คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : >>> 04
*~Timeless Love~*
...Begin Or The End...
[ฤดูใบไม้ผลิ ปี 2004]
แสงอาทิตย์อ่อนส่องลงมายังพื้นดิน เมฆสีขาวลอยเอื่อยๆในท้องฟ้าราวกับปลาแหวกว่ายในท้องทะเล ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะเริ่มขึ้น...ฤดูแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
ชายหนุ่มบนเตียงมองภาพนอกหน้าต่างอย่างเจ็บปวดคละความยินดี ยุนโฮยอมเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาดวงตา อาการของเขาดีขึ้นมาก ตอนนี้ชายหนุ่มมองเห็นเป็นปกติแล้ว เขายอมทำตามคำขอร้องของยูชอน ที่ให้เข้ารับการผ่าตัด เขาตั้งใจว่าหลังจากหายเขาจะลองคบกับจุนซูดู บางที...ถ้ามันทำให้จุนซูมีความสุข และยูชอนสบายใจเขาก็จะทำ...
"ถึงเวลาจะต้องลาจากกันจริงๆแล้วสินะ
" อยู่ๆชายหนุ่มก็พูดกับตัวเอง มือหนาเอื้อมไปที่คอด้านหลังปลดตะขอเกี่ยวออกทำให้สิ่งที่เคยอยู่บนคอเขาตกลงมาในมือที่กำมันแน่น สร้อยคอสีเงินเส้นสวยที่เคยอยู่มีอยู่คู่กัน แต่บัดนี้เหลืออยู่เพียงลำพัง...
สร้อยคอที่มีอยู่คู่กันเพียงสองเส้นในโลก สร้อยคอสีเงินมีหัวใจอันเล็กห้อยอยู่สองอัน ตรงกลางหัวใจแต่ละดวงที่อยู่ติดกันนั้น มีตัวอักษรสลักไว้อย่างละดวงคือ Y กับ J เป็นสัญลักษณ์ที่ว่ายุนโฮกับแจจุงจะอยู่ด้วยกันตลอดไป... แต่ตอนนี้คำสัญญานั่น...ไม่เหลืออีกแล้ว
...ขอโทษนะ...แจจุง....
ชายหนุ่มค่อยๆคลายแรงกำออก มองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความอาลัยอีกครั้งแล้วตั้งใจจะทิ้งมันไว้ในถังขยะของโรงพยาบาล... ถ้าไม่มีเสียงของใครคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาขัดไว้ซะก่อน
"เฮ้...ไอ้หมีเกาหลี... หมอบอกให้นายออกจากโรงพยาบาลได้แล้วว่ะ ไปเตรียมตัวได้แล้วไป เอ่อ...ว่าแต่ก่อนฉันจะเข้ามานายทำอะไรอยู่...?" ชายหนุ่มร่างสูงถามเมื่อเห็นว่ายุนโฮมีท่าทางแปลกๆ
"เปล่านี่ แค่คิดอะไรเพลินๆ เอ่อนี่...นายบอกว่าฉันออกได้แล้วใช่ม่ะ? งั้นไปกินเลี้ยงฉลองกันดีกว่าน่า...นะไอ้ไก่น้า~~" เสียงพูดพลางทำท่าอ้อนอย่างกับเด็ก 5 ขวบ ถ้าเป็นแจจุงกับจุนซูคงจะยอมแพ้กับท่าอ้อนๆของไอ้หมีนี่อยู่หรอก แต่ไม่ใช่กับเพื่อนผู้ไม่พิศวาสมันสักนิดอย่างเขา...
"ไอ้บ้า...ทำซะฉันขนลุกเลย ไปอ้อนจุนซูเถอะไป รายนั้นเขาคงยอมให้นายอยู่หรอก..." ยูชอนพูดน้ำเสียงปกติเสียจนยุนโฮอดคิดไม่ได้เลยว่ายูชอนเลิกรักจุนซูแล้วจริงๆเหรอ?
"รู้แล้วน่า...ตกลงจะไปกันมั้ย?"
"ลองถามจุนซูก่อนสิ เดี๋ยวเขาก็มา ฉันไปจัดการเรื่องค่ารักษาก่อนนะ
" พูดจบยูชอนก็เดินออกไปทันทีไม่รอให้ยุนโฮได้ถามอะไรอีก
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึก เพียงแค่เอ่ยชื่อก็เจ็บเหมือนได้เจอหน้ากันทุกเวลา คงจะมีแต่เขาที่ยังจะเจ็บปวดอยู่แบบนี้...
ยูชอนหลีกออกมาอยู่ที่มุมผนังแห่งหนึ่งใกล้ห้องที่ยุนโฮพักอยู่แทนที่จะไปจ่ายค่ารักษาตามที่บอกเพื่อนไว้ เพราะที่จริงชายหนุ่มจัดการเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนจะมาหายุนโฮแล้ว แต่ที่ต้องพูดแบบนั้นก็เพื่อเอาไว้ใช้ปลีกตัวออกมา... ชายหนุ่มมองไปที่ที่พึ่งจากมา...รอจนเห็นร่างเล็กของจุนซูเดินเข้าห้องไป
ชายหนุ่มถอยออกมาจากมุมที่ตัวเองซ่อนตัวอยู่มายืนหน้าห้องอย่างเหม่อลอย เสียงคุยกันอย่างสนุกสนานของคนในห้องทำเอาน้ำตาพาลจะไหลเอาดื้อๆ ประตูที่ปิดไม่สนิททำให้ชายหนุ่มได้เห็นภาพเพื่อนสองคนหยอกล้อกัน ยูชอนได้แต่มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด...
แต่ยังไงนี่ก็เป็นทางที่เขาเลือก ถ้ามันทำให้จุนซูมีความสุขได้เขาก็พอใจแล้ว... ชายหนุ่มเผลอยืนอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งเสียงโทรเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบเจ้าตัวต้นเสียงขึ้นมามองที่หน้าจอซึ่งเป็นเบอร์พ่อของเขาเอง...
ยูชอนคุยกับปลายสายด้วยสีหน้าเป็นกังวลปนร้อนใจแล้วรีบออกไปจากโรงพยาบาลโดยไม่ทันได้บอกเพื่อนสนิททั้งสอง... รถยนต์สีดำคันหรูแล่นเข้าจอดอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งด้วยความรวดเร็วเหมือนใจของเจ้าของที่กำลังร้อนรน ขายาวก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วตรงไปที่เคาเตอร์ติดต่อ ก่อนนางพยาบาลชุดขาวจะชี้ทางให้เขาไปจุดหมายที่ต้องการ ร่างสูงก้าวเข้าไปในห้องผู้ป่วยอีกครั้งแต่กลับเป็นคนละคน คนละสถานที่ และ คนละสถานการณ์...
"พี่จองซู!!~" ร่างบนเตียงที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลถลอกฟกช้ำเต็มตัว นัยน์ตาคู่สวยที่เคยสดใสยามนี้กลับปิดสนิท ไม่ทันรู้ตัวชายหนุ่มเข้าไปกอดพี่ชายตนเองที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา...
"พ่อฮะ...ทำไมพี่ถึงโดนรถชนได้... ไหนว่าวันนี้พี่เขาไปเที่ยวกับพี่เยซองไง!!~ แล้วทำไมหมอนั่นยังไม่มาอีก!!~" เสียงถามอย่างเกรี้ยวกราดด้วยอารมณ์ที่เก็บไว้ไม่อยู่...
แน่ละ ก็เขามีพี่ชายเพียงคนเดียว และพี่จองซูพี่ชายคนเดียวของเขา... บาดเจ็บขนาดนี้จะให้เขาทนอยู่เฉยน่ะเหรอ? ไม่มีทาง!!~
"ทำไมถึงไม่มีใครบอกอะไรผมเลย...!!~" ชายหนุ่มว่าตัดพ้อเมื่อไม่มีใครยอมตอบเขาสักคน ทุกคนในห้องได้แต่เงียบ ทั้งฮีชอลเพื่อนของพี่เขา ฮยอกแจคนขับรถประจำตระกูล หรือแม้กระทั่งพ่อของเขาเอง...
เมื่อทุกคนไม่ยอมพูดตอบ หนุ่มหน้าสวยผู้เป็นเพื่อนของคนบนเตียงมองหน้าคนอื่นๆแล้วตัดสินใจเป็นฝ่ายตอบสิ่งที่ยูชอนอยากรู้ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากพูดเพราะมันบีบหัวใจเกินไป...
"คุณพ่อครับ ผมจะบอกยูชอนเอง... " ชายวัยกลางคนผู้เป็นพ่อของยูชอนพยักหน้าอย่างยากลำบากพลางถอนหายใจ เมื่อฮีชอลเห็นว่าอนุญาตแล้วจึงเรียกให้ยูชอนออกไปคุยข้างนอกด้วยกันเพื่อไม่เป็นการรบกวนคนบนเตียง
"ยูชอน...ตามฉันมา
" แล้วฮีชอลก็เดินออกไปรอ ในขณะที่ยูชอนค่อยๆวางร่างบางลงกับเตียงเหมือนเดิมอย่างแผ่วเบาก่อนจะตามฮีชอลไปด้านนอก...
"พี่ฮีชอล หวังว่าพี่คงให้คำตอบผมได้นะ..." ยูชอนจ้องหน้าฮีชอลคาดคั้นคำตอบ
"เออ~ พี่รู้แล้วน่า... จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ อืม...ประวัติของเยซองก็แล้วกัน..."
"พี่เยซองเกี่ยวอะไรด้วย... ผมอยากรู้เรื่องที่พี่ผมโดนรถชนต่างหาก..."
"ก็ถ้าสาเหตุมันมาจากคนคนนี้ แล้วนายยังจะไม่อยากฟังอยู่มั้ย?" ยูชอนเงียบไป ฮีชอลจึงเริ่มเล่า...
"นายรู้จักบริษัทซองอุนกรุ๊ปใช่มั้ย? แล้วรู้รึเปล่าว่าบริษัทนั้นกับบริษัทของพ่อนายไม่ถูกกันอย่างแรง..." ยูชอนพยักหน้าน้อยๆเมื่อหนุ่มหน้าสาวถาม แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกี่ยวเนื่องกันยังไง..
"เยซองเป็นลูกชายคนเดียวของซองอุนกรุ๊ป... หมอนั่นไม่ได้รักจองซูจริงๆ แต่แกล้งมาตีสนิทกับจองซูเพื่อหาทางทำลายบริษัทนาย และจองซูก็...ตกเป็นเหยื่อของมันทั้งร่างกายและจิตใจ... แล้ววันนี้หมอนั่นนัดกับจองซูเพื่อเปิดเผยความจริงทั้งหมด คงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่มั้ยว่าพี่นายเสียใจมากแค่ไหน... แต่พอจองซูจะออกจากร้านไปตามหมอนั่นก็โดนรถที่ฝ่าไฟแดงมา..." ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะพูดจบเสียงของบุคคลในห้องก็เรียกให้ทั้งสองคนกลับเข้าไป...
"พี่จองซู~ พี่ฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?" ยูชอนปราดเข้าไปกอดพี่ชายของเขาทันที... ก่อนจะผละออกมาด้วยความแปลกใจที่คนตรงหน้าไม่กอดตอบ...
"นะ... นายเป็นใคร? แล้วฉันเป็นใคร? นายรู้จักฉันด้วยเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้? โอ๊ย!! หัว...ปวด...เหมือนจะระเบิ...ด..." ร่างบางบนเตียงเอ่ยออกมาอย่างสับสนและหวาดกลัว ใบหน้าหวานนิ่งหน้าดวงความเจ็บปวด มือเรียวกุมขมับตัวเองแน่น ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของยูชอนที่วิ่งไปตามพยาบาลทั้งที่มีกริ่งให้กดเรียกแต่มันคงไม่ทันใจชายหนุ่มนัก...
..
"เพราะเจอกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก เลยทำให้สมองสั่งปิดสวิตท์เความทรงจำที่เจ้าตัวไม่อยากจำไว้... หมอตอบไม่ได้จริงๆว่าเขาจะจำทุกอย่างได้เมื่อไหร่ แต่คนไข้คงจะค่อยๆนึกออกทีละอย่างเอง... หมอขอตัวก่อน" คำพูดของหมอเจ้าของไข้ทำให้ยูชอนเดือดพล่าน ที่พี่ชายของเขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะคนๆเดียว...
นี่ถ้าพี่ฮีชอลกับพ่อไม่ขอร้องไว้ เขาคงจะไม่ปล่อยให้หมอนั่นมีชีวิตอยู่แน่ๆ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพี่ชายที่หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาด้วยความเงียบ... ในขณะที่ยูชอนนั่งมองใบหน้าหวานที่หลับอยู่ พ่อของเขาที่นั่งอยู่ในห้องด้วยเรียกชายหนุ่มเบาๆ
"ยูชอน...พ่อมีเรื่องอยากให้ลูกทำ แต่ลูกจะปฏิเสธก็ได้... พ่อตามใจลูก..."
"เรื่องอะไรเหรอครับ?"
"พ่อคุยกับแม่แล้วว่า..."
คำว่า...แม่...ทำเอายูชอนถึงกับสะอึก ถึงแม้ว่าพวกเขาและแม่ที่ย้ายไปอยู่อเมริกานั้นจะยังติดต่อกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมเหมือนเมื่อก่อน...
"พ่ออยากให้จองซูไปอยู่กับแม่ที่นู่นเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แล้วพ่อก็..."
"อยากให้ผมไปด้วยใช่มั้ยครับ?"
"พ่อบอกแล้ว...ยูชอน พ่อตามใจลูก ถ้าลูกไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร แต่ที่พ่ออยากให้ลูกไปเพื่อจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนพี่เขา..."
"ไปครับพ่อ... ผมจะไป พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูพี่จองซูให้ดีที่สุด... จะไม่ให้ใครมาทำร้ายพี่จองซูได้อีก... แล้วพ่อจะให้ผมไปเมื่อไหร่ฮะ...?"
"อีกพรุ่ง...ถ้าลูกคิดว่ามันเร็วไป จะนานกว่านั้นพ่อก็ไม่ว่า... แต่พ่อเห็นว่าจองซูไม่ได้เป็นอะไรมาก พ่ออยากให้เขาไปจากเกาหลีให้เร็วที่สุด..."
"ไม่เป็นไรครับ ยิ่งเร็วยิ่งดี..." ถึงชายหนุ่มจะพูดไปแบบนั้นแต่กลับรู้สึกใจหาย อีกสองวันเขาจะไม่ได้เจอกับยุนโฮและจุนซูไปอีกนานเลย... บางทีอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้... ยูชอนยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ แล้วต่อโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททั้งสองที่คงกำลังอารมณ์เสียที่เขาก็หายไปอยู่แน่ๆ
"ไง ไอ้ไก่กว่าจะโทรมาได้ให้พวกเราตามหาแทบแย่..."
"โทษทีพอมีเรื่องนิดหน่อย..."
"เป็นอะไรรึเปล่า...ยูชอน...?" ยุนโฮถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อน้ำเสียงของเพื่อนรักเปลี่ยนไป...
"ยุนโฮฉันมีอะไรจะขอ... นายจะทำให้ฉันได้มั้ย?" น้ำเสียงของยูชอนสั่นขึ้นเรื่อง แม้เจ้าตัวจะพยายามประคองมันสุดความสามารถแล้วก็ตาม...
"ยูชอน..."
"ฉันขอร้องยุนโฮ... ฉันอยากให้นายดูแลจุนซูให้ดี อย่าทำให้เขาต้องเสียใจ... ร้องไห้... หรือเจ็บปวด... อย่าทิ้งเขาไป... อย่าปล่อยให้เขาต้องเหงาเพียงลำพัง นายก็รู้ว่าจุนซูขี้กลัวขนาดไหน... รักเขาให้มากๆ มากกว่าที่นายเคยแจจุงเลยได้ยิ่งดี แค่นี้นายสัญญากับฉันได้มั้ยยุนโฮ?"
"ยูชอน ถ้านายรักเขามากอย่างนี้ นายจะยกเขาให้ฉันทำไม... ทำไมต้องทรมานตัวเองอย่างนี้ด้วย !!!"
"ฉันบอกแล้ว ความสุขของจุนซูก็คือความสุขของฉัน และเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับนาย เพราะอย่างนั้นดีแล้วล่ะ สัญญากับฉันสิ...ยุนโฮ ว่านายจะต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ฉันไว้วางใจให้นายอยู่ที่ตรงนั้นแทนฉัน
เพราะฉันไม่อาจดูแลเขาได้อีกแล้ว..."
"ยูชอน...ฉันสัญญา"
"ขอบใจยุนโฮ ฉันเชื่อว่านายทำได้ อีกเรื่องที่ฉันต้องบอกนายฉันจะไปเรียนต่อที่อเมริกา คงอีกนานกว่าเราจะได้พบกันอีกนะ ยุนโฮ...ลาก่อน"
"เมื่อไหร่...?"
"พรุ่งนี้..."
"เฮ้ย!! เดี๋ยว...ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะ แล้วจุนซูล่ะ นายจะไม่ลาเขาหน่อยเหรอ?"
"ไม่ล่ะ... ฉันไม่อยากแพ้ใจตัวเอง ฝากบอกเขาด้วยละกัน..."
"เอาเถอะ ฉันเคารพการตัดสินใจของนาย ไปแล้วรักษาตัวดีๆนะ
"
"ขอบใจมากไอ้เพื่อนรัก..." ชายหนุ่มวางสายไปด้วยความยินดีปนเสียใจ
ยินดี...ที่มีคนดูแลจุนซูแทนเขา ยูชอนรู้ดีว่ายุนโฮจะทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด...
อย่างน้อยก็ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องทำอะไรเลย...จุนซูก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้ว...
ไม่ใช่อย่างเขา...ที่พยายามแทบตาย แต่ที่ได้ก็เป็นเพียงรอยยิ้มฝืนๆของร่างเล็กเท่านั้น...
แต่เสียใจเพียงอย่างเดียว...
คนที่อยู่ข้างๆจุนซูจะมีเพียงยุนโฮเท่านั้น
จะไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว...
หลังจากนั้นยูชอนกลับมาที่บ้านเพื่อจัดของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทาง โดยมีแม่บ้านฮันซูช่วยจัดในส่วนที่เป็นของจองซูให้... เพราะความเงียบของบ้านยามค่ำคืนทำเอาชายหนุ่มรู้สึกเหงาขึ้นมา อยู่ๆจะให้จากบ้านที่อยู่มาตลอด 17 ปี มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเหมือนเป็นปกติ... เมื่อจัดข้าวของของตัวเองเสร็จ ชายหนุ่มตัดสินใจไปที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่ใกล้จากบ้านเขาเลย...
ณ บ้านตระกูลคิม
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านของเพื่อนรักที่จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด... มือหนาเอื้อมเคาะประตูบ้านไม้บานใหญ่เบาๆ ก่อนจะปรากฏร่างหญิงผู้เป็นแม่บ้านของตระกูลคิม...ป้าซอฮุน ผู้ที่ยังอยู่ที่นี่เพื่อดูแลปกป้องรักษาและบ้านหลังนี้เอาไว้ ตามที่นายท่านทั้งสองเคยสั่งเสียไว้ แม้ว่าตอนนี้แจจุงจะหายตัวไปถึงสามปีแล้วก็ตาม... แต่ป้าซอฮุนก็ยังไม่ยอมไปไหน เธออยู่เพื่อรอวันที่คุณหนูของเธอจะกลับมา...
ถึงตอนนี้บริษัทและทรัพย์สินของตระกูลคิมทั้งหมด จะตกอยู่ในมือของตระกูลปาร์ค ดูเผินๆอาจเหมือนการยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลคิม แต่แท้จริงแล้วพ่อของยูชอนแค่รับไว้เพื่อให้ดูแลได้ง่าย เพราะเมื่อทุกคนรู้ว่าแจจุงไม่อยู่ในบริษัทเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ก่อนจะเกิดเรื่องอะไรไปมากกว่านี้ พ่อของยูชอนจึงยื่นมือเข้ามาช่วย เพื่อรอวันที่เจ้าของที่แท้จริงจะกลับมา... แม้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม... หรืออาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้
"คุณยูชอน? มีอะไรหรือค่ะ"
"ผมมาลาแจจุงนะครับ พรุ่งนี้ผมจะไปอเมริกา คงอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง... "
"พรุ่งนี้เลยหรือค่ะ กะทันหันมากเลยนะค่ะ เชิญเถอะค่ะ... " แม่บ้านประจำตระกูลผายมือให้ชายหนุ่มเข้ามาข้างใน ยูชอนเดินเข้ามาก่อนตรงไปที่ปกติที่เขาเคยมาประจำ...ห้องนอนของแจจุง
ห้องโทนสีน้ำตาลอ่อนๆมองดูแล้วอบอุ่น ผ้าม่านสีขาวที่เข้ากับสีของผนังได้เป็นอย่างดี ของทุกอย่างในห้องไม่เคยมีการเคลื่อนย้ายเลยแม้แต่น้อย ตู้หนังสือ โคมไฟ ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งกระถางต้นไม้เล็กของแจจุงที่หัวเตียงมันก็ยังอยู่ที่เดิม...
ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงที่ยังคงสะอาดเอี่ยมเหมือนตอนที่แจจุงยังอยู่ ป้าซอฮุนดูแลที่นี่ได้ดีเยี่ยมเสมอ... มือหนาเอื้อมหยิบกระถางต้นไม้อันจิ๋วที่โต๊ะข้างเตียง... ของที่ชายหนุ่มยังจำได้ดีเหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้...
ของขวัญที่ตัวยูชอนเองเป็นคนมอบให้แจจุงในวันเกิดปีที่13 หลังจากเด็กหนุ่มต้องสูญเสียพ่อแม่ไปไม่นาน...
"แจจุง ฉันให้..." อยู่ๆเพื่อนสนิทก็ยื่นกระถางต้นไม้อันเล็กให้เขาจะให้รับมาโดยไม่ถามอะไรมันก็คงแปลกใชมั้ย?ในเมื่อเขายังไม่รู้เลยว่ายูชอนจะให้เขาทำไม
"นี่...อะไรเหรอ?"
"แจจุง... นายลืมไปแล้วเหรอ? นี่วันเกิดนายนะ
" ยูชอนว่าอย่างตกใจเมื่อร่างบางมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาแล้วถามอย่างสงสัย...
"เออ...จริงด้วยมัวแต่ยุ่งๆเลยลืมไปเลย..."
"เอาเถอะ... แล้วนี่ของขวัญของนาย... ให้มันแทนคำสัญญาว่าฉันจะเป็นเพื่อนนายตลอดไป... ไม่ว่านายจะรู้สึกกับเรื่องอะไรๆไม่ดีแค่ไหนบอกฉัน ฉันจะช่วยรองรับความเจ็บปวดของนายไว้เอง... ไม่ว่าวันข้างหน้าอาจจะเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เราจะเดินไปด้วยกัน ฉันจะประคองนายไปเองแจจุง นายจะไม่มีวันเดินอยู่อย่างนั้นเพียงลำพัง... ฉันเป็นเพื่อนนายเสมอจากนี้และตลอดไป..."
"ยูชอน..." เด็กหนุ่มมองร่างสูงด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ แจจุงโผเข้ากอดยูชอนอย่างไม่ทันให้คนถูกกอดตั้งตัว น้ำตามากมายไหลเปียกเสื้อของชายหนุ่ม มือหนาลูบผมสีดำสวยอย่างแผ่วเบา
"เราสองคนจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป จะไม่มีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของเราได้... ให้ต้นไม้ต้นนี้เจริญเติบโตด้วยมิตรภาพระหว่างสองเรา..." ตัวยูชอนพูดเองก็เขินเอง แต่มันก็เป็นความจริงที่เขาอยากให้เพื่อนร่างเล็กของเขารับรู้... ชายหนุ่มเลยได้เอาหน้าแดงๆเพราะความเขินอายนั่นมองขึ้นไปบนเพดาน...
"ฉันพึ่งรู้ว่านายก็พูดอะไรซึ้งๆเป็นนะเนี่ย..."
"โห...แจจุงอ่ะ กว่าฉันจะเรียบเรียงคำพูดได้นั่งคิดอยู่ต่างนานนายหัวเราะแบบนี้ฉันก็หมดมูดเลยดิ 55+ เอาเถอะ...ไปกินเค้กกันดีกว่าเจ้าหญิงของงานมานั่งร้องไห้อย่างนี้ไม่ดีเลยนะ... ไปเถอะเพื่อนๆทุกคนรออยู่เขาอยากเห็นนายยิ้มนะ พวกเราจัดงานนี้เพื่อนายเลย..."
หลังจากนั้นไม่นาน แจจุงก็ไม่ได้มีเพียงเขาที่เป็นเพื่อนอีกแล้ว แต่ยังมีเพิ่มมาอีกสองคือยุนโฮกับจุนซูอีกด้วย มิตรภาพในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดแบบเงียบๆไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกตัวอีกที...ก็ถูกความจริงทำร้ายเสียจนเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว...
เมื่อแจจุงกับยุนโฮตกลงคบกัน รอยยิ้มที่ทั้งคู่มีให้กันเต็มไปด้วยความสุข ผิดกับจุนซูที่ได้แต่ซ่อนความเสียใจภายใต้รอยยิ้มแสดงความยินดี เพราะจุนซูรักยุนโฮมาตลอด... ความเจ็บปวดที่แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังอยู่ลึกๆภายในใจด้วยความอิจฉา...
ยูชอนเองก็ได้ มอง และพยายามดูแลร่างเล็กด้วยความห่วงใยเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำให้คนที่รักได้ แต่... ดูเหมือนความรู้สึกของยูชอนจะไม่เคยไปถึงจุนซูเลย...
......................
.............
...................
ยูชอนวางเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือสู่ที่เดิม มือหนายกขึ้นมาปาดหยดน้ำเล็กๆที่ปลายหางตา ความทรงจำในอดีตที่ทำเอาชายหนุ่มเผลอร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว... ชายหนุ่มเอื้อมหยิบกรอบรูปที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงใกล้กับกระถางจิ๋วนั่น... รูปของพวกเขาสี่คนที่ถ่ายด้วยกันก่อนแจจุงจะหายตัวไปเพียงอาทิตย์เดียว...
ในรูปถ่ายแจจุงยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับยุนโฮ และจุนซูที่ยูชอนดูออกว่ายังไงก็ฝืนยิ้มชัดๆ... สายตาของชายหนุ่มลื่อนมาที่เพื่อนคนสวยอีกครั้ง... น้ำตาที่เพิ่งปาดไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเริ่มโรยรินอีกครั้ง ผิดกับครั้งแรกเพียงอย่างเดียวคือชายหนุ่มไม่คิดจะปาดมันออก...
"แจจุง...ฉันขอโทษ!!!~ แต่ฉันทนไม่ได้ที่เห็นยุนโฮกับจุนซูต้องเจ็บปวดเพราะนาย... ฉันขอโทษ... ถ้านายกลับมาแล้วจะโกรธฉัน... ฉันก็ไม่ว่าอะไรนายเลย... นายจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้... ฉันจะไม่ห้ามนายเลย ฉันขอโทษแจจุง...ฉันขอโทษ!!~" จากหยดน้ำน้อยๆเพิ่มขึ้นจนไหลเป็นสายผ่านผิวแก้มลงไปที่คอ... ชายหนุ่มปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อยๆก่อนจะตัดสินใจวางกรอบรูปลงที่เดิม
"เฮ้อ...ทั้งที่สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้วนะ สุดท้ายก็แพ้ตัวเองจนได้... นายนี่มันอ่อนแอจริงๆเลยยูชอน
" ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆกับตัวเอง
ใช่แล้วยูชอน....ถ้านายเข้มแข็งกว่านี่...นายก็จะปกป้องทุกคนจากวังวนความเจ็บปวดนี้ได้
แต่เพราะนายอ่อนแอ...ทุกอย่างมันถึงได้จบลงอย่างเจ็บปวดแบบนี้ไงล่ะ...
เพียงแต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่รู้ เพราะนี่ไม่ใช่จุดจบของวังวนนี้อย่างที่ชายหนุ่มคิด...
หากแต่...
จะเป็นจุดเริ่มต้นความเจ็บปวดครั้งใหม่ที่หนักหนาสาหัสกว่าเดิม....
ความรักที่แทบจะขยี้ใจดวงน้อยให้แหลกสลาย...
เมื่อคนหนึ่งรัก...มั่นคง
แต่อีกคน...รักหายไป
ตอนใหม่... (แต่เนื้อเรื่องเก่า...55+)
ตั้งแต่แต่งมารู้สึกว่าตอนนี้มันลื่นไหลดีจังเลยแฮะ (คิดว่านะ 55+)
จะพยายามรีไรท์ให้เร็วที่สุด
แต่ตอนนี้ติดเรียนพิเศษตลอดเลยไม่มีเวลาเลย
ขอโทษจริงๆรอหน่อยน้า~
เฮ้อ...เด็กจะเอนท์ก็เงี้ยวุ่นชะมัด 55+
-
- +
+-b
g-น่า
รัก
ความคิดเห็น