ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Maze of love (Fic Super Junior : Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #16 : CHAPTER FOURTEEN : WHAT IS THIS MATTER ?

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 49



    CHAPTER FOURTEEN : What  Is This Matter?


    ณ โต๊ะอาหาร


    มื้อเช้าแสนอร่อยจากพ่อครัวมังกรที่เมื่อวานโดนยำซะอ่วม วันนี้เลยแสดงฝีมือจนผัดหมี่จานใหญ่หายไปในพริบตา...


    เอิ๊กกกกกก
    ~


    เสียงเรออันยิ่งใหญ่และทรงพลัง(ตรงไหนหว่า?)ดังมาจากหมูน้อย(ตัวใหญ่)ประจำวงที่ส่งออกมาอย่างไม่เกรงใจสมาชิกคนอื่นๆ


    "ชินดง~ ไอ้เรื่องจะเรอน่ะ...ไม่ว่าหรอกนะ แต่ถ้าจะให้ดี...เบากว่านี้ก็ได้นะ?"


    "โธ่พี่ก็เรื่องนี้...มันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะคร้าบ..." เจ้าตัวว่าอย่างโอดโอยก่อนจะลูบหน้าท้องของตัวเองที่ฮีชอลเปรียบเหมือนคนท้องใกล้คลอดแล้ว...



    แล้วความวุ่นวายบนโต๊ะก็สงบลงเมื่อลีทึกที่คุยอยู่กับผู้จัดการทางโทรศัพท์เดินเข้ามาพร้อมถือสมุดตารางงานติดมือมาด้วย...



    "ครับได้ครับ...ครับผม...แล้วเจอกันครับ" ลีทึกวางสายก่อนจะเรียกคนอื่นๆมารวมกันที่โซฟา...


    "เอาล่ะ...ตอนนี้แปดโมงครึ่ง...ผู้จัดการนัดให้เราเข้าบริษัทตอนสิบโมง ส่วนซีวอน นายต้องไปอัด LOVE LETTER ตอนบ่ายสามโมงวันนี้ หลังจากซ้อมเสร็จนายค่อยไปล่ะกัน" เสียงลีทึกดังขึ้นหลังจากทุกคนมารวมตัวกันพร้อมหน้า...


     
    "แล้วหลังจากนายอัดเสร็จแล้ว...ก็ไปถ่ายแบบต่อกับคิบอม,ดงแฮ,ฮันกยอง แล้วก็ซองมินนะ"


    "รับทราบครับผม..." บรรดาคนที่ถูกเรียกชื่อต่างขานเสียงตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียงตามประสาฝูงลิงที่อยู่ไม่สุข  แม้ในขณะนั่งฟังตารางงานที่ท่านหัวหน้าวงกำลังแจกแจงให้ฟังก็ตาม...

    ลีทึกส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะขยับแว่นตาของตนแล้วมองดูสมุดตารางงานในมืออีกครั้ง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองทางคังอินที เยซองทีเหมือนครูที่กำลังจ้องนักเรียนซะอย่างนั้น ก่อนจะพูดออกไป...


    "แล้วเยซอง...คังอิน...รู้ใช่มั้ยหลังซ้อมเสร็จแล้วต้องไปไหน..."


    "รู้แล้วคร้าบ~" ที่ว่ารู้แล้วก็คือสองคนนี้จะต้องแยกไปจัดรายการวิทยุของแต่ละคนนั่นเอง...


    "ส่วนที่เหลือ...หลังจากบ่ายสามวันนี้ว่าง" ลีทึกยิ้มมุมปากน้อยๆก่อนปิดสมุดจดตารางงานในมือลงแล้ววางไว้บนโต๊ะ แล้วเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะต่อประโยคสุดท้ายให้จบ
    "เอาล่ะ...มีเวลาอีกชั่วโมงครึ่งจะไปเตรียมตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวเก้าโมงครึ่งฉันจะเรียกรวมอีกทีเข้าใจนะ... "


    "อ้อใช่...เกือบลืม...อึนฮยอกคืนนี้มีคิสตอนสามทุ่มนะ" ลีทึกหันมาบอกเจ้าไก่บ้าเกมที่นั่งอยู่ข้างๆเขาแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ฟังอะไรเลย เพราะมัวแต่สนใจเกมในมืออยู่ จนลีทึกใช้สมุดตารางงานในมือเคาะหัวไปทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ นั่นแหละอึนฮยอกถึงได้หันมาพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสนใจเกมกดในมือตัวเองต่อ...


    "เอ่อ...พี่ลีทึกฮะ หลังจากเลิกซ้อมแล้วผมไปที่สถานีกับพี่เยซองได้มั้ยฮะ?" เรียววุคถาม...ก็ถ้าเลิกงานแล้วกลับมาบ้านเลยมัน...น่าเบื่อนี่นา...


    "งั้นผมไปที่คิสด้วย...น้าๆนะ~ พี่ลีทึกน้า~" ดงแฮดงแฮอ้อนลีทึกเหมือนน้องสาว(?)อ้อนพี่ชายยังไงยังงั้นเลย...


    "ผมด้วย ผมก็อยากไป..." คราวนี้ซองมินแทรกขึ้นมาบ้าง...


    "ก็ตามใจ ยังไงพวกนายก็ว่างอยู่แล้วนิ" ลีทึกว่าก่อนจะส่ายหน้าเบาๆอีกครั้งกับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของลูกลิงพวกนี้ (ทำอย่างกับตัวเองไม่ชอบทำตัวเด็กนะ... 555+)




    เมื่อทั้งวงมาถึงบริษัทก็ตรงไปยังห้องซ้อมเต้นของพวกเขา...แต่ระหว่างทางผู้จัดการก็ส่งคนมาเรียกลีทึกให้ไปหา ลีทึกจึงบอกให้สมาชิกทุกคนไปรอที่ห้องซ้อมก่อน... ส่วนตัวเขาจะตามไปทีหลัง

    ก๊อกๆๆ...


    เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกความสนใจของชายวัยกลางคนที่นั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่อย่างเคร่งเครียด ให้ละสายตาออกจากหน้าจอ ก่อนจะเอ่ยปากอนุญาตให้ผู้ที่เคาะประตูเข้ามาได้เข้ามาได้...


    "คุณลีครับ...มีอะไรเหรอครับ?"


    "ลีทึก...ดูนี่สิ" ผู้จัดการไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กลับเลื่อนตัวออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ลีทึกเห็นสิ่งที่อยู่ในจอมอนิเตอร์ ลีทึกมองดูอยู่อย่างเงียบๆ ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆอย่างตกใจและตกตะลึง...จนถึงกับอึ้งไปชั่วขณะเลยทีเดียว


    "นี่...นี่มัน..."


    "ฉันไม่รู้ว่ามันส่งมาจากใคร หน้ากล่องมันระบุไว้เป็นชื่อเธอ แต่ฉันไม่ไว้ใจเพราะพึ่งมีจดหมายแบบนั้นไป ฉันเลยถือวิสาสะเปิดดูแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ... ถึงมันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เธอคงรู้ใช่มั้ย?...ว่าควรทำยังไง" ผู้จัดการเอ่ยถามลีทึกเสียงเครียด...ดูเหมือนว่าเรื่องนี้เขาคงชะล่าใจไม่ได้ซะแล้ว...


    "ครับ" ถึงเจ้าตัวจะตอบอย่างมั่นใจ แต่โดยความรู้สึกแล้วลีทึกก็ยังคงอึ้งไม่หายกับสิ่งที่พึ่งได้เห็นไปอยู่ดี...





     ณ ห้องซ้อมเต้น...


    สมาชิกทุกคนต่างก็ทำกิจกรรมของตัวเองไปในระหว่างที่ว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นกิน นั่ง นอน เล่น แต่แล้วเสียงเปิดประตูดังโครมใหญ่ของท่านหัวหน้าวง ก็ทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย...


    "นี่...เป็นบ้าอะไรของนายน่ะ เปิดประตูซะเสียงดังเชียว..." เจ้าหญิงคนสวยผู้ไม่ชอบเสียงดังตำหนิคนเป็นหัวหน้าวง แต่ลีทึกที่ปกติจะเป็นฝ่ายยอมแพ้โดยการขอโทษ...แต่คราวนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น...



    "จะดังหรือไม่ดังมันก็เรื่องของฉัน!!!...แต่ว่าตอนนี้เรามีเรื่องต้องทำกันแล้ว..." ลีทึกไม่สนใจคำว่าของฮีชอล ก่อนจะพูดต่อไปโดยไม่หันมาสนใจเจ้าหญิงที่ตอนนี้ใบหน้าสวยออกจะงุ้มงอด้วยความโมโหอยู่หน่อยๆ



    "ชินดงเลิกกินได้แล้ว คิบอม!! นี่ไม่ใช่เวลามานั่งคุยโทรศัพท์นะ ฉันให้เวลาอีก 5 นาทีรีบคุยให้เสร็จถ้าไม่นายมีเรื่องกับฉันแน่...  
    ไม่ใช่เวลามานั่งเล่นเกมด้วยเยซอง,อึนฮยอก,ดงแฮ แล้วที่ให้มาเนี่ย...ซ้อม
    !!! ไม่ได้ให้มาอ่านหนังสือฟังเพลงนะคยูฮยอน,เรียววุค   ซองมินเตรียมเปิดเพลงเดี๋ยวนี้เลย...ไปประจำที่ของตัวเองได้แล้ว...เร็วเข้าสิ มัวนั่งเอ๋ออะไรกันอยู่ล่ะ..." น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าผู้พูดนั้นกำลังอารมณ์เสียมากพอควร
    จนทุกคนหันมามองลีทึกตาค้าง...นี่หัวหน้าวงของพวกเค้าเป็นอะไรไปหว่า...???


    "นายด้วย...ฮีชอล...ไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย...ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั่นเลยนะ...ฉันบอกให้ไปเตรียมตัวซ้อมได้แล้วไม่ได้ยินรึไง?" ลีทึกหันมาดุฮีชอลที่ไม่ยอมลุกแล้วยังทำหน้าไม่พอใจใส่เขา...



    "..." ฮีชอลพูดไม่ออกจึงได้แต่ลุกขึ้นพลางมองหน้าลีทึกอย่างโกรธๆ ก่อนจะเดินไปประจำที่ของตัวเอง โดยไม่โต้แย้งอะไรเลย...

    ถึงอยากจะเถียงแต่ พอเห็นใบหน้าจริงจังปนโมโหของลีทึกแล้วก็พูดไม่ออก จึงได้แต่โมโหฟึดฟัดอยู่กับตัวเองที่ต้องยอมทำตามที่สั่งโดยดี...



    "เอาล่ะ! เริ่มซ้อมได้"


    และการซ้อมก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จากตอนเช้าจนกระทั่งเข็มสั้นของนาฬิกาสีขาวที่แขวนไว้บนผนังชี้ไปที่เลข 12 และเข็มยาวของนาฬิกานั้นชี้ไปที่เลข 4 บอกให้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว...แต่ภายในห้องซ้อมกลับยังคงมีเสียงเพลงของพวกเขาดังอยู่อย่างต่อเนื่องไม่หยุด...และเสียงอีกหนึ่งเสียงที่ได้ยินเป็นระยะๆ ก็คือ เสียงของท่านหัวหน้าวงที่ค่อยสั่งให้เปิดเพลงใหม่นั่นเอง...



    "ไม่! ไม่! ยังไม่พอ เอาใหม่อีกรอบนึง..." ซองมินเตรียมจะกดเปิดเพลงใหม่ตามคำสั่ง...แต่แล้วเสียงโวยวายจากเจ้าหญิงคนสวยก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน



    "ลีทึก นายจะเอาอีกกี่รอบกันฮะนี่มันเที่ยงแล้วนะ...นายจะไม่ให้พวกเราพักกันเลยรึไง..." เจ้าหญิงคนสวยกำลังอารมณ์เสียได้ที่
    ก็ตั้งแต่ลีทึกเดินเข้ามาเนี่ย...พวกเค้าซ้อมกันอยู่เพลง
    U เพลงเดียวก็ปาเข้าไป 20 กว่ารอบแล้วนะ...นี่มันก็เที่ยงกว่าแล้วด้วย...จะให้ซ้อมไปถึงไหนกันและสิ่งที่ฮีชอลพูดออกมาก็ตรงกับสิ่งที่ทุกคนในห้องคิดกันอยู่แต่ไม่มีใครกล้าพูด...



    "ถ้าฉันอยากได้อีก 20 รอบนายจะว่าไง..." ลีทึกพูดเสียงเรียบพร้อมใบหน้าที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาจะทำตามที่พูดอย่างแน่นอน คำพูดเรียบๆเพียงประโยคเดียว แต่ทำเอาคนฟังโมโหแทบตาย...


    "ลีทึก!!!!!!"


    "ก็ได้ๆฉันขออีกรอบเดียว แล้วพักไปกินข้าว ให้เวลา ครึ่งชั่วโมงกลับมาให้ทันบ่ายโมงด้วย..."


    "ครึ่งชั่วโมง...แค่เดินลงไปข้างล่างก็หมดเวลาแล้วมั้ง..." น้ำเสียงประชดประชันของเจ้าหญิงคนสวยตอบกลับมา


    "หรือจะไม่พักเลยดีล่ะ..." ลีทึกยังคงพูดเสียงเรียบเช่นเคย แต่ทำเอาคนฟังทั้งห้องซ้อมเริ่มหนาวๆร้อนขึ้นมาซะแล้ว รู้ๆกันอยู่ว่าถ้าท่านหัวหน้าเกิดทำจริงขึ้นมา พวกเขาก็ต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี มันน่าสงสัยจริงๆนั่นแหละ...ไม่รู้ว่าประตูห้องผู้จัดการมันลงอาถรรพ์อะไรไว้หรือไงนะ...เข้าไปแค่ครู่เดียว พอออกมาท่านหัวหน้าของพวกเขาถึงเป็นได้ขนาดนี้...



    "โอเคๆครึ่งชั่วโมงก็ครึ่งชั่วโมง...งั้นก็รีบซ้อมกันสิ..." เจ้าหญิงคนสวยยอมรับแบบไม่เต็มใจนัก... ลีทึกหันมามองซองมินก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งไปเปิดเพลงใหม่อีกครั้งอย่างรู้หน้าที่...



     


     ...เวลาพักเที่ยง...

    เมื่อลีทึกยอมปล่อยให้ไปพัก หนุ่มๆก็พากันเดินอย่างรวดเร็ว(ถ้าจะให้ดีเรียกวิ่งจะดีกว่านะ 555+) ก่อนที่ท่านหัวหน้าของพวกเค้าจะเปลี่ยนใจไม่ยอมให้ไปพักกินข้าวเที่ยงซะก่อน ปกติแล้วเวลามาซ้อมที่บริษัทผู้จัดการจะเป็นเตรียมสั่งอาหารไว้ให้พวกเขาแต่วันนี้ผู้จัดการไม่ได้สั่งไว้ให้ ดังนั้นวันพวกเขาจึงต้องออกไปหาอะไรทานกันเองและด้วยความที่ต้องรีบนี่แหละ... ทำให้พวกเขาต้องแยกกันไปคนละร้านเป็นกลุ่มย่อยๆเพื่อความรวดเร็ว


    อืม
    ว่าแต่ทำไมมีแค่ 12 ล่ะ??? ลองไปดูกันดีกว่า ใครหาย!!!


    ทางด้านฮีชอล,คิบอม,ดงแฮ ที่อยู่ร้านอาหารข้างบริษัท


     
    "พี่ฮีชอล...พี่ลีทึกเขาเป็นอะไรเหรอครับ..." ดงแฮกระซิบถามพอให้ได้ยินกันแค่สามคน ระหว่างรออาหารที่สั่งมาส่ง

    เพราะตั้งแต่มาอยู่ร่วมบ้านเดียวกันมาเค้าไม่เคยเห็นลีทึกเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
    ก็ไอ้ที่เมื่อเช้ายังอารมณ์ดีเฮฮาบ้าๆบอๆกันอยู่เลย แล้วไหงออกมาจากห้องผู้จัดการอีกทีกลายเป็นเคร่งเครียดสุดโต่งอย่างนี้ไปได้เล่า...



    "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่พี่เถียงอะไรไม่ได้เลย..." ฮีชอลตอบอย่างหมดอารมณ์ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลีทึกเป็นอะไร...



    "พี่ฮีชอลครับ ผมว่าเรารีบกันหน่อยดีมั้ยครับ อีก 15 นาทีก็จะบ่ายโมงแล้ว" คิบอมว่าพลางจัดการอาหารตรงหน้าที่พึ่งมาส่งอย่างเร่งรีบ



    "รู้แล้วล่ะน่า"


     




    อีกร้านหนึ่งที่อยู่ข้างร้านที่พวกฮีชอลนั่งทานกันอยู่...

    มีหนุ่มๆหกคนกำลังอยู่ในรายการ  
    'กินให้เร็ว กินให้ไว กินไม่ทันเมื่อไหร่ หัวหน้าตบ สลบแน่นอน '

    เอ้ย!! ไม่ใช่ๆกำลังนั่งทานอาหารกันอย่างสุภาพเรียบร้อยกันอยูต่างหาก (ตรงไหนหว่า...?)



    "อึนฮยอก...กุ้งตัวนั้นมันของฉันนะ..." ชินดงพูดขึ้นมาทั้งที่ยังมีข้าวอยู่เต็มปาก  


    "อะไร...ก็ผมจองไว้แล้วนี่นา..." เสียงอึนฮยอกเถียงอย่างไม่สนใจก่อนจะตักเจ้ากุ้งตัวน้อยเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อย... ไม่สนใจชินดงที่ตอนนี้กำลังจ้องเขา จนแทบตาถลนออกจากเบ้า



    "นี่!ชินดง...ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้ เอ้า!ฉันยกให้..." เยซองทนสายตาอย่างนั้นไม่ไหวจึงยกกุ้งที่ยังเหลือในจานตัวเองให้... ก็จะให้เขาทนไหวได้ยังไงในเมื่อเขานั่งคั่นกลางระหว่างชินดงกับอึนฮยอก... กว่าอึนฮยอกจะรู้ตัวเขาคงโดนหมูยักษ์นี่เขมือบซะก่อนแล้วล่ะมั้ง...



    "โอ้ย...อิ่ม...พี่ฮันกยองตอนนี้กี่โมงแล้วเหรอ?..." เสียงของพ่อหนุ่มสิงโตซีวอนที่พึ่งจะกินข้าวหน้าหมูทอดคำสุดท้ายของตัวเองหมดไป...



    "อีก 10 นาที บ่ายโมง..." ฮันกยองที่กินเสร็จก่อนใครเพื่อนตอบ... ไม่ใช่ว่ากินเร็วกว่าคนอื่นหรอกนะ แต่ว่าเขาไม่ใช่พวกกระเพาะไม่มีหูรูดอย่างชินดงกับคังอินนี่จะได้กินไม่อิ่มสักที และด้วยความที่เสร็จเร็วกว่าคนอื่นนี่แหละ เจ้าตัวถึงได้มีเวลาสำรวจไปรอบๆตัวถึงได้สังเกตเห็นว่าใครคนหนึ่งไม่อยู่กับพวกเขา...



    "เอ่อนี่!ซีวอน...นายเห็นลีทึกบ้างมั้ย?"



    "พี่ลีทึกเหรอฮะ...ไม่รู้สิฮะ ผมก็ไม่เห็นเหมือนกัน ไม่ได้ไปกับพวกฮีชอลเหรอฮะ" ซีวอนส่ายหน้าพลางพูดถึงพวกฮีชอลซึ่งอยู่ร้านข้างๆ



    "ไม่หรอก คนที่ไปกับฮีชอลมีแค่คิบอมกับดงแฮ สามคนเท่านั้น อีกอย่างนายคงไม่คิดว่าคนที่พึ่งโดนดุมาอย่างนั้นจะมานั่งกินข้าวด้วยกันได้หรอกนะ" ฮันกยองตอบ ซีวอนที่ฟังอยู่เลยทำหน้าแหย่ๆ ...นี่เขาลืมไปได้ยังไงนะ พี่ลีทึกเป็นคนดุฮีชอลไปนี่นา ขืนมานั่งกินข้าวด้วยกัน พี่ลีทึกได้ตายด้วยสายตากันพอดี...

    ระหว่างนั้นเอง ฮันกยองก็คิดจะออกไปหาลีทึกซะหน่อย เขาไม่สบายใจนักหรอกกับท่าทางแปลกๆแบบนี้ของลีทึก... ถ้าไม่มีเรื่องอะไรลีทึกคงไม่เป็นแบบนี้แน่นอน แต่เรื่องที่ว่านั่นเค้าเองก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คนตาสวยอารมณ์เสียได้ขนาดนี้ ปกติโมโหยากจะตาย ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาแทบจะไม่เคยเห็นเจ้าตัวหงุดหงิด หรือโมโหมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก...ครั้งแรกจริงๆ

    นั่นแหละที่ทำให้เขายิ่งเป็นห่วง...จนนั่งอยู่เฉยๆไม่ได้



    "เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ...แล้วพวกนายก็รีบตามไปล่ะ" ฮันกยองไม่รอคำตอบ คว้าเสื้อคลุมสีดำตัวโปรดที่พาดไว้บนพนักเก้าอี้มาแล้วเดินออกจากร้านไปทันที



    "พะ...พี่ฮันกยอง..." ซีวอนจะเรียกพ่อหนุ่มมังกรไว้แต่เจ้าตัวก็เดินไปไกลลิบๆซะแล้ว

    พอเจ้าตัวหันหน้ากลับมาที่โต๊ะก็มองหน้าทีละคน ไล่ตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามซึ่งมี อึนฮยอก เยซอง ชินดง คังอิน ก่อนจะเบนสายตาลงมองจานอาหารบนโต๊ะที่มากมายก่ายกอง แล้วเงยหน้ามองทุกคนอีกที...
    ซึ่งทุกคนก็ได้แต่แปลกใจว่าซีวอนจะมองทำไม? จนประโยคที่เจ้าตัวพูดออกมานั่นแหละ ถึงได้เข้าใจกันอย่างแจ่มแจ้ง...


    "พี่ฮันกยองไป...แล้วใครจะจ่ายละทีนี้"

    TO BE CON…



    จบแล้ว...  แต่จบแบบค้างคาด้วยความรีบ 555+

    เนื่องจากพรุ่งนี้มีสอบชีวะ ต่อให้จบไม่ได้ โทษทีน้า~

    ป๋าจะหาทึกเจอมั้ยเนี่ย.... แล้วทึกเห็นอะไร...ซีวอนจะเอาเงินที่ไหนจ่าย(กระเป๋าตังค์อยู่กับป๋า)...ไว้ตอนหน้าเฉลยจ้า...

    อ๊า!!! ลืมบอกเรื่องนี้ป๋ากะทึกแน่นอน(มั้ง? 55+)

    ปล.คนที่อยากได้ วอนกะทึก ไว้อีกเรื่องนะ แต่งไว้แล้วแต่ยังไม่ได้เริ่มพิมพ์
    - - + + R z.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×