ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มีอะไรก็โยนใส่ ห้องเก็บของ

    ลำดับตอนที่ #6 : แมว

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 61



    แมวดำ



        คนไทยเชื่อกันว่าหากมีแมวดำข้ามโรงศพ ศพนั้นจะเฮี้ยนนัก หรือแม้แต่มันเดินผ่านหน้าก็จะถือว่า เป็นลางร้าย ความผูกพัน ระหว่างคนกับแมวในลักษณะของความเชื่อมีมาแต่โบราณกาลแล้ว เมื่อราว 3,000 ปี ก่อนคริสต์กาล แมวทุกตัวในสมัยนั้น รวมทั้งแมวดำจะได้รับการยกย่องมาก มีกฏคุ้มครองไม่ให้ผู้ใดทำร้ายหรือฆ่าแมว หากครอบครัวใดมีแมวตาย คนในครอบครัว นั้นจะเศร้าโศกมาก และสำหรับศพของมันไม่ว่าเจ้าของ จะยากดีทชมีจนเพียง ใดก็จะแต่งตัวให้แมวอย่างสวยงาม ใช้ผ้าลินิน เนื้อนุ่มห่อศพเอาไว้เหมือนมัมมี่แล้วเก็บในโลงที่ทำจาก โลหะมีค่า เช่น บรอนซ์ หรือทำด้วยไม้ที่เป็นของหายากมากในอียิปต์ เมื่อราว 2,000 ปีก่อนมีข้อเขียนภาษาสันสกฤตพูดถึงบทบาทของแมวในสังคม อินเดีย ส่วนในจีนเมื่อราว 500 ปีก่อนคริสต์กาลมีหลักฐานว่าขงจื้อ เลี้ยงแมวตัวโปรดอยู่ตัวหนึ่ง ประมาณ ค.ศ. 600 นักพยากรณ์ชื่อมูฮะมัด ท่องบทสวด พร้อมกับอุ้มแมวไว้ด้วยและในช่วงเดียวกันนี้ชาวญี่ปุ่นก็เริ่มเลี้ยงแมว ในสถูปเจดีย์ เพื่อรักษาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ 

        ส่วนคนอียิปต์ เมื่อเห็นแมวตกจากที่สูงๆแล้วไม่เป็นอะไรก็รู้สึททึ่ง จึงเริ่มเชื่อกันว่าแมวมี 9 ชีวิต อย่างไรก็ตามในระหว่าง หลายศตวรรษนั้น หากแมวเดินผ่านหน้าใครถือเป็นเรื่องโชคดีของคนนั้น ความหวาดกลัวแมว โดยเฉพาะแมวดำ เริ่มขึ้นที่ ยุโรปในยุคกลาง ที่เห็นชัดเจนก็ในอังกฤษ แมวมีนิสัย รักอิสระ ดื้อ ชอบขโมย และยังสามารถ เพิ่มพลเมืองแมวได้อย่าง รวดเร็วตามจำนวนใหญ่ๆ ดังนั้นความงาสง่าของมันจึงดึงดูดน้อยลง


        ในสายตาของผู้คน แมวที่พบเห็นอยู่ตามตรอกมักเลี้ยงกันในหมู่คนยากจนและหญิงชราที่ถูกทอดทิ้ง ต่อมาเมื่อความ เชื่อ เรื่องไสยศาสตร์และแมว ( โดยเฉพาะแมวดำ ) เพื่อนยากของพวกเธอก็ถูกมองว่าเป็นพวกแม่มดหมอผีไปด้วย ที่ประเทศ อังกฤษมีนิทานพื้นเมืองเกี่ยวกับแมวเรื่องหนึ่งสะท้อนความคิดของคนสมัยนั้นได้ดี เรื่องมีอยู่ว่าที่เมืองลินคอร์น ไชร์ เมื่อทศวรรษ 1560-1569 ในคืนเดือนมืดคืนหนึ่งสองพ่อลูกเห็นสิ่งที่มีชีวิตขนาดเล็กเดินย่องผ่านหน้าพวกเขา ลอดเข้าไปใน ช่องเตี้ยๆด้วยความกลัวจึงขว้างก้อนหินออกไป ก็ปรากฎว่ามีแมวดำบาดเจ็บออกมา แล้วเดินกะเผลกไปบ้านข้างๆซึ่งเป็นบ้าน ของผู้หญิงที่คนทั้งเมืองสงสัยว่าเป็นแม่มด วันต่อมา พ่อลูกคู่นี้ก็ได้พบผู้หญิงคนนี้เดินอยู่ ใบหน้าของเธอมีรอยแผลเป็นถลอก และ มีผ้าพันแขนเอาไว้ เวลาเดินขาก็กะเผลกๆจากวันนั้นเป็นต้นมา


              ชาวเมืองลินคอล์นไชร์จึงพากันระแวงว่าแมวดำคือแม่มดที่แปลงตัวมาในยามค่ำคืน ปลายสมัยกลางมีหลายประเทศ ที่พยายามจะทำลายแมวให้สูญพันธุ์ เพราะโรคกลัวแม่มดระบาดไปทั่ว หญิงที่ไม่มีความผิดและสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดู ที่ไม่มีพิษภัยถูกเผาตายเป็นจำนวนมาก แม้เด็กทารกที่เกิดมาแล้วมีดวงตาเป็นประกาย ใบหน้าเจ้าเล่ห์เกินไป มีบุคลิค แก่แดดเกินไป ก็จะถูกสังเวยความกลัวนี้ เพราะเชื่อว่าแกมีวิญญาณสิงอยู่และจะเติบโตเป็นแม่มดหรือพ่อมด ซึ่งกลายร่าง เป็นแมวดำในตอนกลางคืน ที่ฝรั่งเศส แต่ละเดือนแมวหลายพันตัวถูกเผา จนทศวรรษที่ 1630-1639 พระเจ้าหลุยส์ที่ 8 จึงทรงสั่งให้หยุดการการกระทำอันน่าอดสูนี้ แม้แมวดำจะถูกฆ่าทิ้งไปเป็นจำนวนมากทั่วทั้งยุโรป เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่น่าแปลกที่พันธุกรรมของขนแมวสีดำกลับไม่เคยถูกลบเลือนไป จากเผ่าพันธุ์ของมัน หรือแมวจะมี 9 ชีวิตจริงๆ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×