ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #2 : >>> 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.15K
      4
      2 เม.ย. 50


    *~Timeless Love~*


    Because tomorrow is come...

     

    คนเรา...มักกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เราเรียกกันว่า...อนาคต

    คงเป็นเพราะเราไม่รู้เลยว่า...อนาคตนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง?

    บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่เราคิด หรือไม่...ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้เราผิดหวัง...

    แต่ก็เพราะเราไม่รู้อะไรเลยนี่ล่ะ...เราถึงยังอยู่กันอย่างมีความหวังที่ แม้ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงเมื่อไหร่...


    แต่ก็หวังให้มันเป็นจริงใน...อนาคต...


    [ฤดูหนาวปี 2006]


    ท่ามกลางค่ำคืนของฤดูกาลอันหนาวเหน็บ เด็กหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิทเต็มไปด้วยหมู่ดาวพร่างพรายที่กำลังส่องแสงประกายระยิบระยับ แล้วก้มลงมองไปยังถนนสายหลักของเมืองที่เคยเต็มไปด้วยความวุ่นวายและมีชีวิตชีวาของการใช้ชีวิต ทว่าวันนี้กลับไร้ซึ่งผู้คน อาจเป็นเพราะอากาศที่หนาวจัด คนส่วนมากจึงเลือกที่จะอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข และความอบอุ่น.... และด้วยความหนาวเย็นของฤดูกาล หิมะจึงเริ่มโรยตัวบางๆ อย่างเงียบเชียบ ละอองหิมะร่ายรำอยู่นอกหน้าต่างดูงดงาม เด็กหนุ่มยื่นมือไปแตะอีกฝากของกระจก สิ่งที่สัมผัสได้มีเพียงความหนาวเย็นของโลกภายนอกเท่านั้น



    แต่ทว่า...ถึงแม้อากาศข้างนอกจะหนาวเย็นสักเพียงใด แต่นั่นก็คงไม่สามารถเทียบเท่ากับความหนาวเหน็บภายในใจของเด็กหนุ่มผู้เฝ้ามองมันได้เลย
    เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่ตัวเองสร้างขึ้นมา


     

    ...เบื่อเหลือเกินกับชีวิตไร้อิสระนี้ ...เขาอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้วนะ...

    อาจจะเป็นเดือน...เป็นปี...แต่ในความรู้สึกกลับนานแสนนาน...

    ยุนโฮ...ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนกันนะ?

    ...อากาศหนาวแบบนี้...นายใส่เสื้อกันหนาวหรือยัง?

    ...ฉันกลัวนายจะเป็นหวัดจัง... นายน่ะชอบลืมใส่เสื้อกันหนาวประจำ...ต้องให้ฉันคอยเตือนอยู่เรื่อย

    หวังว่าคืนนี้นายคงหลับสบายใต้ผ้านวมอุ่นๆนะ...

    ...ตั้งแต่ฉันหายตัวไป...ไม่รู้ว่านายจะออกตามหาฉันบ้างมั้ย?...นายจะคิดถึงฉันบ้างรึเปล่า?

    ...ผ่านไปตั้งห้าปีแล้ว...นี่ฉันไม่ได้เจอนายเลยมาตั้ง 5 ปีเชียวหรือนี่?

    ...นายจะได้เป็นนักร้องตามที่ฝันไว้มั้ยนะ?

    ถ้าเป็นจริงได้ก็ดีสิ...เพราะนายคงจะเป็นดาวของวงการที่เจิดจรัสที่สุดเลยล่ะ...


    เด็กหนุ่มคิดพลางแย้มยิ้มบางๆให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงคนรัก...


    ...ฉันคิดถึงนายจังเลย...

    จุนซูจะยังสบายดีอยู่หรือเปล่า?...นายยังขี้แยเหมือนเดิมมั้ย? คงไม่หรอกนะ...ก็นายมียูชอนค่อยซับน้ำตาให้แล้วนี่นา...

    ...ฉันคิดถึงพวกนายจริงๆ...

    ฉันอยากกลับไป...แต่ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้



    เด็กหนุ่มเงยหน้ามองดูพระจันทร์ที่ส่องสว่างกลางหมู่ดาว...แสงนวลของพระจันทร์เผยให้เห็นใบหน้าเนียนขาวเกือบซีด ผมสีดำสนิทยาวปะบ่าเข้ากับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากสีสดดั่งกลีบกุกลาบ นัยน์ตาสีนิลมันขลับจับจ้องไปยังด้านนอกอย่างเศร้าสร้อย คล้ายคล้ายจะมีน้ำใสๆไหลลงมา... ถ้าไม่มีเสียงหวานของคนคุ้นเคยขัดเอาไว้เสียก่อน


     

    "แจจุง...วันนี้มีงานนะ ไปกันเถอะ...ก่อนที่ 'นายแม่' จะมาเรียก" เด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งหน้าตาน่ารักตะโกนเรียกแจจุงจากหน้าประตู้ห้อง ก่อนจะปรากฎร่างสูงเพรียวเดินเข้ามา...


    "อืม...รู้แล้วล่ะ...ชางมิน...นายลงไปก่อนก็ได้นะ...ฉันอยากอยู่อย่างนี้สักพัก..." เสียงหวานเจ้าของนัยน์ตาสีนิลตอบคนเดียวของเขาตั้งแต่มาอยู่ที่นี่... แล้วเงียบไปก่อนจะหันกลับไปมองท้องฟ้าสีเข้มตามเดิม ชางมินเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วโอบกอดแจจุงไว้ พลางกระซิบข้างหูแจจุงอย่างแผ่วเบา...


    "แจจุง...อดทนไว้นะ...อีกไม่นานหรอก...เราทั้งคู่จะต้องได้ออกไปจากที่นี่แน่ๆ" น้ำเสียงกระซิบที่แสดงถึงความห่วงใยของผู้พูดได้เป็นอย่างดี ก่อนจะตัดสินใจปล่อยให้แจจุงมีเวลาอยู่กับตัวเองตามลำพังอย่างที่เจ้าตัวต้องการจะมี...


    "งั้น...ฉันลงไปก่อนนะ...อย่าช้าล่ะ"


    "ขอบใจนะ...ชางมิน" เสียงหวานเอ่ยขอบคุณอย่างแผ่วเบา...



    พอเด็กหนุ่มจากไปห้องทั้งห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง...ความหนาวเหน็บที่มาพร้อมกับความมืด...นี่เป็นสิ่งที่แจจุงไม่ชอบเอาเสียเลย...ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเกลียดเวลากลางคืน...อาจจะเป็นตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับตัวมาที่นี่...ที่ที่เขาเรียกมันว่า
     ' นรกบนดิน '


     

    ใช่แล้ว...ไม่ใช่แค่สำหรับแจจุงหรอก...แต่เป็นทุกคนที่ถูกจับตัวมาที่นี่ต่างหาก...

    สถานที่ที่เป็นถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่กลับมีเบื้องหลังที่แสนเลวร้าย...

    กลางวัน...ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังอยู่ในกรง...ไม่มีอิสระ...ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับโลกภายนอก...

    แจจุงแทบจะไม่ได้นับด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เจอแสงอาทิตย์มานานเท่าไหร่แล้ว...

    กลางวันที่ว่าแย่แล้ว... แต่สำหรับแจจุง... กลางคืนกลับเป็นยิ่งกว่านรก...

    ไม่มีคืนใดเลย...ที่ผิวเนียนขาวนั้น..จะไม่มีรอยแดงช้ำเต็มทั่วตัว...

    ไม่มีคืนใดเลย...ที่ไม่รู้สึกทรมาน...

    อยากหนีไปจากที่นี่...



    ...เพราะความเหงาทำให้แจจุงนึกถึงวันที่ถูกจับตัวมาที่นี่...วันสุดท้ายที่มีความสุขที่สุด ก่อนที่ชีวิตจะเหลวแหลกไม่เหลือชิ้นดี...



    ……………………

    ………………..

    …………….



    5 ปีก่อน....

    [ฤดูใบไม้ร่วง 2001]


    ท้องฟ้ายามเย็นเป็นสีน้ำเงินอ่อน... อุณหภูมิที่ลดลงอย่างช้าๆ แสดงถึงการมาเยือนของความหนาวเย็นในอีกไม่นานนี้ ใบไม้สีต่างๆพากันหลุดร่วงลงสู้พื้นดิน... เพื่อรอต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง...ฤดูที่คงจะเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น หากไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นเสียก่อน...


    "แจจุง...วันนี้ฉันไปส่งนายไม่ได้ ขอโทษจริงๆนะ" เสียงพูดอย่างลำบากใจของยุนโฮซึ่งอดโมโหตัวเองไม่ได้ที่ต้องปล่อยให้แจจุงกลับบ้านตามลำพัง... เพียงเพราะเขาถูกลงโทษให้ทำเวรเพราะเผลอหลับในชั่วโมง... แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงคนรักตรงหน้ามากเป็นทวีคูณก็เพราะความฝันเมื่อตอนที่เขาแอบหลับนั่นแหละ...ฝันว่าแจจุงกำลังจะจากเขาไป...ไกลแสนไกล... จนเผลอละเมอโวยวายออกมาจนโดนอาจารย์จับได้นั่นล่ะ!!!~


    "ไม่เป็นไรหรอกน่า...ฉันกลับเองได้ นายต้องอยู่ทำเวรกับจุนซูนี่นา…" แจจุงว่าพลางนึกถึงร่างเล็กที่กำลังทำความสะอาดห้องอยู่บนห้องเรียน


    "นายกลับเองได้จริงๆเหรอ? ให้ยูชุนไปส่งได้มั้ย? ฉันเป็นห่วง…"


    "ไม่เป็นไรหรอกน่า!! ฉันดูแลตัวเองได้...แล้วยูชุนก็ต้องไปสอบซ่อมภาษาเกาหลีก่อนไม่ใช่หรือไงเล่า...เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันน่า..." แจจุงขึ้นเสียงดุเมื่อเห็นว่ายุนโฮกำลังทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตเอาแต่ใจตัวเอง...


    "งั้นก็ดูแลตัวเองดีๆ...แล้วจะโทรไปหานะ..." น้ำเสียงทุ้มยอมแพ้แต่ยังไม่คลายความเป็นห่วงลงไปเลย...


    "อืม...แล้วฉันจะรอนะ..." แจจุงพูดแล้วยิ้มอย่างน่ารักให้กับยุนโฮ ก่อนเดินออกจากโรงเรียนไป...

    ในขณะที่ชายหนุ่มมองร่างบางไปอย่างไม่ละสายตา...ไม่รู้ทำไมเค้าถึงรู้สึกเหมือนจะไม่ได้เจอแจจุงอีกแล้ว... ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมอง เขาก็แทบจะวิ่งตามร่างบางไป แต่แล้วเสียงตะโกนใสๆของคนคุ้นเคยจากข้างหลังก็ทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก..


    "ยุนโฮ...นั่นนายจะไปไหนน่ะ? อาจารย์มินตามหานายอยู่แน่ะ รีบไปได้แล้ว... "


    "หา...เอ่อ...โอเคจุนซูฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ..."  ยุนโฮตอบรับแล้วไล่ความคิดไม่ดีๆของตนเองออกไปก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องเพื่อทำเวรตามที่อาจารย์สั่ง...



     

    ...แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่ยุนโฮเป็นห่วงจะกลายเป็นจริงขึ้นมา...



     

    "เฮ้อ!~ เดินมาคนเดียวนี่ก็เหงาเหมือนกันน้า~" เด็กหนุ่มบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆระหว่างทางกลับบ้าน ที่ออกจะเป็นทางเปลี่ยวไปเสียหน่อยยิ่งใกล้เวลากลางคืนด้วยแล้วยิ่งทำให้ทางกลับบ้านที่เดินกลับเป็นประจำดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก คงเป็นเพราะปกติยุนโฮจะมาส่งเสมอถึงได้ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้...


    เด็กหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะให้ถึงบ้านก่อนท้องฟ้าจะมืดสนิท...แต่แล้วเด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงความผิดปกติจากด้านหลังจึงหันไปมอง สิ่งที่ฉายในแววตาคือผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีดำเก่าๆ สายตาหื่นกระหายที่เด็กหนุ่มมั่นใจว่ากำลังมองมาที่เขาอย่างแน่นอน


    แจจุงมองผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะตัดสินใจวิ่งหนีไป แต่เมื่อขาคู่เรียวหันกลับเตรียมพร้อมวิ่งก็เจอเข้ากับชายอีกคนหนึ่งก่อนกำปั้นหนักๆจะกระแทกท้องอย่างแรงจนเด็กหนุ่มยืนไม่อยู่ แรงอันมหาศาลทำให้คนที่โดนถึงกับนอนตัวงอ มือบางกุมท้องตัวเองแน่น ความปวดกระจายไปทั่ว อาการจุกทำให้เด็กหนุ่มลุกไม่ขึ้นกว่าจะรู้สึกตัวก็โดนผ้ากลิ่นแปลกปิดเข้าที่ปากและจมูกหลังจากนั้นสติของร่างบางก็ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว...

    เมื่อเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...เขาอยู่ในที่ที่ไม่รู้จัก... ทั้งห้องไม่มีอะไรเลยนอกจากประตูและหน้าต่างอย่างละหนึ่งบาน ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรดีนัก แต่เด็กหนุ่มก็รู้ตัวว่าตัวเขาเองกำลังอยู่ในอันตราย สิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้จึงมีเพียงหาทางหนีเท่านั้น... มือเรียวพยายามเปิดประตูและหน้าต่างแต่ก็พบว่ามันถูกล็อกเอาไว้... ขณะที่แจจุงกำลังคิดหาวิธีอื่น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของผู้ชาย 2 คนและผู้หญิงอายุคราวป้าเดินเข้ามา...



     



    แพขนตาหนาขยับน้อยๆ เพราะยาสลบเริ่มหมดฤทธิ์ลง เมื่อเวลาผ่านไปสักพักแจจุงค่อยๆ เริ่มรู้สึกตัว  ร่างบางพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งของตนเองอย่างยากลำบาก


    "ตื่นแล้วเหรอ...คนสวย" เสียงแหบต่ำถามอย่างพอใจพลางเดินเข้ามาใกล้ แจจุงพยายามกระพริบตาถี่ๆไล่ความพร่าเลือนออกจากดวงตาก่อนภาพที่เห็นจะทำให้เด็กหนุ่มต้องตกใจ... ตอนนี้ตัวเขาเองอยู่ในห้องเล็กๆที่มีเพียงเขาและผู้ชายหน้าตาหื่นกระหายที่เด็กหนุ่มไม่รู้จักอีก 2 คนเท่านั้น...

    "พะ...พวกแกเป็นใคร? จับฉันมาทำไม? ละ..แล้วที่นี่ที่ไหน? " แจจุงถามละล่ำละลักอย่างหวาดระแวดเพราะความกลัว มองไปรอบๆ พยายามทำใจดีสู้เสือทั้งๆ ที่ภายในใจกำลังหวดกลัวสุดขีด ร่างกายสั่นเทิ้มกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ยังไม่ทันที่ร่างใหญ่ของชายทั้งสองจะได้ตอบ

    ปัง!!

    ประตูไม้ถูกผลักและปิดลงอย่างรวดเร็ว ปรากฏร่างของผู้ชายวัยกลางคนและผู้หญิงอายุคราวป้าเดินเข้ามา... เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าชายคนนั้นคือคนที่เขาเจอเมื่อตอนเย็น มือเรียวกำแน่นพลางขยับตัวไปติดกำแพงโดยไม่รู้ตัว ร่างทั้งร่างไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว... หญิงสาวที่พึ่งเข้ามาใช้สายตา ส่ายส่ายไปทั่วร่างของเขา ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาด้วยกันหันไปถามผู้หญิงคนนั้น...


    "เป็นไงครับนายแม่... สินค้าคราวนี้ใช้ได้มั้ยครับ?" ชายหนุ่มถามทั้งที่รู้คำตอบในใจ


    "ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก... เป็นสินค้าชั้นเยี่ยมเชียวละ พวกนายไปหาที่ไหนกันมาเนี่ย? ถูกใจฉันจริงๆ แต่จะเยี่ยมขนาดไหนคงต้องให้พวกนายพิสูจน์ดูสินะ หึ...หึ..ถอดเสื้อมันออกสิ..."


    "ครับนายแม่... เฮ้ย!~จัดการได้เลย" ชายหนุ่มหันไปสั่งไอ้หื่นสองคนที่พร้อมรอเวลานี้อยู่แล้ว ร่างสูงคนแรกเข้ามาตามคำสั่งกดร่างบอบบางลงกับพื้น และพยายามจะถอดเสื้อเขาออก... โดยมีชายอีกคนจับข้อมือเรียวไว้แน่น...

    "ยะ...หยุดนะ!!...จะ...จะทำอะไร" แจจุงพยายามที่จะหนีเงื้อมมือของชายสองคนนั้น ด้วยการดิ้นและถีบตัวไปมา แต่แรงของผู้ใหญ่ก็มากกว่าเด็กอย่างเขามากนัก...

    "หือ? อยากรู้เหรอ? จะว่าไงดีนะ สินค้าที่น่ารักของฉัน... อืม...คงเป็นการทดลองสินค้าละมั้ง? หวังว่าเธอคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ หึๆๆ " เสียงแหลมแสบแก้วหูของสาวผู้นั้นพลางยิ้มอย่างพอใจ


    นานๆทีลูกน้องของเธอถึงจะหาสินค้าชั้นเลิศได้ขนาดนี้... โดยคำพูดที่หญิงผู้นั้นพูดมาเด็กหนุ่มไม่อาจเข้าใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว... แต่ที่รู้อยู่อย่างเดียวตอนนี้คือ เขาต้องหนี
    !!~ หนีไปจากมือหนาที่กดเขาไว้อย่างแรง และมือที่กำลังลูบไล้บนร่างกายเขาด้วย...


    "ไม่นะ...ปล่อย...ปล่อยฉัน...พวกนายจะทำอะไร?"


    " หนวกหู!! หุบปากซะจะได้ไม่เจ็บตัวมาก..." ชายคนที่กำลังฉีกเสื้อของเขาอยู่หยุดการเคลื่อนไหวเพราะคำพูดจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดง...

    "ไอ้สวะ...ไอ้สารเลวปล่อยฉันนะ...ปล่อย!!!!~"

    ผัวะ ….!!


    "ฉันบอกให้แกหุบปาก!!!!" ชายคนนั้นตบใบหน้าแจจุงอย่างแรง ดวงหน้าสวยหันไปตามแรงตบ หยดเลือดไหลซึมมุมปาก ก่อนจะพบกับแรกกระแทกหนักๆที่ท้องอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มันทำให้ร่างบางนิ่งเงียบไม่มีแรงต่อต้านอะไรอีกแล้ว


    "นี่! เบาๆกับสินค้าหน่อยสิ เดี๋ยวช้ำมากไปกว่าจะให้รับแขกได้มันนานนะ..." ผู้หญิงคนเดิมที่นั่งมองอยู่พูดขึ้น แต่น้ำเสียงที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้ไม่รู้สึกถึงความห่วงใยเลยแม้แต่น้อย...


    "ขอโทษครับนายแม่..." ชายคนที่ตบเขาหันมาขอโทษ...


    "ช่างเถอะ รีบๆจัดการหน่อยฉันอยากได้ยินเสียงร้องครวญของมันเต็มทีแล้ว อยากรู้นักว่าปากเก่งแบบนี้ เสียงครางจะหวานขนาดไหนกัน หึๆๆๆ"


    "ได้ยินแล้วใช่มั้ย? ทำตัวว่าง่ายๆซะ แล้วฉันปรนเปรอความสุขให้!" ว่าพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ พุ่งมือเข้ากระชากเสื้อเชิ้ตตัวบางจนขาดวิ่น

    "สวย! สวยจริงๆ " ร่างสูงใหญ่มองจ้องมองแผ่นอกเปลือยเปล่าด้วยความหื่นกระหาย ใบหน้าหยาบกร้านยิ้มพอใจเตรียมก้มลงเพื่อให้ลิ้นได้ลิ้มรสชาติของอกเนียนขาวตรงหน้า หลังจากนั้นไม่นาน ผิวเนียนขาวก็เต็มไปด้วยรอยช้ำแดง และรอยขบเม้มทั่วร่างกาย


    เด็กหนุ่มกัดฟันนิ่งเงียบ...ทำได้เพียงมองขึ้นไปบนเพดาน...รับการถูกกระทำโดยผู้ชายแปลกหน้าเหล่านั้น...ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากริมฝีปากบางนั่นอีกแล้ว เพราะความเจ็บและทรมาน...เจ็บ
    ...เจ็บจนไม่มีแม้แต่เสียงร้องไห้...


    แรงกระแทกอันหนักหน่วงโถมเข้าใส่แจจุงอย่างไร้ความปรานี ก่อนจะถูกโอนไปให้ชายอีกคนที่รออยู่ผลัดกันมาหาความหอมหวานจากเด๋กหนุ่ม... ร่างอันบอบช้ำที่ได้แต่ไหวโอนไปตามแรงนั้น ไม่มีแรงจะต่อต้านใดๆเลย... 
     


    "เยี่ยม!! ยอดมากเลย นายแม่... คนสวยนี่ถึงใจดีจริงๆ..." เสียงของร่างสูงใหญ่ทั้งสองที่เสร็จจากการหาความสุขจากร่างเล็กที่หมดสติไปแล้ว...


    "อืม...เอามันไปอยู่ห้องเดี๋ยวกับชางมิน... สินค้าชั้นเยี่ยมก็ต้องอยู่กับสินค้าชั้นเยี่ยมด้วยกัน...!!~" นายแม่ยิ้มแสยะรับความเห็นของชายร่างสูงสองคน แววตาของสาวใหญ่เติมไปด้วยความสุข ความสุขที่ได้หากินบนความทุกข์ทรมานของผู้อื่น...



     


    หลังจากนั้นแจจุงถูกพาไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าเป็นที่ใด มันเป็นห้องเล็กๆธรรมดาๆแห่งหนึ่ง ภายในห้องนั้นมีเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งท่าทางเป็นมิตรรออยู่แล้ว... สิ่งแรกที่เด็กหนุ่มคนนั้นทำคือการโอบกอดเขาไว้โดยไม่พูดอะไรเลย ไม่แม้แต่จะถามว่าเขาเป็นใคร...


    ...ช่วงแรก แจจุงมีชีวิตอยู่กับคำถามที่หาทางออกไม่ได้ เพียงแค่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้น้ำตาไหลนองหน้าอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาใส่ จิตใจและร่างกายที่ถูกทำร้ายอย่างไม่มีชิ้นดี ชีวิตที่เหลือต่อไปจากนี้ของคิมแจจุงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

    เขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

    เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง?

    เขาจะมีลมหายใจต่อไปได้อย่างไร?

    ในเมื่อตอนนี้ข้างกายเขาไม่มีคนรักที่ชื่อว่า จุงยุนโฮ อีกแล้ว...

    แล้วถ้าหนีออกไปได้ล่ะ ร่างกายที่แสนสกปรกโสมมนี้ยุนโฮจะยังรับได้มั้ย?

    ยุนโฮจะยังรักเขาเหมือนเดิมมั้ย?

    แจจุงแทบทนกับความคิดที่ยุนโฮจะรังเกียจเขาไม่ได้...

    พอจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ปลายแหลมของมีดลากผ่านข้อมือขาวจนเลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมา...

    พร้อมกับเสียงร้องห้ามอย่างตกใจของชางมินนั่นล่ะ...

    ชางมินไม่ได้ต่อว่าอะไรเพียงแต่นั่งพันแผลให้อย่างเบามือก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง...ขณะที่เล่าชางมินเองก็มีหยดน้ำใสเอ่อคลออยู่ แต่เจ้าตัวไม่สนใจที่จะเช็ดมัน...

    ชีวิตของเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งออกจะลำบากมากกว่าแจจุงมากนัก  เพราะถึงพ่อแม่ของแจจุงจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ท่านก็ยังได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้มากพอที่เด็กหนุ่มจะอยู่คนเดียวได้... แต่ชางมินไม่มีอะไรเลย เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งที่ทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวเองมีเงินได้เรียนในโรงเรียนธรรมดาแห่งหนึ่ง 

    แต่แล้วไม่นานสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเด็กหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นมา ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นและพร้อมจะดูแลเขาเสมอ  สิ่งเหล่านั้นทำให้ชางมินพร้อมยอมรับได้ไม่ยาก ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการคือใครสักคนที่จะดูแลเขาได้ด้วยความรัก และมีความอบอุ่นมอบให้เขามาตลอดเท่านั้นเอง...


    แต่เวลาแห่งความสุขมีไม่มากนัก... ไม่นานวันหนึ่งที่เด็กหนุ่มร่างสูงต้องกลับจากโรงเรียนเพียงลำพังก็โดนเหมือนที่แจจุงพึ่งเจอมา... ชายวัยกลางคนที่มีหน้าที่หาเด็กหน้าตาดีให้มาเป็นสินค้า...เพื่อเป็นที่รองรับอารมณ์ของคน  หลังจากนั้นเด็กหนุ่มร่างสูงได้ขอร้องไม่ให้เขาทำแบบนี้อีกพร้อมกับคำแนะนำที่ดีที่สุดเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะทำได้ให้แก่เขา...

    "ถ้าเราเชื่อว่าอนาคตมันจะดี อย่างน้อยเราก็ยังคงมีความหวังต่อไป แต่ถ้าเกิดอนาคตมันเลวร้ายอย่างที่นายคิดเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องกลัวนะ...ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง...ฉันสัญญา เราจะต้องได้ออกไปจากนรกแห่งนี้ด้วยกัน...แจจุง... ฉันสัญญา"

    การอยู่ที่แห่งนี้สิ่งเดียวที่แจจุง และ ชางมินต้องทำมีเพียงนั่งรอเวลาให้ถึงตอนกลางคืนเพื่อออกไปรับแขกที่  'นายแม่' สั่งให้ไป... แค่เท่านั้น


    แม้จะทรมาน...แต่เด็กหนุ่มก็ยังทนอยู่ได้ด้วยสัญญาที่มีต่อเพื่อนสนิท....

    รวมทั้งคนๆเดียวที่เปรียบเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจที่บอบช้ำของแจจุงให้เต้นต่อไปได้

    ชายหนุ่มที่ชื่อว่า...ยุนโฮ...

    ....................................

    ........................

    ................

    เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเพื่อถอนสายตาออกจากภายนอกหน้าต่าง...อีกไม่นานพวกเขาจะได้ออกไปจากนรกแห่งนี้เสียที ด้วยความช่วยเหลือโดยบังเอิญ

    ใช่...สำหรับแจจุงมันบังเอิญสุดๆไปเลย...ในเมื่อคืนวันก่อนเขาพบว่าลูกค้าของเขาเอารูปคนๆหนึ่งให้เขาดูและถามว่าตัวเขานั้นรู้จักคนในรูปมั้ย...?


    วินาทีที่เห็นเด็กหนุ่มออกอาการตกตะลึง ก่อนจะชะงักไป ขาคู่เรียวเผลอถอยหนีด้วยความตกใจโดยไม่รู้ตัว... ในเมื่อรูปนั้นเป็นคนที่แจจุงรู้จักดี...ชิมชางมิน


    "เอ่อ...!~ เดี๋ยวนะครับ อย่าพึ่งตกใจผมชื่อคังอินเป็นลูกน้องของคนรักของคุณชางมินครับ... ผมกำลังตามหาเขาอยู่ ผมคิดว่าคุณคงจะช่วยให้ผมเจอกับเขาได้… "  ชายหนุ่มร่างหนารีบแนะนำตัวพร้อมอธิบายถึงสาเหตุการเข้ามาในนี้ให้แจจุงรู้ 


    "หลังจากเจอชางมินแล้วคุณจะทำยังไง? แล้วผมจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดีกับพวกเรา..." เด็กหนุ่มมองร่างหนาอย่างจับผิด ทั้งที่ในใจเด็กหนุ่มนั้นเชื่อไปกว่าครึ่งแล้ว...


    "ผมจะหาทางทำลายที่นี่ เพื่อที่คุณ  คุณชางมิน และทุกคนจะได้ถูกปลดปล่อยออกจากที่นี่ได้โปรดเชื่อผมนะครับ  ผมมาที่นี่เพื่อช่วยพวกคุณจริงๆ" ท่าทางของร่างหนาที่ดูไม่มีพิษสงอะไรมันทำให้แจจุงเชื่อได้สนิทใจก่อนจะแอบพาชายหนุ่มไปพบชางมิน...


    "ก็ได้ ผมจะเชื่อคุณ เดินตามผมมาให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้..."






    หลังจากนั้นเป็นอย่างไรเด็กหนุ่มคงไม่ต้องพูดถึง รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าสวยตอนนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดี อิสระที่ไขว่คว้ามานานกำลังจะมาถึง...

    อีกไม่นานหรอก...ฉันจะกลับไปหานายแล้ว...รอฉันนะยุนโฮ...


    เพียงแค่คิดว่าจะได้ออกไปจากนรกที่กักขังเขาไว้ถึง 5 ปีก็ดีใจจนแทบทนไม่ได้...อยากจะไปเสียตั้งแต่ตอนนี้...แต่ก็นั้นแหละ...


    เด็กหนุ่มยังคงอดกังวลไม่ได้ว่ายุนโฮจะเป็นอย่างไร...เพียงแค่คิดว่าคนรักอย่างเขาจะรังเกียจร่างกายนี้ก็รู้สึกเจ็บแปลบในอก... แล้วพลันคำพูดของชางมินก็ดังแว่วขึ้นมาในหัวอีกครั้ง


    "ถ้าเราเชื่อว่าอนาคตมันจะดี อย่างน้อยเราก็ยังคงมีความหวังต่อไป แต่ถ้าเกิดอนาคตมันเลวร้ายอย่างที่นายคิดเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องกลัวนะ...ถึงตอนนั้นฉันจะอยู่ข้างๆนายเอง...ฉันสัญญา เราจะต้องได้ออกไปจากนรกแห่งนี้ด้วยกัน..."

    นั่นสินะ...จะคิดไปทำไม ในเมื่อมันยังไม่เกิดขึ้น

    เมื่อคิดได้ดังนั้น แจจุงจึงตัดสินใจไล่ความกังวลทั้งหมดทิ้งแล้วเดินตามชางมินไป...




    Re-write ใหม่
    ตอนแรกๆอาจจะยังไม่เปลี่ยนจากเดิมมาก แต่รายละเอียดเปลี่ยนอยู่พอควร
    ถ้าใครจะอ่านแนะนำว่ารอรีไรท์เสร็จก่อนจะดีกว่านะ
    เพราะเหตุผลที่ว่าเนื้อเรื่องมันชักมั่วไปกว่าที่วางพล๊อตไว้มาก
    อย่าว่านะขอเวลาหน่อยเถอะ

    บายจ้ะ.. รักคนอ่าน+เม้นต์นะจ้ะ
    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×