วยูชอนยืนมองยุนโฮอยู่ไกลๆมาตั้งนานแล้ว เขารู้สึกว่ายุนโฮคงอยากจะมีเวลาอยู่กับตัวเองสักพัก... เขาจึงไม่อยากรบกวนแต่ก็กลัวว่าถ้านานเกินไปก็จะไม่ดี...


    "อืม..."  


    "เอาน่า...เราก็ตามหาสุดความสามารถแล้วนี่นา... ถ้ายังมีชีวิตอยู่สักวันคงได้พบกัน" น้ำเสียงและคำพูดเศร้าๆจากยูชอนทำเอาน้ำตาของยุนโฮพาลจะไหล... แต่แล้วก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา ก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นสีดำและมืดสนิทไป... ท่ามกลางเสียงร้องเรียกอย่างตื่นตกใจของยูชอน...

     



    "หมอครับ...หมอว่าไงนะครับ..." เสียงเค้นถามด้วยความตื่นตระหนก พร้อมกับมือที่กำลังเขย่าร่างของหมอเจ้าของไข้ ราวกับต้องการให้สิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงความฝัน...


    "คุณยูชอนครับ... ใจเย็นๆนะครับ ก็อย่างที่ผมบอกล่ะครับ คนไข้อาจมีโอกาสตาบอดได้...ถ้าเขายังไม่ยอมเข้ารับการรักษาแบบนี้..."


    "...." ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปเพราะความช็อก...


    "หมอขอตัวก่อนนะครับ..." หมอเดินจากไปปล่อยให้ยูชอนยืนเงียบอยู่ตามลำพัง...


    ...ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน......ยุนโฮเริ่มมองอะไรไม่ค่อยเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่...ทำไมเขาไม่สังเกต...
    ไม่สิ
    !ไม่ใช่เขาไม่เห็นเพียงแต่ไม่ได้ใส่ใจมากก็เท่านั้นเอง
    นี่เขาควรทำยังไง...ควรทำยังไงต่อไปดี



     

    เสียงฝีเท้าดังก้องทั่วโรงพยาบาล เมื่อเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักวิ่งมาอย่างไม่สนใจอะไรเลย แม้กระทั่งสายตาของพยาบาลสาวที่มองอย่างตำหนิ ไม่ใช่ว่าเด็กหนุ่มไม่เห็นเพียงแต่เขามีเรื่องสำคัญมากกว่าการรักษามารยาทในตอนนี้...เด็กหนุ่มวิ่งมาหยุดพักหายใจหอบเพราะความเหนื่อย หน้าห้องพักคนไข้ห้องหนึ่งก่อนจะค่อยๆเปิดประตูเข้าไปเบาๆ



    แกร็ก....



    ภาพในห้อง คนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้สุดด้วยชุดสีขาวของโรงพยาบาล พร้อมผ้าสีขาวที่ใช้พันรอบดวงตาไว้... อีกคนกำลังยืนมองเพื่อนด้วยความรู้สึกหลากหลายจนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูจึงหันมามอง... พบกับร่างบางที่ยังหอบอยู่น้อยจากการวิ่งมาเมื่อกี้...



    "จุนซูมาแล้วเหรอ?" น้ำเสียงยูชอนครั้งแรกคล้ายจะดีใจ แต่แล้วก็ปรับเป็นเสียงธรรมดา เพราะคนที่จุนซูรีบมาหาไม่ใช่เขา...แต่เป็นยุนโฮ... ยูชอนรู้ดี ไม่ว่าเมื่อไหร่หัวใจดวงนั้นของจุนซูก็ไม่เคยเปลี่ยนไป...



    "ยูชอน...ยุนโฮเป็นไงบ้าง...ที่ว่าจะมองไม่เห็นนั่น จริงเหรอ? ตอบฉันสิ ยูชอน!!" ร่างเล็กตะโกนถามแต่เหมือนจะไปทำให้ร่างบนเตียงรู้สึกตัว



     
    "แ..จ...จุง...แจ..จุงง...นายอยู่ที่ไหน?...ฉันคิดถึงนาย...แจจุง.." เสียงละเมออย่างไม่ได้สติของยุนโฮดังแผ่วเบา...แต่สำหรับห้องคนไข้ที่เงียบขนาดนี้แล้ว... ทำเอายูชอนชะงักก่อนจะนึกถึงความรู้สึกของคนข้างๆขึ้นมาทันใด



    ร่างบางก้มหน้าลงกับพื้นเพื่อบดบังน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาไว้ น้ำเสียงสั่นๆพูดขึ้นเพียงแผ่วเบา แต่สำหรับยูชอนแล้วช่างเป็นคำพูดที่บาดใจเหลือเกิน...



    "ทำไมยุนโฮ...เป็นฉันไม่ได้เหรอ?...ให้ฉันอยู่ข้างๆไม่ได้เหรอ?....ทำไมล่ะ...ทั้งๆที่ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้ว...แล้วทำไม...ทำไม...นายถึงไม่ลืมเขา..." น้ำเสียงแสนเศร้าของจุนซู ทำยูชอนรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย...



    "ยูชอน เดี๋ยวฉันไปซื้ออะไรมาให้กินนะ...ท่าทางนายยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่..." พูดจบจุนซูก็เดินออกไปทันที ไม่มีเสียงทัดทานใดๆจากร่างสูงเพราะเจ้าตัวก็รู้ดีว่าร่างบางนั้นอยากไปให้พ้นจากตรงนี้เต็มทีแล้ว...


    "อืม...ยูชอน...มีอะไรเหรอ?" เสียงยุนโฮเอ่ยเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูดังปังของจุนซูเมื่อกี้นี้...



    "ยุนโฮ...นายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่" ทันทีที่ยุนโฮฟื้น ยูชอนก็ถามเรื่องที่ต้องการอยากรู้ เพราะหมอบอกเขาว่ายุนโฮรู้ตัวเองดีอยู่แล้ว ในตอนแรก ยุนโฮเงียบไปเพราะไม่เข้าใจว่ายูชอนกำลังพูดเรื่องอะไร แต่เมื่อยกมือลูบหน้าตัวเองพบกับผ้าที่พันอยู่รอบดวงตาของตัวเองก็เข้าใจว่าทำไม...



    " ตั้งแต่ 2 ปีก่อนมันก็มองไม่ค่อยเห็นมาเรื่อยๆแต่ฉันไม่ได้สนใจ..."



    "ไม่สนใจ!?! นายรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา...นายอาจจะมองไม่เห็นไปตลอดชีวิตนะ..!!!"



    "แล้วไง..." เสียงตอบกลับเรียบๆราวกับว่าสิ่งที่ยูชอนพูดมาเป็นเรื่องธรรมดาๆ


    "นี่นายรู้อยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ?" น้ำเสียงตกใจของยูชอนดังขึ้น ยุนโฮนิ่งเงียบไม่ตอบแต่นั่นก็หมายความอย่างที่ยูชอนว่า ตอนนี้ในใจชายหนุ่มคิดว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องพูดเรื่องนี้สักที...


    "ยุนโฮ...ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย..."


    "ว่ามาสิ..."


    ยูชอนเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะเอ่ยคำที่แทบหยุดลมหายใจทั้งของตัวเองและยุนโฮขึ้นมา


    "นาย...ลืมแจจุงได้มั้ย?"



    ยุนโฮเงียบไปก่อนพูดตอบเสียงเรียบพลางหันหน้าหนีออกไปยังประตูกระจกด้านนอก...ถึงแม้จะมีผ้าปิดตาเอาไว้แต่ยุนโฮก็รับรู้ได้ถึงแสงสว่างจ้าที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา...


    "…นายรู้ดี แล้วจะถามฉันทำไม..."


    "แต่ถ้าไม่ลืม...นายอาจจะต้องมองไม่เห็นไปตลอดชีวิตนะ..."


    "ก็ช่าง...ขอแค่ได้พบแจจุงเท่านั้นก็พอ ต่อให้ต้องแลกแม้กระทั้งชีวิตขอแค่ให้ได้พบกับแจจุง ฉันก็จะทำ…"


    "ยุนโฮ... ฉันจะถามนายแค่ครั้งเดียว ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้
    ...ลองเอากลับไปคิดดูว่า ระหว่างคนที่ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน...อยู่ๆก็ทิ้งเราไปให้เราอยู่คนเดียว...กับคนที่คอยดูแลอยู่เคียงข้างมาตลอด...นายไม่เห็นค่าของเขาบ้างเหรอ...?"



    ยุนโฮนิ่งเงียบไปหลังได้ยินคำถามของยูชอน... คำถามตรงๆของยูชอนทิ่มแทงลงไปในใจ... ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ จุนซูที่คอยดูแลเขามาตลอด...คอยอยู่ข้างๆอยู่เป็นเพื่อนในวันที่เขาเหงาเพราะขาดแจจุง... สิ่งที่จุนซูทำล้วนเป็นเพราะความรักที่มีต่อยุนโฮเท่านั้น...

    ยูชอนมองดูยุนโฮที่นั่งคิดอยู่ด้วยความเจ็บปวด... หยดน้ำเล็กๆที่ไหลเปื้อนแก้มเป็นทางยาวชายหนุ่มไม่คิดแม้แต่จะปาดมันทิ้ง หากน้ำตามันจะช่วยให้เขาบรรเทาความเจ็บปวดลงได้เขาก็จะปล่อยให้มันไหลต่อไป หากยุนโฮไม่ได้ถูกผ้าปิดตาไว้...ตอนนี้ยุนโฮคงจะมองเห็นยูชอนที่กำลังร้องไห้โดยกัดฟันไว้เพื่อไม่ให้ยุนโฮได้ยินเสียงอยู่แน่ๆ...


    ...ขอโทษยุนโฮ...ขอโทษที่ต้องทำร้ายนายขนาดนี้...ทั้งที่ฉันก็รู้ดีว่านายรักแจจุงมากแค่ไหน...

    ...แต่นายเคยบอกฉัน ว่าเพื่อคนที่นายรักไม่ว่าอะไรนายก็จะทำใช่มั้ย?

    ...ตอนนี้ฉันก็กำลังทำแบบนาย...ฉันจะทำให้คนที่ฉันรักมีความสุข...เพื่อจุนซูแล้ว เรื่องแค่นี้ฉันทำได้...ต่อให้ต้องตัดใจจากจุนซู ฉันก็จะทำ...


     

    ...ขอโทษแจจุง...ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้...แต่ฉันไม่อยากให้ยุนโฮมองไม่เห็นและไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต... ทุกครั้งฉันต้องมองดูยุนโฮที่มีสายตาเจ็บปวดเพราะตามหานายไม่พบมันเป็นสายตาที่แม้แต่คนอย่างฉันมองก็ยังเจ็บไปด้วย... และอย่างสุดท้ายนี่เป็นความต้องการของฉันเอง...

    ฉันไม่อยากเห็นจุนซูเศร้า...แค่เขามีน้ำตา...หัวใจของฉันมันก็จะแตกสลายเอาซะให้ได้... ฉันจะทำให้เขามีความสุข แม้ว่าความสุขนั้นต้องแลกมาด้วยการเหยียบย่ำหัวใจของฉัน,เขา หรือแม้กระทั่งนายที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนี่ด้วยก็ตาม...ขอโทษที่ฉันทรยศนาย...


    ยูชอนมองหน้ายุนโฮอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องไป...ถ้าหากอยู่ต่อเขากลัวจะกลั้นเสียงร้องไห้ไม่ให้ยุนโฮได้ยินไม่ได้...



    แอ๊ด....



    "เดี๋ยว...!!" อยู่ๆคนบนเตียงก็เรียกยูชอนที่กำลังเปิดประตูออกไปให้หยุดชะงักและหยุดฟังเขา "แล้วนายล่ะ...ยูชอน...นายล่ะ?"


    "อย่าห่วงเลย ฉันรักเขา...แต่เขาไม่ได้รักฉัน สิ่งที่ฉันทำได้มีแค่...เฝ้ามองและคอยดูแลอย่างที่เพื่อนสนิทคนหนึ่งจะทำให้ได้เท่านั้นเอง... ไม่ต้องห่วงฉันหรอก..." ชายหนุ่มรีบตอบพลางประคองเสียงไม่ให้สั่นอย่างสุดความสามารถแล้วรีบออกจากห้องไป


    เสียงปิดประตูของยูชอนดังขึ้นตามด้วยร่างเจ้าของชื่อเดินจากไป...แทบจะในวินาทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้น...น้ำใสๆที่คลอรออยู่แล้ว ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง แม้จะมีผ้าพันเอาไว้อยู่ แต่นั่นไม่ได้ช่วยซับน้ำตาของยุนโฮได้เลยแม้แต่น้อย...



    น้ำตาที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม...มันถึงไหล...และไหลเพราะอะไร...


    เพราะสิ่งที่ยูชอนพูดมันตรงกับความจริงมากเกินไปใช่มั้ย?มันเป็นสิ่งที่ตัวเองก็คิดอยู่เหมือนกันใช่มั้ย?

    หรือเพราะคิดถึงคนที่ชายหนุ่มกล่าวหาว่า ว่าทิ้งเขาไป...หรือเพราะสงสารจุนซู เขาเองก็รู้ว่าจุนซูรักเขา

    อีกอย่างเขาเคยชอบจุนซูมาก่อน... แต่พอรู้ว่ายูชอนรักเขาจึงหลีกทางให้...เพราะเขาไม่อยากให้ยูชอนเสียใจ ถึงตัวเขาจะต้องเป็นฝ่ายเสียใจเองก็ตาม...



    พอดีกับที่แจจุงมาบอกรักเขา...ตั้งแต่นั้นมาไม่รู่เมื่อไหร่ที่เขาลืมความรู้สึกที่เคยมีต่อจุนซูไปจนหมด

    หรือเขากำลังสงสารยูชอนนะ ไม่รู้ว่ายูชอนจะต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนกว่าเจ้าตัวจะเอ่ยปากขึ้นมาได้...



    หรือว่าเขากำลังสงสารตัวเองกันแน่...


     

    นั่นสิ...นี่เขาร้องไห้ทำไม...เสียใจเรื่องอะไรกันแน่...แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเลย...และสิ่งสุดท้ายที่ยุนโฮทำได้คือการปล่อยให้น้ำตาไหลไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดที่จะเช็ดมันเลยแม้แต่น้อย เพียงเพราะคิดว่าบางที มันอาจจะช่วยให้ความเศร้าในใจลดลงไปได้บ้าง  แม้ดูเหมือนมันจะเป็นการตอกย้ำความจริงเสียมากกว่า....


    "ขอโทษนะ...แจจุง ฉันขอโทษ"


    ความรู้สึกของยุนโฮ...ไม่ต่างอะไรกับคนที่พึ่งเดินออกไปเลยแม้แต่น้อย ผู้ซึ่งทรุดตัวลงพิงประตูร้องไห้อย่างเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อที่หลังจากนี้ เขาจะต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเอง... เพื่อเพื่อนรัก...และ เพื่อหัวใจที่ชื่อว่า
    'คิมจุนซู'


    ไม่ว่ายุนโฮ จะเลือกทางไหน...หรือจะตัดสินใจอย่างไร...
    ถึงยังไง...ก็ต้องมีคนเจ็บปวดอยู่ดี...

    To Be Con...



     


    อยากให้ลองเดากันดูนะ... ว่าป๊ายุนจะเลือกใคร...
    แต่คิดว่าคงรู้กันอยู่แล้วก็ในอินโทรบอกไว้หมดแล้วนี่เนอะ
    แต่ขอบอกว่าตอนจบเรื่องนี้เกิดคาด (มั้ง?)
    เอาเถอะช่างมันๆ Re-write ตอนนี้เสร็จแล้วก็สบายไปอีก 1 วัน
    เพราะตอนนี้เป้นอะไรที่เราแก้เยอะมากๆ
    จะเห็นได้จากรายละเอียดเรื่องแจกะมิค
    อืม...พร่ามแค่นี้ไป รีตอนต่อไปดีกว่า...

    ปล. อ่านแล้วอย่าพึ่ง งง นะ จากตอนแรกแจหายไป 5 ปีใช่มั้ย? แต่ใตตอนที่ 2 นี้แจพึ่งหายไปได้ 3 ปีจ้า...อย่างงนะ สรุปก็คืออดีตนั่นแหละ...
    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×