ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักกุ๊กกิ๊กของยัยไม่สวย(cutety ugly love!)

    ลำดับตอนที่ #13 : เพราะความสงสาร หรือ จากใจจริง

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 56


               ด้วยความที่ผมอยู่กับพ่อแค่สองในครอบครัวหรือในบ้าน เพราะแม่ก็เสียไปตั้งแต่ตอนผมอายุ8ขวบ ด้วยอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซค์ชน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพ่อก็เหมือนคนไม่สมประกอบ แต่ก่อนแม่จะตายก้ได้เหลือเงินประกันไว้มากอีกตั้งบำนาญตกทอกของตา ผมเองก็เลย..ยังได้เรียนหนังสืออยู่เพราะว่าพ่อพึ่งเกษียณก่อนเวลาจากการเป็นครูเมื่อไม่นานมานี้ ก็เลยยังพอมีเงินใช้อยู่บ้าง แต่พอ..พ่อกลายมาเป็นแบบนี้แล้วก็เลย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป นอกจากจะต้องทำมาหากินด้วยตนเอง แล้วตั้งแต่ตอนนั้น..

    “พ่อครับ พ่อ..” เสียงของชายหนุ่มวัย18ก็เขย่าตัวของชายวัยใกล้ชราเบาๆเพื่อให้ตื่น ขึ้นมากินข้าว

    “ห๊ะ..ๆ อ้าวว สายโด่ง แล้ว! ไปโรงเรียนได้แล้ว!” เขาสะลึมสะลือขึ้นมา พร้อมกับตกใจไปกันใหญ่ เพราะด้วยความเคยชินว่าถ้าได้ยินเสียงของลูกชายเขาจะต้องพูดแบบนี้

    “คับๆ แต่พ่อ พ่อจะไม่กินข้าวก่อนหรอ นี่พึ่งตี5เอง นะ” เขาพูดแล้วมองพ่อด้วยสายตาววิงวอน

    “หรอลูกตี5.. เดี๋ยวพ่อจะลุกไปทำกับข้าวนะ รอก่อนๆ ไปล้างหน้า..” คนเป็นพ่อพูดเหมือนจะลุกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะท่อนล้าง ของเขาเป็นอัมพาตไม่สามารถเดินได้ แต่เขาก็ยังดึงดัน

    “.... _ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผม.. ทำข้าวต้มมาให้พ่อแล้ว” ปุ๊ยก็ใช้มือหนาจับแขนของพ่อไว้แล้วมองหน้าพ่อ ก็ดูเหมือนผิดสังเกต

    “อ่อ... เอออๆ ลืมๆ เดี๋ยวพ่อกระดึบไปก็ได้ 555+” ชายผมหงอกก็พูดมุกขำๆไปด้วยตาลอยๆ

    “พ่อ..” ลูกชายเขาก็ใช้มือโปกไปมาผผ่านใบหน้าของพ่อของตนดู ก็น่าจะรู้แล้วว่าเขากำลังโกหกอะไรตนอยู่

    “อะไร ลูก?” พ่อก็พูดแล้วหันมาที่ใบหน้าของลูกชาย ทั้งๆที่มองไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็ยังยิ้มอกไปด้วยใบหน้าเหมือนจะสบายอารมณ์

    “ฮืมๆ.. พ่อว่าปุ๊ย.. หน้าตาเป็นไง” ชายใบหน้าคมคลายก็แสร้งยิ้มออกมานิดๆแล้วแกล้งถาม

    “ฮ่าๆ ๆ ๆ ก็หล่อ น่ะสิลูก! เอ้อถามอะไรแปลกๆ 555+ ” ชายวันทองก็หัวเราะปากกว้างชุดใหญ่แล้วตอบไป

    “อืมม ครับ.. 555+” เขายิ้มทั้งน้ำตา แล้วพ่อกับลูกก็หัวเราะชอบใจพร้อมๆกัน ในบ้านอันว่างปล่าวเพียงลำพัง

     

    ณ โรงเรียน

    “เฮย! โจ นายเห็น ไอ้ปุ๊ย มันมั้ยว่ะ นี่มันผิดปกติแล้วนะเนี้ย..?” เสียงเพื่อนชายคนหนึ่งก็เดินมาสะกิดที่โจเพื่อนสนิทของปุ๊ยอย่างแรง

    “ฮ๊ะ.. ไม่รู้” ชายรูปร่างใหญ่ก็ตอบแบบหน้าตาเย็นชา

    “เอ้า.. อะไรว๊า ก็เอ็ง ก็เพื่อนสนิทมันแท้ๆนะ ทำไมจะ ไม่รู้วะ ที่จริง..? มันจะมาก่อนพวกเราประจำหนิ” เพื่อนอีกคนก็เดินมาถามด้วความสงสัย

    ในตอนนั้นเอง เด็กผู้หญิงม.ต้น หน้าตาธรรมดา (แต่ใจสวย) อ้วนท้วมสมบูรณ์ผิวดำอันเป็นเสน่ห์ ก็พึ่งเดินเข้ามาในโรงเรียนแล้วก็บังเอิญได้ยินว่า..

    “ไอ้ ปุ๊ย.. มันลาออกไปแล้วมั่ง” โจที่เป็นเพื่อนสนิทของเค้าคนนั้นแท้ๆ ก็พูดออกไปแบบนั้นแล้วยังชายตามองเด็กเตี้ยรูปร่างช้างที่อยู่ข้างๆ แล้วตัวใหญ่ผิวดำก็เดินทำหน้าเฉยๆเดินต่อไป

     “... O.O…” เธอทำหน้าถึงกับอึ่งเมื่อได้ยินคำนั้น

    “เอ้อ.. อะไรของมัน..” พวกเพื่อนพี่ชายก็พากันทำหน้า งง ก่อนจะเดินไปตามทางของพวกเขา

    ...... -------- ไม่จริง.. ไม่จริงมั่ง เอ้ย! ไม่จริงน่า จะเป็นไปได้ยังไง.. เมื่อสองวันก่อนเรา.. ยังเห็น..-------...

    น้อยก็มีน้ำในตาซึมนิดๆก่อนจะหันหลังกลับไปแล้วเดินไปที่ใดที่หนึ่ง

    “ครับๆ ป้า ให้ผมเข็นผักไปไว้ ร้านขายกับข้าวตรงนั้น ใช่มั้ยครับ..” เสียงของชายผู้คุ้นเคยก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

    “เออๆ เข็นดีๆ ด้วยล่ะ ระวังนะ เดี๋ยวมันจะล้ม ของยิ่งแพงอยู่!” คุณป้าอ้วนวัยแก่ก็พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    ^^..” เขายิ้มก็จะเข็นตระกร้าผักนาๆชนิดที่เกือบท้วมหัวไปอย่างระมัดระวัง (เนื่องจากที่นั่นเป็นจังหวัดสุรินทร์ ค้อนข้างมีที่สันจรไปมาและตอนนั้นก็เลยมีผักอุดมสมบูรณ์นิดหน่อย) และในทางที่เขาไปนั่นเองก็ผ่านโรงเรียนประจำจังหวัดซึ่งเป็นโรงเรียนของเขา

    ----- ไม่ใช่ ใช่มั้ย พี่เค้าจะออกไปได้ยังไง .. พี่เค้าก็ไม่ใช่คนไม่ดี สักหน่อย.. ------- เธอเดินมาที่หน้าโรงเรียน หรือ ตรงจุดที่เดิมที่เธอเคยพบกับใครคนนั้น

    “...  O Q ..” แล้วสุดท้าย น้ำตา ของผู้หญิงไม่สวยคนนี้ก็ไหลอาบแก้มอีกจนได้

    ----- นี่เรา จะมาทำไม มาแล้วได้อะไร ---- น้อย ได้แต่คิดในใจ ก่อนจะใช้มือปาดน้ำตาแล้วก้มหน้าเพื่อจะเดินเข้าโรงเรียนต่อไป

    7: 51 น.

    เอี๊ยด... ๆ “ขอโทษนะครับๆ ขอทางหน่อยครับ” เสียงรถเข็นเล็กที่ดูเก่าเกือบร้อยปีก็ค่อยๆ เลื่อนผ่านไป..

    “โอ๊ย! ระวังหน่อยสิ! สกปรกเอ๊ย!” เสียงของชายหน้าตาไฮโซผิวขาวซีดปานเผือกดินก็อุทานขึ้นเมื่อรถเข็นนั้นเชียวๆขาของเขาไปนิดเดียว

    “โฮ๊ย! พี่อย่าโวยวายสิ แนนอายคนเค้า!” เสียงผู้ลากมากดีก็พูดเบาๆอย่างหงุดหงิด

    “ ขอโทษคร๊าบ...” ชายผมนัยต์ตาน้ำตาลอ่อนๆ ยื่นก็หน้าออกมาพูดอย่างอ้อมค้อมพร้อมกับยกมือไหว้ด้วย

      “.....” แต่ลูกผู้ดีนั้นกลับเงียบ ทั้งยังมองด้วยสายเหยียดหยาม แล้วเดินสะบัดกน้าเหมือนจะรังเกียจ

    ในตอนนั้นเองทุกสายตาที่เดินผ่านไปมาก็ต่างกำลังเพ่งมาที่ทั้งสองพี่น้องตัวขาวนั้น รวมถึงน้อยก็ด้วย

    O O.. .” และแล้วน้ำตามันก็หยุดไหล เธอถึงกับอึ้งในสายตาที่เธอเห็น เมื่อพี่ชายหน้าตาดีที่แสนคุ้นเคยใบหน้าของเธอ ที่แต่งตัวด้วยกางเกงขาก๊วยเสื้อแขนยาวธรรมดา แถมยังมีผ้าขาวม้าโพกหัวอีกและที่สำคัญคือกำลังเข็นตระกร้าผักอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้บดบังหน้าตาดั่งเทพบุตรนั้นไปแม้แต่น้อยเลย

    O O? ” ผู้ชายคนนั้น ที่รู้สึกว่ามีคนกำลังมองอยู่ก็หันใบหน้าอันคิ้วดกของเขานั้นมาสบตาของเธอพบดี

    -------  ใช่ จริงๆ ด้วย พี่ปุ๊ย.. ไม่ได้ฝันไปแน่ ------ และแล้วก็คิดในใจ

    8:00 น. “เคารพ ธงชาติ ด้วยความภาคภูมิในเอกราช...และความเสียงสละ...”

     To be continues...

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×