ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งเทพหายนะ : รุ่งอรุณแห่งอสูร

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 - หุบเหว

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 54



    Disaster of the God  :: Demon 's DAWN :: รุ่งอรุณแห่งอสูร





    ตอนที่
    3 –เหว

     

    เบื้องบนคือฟ้าที่ถูกฉาบไปด้วยแสงสีทองแห่งสุริยายามอรุณรุ่ง.. รอบตัวคืออากาศเย็นเฉียบจนแทบจะแทรกซึมเข้าไปแช่แข็งหัวใจให้หยุดเต้น.. เบื้องล่างคือห้วงเหวลึกที่ถูกบดบังด้วยหมอกจาง..

    สองอสูรยืนประจันหน้ากันบนเวทีกลางหาว..

    "เฮ้ย ๆ ๆ นั่นมันอะไรน่ะ แบบนี้มันไม่ตลกแล้วนะโว้ย! "  

    ฟีลิปจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยความตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะสบถออกมาดังลั่น .. ใครคนอื่นของหอวินเทอร์มีตั้งมากมายดันไม่เจอ..ดันมาเจอไอ้หมอนี่เอาซะได้..

    ไอ้คนที่ชื่อว่า " เรย์  ลอว์ชีลล์.. "

    อาเบลเองก็ได้แต่เอามือกุมขมับ กลืนนํ้าลายอย่างฝืดคอ .. นึกด่าตัวเองในใจขึ้นมา ว่ารู้อย่างนี้เขายอมปีนขึ้นไปเอาเองดีกว่า..

    "โว้ย! แถมทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยเนี่ย.. ซวยชะมัด "

    สายลมแรงพัดอื้ออึงอยู่รอบกาย .. แต่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตสองตน ที่ยืนอยู่บนยอดของประภาคารหินลอยฟ้าเบื้องบนจะไม่สำเหนียกมันเลย .. ต่างยืนนิ่งงันเหมือนถูกสาป.. นานสองนานที่ทั้งสองไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่มิลเดียว..

     

    "โมเทส.. เบลเซบาส "

     

    เด็กหนุ่มผมสีแปลกเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงห้าวทุ้ม .. โมเทสกลืนนํ้าลายเอื๊อก.. สองตาคอยจับจ้องมือของคนข้างหน้าที่กำแน่น ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนห่างไปข้างลำตัว.. ซึ่งมันเป็นสัญญาณบางอย่างที่เขาคุ้นเคยดี.. แต่มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับเขา และหากละสายตาแม้แต่นิดเดียวละก็มันมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตของเขามากทีเดียว.. ไม่สิ อาจจะมากถึงมากที่สุดก็ได้..

    สำหรับเขาแล้ว คน ๆ นี้น่ะ.. น่ากลัวยิ่งกว่าเหวที่อยู่ใต้เท้าซะอีก

     

    "ตามธรรมดาแล้ว.. ลอว์ชีลล์ไม่เคยเป็นศัตรูกับเบลเซบาส จริงไหม? "

     

    โมเทสมองเขา .. คำถามแบบนี้ เรย์มักจะถามเขาทุกครั้งที่พบกัน .. ถามทุก ๆ ครั้ง ทุก ๆ หน.. และเขาจะต้องตอบออกไปทุกครั้งเช่นกันว่า..

    "จริง.. ทั้งนายและฉัน ไม่เคยเป็นศัตรูกัน เรย์ ลอว์ชีลล์..  "

    และประโยคคำถามซํ้า ๆ ก็จะถูกเอ่ยออกมาอีกพร้อมกับอาการที่ดูเหมือนอีกฝ่ายกำลังโกรธเขา .. โมเทสมองเห็นสายตาคมกริบส่อแววร้ายพุ่งมาจากเด็กหนุ่มผู้ใช้นาม เรย์ ลอว์ชีลล์ คนนั้น.. มองเห็นว่าเขากำลังกัดริมฝีปากตัวเองแน่น.. มือสั่นระริก..

    "แล้วรู้ไหมว่าทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้? "

    โมเทสกลืนนํ้าลายลงคออย่างยากลำบาก.. ท่ามกลางเสียงลมที่กรีดร้องอยู่รอบกาย เขาตอบคำถามด้วยเสียงอันแหบแห้ง.. แต่เสียงนั้นกลับได้ยินชัดเจน...

    "เพราะฉัน.. ต้องฆ่านาย "

     

    "ใช่.. "  คราวนี้เรย์กระตุกยิ้ม..แต่เป็นยิ้มที่ทำให้โมเทสต้องก้าวถอยหลัง.. ไอ้อยากได้ธงมันก็อยากได้อยู่หรอกนะ.. แต่ธงที่เขาอยากได้มันอยู่ห่างจากเท้าของคนข้างหน้าแค่เพียงก้าวเดียวเองน่ะสิ..

    ขณะที่กำลังลังเลอยู่เสียงอาเบลก็ดังแทรกขึ้นมา

    "เฮ้ย ! ถ้าหนีมาแบบไม่มีธงนายตายแน่ คอยดู ! "

    โมเทสได้ยินแล้วเขาก็ชักอยากร้องให้ขึ้นมาทันที ทำไมพวกนั้นถึงห่วงธงมากกว่าตัวเขาละเนี่ย ..

    "เราจะมาคุยกันดี ๆ ไม่ได้รึไง เรย์ ลอว์ชีลล์..  "  

    "จะเล่นลูกไม้อะไรอีก..  "   เด็กหนุ่มผู้หวาดระแวงพูดด้วยนํ้าเสียงที่เย็นเฉียบ

    "ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่อง ! " โมเทสกัดฟันตะโกนฝ่าสายลม

    "ก็นายบอกเอง ว่าลอว์ชีลล์กับเบลเซบาสไม่เคยเป็นศัตรูกัน .. แล้วทำไมฉันต้องฆ่านายด้วย ! ฉันก็บอกไปตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วทำไมฟังกันบ้างเล่า!  "

    "นายจะบอกว่าฉันคิดไปเองคนเดียวรึไง.. "  เรย์กดเสียงตํ่า..

    "ฉันเปล่า..  "

    "นายจะบอกว่าความจำฉันเลอะเลือนรึไง.. "

    "ฉันเปล่า.. "

    "นายจะบอกว่าฉันถูกหลอกอย่างนั้นเรอะไง.. "

    "ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้น!!  "

    "นายจะบอกว่าสิ่งที่ฉันเข้าใจมันผิดอย่างนั้นรึ.. "

    "ฉัน.. ก็คิดว่าอาจจะอย่างนั้นนะ.. "

    "นายรู้ไหมว่าคนทั่วไปเขาพูดกันว่ายังไง..  "

    "ฉันไม่รู้!  "

    "นายไม่รู้จริง ๆ รึ.. "

    โมเทสจ้องหน้าของอีกฝ่าย.. เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคายหากมีอารมณ์คุกรุ่นเหมือนถ่านไฟ และสายตาที่เย็นเฉียบเหมือนจะแผ่ความหนาวเหน็บออกมารอบ ๆ กาย.. นัยน์ตาสีนํ้าเงินเข้มที่มองเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย.. ทั้งลังเล ทั้งหวาดกลัว.. และเกลียดชัง.. เจ้าตัวกัดฟันกรอดเพื่อข่มโทสะภายใน.. ไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของคนตรงหน้านัก.. แล้วจึงพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด..

    "เมื่อวันที่พระจันทร์ได้ส่องแสงเป็นสีโลหิตชโลมทั่วทั้งป่าอาถรรพ์.. เป็นวันที่ตัดสินความเป็นความตายของลอว์ชีลล์และเบลเซบาส.. จากคำอวยพรของเทพราคิส..ไม่เลือดของข้าก็เลือดของเจ้าต้องหลั่งลงสู่พื้น..หาไม่แล้ว แผ่นดินทั้งหมดจะลุกเป็นไฟ "

    ...

    "นายเชื่อกลอนบ้า ๆ ไม่เป็นทำนองแบบนั้นด้วยรึไงเล่า " โมเทสแย้ง

    "กลอนบ้า ๆ  ที่คนทั้งหมดก็รู้ แม้แต่ต้นไม้ในป่ายังรู้ แล้วทำไมนายถึงบอกว่าไม่รู้เรื่อง นี่นายไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา !  "

    อีกฝ่ายยังคงยืนกรานในสิ่งที่เชื่อมั่น!

    "ถ้ามันเป็นความจริง ทำไมท่านพ่อถึงไม่เห็นบอกอะไรฉันบ้างเล่า ! "

    โมเทสกัดฟันตะโกน ตัดสินใจเสี่ยงชีพใช้โอกาสอันน้อยนิดพุ่งตัวไปข้างหน้า มือพุ่งไปคว้าเอาธงสีแดงที่ปลิวสะบัดล่อตาอยู่ในระยะอันตราย

    ได้แล้ว!!

    ทั้งพรรคพวกที่คอยลุ้นอยู่เบื้องหลังและตัวเขาอยากตะโกนออกมาให้ดังไปถึงยอดเขามูนลิท!

    แต่ดีใจได้ไม่ทันไร โมเทสก็ต้องหลุดกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเมื่อมีแสงสะท้อนวาบเข้าตา พร้อมกับเสียงวัตถุพุ่งแหวกม่านอากาศมาอย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องหันไปดูว่ามันคืออะไรเขาก็รู้ได้ รีบตะเกียกตะกายหนีด้วยความเร็วสูง! 

    สิ่งที่พุ่งมาคือวัตถุอันตราย ที่มีปลายคมกริบพอที่จะเด็ดชีพเขาได้ภายในพริบตา และนอกจากนี้ มันต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่ง

     

    พรืด!

     

    "หือ? " เรย์ชะงัก..

    "เฮ้ย!!  "

    ได้ยินเสียงเพื่อนผู้เป็นห่วงเป็นใยธงในมือมากกว่าตัวเขาร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อม ๆ กับการที่เท้าซ้ายซึ่งก้าวลํ้าไปข้างหน้าเหยียบเข้ากับความว่างเปล่า โมเทสนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เขากำลังวิ่งอยู่บนเกาะลอยฟ้า ไม่ทันได้มีโอกาสมานั่งสั่งเสียหรือร้องออกมาซักแอะ ... ทั้งร่างก็พลันเสียการควบคุมถลาวูบไปทันที !!

    ร่างเล็ก ๆ ลอยละลิ่วหล่นลงสู่เบื้องล่าง ท่ามกลางสายตาของคนที่เฝ้ามองด้วยความตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะหายวูบไปท่ามกลางหมอกขาวที่ล่องลอย..

    "อา..  " 

    ฟีลิปครางออกมาได้แค่นั้น.. กลืนนํ้าลายเอื้อก เอามือกุมศีรษะแล้วเดินไปนั่งบนกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ พลางโอดครวญ 

    "โอไม่นะ.. ธง..  "

    ส่วนอาเบลกำหมัดแน่น.. กัดฟันกรอดจนกรามเป็นสันนูนขึ้นมา.. นัยน์ตาสีทับทิมวาวโรจน์ด้วยโทสะกล้าที่ก่อเกิด และสายตาของเสือร้ายก็จับจ้องไปยังร่างที่ยืนเด่นอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนประภาคารลอยฟ้า.. มวลอากาศรอบตัวเริ่มร้อนขึ้นมาและทำให้ฟีลิปหันมามองอย่างแปลกใจ.. แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อสมิงแห่งโซลตะโกนก้องหุบเหว!

     

    "เรย์ ลอว์ชีลล์ !  "

     

    เสียงที่เกิดจากความเดือดดาลของปีศาจพันธ์สมิง ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า ทำให้ฝูงนกฟลินซ์ตกใจและกะพือปีกบินจากพุ่งไม้หนารอบ ๆ   และมีผลให้ตัวต้นเหตุผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะตวัดสายตามามอง

    "นายทำอะไรของนาย ไอ้ม้าบ้า! "   

    อาเบลแยกเขี้ยวขาว ชี้หน้าอีกฝ่าย

    "นายทำธงของพวกฉันตกลงไปด้วยเห็นมั๊ย !  "

    เรย์อึ้ง..

    เป็นห่วงธงหรอกเรอะ..

     

    "มันตกลงไปเองนะ.. " 

    เรย์ขมวดคิ้ว.. ก่อนจะรีบเอี้ยวหัวหลบอย่างว่องไวเมื่อมีก้อนหินร้อน ๆ ขนาดใหญ่พุ่งวืดขึ้นมา

    "อย่ามาเถียง นายนั่นแหละทำ ! "

    อาเบลตะโกนสวนเสียงลม มืออีกข้างกำหินขนาดใหญ่ไว้ มีควันกรุ่น ๆ ลอยออกมาจากอุ้งมือที่กำแน่น.. บ่งบอกว่าหินนั้นกำลังร้อนจัด และเรย์คิดว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะลอยขึ้นมาหาเขาอีกแน่..

    "ดังนั้นนายจะต้องลงไปเอามันขึ้นมา.. "

    "นายสั่งฉัน? "

    ยังพูดไม่ทันจบประโยคหินก็พุ่งเข้ามาหาอีกรอบ คราวนี้ก้อนหินลุกเป็นไฟมีควันโขมง.. เรย์รีบเอี้ยวหัวหลบอย่างว่องไวก่อนตวัดสายตาขวับกลับไปมองอีกฝ่าย.

    "ถ้าไม่ทำนายตายแน่ อย่าลืมว่ายังไง ๆ วันนี้นายกับฉันก็ต้องไปเรียนร่วมกันอยู่ดี.. "

    อาเบลโยนหินในมือเล่น สายตาคมกล้าแสดงว่าเขาตั้งใจจะทำจริง

    เผด็จการ..

    "ความคิดดิบเถื่อนจริง ๆ  "

    เรย์คิด.. มองอาเบลพลางพึมพำ

    "จะลงไปเองดี ๆ หรือจะลงไปทั้งนํ้าตา.. "  เสือร้ายข่มขู่

    "คิดว่าฉันกลัวรึไง " เด็กหนุ่มชักสีหน้า

     

    "ลงไปเดี๋ยวนี้! "

     

    อาเบลต้องการเพียงคำตอบเดียวของเรย์ นอกนั้นเขาไม่สน !

    "ชิ "   เรย์สบถเบา ๆ อย่างหงุดหงิด

    "ทำไมฉันต้องมาโดนเจ้าคนพรรค์นั้นออกคำสั่งด้วยเนี่ย "

     

    "ไปเอาธงมาซะ ! "

     

    เสียงอาเบลสะท้อนไปทั้งหุบเหว และเรย์ก็เริ่มทนไม่ไหว.. เขายังมีความรู้สึก หัวใจไม่ได้ด้านชาพอที่จะเมินเฉยสิ่งใดไปได้ บางสิ่งในตัวของอีกฝ่ายข่มขวัญเขาได้..

    "เออ ๆ ฉันจะลงไปก็ได้ น่ารำคาญจริงนายนี่ .. "

    เรย์บอกไปในที่สุด  มองอาเบลอย่างเบื่อหน่าย คว้าเอาธงขาวเดินไปอีกทาง ในมุมที่เขาปีนขึ้นมา อาเบลเห็นเรย์หันหลังและได้ยินเสียงเขาตะโกนพูดกับใครซักคน

    "เฮ้ ! ซีล เบเรธ ฉันได้ธงแล้ว เดี๋ยวจะส่งลงไปให้ "

    "โอ้! ได้แล้วเรอะ ว่าแต่ทำไมใช้เวลานานจัง แล้วนั่นนายจะไปไหน? "  มีเสียงตะโกนแหวกอากาศคืนกลับมา

    "ฉันจะลงไปข้างล่างซักหน่อย ไม่ต้องรู้หรอกว่าทำไม พวกนายสองคนคอยฉันอยู่ตรงนั้นแหละ "

    เด็กหนุ่มผมสีนํ้าเงินยืนโบกมือให้กับเพื่อนอีกสองคนที่คอยอยู่อีกฝั่ง ณ แหลมของผาที่ยื่นออกมา คนละด้านกับที่อาเบลปีนขึ้นมา เหวใต้เท้ามองเห็นเงาขาว ๆ ของหมอกเต็มไปหมด จนมองไม่เห็นก้นด้านล่าง ไม่รู้ว่าเจ้าคนที่หล่นลงไปจะตายไปแล้วหรือยัง ในเรื่องนี้เขาเองก็อยากจะดูให้แน่ใจ

     

    "ยุ่งยากชะมัด.. "

     

    ทายาทอาชาแห่งฟอร์ลอร์นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า ควันสีฟ้าปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและลอยไปเกาะกลุ่มกันก่อนจะเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็ง เป็นธารนํ้าแข็งที่ค่อย ๆ ยื่นจากขอบของหินลอยฟ้าลงไปด้านล่าง เรย์สำรวจทางอย่างรอบคอบก่อนจะก้าวเหยียบลงไป ทางชัน ๆ แถมผิวนํ้าแข็งยังลื่น ทำให้ต้องระวังมากเป็นพิเศษ โดยมีอาเบลกับฟีลิปคอยเฝ้ามองอยู่ทุกฝีก้าว จนกระทั่งเขาลงไปถึงพื้นที่ที่มีหมอกปกคลุม ร่างนั้นก็อันตธานหายไป

    "ฉันละเกลียดไอ้พวกที่มาจากป่าดำชะมัด "

    ฟีลิปบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด ใช้เท้าเตะต้นไม้แถวนั้นดับอารมณ์

    "เฮ้ จะเตะอะไรนายก็ดูให้ดี ๆ ก่อนละกัน เกิดไปเตะเอาไม้ผุเข้า แล้วจะซวยกันหมด "

    เสียงเตือนของอาเบลทำให้ฟีลิปชะงัก มองไปรอบ ๆ อย่างระแวง เมื่อตรวจทานว่าสิ่งที่ทำลายไปไม่มีอะไรร้ายแรงก็โล่งอกและตัดสินใจเลือกนั่งลงบนกิ่ง ๆ หนึ่งที่ดูมั่นคง..

    "นายคิดว่าไอ้หมอนั่นจะตายรึยัง "  ฟีลิปหาเรื่องคุยฆ่าเวลา

    "ตายไม่ตายช่างมัน ฉันต้องการแค่ธง "

    อาเบลกำลังเครียด .. เครียดกับเวลา เวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เขาไม่ห่วงเรื่องที่โมเทสจะตาย ..เพราะแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ก็พอจะรู้ว่าเจ้านั่นเองก็ไม่ได้ห่วยแตกขนาดที่จะสิ้นชื่อเพราะตกเหว ถึงเขาจะไร้ฝีมือด้านการต่อสู้.. แต่ถ้าเรื่องเอาตัวรอดละก็ โชคมักจะเข้าข้างโมเทสอยู่เสมอ

     

    ตุบ!

     

    "เหวอ! "

    อะไรบางอย่างพุ่งมาชนหลังของจิ้งจอกเพลิงอย่างรุนแรง ฟีลิปร้องลั่นออกมาเมื่อแรงกระแทกส่งเขาคะมำไปด้านหน้าที่เป็นขอบเหว ดีที่มืออันว่องไวของเด็กหนุ่มคว้ากิ่งไม้ไว้ได้ทัน ตัวเลยหยุดอยู่แค่ตรงขอบ.. เล่นเอาฟีลิปเกือบหัวใจวาย เขาฟุบหน้าลงกับพื้นขรุขระ หอบหายใจอย่างหนัก

    "อะไร? "

    อาเบลมองเพื่อนเขาอย่างตกใจ เสื้อสีดำของจิ้งจอกทะเลทรายมีรอยไหม้ขาดเป็นวงที่กลางหลัง ควันกรุ่น ๆ ลอยออกมาเบาบางแสดงว่าเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เขาจึงหันไปมองหาต้นตอ ก่อนที่จะเบิกตาโตเมื่อเห็น

    "เฮ้ยไอ้หมาบ้า! ดูนั่นสิ "

    "เกิดอะไรขึ้นฟะ เหะ.. "

     

    "มิ๊ว! "

     

    " !!!?? "

    สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาทั้งสองคู่ คือวัตถุทรงกลมสองก้อนที่เทินซ้อนกัน คำจำกัดความของสิ่งนั้นคือ "สโนว์แมน" ตุ๊กตาหิมะที่มีสีดำสนิท ขนาดเล็กกระทัดรัดพอที่จะถือไว้ในอุ้งมือทั้งสองข้างได้.. ..แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของอาเบลกับฟีลิปที่มีต่อมันนั้น คือการถอยห่างอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันคือของอันตราย

    "มิ๊ว! "

    เสียงเล็ก ๆ ไม่ได้ทำให้มันถูกมองว่าปลอดภัย สโนว์แมนสีดำพลิกตัวหมุนติ้วเป็นวงกลม จุดสีขาวบ่งบอกว่าเป็นดวงตากับปากเล็ก ๆ  อาเบลกับฟีลิปมองมันอยู่ครู่หนึ่ง .. ก่อนที่เสือร้ายจะขยับยิ้มแยกเขี้ยวขาว  ส่งเสียงหัวเราะหึ ๆ

    "เหอะ ตายยากจริงนะไอ้บ้า "

    "ไอ๊! "

    สโนว์แมนส่งเสียงเล็ก ๆ พลางขยับตัวลอยวนไปวนมา

    "มันไม่ระเบิดใช่มั๊ยไอ้นี่ "

    ฟีลิปค่อย ๆ ระบายลมหายใจอย่างโล่งออก ขยับเปลี่ยนท่าที

    "ธงเป็นยังไงบ้างตอนนี้ "  อาเบลถาม

    สโนว์แมนหยุดหมุนตัว หันหน้ามาทางอาเบล แล้วพวกเขาก็ได้ยินเสียงคุ้น ๆ ดังออกมาจากตัวมัน ฟังคล้ายเสียงจากวิทยุ

    "ธงเปียกนํ้า แต่ไม่ขาด..   "

    "ดี. แล้วตอนนี้นายอยู่ไหน "

    "โดนนํ้าพัดมาถึงวอเตอร์วอร์น .. เรย์อยู่ไหนอะ? "

    "วอเตอร์วอร์น.. "

    ฟีลิปหันมามองหน้าอาเบล.. วอเตอร์วอร์นคือทางนํ้าที่กำลังจะผ่านไปยังเธมิส ครูซิฟิกซ์.. อยู่ห่างจากที่นี่พอประมาณ แต่ถ้าเป็นฝีเท้าพวกเขาน่าจะไปถึงได้ในชั่วอึดใจ

    "เรย์อยู่ไหนอะอาเบล.. ไปแล้วยัง? "

    พอโมเทสถามยํ้าอีกครั้ง อาเบลก็นึกขึ้นมาได้ เขาจึงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว

    "ซวยละ!!ฉันเพิ่งสั่งให้หมอนั่นลงไปหานาย!"

    "สั่งให้ลงมาหาฉัน! โอ๊ย แง! นายไปสั่งแบบนั้นทำม้าย! "  นํ้าเสียงอีกฝ่ายบ่งบอกถึงอาการตื่นตะหนกสุด ๆ

    "ขอโทษ ๆ ฉันลืมนึกไป หึหึหึ.. เอาเป็นว่านายรีบหาที่ซ่อนดี ๆ ไว้ละกัน แล้วพวกฉันจะไปหา "

    "ไม่ ๆ ๆ พวกนายต่างหาก รีบออกมาจากตรงนั้นเลยนะ อาเบล ออกมาเร็ว ๆ ! "  โมเทสพูดอย่างรวดเร็ว

    "ทำไม? "ฟีลิปมุ่นคิ้ว

     

    "ฉันทิ้งสโนว์แมนไว้ตรงนั้น5ตัว !! "

     

    เปรี๊ยงงง !!

     

    ครืนนน...

     

    อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมา.. พื้นที่พวกเขาเหยียบยืนสะเทือนแทบถล่ม!!!!

    อาเบลกับฟีลิปหันมามองหน้ากัน 

     

    "เฮ้ย ! "

     

    ..จบตอนที่ 3 ...




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×