คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 - หุบเหว
Disaster of the God :: Demon 's DAWN :: รุ่งอรุณแห่งอสูร
ตอนที่3 เหว
เบื้องบนคือฟ้าที่ถูกฉาบไปด้วยแสงสีทองแห่งสุริยายามอรุณรุ่ง.. รอบตัวคืออากาศเย็นเฉียบจนแทบจะแทรกซึมเข้าไปแช่แข็งหัวใจให้หยุดเต้น.. เบื้องล่างคือห้วงเหวลึกที่ถูกบดบังด้วยหมอกจาง..
สองอสูรยืนประจันหน้ากันบนเวทีกลางหาว..
"เฮ้ย ๆ ๆ นั่นมันอะไรน่ะ แบบนี้มันไม่ตลกแล้วนะโว้ย! "
ฟีลิปจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยความตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะสบถออกมาดังลั่น .. ใครคนอื่นของหอวินเทอร์มีตั้งมากมายดันไม่เจอ..ดันมาเจอไอ้หมอนี่เอาซะได้..
ไอ้คนที่ชื่อว่า " เรย์ ลอว์ชีลล์.. "
อาเบลเองก็ได้แต่เอามือกุมขมับ กลืนนํ้าลายอย่างฝืดคอ .. นึกด่าตัวเองในใจขึ้นมา ว่ารู้อย่างนี้เขายอมปีนขึ้นไปเอาเองดีกว่า..
"โว้ย! แถมทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยเนี่ย.. ซวยชะมัด "
สายลมแรงพัดอื้ออึงอยู่รอบกาย .. แต่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตสองตน ที่ยืนอยู่บนยอดของประภาคารหินลอยฟ้าเบื้องบนจะไม่สำเหนียกมันเลย .. ต่างยืนนิ่งงันเหมือนถูกสาป.. นานสองนานที่ทั้งสองไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่มิลเดียว..
"โมเทส.. เบลเซบาส "
เด็กหนุ่มผมสีแปลกเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงห้าวทุ้ม .. โมเทสกลืนนํ้าลายเอื๊อก.. สองตาคอยจับจ้องมือของคนข้างหน้าที่กำแน่น ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนห่างไปข้างลำตัว.. ซึ่งมันเป็นสัญญาณบางอย่างที่เขาคุ้นเคยดี.. แต่มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเขา และหากละสายตาแม้แต่นิดเดียวละก็มันมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตของเขามากทีเดียว.. ไม่สิ อาจจะมากถึงมากที่สุดก็ได้..
สำหรับเขาแล้ว คน ๆ นี้น่ะ.. น่ากลัวยิ่งกว่าเหวที่อยู่ใต้เท้าซะอีก
"ตามธรรมดาแล้ว.. ลอว์ชีลล์ไม่เคยเป็นศัตรูกับเบลเซบาส จริงไหม? "
โมเทสมองเขา .. คำถามแบบนี้ เรย์มักจะถามเขาทุกครั้งที่พบกัน .. ถามทุก ๆ ครั้ง ทุก ๆ หน.. และเขาจะต้องตอบออกไปทุกครั้งเช่นกันว่า..
"จริง.. ทั้งนายและฉัน ไม่เคยเป็นศัตรูกัน เรย์ ลอว์ชีลล์.. "
และประโยคคำถามซํ้า ๆ ก็จะถูกเอ่ยออกมาอีกพร้อมกับอาการที่ดูเหมือนอีกฝ่ายกำลังโกรธเขา .. โมเทสมองเห็นสายตาคมกริบส่อแววร้ายพุ่งมาจากเด็กหนุ่มผู้ใช้นาม เรย์ ลอว์ชีลล์ คนนั้น.. มองเห็นว่าเขากำลังกัดริมฝีปากตัวเองแน่น.. มือสั่นระริก..
"แล้วรู้ไหมว่าทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้? "
โมเทสกลืนนํ้าลายลงคออย่างยากลำบาก.. ท่ามกลางเสียงลมที่กรีดร้องอยู่รอบกาย เขาตอบคำถามด้วยเสียงอันแหบแห้ง.. แต่เสียงนั้นกลับได้ยินชัดเจน...
"เพราะฉัน.. ต้องฆ่านาย "
"ใช่.. " คราวนี้เรย์กระตุกยิ้ม..แต่เป็นยิ้มที่ทำให้โมเทสต้องก้าวถอยหลัง.. ไอ้อยากได้ธงมันก็อยากได้อยู่หรอกนะ.. แต่ธงที่เขาอยากได้มันอยู่ห่างจากเท้าของคนข้างหน้าแค่เพียงก้าวเดียวเองน่ะสิ..
ขณะที่กำลังลังเลอยู่เสียงอาเบลก็ดังแทรกขึ้นมา
"เฮ้ย ! ถ้าหนีมาแบบไม่มีธงนายตายแน่ คอยดู ! "
โมเทสได้ยินแล้วเขาก็ชักอยากร้องให้ขึ้นมาทันที ทำไมพวกนั้นถึงห่วงธงมากกว่าตัวเขาละเนี่ย ..
"เราจะมาคุยกันดี ๆ ไม่ได้รึไง เรย์ ลอว์ชีลล์.. "
"จะเล่นลูกไม้อะไรอีก.. " เด็กหนุ่มผู้หวาดระแวงพูดด้วยนํ้าเสียงที่เย็นเฉียบ
"ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง ! " โมเทสกัดฟันตะโกนฝ่าสายลม
"ก็นายบอกเอง ว่าลอว์ชีลล์กับเบลเซบาสไม่เคยเป็นศัตรูกัน .. แล้วทำไมฉันต้องฆ่านายด้วย ! ฉันก็บอกไปตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วทำไมฟังกันบ้างเล่า! "
"นายจะบอกว่าฉันคิดไปเองคนเดียวรึไง.. " เรย์กดเสียงตํ่า..
"ฉันเปล่า.. "
"นายจะบอกว่าความจำฉันเลอะเลือนรึไง.. "
"ฉันเปล่า.. "
"นายจะบอกว่าฉันถูกหลอกอย่างนั้นเรอะไง.. "
"ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น!! "
"นายจะบอกว่าสิ่งที่ฉันเข้าใจมันผิดอย่างนั้นรึ.. "
"ฉัน.. ก็คิดว่าอาจจะอย่างนั้นนะ.. "
"นายรู้ไหมว่าคนทั่วไปเขาพูดกันว่ายังไง.. "
"ฉันไม่รู้! "
"นายไม่รู้จริง ๆ รึ.. "
โมเทสจ้องหน้าของอีกฝ่าย.. เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคายหากมีอารมณ์คุกรุ่นเหมือนถ่านไฟ และสายตาที่เย็นเฉียบเหมือนจะแผ่ความหนาวเหน็บออกมารอบ ๆ กาย.. นัยน์ตาสีนํ้าเงินเข้มที่มองเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย.. ทั้งลังเล ทั้งหวาดกลัว.. และเกลียดชัง.. เจ้าตัวกัดฟันกรอดเพื่อข่มโทสะภายใน.. ไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของคนตรงหน้านัก.. แล้วจึงพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด..
"เมื่อวันที่พระจันทร์ได้ส่องแสงเป็นสีโลหิตชโลมทั่วทั้งป่าอาถรรพ์.. เป็นวันที่ตัดสินความเป็นความตายของลอว์ชีลล์และเบลเซบาส.. จากคำอวยพรของเทพราคิส..ไม่เลือดของข้าก็เลือดของเจ้าต้องหลั่งลงสู่พื้น..หาไม่แล้ว แผ่นดินทั้งหมดจะลุกเป็นไฟ "
...
"นายเชื่อกลอนบ้า ๆ ไม่เป็นทำนองแบบนั้นด้วยรึไงเล่า " โมเทสแย้ง
"กลอนบ้า ๆ ที่คนทั้งหมดก็รู้ แม้แต่ต้นไม้ในป่ายังรู้ แล้วทำไมนายถึงบอกว่าไม่รู้เรื่อง นี่นายไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา ! "
อีกฝ่ายยังคงยืนกรานในสิ่งที่เชื่อมั่น!
"ถ้ามันเป็นความจริง ทำไมท่านพ่อถึงไม่เห็นบอกอะไรฉันบ้างเล่า ! "
โมเทสกัดฟันตะโกน ตัดสินใจเสี่ยงชีพใช้โอกาสอันน้อยนิดพุ่งตัวไปข้างหน้า มือพุ่งไปคว้าเอาธงสีแดงที่ปลิวสะบัดล่อตาอยู่ในระยะอันตราย
ได้แล้ว!!
ทั้งพรรคพวกที่คอยลุ้นอยู่เบื้องหลังและตัวเขาอยากตะโกนออกมาให้ดังไปถึงยอดเขามูนลิท!
แต่ดีใจได้ไม่ทันไร โมเทสก็ต้องหลุดกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเมื่อมีแสงสะท้อนวาบเข้าตา พร้อมกับเสียงวัตถุพุ่งแหวกม่านอากาศมาอย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องหันไปดูว่ามันคืออะไรเขาก็รู้ได้ รีบตะเกียกตะกายหนีด้วยความเร็วสูง!
สิ่งที่พุ่งมาคือวัตถุอันตราย ที่มีปลายคมกริบพอที่จะเด็ดชีพเขาได้ภายในพริบตา และนอกจากนี้ มันต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่ง
พรืด!
"หือ? " เรย์ชะงัก..
"เฮ้ย!! "
ได้ยินเสียงเพื่อนผู้เป็นห่วงเป็นใยธงในมือมากกว่าตัวเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อม ๆ กับการที่เท้าซ้ายซึ่งก้าวลํ้าไปข้างหน้าเหยียบเข้ากับความว่างเปล่า โมเทสนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เขากำลังวิ่งอยู่บนเกาะลอยฟ้า ไม่ทันได้มีโอกาสมานั่งสั่งเสียหรือร้องออกมาซักแอะ ... ทั้งร่างก็พลันเสียการควบคุมถลาวูบไปทันที !!
ร่างเล็ก ๆ ลอยละลิ่วหล่นลงสู่เบื้องล่าง ท่ามกลางสายตาของคนที่เฝ้ามองด้วยความตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะหายวูบไปท่ามกลางหมอกขาวที่ล่องลอย..
"อา.. "
ฟีลิปครางออกมาได้แค่นั้น.. กลืนนํ้าลายเอื้อก เอามือกุมศีรษะแล้วเดินไปนั่งบนกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ พลางโอดครวญ
"โอไม่นะ.. ธง.. "
ส่วนอาเบลกำหมัดแน่น.. กัดฟันกรอดจนกรามเป็นสันนูนขึ้นมา.. นัยน์ตาสีทับทิมวาวโรจน์ด้วยโทสะกล้าที่ก่อเกิด และสายตาของเสือร้ายก็จับจ้องไปยังร่างที่ยืนเด่นอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนประภาคารลอยฟ้า.. มวลอากาศรอบตัวเริ่มร้อนขึ้นมาและทำให้ฟีลิปหันมามองอย่างแปลกใจ.. แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อสมิงแห่งโซลตะโกนก้องหุบเหว!
"เรย์ ลอว์ชีลล์ ! "
เสียงที่เกิดจากความเดือดดาลของปีศาจพันธ์สมิง ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า ทำให้ฝูงนกฟลินซ์ตกใจและกะพือปีกบินจากพุ่งไม้หนารอบ ๆ และมีผลให้ตัวต้นเหตุผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะตวัดสายตามามอง
"นายทำอะไรของนาย ไอ้ม้าบ้า! "
อาเบลแยกเขี้ยวขาว ชี้หน้าอีกฝ่าย
"นายทำธงของพวกฉันตกลงไปด้วยเห็นมั๊ย ! "
เรย์อึ้ง..
เป็นห่วงธงหรอกเรอะ..
"มันตกลงไปเองนะ.. "
เรย์ขมวดคิ้ว.. ก่อนจะรีบเอี้ยวหัวหลบอย่างว่องไวเมื่อมีก้อนหินร้อน ๆ ขนาดใหญ่พุ่งวืดขึ้นมา
"อย่ามาเถียง นายนั่นแหละทำ ! "
อาเบลตะโกนสวนเสียงลม มืออีกข้างกำหินขนาดใหญ่ไว้ มีควันกรุ่น ๆ ลอยออกมาจากอุ้งมือที่กำแน่น.. บ่งบอกว่าหินนั้นกำลังร้อนจัด และเรย์คิดว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะลอยขึ้นมาหาเขาอีกแน่..
"ดังนั้นนายจะต้องลงไปเอามันขึ้นมา.. "
"นายสั่งฉัน? "
ยังพูดไม่ทันจบประโยคหินก็พุ่งเข้ามาหาอีกรอบ คราวนี้ก้อนหินลุกเป็นไฟมีควันโขมง.. เรย์รีบเอี้ยวหัวหลบอย่างว่องไวก่อนตวัดสายตาขวับกลับไปมองอีกฝ่าย.
"ถ้าไม่ทำนายตายแน่ อย่าลืมว่ายังไง ๆ วันนี้นายกับฉันก็ต้องไปเรียนร่วมกันอยู่ดี.. "
อาเบลโยนหินในมือเล่น สายตาคมกล้าแสดงว่าเขาตั้งใจจะทำจริง
เผด็จการ..
"ความคิดดิบเถื่อนจริง ๆ "
เรย์คิด.. มองอาเบลพลางพึมพำ
"จะลงไปเองดี ๆ หรือจะลงไปทั้งนํ้าตา.. " เสือร้ายข่มขู่
"คิดว่าฉันกลัวรึไง " เด็กหนุ่มชักสีหน้า
"ลงไปเดี๋ยวนี้! "
อาเบลต้องการเพียงคำตอบเดียวของเรย์ นอกนั้นเขาไม่สน !
"ชิ " เรย์สบถเบา ๆ อย่างหงุดหงิด
"ทำไมฉันต้องมาโดนเจ้าคนพรรค์นั้นออกคำสั่งด้วยเนี่ย "
"ไปเอาธงมาซะ ! "
เสียงอาเบลสะท้อนไปทั้งหุบเหว และเรย์ก็เริ่มทนไม่ไหว.. เขายังมีความรู้สึก หัวใจไม่ได้ด้านชาพอที่จะเมินเฉยสิ่งใดไปได้ บางสิ่งในตัวของอีกฝ่ายข่มขวัญเขาได้..
"เออ ๆ ฉันจะลงไปก็ได้ น่ารำคาญจริงนายนี่ .. "
เรย์บอกไปในที่สุด มองอาเบลอย่างเบื่อหน่าย คว้าเอาธงขาวเดินไปอีกทาง ในมุมที่เขาปีนขึ้นมา อาเบลเห็นเรย์หันหลังและได้ยินเสียงเขาตะโกนพูดกับใครซักคน
"เฮ้ ! ซีล เบเรธ ฉันได้ธงแล้ว เดี๋ยวจะส่งลงไปให้ "
"โอ้! ได้แล้วเรอะ ว่าแต่ทำไมใช้เวลานานจัง แล้วนั่นนายจะไปไหน? " มีเสียงตะโกนแหวกอากาศคืนกลับมา
"ฉันจะลงไปข้างล่างซักหน่อย ไม่ต้องรู้หรอกว่าทำไม พวกนายสองคนคอยฉันอยู่ตรงนั้นแหละ "
เด็กหนุ่มผมสีนํ้าเงินยืนโบกมือให้กับเพื่อนอีกสองคนที่คอยอยู่อีกฝั่ง ณ แหลมของผาที่ยื่นออกมา คนละด้านกับที่อาเบลปีนขึ้นมา เหวใต้เท้ามองเห็นเงาขาว ๆ ของหมอกเต็มไปหมด จนมองไม่เห็นก้นด้านล่าง ไม่รู้ว่าเจ้าคนที่หล่นลงไปจะตายไปแล้วหรือยัง ในเรื่องนี้เขาเองก็อยากจะดูให้แน่ใจ
"ยุ่งยากชะมัด.. "
ทายาทอาชาแห่งฟอร์ลอร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า ควันสีฟ้าปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและลอยไปเกาะกลุ่มกันก่อนจะเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็ง เป็นธารนํ้าแข็งที่ค่อย ๆ ยื่นจากขอบของหินลอยฟ้าลงไปด้านล่าง เรย์สำรวจทางอย่างรอบคอบก่อนจะก้าวเหยียบลงไป ทางชัน ๆ แถมผิวนํ้าแข็งยังลื่น ทำให้ต้องระวังมากเป็นพิเศษ โดยมีอาเบลกับฟีลิปคอยเฝ้ามองอยู่ทุกฝีก้าว จนกระทั่งเขาลงไปถึงพื้นที่ที่มีหมอกปกคลุม ร่างนั้นก็อันตธานหายไป
"ฉันละเกลียดไอ้พวกที่มาจากป่าดำชะมัด "
ฟีลิปบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด ใช้เท้าเตะต้นไม้แถวนั้นดับอารมณ์
"เฮ้ จะเตะอะไรนายก็ดูให้ดี ๆ ก่อนละกัน เกิดไปเตะเอาไม้ผุเข้า แล้วจะซวยกันหมด "
เสียงเตือนของอาเบลทำให้ฟีลิปชะงัก มองไปรอบ ๆ อย่างระแวง เมื่อตรวจทานว่าสิ่งที่ทำลายไปไม่มีอะไรร้ายแรงก็โล่งอกและตัดสินใจเลือกนั่งลงบนกิ่ง ๆ หนึ่งที่ดูมั่นคง..
"นายคิดว่าไอ้หมอนั่นจะตายรึยัง " ฟีลิปหาเรื่องคุยฆ่าเวลา
"ตายไม่ตายช่างมัน ฉันต้องการแค่ธง "
อาเบลกำลังเครียด .. เครียดกับเวลา เวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เขาไม่ห่วงเรื่องที่โมเทสจะตาย ..เพราะแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ก็พอจะรู้ว่าเจ้านั่นเองก็ไม่ได้ห่วยแตกขนาดที่จะสิ้นชื่อเพราะตกเหว ถึงเขาจะไร้ฝีมือด้านการต่อสู้.. แต่ถ้าเรื่องเอาตัวรอดละก็ โชคมักจะเข้าข้างโมเทสอยู่เสมอ
ตุบ!
"เหวอ! "
อะไรบางอย่างพุ่งมาชนหลังของจิ้งจอกเพลิงอย่างรุนแรง ฟีลิปร้องลั่นออกมาเมื่อแรงกระแทกส่งเขาคะมำไปด้านหน้าที่เป็นขอบเหว ดีที่มืออันว่องไวของเด็กหนุ่มคว้ากิ่งไม้ไว้ได้ทัน ตัวเลยหยุดอยู่แค่ตรงขอบ.. เล่นเอาฟีลิปเกือบหัวใจวาย เขาฟุบหน้าลงกับพื้นขรุขระ หอบหายใจอย่างหนัก
"อะไร? "
อาเบลมองเพื่อนเขาอย่างตกใจ เสื้อสีดำของจิ้งจอกทะเลทรายมีรอยไหม้ขาดเป็นวงที่กลางหลัง ควันกรุ่น ๆ ลอยออกมาเบาบางแสดงว่าเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เขาจึงหันไปมองหาต้นตอ ก่อนที่จะเบิกตาโตเมื่อเห็น
"เฮ้ยไอ้หมาบ้า! ดูนั่นสิ "
"เกิดอะไรขึ้นฟะ เหะ.. "
"มิ๊ว! "
" !!!?? "
สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาทั้งสองคู่ คือวัตถุทรงกลมสองก้อนที่เทินซ้อนกัน คำจำกัดความของสิ่งนั้นคือ "สโนว์แมน" ตุ๊กตาหิมะที่มีสีดำสนิท ขนาดเล็กกระทัดรัดพอที่จะถือไว้ในอุ้งมือทั้งสองข้างได้.. ..แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของอาเบลกับฟีลิปที่มีต่อมันนั้น คือการถอยห่างอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันคือของอันตราย
"มิ๊ว! "
เสียงเล็ก ๆ ไม่ได้ทำให้มันถูกมองว่าปลอดภัย สโนว์แมนสีดำพลิกตัวหมุนติ้วเป็นวงกลม จุดสีขาวบ่งบอกว่าเป็นดวงตากับปากเล็ก ๆ อาเบลกับฟีลิปมองมันอยู่ครู่หนึ่ง .. ก่อนที่เสือร้ายจะขยับยิ้มแยกเขี้ยวขาว ส่งเสียงหัวเราะหึ ๆ
"เหอะ ตายยากจริงนะไอ้บ้า "
"ไอ๊! "
สโนว์แมนส่งเสียงเล็ก ๆ พลางขยับตัวลอยวนไปวนมา
"มันไม่ระเบิดใช่มั๊ยไอ้นี่ "
ฟีลิปค่อย ๆ ระบายลมหายใจอย่างโล่งออก ขยับเปลี่ยนท่าที
"ธงเป็นยังไงบ้างตอนนี้ " อาเบลถาม
สโนว์แมนหยุดหมุนตัว หันหน้ามาทางอาเบล แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงคุ้น ๆ ดังออกมาจากตัวมัน ฟังคล้ายเสียงจากวิทยุ
"ธงเปียกนํ้า แต่ไม่ขาด.. "
"ดี. แล้วตอนนี้นายอยู่ไหน "
"โดนนํ้าพัดมาถึงวอเตอร์วอร์น .. เรย์อยู่ไหนอะ? "
"วอเตอร์วอร์น.. "
ฟีลิปหันมามองหน้าอาเบล.. วอเตอร์วอร์นคือทางนํ้าที่กำลังจะผ่านไปยังเธมิส ครูซิฟิกซ์.. อยู่ห่างจากที่นี่พอประมาณ แต่ถ้าเป็นฝีเท้าพวกเขาน่าจะไปถึงได้ในชั่วอึดใจ
"เรย์อยู่ไหนอะอาเบล.. ไปแล้วยัง? "
พอโมเทสถามยํ้าอีกครั้ง อาเบลก็นึกขึ้นมาได้ เขาจึงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
"ซวยละ!!ฉันเพิ่งสั่งให้หมอนั่นลงไปหานาย!"
"สั่งให้ลงมาหาฉัน! โอ๊ย แง! นายไปสั่งแบบนั้นทำม้าย! " นํ้าเสียงอีกฝ่ายบ่งบอกถึงอาการตื่นตะหนกสุด ๆ
"ขอโทษ ๆ ฉันลืมนึกไป หึหึหึ.. เอาเป็นว่านายรีบหาที่ซ่อนดี ๆ ไว้ละกัน แล้วพวกฉันจะไปหา "
"ไม่ ๆ ๆ พวกนายต่างหาก รีบออกมาจากตรงนั้นเลยนะ อาเบล ออกมาเร็ว ๆ ! " โมเทสพูดอย่างรวดเร็ว
"ทำไม? "ฟีลิปมุ่นคิ้ว
"ฉันทิ้งสโนว์แมนไว้ตรงนั้น5ตัว !! "
เปรี๊ยงงง !!
ครืนนน...
อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมา.. พื้นที่พวกเขาเหยียบยืนสะเทือนแทบถล่ม!!!!
อาเบลกับฟีลิปหันมามองหน้ากัน
"เฮ้ย ! "
..จบตอนที่ 3 ...
ความคิดเห็น