ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แมวเอ๋ยแมวเหมียว ~

    ลำดับตอนที่ #1 : แมว

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 54


     

    แมว

    แมว หรือ แมวบ้าน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันธุ์ทาง

    แมวเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน  ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสสิเนียน

     

    ลักษณะเฉพาะ

    แมวเป็นสัตว์เลือดอุ่นที่มีรูปร่างเพรียว มีหางยาว และบังคับหางได้ มีใบหน้าที่เรียวและโครงหน้าแหลมเช่นเดียวกับเสือและสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน เป็นสัตว์ที่มีเล็บแหลมคม และมีตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี แมวจะนอนหลับในเวลากลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน

     

    การมองเห็น(Sight)

    วิธีการล่าเหยื่อของแมว มีท่าทางการจ้องมองด้วยดวงตาทั้งสองข้างพร้อมทั้งการได้ยิน ของเสียงด้วยระบบการได้ยินของใบหูทั้งสองส่วนจัดสัมพันธ์กันเป็นองค์ประกอบด้านสื่อ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้ได้ดีเป็นพิเศษ แต่แมวไม่สามารถที่จะแยกแยะในส่วนของสี ที่จะช่วยให้มันมองเห็นเป็นรูปร่างได้ทันที เนื่องจากหลังม่านกระจกแก้วตาแมวนั้นมีสิ่งกีดขวาง จึงไม่ช่วยให้แมวมองเห็นวัตถุได้อย่างใกล้ชิด การที่ลูกนัยน์ตาแมวทั้งสองข้างมองเห็นได้นั้นเกิดจาก การควบคุมของระบบประสาทจึงทำให้มันมองเห็นภาพในระยะไกลได้ดีกว่าระยะใกล้ ลูกตาของแมวสามารถเคลื่อนมองได้กว้างถึง 205 องศา ทำให้แมวมองได้รอบทั่วบริเวณ ที่แคบๆ ส่วนบริเวณพื้นที่กว้างๆ การเคลื่อนไหวของรูปร่างจะทำได้เพียงเล็กน้อยเนื่องจาก ระบบการมองเห็นที่ไม่อำนวยต่อมันนั่นเอง


    แมวมองเห็นในที่มืดหรือไม่
    ?  ตาวาว ๆ ในที่มืดช่วยให้มันเห็นได้จริงหรือ

     

    โดยธรรมชาติ มีการตั้งข้อสังเกตว่า แมวมองเห็นในที่มืดสนิทไม่ได้ แต่มันจะมีตามองเห็นในที่มืดสลัวได้เป็นพิเศษ โดยที่มันจะเป็นสัตว์ที่แลเห็นในที่มืดได้ดีกว่ามนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันแมวจะไม่สามารถมองเห็นได้ในที่สว่างจ้า มากนัก ทั้งนี้เป็นเพราะว่าแมวมีม่านตาเป็นรูปเล็กยาวแต่มนุษย์มีม่านตาเป็นรูปกลม แมวสามารถบังคับม่านตาให้ปิดได้สนิทเมื่อมีแสงสว่างมากเพื่อให้แสงเป็นจำนวนน้อยที่สุดเข้าไปในแก้วตาได้ แต่เมื่อแสงน้อยลงมาม่านตาก็จะเปิดเพื่อให้แสงเป็นจำนวนมากพอเข้าไปในแก้วตาได้

    การมองเห็นของแมวจะ มองเห็นได้ผ่านช่องแคบๆ ที่เปิดให้แสงสว่างส่องเข้าไปในตาแต่ในเวลากลางคืน ช่องนี้จะเปิดกว้างออก คือเหมือนกับรูดม่านออก ทีนี้แมวก็สามารถมองผ่านหน้าต่างกลมๆ ที่กว้างขึ้น มันสามารถมองเห็นได้ดีมากในแสงขมุกขมัวดีกว่าคนมากนัก เหตุผลก็คือว่า ที่ส่วนของหลังตา บุด้วยสารที่แวววาวเหมือนกระจกนับพันๆแผ่น ถ้ามีแสงสว่างแต่เพียงสลัวๆ กระจกเงาแต่ละแผ่นในนัยน์ตามัน ก็จะจับแสงได้ และรวมแสงนั้น เข้าด้วยกัน เรามองไม่ค่อยเห็นหนูที่วิ่งอยู่ในเวลากลางคืน แต่แมวมันเห็นได้ชัดกว่าเราหลายเท่านัก

    เวลาที่เรามองเห็นตาแมวสว่างวาวอยู่ริมถนนในเวลากลางคืน นั่นคืนกระจกเล็กๆในนัยน์ตามัน กำลังสะท้อนแสงไฟจากรถของเรา ถ้าเราอยู่ในทื่มืดจริงๆกับแมวตาของมันจะไม่มีแสงแววเลยเพราะว่าไม่มีแสงสว่างสะท้อนเข้าตามัน ในที่มืดสนิทแมวจะมองไม่เห็นได้ดีกว่าเราเลย แต่มันมีสายตาพิเศษดีมาก ซึ่งทำให้มันออกหากินในเวลากลางคืนได้

    หนวดแมวจะใช้สัมผัสวัตถุที่อยู่ใกล้ ๆ แทนการใช้สายตา แมวสามารถมองในที่มืดได้ดี เพราะม่านตาของแมวจะปรับขยายเพื่อรับแสงที่เข้ามาได้เวลาแสงมากม่านตาจะหดตัว ถ้ามองแสงโดยตรงจะเห็นว่าม่านตาจะเป็นเส้นตรงไปเลย ทำให้มองอะไรไม่ชัดเจน แต่ถ้าแสงน้อยม่านตาจะขยายตัว จนจะเห็นได้ว่าตาดำใหญ่เกือบเท่าเบ้าตาทีเดียว ทำให้มองเห็นชัดขึ้น แต่เวลาตกใจกลัวหรือกำลังสนใจอะไรแบบสุด ๆม่านตาก็จะขยายมากขึ้นเหมือนกัน

    ม่านตาของแมวก็มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือถ้ากำลังข้ามถนนในเวลากลางคืนแล้วจู่ ๆ ก็มีรถวิ่งมา แสงไฟหน้ารถจะทำให้ม่านตาของแมวหดลงจนเป็นเส้นตรง ดังนั้นแมวก็อาจถูกรถชนได้

     

    ตกจากที่สูง

    แมวเป็นสัตว์ที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่มีในสัตว์ประเภทอื่น คือ ความสามารถของแมวเมื่อตกจากที่สูง ซึ่งพบว่าแมวแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยหรือบาดเจ็บก็เพียงเล็กน้อย เพราะแมวสามารถพลิกตัวกลับกลางอากาศได้และลงในท่วงท่าที่ปลอดภัยที่สุด ในลักษณะของหลักการโมเมนตัม เนื่องจากแมวสามารถบิดตัวเองได้โดยใช้พลังงานจากกล้ามเนื้อ โดยจะหมุนขาคู่หน้าไปในทิศทางลงพื้นก่อน โดยจะหดขาคู่หน้าลงและยื่นขาหลังออก เมื่อแมวยืดขาหลังออก ส่วนขาหน้าหดลง การหมุนในสองทิศทางนี้จึงมีปริมาณไม่เท่ากัน โดยขาคู่หน้าหมุนได้เร็วกว่าขาคู่หลัง ขณะที่กำลังตกแมวจะคอยปรับแต่งโมเมนต์ความเฉื่อย โดยการหดและยืดขา จนหงายกลับมาในตำแหน่งที่เท้าลง เมื่อถึงพื้นขาจึงลงก่อนและช่วยให้ปลอดภัย

    มีการทดสอบด้วยการโยนแมวจำนวน 132 ตัว ตกจากตึกที่มีความสูงตั้งแต่ 2-32 ชั้น พบว่า 67 % ของแมวที่ตกลงมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อได้รับการรักษาพบว่ามีถึง 90 % ที่จะหายเป็นปกติ

    ซึ่งจากการที่แมวตกจากที่สูงโดยไม่เป็นอันตรายแบบนี้นั้น จึงมีสำนวนในภาษาไทยเรียกว่า "แมว 9 ชีวิต" อันหมายถึง บุคคลที่ผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้งแล้วยังมีชีวิตรอดมาได้ เช่นเดียวกับแมวนี่เอง


     

    ความสำคัญทางเศรษฐกิจ

    แมวเป็นสัตว์เลี้ยงคลายเหงาที่นิยมมากชนิดหนึ่งใกล้เคียงกับสุนัข แมวบางสายพันธุ์เช่น แมวสีสวาด และแมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยที่สวยงามเป็นที่ชื่นชอบทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ มีการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์เพื่อขาย ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ นอกจากนี้อุจจาระของแมวสามารถนำมาทำปุ๋ยได้


    แมวพันธุ์ต่าง ๆ

    แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงไม่นับรวมสัตว์ตระกูลแมว พวกเสือ แมวดาว แมวป่า หรือ สิงโต แมวเลี้ยง หรือที่เราเรียกว่า Domestic cat นั้นมีวิวัฒนการมาจากแมวป่าในธรรมชาติจากหลายภูมิภาคของโลก ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แตกต่างกันที่เรียกกันทุกวันนี้ เช่น เปอร์เซีย แมวสยาม บาลิเนส อะบิสสิเนียน และโซมาลี นั้น แสดงถึงถิ่นกำเนิดที่แสดงถึงภูมิศาสตร์ที่เขาถือกำเนิดมา ในการจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษเมื่อปีคริสศักราช 1871 ถือเป็นการเริ่มต้นในการนำเสนอพันธุ์แมวในระดับนานาชาติ ทำให้ผู้สนใจในแมวมีความตื่นตัว แต่การแสดงในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นแมวเปอร์เซียและแมวขนสั้นเป็นหลัก

     

    การจัดจำแนกแมว

     

    โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และแมวขนสั้น (shorthaired cats) การแบ่งพันธุ์ด้วยวิธีนี้ทำให้จำแนกแมวออกได้ตามลักษณะพันธุ์ที่จำเพาะต่างๆ กัน การจัดจำแนกแมวในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการกำหนดมาตรฐานของพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้ลักษณะมาตรฐานของพันธุ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ การใช้ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แสดงถึงลักษณะของพันธุ์ที่จำเพาะมีความแตกต่างกันระหว่างในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีบางพันธุ์มีการจัดจำแนกเฉพาะต่างหากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แมวมีมากมายหลายพันธุ์ เช่น แมวเปอร์เซีย แมววิเชียรมาศ ฯลฯ



    เครดิต - วิกิพีเดีย



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×