ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    *~Timeless Love~* [Fic TVXQ]

    ลำดับตอนที่ #4 : >>> 04

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 50



    *~Timeless Love~*

    ...Begin Or The End...


    [ฤดูใบไม้ผลิ ปี 2004]


    แสงอาทิตย์อ่อนส่องลงมายังพื้นดิน เมฆสีขาวลอยเอื่อยๆในท้องฟ้าราวกับปลาแหวกว่ายในท้องทะเล ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะเริ่มขึ้น...ฤดูแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ


    ชายหนุ่มบนเตียงมองภาพนอกหน้าต่างอย่างเจ็บปวดคละความยินดี ยุนโฮยอมเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาดวงตา อาการของเขาดีขึ้นมาก ตอนนี้ชายหนุ่มมองเห็นเป็นปกติแล้ว เขายอมทำตามคำขอร้องของยูชอน ที่ให้เข้ารับการผ่าตัด เขาตั้งใจว่าหลังจากหายเขาจะลองคบกับจุนซูดู   บางที...ถ้ามันทำให้จุนซูมีความสุข และยูชอนสบายใจเขาก็จะทำ...


     

    "ถึงเวลาจะต้องลาจากกันจริงๆแล้วสินะ…" อยู่ๆชายหนุ่มก็พูดกับตัวเอง มือหนาเอื้อมไปที่คอด้านหลังปลดตะขอเกี่ยวออกทำให้สิ่งที่เคยอยู่บนคอเขาตกลงมาในมือที่กำมันแน่น สร้อยคอสีเงินเส้นสวยที่เคยอยู่มีอยู่คู่กัน แต่บัดนี้เหลืออยู่เพียงลำพัง...



    สร้อยคอที่มีอยู่คู่กันเพียงสองเส้นในโลก   สร้อยคอสีเงินมีหัวใจอันเล็กห้อยอยู่สองอัน ตรงกลางหัวใจแต่ละดวงที่อยู่ติดกันนั้น มีตัวอักษรสลักไว้อย่างละดวงคือ
    Y กับ  J เป็นสัญลักษณ์ที่ว่ายุนโฮกับแจจุงจะอยู่ด้วยกันตลอดไป... แต่ตอนนี้คำสัญญานั่น...ไม่เหลืออีกแล้ว



    ...ขอโทษนะ...แจจุง....



    ชายหนุ่มค่อยๆคลายแรงกำออก มองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความอาลัยอีกครั้งแล้วตั้งใจจะทิ้งมันไว้ในถังขยะของโรงพยาบาล... ถ้าไม่มีเสียงของใครคนหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาขัดไว้ซะก่อน


    "เฮ้...ไอ้หมีเกาหลี... หมอบอกให้นายออกจากโรงพยาบาลได้แล้วว่ะ ไปเตรียมตัวได้แล้วไป เอ่อ...ว่าแต่ก่อนฉันจะเข้ามานายทำอะไรอยู่...?" ชายหนุ่มร่างสูงถามเมื่อเห็นว่ายุนโฮมีท่าทางแปลกๆ


    "เปล่านี่ แค่คิดอะไรเพลินๆ เอ่อนี่...นายบอกว่าฉันออกได้แล้วใช่ม่ะ? งั้นไปกินเลี้ยงฉลองกันดีกว่าน่า...นะไอ้ไก่น้า~~"  เสียงพูดพลางทำท่าอ้อนอย่างกับเด็ก 5 ขวบ ถ้าเป็นแจจุงกับจุนซูคงจะยอมแพ้กับท่าอ้อนๆของไอ้หมีนี่อยู่หรอก แต่ไม่ใช่กับเพื่อนผู้ไม่พิศวาสมันสักนิดอย่างเขา...


    "ไอ้บ้า...ทำซะฉันขนลุกเลย ไปอ้อนจุนซูเถอะไป รายนั้นเขาคงยอมให้นายอยู่หรอก..." ยูชอนพูดน้ำเสียงปกติเสียจนยุนโฮอดคิดไม่ได้เลยว่ายูชอนเลิกรักจุนซูแล้วจริงๆเหรอ?


    "รู้แล้วน่า...ตกลงจะไปกันมั้ย?"


    "ลองถามจุนซูก่อนสิ เดี๋ยวเขาก็มา ฉันไปจัดการเรื่องค่ารักษาก่อนนะ…" พูดจบยูชอนก็เดินออกไปทันทีไม่รอให้ยุนโฮได้ถามอะไรอีก


    ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึก เพียงแค่เอ่ยชื่อก็เจ็บเหมือนได้เจอหน้ากันทุกเวลา คงจะมีแต่เขาที่ยังจะเจ็บปวดอยู่แบบนี้...




    ยูชอนหลีกออกมาอยู่ที่มุมผนังแห่งหนึ่งใกล้ห้องที่ยุนโฮพักอยู่แทนที่จะไปจ่ายค่ารักษาตามที่บอกเพื่อนไว้ เพราะที่จริงชายหนุ่มจัดการเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนจะมาหายุนโฮแล้ว แต่ที่ต้องพูดแบบนั้นก็เพื่อเอาไว้ใช้ปลีกตัวออกมา... ชายหนุ่มมองไปที่ที่พึ่งจากมา...รอจนเห็นร่างเล็กของจุนซูเดินเข้าห้องไป


    ชายหนุ่มถอยออกมาจากมุมที่ตัวเองซ่อนตัวอยู่มายืนหน้าห้องอย่างเหม่อลอย เสียงคุยกันอย่างสนุกสนานของคนในห้องทำเอาน้ำตาพาลจะไหลเอาดื้อๆ ประตูที่ปิดไม่สนิททำให้ชายหนุ่มได้เห็นภาพเพื่อนสองคนหยอกล้อกัน ยูชอนได้แต่มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด...

    แต่ยังไงนี่ก็เป็นทางที่เขาเลือก ถ้ามันทำให้จุนซูมีความสุขได้เขาก็พอใจแล้ว... ชายหนุ่มเผลอยืนอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งเสียงโทร
    เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบเจ้าตัวต้นเสียงขึ้นมามองที่หน้าจอซึ่งเป็นเบอร์พ่อของเขาเอง...

    ยูชอนคุยกับปลายสายด้วยสีหน้าเป็นกังวลปนร้อนใจแล้วรีบออกไปจากโรงพยาบาลโดยไม่ทันได้บอกเพื่อนสนิททั้งสอง...  รถยนต์สีดำคันหรูแล่นเข้าจอดอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งด้วยความรวดเร็วเหมือนใจของเจ้าของที่กำลังร้อนรน ขายาวก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วตรงไปที่เคาเตอร์ติดต่อ ก่อนนางพยาบาลชุดขาวจะชี้ทางให้เขาไปจุดหมายที่ต้องการ  ร่างสูงก้าวเข้าไปในห้องผู้ป่วยอีกครั้งแต่กลับเป็นคนละคน คนละสถานที่ และ คนละสถานการณ์...




    "พี่จองซู!!~" ร่างบนเตียงที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลถลอกฟกช้ำเต็มตัว นัยน์ตาคู่สวยที่เคยสดใสยามนี้กลับปิดสนิท ไม่ทันรู้ตัวชายหนุ่มเข้าไปกอดพี่ชายตนเองที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา...


    "พ่อฮะ...ทำไมพี่ถึงโดนรถชนได้... ไหนว่าวันนี้พี่เขาไปเที่ยวกับพี่เยซองไง!!~ แล้วทำไมหมอนั่นยังไม่มาอีก!!~" เสียงถามอย่างเกรี้ยวกราดด้วยอารมณ์ที่เก็บไว้ไม่อยู่...


    แน่ละ ก็เขามีพี่ชายเพียงคนเดียว และพี่จองซูพี่ชายคนเดียวของเขา... บาดเจ็บขนาดนี้จะให้เขาทนอยู่เฉยน่ะเหรอ? ไม่มีทาง
    !!~


    "ทำไมถึงไม่มีใครบอกอะไรผมเลย...!!~" ชายหนุ่มว่าตัดพ้อเมื่อไม่มีใครยอมตอบเขาสักคน ทุกคนในห้องได้แต่เงียบ ทั้งฮีชอลเพื่อนของพี่เขา  ฮยอกแจคนขับรถประจำตระกูล หรือแม้กระทั่งพ่อของเขาเอง...


    เมื่อทุกคนไม่ยอมพูดตอบ หนุ่มหน้าสวยผู้เป็นเพื่อนของคนบนเตียงมองหน้าคนอื่นๆแล้วตัดสินใจเป็นฝ่ายตอบสิ่งที่ยูชอนอยากรู้ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากพูดเพราะมันบีบหัวใจเกินไป...



    "คุณพ่อครับ ผมจะบอกยูชอนเอง... "  ชายวัยกลางคนผู้เป็นพ่อของยูชอนพยักหน้าอย่างยากลำบากพลางถอนหายใจ  เมื่อฮีชอลเห็นว่าอนุญาตแล้วจึงเรียกให้ยูชอนออกไปคุยข้างนอกด้วยกันเพื่อไม่เป็นการรบกวนคนบนเตียง



    "ยูชอน...ตามฉันมา…" แล้วฮีชอลก็เดินออกไปรอ ในขณะที่ยูชอนค่อยๆวางร่างบางลงกับเตียงเหมือนเดิมอย่างแผ่วเบาก่อนจะตามฮีชอลไปด้านนอก...



    "พี่ฮีชอล หวังว่าพี่คงให้คำตอบผมได้นะ..." ยูชอนจ้องหน้าฮีชอลคาดคั้นคำตอบ


    "เออ~ พี่รู้แล้วน่า... จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ อืม...ประวัติของเยซองก็แล้วกัน..."


    "พี่เยซองเกี่ยวอะไรด้วย... ผมอยากรู้เรื่องที่พี่ผมโดนรถชนต่างหาก..."


    "ก็ถ้าสาเหตุมันมาจากคนคนนี้ แล้วนายยังจะไม่อยากฟังอยู่มั้ย?" ยูชอนเงียบไป ฮีชอลจึงเริ่มเล่า...


    "นายรู้จักบริษัทซองอุนกรุ๊ปใช่มั้ย? แล้วรู้รึเปล่าว่าบริษัทนั้นกับบริษัทของพ่อนายไม่ถูกกันอย่างแรง..." ยูชอนพยักหน้าน้อยๆเมื่อหนุ่มหน้าสาวถาม แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกี่ยวเนื่องกันยังไง..


    "เยซองเป็นลูกชายคนเดียวของซองอุนกรุ๊ป... หมอนั่นไม่ได้รักจองซูจริงๆ แต่แกล้งมาตีสนิทกับจองซูเพื่อหาทางทำลายบริษัทนาย และจองซูก็...ตกเป็นเหยื่อของมันทั้งร่างกายและจิตใจ...  แล้ววันนี้หมอนั่นนัดกับจองซูเพื่อเปิดเผยความจริงทั้งหมด คงไม่ต้องให้ฉันบอกใช่มั้ยว่าพี่นายเสียใจมากแค่ไหน... แต่พอจองซูจะออกจากร้านไปตามหมอนั่นก็โดนรถที่ฝ่าไฟแดงมา..." ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะพูดจบเสียงของบุคคลในห้องก็เรียกให้ทั้งสองคนกลับเข้าไป...



    "พี่จองซู~ พี่ฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?" ยูชอนปราดเข้าไปกอดพี่ชายของเขาทันที... ก่อนจะผละออกมาด้วยความแปลกใจที่คนตรงหน้าไม่กอดตอบ...



    "นะ... นายเป็นใคร? แล้วฉันเป็นใคร? นายรู้จักฉันด้วยเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้? โอ๊ย!! หัว...ปวด...เหมือนจะระเบิ...ด..." ร่างบางบนเตียงเอ่ยออกมาอย่างสับสนและหวาดกลัว ใบหน้าหวานนิ่งหน้าดวงความเจ็บปวด มือเรียวกุมขมับตัวเองแน่น ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของยูชอนที่วิ่งไปตามพยาบาลทั้งที่มีกริ่งให้กดเรียกแต่มันคงไม่ทันใจชายหนุ่มนัก...



    …………………

    ……………………..

    …………………




    "เพราะเจอกับเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก เลยทำให้สมองสั่งปิดสวิตท์เความทรงจำที่เจ้าตัวไม่อยากจำไว้... หมอตอบไม่ได้จริงๆว่าเขาจะจำทุกอย่างได้เมื่อไหร่ แต่คนไข้คงจะค่อยๆนึกออกทีละอย่างเอง... หมอขอตัวก่อน" คำพูดของหมอเจ้าของไข้ทำให้ยูชอนเดือดพล่าน  ที่พี่ชายของเขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะคนๆเดียว...

    นี่ถ้าพี่ฮีชอลกับพ่อไม่ขอร้องไว้ เขาคงจะไม่ปล่อยให้หมอนั่นมีชีวิตอยู่แน่ๆ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพี่ชายที่หลับสนิทเพราะฤทธิ์ยาด้วยความเงียบ... ในขณะที่ยูชอนนั่งมองใบหน้าหวานที่หลับอยู่ พ่อของเขาที่นั่งอยู่ในห้องด้วยเรียกชายหนุ่มเบาๆ



    "ยูชอน...พ่อมีเรื่องอยากให้ลูกทำ แต่ลูกจะปฏิเสธก็ได้... พ่อตามใจลูก..."


    "เรื่องอะไรเหรอครับ?"


    "พ่อคุยกับแม่แล้วว่า..."


    คำว่า...แม่...ทำเอายูชอนถึงกับสะอึก ถึงแม้ว่าพวกเขาและแม่ที่ย้ายไปอยู่อเมริกานั้นจะยังติดต่อกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมเหมือนเมื่อก่อน...


    "พ่ออยากให้จองซูไปอยู่กับแม่ที่นู่นเพื่อรักษาสภาพจิตใจ แล้วพ่อก็..."


    "อยากให้ผมไปด้วยใช่มั้ยครับ?"


    "พ่อบอกแล้ว...ยูชอน พ่อตามใจลูก ถ้าลูกไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร แต่ที่พ่ออยากให้ลูกไปเพื่อจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนพี่เขา..."


    "ไปครับพ่อ... ผมจะไป พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูพี่จองซูให้ดีที่สุด... จะไม่ให้ใครมาทำร้ายพี่จองซูได้อีก... แล้วพ่อจะให้ผมไปเมื่อไหร่ฮะ...?"


    "อีกพรุ่ง...ถ้าลูกคิดว่ามันเร็วไป จะนานกว่านั้นพ่อก็ไม่ว่า... แต่พ่อเห็นว่าจองซูไม่ได้เป็นอะไรมาก พ่ออยากให้เขาไปจากเกาหลีให้เร็วที่สุด..."


    "ไม่เป็นไรครับ ยิ่งเร็วยิ่งดี..." ถึงชายหนุ่มจะพูดไปแบบนั้นแต่กลับรู้สึกใจหาย  อีกสองวันเขาจะไม่ได้เจอกับยุนโฮและจุนซูไปอีกนานเลย... บางทีอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้... ยูชอนยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ แล้วต่อโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททั้งสองที่คงกำลังอารมณ์เสียที่เขาก็หายไปอยู่แน่ๆ


    "ไง ไอ้ไก่กว่าจะโทรมาได้ให้พวกเราตามหาแทบแย่..."


    "โทษทีพอมีเรื่องนิดหน่อย..."


    "เป็นอะไรรึเปล่า...ยูชอน...?" ยุนโฮถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อน้ำเสียงของเพื่อนรักเปลี่ยนไป...


    "ยุนโฮฉันมีอะไรจะขอ... นายจะทำให้ฉันได้มั้ย?" น้ำเสียงของยูชอนสั่นขึ้นเรื่อง แม้เจ้าตัวจะพยายามประคองมันสุดความสามารถแล้วก็ตาม...


    "ยูชอน..."


    "ฉันขอร้องยุนโฮ... ฉันอยากให้นายดูแลจุนซูให้ดี อย่าทำให้เขาต้องเสียใจ... ร้องไห้... หรือเจ็บปวด... อย่าทิ้งเขาไป... อย่าปล่อยให้เขาต้องเหงาเพียงลำพัง นายก็รู้ว่าจุนซูขี้กลัวขนาดไหน...  รักเขาให้มากๆ มากกว่าที่นายเคยแจจุงเลยได้ยิ่งดี แค่นี้นายสัญญากับฉันได้มั้ยยุนโฮ?"


    "ยูชอน ถ้านายรักเขามากอย่างนี้ นายจะยกเขาให้ฉันทำไม... ทำไมต้องทรมานตัวเองอย่างนี้ด้วย !!!"


    "ฉันบอกแล้ว ความสุขของจุนซูก็คือความสุขของฉัน และเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับนาย เพราะอย่างนั้นดีแล้วล่ะ สัญญากับฉันสิ...ยุนโฮ ว่านายจะต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ฉันไว้วางใจให้นายอยู่ที่ตรงนั้นแทนฉันเพราะฉันไม่อาจดูแลเขาได้อีกแล้ว..."


    "ยูชอน...ฉันสัญญา"


    "ขอบใจยุนโฮ ฉันเชื่อว่านายทำได้ อีกเรื่องที่ฉันต้องบอกนายฉันจะไปเรียนต่อที่อเมริกา คงอีกนานกว่าเราจะได้พบกันอีกนะ ยุนโฮ...ลาก่อน"


    "เมื่อไหร่...?"


    "พรุ่งนี้..."


    "เฮ้ย!! เดี๋ยว...ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะ  แล้วจุนซูล่ะ นายจะไม่ลาเขาหน่อยเหรอ?"


    "ไม่ล่ะ... ฉันไม่อยากแพ้ใจตัวเอง ฝากบอกเขาด้วยละกัน..."


    "เอาเถอะ ฉันเคารพการตัดสินใจของนาย ไปแล้วรักษาตัวดีๆนะ…"


    "ขอบใจมากไอ้เพื่อนรัก..." ชายหนุ่มวางสายไปด้วยความยินดีปนเสียใจ



    ยินดี...ที่มีคนดูแลจุนซูแทนเขา ยูชอนรู้ดีว่ายุนโฮจะทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด...


    อย่างน้อยก็ดีกว่าตรงที่ไม่ต้องทำอะไรเลย...จุนซูก็ยิ้มอย่างมีความสุขแล้ว...


    ไม่ใช่อย่างเขา...ที่พยายามแทบตาย แต่ที่ได้ก็เป็นเพียงรอยยิ้มฝืนๆของร่างเล็กเท่านั้น...


    แต่เสียใจเพียงอย่างเดียว...

    คนที่อยู่ข้างๆจุนซูจะมีเพียงยุนโฮเท่านั้น

    จะไม่มีเขาอีกต่อไปแล้ว...








     

    หลังจากนั้นยูชอนกลับมาที่บ้านเพื่อจัดของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทาง โดยมีแม่บ้านฮันซูช่วยจัดในส่วนที่เป็นของจองซูให้... เพราะความเงียบของบ้านยามค่ำคืนทำเอาชายหนุ่มรู้สึกเหงาขึ้นมา อยู่ๆจะให้จากบ้านที่อยู่มาตลอด 17 ปี มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเหมือนเป็นปกติ... เมื่อจัดข้าวของของตัวเองเสร็จ ชายหนุ่มตัดสินใจไปที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่ใกล้จากบ้านเขาเลย...


     


    ณ บ้านตระกูลคิม


    ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านของเพื่อนรักที่จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด... มือหนาเอื้อมเคาะประตูบ้านไม้บานใหญ่เบาๆ ก่อนจะปรากฏร่างหญิงผู้เป็นแม่บ้านของตระกูลคิม...ป้าซอฮุน ผู้ที่ยังอยู่ที่นี่เพื่อดูแลปกป้องรักษาและบ้านหลังนี้เอาไว้ ตามที่นายท่านทั้งสองเคยสั่งเสียไว้  แม้ว่าตอนนี้แจจุงจะหายตัวไปถึงสามปีแล้วก็ตาม... แต่ป้าซอฮุนก็ยังไม่ยอมไปไหน เธออยู่เพื่อรอวันที่คุณหนูของเธอจะกลับมา...


     

    ถึงตอนนี้บริษัทและทรัพย์สินของตระกูลคิมทั้งหมด จะตกอยู่ในมือของตระกูลปาร์ค ดูเผินๆอาจเหมือนการยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลคิม แต่แท้จริงแล้วพ่อของยูชอนแค่รับไว้เพื่อให้ดูแลได้ง่าย เพราะเมื่อทุกคนรู้ว่าแจจุงไม่อยู่ในบริษัทเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ก่อนจะเกิดเรื่องอะไรไปมากกว่านี้ พ่อของยูชอนจึงยื่นมือเข้ามาช่วย เพื่อรอวันที่เจ้าของที่แท้จริงจะกลับมา... แม้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม... หรืออาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้


     

    "คุณยูชอน? มีอะไรหรือค่ะ"



    "ผมมาลาแจจุงนะครับ พรุ่งนี้ผมจะไปอเมริกา คงอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง... "



    "พรุ่งนี้เลยหรือค่ะ กะทันหันมากเลยนะค่ะ เชิญเถอะค่ะ... " แม่บ้านประจำตระกูลผายมือให้ชายหนุ่มเข้ามาข้างใน ยูชอนเดินเข้ามาก่อนตรงไปที่ปกติที่เขาเคยมาประจำ...ห้องนอนของแจจุง



    ห้องโทนสีน้ำตาลอ่อนๆมองดูแล้วอบอุ่น ผ้าม่านสีขาวที่เข้ากับสีของผนังได้เป็นอย่างดี ของทุกอย่างในห้องไม่เคยมีการเคลื่อนย้ายเลยแม้แต่น้อย ตู้หนังสือ โคมไฟ ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งกระถางต้นไม้เล็กของแจจุงที่หัวเตียงมันก็ยังอยู่ที่เดิม...



    ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงที่ยังคงสะอาดเอี่ยมเหมือนตอนที่แจจุงยังอยู่ ป้าซอฮุนดูแลที่นี่ได้ดีเยี่ยมเสมอ... มือหนาเอื้อมหยิบกระถางต้นไม้อันจิ๋วที่โต๊ะข้างเตียง... ของที่ชายหนุ่มยังจำได้ดีเหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้...


    ของขวัญที่ตัวยูชอนเองเป็นคนมอบให้แจจุงในวันเกิดปีที่13 หลังจากเด็กหนุ่มต้องสูญเสียพ่อแม่ไปไม่นาน...



    "แจจุง  ฉันให้..." อยู่ๆเพื่อนสนิทก็ยื่นกระถางต้นไม้อันเล็กให้เขาจะให้รับมาโดยไม่ถามอะไรมันก็คงแปลกใชมั้ย?ในเมื่อเขายังไม่รู้เลยว่ายูชอนจะให้เขาทำไม


    "นี่...อะไรเหรอ?"


    "แจจุง... นายลืมไปแล้วเหรอ? นี่วันเกิดนายนะ…" ยูชอนว่าอย่างตกใจเมื่อร่างบางมองสิ่งที่อยู่ในมือเขาแล้วถามอย่างสงสัย...


    "เออ...จริงด้วยมัวแต่ยุ่งๆเลยลืมไปเลย..."


    "เอาเถอะ... แล้วนี่ของขวัญของนาย... ให้มันแทนคำสัญญาว่าฉันจะเป็นเพื่อนนายตลอดไป... ไม่ว่านายจะรู้สึกกับเรื่องอะไรๆไม่ดีแค่ไหนบอกฉัน ฉันจะช่วยรองรับความเจ็บปวดของนายไว้เอง... ไม่ว่าวันข้างหน้าอาจจะเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เราจะเดินไปด้วยกัน ฉันจะประคองนายไปเองแจจุง นายจะไม่มีวันเดินอยู่อย่างนั้นเพียงลำพัง... ฉันเป็นเพื่อนนายเสมอจากนี้และตลอดไป..."



    "ยูชอน..." เด็กหนุ่มมองร่างสูงด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ แจจุงโผเข้ากอดยูชอนอย่างไม่ทันให้คนถูกกอดตั้งตัว น้ำตามากมายไหลเปียกเสื้อของชายหนุ่ม มือหนาลูบผมสีดำสวยอย่างแผ่วเบา



    "เราสองคนจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป จะไม่มีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของเราได้... ให้ต้นไม้ต้นนี้เจริญเติบโตด้วยมิตรภาพระหว่างสองเรา..." ตัวยูชอนพูดเองก็เขินเอง แต่มันก็เป็นความจริงที่เขาอยากให้เพื่อนร่างเล็กของเขารับรู้... ชายหนุ่มเลยได้เอาหน้าแดงๆเพราะความเขินอายนั่นมองขึ้นไปบนเพดาน...



    "ฉันพึ่งรู้ว่านายก็พูดอะไรซึ้งๆเป็นนะเนี่ย..."



    "โห...แจจุงอ่ะ กว่าฉันจะเรียบเรียงคำพูดได้นั่งคิดอยู่ต่างนานนายหัวเราะแบบนี้ฉันก็หมดมูดเลยดิ 55+ เอาเถอะ...ไปกินเค้กกันดีกว่าเจ้าหญิงของงานมานั่งร้องไห้อย่างนี้ไม่ดีเลยนะ... ไปเถอะเพื่อนๆทุกคนรออยู่เขาอยากเห็นนายยิ้มนะ พวกเราจัดงานนี้เพื่อนายเลย..."


     

    หลังจากนั้นไม่นาน แจจุงก็ไม่ได้มีเพียงเขาที่เป็นเพื่อนอีกแล้ว แต่ยังมีเพิ่มมาอีกสองคือยุนโฮกับจุนซูอีกด้วย  มิตรภาพในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดแบบเงียบๆไม่ทันได้ตั้งตัว   รู้สึกตัวอีกที...ก็ถูกความจริงทำร้ายเสียจนเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว...


    เมื่อแจจุงกับยุนโฮตกลงคบกัน  รอยยิ้มที่ทั้งคู่มีให้กันเต็มไปด้วยความสุข ผิดกับจุนซูที่ได้แต่ซ่อนความเสียใจภายใต้รอยยิ้มแสดงความยินดี  เพราะจุนซูรักยุนโฮมาตลอด... ความเจ็บปวดที่แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังอยู่ลึกๆภายในใจด้วยความอิจฉา...  


    ยูชอนเองก็ได้ มอง และพยายามดูแลร่างเล็กด้วยความห่วงใยเท่าที่คนคนหนึ่งจะทำให้คนที่รักได้  แต่... ดูเหมือนความรู้สึกของยูชอนจะไม่เคยไปถึงจุนซูเลย...



    ......................
    .............
    ...................

     

    ยูชอนวางเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือสู่ที่เดิม มือหนายกขึ้นมาปาดหยดน้ำเล็กๆที่ปลายหางตา ความทรงจำในอดีตที่ทำเอาชายหนุ่มเผลอร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว... ชายหนุ่มเอื้อมหยิบกรอบรูปที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงใกล้กับกระถางจิ๋วนั่น... รูปของพวกเขาสี่คนที่ถ่ายด้วยกันก่อนแจจุงจะหายตัวไปเพียงอาทิตย์เดียว...


    ในรูปถ่ายแจจุงยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับยุนโฮ และจุนซูที่ยูชอนดูออกว่ายังไงก็ฝืนยิ้มชัดๆ... สายตาของชายหนุ่มลื่อนมาที่เพื่อนคนสวยอีกครั้ง... น้ำตาที่เพิ่งปาดไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเริ่มโรยรินอีกครั้ง ผิดกับครั้งแรกเพียงอย่างเดียวคือชายหนุ่มไม่คิดจะปาดมันออก...



    "แจจุง...ฉันขอโทษ!!!~  แต่ฉันทนไม่ได้ที่เห็นยุนโฮกับจุนซูต้องเจ็บปวดเพราะนาย... ฉันขอโทษ... ถ้านายกลับมาแล้วจะโกรธฉัน... ฉันก็ไม่ว่าอะไรนายเลย... นายจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้... ฉันจะไม่ห้ามนายเลย ฉันขอโทษแจจุง...ฉันขอโทษ!!~" จากหยดน้ำน้อยๆเพิ่มขึ้นจนไหลเป็นสายผ่านผิวแก้มลงไปที่คอ... ชายหนุ่มปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อยๆก่อนจะตัดสินใจวางกรอบรูปลงที่เดิม



    "เฮ้อ...ทั้งที่สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้วนะ  สุดท้ายก็แพ้ตัวเองจนได้... นายนี่มันอ่อนแอจริงๆเลยยูชอน…" ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆกับตัวเอง




    ใช่แล้วยูชอน....ถ้านายเข้มแข็งกว่านี่...นายก็จะปกป้องทุกคนจากวังวนความเจ็บปวดนี้ได้


    แต่เพราะนายอ่อนแอ...ทุกอย่างมันถึงได้จบลงอย่างเจ็บปวดแบบนี้ไงล่ะ...

     เพียงแต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่รู้ เพราะนี่ไม่ใช่จุดจบของวังวนนี้อย่างที่ชายหนุ่มคิด...



    หากแต่...



    จะเป็นจุดเริ่มต้นความเจ็บปวดครั้งใหม่ที่หนักหนาสาหัสกว่าเดิม....


    ความรักที่แทบจะขยี้ใจดวงน้อยให้แหลกสลาย...


    เมื่อคนหนึ่งรัก...มั่นคง


    แต่อีกคน...รักหายไป






    ตอนใหม่... (แต่เนื้อเรื่องเก่า...55+)
    ตั้งแต่แต่งมารู้สึกว่าตอนนี้มันลื่นไหลดีจังเลยแฮะ (คิดว่านะ 55+)
    จะพยายามรีไรท์ให้เร็วที่สุด
    แต่ตอนนี้ติดเรียนพิเศษตลอดเลยไม่มีเวลาเลย
    ขอโทษจริงๆรอหน่อยน้า~
    เฮ้อ...เด็กจะเอนท์ก็เงี้ยวุ่นชะมัด 55+

    - - + +-b g-น่า รัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×