คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER TWO : จดหมายปริศนา...!
CHAPTER TWO : จดหมายปริศนา...!
หลังจากอาหารมื้อเช้าเสร็จสิ้น ก็ได้เวลาเตรียมตัวไปทำงานแล้ว...ตอนนี้ฮีชอลกับซีวอนเลิกวิ่งไล่กันแล้ว ส่วนผลแพ้ชนะน่ะเหรอ?? ก็น่าจะรู้นะว่าเจ้าชายน่ะต้องยอมแพ้อยู่แล้ว....ดังนั้นเจ้าหญิงจึงชนะไปตามระเบียบ
"เอาล่ะ..ทุกคนเตรียมตัวนะ มากันครบแล้วหรือยัง? อ้าว...แล้วนี่ลีทึกไปไหนซะล่ะ...." เสียงผู้จัดการประจำวงเดินเข้ามาหาพร้อมกับเช็คความพร้อมของสมาชิก
"สงสัยจะอยู่ที่ห้องมั้งครับ..." เยซองตอบผู้จัดการโดยไม่หันไปมองเพราะกำลังนั่งเล่นเกมกับอึนฮยอกและเรียววุคอยู่ ทำเอาผู้จัดการต้องส่ายหน้าพลางถอนหายใจ
~จะไปทำงานอยู่แล้วยังมีอารมณ์นั่งเล่นเกมกันอยู่อีกนะ~
ว่าจะไปตามเอง ก็เห็นคังอินนั่งว่างอยู่พอดี...
คังอินที่กำลังนั่งเล่นไปเรื่อย รู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมามองและเจอะกับสายตาผู้จัดการพอดี...
~เอาแล้วมั้ยล่ะ....ไม่น่าเงยหน้าเลยฉัน....~ คังอินบ่นอยู่ในใจ
"คังอิน....ไปตามลีทึกด่วนเลย!! เร็วๆเข้า!!" ผู้จัดการมองหน้าคังอินแล้วยิ้มให้ก่อนจะสั่งให้ไปตามตัวหัวหน้าวงคนเก่ง
"ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอครับ?เยซองก็ว่างนิ" คังอินอิดออดเพราะขี้เกียจไป
"ไม่ว่างกำลังเล่นเกมอยู่ ไม่เห็นรึไง" เยซองตอบโดยไม่หันไปมอง คังอินจึงแกล้งล้อเลียนอยู่ข้างหลัง
"คังอิน~~~" ผู้จัดการเรียกอีกครั้งพร้อมทั้งลากเสียงเรียกชื่อ
"ครับๆไปเดี๋ยวนี้แหละครับ"
คังอินตอบรับและรีบเดินไปก่อนที่จะโดนสายตาดุๆของผู้จัดการจิกมากไปกว่านี้ ถ้าเขายังไม่ยอมไปล่ะก็
"อ่ะ...คังอิน...เดี๋ยวก่อน" ผู้จัดการมองไปรอบห้องก่อนเรียกอีกครั้ง
"ครับ...???" คังอินหันมาหาด้วยความแปลกใจ
~คราวนี้อะไรอีกล่ะ...~
" แล้วก็เรียกคนอื่นๆมาด้วยล่ะ "
"หา!!! แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยละ.....ครับๆๆ~~"
คังอินโวยวายยังไม่ทันจบก็ต้องเงียบทันที เพราะเจอเข้ากับสายตาจ้องเขม็งของผู้จัดการซะก่อน จึงได้แต่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ
~นี่มันไม่ใช่หน้าที่เขาซะหน่อยนี่นา....~
และแล้วก็เดินมาจนถึงหน้าห้องลีทึกจนได้....
"ก๊อกๆๆๆ.....เฮ้!! ลีทึกนายอยู่รึเปล่า??" คังอินเคาะประตูเรียกเจ้าของห้อง
"มีอะไร..." เสียงตอบรับจากภายในห้องไม่ใช่เสียงของลีทึกแต่เป็นฮันกยองที่เปิดประตูออกมาหา
"อ้าว...ฮันกยอง...ทำไมนายอยู่ที่นี่ล่ะ" คังอินถามด้วยความแปลกใจ
"ฉันมีเรื่องคุยกับลีทึกนิดหน่อยน่ะ....แล้วนายล่ะ" ฮันกยองถามกลับบ้าง
"อ้อ...ผู้จัดการให้มาตามน่ะ... รีบๆลงไปล่ะ นายด้วยนะ เดี๋ยวฉันต้องไปเรียกคนอื่นต่อ ถ้าพวกนายช้าฉันคงโดนผู้จัดการเชือดแน่ๆ" คังอินตอบก่อนทำหน้าเหยเกที่ต้องไปเรียกคนอื่นๆต่อ ทำเอาฮันกยองอดขำไม่ได้กับท่าทางอย่างนั้นของคังอิน
"อย่าลืมล่ะ รีบๆลงไปนะ" หันมาสั่งอีกทีก่อนเดินจากไป
"ครับๆ...เดี๋ยวไปเดี๋ยวนี้แหละ" ฮันกยองยิ้มตอบก่อนเดินเข้าไปในห้อง เดินเข้าไปหาเจ้าของห้องที่กำลังนั่งเหม่อมองท้องฟ้าอยู่
"มีอะไรเหรอ?" ลีทึกหันมาถามฮันกยอง
"ผู้จัดการเรียก...คงได้เวลาแล้วมั้ง " ฮันกยองตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"นายลงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป..." ลีทึกบอกไปอย่างนั้นเหตุผลก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้ใครคนหนึ่งเห็นเขา 2 คนลงไปด้วยกัน....
และก็เป็นเหตุผลที่ฮันกยองเข้าใจดี....
"งั้นฉันไปก่อนนะ รีบตามมาล่ะ" ฮันกยองบอกก่อนปิดประตูแล้วเดินไปรวมกับคนอื่นๆ....
ย้อนกลับไปดูคังอินกันต่อดีกว่า....
ตอนนี้เจ้าตัวเดินมาตามทุกคนจนเกือบครบแล้วจะเหลือก็เพียงแค่....คยูฮยอน...คนเดียวที่เขาตั้งใจให้เหลือเป็นคนสุดท้าย เมื่อเดินมาจนถึงหน้าห้อง แล้วเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเจ้าตัวกำลังนั่งฟังเพลงอยู่โดยไม่สนใจผู้มาเยือนอย่างเขาเลยสักนิด คังอินจึงเดินเข้าไปใกล้ๆก่อนจะถอดหูฟังของคนตัวเล็กออกข้างหนึ่งแล้วกระซิบเบาๆ
"นี่..ยังงอนอยูอีกเหรอ?"
"งอนอะไร...ฉันเปล่านี่" คยูฮยอนหันมามองหน้าคังอินก่อนจะปฏิเสธแล้วหันหน้าหนี
~ปากก็บอกว่าเปล่า แต่ท่าทางตอนนี้มันบอกชัดเลยนี่นา~ คังอินคิดในใจก่อนจะพูดต่อไป
"ไม่เอาน่า...อย่าพึ่งมางอนตอนนี้เลย ไปรวมกับทุกคนก่อนดีกว่า ตอนนี้เหลือนายคนเดียวแล้วนะ" แต่ดูเหมือนว่าเมื่อคังอินพูดจบเท่านั้นแหละ...แทนที่จะดีขึ้นกลับแย่ลงซะอีก เพราะยิ่งทำให้คนตรงหน้าน้อยใจมากกว่าเดิมอีก...
"แล้วทำไมนายถึงได้มาเรียกฉันเป็นคนสุดท้ายล่ะ ใช่สิฉันมันไม่มีความสำคัญกับนายอยู่แล้วนี่นะ..." คยูฮยอนพูดอย่างน้อยใจพลางทำหน้างอนๆใส่คังอิน แต่หารู้ไม่เลยว่าคังอินกำลังยิ้มให้กับความน่ารักของเขาอยู่ในใจ
"ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย...ฉันแค่อยากเดินไปพร้อมกับนายนี่นา" คังอินพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆหวังให้คนตัวเล็กหายงอนเขาซะที
"..."
แต่คยูฮยอนก็ไม่ได้ตอบอะไรคังอิน แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของเจ้าหมีตัวใหญ่จะทำให้คนตัวเล็กอารมณ์ขึ้นมาได้นิดหน่อย
"น่านะ...อย่างอนเลย ไปหาทุกคนกันเถอะนะ"
"ก็ได้..."
คำตอบที่ออกมาทำเอาคังอินกลายเป็นลิงโลดเพราะความดีใจแต่แล้วก็ต้องกลางเป็นหมีหงอยตามเดิมด้วยคำพูดประโยคต่อมาของคนตัวเล็ก
"แต่ว่าเรื่องเมื่อเช้าฉันยังไม่ได้ยกโทษให้นะ..." คราวนี้เลยกลายเป็นคังอินงอนบ้าง แต่คยูฮยอนก็ทำเป็นไม่สนใจ แล้วเดินออกจากห้องไป โดยมีคังอินเดินตามหลังมาติดๆ
เมื่อมากันครบผู้จัดการก็แจงตารางงานของวันนี้ให้ฟังอย่างคราวๆให้เข้าใจตรงกัน โดยวันนี้ตอนบ่ายโมงคิบอมกับฮีชอลมีถ่ายละครหลังจากเสร็จแล้วให้ตามไปสมทบกับ คนที่เหลือในงานแสดง live ตอนเย็นโดยมีลีทึกกับคังอินเป็นพิธีกรของงาน ดังนั้นฮีชอลกับคิบอมจึงแยกออกไปก่อน ปล่อยให้คนที่เหลืออยู่ฟังคำสั่งของผู้จัดการต่อไป...
"เอาล่ะนะ...เข้าใจตามนี้" ผู้จัดการถามเพื่อความแน่ใจ
"ครับผม!!!" ทุกคนตอบกันอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะแยกไปทำกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคน
"เอานี่!! มีจดหมายมาถึงพวกนายน่ะ..." ผู้จัดการส่งจดหมายกองหนึ่งให้กับพวกเขา โดยมีอึนฮยอกไปหยิบมาเป็นคนแรก และแจกให้กับสมาชิกคนอื่นๆ
"ลีทึก นี่ของนาย..." อึนฮยอกส่งจดหมายให้กับลีทึก...
"ซองสีชมพูน่ารักชะมัดเลย...อย่างนี้ต้องเป็นผู้หญิงน่ารักแน่ๆเลย" อึนฮยอกช่วยออกความเห็นด้วยความอิจฉานิดๆ
"ทำไมล่ะ...อึนฮยอกอยากได้บ้างเหรอ?" แต่แล้วซองมินที่อ่านหนังสืออยู่เงยหน้าขึ้นถามอึนฮยอกด้วยใบหน้าและท่าทางใสซื่อ ทำเอาคนโดนถามร้อนตัวขึ้นมาทันที..
"ไม่ใช่อย่างนั้นน่ะซองมิน ฉันก็พูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ...อย่าสนใจเลย" อึนฮยอกรีบแก้ตัวด้วยความร้อนรน ด้วยความกลัวว่าเจ้ากระต่ายน้อยจะงอนขึ้นมา
"งั้นเหรอ..แล้วไป.." ซองมินพึมพำเบาๆก่อนกลับไปอ่านหนังสือต่อ ทำให้อึนฮยอกต้องถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก
~เกือบแย่แล้วมั้ยล่ะ ถ้าเจ้ากระต่ายน้อยงอนขึ้นมาล่ะก็อย่าหวังจะง้อให้ยากเลย... แล้วถ้าเจ้าตัวยังไม่หายโกรธล่ะก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าเด็ดขาด ดีนะที่ซองมินไม่งอน ไม่งั้นเขาคงซวยเหมือนคังอินแน่ๆ เพราะอะไรน่ะเหรอก็หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เจ้าหมีคังอินก็อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปพูดว่าฮีชอลน่ารักที่สุดต่อหน้าคยูฮยอน แล้วพูดไปอย่างนั้นจะไม่คยูฮยอนน้อยใจได้ไงล่ะเนี่ย...แล้วจนตอนนี้ก็ยังงอนกันไม่เลิกอยู่ดี...โอ้ย...เหนื่อยใจกับคู่นี้จริงๆเลย...~
"โอ้ย!!!" อยู่ๆลีทึกก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่เปิดซองจดหมายออกมา ทำให้ทุกคนเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้ทุกคนตะลึง เพราะสิ่งที่อยู่ในซองจดหมายไม่ได้มีแต่กระดาษอย่างที่มันสมควรจะเป็น...เพราะในตอนนี้มีใบมีดคัตเตอร์สอดอยู่กับจดหมายมาด้วย...
และแน่นอนว่าผู้ที่เปิดมันออกมาจะต้องถูกบาดอย่างไม่ต้องสงสัย...ทันทีที่ตั้งสติได้คังอินคว้าข้อมือของลีทึกขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว....ทั้งที่เจ้าตัวพยายามจะซ่อนมันไว้ แต่สภาพที่เห็นก็ทำเอาทุกคนต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อมือของลีทึกเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจากรอยแผลแม้จะเป็นแค่รอยแผลจากใบมีดคัตเตอร์เล็กๆแต่ด้วยความที่ไม่ได้ระมัดระวังและความคมของมันก็ทำให้ตัวใบมีดนั้นบาดลึกลงไป
"ไปทำแผลก่อนเถอะ" ฮันกยองรีบพาลีทึกไปทำแผล โดยปล่อยให้คนที่เหลือปรึกษากันด้วยความงุนงงเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับพวกเขา...
"นี่อึนฮยอก...ว่าแต่ใครเป็นคนส่งมาน่ะ..." ซองมินบอกให้อึนฮยอกดูซองจดหมาย แต่ทว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับจากผู้ถูกถาม
"อึนฮยอก????" ทุกคนแปลกใจเมื่อเห็นอึนฮยอกเงียบไป ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมามองหน้าทุกคนแล้วหยิบอะไรบางอย่างจากซองจดหมายนั้นให้ดู
สิ่งที่อึนฮยอกหยิบออกมาคือ...รูปของพวกเขา...แต่จะไม่รู้สึกตกใจขนาดนี้เลยถ้าบนรูปใบนั้นไม่ได้ถูกเขียนด้วยหมึกสีแดงเป็นคำว่า Kill อยู่กลางรูป
"ไม่มีชื่อผู้ส่ง...ไม่มีที่อยู่หรืออะไรทั้งนั้น...แค่จ่าหน้าถึงลีทึกแค่นั้นเอง"
และนี่คือข้อสรุปที่ได้ และทุกคนก็ตัดสินใจบอกให้ผู้จัดการรู้และช่วยคิดทางแก้ไข หลังจากรู้เรื่องเรียบร้อยแล้ว ผู้จัดการต้องการที่จะสืบหาตัวคนส่งและบอกให้พวกเค้าระวังตัวไว้....เพราเรื่องอาจไม่จบแค่นี้
ตอนแรกดงแฮคิดจะโทรไปเตือนคิบอมกับฮีชอลที่ออกไปก่อนให้รู้เรื่องด้วย...แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่ได้พกโทรศัพท์ไว้ติดตัว...ทุกคนจึงได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับทั้ง 2 คน....
====================================================
มาถึงตอนนี้ก็คงรู้แล้วใช่มั้ยค่ะว่าใครคู่ใคร...
ถ้าคู่ไหนแปลกๆก็โทษทีละกันค่ะ..แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าน้าาา...
ขอบคุณที่ช่วยเม้นกันนะค่ะ...
+
+
kitty
angle
ความคิดเห็น