คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : >>> 02
*~Timeless Love~*
Because tomorrow is come...
คนเรา...มักกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เราเรียกกันว่า...อนาคต
คงเป็นเพราะเราไม่รู้เลยว่า...อนาคต
นั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง?
บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่เราคิด หรือไม่...ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้เราผิดหวัง...
แต่ก็เพราะเราไม่รู้อะไรเลยนี่ล่ะ...เราถึงยังอยู่กันอย่างมีความหวังที่ แม้ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงเมื่อไหร่...
แต่ก็หวังให้มันเป็นจริงใน...อนาคต...
[ฤดูหนาวปี 2006]
ท่ามกลางค่ำคืนของฤดูกาลอันหนาวเหน็บ เด็กหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิทเต็มไปด้วยหมู่ดาวพร่างพรายที่กำลังส่องแสงประกายระยิบระยับ แล้วก้มลงมองไปยังถนนสายหลักของเมืองที่เคยเต็มไปด้วยความวุ่นวายและมีชีวิตชีวาของการใช้ชีวิต ทว่าวันนี้กลับไร้ซึ่งผู้คน อาจเป็นเพราะอากาศที่หนาวจัด คนส่วนมากจึงเลือกที่จะอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข และความอบอุ่น.... และด้วยความหนาวเย็นของฤดูกาล หิมะจึงเริ่มโรยตัวบางๆ
แต่ทว่า...ถึงแม้อากาศข้างนอกจะหนาวเย็นสักเพียงใด แต่นั่นก็คงไม่สามารถเทียบเท่ากับความหนาวเหน็บภายในใจของเด็กหนุ่มผู้เฝ้ามองมันได้เลย เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆ
ปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่ตัวเองสร้างขึ้นมา
...เบื่อเหลือเกินกับชีวิตไร้อิสระนี้ ...เขาอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้วนะ...
อาจจะเป็นเดือน...เป็นปี...แต่ในความรู้สึกกลับนานแสนนาน...
ยุนโฮ...ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนกันนะ?
...อากาศหนาวแบบนี้...นายใส่เสื้อกันหนาวหรือยัง?
...ฉันกลัวนายจะเป็นหวัดจัง... นายน่ะชอบลืมใส่เสื้อกันหนาวประจำ...ต้องให้ฉันคอยเตือนอยู่เรื่อย
หวังว่าคืนนี้นายคงหลับสบายใต้ผ้านวมอุ่นๆนะ...
...ตั้งแต่ฉันหายตัวไป...ไม่รู้ว่านายจะออกตามหาฉันบ้างมั้ย?...นายจะคิดถึงฉันบ้างรึเปล่า?
...ผ่านไปตั้งห้าปีแล้ว...นี่ฉันไม่ได้เจอนายเลยมาตั้ง 5 ปีเชียวหรือนี่?
...นายจะได้เป็นนักร้องตามที่ฝันไว้มั้ยนะ?
ถ้าเป็นจริงได้ก็ดีสิ...เพราะนายคงจะเป็นดาวของวงการที่เจิดจรัสที่สุดเลยล่ะ...
เด็กหนุ่มคิดพลางแย้มยิ้มบางๆให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงคนรัก...
...ฉันคิดถึงนายจังเลย...
จุนซูจะยังสบายดีอยู่หรือเปล่า?...นายยังขี้แยเหมือนเดิมมั้ย? คงไม่หรอกนะ...ก็นายมียูชอนค่อยซับน้ำตาให้แล้วนี่นา...
...ฉันคิดถึงพวกนายจริงๆ...
ฉันอยากกลับไป...แต่ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองดูพระจันทร์ที่ส่องสว่างกลางหมู่ดาว...แสงนวลของพระจันทร์เผยให้เห็นใบหน้าเนียนขาวเกือบซีด ผมสีดำสนิทยาวปะบ่าเข้ากับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากสีสดดั่งกลีบกุกลาบ นัยน์ตาสีนิลมันขลับจับจ้องไปยังด้านนอกอย่างเศร้าสร้อย คล้ายคล้ายจะมีน้ำใสๆไหลลงมา... ถ้าไม่มีเสียงหวานของคนคุ้นเคยขัดเอาไว้เสียก่อน
"แจจุง...วันนี้มีงานนะ ไปกันเถอะ...ก่อนที่ 'นายแม่' จะมาเรียก" เด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งหน้าตาน่ารักตะโกนเรียกแจจุงจากหน้าประตู้ห้อง ก่อนจะปรากฎร่างสูงเพรียวเดินเข้ามา...
"อืม...รู้แล้วล่ะ...ชางมิน...นายลงไปก่อนก็ได้นะ...ฉันอยากอยู่อย่างนี้สักพัก..." เสียงหวานเจ้าของนัยน์ตาสีนิลตอบคนเดียวของเขาตั้งแต่มาอยู่ที่นี่... แล้วเงียบไปก่อนจะหันกลับไปมองท้องฟ้าสีเข้มตามเดิม ชางมินเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วโอบกอดแจจุงไว้ พลางกระซิบข้างหูแจจุงอย่างแผ่วเบา...
"แจจุง...อดทนไว้นะ...อีกไม่นานหรอก...เราทั้งคู่จะต้องได้ออกไปจากที่นี่แน่ๆ" น้ำเสียงกระซิบที่แสดงถึงความห่วงใยของผู้พูดได้เป็นอย่างดี ก่อนจะตัดสินใจปล่อยให้แจจุงมีเวลาอยู่กับตัวเองตามลำพังอย่างที่เจ้าตัวต้องการจะมี...
"งั้น...ฉันลงไปก่อนนะ...อย่าช้าล่ะ"
"ขอบใจนะ...ชางมิน" เสียงหวานเอ่ยขอบคุณอย่างแผ่วเบา...
พอเด็กหนุ่มจากไปห้องทั้งห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง...ความหนาวเหน็บที่มาพร้อมกับความมืด...นี่เป็นสิ่งที่แจจุงไม่ชอบเอาเสียเลย...ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเกลียดเวลากลางคืน...อาจจะเป็นตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับตัวมาที่นี่...ที่ที่เขาเรียกมันว่า ' นรกบนดิน '
ใช่แล้ว...ไม่ใช่แค่สำหรับแจจุงหรอก...แต่เป็นทุกคนที่ถูกจับตัวมาที่นี่ต่างหาก...
สถานที่ที่เป็นถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่กลับมีเบื้องหลังที่แสนเลวร้าย...
กลางวัน...ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในกรง...ไม่มีอิสระ...ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับโลกภายนอก...
แจจุงแทบจะไม่ได้นับด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เจอแสงอาทิตย์มานานเท่าไหร่แล้ว...
กลางวันที่ว่าแย่แล้ว... แต่สำหรับแจจุง... กลางคืนกลับเป็นยิ่งกว่านรก...
ไม่มีคืนใดเลย...ที่ผิวเนียนขาวนั้น..จะไม่มีรอยแดงช้ำเต็มทั่วตัว...
ไม่มีคืนใดเลย...ที่ไม่รู้สึกทรมาน...
อยากหนีไปจากที่นี่...
...เพราะความเหงาทำให้แจจุงนึกถึงวันที่ถูกจับตัวมาที่นี่...วันสุดท้ายที่มีความสุขที่สุด ก่อนที่ชีวิตจะเหลวแหลกไม่เหลือชิ้นดี...
..
.
5 ปีก่อน....
ท้องฟ้ายามเย็นเป็นสีน้ำเงินอ่อน... อุณหภูมิที่ลดลงอย่างช้าๆ แสดงถึงการมาเยือนของความหนาวเย็นในอีกไม่นานนี้ ใบไม้สีต่างๆพากันหลุดร่วงลงสู้พื้นดิน... เพื่อรอต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง...ฤดูที่คงจะเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หากไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นเสียก่อน...
"แจจุง...วันนี้ฉันไปส่งนายไม่ได้ ขอโทษจริงๆนะ" เสียงพูดอย่างลำบากใจของยุนโฮซึ่งอดโมโหตัวเองไม่ได้ที่ต้องปล่อยให้แจจุงกลับบ้านตามลำพัง... เพียงเพราะเขาถูกลงโทษให้ทำเวรเพราะเผลอหลับในชั่วโมง... แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงคนรักตรงหน้ามากเป็นทวีคูณก็เพราะความฝันเมื่อตอนที่เขาแอบหลับนั่นแหละ...ฝันว่าแจจุงกำลังจะจากเขาไป...ไกลแสนไกล... จนเผลอละเมอโวยวายออกมาจนโดนอาจารย์จับได้นั่นล่ะ!!!~
"ไม่เป็นไรหรอกน่า...ฉันกลับเองได้ นายต้องอยู่ทำเวรกับจุนซูนี่นา
" แจจุงว่าพลางนึกถึงร่างเล็กที่กำลังทำความสะอาดห้องอยู่บนห้องเรียน
"นายกลับเองได้จริงๆเหรอ? ให้ยูชุนไปส่งได้มั้ย? ฉันเป็นห่วง
"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า!! ฉันดูแลตัวเองได้...แล้วยูชุนก็ต้องไปสอบซ่อมภาษาเกาหลีก่อนไม่ใช่หรือไงเล่า...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันน่า..." แจจุงขึ้นเสียงดุเมื่อเห็นว่ายุนโฮกำลังทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตเอาแต่ใจตัวเอง...
"งั้นก็ดูแลตัวเองดีๆ...แล้วจะโทรไปหานะ..." น้ำเสียงทุ้มยอมแพ้แต่ยังไม่คลายความเป็นห่วงลงไปเลย...
"อืม...แล้วฉันจะรอนะ..." แจจุงพูดแล้วยิ้มอย่างน่ารักให้กับยุนโฮ ก่อนเดินออกจากโรงเรียนไป...
ในขณะที่ชายหนุ่มมองร่างบางไปอย่างไม่ละสายตา...ไม่รู้ทำไมเค้าถึงรู้สึกเหมือนจะไม่ได้เจอแจจุงอีกแล้ว... ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมอง เขาก็แทบจะวิ่งตามร่างบางไป แต่แล้วเสียงตะโกนใสๆของคนคุ้นเคยจากข้างหลังก็ทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก..
"ยุนโฮ...นั่นนายจะไปไหนน่ะ? อาจารย์มินตามหานายอยู่แน่ะ รีบไปได้แล้ว... "
"หา...เอ่อ...โอเคจุนซูฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ..." ยุนโฮตอบรับแล้วไล่ความคิดไม่ดีๆของตนเองออกไปก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องเพื่อทำเวรตามที่อาจารย์สั่ง...
...แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่ยุนโฮเป็นห่วงจะกลายเป็นจริงขึ้นมา...
"เฮ้อ!~ เดินมาคนเดียวนี่ก็เหงาเหมือนกันน้า~" เด็กหนุ่มบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆระหว่างทางกลับบ้าน ที่ออกจะเป็นทางเปลี่ยวไปเสียหน่อยยิ่งใกล้เวลากลางคืนด้วยแล้วยิ่งทำให้ทางกลับบ้านที่เดินกลับเป็นประจำดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก คงเป็นเพราะปกติยุนโฮจะมาส่งเสมอถึงได้ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้...
เด็กหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะให้ถึงบ้านก่อนท้องฟ้าจะมืดสนิท...แต่แล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงความผิดปกติจากด้านหลังจึงหันไปมอง สิ่งที่ฉายในแววตาคือผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำเก่าๆ สายตาหื่นกระหายที่เด็กหนุ่มมั่นใจว่ากำลังมองมาที่เขาอย่างแน่นอน
แจจุงมองผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะตัดสินใจวิ่งหนีไป แต่เมื่อขาคู่เรียวหันกลับเตรียมพร้อมวิ่งก็เจอเข้ากับชายอีกคนหนึ่งก่อนกำปั้นหนักๆจะกระแทกท้องอย่างแรงจนเด็กหนุ่มยืนไม่อยู่ แรงอันมหาศาลทำให้คนที่โดนถึงกับนอนตัวงอ มือบางกุมท้องตัวเองแน่น ความปวดกระจายไปทั่ว อาการจุกทำให้เด็กหนุ่มลุกไม่ขึ้นกว่าจะรู้สึกตัวก็โดนผ้ากลิ่นแปลกปิดเข้าที่ปากและจมูกหลังจากนั้นสติของร่างบางก็ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว...
เมื่อเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...เขาอยู่ในที่ที่ไม่รู้จัก... ทั้งห้องไม่มีอะไรเลยนอกจากประตูและหน้าต่างอย่างละหนึ่งบาน ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรดีนัก แต่เด็กหนุ่มก็รู้ตัวว่าตัวเขาเองกำลังอยู่ในอันตราย สิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้จึงมีเพียงหาทางหนีเท่านั้น... มือเรียวพยายามเปิดประตูและหน้าต่างแต่ก็พบว่ามันถูกล็อกเอาไว้... ขณะที่แจจุงกำลังคิดหาวิธีอื่น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของผู้ชาย 2 คนและผู้หญิงอายุคราวป้าเดินเข้ามา...
แพขนตาหนาขยับน้อยๆ เพราะยาสลบเริ่มหมดฤทธิ์ลง เมื่อเวลาผ่านไปสักพักแจจุงค่อยๆ เริ่มรู้สึกตัว ร่างบางพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งของตนเองอย่างยากลำบาก
"ตื่นแล้วเหรอ...คนสวย" เสียงแหบต่ำถามอย่างพอใจ พลางเดินเข้ามาใกล้ แจจุงพยายามกระพริบตาถี่ๆไล่ความพร่าเลือนออกจากดวงตาก่อนภาพที่เห็นจะทำให้เด็กหนุ่มต้องตกใจ... ตอนนี้ตัวเขาเองอยู่ในห้องเล็กๆที่มีเพียงเขาและผู้ชายหน้าตาหื่นกระหายที่เด็กหนุ่มไม่รู้จักอีก 2 คนเท่านั้น...
"พะ...พวกแกเป็นใคร? จับฉันมาทำไม? ละ..แล้วที่นี่ที่ไหน? " แจจุงถามละล่ำละลักอย่างหวาดระแวดเพราะความกลัว มองไปรอบๆ พยายามทำใจดีสู้เสือทั้งๆ ที่ภายในใจกำลังหวดกลัวสุดขีด ร่างกายสั่นเทิ้มกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ยังไม่ทันที่ร่างใหญ่ของชายทั้งสองจะได้ตอบ
ปัง!!
ประตูไม้ถูกผลักและปิดลงอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างของผู้ชายวัยกลางคนและผู้หญิงอายุคราวป้าเดินเข้ามา... เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าชายคนนั้นคือคนที่เขาเจอเมื่อตอนเย็น มือเรียวกำแน่นพลางขยับตัวไปติดกำแพงโดยไม่รู้ตัว ร่างทั้งร่างไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว... หญิงสาวที่พึ่งเข้ามาใช้สายตา ส่ายส่ายไปทั่วร่างของเขา ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาด้วยกันหันไปถามผู้หญิงคนนั้น...
"เป็นไงครับนายแม่... สินค้าคราวนี้ใช้ได้มั้ยครับ?" ชายหนุ่มถามทั้งที่รู้คำตอบในใจ
"ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก... เป็นสินค้าชั้นเยี่ยมเชียวละ พวกนายไปหาที่ไหนกันมาเนี่ย? ถูกใจฉันจริงๆ แต่จะเยี่ยมขนาดไหนคงต้องให้พวกนายพิสูจน์ดูสินะ หึ...หึ..ถอดเสื้อมันออกสิ..."
"ครับนายแม่... เฮ้ย!~จัดการได้เลย" ชายหนุ่มหันไปสั่งไอ้หื่นสองคนที่พร้อมรอเวลานี้อยู่แล้ว ร่างสูงคนแรกเข้ามาตามคำสั่งกดร่างบอบบางลงกับพื้น และพยายามจะถอดเสื้อเขาออก... โดยมีชายอีกคนจับข้อมือเรียวไว้แน่น...
"ยะ...หยุดนะ!!...จะ...จะทำอะไร" แจจุงพยายามที่จะหนีเงื้อมมือของชายสองคนนั้น ด้วยการดิ้นและถีบตัวไปมา แต่แรงของผู้ใหญ่ก็มากกว่าเด็กอย่างเขามากนัก...
"หือ? อยากรู้เหรอ? จะว่าไงดีนะ สินค้าที่น่ารักของฉัน... อืม...คงเป็นการทดลองสินค้าละมั้ง? หวังว่าเธอคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ หึๆๆ " เสียงแหลมแสบแก้วหูของสาวผู้นั้นพลางยิ้มอย่างพอใจ
นานๆทีลูกน้องของเธอถึงจะหาสินค้าชั้นเลิศได้ขนาดนี้... โดยคำพูดที่หญิงผู้นั้นพูดมาเด็กหนุ่มไม่อาจเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว... แต่ที่รู้อยู่อย่างเดียวตอนนี้คือ เขาต้องหนี!!~ หนีไปจากมือหนาที่กดเขาไว้อย่างแรง และมือที่กำลังลูบไล้บนร่างกายเขาด้วย...
"ไม่นะ...ปล่อย...ปล่อยฉัน...พวกนายจะทำอะไร?"
" หนวกหู!! หุบปากซะจะได้ไม่เจ็บตัวมาก..." ชายคนที่กำลังฉีกเสื้อของเขาอยู่หยุดการเคลื่อนไหวเพราะคำพูดจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดง...
"ไอ้สวะ...ไอ้สารเลวปล่อยฉันนะ...ปล่อย!!!!~"
ผัวะ
.!!
"ฉันบอกให้แกหุบปาก!!!!" ชายคนนั้นตบใบหน้าแจจุงอย่างแรง ดวงหน้าสวยหันไปตามแรงตบ หยดเลือดไหลซึมมุมปาก ก่อนจะพบกับแรกกระแทกหนักๆที่ท้องอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มันทำให้ร่างบางนิ่งเงียบไม่มีแรงต่อต้านอะไรอีกแล้ว
"นี่! เบาๆกับสินค้าหน่อยสิ เดี๋ยวช้ำมากไปกว่าจะให้รับแขกได้มันนานนะ..." ผู้หญิงคนเดิมที่นั่งมองอยู่พูดขึ้น แต่น้ำเสียงที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้ไม่รู้สึกถึงความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย...
"ขอโทษครับนายแม่..." ชายคนที่ตบเขาหันมาขอโทษ...
"ช่างเถอะ รีบๆจัดการหน่อยฉันอยากได้ยินเสียงร้องครวญของมันเต็มทีแล้ว อยากรู้นักว่าปากเก่งแบบนี้ เสียงครางจะหวานขนาดไหนกัน หึๆๆๆ"
"ได้ยินแล้วใช่มั้ย? ทำตัวว่าง่ายๆซะ แล้วฉันปรนเปรอความสุขให้!" ว่าพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ พุ่งมือเข้ากระชากเสื้อเชิ้ตตัวบางจนขาดวิ่น
"สวย! สวยจริงๆ " ร่างสูงใหญ่มองจ้องมองแผ่นอกเปลือยเปล่าด้วยความหื่นกระหาย ใบหน้าหยาบกร้านยิ้มพอใจเตรียมก้มลงเพื่อให้ลิ้นได้ลิ้มรสชาติของอกเนียนขาวตรงหน้า หลังจากนั้นไม่นาน ผิวเนียนขาวก็เต็มไปด้วยรอยช้ำแดง และรอยขบเม้มทั่วร่างกาย
เด็กหนุ่มกัดฟันนิ่งเงียบ...ทำได้เพียงมองขึ้นไปบนเพดาน...รับการถูกกระทำโดยผู้ชายแปลกหน้าเหล่านั้น...ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากริมฝีปากบางนั่นอีกแล้ว เพราะความเจ็บและทรมาน...เจ็บ...เจ็บจนไม่มีแม้แต่เสียงร้องไห้...
แรงกระแทกอันหนักหน่วงโถมเข้าใส่แจจุงอย่างไร้ความปรานี ก่อนจะถูกโอนไปให้ชายอีกคนที่รออยู่ผลัดกันมาหาความหอมหวานจากเด๋กหนุ่ม... ร่างอันบอบช้ำที่ได้แต่ไหวโอนไปตามแรงนั้น ไม่มีแรงจะต่อต้านใดๆเลย...
"เยี่ยม!! ยอดมากเลย นายแม่... คนสวยนี่ถึงใจดีจริงๆ..." เสียงของร่างสูงใหญ่ทั้งสองที่เสร็จจากการหาความสุขจากร่างเล็กที่หมดสติไปแล้ว...
"อืม...เอามันไปอยู่ห้องเดี๋ยวกับชางมิน... สินค้าชั้นเยี่ยมก็ต้องอยู่กับสินค้าชั้นเยี่ยมด้วยกัน...!!~" นายแม่ยิ้มแสยะรับความเห็นของชายร่างสูงสองคน แววตาของสาวใหญ่เติมไปด้วยความสุข ความสุขที่ได้หากินบนความทุกข์ทรมานของผู้อื่น...
หลังจากนั้นแจจุงถูกพาไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าเป็นที่ใด มันเป็นห้องเล็กๆธรรมดาๆแห่งหนึ่ง ภายในห้องนั้นมีเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งท่าทางเป็นมิตรรออยู่แล้ว... สิ่งแรกที่เด็กหนุ่มคนนั้นทำคือการโอบกอดเขาไว้โดยไม่พูดอะไรเลย ไม่แม้แต่จะถามว่าเขาเป็นใคร...
...ช่วงแรก แจจุงมีชีวิตอยู่กับคำถามที่หาทางออกไม่ได้ เพียงแค่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้น้ำตาไหลนองหน้าอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาใส่ จิตใจและร่างกายที่ถูกทำร้ายอย่างไม่มีชิ้นดี ชีวิตที่เหลือต่อไปจากนี้ของคิมแจจุงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...
เขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง?
เขาจะมีลมหายใจต่อไปได้อย่างไร?
ในเมื่อตอนนี้ข้างกายเขาไม่มีคนรักที่ชื่อว่า จุงยุนโฮ อีกแล้ว...
แล้วถ้าหนีออกไปได้ล่ะ ร่างกายที่แสนสกปรกโสมมนี้ยุนโฮจะยังรับได้มั้ย?
ยุนโฮจะยังรักเขาเหมือนเดิมมั้ย?
แจจุงแทบทนกับความคิดที่ยุนโฮจะรังเกียจเขาไม่ได้...
พอจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ปลายแหลมของมีดลากผ่านข้อมือขาวจนเลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมา...
พร้อมกับเสียงร้องห้ามอย่างตกใจของชางมินนั่นล่ะ...
ชางมินไม่ได้ต่อว่าอะไรเพียงแต่นั่งพันแผลให้อย่างเบามือก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง...ขณะที่เล่าชางมินเองก็มีหยดน้ำใสเอ่อคลออยู่ แต่เจ้าตัวไม่สนใจที่จะเช็ดมัน...
ชีวิตของเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งออกจะลำบากมากกว่าแจจุงมากนัก เพราะถึงพ่อแม่ของแจจุงจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ท่านก็ยังได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้มากพอที่เด็กหนุ่มจะอยู่คนเดียวได้... แต่ชางมินไม่มีอะไรเลย เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวเองมีเงินได้เรียนในโรงเรียนธรรมดาแห่งหนึ่ง
แต่แล้วไม่นานสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเด็กหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นมา ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นและพร้อมจะดูแลเขาเสมอ สิ่งเหล่านั้นทำให้ชางมินพร้อมยอมรับได้ไม่ยาก ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการคือใครสักคนที่จะดูแลเขาได้ด้วยความรัก และมีความอบอุ่นมอบให้เขามาตลอดเท่านั้นเอง...
แต่เวลาแห่งความสุขมีไม่มากนัก... ไม่นานวันหนึ่งที่เด็กหนุ่มร่างสูงต้องกลับจากโรงเรียนเพียงลำพังก็โดนเหมือนที่แจจุงพึ่งเจอมา... ชายวัยกลางคนที่มีหน้าที่หาเด็กหน้าตาดีให้มาเป็นสินค้า...เพื่อเป็นที่รองรับอารมณ์ของคน หลังจากนั้นเด็กหนุ่มร่างสูงได้ขอร้องไม่ให้เขาทำแบบนี้อีกพร้อมกับคำแนะนำที่ดีที่สุดเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะทำได้ให้แก่เขา...
"ถ้าเราเชื่อว่าอนาคตมันจะดี อย่างน้อยเราก็ยังคงมีความหวังต่อไป แต่ถ้าเกิดอนาคตมันเลวร้ายอย่างที่นายคิดเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องกลัวนะ...ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง...ฉันสัญญา เราจะต้องได้ออกไปจากนรกแห่งนี้ด้วยกัน...แจจุง... ฉันสัญญา"
การอยู่ที่แห่งนี้สิ่งเดียวที่แจจุง และ ชางมินต้องทำมีเพียงนั่งรอเวลาให้ถึงตอนกลางคืนเพื่อออกไปรับแขกที่ 'นายแม่' สั่งให้ไป... แค่เท่านั้น
แม้จะทรมาน...แต่เด็กหนุ่มก็ยังทนอยู่ได้ด้วยสัญญาที่มีต่อเพื่อนสนิท....
รวมทั้งคนๆเดียวที่เปรียบเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจที่บอบช้ำของแจจุงให้เต้นต่อไปได้
ชายหนุ่มที่ชื่อว่า...ยุนโฮ...
....................................
........................
................
เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเพื่อถอนสายตาออกจากภายนอกหน้าต่าง...อีกไม่นานพวกเขาจะได้ออกไปจากนรกแห่งนี้เสียที ด้วยความช่วยเหลือโดยบังเอิญ
ใช่...สำหรับแจจุงมันบังเอิญสุดๆไปเลย...ในเมื่อคืนวันก่อนเขาพบว่าลูกค้าของเขาเอารูปคนๆหนึ่งให้เขาดูและถามว่าตัวเขานั้นรู้จักคนในรูปมั้ย...?
วินาทีที่เห็นเด็กหนุ่มออกอาการตกตะลึง ก่อนจะชะงักไป ขาคู่เรียวเผลอถอยหนีด้วยความตกใจโดยไม่รู้ตัว... ในเมื่อรูปนั้นเป็นคนที่แจจุงรู้จักดี...ชิมชางมิน
"เอ่อ...!~ เดี๋ยวนะครับ อย่าพึ่งตกใจผมชื่อคังอินเป็นลูกน้องของคนรักของคุณชางมินครับ... ผมกำลังตามหาเขาอยู่ ผมคิดว่าคุณคงจะช่วยให้ผมเจอกับเขาได้
" ชายหนุ่มร่างหนารีบแนะนำตัวพร้อมอธิบายถึงสาเหตุการเข้ามาในนี้ให้แจจุงรู้
"หลังจากเจอชางมินแล้วคุณจะทำยังไง? แล้วผมจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดีกับพวกเรา..." เด็กหนุ่มมองร่างหนาอย่างจับผิด ทั้งที่ในใจเด็กหนุ่มนั้นเชื่อไปกว่าครึ่งแล้ว...
"ผมจะหาทางทำลายที่นี่ เพื่อที่คุณ คุณชางมิน และทุกคนจะได้ถูกปลดปล่อยออกจากที่นี่
ได้โปรดเชื่อผมนะครับ ผมมาที่นี่เพื่อช่วยพวกคุณจริงๆ" ท่าทางของร่างหนาที่ดูไม่มีพิษสงอะไรมันทำให้แจจุงเชื่อได้สนิทใจก่อนจะแอบพาชายหนุ่มไปพบชางมิน...
"ก็ได้ ผมจะเชื่อคุณ เดินตามผมมาให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้..."
หลังจากนั้นเป็นอย่างไรเด็กหนุ่มคงไม่ต้องพูดถึง รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าสวยตอนนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดี อิสระที่ไขว่คว้ามานานกำลังจะมาถึง...
อีกไม่นานหรอก...ฉันจะกลับไปหานายแล้ว...รอฉันนะยุนโฮ...
เพียงแค่คิดว่าจะได้ออกไปจากนรกที่กักขังเขาไว้ถึง 5 ปีก็ดีใจจนแทบทนไม่ได้...อยากจะไปเสียตั้งแต่ตอนนี้...แต่ก็นั้นแหละ...
เด็กหนุ่มยังคงอดกังวลไม่ได้ว่ายุนโฮจะเป็นอย่างไร...เพียงแค่คิดว่าคนรักอย่างเขาจะรังเกียจร่างกายนี้ก็รู้สึกเจ็บแปลบในอก... แล้วพลันคำพูดของชางมินก็ดังแว่วขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
"ถ้าเราเชื่อว่าอนาคตมันจะดี อย่างน้อยเราก็ยังคงมีความหวังต่อไป แต่ถ้าเกิดอนาคตมันเลวร้ายอย่างที่นายคิดเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องกลัวนะ...ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง...ฉันสัญญา เราจะต้องได้ออกไปจากนรกแห่งนี้ด้วยกัน..."
นั่นสินะ...จะคิดไปทำไม ในเมื่อมันยังไม่เกิดขึ้น
เมื่อคิดได้ดังนั้น แจจุงจึงตัดสินใจไล่ความกังวลทั้งหมดทิ้งแล้วเดินตามชางมินไป...
Re-write ใหม่
ตอนแรกๆอาจจะยังไม่เปลี่ยนจากเดิมมาก แต่รายละเอียดเปลี่ยนอยู่พอควร
ถ้าใครจะอ่านแนะนำว่ารอรีไรท์เสร็จก่อนจะดีกว่านะ
เพราะเหตุผลที่ว่าเนื้อเรื่องมันชักมั่วไปกว่าที่วางพล๊อตไว้มาก
อย่าว่านะขอเวลาหน่อยเถอะ
บายจ้ะ.. รักคนอ่าน+เม้นต์นะจ้ะ
-
- +
+-b
g-น่า
รัก
ความคิดเห็น