คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : CHAPTER SIXTEEN : ITs HEAVY DAY!! (2)
CHAPTER SIXTEEN :
วันนี้แต่ละคนแทบลุกไม่ขึ้น...จะอะไรซะอีกเมื่อวานซ้อมหนักแทบตาย...วันนี้ให้ลุกขึ้นมาอย่างสบายๆเห็นจะไม่มีซะล่ะ แต่ก็ต้องยอมตื่นเมื่อถูกเจ้าหญิงคนสวยผู้ซึ่งตื่นเช้าแม้จะเหนื่อยขนาดไหนก็ตามมาปลุกเข้า พร้อมกับฮันกยองผู้ซึ่งจำใจตื่นเพราะต้องทำอาหาร แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อสมาชิกทุกคนพบว่าท่านหัวหน้าวงออกจากบ้านไปก่อนที่พวกเขาจะตื่นซะอีก...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย...
"พี่ฮีชอลไม่รู้เหรอฮะว่าพี่ลีทึกออกไปตอนไหน..." ดงแฮถามอย่างแปลกใจหลังจากได้ยินเรื่องที่ฮีชอลบอก ถึงจะยังงัวเงียเพราะพึ่งตื่นอยู่บ้างก็เถอะ...
"ไม่รู้สิ... พี่ตื่นมาเขาก็ไม่อยู่แล้ว แต่ทิ้งโน้ตไว้ว่าให้ เขาจะไปบริษัทก่อน แล้วให้พวกเราไปเจอกันที่บริษัทตอนบ่าย"
"ตอนบ่าย...เอ แต่ว่าเมื่อวานพี่เขาบอกผมว่าสิบโมงนี่ฮะ" อึนฮยอกถามต่ออย่างสงสัย ก็เมื่อวานตอนกลับจากสถานีด้วยกัน ยังบอกเขาอยู่เลยว่าอย่าตื่นสาย เพราะพรุ่งนี้มีซ้อมที่บริษัทตั้งแต่สิบโมงเป็นต้นไป...
"คงอยากให้พวกเราพักละมั้ง?" ฮันกยองว่าก่อนจะเดินเข้าครัวไป... สิ่งที่พูดก็เป็นเหตุผลที่แท้จริง ซึ่งคงมีเขาเพียงคนเดียวที่รู้...
"คงงั้น..." ฮีชอลว่าก่อนจะเดินไปปลุกพวกเยซองต่อ...
"ฉันไม่รู้จริงๆนะว่าพี่ลีทึกทำได้ไง...เมื่อวานก็ซ้อมหนักเกือบทั้งวัน ตกเย็นก็ไปสถานีวิทยุกว่าจะกลับมาก็ดึกซะขนาดนั้น...วันนี้ยังอุตส่าห์ตื่นเช้าไปทำงานได้อีกนะ
ยอมแพ้เลยจริงๆ ฉันยังลุกแทบไม่ไหวเลย..." ซีวอนที่นั่งอยู่บนโซฟาบ่น พลางนวดแขนตัวเองไปมา ระหว่างนั่งรออาหารเช้าที่พ่อครัวทัพพีทองกำลังทำอยู่...
"เอาน่า...อย่างน้อยวันนี้ก็ได้พักแล้วไม่ใช่หรือไงล่ะ?" ดงแฮถามพลางเปิดโทรทัศน์เปลี่ยนช่องไปมาจนเจอช่องที่ต้องการ... จึงไม่ได้สนใจซีวอนอีก
"ที่ห่วงไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย... เพียงแค่คิดว่าถ้าฉันเป็นพี่ลีทึกท่าจะแย่ ทั้งซ้อมเต้น ทั้งกลับดึก แล้วยังต้องตื่นเช้าอีก เป็นฉัน ฉันคงสลบไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ
"
และสิ่งที่ซีวอนพูดก็ทำเอาฮันกยองเหมือนรู้สึกตัว นึกอะไรได้ขึ้นมา จนเผลอปล่อยทัพพีกระทบกระทะเสียงดังจนทุกคนหันมามองเป็นทางเดียว...
"พี่ฮันกยองมีอะไรเหรอฮะ" ซองมินที่นั่งอยู่ข้างๆซีวอนยื่นหน้ามาถาม
"อ้อ เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกใจลอยไปหน่อย"
"ใจลอยได้ครับพี่ แต่อย่าใส่อะไรแปลกๆลงไปล่ะกัน" ซีวอนแกล้งแซวเพราะเห็นฮันกยองเหม่อ แต่หารู้ไม่ว่าสิงโตกำลังจะตายเพราะปาก
"ถ้าพูดอย่างนั้น วันนี้ก็ไม่ต้องกินล่ะกัน" ฮันกยองเองก็รู้ว่าซีวอนพูดเล่น แต่ด้วยความหมั่นไส้จึงคิดจะแกล้งสิงโตปากเสียกลับ...
"โธ่ พี่ฮันกยองครับ พี่ก็รู้ว่าผมพูดเล่น อย่าโกรธน้า...น่านะ หัวก็ไม่ล้านนี่นา...ทำไมขี้น้อยใจจัง"
"ซีวอน ฉันว่านายจะไม่ได้กินแถมจะโดนทัพพีเคาะหัวก็เพราะประโยคนี้แหละ" อึนฮยอกที่พึ่งออกจากห้องน้ำเดินมานั่งข้างซองมิน
"นั่นสิ พูดอย่างนี้ได้แสดงว่าไม่กินก็คงไม่เป็นไรมั้ง?"
"โธ่ พี่ครับ ถ้าผมไม่กินที่พี่ทำก็เหลือสิครับ" ซีวอนแกล้งใช้เหตุผลเรื่องของเหลือ เพราะยังไง อาหารที่ทำจะพอดีกับสมาชิกทุกคนพอดี
"เอ...นั่นสิน่ะ ทำไงดีล่ะ?" ฮันกยองทำท่าคิดหาทางออก ก่อนจะเห็นชินดงเดินมาพอดี "อ้าว!ชินดงมาพอดีเลย นายจะช่วยกินส่วนของซีวอนแทนได้มั้ย พอดีหมอนี่ไม่กินวันนี้น่ะ"
"จริงเหรอครับพี่ฮันกยอง? ขอบใจมากนะซีวอน" ชินดงว่าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา โดยไม่ได้คิดถึงเหตุผลเลยว่าทำไมซีวอนถึงไม่กิน ถ้าเป็นเรื่องของกินละก็อะไรก็ไม่สำคัญหรอก สำหรับชินดงน่ะนะ...
"พี่ฮันกยองครับ ผมขอโทษ ได้โปรดเถอะ ผมผิดไปแล้วน้า~ นะพี่ฮันกยองนะ~"
ซีวอนเข้าไปกอดขาฮันกยองพร้อมทำหน้าออดอ้อนสุดฤทธิ์ แถมด้วยมือเป็นตีนตุ๊กแกเกาะซะแน่นไม่ยอมปล่อย จนในที่สุดพ่อหนุ่มมังกรก็ต้องยอมแพ้กับมือที่เหนียวยิ่งกว่าตีนตุ๊กแกของซีวอน...
"ซีวอน ถ้านายยังอยากกินอยู่ล่ะก็ไปนั่งรอที่โต๊ะเดี๋ยวนี้เลย..."
"ขอบคุณคร้าบ... ผมรักพี่ที่สุดเลย..." ซีวอนเลิกกอดขาแต่กลับกระโดกอดฮันกยองทั้งตัวเลย
"แต่ฉันไม่รักแกโว้ย...รีบๆไปนั่งที่เดี๋ยวนี้เลย...ไป!!" ฮันกยองว่าพลางหยิบทัพพีขึ้นมาเตรียมเคาะหัวซีวอน เท่านั้นแหละเจ้าชายสิงโตก็เผ่นไปนั่งที่ตัวเองอย่างรวดเร็วไม่ต้องรอให้บอกรอบ 3 อีกเลย
ฮันกยองจึงหันมาทำอาหารต่อ แต่ในใจก็อดคิดเรื่องที่พึ่งนึกออกเมื่อกี้ไม่ได้...เรื่องที่ฮันกยองพึ่งนึกออกก็คือ
...เมื่อวานที่ผมอุตส่าห์วิ่งตามหาลีทึกนั้นไม่ใช่เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมเจ้าตัวถึงอารมณ์เสีย แต่เป็นการที่เจ้าตัวไม่ได้ลงไปทานอาหารพร้อมกับพวกผมต่างหาก นี่ผมลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไปได้ยังไงกันนะ...ไอ้มังกรบ้าเอ้ย...
แต่หลังจากนั้นฮันกยองก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกเพราะเมื่อทำอาหารเสร็จเขาก็พาร่างมังกรของตัวเองไปเสด็จบนที่นอนซะเรียบร้อย รวมทั้งคนอื่นๆด้วย ดังนั้นคนรับหน้าที่คนล้างจานอย่างชินดงจึงแย่ไป นอกจากจะไม่ได้นอนแล้วยังต้องมานั่งล้างจานชามมากมายก่ายกองนี่อีกเฮ้อ...น่าสงสารเจ้าหมูน้อยจริงๆ...
พอได้เวลาทุกคนก็ไปที่บริษัทตามที่ท่านหัวหน้าวงคนเก่ง(แต่ช่วงนี้โหด) นัดไว้ เมื่อไปถึงทุกคนก็พบว่าคนที่พูดถึงนั้นนั่งรออยู่แล้ว... พร้อมรอยยิ้มที่ทำเอาคนมองชักรู้สึกหนาวๆยังไงชอบกล
"วันนี้ไม่มีใครมีงานอะไรข้างนอกนะ...เพราะฉะนั้น วันนี้ซ้อมอย่างเดียว แล้วก็เริ่มได้แล้วล่ะ" ลีทึกพูดยิ้ม แต่คนอื่นกลับยิ้มแหย่ๆ พลางคิดในใจเมื่อไหร่ท่านหัวหน้าที่แสนใจดีแล้วก็ติ๊งต๊องหน่อยๆของพวกเค้าจะกลับมาล่ะเนี่ย...?
ช่วง 2 3 วันที่ผ่านมา ชีวิตของเหล่าบรรดาฝูงลิง เหมือนถูกขังอยู่ในกรงของสวนสัตว์ที่เรียกว่าห้องซ้อม จากเมื่อก่อน 'งานเป็นงาน ว่างเป็นเล่น' กลายเป็น 'งานเป็นงาน ว่างเป็นซ้อม' เฉยเลย แทบจะไม่มีเวลาหยุดพักหายใจเลยก็ว่าได้ ตื่นเช้ามาก็ต้องไปบริษัท
จะมีโชคดีกว่าใครเพื่อนก็คือ ฮีชอลที่ต้องไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน และคิบอมที่ช่วงนี้มีคิวถ่ายละครบ่อยจึงไม่ต้องมาซ้อม
ส่วนพวกที่เหลือก็ซวยไป...ซ้อมอย่างเดียว ซ้อมมากขนาดที่ว่าหลับตาลงก็เห็นเนื้อเพลงลอยมาแต่ไกล นอนไปยังละเมอร้องเพลง U ดิ้นเป็นเพลง Dancing Out กันเลยทีเดียว โดยที่ยังไม่มีใครรู้เหตุผลอยู่ดีว่าตกลงท่านหัวหน้าวงเป็นอะไรไป? เอ่อ...รู้สึกว่าจะมีแค่พ่อหนุ่มมังกรคนเดียวนะที่รู้
จนมาถึงวันนี้ ถึงแม้การซ้อมจะน้อยลงแล้วแต่ก็ยังถือว่ามากกว่าปกติอยู่ดี... แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฮันกยองเป็นกังวลในช่วงนี้ก็คือ เขาแทบจะไม่เห็นลีทึกว่างเลยสักที ขนาดที่ว่าถ้าไม่ใช่ตอนซ้อม เขาจะไม่ได้เจอหน้ากันด้วยซ้ำ เพราะลีทึกกลับบ้านดึกกว่าทุกคนแถมยังออกจากบ้านไปก่อนที่พวกเค้าจะตื่นซะทุกครั้ง จนเขาเริ่มเป็นห่วงว่าคนตาสวยกำลังฝืนตัวเองมากเกินไป...
อย่างที่เขาว่ากัน...
ร่างกายของคนเราต่างก็มีขีดจำกัด...
การที่ฝืนทำอะไรมากเกินไป...
ก็เป็นการฝืนขีดจำกัดนั้นเช่นกัน...
ตามตารางงานวันนี้แล้ว SUPER JUNIOR มี LIVE M-net ตอนสองทุ่ม โดยมีลีทึก,คังอิน และชินดงเป็นพิธีกรเช่นเคย หลังจากการซ้อมสิ้นสุดลงก็เป็นเวลาประมาณ หกโมงแล้ว ทั้ง 11 หนุ่มจึงเดินทางไปยังตึก M-net สถานที่จัดการแสดงที่ไม่ไกลจากบริษัทนัก
ลีทึก,คังอินและชินดงที่พึ่งไปคุยเรื่องสคริปของการแสดงวันนี้มาเปิดประตูเข้ามาระหว่างรอเวลาเริ่มงาน... ทุกคนต่างก็กำลังอยู่ในชุดเพลง U เรียบร้อยแล้ว ลีทึกเดินเข้ามาก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ว่างซึ่งอยู่ข้างๆซองมิน...
"พี่ลีทึกฮะ...พี่ไม่สบายรึเปล่า?" เสียงซองมินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลีทึกที่มานั่งข้างๆมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"พี่ลีทึกฮะ ผมว่าพี่ไปพักก่อนดีกว่ามั้ย รู้ตัวมั้ยฮะว่าพี่หน้าซีดมากเลย..." ดงแฮกล่าวด้วยความเป็นห่วง หลังจากมองหน้าลีทึกเพราะได้ยินที่ซองมินบอก...
"
พี่ไม่เป็นไรหรอก แค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยเอง..." ลีทึกส่ายหน้าปฏิเสธ ถึงแม้อาการที่แสดงออกมาดูจะไม่หน่อยอย่างที่เจ้าตัวพูดเลยสักนิดก็ตาม...
"ไม่เป็นไรแน่นะ" เสียงฮันกยองที่เดินมาแทบจะในทันทีที่ได้ยินซองมินทักหัวหน้าวง...
"แน่สิ
" ถึงลีทึกจะตอบมาแบบนั้นแต่ฮันกยองก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี จึงนำมือไปแตะบนหน้าผากคนตาสวยเบาๆ แต่เพียงแค่สัมผัสโดนเท่านั้นแหละ เขาก็ต้องชักมือกลับอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อต
"ลีทึก...นายมีไข้ตั้งแต่เมื่อไหร?" ฮันกยองวางมือทั้งสองข้างลงบนบ่าของลีทึก พลางถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธแม้ไม่ดังมากนักแต่ก็ได้ยินกันทั่วห้องแต่งตัว...
"ไม่รู้...ไม่ได้สังเกต..." ลีทึกตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา... ยิ่งทำให้ฮันกยองเริ่มโมโห แต่ก่อนจะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น...
....ก๊อกๆๆ....
"ขออนุญาตค่ะ MCเตรียมแสตนบายร์ด้วยค่ะ" สต๊าฟจัดงานเดินเข้ามาเรียก ให้ลีทึก,คังอินและชินดง ไปเตรียมเปิดงาน... คังอินและชินดงเดินออกไปก่อนแล้ว ส่วนลีทึกพูดอะไรเบาๆกับฮันกยองก่อนจะเดินออกจากห้องไป...
"นายจะโมโหฉัน...ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ...ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง" นี่คือคำพูดร่างบางกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนจากไป...
...แต่จะรู้บ้างมั้ย? ว่าคำพูดนั่นยิ่งทำให้คนฟังอารมณ์พลุ่กพล่าน...
เพราะที่คนฉันโมโห...ไม่ใช่...นายสักหน่อย
แต่ฉันโมโหตัวเอง...ที่ดูแลนายให้ดีกว่านี้ไม่ได้...
ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ....ขอโทษจริงๆ
ถึงแม้จะต้องไปทำหน้าที่พิธีกรทั้งที่ไม่สบาย แต่ลีทึกก็ยังทำเหมือนตนเองไม่ได้เป็นอะไร จนกระทั้งถึงเวลาการขึ้นแสดงของ SUPER JUNIOR ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของงาน ก็ยังทนเต้นจนจบเพลงได้ แต่ดูเหมือนว่าสภาพร่างกายที่สู้อุตส่าห์ทนมาตลอดงานนั้นจะไม่ไหวเสียแล้ว... ขณะที่เพลงจบและทุกคนกำลังกลับเข้าหลังเวทีนั้นเอง...
"พี่ลีทึก...!!!!"
เสียงดงแฮที่ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าลีทึกกำลังจะล้มลงไป พยายามจะยื่นมือไปรับ แต่ก็ยังช้ากว่าซีวอนที่ยืนอยู่ใกล้ๆซึ่งรับตัวลีทึกไว้ได้ทันก่อนที่ร่างบางจะล้มลงไป...
"พี่ลีทึก...พี่ครับ..."
ซีวอนเรียกชื่อพลางเขย่าตัวลีทึก เพื่อเรียกสติไว้...
"ซี...ว...อ...น
"
เสียงของซีวอนเป็นสิ่งสุดท้ายที่ลีทึกได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำพร้อมกับสติที่หลุดลอยไป...
To Be Con....
นึกว่าจะไม่จบซะแล้วรู้สึกว่าตอนนี้เป็นอะไรที่เขียนยากมากๆ...
มันก็เลยออกจะมั่วๆไปสักหน่อยขอโทษทีน้า~
ความจริงกะจะลงอีก 2 ตอนแต่อยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องอะไรนิดหน่อย เลยต้องกลับไปแก้...
รอหน่อยนะจ้ะ...
รักคนอ่านจ้า บายน้า..อ้ะๆ...เกือบลืมใส่รูปประกอบแนะ... อืม...ดูแล้วเข้ากันมั้ยเนี่ย? (ทำเป็นไม่เห็นฮีชอลทีนะ)555+
+ + --mouse kata-- - - -b g-
ความคิดเห็น