ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Maze of love (Fic Super Junior : Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER THREE : ความรักของเจ้าหญิง.....

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 49


    CHAPTER  THREE : ความรักของเจ้าหญิง.....


              
    ย้อนกลับไปทางฮีชอลกับคิบอมที่กำลังเดินทางไปถ่ายละคร.... ตอนนี้รถที่พวกเขานั่งมาก็ถึงสถานที่ถ่ายทำในวันนี้ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้พันธุ์ต่างๆมากมายหลากหลายชนิด.... เพียงก้าวแรกที่เดินลงจากรถก็ได้กลิ่นหอมอบอวลของดอกไม้ฟุ้งกระจายไปทั่ว... แล้วพวกเขา 2 คนก็เดินเข้าไปบริเวณที่จัดไว้ให้นักแสดงเตรียมตัวก่อนเข้าฉาก ซึ่งมีผู้กำกับและนักแสดงคนอื่นๆอยู่ด้วย

    "สวัสดีครับ~~~" คิบอมทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงร่าเริง คงเป็นเพราะเมื่อเช้าได้รับกำลังใจจากสุดที่รักมาละมั้ง???
    ฮีชอลคิดในใจกับท่าทางอารมณ์ดีสุดๆของคิบอม ที่ทำเอาคนทั้งกองถ่ายต้องยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของเขา


    "วันนี้มีอะไรเหรอ? อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะ" นักแสดงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆทักขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

    "ก็นิดหน่อยครับ...." คิบอมยิ้มตอบด้วยความร่าเริง ทำให้คนอื่นคิดว่าต้องมีอะไรดีๆที่ทำให้หนุ่มน้อยคนนี้ร่าเริงได้ถึงขนาดนี้... เพราะถึงปกติจะอารมณ์ดียังไงก็ไม่เคยเดินไปยิ้มไปไม่หยุดเหมือนวันนี้เลย...


    "แต่ท่าทางนายอารมณ์ไม่ดีเลยนะ" คราวนี้หญิงสาวคนเดิมหันกลับมาพูดกับฮีชอลบ้าง


    "มีคนทำให้อารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะสิ..." ฮีชอลตอบด้วยใบหน้าเซ็งๆ


    "ไม่เอาน่า....ดูอย่างคิบอมสิ อารมณ์ดีแต่เช้าเลย..." เธอพูดพลางหัวเราะเบาๆ แต่ฮีชอลก็ยังคงทำหน้าเซ็งอยู่ดี ก่อนจะเดินไปใกล้ๆคิบอมที่ยังคงยิ้มไม่หยุด แล้วทำเป็นบ่นอะไรลอยๆ ไม่สนใจว่าคนที่ยืนอยู่จะได้ยินหรือไม่...(ยืนอยู่ใกล้ๆกัน...ไม่ได้ยินก็แปลกแล้ว^_^)

    "ยิ้มอยู่ได้ ยังกับคนบ้า..." ฮีชอลเริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกแล้ว.... คงเพราะเห็นคิบอมยิ้มแล้วนึกถึงใครบ้างคนล่ะมั้ง??

    ~หมอนั่นก็ชอบยิ้มแบบนี้บ่อยๆ เห็นแล้วอารมณ์เสียจริงๆ!!!~

    "ฉันจะยิ้มยังไงมันก็เรื่องของฉันนี่นา..." และแล้วหนุ่มน้อยคิบอมก็ยังคงยิ้มไม่หยุด.... ก่อนจะเดินไปแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมความพร้อมในการแสดง ปล่อยให้ฮีชอลนั่งอยู่คนเดียว

                  
                  
    หลังจากคิบอมเดินไป ฮีชอลก็นั่งลงตรงม้านั่งเพื่อรอคิวตัวเองอยู่ แล้วมองไปยังนักแสดงที่กำลังเข้าฉากอยู่ตอนนี้....เป็นฉากตอนที่หญิงสาวกำลังสารภาพรักกับชายหนุ่มท่ามกลางทุ่งดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ...
                    เห็นดังนั้นแล้วก็ทำให้นึกถึงตัวเองขึ้นมา...นึกถึงตอนที่เขาบอกรัก...ฮันกยอง

    วันนั้นเองก็เป็นวันที่อากาศแจ่มใสเหมือนวันนี้ไม่มีผิด จะต่างกันก็แค่สถานที่...
    หลับตาพลางนึกถึงวันนั้น...วันที่ทำให้คนอย่างเขาเจ็บปวดจนต้องยอมร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน...


    - - - - - - - - - -

    "ฮันกยอง...ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วยได้รึเปล่า?"

    "ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ" ชายหนุ่มยิ้มให้กับความน่ารักของฮีชอล
     
    "...ฉันเอ่อ..เอ่อ..ฉัน....ฮันกยอง..." พยายามจะไม่ตื่นเต้นแต่ก็อดไม่ได้อยู่ดี...

    ~เป็นอะไรไปล่ะ คิมฮีชอล พูดเลยสิ...พูดเลย...ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็จะไม่มีโอกาสแล้วนะ~

    "...หือ???"

    "ฉันรักนาย แล้วนายเอ่อ...." หน้าของฮีชอลแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย พร้อมกับรอฟังคำตอบด้วยความหวัง


    "....ฮีชอล...ฉัน.....ฉันขอโทษ" ฮันกยองตกใจด้วยไม่คิดว่าเรื่องที่ฮีชอลต้องการพูดด้วยจะเป็นเรื่องนี้


    "อะ...อืม ทำไมล่ะ" ฮีชอลอึ้งในคำตอบของฮันกยองพลางก้มหน้าหลบสายตาที่มองมาพร้อมถามเหตุผล

    "ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว...เพราะฉะนั้น...ฉันคงจะรักนายไม่ได้...ขอโทษด้วยนะ...ขอโทษ" ฮันกยองเองก็หลบสายตาไม่มองฮีชอลเช่นกัน


    "แล้วนายจะขอโทษทำไมกันล่ะ นายไม่ผิดสักหน่อยนี่นา...นะ" 
    ถึงจะพูดไปอย่างนั้น...แต่ตอนนี้ความรู้สึกภายในใจกลับสับสนจนทำตัวไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก... น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้กำลังจะไหลซะแล้ว....ไม่ได้นะจะไหลตอนนี้ไม่ได้.... เขาไม่อยากให้ฮันกยองเห็นความอ่อนแอของตัวเอง...
    เพราะฉะนั้น...
    น้ำตานี้จะให้ฮันกยองเห็นไม่ได้เด็ดขาด...
    อดทนไว้...คิมฮีชอล....


    "ฮีชอล..." ฮันกยองโอบกอดร่างบางไว้อย่างเบามือ แต่เขาไม่รู้เลยว่าเสียงเรียกของเขากลับยิ่งทำให้คนตรงหน้าเจ็บปวดมากกว่า

    ~อย่าทำอย่างนี้ซิ นายกำลังจะทำให้ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอรู้มั้ย?~


    "ไม่เป็นไรหรอก...ไม่เป็นไร....แต่ว่านายจะบอกฉันได้มั้ยว่าคนโชคดีคนนั้นเป็นใคร...??"
               ฮีชอลถามทั้งที่รู้ดีว่ามีแต่จะทำให้เจ็บมากขึ้นไปอีก...แต่อย่างน้อยเขาก็จะอยากรู้ว่าคนที่ฮันกยองรักเป็นใคร...ใครกันที่ทำให้เขากลายเป็นได้แค่เพื่อน แค่เพื่อนเท่านั้น...เขาแค่อยากรู้...อยากรู้เท่านั้นจริงๆ


    "ฉันก็อยากบอกนะ...แต่ว่า...คนที่ฉันรักเค้าไม่ได้รักฉัน..ฉันถึงบอกนายไม่ได้" ฮันกยองพูดด้วยใบหน้า และน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้า...


    ~ใครกันนะที่ทำให้นายต้องมีใบหน้าที่เศร้าสร้อยขนาดนี้...~

                รู้มั้ยว่าเขาไม่เคยเห็นฮันกยองเป็นแบบนี้มาก่อนเลย...ทันใดนั้น...ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของฮีชอลก่อนจะเงยหน้าสบตาฮันกยองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแม้จะไม่มั่นใจแต่ก็ดูเข้มแข็ง...

    " หมายความว่า.... ฉันก็ยังพอมีหวังสินะ" ฮันกยองหลบสายตาไม่มองหน้าฮีชอลตรงๆ


    "ขอให้ฉันได้ลองพยายามสักหน่อยได้มั้ย? อย่าให้ฉันต้องหยุดอยู่กับที่ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย...." ฮีชอลจับใบหน้าของฮันกยองให้มองตาตัวเองเพื่อให้ฟังเจ้าตัวพูด


    "ก็ตามใจนายนะ แต่ว่า...มันอาจจะยากขนาดที่ทำให้นายต้องถอดใจเลยนะฮันกยองพูดแล้วยิ้มให้ฮีชอล เป็นรอยยิ้มที่แสนจะใจดีแบบที่เจ้าตัวชอบทำเสมอๆ และก็เพราะรอยยิ้มนี้แหละ ที่ทำให้คนอย่างเขาหลงรักจนแทบบ้า...เพราะฉะนั้น ถ้ายังมีหวังล่ะก็เขาจะพยายาม... เพื่อที่ว่าสักวันรอยยิ้มนั้นจะต้องเป็นของเขาเพียงคนเดียว....


    "ไม่เป็นไร แล้วฉันจะทำให้นายได้รู้ว่า ฉันรักนายยิ่งกว่าใครๆทั้งนั้น" ฮีชอลบอกกับฮันกยองอย่างมั่นใจ

    - - - - - - - - - -

              ถึงจะพูดไปอย่างนั้น... แต่ดูเหมือนว่าจากวันนั้นมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นมาสักนิดเลย... ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฮันกยองก็ยังหยุดอยู่แค่......คำว่า " เพื่อน "....


             
    จริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากจะโทษใครนักหรอก แต่ว่าถ้าไม่ใช่เพราะซีวอนละก็ เขามั่นใจว่าเขากับฮันกยองน่าจะไปกันได้ดีกว่านี้ เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าชายสิงโตจอมยุ่งจะเข้ามาปั่นป่วนชีวิตเขาได้ทุกวี่ทุกวัน...จนเขาแทบจะไม่มีเวลาคิดเรื่องฮันกยองเลย... ก็รู้อยู่หรอกนะว่ารัก...แต่เขาก็รักฮันกยองเหมือนกันนี่นา...


               
     ( ถึงแม้ในวันนั้นว่าฮีชอลจะบอกกับฮันกยองอย่างมั่นใจ แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นฮีชอลเป็นยังไง...

                ~เจ็บ...เจ็บมาก...เจ็บจนแทบทนไม่ได้...อยากจะร้องไห้...อยากจะระบายให้ใครสักคนฟัง... อยากให้มีใครสักคนที่จะคอยอยู่ข้างๆ อยากจะได้รับการปลอบโยนจากใครสักคน และคนที่ก้าวเข้ามาหาเขาในช่วงเวลานั้นคือ....ซีวอน...~


                 
    คนแรกและคนเดียวที่ได้เห็นความอ่อนแอของเขา... ได้เห็นน้ำตาของที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นมาก่อน... คนที่อยู่ข้างๆเขาเมื่อตอนรู้สึกเหงา....ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่... ที่พอรู้ตัวก็จะเจอซีวอนอยู่ข้างๆเสมอๆซะแล้ว...


                 
    จะผิดมั้ยนะที่รู้สึกเบื่อและรำคาญ เมื่อซีวอนอยู่ใกล้ๆ แต่บางครั้งก็รู้สึกอบอุ่นกับรอยยิ้มและอ้อมกอดนั้นเหลือเกิน จริงๆเขาก็ไม่ได้รำคาญอะไรซีวอนนักหรอก ออกจะชอบด้วยซ้ำไป... ชอบที่เจ้าตัวมาอยู่ใกล้ๆทำให้เขาไม่รู้สึกเหงา... ชอบอ้อมกอดที่คอยปลอบโยนเขาเมื่อร้องไห้... ชอบที่เจ้าตัวมาคอยแกล้งกวนใจเขาอยู่เสมอ....)

    ~ เพราะฉะนั้น...ถ้าเขารักซีวอนได้ล่ะก็...คงจะดีสินะ~

               
                   
    ฮีชอลนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ จนเผลอยกมือขึ้นมาลูบแก้มตัวเอง... พลางนึกถึงตอนที่โดนซีวอนหอมแก้มเมื่อเช้า...ก็หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว...ทำให้คิบอมที่เดินมานั่งข้างๆทักขึ้นมา


    "ฮีชอลเป็นอะไรไปเหรอ?" คิบอมถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นฮีชอลอยู่ๆก็หน้าแดงขึ้นมา

    "อ่ะ...เปล่านี่..."

    "คิดถึงซีวอนรึไง" คิบอมแกล้งแซวเล่น แต่กลับทำให้ฮีชอลหน้าแดงมากกว่าเดิม จนคิบอมคิดว่าที่เค้าเดาท่าทางจะถูก

    "บ้า!!" พูดก่อนจะเดินออกไป... ปล่อยให้คิบอมนั่งอยู่คนเดียว

    "แล้วจะไปไหนล่ะ...เดี๋ยวก็ถึงคิวนายแล้วไม่ใช่เหรอ?" คิบอมยังคงเล่นไม่เลิก

    "รู้แล้วละน่า..." ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เจ้าตัวก็เดินไปไกลซะแล้ว... คิบอมหัวเราะให้กับท่าทางน่ารักๆของเจ้าหญิงประจำวงก่อนจะเดินไปเข้าฉากเพราะถึงคิวของตัวเองพอดี

    ทางด้านฮีชอลเองก็.......

    "ก็เพราะอย่างนี้ไงเล่าถึงไม่อยากนึกถึงตาบ้านั่นเลย" ตะโกนออกมาดังๆในสวนสาธารณะด้านในบริเวณที่ปลอดผู้คน.... ที่ๆคิมฮีชอลไม่ต้องกังวลว่าใครจะได้ยิน ในสิ่งที่เค้าระบายมันออกมา

             
             ~เวลานึกถึงซีวอนทีไร ก็เป็นอย่างนี้ทุกที เพราะอย่างนี้แหละทุกคนถึงเข้าใจว่าเขากับซีวอนรักกันทั้งที่มัน ไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย...คนที่เขารักน่ะฮันกยองต่างหาก~


              
    ในวงคนที่รู้จริงๆ ก็มีแค่คังอินกับลีทึกเท่านั้น ความจริงตัวเขาเองก็อยากแก้ไขความเข้าใจผิดนี้...แต่ทำไงได้ก็ตอนนี้ฮันกยองไม่ได้รักเขานี่นา... คอยดูเถอะไว้เมื่อไหร่เขาทำให้ฮันกยองรักได้ละก็....จะประกาศให้ทั่วเลย... แต่จะมีวันนั้นมั้ยนะ เมื่อในตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ฮันกยองรักเป็นใคร...??

             
                
    และแล้วเมื่อเจ้าหญิงคนสวยประจำวงระบายอารมณ์จนสบายใจแล้ว ก็คิดที่จะเดินกลับเพื่อไปทำงานต่อ....แต่ทันใดนั้นเอง...


    แกร็ก....แกร็ก......
    เสียงอะไรบางอย่างดังอย่างแผ่วเบามากระทบโสตประสาทการรับฟังของฮีชอล....
    ~เป็นไปได้ยังไง มีใคiอื่นนอกจากเขาอยู่แถวนี้งั้นเหรอ...?~


    "ใครน่ะ..คิบอมเหรอ?" ฮีชอลส่งเสียงถามเมื่อได้ยินเสียงประหลาด...แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับมาจากบริเวณรอบๆเลย...

    "สงสัยหูจะฝาด" ฮีชอลไม่ใส่ใจกับเสียงที่ได้ยินและเดินจะกลับที่ถ่ายทำ....

    แต่เมื่อเดินไปสักพักก็รู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม...แต่พอหันกลับไปก็ไม่พบอะไร...


    "เฮ้..คิบอม..นายหรือเปล่า...อย่าล้อเล่นซิ" ฮีชอลเริ่มกลัวขึ้นมาซะแล้ว...เพราะคนที่เห็นว่าเค้าเดินมาตรงนี้ก็มีแค่คิบอมเท่านั้นแต่ว่า...ถ้าเป็นคิบอมล่ะก็จะไม่แกล้งเค้าอย่างนี้แน่ๆ ถ้างั้นเมื่อกี้ใครกันล่ะ...


               ไม่รู้ว่าทำไม...แต่ความรู้สึกในใจบอกให้รีบไปจากที่นี่... ฮีชอลจึงรีบเดินกลับอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามอยู่.... แต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าพอที่จะหันไปดูจึงเปลี่ยนจากการเดินเร็วเป็นการวิ่งจนใกล้บริเวณกองถ่ายก็เห็นคิบอมกำลังเดินมาหาอยู่พอดี...


    "นี่...ฮีชอล...นายหายไปไหนมาน่ะ ให้คนอื่นเค้าตามหากันแทบแย่" พอฮีชอลมาถึงคิบอมบ่นเข้าให้ โดยไม่ได้ดูหน้าฮีชอลเลยว่าตอนนี้เป็นยังไง?

    "แล้วนี่ไปทำอะไรมาล่ะ....วิ่งมาแต่ไกลเชียว..." คิบอมยังคงพูดไม่หยุด

    แต่ฮีชอลเองก็ยังไม่ตอบอะไรอยู่ดี...คราวนี้คิบอมเริ่มสงสัยเพราะถ้าเป็นปกติล่ะก็ ป่านนี้ฮีชอลน่าจะเถียงเขากลับได้แล้ว แต่นี่ยังเงียบราวกับว่าไม่เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ...

    "ฮีชอลเป็นอะไรรึเปล่า? เกิดอะไรขึ้น" คิบอมถามด้วยความเป็นห่วง

    "มีคน...มีคนเดินตามฉันมา..." ฮีชอลพูดช้าและเบา...แต่ในน้ำเสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนคิบอมที่ฟังอยู่รู้สึกได้....

    "ใคร??" คิบอมถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ....

    ~มันไม่น่าจะเป็นไปได้...ก็ในเมื่อการถ่ายทำวันนี้...ทางผู้กำกับและสต๊าฟได้ขอยืมสถานที่สวนสาธารณะแห่งนี้ให้ปิดชั่วคราวเพื่อใช้ในการแสดงและไม่ให้ใครมารบกวนการถ่ายทำนี่นา ถ้าจะมีก็คงเป็นพวกสต๊าฟ แต่ก็เขาก็ไม่เห็นสต๊าฟคนไหนจะอยู่ที่อื่นนอกจากบริเวณกองถ่ายที่เขาอยู่เลยนีนา แล้วคนที่เดินตามฮีชอลเป็นใครกันล่ะ...~

    "....ไม่รู้.....แต่ว่าไม่รู้ทำไม..ฉันถึงได้รู้สึกกลัวอย่างนี้ก็ไม่รู้..." ฮีชอลยังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

    "ไม่เป็นไรน่า...อย่ากลัวเลย...กลับไปที่กองถ่ายกันก่อนเถอะ.." คิบอมเองก็พยายามปลอบฮีชอลอย่างเต็มที่ก่อนจะชวนให้เดินกลับไปยังกองถ่าย

    "อืม...ไปเถอะ" และดูเหมือนว่าฮีชอลจะรู้สึกดีขึ้นแล้วจึงเดินกลับไปพร้อมกับคิบอม...


    To Be Con....

    ====================
    มาต่อแล้วค่า....รู้สึกตอนนี้เจ้าหญิงคนสวยจะยึดทั้งตอนเลยแฮะ...
    ไม่เป็นไรตอนหน้าเอาใหม่
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่าาา...

    + +
    kitty angle


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×